คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
“ขอบคุณค่ะ... ที่มาส่ง” ฉันพูดกับเขาเมื่อรถของเขามาจอดสนิทอยู่หน้าบ้านของฉันเรียบร้อยแล้ว
“รีบเข้าบ้านไปสิ ฉันจะได้กลับสักที” เขาพูดจบ แต่ก็ยังนั่งนิ่งไม่ยอมออกรถ
“กลับก่อนเถอะ เดี๋ยวแม่คงมาเปิดประตูให้” ฉันพูด แต่ทำไม... บ้านฉันมันดูมืดๆ จัง
“ให้แม่เธอออกมาเปิดประตูให้ก่อนเถอะ” เขาพูด เอ... นี่ก็นานแล้วทำไมแม่ยังไม่มาเปิดประตูให้ฉันสักทีนะ โทรหาก่อนดีกว่า ฉันจัดการกดโทรศัพท์โทรหาแม่
‘ลูกสาว... ตอนนี้พ่อกับแม่มาดินเนอร์กัน ประมาณว่าออกเดทน่ะลูก พอดีว่าพ่อได้บัตรกินและพักฟรีโรงแรมหรู แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกลูกก่อน’ แม่พูดยาวเหยียดหลังจากรับสายฉัน
“หนูก็รอตั้งนานทำไมแม่ไม่มาเปิดประตูให้ เอาเป็นว่าเดทกันให้สนุกนะคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนู รักแม่นะคะ บอกพ่อด้วยว่าหนูรักพ่อ" ฉันพูดก่อนที่จะวางสายไป กุญแจบ้าน... ตายแล้ว!!! ฉันไม่ได้เอาติดไปด้วยนี่นาทำไงดี
“ยังยืนอยู่ทำไม ไม่เข้าบ้านล่ะ” คนที่นั่งรออยู่ในรถเอ่ยปากถาม
“เอ่อ... พ่อกับแม่ของฉันไปเดทกัน...” ฉันพูด
“ก็เรื่องของเธอจะบอกฉันทำไม ฟังเธอคุยโทรศัพท์ฉันก็รู้แล้ว ไม่มีกุญแจบ้านหรือไง...” เขาพูด ฉันยังคงนิ่งอยู่ “หรือว่าเธอไม่มี...” ฉันพยักหน้าเมื่อเขาเดาถูก ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมา
“กว่าพ่อกับแม่จะกลับมาก็คนพรุ่งนี้ ฉันไม่อยากโทรไปกวนท่านตอนนี้ด้วย” ฉันพูด
“งั้นก็ไปที่บ้านของพี่ฮันนี่ก็แล้วกัน” เขาพูดออกเสนอความคิด
“ฉันก็ไม่อยากกวนพี่ฮันนี่เหมือนกัน” ใช่แล้ว เพราะตอนนี้ถ้าฉันไปหาพี่ฮันนี่ก็คงไม่ขัดจังหวะพี่เขากับสามีอีก
“แต่ตอนนี้เธอกำลังรบกวนฉันอยู่นะคัง จีวอน” เขาพูดเสียงนิ่ง
“ฉันคิดไม่ออกจริงๆนี่นา” ฉันพูด
“เฮ้อออ... ยุ่งจังเลย ขึ้นรถมา ข้างนอกอากาศหนาว” เขาพูดก่อนที่จะสตาร์ทรถ
“ฉันจะทำอย่างไรดีนะ” ฉันพูดหลังจากที่ขึ้นมาบนรถแล้ว
“มีที่ไหนที่เธอนอนได้บ้างล่ะ” เขาหันมาถามฉัน ฉันค่อยๆ หันไปมองหน้าเขา
“ไม่มี” ฉันพูดก่อนที่จะทำคอตก ญาติพี่น้องในโซลก็ไม่มี เพื่อนสนิทที่พอจะไปค้างด้วยได้ก็ไม่ได้อยู่ที่โซลแล้วคิดไม่ออกเลยจริงๆ
“ตอนนี้เธอกำลังคิดที่จะเพิ่งคนที่เธอเกลียดอยู่นะคัง จีวอน” เขาพูดและยังคงมองหน้าฉันอยู่
“งั้นนายจะไปไหนก็ไปเลยสิ” พูดจบฉันก็เปิดประตูลงจากรถทันที ใช่... ฉันเกลียดนาย ในเมื่อพูดแบบนี้ฉันก็ไม่ควรจะพึ่งคนอย่างนาย
“นี่... คิดจะทำอะไรของเธอ” เขาเปิดประตูรถออกมาแล้วพูด
“ฉันจะรอพ่อกับแม่ตรงนี้ นายจะไปไหนก็ไปเลย ใช่แล้ว ฉันเกลียดนาย และฉันก็ไม่ควรที่จะพึ่งนายให้มันเป็นบุญคุณต่อกัน” พูดจบฉันก็นั่งลงหน้าประตูบ้านตัวเอง เขายังคงยืนเอาแขนพาดหลังคารถของเขาอยู่อย่างนั้น
“ถือซะว่าตอบแทนการทำอาหารของเธอ วันนี้ฉันจะพาเธอไปนอนที่โรงแรมของฉัน เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน” เขาเดินมาตรงหน้าของฉันแล้วพูดต่อ “ไปสิ... ก่อนที่จะแข็งตายอยู่ตรงนี้” พูดจบเขาก็หิ้วแขนฉันให้ลุกขึ้นแล้วยัดตัวฉันลงในรถของเขา ไม่นานนักเขาก็พาฉันมาถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าข่าวที่ว่าเขาเป็นลูกเจ้าของโรงแรมจะเป็นจริง
“หรูจัง... ฉันไม่กล้าเข้าไป” ฉันพูดเมื่อเขาจอดรถอยู่หน้าประตูโรงแรม
“ลงไปสิ เอานี่ไป” เขายื่นกุญแจห้องที่มีหมายเลขติดให้ฉัน “ไม่ต้องไปติดต่ออะไรเลย ขึ้นลิฟท์ไปเลยอยู่ชั้นบนสุด ห้องของฉันเอง”
“ฉันไม่กล้า... อย่างน้อยๆ นายก็น่าจะเป็นคนพาฉันขึ้นไป นะ...” ฉันหันไปคุยกับเขา
“ให้ตายสิ... เธอนี่เรื่องมากที่สุดเลย” พูดจบเขาก็ลงจากรถ ก่อนที่จะโยนกุญแจรถให้พนักงานรับรถ พนักงานรับกุญแจก่อนที่จะโค้งให้เขาและแอบมองมาที่ฉันและยิ้ม เอ๊ะ!!! ทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะอิตาคนรับรถน่ะ เขาสวมแว่นตาดำก่อนที่จะเดินนำเข้าไปข้างในโรงแรม พอพนักงานเห็นหน้าเขาต่างก็พากันโค้งให้กันเป็นแถว ทำให้ฉันรู้สึกเกรงไปหมด
“อย่าเดินเร็วสิฉันเดินไม่ทัน” ฉันพูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้ เขาหยุดเดินก่อนที่จะหันหน้ามามองฉัน
“เธอคิดว่าฉันเป็นใครกัน ให้มาเดินชักช้ากินลมชมวิวเหมือนเธอได้” พูดจบเขาก็คว้าข้อมือฉันเดินตรงไปที่ลิฟท์ ก่อนที่จะกดเข้าไป สักพักก็ถึงชั้นบนสุด
“มินแจ!!!” พอลิฟท์เปิดออก ก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสวยมาก ยืนรออยู่หน้าลิฟท์ เธอเรียกชื่อเขาอย่างตกใจก่อนที่จะมองมาที่ฉัน “นั่นใครอีกล่ะ... จะพาไปไหน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆ แบบที่คนอย่างฉันก็เดาไม่ออกอยู่ดี
“เธอคือ... ผู้หญิงของผม ผมจะพาเธอไปนอนที่ห้องของผม” พูดจบเขาก็ฉุดฉันเดินออกมาจากลิฟท์ทันที
“มินแจ!!! มาคุยกันก่อน” เธอคว้าแขนอีกข้างของเขาเอาไว้ หรือว่า... เธอจะเป็นพี่สาวของเขา
“ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณ นี่มันเรื่องส่วนตัวของผม คุณไม่ควรยุ่งนะ” เขาพูดก่อนที่จะสะบัดแขนออกจากการจับกุมของเธอ ทำให้เธอเซมาทางฉัน ฉันจึงรีบคว้าตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มลง เธอหันมามองหน้าฉันก่อนที่จะทรงตัวได้
“นี่!!! นายไม่ควรจะทำแบบนี้กับพี่สาวของนายนะ” ฉันพูด เขาหันมามองหน้าฉัน
“พี่สาว?” เขาพูด
“หนูหมายถึงฉันเหรอจ๊ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูด
“ค่ะ” ฉันหันไปคุยกับเธอ
“ฉันเป็นแม่ของมินแจจ้ะ” เธอพูด ทำให้ฉันตกใจ เธอยังดูสาวอยู่เลย
“หึๆ แม่อย่างนั้นเหรอ อย่ามาใช้คำนี้กับผมเลย ช่างเถอะ อยู่กับงานของคุณต่อไป ผมขอตัว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน
“มินแจ... แม่ขอโทษ” เธอพูด ฉันหันไปมองหน้าเธอ ในแววตาของเธอดูแล้วมันช่างเศร้าเหลือเกิน
“นี่!!! นายไม่ควรพูดแบบนี้กับแม่ของนายนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน มาอวดดีกับแม่ตัวเองแบบนี้” ฉันพูดแล้วก็สะบัดข้อมือให้หลุดออกจากมือของเขา
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะหนู ฉันทำตัวไม่ควรที่จะเป็นแม่ของเขาเอง” แม่ของเขาพูด
“คุณน้าคะ... อย่าเศร้าไปเลยนะคะ หนูเชื่อค่ะว่าลูกชายคุณน้ารักคุณน้า แต่เขาเก็กไปแบบนั้นเอง” ฉันพูดเบาๆ ข้างหูเธอ เธอหันมามองหน้าฉัน
“ทำไมหนูถึงคิดแบบนั้นล่ะ” เธอพูดกับฉันเบาๆ เหมือนกัน
“เชื่อหนูเถอะค่ะ สบายใจได้”
“จะไปกันได้หรือยัง” คนที่กำลังโดนพูดถึงพูดขึ้น
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ” ฉันหันไปคุยกับเขา ก่อนที่จะหันกลับมาคุยกับแม่ของเขาต่อ “คุณน้าดูยังสาวยังสวยอยู่เลยนะคะ ถ้ามีโอกาสแนะนำวิธีให้หนูด้วยนะคะ” ฉันพูดแล้วยิ้มให้เธอ
“เขาจะมีเวลาที่ไหนไปคุยกับเธอ ขนาดลูกตัวเองยังไม่มีเวลาให้เลย” คนเป็นลูกพูดก่อนที่จะเดินมาคว้าข้อมือของฉัน “ไปได้แล้ว” พูดจบเขาก็ฉุดฉันให้เดินเข้าห้องไป
“ว้าว... หรูหราจริงๆ เลย ไม่น่าเชื่อว่านายจะเป็นทายาทที่แบบนี้” ฉันพูดแล้วก็เดินสำรวจไปทั่วห้อง มันหรูมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่อยู่ในห้อง ห้องกว้างมาก แบ่งเป็นโซนๆ มีโซนๆห้องครัวด้วย
“เฮ้อออ เหนื่อย” ฉันแอบหันไปมองคนช่างบ่นอยู่บนเตียงนอน เขาล้มตัวลง แล้วถอนหายใจ แววตาของเขาเหม่อลอย มันว่างเปล่ากว่าที่เขามองพี่ฮันนี่
“ขอบใจนะ” ฉันพูด แล้วก็ค่อยๆ นั่งลงที่เก้าอี้นวมขนาดใหญ่ที่วางไว้ข้างเตียงนอน
“สำหรับที่พัก?” เขาพูดเป็นเชิงถามฉัน
“ใช่... นายคงเหนื่อยมาก นายกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้น” เขาพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินมาที่ฉัน แล้วก็ก้มลงทำอะไรสักอย่างข้างเก้าอี้
“ว้าว... เป็นเก้าอี้นวดเหรอเนี้ย” ฉันพูดขึ้นเมื่อเก้าอี้ทำงาน
“เก้าอี้ตัวโปรดของฉันเลยนะเนี้ย วันนี้ฉันยกให้เธอ ฉันมักจะมาที่นี่เวลาที่เครียดๆ และมักจะใช้บริการมันเวลานั้นเสมอ” นี่คงเป็นอีกมุมหนึ่งของเขาสินะ เขาก็ไม่แย่ไปซะทุกอย่าง ตอนนี้ฉันเริ่มมองเห็นแง่มุมที่ดีของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว
“นายควรใช้มันในวันนี้” ฉันพูดก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วดันตัวเขาให้นั่งลงแทนฉัน
“ไม่เป็นไรฉันจะกลับแล้ว” เขาทำท่าจะลุกแต่ฉันดันตัวเขาให้นั่งดังเดิม
“นั่งเถอะ เดี๋ยวฉันมา” ฉันพูดก่อนที่จะเดินตรงไปที่ตู้เย็น ว้าว... อาหารเพรียบเลย ฉันกวาดตามองหาอะไรๆ ก่อนที่จะเลือกหยิบแอ๊ปเปิ้ลลูกใหญ่ขึ้นมา หอมดีจัง
“เอามาให้ฉันทำไม” เขาพูดเมื่อฉันส่งแอ๊ปเปิ้ลให้เขา
“นายลองดมดูสิ หอมนะ” ฉันพูด เขาทำหน้างงๆ ก่อนที่จะดมที่ผลแอ๊ปเปิ้ล เขายิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะมองมาที่ฉัน
“หอมจริงๆด้วย ฉันไม่เคยคิดที่จะดมมันเลยนะ” เขาพูด
“กลิ่นของแอ๊ปเปิ้ลช่วยคลายความเครียดได้ ทำให้นอนหลับสบายด้วย อ่อ!!! รอแป๊บนะ” ฉันพูดก่อนที่จะเดินกลับไปที่โซนที่ห้องครัว ฉันจัดการเอานมมาอุ่น
“อะไรอีกทีนี้” เขาพูดเมื่อฉันส่งแก้วนมให้เขา
“ดื่มสิ ดื่มนมก่อนนอนทำให้หลับสบาย อ่อ!!! จริงสิ นายต้องขับรถกลับอยู่ดี ดื่มตอนนี้คงไม่ได้ประโยชน์สักเท่าไหร่...” ฉันพูดอยู่ เขาก็ยกแก้วนมขึ้นดื่ม
“แปลกนะ พอดื่มเข้าไปมันก็รู้สึกอุ่นไปทั้งตัว ไม่น่าเชื่อว่าแค่กลิ่นของแอ๊ปเปิ้ลกับนมอุ่นแก้วเดียวจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้” เขาพูดแล้วยิ้ม รอยยิ้มแบบนี้สินะ ที่ทำให้ผู้หญิงเป็นพันๆ ไม่สิน่าจะเป็นหมื่นๆ หรืออาจจะเป็นแสน เป็นล้านๆ คนก็ได้หลงใหลเขา
“ฉะ... ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ ถ้านายจะกลับก็กลับไปเลยนะ” ฉันพูดก่อนจะรีบเดินหนีเข้าห้องน้ำมา ให้ตายสิ ทำไมหัวใจฉันถึงเต้นเร็วแบบนี้นะ รอยยิ้มแบบนั้นสะบัดให้หลุดออกไปไม่ได้เลย ฉันเดินวนไปวนมาในห้องน้ำสักพัก กะเวลาว่าเขาคงจะกลับแล้ว ก่อนที่จะค่อยๆเดินออกมา
แต่... เขายังนอนอยู่ที่เก้าอี้นวด ดูท่าทางว่าจะหลับไปแล้วด้วย ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนที่จะเอามือปัดไปมาที่ตาของเขา เขาหลับไปแล้วจริงๆ ฉันควรจะปลุกเขาดีไหมนะ หรือจะปล่อยให้เขาหลับต่อไปดี ฉันหันไปมองในแก้วที่เคยมีนมอุ่นอยู่แต่ในตอนนี้ว่างเปล่าไปแล้ว มือข้างซ้ายของเขายังคงถือแอ๊ปเปิ้ลวางไว้ที่ตักของตัวเองไว้แบบนั้น ฉันค่อยๆ หยิบแอ๊ปเปิ้ลออกจากมือของเขา คงจะเหนื่อยมากสินะ เหนื่อยจากงาน แล้วยังมาเจอแม่ที่ไม่พร้อมจะเจออีก คงคิดอะไรหลายเรื่องด้วยสิ
ใบหน้าของเขาที่ตกแต่งไปด้วยเครื่องหน้าทุกส่วนที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเข้มๆ ตัดกับผิวขาวๆ ดวงตาที่ยิ้มอยู่เสมอ แต่ทำไมฉันมักจะมองเห็นนัยน์ตาอันเศร้าสร้อยของเขาอยู่ตลอดเลยก็ไม่รู้ แต่ในตอนนี้มันปิดอยู่ จมูกโด่งๆ ปากได้รูป ดูแล้วสวยงามจริงๆ ให้เขาหลับแบบนี้ก็ดีแล้ว อย่าเพิ่งตื่นมาทะเลาะกันฉันเลย วันนี้ฉันเองก็เหนื่อยมากเหมือนกัน ที่นอนนุ่มๆ ง่วงจัง... นอนดีกว่า คิดได้แบบนี้ฉันก็ล้มตัวลงนอน สบายจัง...
อุ่นจัง... แต่ทำไมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับตัวฉันนะ ความรู้สึกเหมือนโดนกอด... กอดเหรอ... ฉันนอนคนเดียวมาตั้งนานแล้วใครจะมากอดฉันอย่างนั้นเหรอ... หรือนี่อาจจะเป็นความฝันก็ได้ แต่ฉันรู้สึกตัวแล้วนะ มันไม่น่าจะใช่ความฝัน เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ว้าย!!!” เสียงของฉันเอง
“ตกใจหมดเลย!!” แต่เสียงนี้ไม่ใช่ของฉัน มันเป็นเสียงของเจ้าของแขนที่กอดฉันไว้อยู่
“นายมานอนกอดฉันได้ไง” ฉันพูดก่อนที่จะผลักตัวเองให้หลุดออกจากอ้อมแขนของคนข้างๆ
“ฉัน...” เขาพูดแค่นั้นก็นิ่งไปเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนที่จะพูดต่อ “ก็มันหนาวก็เลยนอนมาที่เตียงไม่เห็นเป็นไร ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย”
“นายจะบ้าหรือไง ฉันเป็นผู้หญิง นายเป็นผู้ชายจะมานอนเตียงเดียวกันได้ไง ฉันเสียหายนะ” ฉันนั่งพูดเสียงดังอยู่บนเตียงนอน ก่อนที่จะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอง
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำอะไร แค่กอด...” เขาพูด
“ไม่ได้!!! กอดก็ไม่ได้ ให้ตายสิ ตั้งแต่เกิดมาผู้ชายคนเดียวที่กอดฉันก็คือพ่อของฉัน แต่นาย... นายทั้งกอดฉัน จูบฉัน แล้วฉันก็โชคร้ายได้ไปนั่งบนตักของนาย... หมดกันชีวิตวัยสาวของฉัน” พูดจบฉันก็ร้องไห้ออกมา ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ ฉันตอบตัวเองไม่ได้ มันไม่ใช่ความเสียใจ หรือรังเกียจเขา แต่ฉันอธิบายความรู้สึกแบบนี้ไม่ถูกจริงๆ
“ฮ่าๆๆ เธอยังบ๊องได้อีกนะ” เขาหัวเราะออกมา
“ยังจะมีหน้ามาหัวเราะ แล้วยังมาว่าฉันอีก นายเป็นใคร มาจากไหน มาทำกับฉันแบบนี้ ไม่เอาแล้วฉันเกลียดนาย!!! ฉันจะไม่ให้นายมาโดนตัวฉันอีกต่อไป” พูดจบฉันก็รีบลุกออกจากเตียงนอน และไม่ลืมที่จะไปหยิบกระเป๋าก่อนที่จะวิ่งออกมาจากห้องนอน
“จะไปไหนน่ะ” เขาพูดก่อนที่ฉันจะเปิดประตูออกมา
“กลับบ้านน่ะสิ” ฉันพูด
“ฉันจะไปส่งเธอเอง” เขาพูดแล้วก็เดินตามฉันออกมา
“ไม่!!! อย่าเข้าใกล้ฉันในระยะหนึ่งเมตร ออกไปนะ” ฉันพูดก่อนที่จะเดินหนีเขา แต่... ขาสั้นๆ ของฉันไหนจะสู้ขายาวๆ ของเขาได้ล่ะ แงๆๆ เขาเข้ามาฉุดข้อมือของฉันเอาไว้ได้ทัน
“จะอะไรกันนักหนานะ” เขาพูด
“ปล่อยฉันนะ!!! นายพรากความบริสุทธิ์ของฉันไปแล้ว ฮื้อๆๆ” ฉันพูดแล้วก็ร้องไห้
“เมื่อกี้... ลูกพูดว่าอะไรนะจีวอน” เสียงที่สุดแสนจะคุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลังของฉัน ทำให้ทั้งฉันและคู่กรณีหันไปมองพร้อมกัน
ความคิดเห็น