คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
ฉันคงไม่รอให้พี่มินจุนออกเพราะมันอาจจะช้าเกินไป ฉันกระโดดน้ำลงไปคว้าตัวเขา ก่อนที่จะลากเขาขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ก่อนที่จะจัดการผ่ายปอดให้เขา
“ลืมตาสิคะ!!! พี่จุนโฮ!!!” เขาไม่ยอมสำลักน้ำออกมาเสียที ฉันทั้งปั้มหัวใจ และพยายามผ่ายปอดให้เขา ให้ตายสิ!!! อย่าบอกนะว่าเขาขาดอากาศหายใจไปแล้วน่ะ “คนบ้า!!! ลืมตาเดี๋ยวนี้นะ” ตอนนี้ฉันเริ่มไม่ไหวแล้ว ฉันกลัวเขาจะตาย ฉันทั้งทุบและปั้มหัวใจเขาแรงๆ
“แค่กๆๆๆ” ในที่สุดเขาก็สำลักออกมา พอเห็นเขาสำลักออกมาฉันก็ก้มลงกอดเขา
“ฮือๆๆๆ ฉันคิดว่าพี่จะตายไปแล้วเสียอีก” สุดจะทนแล้ว ฉันร้องไห้โฮออกมา
“เกิดอะไรขึ้น!!!” พี่ชายของฉันเดินมาถึงก่อนพี่ฮันนี่ที่เข้าไปเรียกสามีของเธอเสียอีก พี่ชายเข้ามากอดตัวฉันเอาไว้ ส่วนพี่มินจุนที่เพิ่งจะวิ่งมาถึงอย่างหอบๆ เข้าไปประคองตัวพี่จุนโฮเอาไว้
“ฮือๆๆๆๆๆ ฉันผิดเอง ฉันทำให้เขาตกน้ำ” ฉันพูดไปร้องไห้ไป
“ใจเย็นๆ นะใจเย็นๆ ปาร์ค ฮานึล เขาไม่เป็นไรแล้ว” พี่ชายกอดตัวฉันเอาไว้แน่น คนที่เพิ่งได้สติจากการตกน้ำเอื้อมมือมาที่ฉัน
“เธอ... ไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาพูดเสียงอ่อนแรง ฉันรีบหันไปคว้ามือเขาไว้
“ฉันไม่เป็นไร ฉันว่ายน้ำเก่ง พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ฉันพูดทั้งน้ำตา ก่อนที่จะเอามือของเขามาแนบไว้ที่แก้ม เขาหายใจเบาๆ แล้วยิ้มให้ฉัน
“พี่ตกลงไปเองต่างหากล่ะ” เขาพยายามพูด
“พาจุนโฮเข้าไปข้างในก่อนเถอะ” พี่ฮันนี่พูดตัดบท พี่ชายและพี่มินจุนประคองตัวเขาให้เข้าไปข้างในบ้าน
“ฮานึลไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ ส่วนจุนโฮไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้น ตัวโตขนาดนั้นไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกจ้ะ อาบน้ำเสร็จมาช่วยพี่ทำอาหารเย็นกัน ทำให้สุดฝีมือเลยแล้วกันนะจ๊ะ” พี่ฮันนี่พูด
“ค่ะ...” ฉันพูดก่อนที่จะหันไปมองหน้าคนที่เพิ่งผ่านนาทีชีวิตมา
หลังจากที่ฉันจัดการชำระล้างร่างกายเสร็จ ก็แอบย่องไปที่ห้องนอนของพี่จุนโฮ หันซ้ายแลขวาเมื่อไม่เห็นใครเดินมาฉันจึงแอบเคาะประตูเบาๆ ราวกับว่ากลัวมันจะเจ็บ เมื่อเคาะไปแล้วหลายต่อหลายรอบยังไร้การตอบสนองฉันจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป เอ... ทำไมเงียบจัง ฉันแอบย่องเข้าไปมองหาเจ้าของห้อง
“บุกรุก...” อยู่ๆ เจ้าของห้องก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วก็พูดใส่ความฉัน ฉันหันไปมองที่ต้นเสียง โอ้วววววว พระเจ้าช่วย!!! เขายืนเปลือยครึ่งท้อนข้างล่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวสีเขียวพันเอาไว้ยาวถึงหน้าแข้ง ผมที่กำลังเปียกที่หยดน้ำไหลลงตามไหล่ มือทั้งสองข้างกำลังใช้จับผ้าขนหนูผื่นเล็กสีเดียวกันกับผ้าเช็ดตัว ตากลมๆ ของเขาจ้องมองมาที่ฉัน ริมฝีปากบางยิ้มเล็กน้อย(น่าเข้าไปจุ๊บจริงๆ) และที่สุดของที่สุดนั่นก็คือซิกแพ็คสุดเซ็กซี่ ทำเอาเลือกกำเดาฉันแทบพุ่งออกมา “ยัยลามก... มองอะไรของเธอน่ะ” เขาพูดแล้วเดินตรงมาที่ฉันช้าๆ
“ปละ เปล่าค่ะ ไม่ได้มองอะไร” พูดจบฉันก็หันออกไปทางอื่น โอ้ยตายแล้ว ฉันไม่น่าเข้ามาเลย เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ หอมจัง กลิ่นสบู่หรือกลิ่นแชมพูกันนะ
“นั่งที่เตียงก่อนสิ” เขาพูดแล้วฉุดฉันให้ไปนั่งที่เตียงนอน ฉันนั่งลงอย่างเกรงๆ
“พี่เป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” ฉันพูดโดยที่ไม่หันไปมองหน้าเขา ฉันรู้สึกได้เพียงว่าเขาเดินไปนั่งอีกด้านหนึ่งของเตียงนอน และเขาก็ล้มตัวลงนอน ด้วยความที่เขาตัวยาวทำให้ หัวของเขาอยู่ใกล้ขาฉันมากๆ เลยตอนนี้ ฉันหันไปมองหน้าเขา เขาเองก็มองมาที่ฉัน สายตาที่เขาใช้มองฉัน เขาจะรู้ไหมว่ามันทำให้ฉันละลายกลายเป็นน้ำไปได้เลย...
“ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่เลย แต่ก็ไม่เป็นไรมากแล้วล่ะ” เขาพูด ตาฉันมองไปที่ปากของเขา โอ๊ะ!!! ใช่สิเมื่อกี้ฉันผ่ายปอดให้เขาด้วย เขินจัง คิดได้อย่างนั้นฉันก็รีบลุกขึ้น ไม่ไหวแล้ว อยู่ต่อไปฉันอาจจะข่มขืนเขาก็อาจจะเป็นได้ “จะไปไหน” เขาพูด แล้วยังเอามือมาคว้าข้อมือของฉันเอาไว้อีก
“พี่พักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันลงไปเรียนทำอาหารกับพี่ฮันนี่ก่อน พอเสร็จแล้วฉันจะขึ้นมาเรียกพี่ลงไปกินเองนะคะ” ฉันพูด และไม่ยอมหันไปมองหน้าเขา
“เดี๋ยวสิ... จะทิ้งพี่ไว้คนเดียวอย่างนี้เหรอ... เธอช่วยไปหยิบชุดให้พี่ก่อนสิ” น้ำเสียงแสนออดอ้อนที่ฉันมักจะได้ยินเขาพูดกับพี่ฮันนี่เท่านั้น ตอนนี้เขาใช้พูดกับฉันอย่างนั้นเหรอ หรือ... จะเป็นเพียงเพราะว่าเขาเหนื่อย อย่างหลังน่าจะถูกมากกว่า
“ค่ะ” ฉันพูดก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าของเขา ว้าว... เป็นระเบียบจัง เรียงตามโทนสีเสียด้วย ส่วนมากจะเป็นสีขาว ดำ เขียวและฟ้า ฉันหยิบเสื้อสีเขียวกับกางเกงสีขาวออกมา ดูเป็นคุณชายมากเลย ฉันชอบสไตล์การแต่งตัวของเขาจริงๆเลย สบายๆ ง่ายๆ แต่ดูดี
“ขอบใจ” เขาพูดหลังจากที่ฉันยื่นเสื้อและกางเกงให้เขา “พี่คาดหวังเอาไว้มากนะ กับอาหารค่ำวันนี้” เขาพูดก่อนที่จะเดินเข้าห้องแต่งตัวไป ฉันแอบยิ้มก่อนที่จะเดินลงมาที่ห้องครัว
“ว้าว... น่ากินจัง” ฉันพูดขึ้นเมื่อจัดสเต็กเนื้อใส่จานเรียบร้อยแล้ว
“น่ากินจริงๆแหละ เธอหัวไวจริงๆนะสาวน้อย” พี่จีวอนที่อาสาเป็นอาจารย์สอนฉันทำอาหารมื้อนี้พูดขึ้น
“สลัดก็เรียบร้อยแล้ว ไปเรียกเขามาสิ” พี่ฮันนี่สะกิดที่แขนฉัน เป็นอันรู้กันว่า ‘เขา’ ที่ว่าเป็นใคร เขาคนนั้นบอกฉันว่าจะรอ คงจะอยู่ที่ห้องนอนสินะ ฉันเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของเขาก่อนที่จะเคาะห้อง
“ครับ” เขาขานรับฉันเลยเปิดประตูเข้าไป
“อาหารค่ำพร้อมแล้วค่ะ”
“อ่อ... พี่เริ่มตื่นเต้นแล้วสิว่าสเต็กของพี่จะออกมาในรูปแบบไหน” เขาพูดยิ้มๆ แล้วก็เดินลงไปที่โต๊ะอาหารพร้อมๆ ฉัน
“ว้าว... ดูเหมือนว่าในบ้านหลังนี้จะมีคู่สามีภรรยาอยู่สามคู่เลยนะ” พี่มินแจที่นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะอาหารพูดขึ้น
“งั้นเหรอ... ฉันก็เกือบจะคิดว่าฉันมีภรรยาไปแล้วนะเนี้ย” คนข้างๆ ฉันพูดแล้วก็ยิ้ม ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่ประจำของตัวเอง คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สามี... ภรรยา... ฉันคงจะมีความสุขเป็นที่สุดที่ได้ถูกเลือกให้อยู่เคียงข้างเขา
ระหว่างที่เรากำลังจัดการกับอาหารค่ำอยู่นั่น พวกหนุ่มๆ ก็คุยเรื่องงานกันนิดหน่อย แต่ในที่สุดก็ถูกพี่ฮันนี่คัดค้านว่าเวลาอาหารอย่างพูดเรื่องงานหนุ่มๆ ก็เปลี่ยนเรื่องทันที รู้ได้เลยว่าในบ้านหลังนี้ใครมีอำนาจสูงสุด ฉันแอบมองคนตรงหน้า ลุ้นไปกับสีหน้าเวลาเขาเคี้ยวและกลืน คำต่อคำ สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เป็นเพราะอาหารไม่อร่อยหรือเป็นเพราะยังไม่หายดีกันนะ
“อาหารฝีมือตัวเองไม่อร่อยหรือไง” พี่ชายที่นั่งข้างๆ ถามขึ้นมา
“อร่อยสิคะ จะไม่อร่อยได้ไง” ฉันพูดเสร็จก็หั่นสเต็กเข้าปาก บอกตามตรง ฉันไม่รู้รสชาติอาหารในจานเลย
“จุนโฮ... เป็นไงบ้าง” พี่ฮันนี่พูด
“หมายถึงอาหาร หรืออาการของผมครับ” เขาหันไปมองหน้าพี่สาวของเขา
“ทั้งสองอย่าง” พี่ฮันนี่พูดพลางตักไส้กรอกอย่างดีใส่จานให้เขา ว้า... อยากทำให้เขาแบบนั้นบ้างจังเลย
“อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยทำให้ไม่ค่อยเจริญอาหารครับพี่” เขาพูดแล้วจัดการหั่นไส้กรอกที่พี่สาวของเขาตักให้เข้าปากไป
“ผมว่าต้องเป็นอาหารแสนวิเศษของจีฮุนแน่ๆ” พี่มินแจพูด ฉันหันไปมองหน้าพี่จีฮุนที่ตั้งหน้าตั้งตากิน มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
“อร่อยสิ อยากได้อีกชิ้น” พี่จีฮุนพูดแล้วหันไปมองหน้าพี่จีวอน เขาคงคิดว่าพี่จีวอนเป็นคนทำให้
“ไปขอแม่ครัวคนใหม่เถอะค่ะพี่จีฮุน เธอเป็นคนทำสเต็ก” พี่จีวอนพูด พี่จีฮุนหันมายิ้มให้ฉัน
“ว้าว... เซอร์ไพสนะเนี้ย ว่าแต่ยังพอมีอีกไหม” พี่จีฮุนพูด
“มีค่ะ พอสักครู่นะคะ” ฉันพูดแล้วเดินเข้าห้องครัวมา ก่อนที่จะหยิบหมูมาย่างบนเตา
“ดีใจด้วยนะที่มีคนอร่อยกับฝีมือของเธอ” อยู่ๆ เสียงทุ่มๆ ก็ดังขึ้น ทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย
“ค่ะ... ฉันรู้สึกดีมากเลย” ฉันพูดทั้งๆที่ตายังคงมองอยู่ที่สเต็กหมู เงียบ... ทั้งฉันและเขา
“สเต็กเนื้อของเธอไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ ทำให้พี่ผิดหวัง” อยู่ๆ เขาก็พูดทำลายความเงียบ
“ไม่อร่อยก็ไม่ต้องฝืนกินนะคะ” ฉันพูดก่อนที่จะหยิบสเต็กหมูที่ย่างเสร็จใส่จาน
“เอามานี่...” เขาแย่งจานสเต็กหมูไปจากมือของฉัน “ตั้งใจทำให้จีฮุนกินมากกว่าพี่ใช่ไหม”
“ก็ตั้งใจทำทั้งหมดนั่นแหละค่ะ ฉันอาจจะไม่มีฝีมือมากพอที่จะทำให้สเต็กเนื้ออร่อยได้เท่ากับหมูก็ได้ ขอคืนค่ะ” ฉันยื่นมือไปขอจากสเต็กคืน เขานิ่งไปสักพักก่อนที่จะคืนมันให้ฉัน
“ว้าว... มาแล้วๆ” พี่จีฮุนพูดก่อนที่จะยื่นมือมารับจานสเต็กไป “อร่อยแบบนี้พี่กินได้อีกหลายๆชิ้นเลยนะ” พี่จีฮุนพูดหลังจากที่หันกินไปหนึ่งคำ ทำให้ฉันยิ้มออก
“ถ้าพี่จีฮุนชอบ ฉันจะทำให้พี่กินอีก” ฉันพูดแล้วนั่งลงข้างๆ พี่จีฮุนซึ่งเป็นที่ประจำของฉัน ก่อนที่จะตักไส้กรอกใส่จานให้พี่จีฮุน
“อ้าว... จุนโฮ ไปเข้าห้องน้ำนานจัง” พี่ฮันนี่พูดทักน้องชาย ห้องน้ำ... เปล่าเลยเขาไม่ได้เข้าห้องน้ำ แต่ไปพูดเย้ยหยั่นฉันในห้องครัวมาต่างหาก
“เนื้อทำให้ท้องผมอืด” เขาพูดแล้วมองมาที่ฉัน
“ฮ่าๆๆๆ ตลกจังน้องชายฉัน เพิ่งกินเข้าไปท้องอืดเลย” พี่ฮันนี่พูดแล้วหัวเราะชอบใจ
“พี่ก็รู้ว่าผมเป็นคนความรู้สึกเร็ว” เขาพูดก่อนกันเอื้อมมือมาหยิบสลัดผักไปกิน
“หอมทอดฉันทำเองเลยนะ” ฉันพูดขึ้นแล้วจัดการหยิบมันไปไว้ในจากของพี่จีฮุน พี่จีฮุนหยิบไปกิน
“อร่อยใช้ได้เลยนะเนี้ย” พี่จีฮุนพูด
“สำหรับหมูจอมตะกละอย่างนายแล้ว อะไรๆก็คงจะอร่อยไปหมดแหละจีฮุน” พี่จุนโฮพูดขึ้น
“ยอม... เป็นหมูจอมตะกละ” พี่จีฮุนพูด แล้วหันมายิ้มให้ฉัน “ไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งหัดทำ ไม่ได้อร่อยแบบลืมไม่ลงเหมือนตอนจีวอนทำ แต่รสชาติดีปฏิเสธไม่ลงเลยนะ” พี่จีฮุนพูด และฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้พูดเพื่อเอาใจฉัน
“ขอบคุณค่ะ พี่จีฮุน ฉันค่อยมีกำลังใจในการทำหน่อย” ฉันพูดแล้วแอบเหล่มองคนจอมติ เขาเองก็มองมาที่ฉัน ฉันแอบเบ้ปากใส่เขา ก่อนที่จะหันมาเอาใจพี่จีฮุน ฉันไม่ได้ทำเพราะประชดใครหรอกนะ แต่ฉันรู้สึกดีจริงๆกับคำพูดของพี่จีฮุน พี่จีฮุนยิ้มจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม
ความคิดเห็น