คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7
“มะ มะ มินฮยอน...” เร็นพูดเสียงสั่นเมื่อมินฮยอนจอดรถลงอย่างหวาดเสียว ที่ลานจอดรถของคอนโดฯ เรียบร้อยแล้ว
“นับหนึ่งถึงสามนะ ถ้าหนีกูไม่พ้นล่ะก็นะ กูจะจับมึงแก้ผ้ามัดติดเตียงนอนไม่เปิดฮิตเตอร์ให้อยู่แบบนั้นมันทั้งคืนเลยค่อยดู” เร็นเบิกตากว้างเมื่อรู้ชะตากรรมตัวเอง
“ไม่นะ” พูดจบร่างบางรีบเปิดประตูรถออกไปด้วยความเร็วสูง
“หนึ่ง!!!” เร็นวิ่งไปที่หน้าลิฟท์
“ชิบหายละ” เร็นพูดเมื่อลิฟท์ไปค้างอยู่ที่ชั้นสามสิบอยู่เลย ทางเดียวที่เร็นจะรอดไปได้คือต้องวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟ 10 ชั้นที่เร็นต้องวิ่งขึ้น เพราะลานจอดรถที่อยู่ชั้นที่สูงที่สุดอยู่แค่ชั้น 10 แล้วห้องเร็นอยู่ชั้น 20
“สอง!!” เสียงมินฮยอนไล่หลังมา เร็นวิ่งขึ้นบันไดสุดชีวิต
“ฉันตายแน่เลย ฮือๆๆๆๆ” เร็นพูดไป วิ่งไป ร้องไห้ไป
“สาม!!!” เสียงมินฮยอนดังขึ้นหน้าบันไดขั้นสุดท้าย เร็นเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นมินฮยอนยืนจังก้าอยู่
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เร็นส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลเต็มไปหมด
“มานี่!!!” เสียงเย็นพูดไป มือเร็วยิ่งกว่าคว้าแขนเร็นที่เดินถอยกรูลงบันไดไว้ได้ทัน เร็นโดนลากให้เดินตามมาก่อนโดนจับโยนเข้าห้องของตัวเอง
“มินฮยอนอย่า... มินฮยอนอย่าทำร้ายมินกิอีก กลัวแล้ว ฮือๆๆ” เร็นที่เดินหนีมินฮยอนไปทั่วทั้งห้อง วิ่งขึ้นบันไดมาก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ขาแทบจะไม่มีแรงแล้ว
“มานี่” มินฮยอนพูดแล้วคว้าเอวเร็นมาโอบเอาไว้ด้วยแขนเพียงข้างเดียว
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มินฮยอยปล่อยนะ!!” เร็นดิ้นอยู่ในวงแขนของมินฮยอน
“อยู่นิ่งๆสิวะ!!!” มินฮยอนพูดแล้วจับเร็นโยนลงเตียงนอนไป เร็นถอยกรูไปนั่งกอดเข่าอยู่ชิดหัวเตียงด้านที่ชิดกับฝาผนัง
“อย่าทำ... ฮือๆๆๆๆ อย่าทำฉัน” เร็นร้องไห้ออกมา ตัวสั่นไปหมด
“แล้วใครอยากลองดีกับกูก่อน กูบอกว่าไงเมื่อเย็น” มินฮยอนยืนมองเร็นอยู่ข้างเตียงนอน เร็นค่อยๆ โผล่ตาจากแขนขึ้นมามองหน้ามินฮยอน
“ก็.. รีบ.. แล้ว.. แต่ แต่รถ มันเสีย ฮือๆๆๆ” เร็นตอบไปสะอื้นไป เหมือนใจจะขาด
“ผิดแค่ไหนรู้ตัวมั้ย?”
“รู้.. รู้ รู้ฮือๆๆ”
“แล้วต้องทำไง?” มินฮยอนเริ่มเอียงหน้ามอง
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันหนาว ไม่ได้หรอก ทำแบบนั้นไม่ได้” เร็นส่ายหน้าไปมาอย่างขัดใจ
“ต้องให้ถอดให้ใช่มั้ย” มินฮยอนพูดก่อนที่จะย่างเข้าไปหาเร็น
“ไม่เอาแล้วววววววววว ไม่อยู่ที่นี่แล้ว ไม่เอาแล้ว พ่อครับ มินกิจะไปหาพ่อ แม่ครับมินกิไม่อยู่ที่นี่แล้ว ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เร็นร้องออกมาสุดเสียงอย่างเหลืออด กดดันกันเหลือเกิน จนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“สายไปแล้วล่ะ กูไม่ให้มึงไปไหนหรอก มึงต้องชดใช้”
“ฉันเลือกได้เหมือนมินฮยอน เลือกที่จะอยู่ได้อย่างนั้นเหรอ”
“การที่มึงจะอยู่หรือจะไป มันไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตกูมานานแล้วล่ะ ชเวมินกิ แต่ที่มึงต้องชดใช้คือ... ชดใช้แทนพ่อของมึงไง พ่อของมึงน่ะ!!!” มินฮยอนตะคอกเสียงออกมา
“พ่อ... พ่อของฉันไปทำอะไรให้”
“จำใส่หัวของมึงเอาไว้เลยนะ ในวันที่พ่อกับแม่ของกูจะแยกทางกัน คำเดียวที่ฝังใจกูก็คือ แม่กูรักพ่อของมึง แล้วไอ้ที่กูเกิดมาได้เนี้ยเพราะความผิดพลาด ไม่ได้เกิดมาเพราะความรักอย่างสวยงามอย่างมึง ทีนี้รู้แล้วรึยัง ว่าทำไม!! แม่กูถึงได้รักมึงนักหนา แล้วไม่รักกูแบบนี้ เพราะพ่อมึง เพราะพ่อของมึง!!!” มินฮยอนต่อยลงที่กำแพงเฉียดหน้าของเร็นไปไม่กูเซนฯ
“มินฮยอน...” เร็นตกใจมากกับสิ่งที่มินฮยอนพูดออกมา
เร็นไม่เคยได้รับรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน สิ่งที่เร็นจำได้คือ ตั้งแต่เล็ก มีจินจะคอยเอาอกเอาใจเร็นเสมอ แต่กับมินฮยอนทุบตี ด่าทออยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าไม่ใช่ลูก มีแต่ซูฮยอนที่มักจะเอาใจใส่มินฮยอนแต่ก็ไม่เท่าที่ควร แตกต่างจากครอบครัวของเร็น ที่มักจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พูดคุยหยอกล้อกันไปด้วยความอบอุ่นเสมอมา
“เฮ้... นั่งเขี่ยอยู่นานแล้วนะข้าวน่ะ” แบคโฮพูดขณะที่พักกินข้าวเที่ยงกัน เมื่อเห็นเร็นไม่ยอมกินเอาแต่เหม่อ แบคโฮเลยจิ้มอาหารจานกลางส่งเข้าปากเร็น ปากหยักเมื่อโดนอาหารแตะที่ปากก็อ้าปากรับเหมือนปลาทองไม่มีผิด แบคโฮเห็นแล้วก็ยิ้มให้กับความน่ารักของเร็น
“พี่สองคนเค้าเป็นแฟนกันมึงไม่รู้เหรอ เห็นแล้วแบบ!!! กูเขินเลยมึง” เสียงโต๊ะข้างๆ ดังขึ้น แบคโฮได้ยินก็ได้แต่ยิ้ม ก่อนที่จะส่งอาหารเข้าปากเร็นเรื่อยๆ
“กูว่าไม่นะ กูว่าพี่เร็นน่ะ ชอบพี่มินฮยอน” สาวอีกคนเริ่มเม้า
“กรี๊ดดด มึงอย่าพูดถึงชื่อนี้กูใจจะขาด พี่มินฮยอนคนที่ไหน เทพบุตรชัดๆ” แบคโฮเริ่มเบ้ปากเมื่อได้ยินชื่อของมินฮยอน
“จะว่าไปพี่เร็นก็สวยมาก ผู้ชายบ้าอะไรสวยจนกูอาย แล้วแบบนะ กับพี่มินฮยอนอะมึง ไม่อยากจะคิด เทพบุตรกับเทพธิดาเลยนะมึง”
“เฮ้!!! กูจะไปห้องสมุดทิ้งมึงแล้วนะเอาแต่เหม่อ” แบคโฮจับที่คางเร็นแล้วบีบแรงๆ
“เจ็บนะ!!” เร็นตะคอกเสียงออกมาอย่างมีอารมณ์
“ก็เจ็บไง ถึงได้ทำ”
“ไอ้บ้าๆๆๆ” เร็นพูดไปก็ตีที่ไหล่ของแบคโฮหลายที
“ตกลงจะไปกับกูมั้ยเนี้ย งานเป็นรูปเป็นร่างแล้ว”
“ไม่มีอารมณ์เลยวันนี้” เร็นพูดออกมาแบบเซ็งๆ
“ก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวกูไปเอง อ่อ แล้วรถมึงเมื่อไหร่จะเสร็จวะ”
“พูดถึงรถกูแม่งเซ็ง ห่าเอ๊ย รถซื้อมาตั้งแพง จอดอยู่ใครไม่รู้ชนแล้วหนี ไปซ่อมก็ไม่อะไรหรอก แต่อะไหล่แม่งหมด บอกรอของอยู่” เร็นเริ่มบ่นไปเรื่อยเปื่อย แบคโฮยิ้มออกมา
“เห็นมึงบ่นได้อย่างนี้กูก็สบายใจแล้ว ไอ้ลูกแมว” แบคโฮพูดแล้วเข้าไปจับคางเร็นอีก
“แมวที่ไหนจะน่ารักได้แบบนี้” เร็นพูดแล้วชูนิ้วสามนิ้วด้วยมือสองข้าง ก่อนที่จะเอามาแนบที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองเพื่อให้เหมือนหนวดแมว แล้วทำปากจู๋
“มึงดู... พี่เร็นกับพี่แบคโฮแหละแฟนกัน” เสียงโต๊ะข้างๆยังคงเม้ามอยไม่เลิก
“ปัญญาอ่อนอยู่นี่เองเหรอ รีบไปห้องสมุดสิวะ” ไม่พูดเปล่าเจ้าของเสียงเย็นจับที่ต้นแขนเร็น
“มินฮยอน!!!” เร็นหันไปมองที่ต้นเสียง
“เออดิ”
“ไหนป้ามีจินบอกกว่านายไม่สบายไง” เร็นพูดเมื่อคิดไปถึงตอนเช้าออกมาจากห้องจะไปเรียน ลงไปลานจอดรถยังเห็นรถของมินฮยอนจอดอยู่ รออยู่พักใหญ่เจ้าของรถก็ไม่มาซะที เลยกลับไปหาที่ห้อง มีจินก็บอกว่ามินฮยอนป่วย
“อืม ป่วยเลยไม่ได้มาเรียนตอนเช้า”
“กินข้าวยัง หรือจะไปห้องสมุดเลย งานใกล้เสร็จแล้ว เอาส่วนที่นายทำมามั้ย”
“กินก่อน” พูดจบมินฮยอนวางกระเป๋าลงก่อนที่จะเดินไปซื้ออาหาร
“มึง!! กูอยากเป็นพี่เร็นจังเลย” เสียงมาจากโต๊ะข้างๆ เร็นหันไปมองแล้วยิ้มให้ ก่อนที่จะหันมามองหน้าแบคโฮ
“มึงจะไปก่อนมั้ย?”
“ไม่ไปหรอก นั่งให้ไอ้มินฮยอนมันสำลักข้าวเล่นนี่แหละ” แบคโฮพูดหน้านิ่ง
“จะเกลียดอะไรกันนักหนานะคู่นี้” เร็นพูดแล้วจิ้มอาหารเข้าปาก แบคโฮหัวเราะออกมา เร็นเป็นคนที่ปรับอารมณ์ได้เร็วมาก “ขำไรวะ”
“ขำมึงแหละ เมื่อกี้เหม่อบ้าอะไร ห่วงมันเหรอ” แบคโฮพูดแล้วพยักเพยิดไปทางมินฮยอนที่ยืนหล่อซื้อข้าวอยู่
“อืม... ห่วงสิ”
“มึงรักมันเหรอ”
“เออ... กูบอกแล้วไงว่ารัก”
“แบบไหน?”
“เรื่องของกู พูดมากนัก” พูดจบเร็นจัดการยัดขนมเข้าปากแบคโฮ
“ไอ้แบคโฮมันเป็นง่อยรึไงถึงต้องป้อนกัน” มินฮยอนกระแทรกถาดข้าวลงที่โต๊ะเสียงดัง “ไปซื้อน้ำมาทีซิ” มินฮยอนพูดก่อนที่จะโยนบัตรนักศึกษาให้เร็น(ที่มหา’ลัยนี้เวลาจะซื้อข้าวให้เอาบัตรนักศึกษาไปรูดแทนเงินสด เพราะเก็บเงินรวมค่าเทอมไปแล้ว)
“น้ำอะไรล่ะ” เร็นหยิบบัตรมา
“อะไรก็ได้”
“ไม่เอาดิ! ถ้าซื้อมาไม่ถูกใจแล้วนายสาดใส่ฉันขึ้นมาใครรับผิดชอบห๊ะ?”
“ฉลาดมาบ้างแล้ว”
“ตกลงเอาอะไร”
“คิดก่อน” มินฮยอนพูดจบก็ตักข้าวเข้าปาก “เผ็ดว่ะ”
“เผ็ดเหรอ!!? น้ำๆๆๆ” เร็นพูดแล้วยื่นแก้วน้ำหวานของตัวเองให้มินฮยอน
“กูไม่กินน้ำหวานจำไม่ได้เหรอไอ้โง่” มินฮยอนหันไปมองเสียงเย็น ไม่ต่างจากสายตาที่ส่งให้เร็น
“อ๋า... น้ำเปล่า!!!” เร็นทำท่านึกออก
“อ๊ะ ให้” อยู่ๆ เสียงสำเนียงแปลกๆ ของใครบางคนดังขึ้น เร็นรับขวดน้ำมา ทั้งๆที่ไม่หันไปมองหน้าเจ้าของขวดน้ำ
“ขอบใจมากนะ” พูดจบเร็นก็เปิดขวดน้ำให้มินฮยอน
“เอาใจกันจัง” เสียงเจ้าของขวดน้ำพูด
“กูไม่กิน ของใครก็ไม่พูด”มินฮยอนดันขวดน้ำที่เร็นส่งมาให้
“เดี๋ยวไปซื้อคืนเค้าก็ได้ ดื่มไปก่อนสิ เผ็ดมันทรมานนะ” เร็นพูดแล้วพยายามจะส่งน้ำไปให้มินฮยอน
“ใครจะไปเหมือนมินกิล่ะ กินเผ็ดไม่ได้ซักที” เสียงสำเนียงแปลกๆ เหมือนเดิมลอยมา เร็นหันไปมอง
“ฮยองงงงงงงงงง ฮยองงงงงงงงงงงงงง” เร็นตะโกนใส่หน้าเจ้าของสำเนียงแปลก
“ว่าไงมินกิเร็น” เจ้าของเสียงยิ้มร่าให้เร็น
“คิดถึงฮยอง ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไม่พูดเปล่าเร็นโผเข้ากอด ชายร่างเล็ก หน้ากลม ผมสีบอร์ดทอง เครื่องหน้าเหมือนโดนวาดขึ้นมาจากฝีมือจิตกรระดับโลก ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด ชื่อของเขาก็คือควักยองมิน หรืออารอน
“โอ๋ๆๆๆ เร็นของฮยอง” อารอนพูดแล้วลูบหลังเร็น
“เป็นบ้าอะไรของมึงเนี้ยไอ้ปัญญาอ่อน” ไม่พูดเปล่ามินฮยอนดึงร่างเร็นออกจากอ้อมกอดของอารอน
“อ๋าาาา... ฮวังมินฮยอนสินะ” อารอนมองมินฮยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยรอยยิ้มสดใส
“ฮยองฮะ นี่มินฮยอน ส่วนโน้นแบคโฮ” เร็นแนะนำสองหนุ่มให้อารอนได้รู้จัก “แบคโฮ มินฮยอนคนนี้ชื่ออารอนฮยอง เป็นพี่ชายที่ฉันสนิทมากกกกกกกกก ตอนอยู่ที่อเมริกา บ้านของฮยองอยู่ติดกับบ้านฉัน”
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ ผมควักยองมิน เรียกอารอนก็ได้ อ่อ... ชื่อเร็นน่ะ ผมตั้งให้เองตอนที่เราอยู่อเมริกา” อารอนพูดแล้วเข้าไปกอดคอเร็น
“ฮยอง มาทำไมอะ ไม่บอกก่อนล่ะจะได้ไปรับ” เร็นเข้าไปจับแขนอารอนโดยไม่หันไปสนใจสายตาของมินฮยอนสักนิด
“ฮยองเป็นตัวแทนของบริษัทฯ มาตรวจสอบผลิตภัณฑ์หลายบริษัทฯในเกาหลี ซัก 2-3 เดือน เอ... ไปพักที่ไหนได้บ้างนะ”
“บ้านผมไง ฮยองจะไปไหนได้ล่ะ ฮยองต้องอยู่กับผม” เร็นพูดไปยิ้มไป
“ดีจังไม่ต้องเปลืองค่าโรงแรม งั้นค่าโรงแรมฮยองจะพามินกิไปเที่ยว ไปซื้อของ แล้วก็ทำอะไรอีกดี”
“กินขนม” เร็นพูดจบสองคนก็พากันหัวเราะ ทำเอาสองหนุ่มที่ยืนอยู่กลายเป็นหิน ต้นไม้ หรือแค่อากาศก็ไม่ทราบได้
ความคิดเห็น