ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HaeEun | ET.LEEDONGHAE

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRO

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 981
      2
      21 ธ.ค. 55

    © Tenpoints!

     



     

     

    INTRO

    ผมเชื่อว่ามนุษย์เกินพันล้านคนกลัวการ ขึ้นคาน





     

     

    มองนาฬิกาข้อมือก่อนจะป้องปากหาวหวอดๆ นี่ก็ตีสองแล้วแต่ผมเพิ่งจะขับรถออกมาจากงานปาร์ตี้ปีใหม่ได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ขยี้ตาแล้วมองวิวรอบข้างแต่สิ่งที่เห็นก็คือทะเลยามดึกแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหายง่วงเลยแม้แต่นิดเดียว ภาพเตียงนอนกับหมอนกอดสุดที่รักมันกำลังลอยมาอยู่ตรงหน้าผม การเคาน์ดาวน์กับลูกหลานเหลนโหลนรหัสนี่เป็นอะไรที่เศร้าเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด ไม่รู้ว่ามันโสดกันตามกรรมพันธุ์สายรหัสหรือว่าพวกมันเกิดมาหน้าเหียกผมก็ไม่เข้าใจ

    พวกคนไร้คู่ต่างนัดกันมาปาร์ตี้ที่นี่โดยใช้ของมึนเมาเป็นเพื่อนปลอบใจในยามค่ำคืนของวันสิ้นปี แต่ไม่ใช่แค่เจ้าเด็กพวกนั้นหรอกที่ต้องโสดฉลองรับปีใหม่เพราะนั่นมันก็รวมถึงตัวผมด้วยนั่นแหละ

     

     

    อดอยากปากแห้งกับความรักมานานแค่ไหนแล้วล่ะ -_-

     

     

    เออ...เท่าที่จำได้ก็ตั้งแต่หลังเรียนจบ หมกมุ่นกับการเป็นนักเขียนคอลัมเล็กๆ ให้กับนิตยาสารวัยรุ่นจนลืมว่าชีวิตผมมันอับเฉามากแค่ไหนที่ไม่มีคู่เหมือนอย่างคนอื่นเขา ตอนอยู่ห้องเฉยๆ มันก็ไม่เหงาหรอกครับมันมีงานให้ทำ แต่พอออกมาเที่ยวข้างนอกเห็นคู่รักเดินกุมมือเดินไปไหนด้วยกัน อิงแอบกันมันก็รู้สึกอิจฉา

    ระหว่างทางผมก็ได้แต่คิดว่าถ้าผมออกมาเจอผู้คนบ้างบางทีอาจจะมีใครสักคนมาปิ๊งผมบ้างก็ได้ แต่ที่ผมไม่มีแฟนทั้งที่เพิ่งอายุยี่สิบหกนี่มันไม่ใช่เพราะนิสัยและหน้าตาของผมแน่นอน (มั่นใจขั้นสุด)

    โจคยูฮยอน มึงนะมึง

    ผมบ่นอุบอิบเมื่อนึกถึงหนังหน้าเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม โดดเรียนก็โดดด้วยกัน นอนด้วยกันกินด้วยกันมาตลอด แต่คนมันจะเหี้ยน่ะนะครับ ทิ้งเพื่อนไปฉลองปีใหม่กับซีวอนได้ลงคอ ตอนมันสองคนจีบกันก็ให้ผมเป็นพ่อสื่อให้ มันจะไปไหนก็ต้องมีผมติดสอยห้อยตามไปตลอดเพราะเขิน ไม่รู้มันจะเขินห่าอะไรนักหนาได้กันมาตั้งกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ แต่พอมันสองคนเริ่มอยู่ตัว (เรียกว่าหน้าด้านหน้าทนต่อกันและกันคงจะดีกว่า) ก็เฉดหัวผมทิ้งอย่างไร้เยื่อใย...

     

     

    ตอนนี้มันสองคนคงนอนพลอดรักกันใต้ผ้าห่มอย่างมีความสุขสินะ... -_-

     

     

    ผมจามเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วชี้ขยี้จมูกตัวเอง ตอนนี้หิมะก็ตก บรรยากาศข้างนอกคงหนาวจนทำให้ความอยากที่จะมีแฟนของผมเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว...พอมานึกอีกทีแล้วก็ชั่งใจว่าเป็นเพราะหน้าตาหรือเปล่าที่ทำให้ผมยังโสดอยู่ทุกวันนี้...ก็ดูสิครับแม้แต่ผู้หญิงยังไม่มองเลยแล้วประสาอะไรกับผู้ชายล่ะ

     

     

    ก็ผู้ชายดีๆ มันมีแต่ในนิยายน่ะสิวะ - -

     

     

     

    เมื่อไหร่ฟ้าจะส่งคนดีๆ ลงมาให้อีฮยอกแจผู้นี้บ้าง......เฮ๊ย!!!”

     

     

     

    โครม!!!!

    เอี๊ยดดดดดดด...

     

    ไวเท่าความคิด ผมเบิกตากว้างแล้วหักพวงมาลัยพร้อมกับเหยียบเบรคกระทันหันเมื่อมีอะไรบางอย่างตกลงมากระแทกกับฝากระโปรงรถอย่างแรงก่อนจะกระเด็นออกไปด้านข้าง...คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับ เสียงเบรกมาหลังเสียงปะทะจริงๆ ผมขับรถชนอะไรบางอย่างเหรอ? ไม่นะ...ผมเห็นกับตาว่ามันตกลงมาจากข้างบนแล้วค่อยชนรถผมน่ะ!

    ผมกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ ตอนนี้มือทั้งสองข้างของผมยังวางอยู่ที่พวงมาลัย เบื้องหน้าคือกองหิมะที่ถูกกวาดไว้แล้วก่อนหน้านี้กับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างหลังกองหิมะนั่น นับว่าโชคดีที่ผมไม่ได้พุ่งไปชนมันเข้าให้ ผมนั่งนิ่งไม่ขยับตัว ผมไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา ไม่น่าฮยอกแจ...บางทีมันอาจจะเป็นกวางหรือสัตว์ป่าที่วิ่งข้ามถนน...ก็ได้มั้ง...

    เหลือบมองกระจกมองหลังอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายเอื้อกอีกครั้งเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่ผมเพิ่งชนไปเมื่อครู่นั้นกำลังนอนจมกองหิมะอยู่...และที่สำคัญคือ...

     

     

    มันมีแขนโผล่ออกมาจากกองหิมะนั่นด้วย................ (กุมขมับ)

     

     

    ชิบหายแล้วมึง

    ผมรีบปลดเข็มขัดก่อนจะเปิดประตูรถแล้ววิ่งไปหาคนที่นอนจมกองหิมะอยู่ตรงนั้น ตอนนี้หิมะยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มุมนี้ห่างจากเสาไฟจนทำให้มองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก ผมเอามือถือออกมาเพื่อใช้เป็นแสงสว่างก่อนจะใช้มืออีกข้างตะกุยหิมะออก

    มึงตายแน่ฮยอกแจ มึงตายแน่ๆ T_T”

    คุ้ยคิมะไปก็พูดกับตัวเองไป ยิ่งเห็นแขนปริศนาไล่ไปถึงหัวไหล่แล้วยิ่งอยากเป็นบ้า ดูจากมัดกล้ามคนที่นอนจมกองหิมะอยู่ท่าจะเป็นผู้ชาย เพียงครู่เดียวผมก็ต้องหงายหลังลงไปนั่งกับพื้นเมื่อเห็นร่างอีกฝ่ายชัดยิ่งขึ้น

     


     

    คนจริงๆ ด้วย...

     

     

     

    อีฮยอกแจ มึงขับรถชนคน!!!!!!!!!!!!! \T[]T/

     

     

     

    จู่ๆ ภาพผมตอนใส่ชุดลายทางสีขาวดำก็ผุดขึ้นมา กุญแจมือที่ล็อคข้อมือผมอยู่ทั้งสองข้าง ภาพห้องขัง ภาพข้าวแดง ภาพนักโทษในคุก...มึงได้ไปอยู่ในนั้นแน่ๆ อีฮยอกแจ T_T

    ผมทึ้งหัวตัวเองแล้วหันไปมองเขาอีกครั้ง ผมเห็นหน้าเขาไม่ชัดแต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือร่างกายของเขานั้นเปลือยเปล่า พอตั้งสติได้ก็เลยลากคนไม่ได้สติออกมาแล้วถอดเสื้อโค้ทของตัวเองออกพร้อมกับคลุมตัวให้ ตอนนี้ผมต้องทำอะไรก่อน

     

     

    เออใช่! ต้องดูก่อนว่าเขาตายหรือยัง?

     

     

    พอเห็นว่าไม่มีเลือดไหลออกมาผมก็เอื้อมมือไปหวังจะตรวจชีพจรที่คอเขาแต่ไม่รู้เกิดแรงโน้มถ่วงห่าอะไรตัวผมถึงได้ทิ่มไปข้างหน้าจนมือเจ้ากรรมไปโดนไอ้นั่นของเขาเข้าให้ -_ -

     

     

     

    อืม...

     

     

     

    สัด...แม่งครางได้ด้วย

     

     

    นี่คุณ...ตายยังวะ?ผมประคองอีกคนไว้แนบอกพร้อมกับตบแก้มเบาๆ แต่คนที่เพิ่งครางฮึมฮัมเพราะโดนจับปิกาจู้เสือกไม่ตอบอะไรกลับมา ไรของแม่งวะ หมดสติแต่เสือกครางได้นี่ไม่ธรรมดาแล้วนะผมว่า ผมถอนหายใจก่อนจะพยายามประคองหมอนี่ให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ทุกฝีก้าวที่ย่ำเดินมันช่างลำบากเสียเหลือเกิน

    เปิดประตูหลังแล้วยัดอีกฝ่ายเข้าไปข้างในแล้วอ้อมไปที่นั่งคนขับแต่ก็ต้องหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระโปรงรถเมื่อเห็นรอยบุบขนาดมหึมาที่ทำให้ต้องผมใจร้าวประหนึ่งนักธุรกิจถูกฟ้องล้มละลาย ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยขับเฉี่ยวหมาเลยสักครั้ง รอยขีดข่วนก็ไม่เคยมีแต่ว่า...

     

     

    เดี๋ยว...ผมรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังมองผมอยู่?

     

     

    ผมมองเข้าไปในรถก่อนจะผงะเล็กน้อยเมื่อใครคนหนึ่งที่สลบไม่ได้สติก่อนหน้านี้จู่ๆ เขาก็นั่งหัวโด่อยู่ที่เบาะหลังแถมจ้องมาตรงนี้อีกต่างหาก ผมเอียงคอไปทางขวาแล้วขมวดคิ้วแต่ที่เกรียนกว่านั้นคือหมอนี่นเสือกเอียงคอไปทางซ้ายตาม พอผมเอียงคอไปทางซ้ายเขาก็เอียงคอไปทางขวานั่นทำให้ผมเริ่มคิดหนัก

     

     

    นี่กูโดนผีหลอกป่ะวะ..........

     

     

    ผมรวบรวมความกล้าเดินกลับเข้าไปในรถแล้วปิดประตูเสียงดังก่อนจะหันไปมองหน้าผู้ชายที่นั่งเปลือยเปล่า พอเห็นสภาพแบบนั้นแล้วก็ขัดใจเลยเอื้อมไปดึงเสื้อโค้ทที่ผมเคยใส่ให้แต่ตอนนี้มันร่วงลงไปกองกับเบาะมาบังปิกาจู้เขาเอาไว้ เขามองการกระทำทุกอย่างของผมอย่างไม่ละสายตาแล้วจับมือผมเอาไว้

    ...!!!”

    ผมพยายามชักมือกลับแต่คนตรงหน้านั้นแรงเยอะกว่าผมมาก สีหน้าที่นิ่งเฉยนั่นทำให้ผมคาดเดาไม่ถูกเลยว่าไอ้มนุษย์ชีเปลือยนี่กำลังคิดอะไรอยู่

     

     

    หรือว่า...มันจะโกรธที่ผมขับรถชนมัน?

     

     

    ปล่อย!” ผมใช้มืออีกข้างตีๆ มือเขาพร้อมกับพยายามชักมือกลับแต่ก็เหมือนเดิมครับ นั่นไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เขายังคงจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่กระพริบตาเลย

    ผมไม่ได้ขับรถชนคุณนะ ถึงผมจะง่วงมากก็เถอะ แต่ผมไม่ได้หลับในจริงๆ สาบานได้เลยผมยังคงพยายามดึงมือกลับ ตอนนี้ข้อมือของผมคงแดงและเป็นรอยแล้วมั้งเนี่ย ผมสบตากับเขาพร้อมกับทำสีหน้าอ้อนวอน ถ้าเกิดเขาโกรธจนต่อยหน้าผมแล้วขโมยรถไปผมจะทำยังไง ผ่อนก็ยังไม่หมด นี่มันยังไม่พ้นคืนแรกของวันปีใหม่เลยนะ จะให้ผมซวยตั้งแต่ต้นปีเลยเหรอครับพระเจ้า..........

    ผมไม่ได้ขับรถชนคุณนะถึงผมจะง่วงมากก็เถอะแต่ผมไม่ได้หลับในจริงๆ สาบานได้เลยเขารัวพูดประโยคนี้ติดกันด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันหมด ผมขมวดคิ้วมองเขางงๆ

     

     

    กวนตีนหน้าตายเหรอครับสัด

     

     

    คุณก็ไม่ได้เจ็บตรงไหนไม่ใช่เหรอ เลือดก็ไม่เห็นออกผมจับแขน จับไหล่เขา แล้วนัยน์ตาคู่นั้นก็มองตามมือผมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันหยุดที่ใบหน้าหล่อนั่นเขาถึงหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง

     

     

    ผมยอมรับเลยครับว่าถ้ามองชัดๆ แล้วไอ้หมอนี่แม่งโคตรหล่อเลย T_T

     

     

    เอางี้ เรามาตกลงเรื่องค่าเสียหายกันดีกว่านะมันจะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่โตผมยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะยิ้มค้างเมื่อเขาใช้มือข้างที่ว่างอยู่จับมืออีกข้างของผมไว้

     

     

    คือตอนนี้ผมโดนจับข้อมือไว้ทั้งสองข้างแล้วครับ (กราบ)

     

     

    คุณอยากได้เงินไหม ผมมีนะแต่ต้องไปกดที่ ATM” ผมยิ้มสู้ ถ้าหมอนี่พูดอะไรบ้างผมคงรู้สึกดีกว่านี้.....................

    “ATM?” เขาทวนประโยคนี้แล้วขมวดคิ้ว ผมพยักหน้ารัวๆ แล้วยิ้มกว้าง

    ใช่เลย ขับรถไปอีกหน่อยก็ถึงหน้ามินิมาร์ทแล้ว ตรงนั้นมีตู้ ATM ไปถึงปุ๊ป...ผมก็กดเงินให้คุณปั๊บเลยผมเริ่มเมื่อยเพราะต้องเอี้ยวตัวจากที่นั่งคนขับมาคุยกับหมอนี่แถมยังถูกกุมข้อมือเอาไว้อีกด้วย จะเอายังไงครับบอกมาเลย นี่เสนอเรื่องเงินให้ขนาดนี้ก็เอาไปเถอะ ผมไม่ได้รวยนะแต่ถ้าเขาเกิดติสแตกแจ้งความขึ้นมาผมต้องเสียหลายกว่านี้แน่

    นายเป็น ATM” เขาปล่อยมือผมข้างหนึ่งแล้วเอานิ้วหัวแม่มือจิ้มจมูกผมค้างเอาไว้ ผมมองปลายนิ้วมือนั่นก่อนจะเลื่อนขึ้นไปมองหน้าเขาอีกครั้ง

    “ATM บ้าไรล่ะ

    “ATM บ้าไรล่ะ

    เอ้า!” ผมขึ้นเสียงสูงเมื่ออีกฝ่ายชักจะกวนตีนผมเกินไปแล้ว จะเอายังไงทำไมไม่บอกวะ พอเอาเงินมาล่อก็ไม่สนใจอีก เดี๋ยวถีบลงรถให้ไปหนาวตายซะเลยนี่

     

    ให้ผมเดานะ...ผมว่าไอ้หมอนี่คงเป็นชู้แล้วถูกผัวเขาวิ่งไล่ยิงหลังจากเห็นเมียตัวเองสมสู่อยู่กับไอ้บื้อนี่แน่ๆ ถึงได้วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงจนมาชนรถผม

     

    ตรงนี้เจ็บไหม?ผมจับแขนที่มีมัดกล้ามนั่นก่อนที่เขาจะส่ายหน้าช้าๆ เออ...มันก็พูดภาษาคนรู้เรื่องนี่หว่า

    แล้วตรงนี้ล่ะผมวางมือลงบนแผงอกเขา กระโปรงรถผมยับเยินขนาดนั้นก็ต้องถามกันบ้างล่ะ

    ไม่

    ตรงนี้ไม่เจ็บ ตรงนี้ก็ไม่เจ็บ แล้วเจ็บตรงไหน?ผมพยายามพูดช้าๆ บางทีไอ้หมอนี่อาจจะโดนรถชนจนความจำเสื่อมหรือสติแตกไปแล้วก็ได้

    ไม่เจ็บเลยเขาตอบด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกันอีกแล้ว ผมยิ้มกว้างก่อนจะวางมือลงบนบ่าเขา

    งั้นก็ไม่ต้องไปสถานีตำรวจหรือโรงพยาบาลแล้วสินะ

    โรงพยาบาล?

    ใช่ ถ้าคุณไม่เจ็บ คุณก็ไม่ต้องไปหาหมอ และในเมื่อคุณไม่ต้องไปหาหมอ คุณก็ไม่ต้องไปหาตำรวจไงผมยังคงยิ้มอย่างต่อเนื่องอย่างกับว่ามันจะช่วยอะไรได้ เอาวะ ในเมื่อหมอนี่ไม่เป็นอะไรผมจะยอมเป็นบ้าคุยกับคนบ้าบ้างแล้วกัน

    ไป

    ห๊ะ -__-” ผมลดสีหน้าลงทันทีที่หมอนี่พูดจากลับกลอกไม่รู้เรื่อง จะเอายังไงกันแน่วะ ถามว่าปวดตรงไหนก็ไม่ปวด พอถามว่าจะเอาเงินไหมก็ไม่เอา

    ยานแม่

    กวนตีนละผมมองอีกฝ่ายก่อนจะทำหน้าเนือยแล้วชักมือข้างที่โดนกุมอยู่กลับมาแต่ก็ไม่ได้อยู่ดี

    ปล่อยสักทีสิวะ จะเอายังไงก็พูดมา หงุดหงิดแล้วนะเว้ย!”

    ยานแม่อยู่ไหน ติดต่อยานแม่ไม่ได้เลย

    โอย กูจะบ้า...ผมกุมขมับแล้วเอนหัวพิงกับที่นั่งคนขับ ผมว่ามันไม่ได้เป็นชู้กับคนแถวนี้หรอกครับ บางทีอาจจะเป็นคนบ้าที่หลุดออกมาจาก รพ.บ้า ก็ได้

    ยานแม่

    ยานพ่องดิผมมองคนตรงหน้าที่กำลังมองไปรอบๆ ข้าง ผมไปทิ้งแม่งไว้ที่ริมทะเลดีไหมเผื่อมันจะหายานแม่เจอ

    ต้องติดต่อยานแม่

    เออ ติดต่อไปเหอะ ขอให้ติดไวๆ แล้วไสหัวออกไปจากรถกูสักทีผมทำมือปัดๆ ทั้งที่มือข้างหนึ่งยังคงถูกกุมเอาไว้ กวนตีนแบบนี้ไม่ต้องสุภาพกับแม่งแล้วครับ

    ....................

    ผมเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ ก็มีแสงสว่างออกมาจากตัวเขา ร่างกายเปลือยเปล่าตรงหน้าผมมันโปร่งใสจนมองเห็นอะไรที่อยู่ในนั้นเต็มไปหมดแต่มันไม่ใช่ตับ ไต ไส้พุง ของมนุษย์!

     

     

    อ...อะไรวะเนี่ย...ผมเริ่มมือสั่นเมื่อสิ่งที่ผมกำลังเจออยู่ในตอนนี้มันพบได้แค่ในหนังกับละครเท่านั้น แสงสว่างจากร่างเขาค่อยๆ จางหายไปก่อนจะกลับสู่สภาพปกติ ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยมาตลอดกำลังกระตุกยิ้มมุมปาก

     

    ติดต่อได้แล้ว

    .............................................

    ได้เจอกันสักทีนะ...มนุษย์โลก

     

     

     

    จะว่าผีสางอวตานอะไรก็ไม่ใช่...

    จะว่าผมง่วงจนมโนเรื่องนี้ขึ้นมาเองก็คงไม่ถูก...

    ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้...

    เขา...คือ...

     

     

     

     

     

    เราคือสิ่งที่มนุษย์เรียกว่า มนุษย์ต่างดาวไงล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

    TALK

     

    นักวิชาการท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า

    พล๊อตชั่ววูบมักจะมาพร้อมกับการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของไรเตอร์เสมอ

    /บาย

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×