ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 3) รักหมดใจ...ของยัยจอมแก่น

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 56


    Haneul's Part

    เสียงนาฬิกาปลุกของฉันดังขึ้น... เสียงมันทำให้ฉันรำคาญเหลือเกิน แต่... พอนึกขึ้นได้ว่าฉันจะปลุกนาฬิกาทำไม มันก็ทำให้ฉันยิ้มออก ฉันฝันไปหรือเปล่านะ เมื่อคืนทุกอย่างคือความจริงใช่ไหม เจ้าชายของฉัน เหมือนกับว่าเราเป็นแฟนกัน กรี๊ดดดดดดดดด แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ฮันนี่” ฉันเอ่ยทักแม่ครัวเอกที่ยืนยุ่งอยู่ในครัว

    “อรุณสวัสดิ์จ้า ฮานึล เมื่อคืนเหนื่อยแย่เลย” พี่ฮันนี่หันมาทักทายฉัน

    “มีความสุขมากกว่าค่ะ พี่จุนโฮเวลานอนน่ารักมาก” ฉันพูด อยากจะกรี๊ดให้บ้านแตก

    “จุนโฮน่ะ นอกจากคุณย่าแล้ว ก็มีพี่นี่แหละที่เขาจะอ้อนได้ มีเธอเพิ่มมาอีกคนพี่ก็อุ่นใจ” พี่ฮันนี่พูดยิ้มๆ คำพูดของพี่ฮันนี่ทำให้ฉันเขิน

    “โอ้ย... ปวดหัว” เสียงทุ้มๆที่เราพูดถึงดังขึ้น

    “ตื่นแล้วเหรอจ๊ะพ่อน้องชาย” พี่ฮันนี่เดินเข้าไปลูบหน้าลูบตาน้องชาย

    “ผมปวดหัวจังเลยครับพี่” เจ้าชายของฉันยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย ผมที่ยังไม่ได้จัดทรงช่างน่ารักเป็นที่สุด

    “งั้นกินโจ๊กแล้วกันนะวันนี้ ขึ้นไปนอนก่อนไป เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่ให้คนไปเรียก” พี่ฮันนี่พูด เขาหันมามองหน้าฉัน

    “คนไหน... คนนั้นไหม” คนร่างสูงมองมาที่ฉัน โอ้ย... ตายๆ อย่ามองฉันด้วยสายตางัวเงียแบบนั้นนะ

    “อะไรกัน... เดี๋ยวนี้มีเลือกคนตามนะ” พี่ฮันนี่พูดแซวน้องชาย

    “ผมไม่ได้เลือกผมแค่ถาม... วันนี้ปวดหัวมากเลย ผมขอทานข้าวเช้าที่ห้องนอนนะครับพี่”

    “ได้จ้ะ” พี่ฮันนี่พูด คนร่างสูงหันมามองที่ฉันก่อนที่จะยิ้มน้อยๆ แล้วเดินออกไป โอ้ย... ฉันอยากจะเดินตามเขาออกไปไม่ทำแล้วอาหารเช้า

    “ว้าว... หอมจังค่ะ อยากทำเองให้เป็น” ฉันพูดเมื่อพี่ฮันนี่กำลังตักโจ๊กใส่ชาม

    “มันใช้เวลานาน เอาไว้คราวหน้าค่อยหัดทำเองตั้งแต่ต้นก็แล้วกันนะจ๊ะ วันนี้เอาฝีมือพี่ไปก่อนนะพ่อน้องชาย” พี่ฮันนี่พูด ฉันจัดการจัดเครื่องเคียงก่อนที่จะยกขึ้นไปให้เขาเอง

    “ไหวแน่นะคะคุณฮานึล” ป้าแม่บ้านพูดเดินตามหลังฉันมา

    “สบายมากค่ะ” ฉันจัดการยกถาดอาหารเดินไปที่ห้องของคนที่คาดว่าจะป่วย ทั้งๆที่พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้ว ฉันค่อยๆเปิดประตูห้องของเขาเข้าไป ร่างสูงยังคงนอนนิ่ง ท่าทางจะปวดหัวจริงๆแล้ว พอฉันวางถาดบนโต๊ะข้างเตียงนอนคนบนเตียงก็เริ่มพลิกตัว

    “อ่า... ปวดหัว” เขาครางออกมาเบาๆ เสียงทุ้มๆของเขามันทำให้ฉันใจสั่น

    “ลุกมากินโจ๊กก่อนแล้วค่อยกินยานะคะ” ฉันพูดแล้วนั่งลงบนเตียงนอนข้างๆตัวเขา

    “ไม่น่าดื่มหนักเลย...” เสียงทุ้มๆของเขายังคงกวนใจฉันอยู่มาก และเขายังคงครวญครางอยู่บนเตียงนอน

    “ลุกมากินก่อนเถอะค่ะ” ฉันพูดย้ำกับเขาอีกครั้ง เขาหันมามองหน้าฉันสีหน้างัวเงียของเขาน่ารักมากจนฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนใด ในโลกเห็นมัน เขาค่อยๆ ประคองตัวไปยกถาดอาหารแล้วยกไปวางที่โซฟาก่อนที่จะค่อยๆ กินมัน

    “ฝีมือของพี่ฮันนี่...” เขากินเข้าไปคำแรกก็พูดขึ้น

    “ค่ะ... วันนี้ฉันทำหน้าที่เป็นแค่ลูกมือของพี่ฮันนี่” ฉันพูดก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างๆเขา

    “อร่อยนะ” พูดแค่นั้นเขาก็ทำหน้านิ่งๆ ตักโจ๊กมาที่ปากฉัน “อ้ามมมมมมม” ท่าทางและคำพูดของเขาดูขัดๆกันแต่ก็น่ารักเป็นบ้าเลย

    “อร่อยค่ะ พี่กินเถอะเดี๋ยวฉันลงไปกินข้างล่าง” ฉันพูดเมื่อกลืนโจ๊กลงคอ

    “กินเถอะ พี่กินไม่หมดหรอก” พูดจบเขาก็ดันชามโจ๊กมาตรงหน้าของฉัน “ป้อนพี่ด้วยสิ พี่รู้สึกเหมือนจะหมดแรง” เขาพูดแล้วก็ส่งช้อนมาให้ฉัน ตายๆ มาอ้อนกันแบบนี้ ถ้าเกิดเขาต้องไปแต่งงานกับคนอื่นฉันคงต้องลาไปบวชตลอดชีวิตแน่ๆ คนที่บอกว่าหมดแรงเขาชี้จะกินโน้นกินนี่ อย่างไม่ขาดปาก จริงๆเลยนะผู้ชายคนนี้ จากที่ฉันแอบชอบมันกลายเป็นรักเมื่อมาเจอเขา จากที่ฉันรักเขามันกลายเป็นรักมาก ยิ่งมาเจอมุมน่ารักๆ ของเขาฉันยิ่งรักเขามากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาที่เขามี แต่ทุกอย่างที่เป็นเขา ทำให้ฉันรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันจะหยุดตรงไหนฉันเองก็ยังไม่รู้

    “กินยาค่ะ” ฉันส่งยาให้เขาหลังจากจัดการโจ๊กเรียบร้อยกันแล้ว

    “อิ่มแล้วก็ง่วงอีกแล้ว” พูดจบคนที่ดูเหมือนว่าจะป่วยก็ล้มตัวนอนหนุนตักฉันหน้าตาเฉย ทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำ

    “อุ๊ย!!!” เขาเงยหน้าขี้นมายิ้มก่อนจะหลับตาลง คิ้วเข้มๆช่างเหมาะกับตาที่ไม่โตมากของเขา จมูกโด่ง ปากบาง แก้มใสๆ ผิวที่ไม่เนียนเรียบจนเกินไป และไม่ขาวมากช่างเหมาะกับเขาเสียจริงๆ ยิ่งผมดำๆ เส้นหนาๆ โอ้ย... ดูดีไปหมด ฉันอดใจที่จะลูบเส้นผมของเขาเล่นไม่ได้ “ผมของพี่เนี้ย... เส้นหนามากเลยแต่ไม่แข็ง”

    “อืม...” เขาครางเบาๆ ก่อนที่จะลืมตาขึ้นแล้วจับผมของฉันบ้าง “ผมของเธอถ้าไม่ทำร้ายมันเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ มันก็คงจะนุ่มน่าจับเหมือนกัน”

    “ฉันจะดูแลมันอย่างดีเลยคะนับจากนี้” ฉันพูดแล้วก็ลูบผมของตัวเองบ้าง

    “วันนี้ขี้เกียจมากเลย” เขาพูดมือยังอยู่จับผมของฉันเล่น

    “ขี้เกียจก็อยู่เฉยๆ นอนพักผ่อนไปนะคะ เดี๋ยวฉันเอาจานลงไปเก็บก่อน แล้วก็จะเรียนทำอาหารกับพี่จีวอนด้วย” ฉันพูดและเริ่มขยับตัว

    “ไม่เอา... ไม่อยากกินอะไรเลยวันนี้ อยากนอน”

    “ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับการที่ฉันจะไปเรียนทำอาหารกับพี่จีวอนนี่คะ”

    “เกี่ยว... เพราะเธอตั้งใจจะทำให้พี่กินไม่ใช่เหรอ” คำพูดของเขาบวกกับน้ำเสียงที่เขาไม่เคยใช้กับฉันมาก่อนทำให้ฉันอ่อนระทวยไปหมด

    “พี่เนี้ย... ร้ายมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยนะคะ” ฉันพูดแล้วก็บีบจมูกของเขาเบาๆ บอกตามตรงฉันไม่กล้าที่จะถามเลยจริงๆ ว่าฉันกับเขาในตอนนี้เป็นอะไรกัน... และไม่คิดที่จะถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับฉัน ที่ฉันรู้ในตอนนี้คือ... เป็นแบบนี้ก็ดีมากมายเหลือเกินแล้ว


     

    “พี่ไม่หิวเลยสักนิด” คนตัวสูงบ่นอุบอิบ เมื่อฉันลากเขาลงมาจากห้องนอน หลังจากที่นอนหลับอยู่บนตักของฉันครึ่งวันแล้ว น่าแปลกที่ฉันไม่รู้สึกเมื่อย กลับรู้สึกดีที่ได้มองหน้าตอนหลับของเจ้าชายของฉัน จับโน้นลูบนี้บนใบหน้าของเขาอย่างเพลิดเพลิน

    “อ้าว... จุนโฮ ฮานึล พี่ก็นึกว่าเธอสองคนออกไปข้างนอกเสียอีกหายไปเลยครั้งวัน” พี่มินจุนที่นั่งกินอาหารกลางวันกับพี่ฮันนี่พูด

    “ผมหลับ...” คนข้างๆฉันพูดก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้นั่ง และไม่ลืมที่จะเลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆเขา แล้วตบมันเบาๆ บ่งบอกได้ว่าให้ฉันนั่งลงข้างๆเขา

    “ว้าว... อะไรกันนะสองคนนี้” พี่ฮันนี่เริ่มเอ่ยปากแซว

    “พี่ไม่ไปเปิดร้านเหรอครับวันนี้” คนข้างๆฉันพูดดักคอพี่สาว

    “วันนี้วันหยุดของร้านพี่จ้ะ พ่อน้องชาย” พี่ฮันนี่พูดจบแล้วหันไปสั่งให้แม่บ้านเอาจานข้าวมาให้เราสองคน

    “คนอื่นๆไปไหนกันหมดแล้วล่ะครับ” น้องชายยังคงยิงคำถามไปให้พี่สาวตอบ

    “จีวอนกับมินแจก็ไปโรงแรม ฮยอนอูลงมากินข้าวแล้วกับขึ้นไปห้องนอนแล้ว ส่วนจีฮุนยังไม่ตื่นเลยแต่เช้า ให้แม่บ้านยกโจ๊กไปให้ก็บอกไม่กินขอนอนต่อ”

    “เมื่อคืนคงอัดไปเกินกำลัง” พี่มินจุนพูดเสริม คิดแล้วก็เป็นห่วงจัง พี่จีฮุน

    “เป็นห่วงก็ไปดูเขาสิ” คนข้างๆฉันพูดขึ้น

    “ฉันควรทำอย่างนั้นใช่ไหมคะ” ฉันพูดก่อนที่จะตักอาหารใส่จานข้าวให้เขา ดูสิไม่ทันไรก็มาประชดประชันฉันเสียแล้ว

    “ไม่รู้สิ แล้วแต่ใจเธอต้องการเลย” พูดจบเขาก็ตักข้าวและกับที่ฉันตักให้เข้าปาก ฉันแอบเบ้ปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้

    “งั้นเดี๋ยวกินข้าวเสร็จฉันคงต้องหาอะไรเปรี้ยวๆ หวานๆ เย็นๆ ไปเสิร์ฟที่ห้องของพี่จีฮุนเสียหน่อยแล้ว” ฉันพูดแล้วตักกระดูกหมูตุ๋นให้เขา

    “ไม่กิน...” เขาเขี่ยกระดูกหมูไปไว้ข้างจานข้าว “พี่ครับ... ผมอยากกินปลาทอด ที่เลาะก้างออกให้ผมหน่อยสิ” เขาหันไปคุยกับพี่ฮันนี่ พี่ฮันนี่หันมามองที่ฉัน ฉันยิ้มแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบปลาทอดมาเลาะก้างออกเสียเอง

    “นี่ค่ะ... กินเยอะๆนะ” ฉันพูดแล้ววางเนื้อปลาลงที่จานข้าวของเขา เขายังคงเขี่ยมันไว้ที่ข้างจานก่อนที่จะตักอาหารอย่างอื่นมากินแทน

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยหน่อยนะฮานึล แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อย โน้นเลย คนข้างบนเลย ไม่ว่าอะไรก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” พี่มินจุนพูด

    “ที่รัก... กินเข้าไปเลย” พี่ฮันนี่ที่นั่งข้างๆ จัดการยัดหมูชิ้นโตเข้าปากสามีอย่างไร้การปราณีใดๆ

    “เธอจะฆ่าฉันหรือไง” พี่มินจุนพูดทั้งๆที่หมูยังอยู่เต็มปาก ดูแล้วน่ารักจริงๆเลยคู่นี้ ยิ้มให้กับพี่ฮันนี่และพี่มินจุนเสร็จก็หันไปสบตากับคนข้างๆบ้าง เขามองหน้าฉันเสร็จก็หันไปจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อ บรรยากาศดีๆหายไปหมดเลยให้ตายสิ

    “พี่ทำเยลลี่ไว้ ไปนั่งกินที่ข้างสระน้ำกัน” พี่ฮันนี่พูดเมื่อกินอาหารกลางวันเสร็จ คนตัวสูงยังคงทำหน้านิ่งเฉยใส่ฉัน แต่ก็เดินตามพี่สาวออกไปข้างสระน้ำ

    “ผมของไอศกรีมด้วยนะครับ” คนหน้านิ่งเริ่มพูด

    “ค่ะคุณน้องชาย” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะเดินไป ฉันบอกจะไปช่วยพี่ฮันนี่ก็บอกไม่ต้อง ส่วนพี่มินจุนก็เอาเครื่อง MAC มาเปิดเหมือนจะทำงาน

    “ไปสิ... ไปดูและเพื่อนของพี่หน่อย ท่าทางจะอาการหนัก” คนข้างๆฉันเริ่มบทสนทนากับฉัน โดยมีพี่มินจุนที่แอบเหลือบตามอง

    “ค่ะ” ฉันพูดจบก็เดินออกมาจากบริเวณนั้น น่าหมั่นไส้จริงๆเลยคนอะไรไม่รู้

    “อ้าว... ฮานึล” อยู่ๆ เสียงแหบๆ ของพี่จีฮุนก็ดังขึ้น ผมฟูๆ ตาบวมๆ ของพี่จีฮุนทำให้ฉันรู้สึกขำเล็กน้อย ออกแนวไปทางน่ารักมากกว่า

    “พี่จีฮุนตื่นแล้วเหรอคะ หิวไหม” ฉันพูด

    “หิวมาก... มีอะไรกินบ้างนะ” พี่จีฮุนพูดแล้วหันไปในห้องครัว

    “มีสิค่ะ พี่ฮันนี่อยู่ในครัวค่ะ” ฉันเดินนำพี่จีฮุนเข้าห้องครัวมา

    “ว้าว... น่ากินอีกแล้ว” พี่จีฮุนพูดเมื่อเห็นไอศกรีมและเยลลี่

    “จีฮุนตื่นแล้วเหรอ ไปรอที่โต๊ะอาหารสิเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านจัดอาหารให้” พี่ฮันนี่เงยหน้าจากการตกแต่งไอศกรีม

    “ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมหากินเองในครัวนี่แหละ” พี่จีฮุนพูด

    “งั้นฉันจัดการเองค่ะ” พูดจบฉันจัดการตักอาหารใส่จานให้พี่จีฮุน “ชาเลมอนเย็นๆก่อนดีกว่านะคะ” ฉันพูดแล้วเทชาเลมอนใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ พี่จีฮุนยกขึ้นมาดื่ม

    “ว้าว... ชื่นใจจริงๆ ขอบใจฮานึลมากนะ” พี่จีฮุนพูด ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของพี่จีฮุนช่างดูสดใสเหมือนดอกทานตะวันจริงๆ

    “พี่จีฮุนกินจุมากเลยนะคะ” ฉันพูดหลังจากที่พี่จีฮุนกินข้าวไปสองจานพูน และตอนนี้กำลังจะกินไอศกรีม 5 ก้อนบวกกับเยลลี่อีกหลากรส ที่ฉันกำลังจัดอยู่

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ น่ากลัวเลยใช่ไหม” พี่จีฮุนหัวเราะชอบใจ แต่สายตาก็ไม่ละจากถ้วยไอศกรีมขนาดพิเศษ

    “เรียบร้อยแล้วค่ะ” ฉันผลักถ้วยไอศกรีมไปที่พี่จีฮุน เขายิ้มแล้วไม่รอช้าที่จะตักมันเข้าปาก

    “พี่ชอบมากเลยไอศกรีม...” พี่จีฮุนพูดหลังจากที่ตักคำแรกเข้าปาก

    “นายก็กินมันได้ทุกอย่างแหละคัง จีฮุน” เสียงทุ้มๆของใครบางคนดังที่ประตูห้องครัว ทำให้ทั้งฉันและพี่จีฮุนหันไปมอง

    “อ้าว... จุนโฮ” พี่จีฮุนหันไปมองคนหน้าบูด ก่อนที่จะหันมาสนใจฉันแล้วก็ไอศกรีมต่อ “ก็จริงนั้นแหละ พี่ชอบของหวาน” พี่จีฮุนพูดแล้วก็ยิ้มจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม

    “ครีมเลอะปากหมดแล้วค่ะ” ฉันพูด พี่จีฮุนพยายามจะเช็ดมันแต่ก็เช็ดไม่หมดเสียที ฉันเลยเอื้อมมือไปปาดออกให้ “ตรงนี้ต่างหากล่ะคะ”

    “มานี่...” เสียงเรียบ ของคนที่ยืนนิ่งอยู่พูดขึ้น ก่อนที่จะใช้แรงฉุดฉันให้เดินตามไป

    “ปล่อย... ฉันเจ็บ” ฉันพูดและพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากมือใหญ่ของเขา

    “ปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เขาพูดเสียงเข้มๆ แล้วพาฉันเดินขึ้นห้องนอนของเขา

    “พาฉันมาที่นี่ทำไม” ฉันพูดก่อนที่จะสะบัดข้อมือออก

    “ไม่รู้... รู้แต่ว่าอารมณ์เสีย” เขายังคงพูดเสียงนิ่งก่อนที่จะกระโดดลงนอนบนเตียงนอนแรงๆ

    “อารมณ์เสีย... เรื่องอะไรล่ะคะ” ฉันพูด แล้วก็เดินไปข้างเตียงนอน และยังที่ฉันยังไม่ทันจะได้พูดอะไร อยู่ๆ คนบนเตียงนอนก็ฉุดฉันให้ล้มลงบนเตียงนอน “ว้าย!!!” ฉันร้องเสียงหลง ก่อนที่ร่างของฉันจะโดนคนตัวสูงรวบไปกอดอย่างรวดเร็ว

    “ง่วงอีกแล้ว” เสียงของเขาดังอยู่ใกล้หูของฉันมาก ฉันค่อยๆหันไปมอง ตากลมๆ ของเขาที่มองมาที่ฉัน มันทำให้หัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น ลมหายใจของเขากระทบกับแก้มของฉันมันทำให้ฉันร้อนไปทั้งหน้า

    “อย่าเล่นแบบนี้สิคะ...” ฉันขยับปากพูดอย่างยากเย็น

    “เล่น... พี่เล่นอะไร” เขาพูดแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้แก้มฉันขึ้นอีกจนจมูกโด่งๆของเขามาแตะที่แก้ม ของฉัน “อารมณ์เสียทำให้พี่ง่วง ขอนอนก่อนนะ” เขาพูดเบาๆ

    “แต่ฉันไม่ง่วง แล้วฉันก็รู้ว่าพี่ไม่ง่วง”

    “เบื่อจริง...” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นนั่ง และไม่ลืมที่จะลากตัวฉันขึ้นไปพิงตัวเขา ก่อนที่เขาจะซบลงที่ไหล่ของฉัน

    “พี่อ้อนฉันอีกแล้วนะ” ฉันพูดก่อนที่จะผสานมือของฉันกับเขา เขาบีบมือฉันเบาๆ

    “พี่เสียหลักไปหมดแล้วนะปาร์ค ฮานึล” เขาพูดเสียงของเขาช่างอ่อดอ้อน

    “แล้วจะให้ฉันรับผิดชอบยังไงล่ะคะ” ฉันพูด

    “อย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น... พี่อาจจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไปแล้วก็ได้ แต่พี่ไม่ชอบเห็นเธอยุ่งกับผู้ชายคนอื่น”

    “พี่คะ... สำหรับฉันแล้วมาถึงจุดนี้ได้มันก็เกินคาดแล้วล่ะค่ะ ฉัน... จะขอเป็นหนึ่งในตัวเลือกของพี่ก็ได้ แค่พี่ใส่ใจฉันบ้าง ก็พอแล้ว”

    “ขอบใจนะ... พี่โง่เรื่องแบบนี้ ให้โอกาสพี่หน่อยเถอะนะ” เขาพูดก่อนที่จะจูบที่หลังมือของฉันเบาๆ แล้วก็รวบตัวฉันไปกอด “รู้สึกแปลกจัง...” เขาพูด ฉันหันไปมองหน้าเขา เขายิ้มเขินๆ น่ารักจัง

    “แปลกยังไงล่ะคะ” ฉันพูดแล้วก็ซบลงที่ไหล่ของเขา

    “ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ มันบอกไม่ถูก... ใช่ว่าพี่จะไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง...” เขาพูดและเงียบไป ฉันหันไปมองหน้าเขา

    “พูดต่อสิคะ... ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ผู้ชายบริสุทธิ์มาเป็นสามีหรอกค่ะ” ฉันพูดแล้วก็หัวเราะออกเราเบาๆ

    “ผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างใช่ไหม...” เขาพูดแล้วก้มลงมองหน้าฉัน

    “ค่ะ...” ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วหันหน้าไปมองหน้าเขา ก่อนที่จะใช้นิ้วไล้ที่ใบหน้าของเขาอย่างเบามือ แต่ฉันพลาดไปแล้วล่ะ ปากของเขาช่างน่าจูบเหลือเกิน ฉันห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วในเวลานี้ นิ้วของฉันไปหยุดอยู่ที่ปากบาง เขาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ฉันมาก

    “เธอเริ่มก่อนนะ” เขาขยับปากบางพูดก่อนที่จะจูบเบาๆที่ปากของฉันและเริ่มรุนแรงขึ้น

    “พอแล้ว... ฉันหายใจไม่ทัน” ฉันค่อยๆดันตัวออกมา ไม่กล้าที่จะสบตาเขาเลยจริงๆ เขาค่อยๆเชยคางของฉันขึ้น และประทับจูบลงอีกอย่างที่ไม่คิดจะถามฉันเลย โอ๊ย โอ๊ย ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรนะ ทำไมฉันห้ามตัวเองไม่ได้เลย ทั้งๆที่ผ่านมา ไม่แม้แต่จะให้ผู้ชายคนไหนได้สัมผัสริมฝีปากของฉัน

    “เฮ้อออออออ จะบ้าตาย” เขาพูดขึ้นหลังจากดันตัวของฉันออกเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาในห้องนอน ดูแล้วก็อดขำไม่ได้

    “ไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มข้างล่างดีกว่าค่ะ” ฉันพูดแล้วฉุดเขาให้ออกจากห้องนอนมา เพราะถ้าอยู่แบบนี้นานอีกหน่อย ทั้งฉันและเขาก็คงจะห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวแล้ว

    “จุนโฮของพี่เป็นอะไรอีกเนี้ย ดูทำหน้าเข้าสิ” พี่ฮันนี่ที่นั่งอยู่กับพี่มินจุนหันไปทักเราทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่าง

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ พี่รู้นายเป็นอะไร” พี่มินจุนที่หรี่ตามองคนข้างๆของฉันตั้งแต่เดินลงมาพูด

    “อะไรครับพี่มินจุน” คนข้างๆฉันเอ่ยปากถามเบาๆ

    “นายจะให้พี่พูดจริงๆเหรอ... คิม จุนโฮ” พี่มินจุนพูด ทำเอาฉันเขินไปเหมือนกัน

    “มินจุน... อย่าแกล้งน้อง” พี่ฮันนี่หันไปห้ามก่อนที่จะหันมาที่เรา “จุนโฮ... เมื่อกี้พี่เห็นคุณแม่โทรมา พี่ว่าน่าจะโทรกลับหาท่านหน่อยนะ พี่เห็นท่านโทรมาหลายรอบแล้ว...” พี่ฮันนี่พูดยังไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ของคนตัวสูงก็ดังขึ้น เขายื่นมือไปหยิบ และเหมือนว่าเขาจะรอบถอนหายใจ

    “ครับ... คุณแม่” เขากรอบเสียงเบาๆ ลงไปที่โทรศัพท์มือถือ นิ่งไปพักใหญ่เขาถึงพูดต่อ “ครับ... ถ้าคุณแม่ต้องการ” จบประโยคเขาก็วางสาย สีหน้าอธิบายไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไร เพราะมันนิ่งมาก

    “เกิดอะไรขึ้น” พี่ฮันนี่รีบลุกมากอดแขนน้องชาย

    “คุณแม่ท่านเรียกให้ไปทานข้าวกับท่านน่ะครับ” เขาพูดแล้วยิ้มบางๆ ยิ้มในแบบที่คนอย่างฉันไม่ค่อยจะเข้าใจนัก

    “พี่ไปด้วยดีกว่า” พี่ฮันนี่พูดก่อนจะหันไปมองหน้าสามีของเธอ “ที่รัก... ลุกสิคะ”

    “ไปหาคุณย่าด้วย” พี่มินจุนพูดเสร็จก็ลุกขึ้น

    “ฮานึลจ๊ะ เดี๋ยวสักพักจีวอนก็จะกลับมาแล้ว ยังไงพี่ขอฝากทางนี้กับเธอสองคนด้วยแล้วกันนะจ๊ะ” พี่ฮันนี่พูด

    “ค่ะ” ฉันรับคำก่อนที่จะมองเจ้าชายเดินออกไป เฮ้อออออออ ยากจัง... เขาเป็นอะไรหรือเปล่านะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×