ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 3) รักหมดใจ...ของยัยจอมแก่น

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 56


    “ไปกันได้หรือยัง” พี่จุนโฮพูดเมื่อลงมาจากข้างบน

    “ค่ะ” ฉันขานรับก่อนที่จะเดินตามพี่จุนโฮไปที่รถของเขา

    “เอารถสปอร์ตไปไม่ได้ ต้องเอาคันใหญ่ไป” พี่จุนโฮพูด เมื่อเห็นฉันทำท่าจะเดินไปที่รถสปอร์ตของเขา ว้าว... เขารอบคอบจนฉันต้องอายเลยจริงๆ

    “ไกลไหมคะ” ฉันถามหลังจากพี่จุนโฮออกรถมาได้สักพัก

    “ไม่มากเท่าไหร่”

    “งั้นขากลับฉันขับเอง โอเคไหมคะ”

    “โอเค...” ระหว่างการเดินทาง ฉันชวนเขาคุยโน้นนี่ ฉันแอบมองเพราะหวั่นใจเหมือนกันว่าเขาจะรำคาญ แต่ฉันเห็นเขาแอบยิ้มอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกัน

    “ว้าว... ของเยอะมากเลย” ฉันพูดขึ้นเมื่อเราสองคนเดินเข้าไปข้างในส่วนของอาหารสด

    “เลือกซื้อสิ พี่เลือกไม่เป็น” พี่จุนโฮพูดแล้วหันซ้ายแลขวา ฉันคาดว่าเขาคงกลัวจะมีคนจำเขาได้ เห็นดังนั้นฉันจึงรีบเลือกซื้อของ พี่ฮันนี่เขียนไว้ในรายการอย่างละเอียด ดูเหมือนเธอจะตั้งใจให้ฉันออกมาซื้อแต่แรกแล้ว น่ารักจริงๆ พี่สาวคนนี้

    “หนักไหมคะ ฉันช่วยถือ” ฉันหันไปถามคนข้างๆ

    “ไม่เท่าไหร่... ครบหรือยัง”

    “ค่ะ”

    “งั้นเราไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าคนกลุ่มนั้นจะรู้แล้วล่ะว่าเป็นพี่” พี่จุนโฮพยักเพยิดไปทางสาวๆ สามสี่คนที่มองมาทางเรา

    “ฉันขับกลับเองค่ะ”

    “พี่ขับเอง เดี๋ยวเธอต้องไปเรียนทำเค้กอีก ต่อด้วยทำอาหารเย็น” พี่จุนโฮพูดยิ้มๆ

    “ระหว่างอาหารคาวกับอาหารหวาน พี่ชอบอะไรมากกว่ากัน” ฉันได้โอกาสถามเขาด้วยตัวเอง

    “เออ... ไม่รู้สิ พี่เป็นคนกินง่ายๆ อะไรก็ได้ เวลาหิวไม่เลือกหรอก ให้อิ่มท้องเอาไว้ก่อน อาหารหวานชอบกินพวกเค้ก ขนมปัง ไม่ชอบกินอะไรมากไปกว่านั้น อาหารคาวพี่ชอบกินเนื้อ ในแต่ละมื้อต้องมีผักด้วย ผลไม้ก็ชอบหลายอย่างที่มีรสเปรี้ยวผสมกับหวาน ชอบราเมนด้วย แค่นี้แหละ” ว้าว... ฉันรีบบันทึกทุกอย่างไว้ในหัวสมอง

    “สเต๊กคู่กับสลัดผัก อย่างนี้ใช่ไหมคะ” ฉันรีบยกตัวอย่าง

    “อ่อ... ใช่ แบบนั้นล่ะ ไม่ก็อาหารเกาหลี ส่วนใหญ่จะมีผักกับเนื้อผสมกันอยู่แล้ว”

    “พวกบาร์บีคิวล่ะคะ ไม่ก็ซีฟู๊ด”

    “ชอบบาร์บีคิว แต่พี่ไม่ค่อยชอบอาหารทะเล พี่แพ้ไข่หอยเม่นขั้นรุนแรง” อันนี้ฉันต้องจำเอาไว้ให้แม่น เขาแพ้ไข่หอยเม่น “อีกอย่างที่แพ้ก็คือไวน์ ดื่มไม่ได้เลย พี่กับพี่ฮันนี่เหมือนกันเลยแพ้สองอย่างนี้ เราได้มาทางกรรมพันธุ์ คุณพ่อของเราแพ้สองอย่างนี้”

    “แล้ว... ผู้หญิงล่ะ พี่ชอบแบบไหน” ฉันตัดสินใจถามออกไป ในใจก็แสนจะลุ้นระทึก

    “ผู้หญิงเหรอ... รูปลักษณ์ก่อนแล้วกันนะ สูงเพรียว หุ่นนางแบบเพราะพี่สูงอยู่แล้ว ประมาณว่าเดินด้วยกันพี่ไม่ต้องก้มมองแค่หันไปก็เจอหน้าเธอคนนั้นแล้ว ผิวออกแทนๆ หน่อยก็ได้ดูเซ็กซี่ดี หน้าตาสวยๆ พี่ไม่ชอบแนวน่ารักๆ อ่อ...ที่สำคัญต้องหน้าอกใหญ่ๆนะ” มาถึงตรงนี้ฉันหมดสิทธิ์ตั้งแต่สูงแล้วล่ะ ฉันสูงแค่ 160 cm. เอง กินนมตอนนี้จะทันไหมนะ ฉันน่าจะเชื่อคุณแม่ตั้งแต่ยังเด็กว่าให้ดื่มนมเยอะๆ ผิวสีแทน??? ฉันน่ะขาวจนจะเรืองแสงได้อยู่แล้ว สวย??? ฉันสวยเสียที่ไหนล่ะ ไม่ชอบแนวน่ารัก มีแค่คนบอกว่าฉันน่ารัก หน้าอกเหรอ อันนี้พอมีลุ้น แต่ไม่ใหญ่มากอะสิ ฟังจบแค่นั้นฉันไม่คิดจะฟังต่อแล้ว ฉันตัดสินใจหันไปอีกด้านดีกว่า ดูวิวดีกว่า

    “ผู้หญิงอย่างฉันคงสอบตกรอบแรก” ฉันพูดบ่น แต่คาดเดาว่าเขาต้องได้ยิน เพราะฉันได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพี่จุนโฮ นี่เขาล้อฉันเล่นหรือเขาพูดจริงๆกันแน่นะ

    “พี่ชอบผู้หญิงผมยาวดำสลวยนะ ดูสมกับเป็นผู้หญิงเกาหลีหน่อย” ฉันรีบจับผมตัวเองขึ้นมาดู สภาพผมพอได้ แต่... ต้องไปย้อมดำคืนเสียแล้ว ฉันแอบยิ้ม คุณผมจ๋า... ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่ย้อมอีกแล้ว

    “มากันแล้วเหรอจ๊ะ... ฮานึลเรามาเริ่มกันได้หรือยังเอ่ย” พี่ฮันนี่ยิ้มรอรับเราสองคน

    “พร้อมค่ะ!!!” ฉันตอบอย่างแข็งขัน

    พี่ฮันนี่ส่งผ้ากันเปื้อนลายน่ารักมาให้ฉัน ก่อนที่เธอจะลงมือสอนฉัน ว้าว... พี่ฮันนี่ใจเย็นจัง แม้ว่าฉันจะทำอะไรผิดพลาดไปก็ไม่ได้ดุฉันเลย แค่ขึ้นเสียงยังไม่ทำเลย ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย และเริ่มหยิบจับอะไรอย่างคล่องมือมากขึ้น

    “จุนโฮชอบเค้กผลไม้” พี่ฮันนี่พูดขึ้น

    “แต่เรากำลังทำเค้กเนยสดอยู่นะคะ” ฉันพูด

    “พื้นฐานของการทำเค้กเราควรหัดทำเค้กเนยสดก่อน ถ้าผ่านนะ เค้กอื่นๆก็แค่เพิ่มวัตถุดิบเข้าไปก็เท่านั้นเองจ้ะ” ไม่นานนักเค้กเนยสดที่ฉันและพี่ฮันนี่ทำก็ออกมาสองก้อน

    “ตื่นเต้นจังเลยค่ะ” ฉันพูด

    “หนุ่มๆ บ้านนี้ไม่กินครีมกัน ดังนั้นง่ายมากในการทำเค้กให้กิน แค่อบเนื้อเค้กแค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว เค้กเนื้อนุ่มกับชาพีชเย็นๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะจ้ะ” ฉันจัดการยกเค้กสองก้อนที่ตัดเรียบร้อยแล้ว ออกมาส่วนพี่ฮันนี่จัดการยกชาออกมา

    “หอมจัง” พี่มินจุนพูดเมื่อเค้กถูกวางเอาไว้แล้ว

    “ก้อนนึงพี่เป็นคนทำ อีกก้อนเป็นฝีมือฮานึล มาลองชิมกัน ว่าของใครจะอร่อยกว่ากัน เอ... ให้น้องชายสองคนลองชิมก่อนดีกว่า” พี่ฮันนี่ตักเค้กสองชิ้นใส่จานสองจาน “จีฮุน... จุนโฮ... ลองกินแล้วให้คะแนนดูซิ” พี่ฮันนี่ส่งให้พี่จีฮุนที่ดูสีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ และพี่จุนโฮ ตายแล้วๆๆ ฉันตื่นเต้นจังเลย ลุ้นแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ฉัน พี่ฮันนี่ พี่มินจุน พี่ชาย(ส่วนพี่มินแจกับพี่จีวอนเห็นว่าออกไปหาคุณแม่ที่โรงแรมอะไรสักอย่างนี้แหละ) ต่างก็มองไปที่สองคน

    “ชิ้นไหนอร่อย” พี่มินจุนถามขึ้นเมื่อสองหนุ่มได้ลิ้มลองเค้กทั้งสองชิ้น “ไม่สิต้องถามว่า นายสองคนเลือกที่จะกินอันไหน จีฮุนตอบก่อน”

    “ผมเลือกชิ้นนี้...” พี่จีฮุนชี้ไปที่เค้กก้อนที่วางในจานสีดำ

    “ผมเลือกชิ้นนี้...” แต่พี่จุนโฮชี้ไปที่เค้กก้อนที่วางในจานสีขาว ทำให้ฉันแทบจะหยุดหายใจ

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ จีฮุนเธอเลือกเพราะอะไร” พี่ฮันนี่หัวเราะ

    “เพราะ... อืม... จุนโฮนายตอบก่อนสิ” พี่จีฮุนโบยให้พี่จุนโฮตอบก่อน

    “เพราะอร่อยดี ชิ้นที่นายเลือก ไม่เห็นอร่อยเลย” พี่จุนโฮตอบแล้วหันไปยิ้มให้พี่สาว

    “มินจุนเธอลองกินซิ” พี่ฮันนี่จัดการจิ้มเค้กเข้าปากสามีทั้งสองชิ้น พี่มินจุนเอียงคอตอบ

    “จานสีดำฝีมือเธอแน่ๆ ฮันนี่ ถึงมันจะไม่อร่อยเหมือนทุกทีล่ะก็นะ เพราะจานสีขาวไม่ใช่รสชาติที่เธอจะทำ” คำพูดของพี่มินจุน ทำให้พี่ฮันนี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

    “เธอเก่งที่สุดเลยที่รักของฉัน” พี่ฮันนี่คว้าคอสามีของเธอมากอดแล้วหอมแก้มแรงๆ หนึ่งที ก่อนที่จะหันไปมองที่พี่จีฮุน “จีฮุน... นายเลือกเพราะคิดว่าเป็นฝีมือของฮานึลสินะ นายน่ารักในแบบของนายจริงๆ น้องชาย” พี่จีฮุนหันมามองหน้าฉัน แต่คำตอบที่ชัดเจนของฉันคือการที่ฉันหันไปมองพี่จุนโฮที่กำลังกินเค้กฝีมือของฉันอยู่

    “พี่ลืมใส่อะไรลงไปอะ มันไม่อร่อยเอาเสียเลย” พี่จุนโฮพูด

    “ไม่ได้ลืมหรอก แต่ใส่ลงไปน้อยมากกว่า ฮานึลทำได้ดีมากจ้ะ เป็นนักเรียนที่เก่งมาก” พี่ฮันนี่พูด

    “ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดก่อนที่จะตักเค้กให้พี่ชาย “ลองชิมดูค่ะพี่ชาย”

    “ไหนลองหน่อยซิ” พี่ชายรับจานเค้กไปก่อนที่จะตัดมากิน “ว้าว... อร่อยจริงๆนะเนี้ย ไม่น่าเชื่อว่ายัยตัวยุ่งของพี่จะทำได้” พี่ชายพูดแล้วขยี้ผมฉันเบาๆ

    “เห็นไหมล่ะ ฉันบอกพี่แล้ว ว่าถ้าฉันจะทำ ฉันต้องทำได้” ฉันพูดอย่างภูมิใจ

    “แล้วเย็นนี้พี่ชายจะได้กินอะไรให้เซอร์ไพสอีกไหมนะ” พี่ชายพูดยิ้มๆ

    “อะไรดีนะ...” ฉันพูดก่อนที่จะหันพี่พึ่งพี่ฮันนี่ “อาจารย์คะ เราทำอะไรกันดี”

    “อะไรดีนะ... แล้วเธออยากทำอะไรให้เป็นล่ะ” พี่ฮันนี่พูด

    “สเต็กกับสลัดผักค่ะ” ฉันพูดแล้วแอบหันไปมองคนที่เคยบอกฉันว่าชอบ เขาชำเรืองมองมาที่ฉันเล็กน้อย ก่อนที่จะก้มหน้ากินเค้กต่อ ให้ตายสิ... ฉันเห็นเขายิ้มด้วยล่ะ

    “เอ... พี่คุ้นจังว่าจะเป็นอาหารจานโปรดของคนที่พี่คุ้นเคยอีกแล้วล่ะสิเนี้ย” พี่ฮันนี่พูด

    “ผมขอตัวก่อนนะ...” พี่จีฮุนพูดเสียงเบาๆ

    “พี่จีฮุนชอบสเต็กอะไรคะ” ฉันรีบพูดขึ้น เพราะดูเหมือนว่าฉันจะทำร้ายจิตใจเขามากเกินไปหน่อย พี่จีฮุนหันมายิ้มจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม ก่อนที่จะกัดปากตัวเองเบาๆ น่ารัก

    “หมู... จีฮุนชอบหมู เพราะหมอนี่อ้วนจนจะเป็นหมูอยู่แล้ว” พี่จุนโฮตอบแทนเพื่อน ก่อนที่จะหันไปมองหน้าเพื่อนแล้วแล็บลิ้นใส่เพื่อน

    “หมู! นี่! นายว่าฉันเป็นหมูอีกแล้วนะจุนโฮ!!!” พี่จีฮุนโวยวายขึ้นมาก ทำให้พี่จุนโฮหัวเราะ และทำให้บรรยากาศเริ่มดีขึ้น

    “โอเคๆ ไม่ว่าๆ นายก็แค่ขาใหญ่ ฮ่าๆๆๆๆๆ” พี่จุนโฮยังคงล้อเพื่อนต่อไป ทำให้พี่จีฮุนยิ้มออก


     

    “ทำอะไรอยู่คะ” ฉันเดินไปนั่งข้างเจ้าชายของฉัน ที่ตอนนี้นอนนิ่งอยู่ข้างสระน้ำ

    “อ่านหนังสืออยู่” เขาพูดแล้วก็อ้าหนังสือวางไว้ที่หน้าอก ดูดีจัง คนอะไรเนี้ย แค่ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงสีขาว ยิ่งดูเป็นเจ้าชายไปใหญ่

    “อ่านหนังสือ หรือหนังสืออ่านพี่กันแน่คะ เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เอาหนังสือปิดที่หน้า” ฉันพูดก่อนที่จะหยิบหนังสือที่เขาเปิดอ้าและคว่ำมันเอาไว้ที่หน้าอก

    “อ่านแล้วก็ง่วง กะจะงีบก็ดันมีคนมาเรียกเสียอีก” เขาพูดแล้วหันหน้าไปอีกด้านก่อนที่จะหลับตาลงทำเป็นแกล้งหลับ

    “จะหลับจริงๆเหรอคะ งั้นเดี๋ยวฉันอ่านหนังสือของพี่ให้ฟังก็แล้วกัน อ่านถึงไหนแล้วนะ... หน้านี่ใช่ไหม... เธอและเขาต่างก็สบตากัน ก่อนที่จะเขาจะเข้าจูบเธออย่างดูดดื่ม... จากจูบที่ดูดดื่ม เขาเริ่มไล้ปากมาที่ซอกคอขาวของเธอ จากนั้นมืออันซุกซนของเขาก็เริ่มปลดกระดุมที่ละเม็ดให้เห็นทรงอกอิ่มของเธอ จากซอกคอ ขะ ขะ เขาก็เลื่อนลงต่ำมาเรื่อยๆ เขาหยุดอยู่แค่นั้น...” มาถึงตอนนี้ฉันเริ่มหอบแล้ว ก่อนที่จะหันไปมองคนที่แกล้งหลับ เขาอ่านหนังสือแนวนี้เหรอเนี้ย

    “ต่อสิ... เขาทำอะไรเธอ” คนแกล้งหลับขยับปากพูดแต่ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา นี่เขาจะให้ฉันอ่านให้เขาฟังจริงๆ เหรอเนี้ย ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว

    “ขะ ขะ เขา... ใช้มือปลดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมด และเธอก็จัดการปลดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดเช่นกัน เหลือเพียงร่างกายที่เปลือยเปล่าทั้งสองคน...” อ่านมาจนถึงตอนนี้ฉันเริ่มมือสั่นเหงื่อไหลเต็มไปหมด ใช่ว่าฉันจะไม่เคยดูหนังโป๊มาก่อน แต่นี่มันอะไรกัน ทำไมมันตื่นเต้นอย่างนี้นะ “ขะ ขะ เขามองร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธออย่างสำรวจทุกซอกทุกมุมของเธอ จนเธอรู้สึกเขินอาย... ไม่เอาแล้ว!!!” ฉันพูดก่อนที่จะโยนหนังสือใส่คนที่แกล้งหลับ แต่ไม่ได้โดนตัวเขาหรอกนะแค่เฉียด

    “โอ๊ย... พี่เจ็บนะ” เขาร้อง ทั้งๆที่หนังสือไม่ได้โดนตัวเขาเลย เขาลืมตาขึ้นมองฉัน ก่อนที่จะขำออกมา “ดูหน้าเธอสิ ทำอย่างกับว่าเธอโดนสำรวจร่างกายเองเสียอย่างนั้นแหละ” ฉันกัดปากใส่เขา

    “สนุกใช่ไหม... พี่แกล้งฉัน” ฉันพูด เขาหัวเราะ แล้วลุกขึ้นยืน เป็นโอกาศที่ฉันจะเอาคืนบ้างแล้วล่ะ ฉันเข้าไปผลักเขา เขาหลบไปหลีกมา หัวเราะเยาะฉันด้วย เขาถอยไปใกล้ของสระน้ำเรื่อย ก่อนที่เขาจะสะดุดขอบสระน้ำแล้วตกลงไปเอง

    “เฮ้ย!!!” เขาร้องเสียงหลง ก่อนที่จะตกลงไปในน้ำ

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สมน้ำหน้า ชอบแกล้งฉันดีนัก” ฉันหัวเราะชอบใจ แต่... เอ๊ะ!!! ทำไมเขาทำท่าเหมือนกำลังจะจมน้ำล่ะ

    “ใครตกน้ำ!!!” พี่ฮันนี่ที่อยู่แถวๆ นี้พอดีวิ่งมา

    “น้องชายพี่ไงคะ” ฉันพูดแล้วยังหัวเราะอยู่

    “จุนโฮว่ายน้ำไม่เก่ง ยิ่งอากาศแบบนี้เขาอาจจะเป็นตะคริวได้” คำพูดรนๆ ของพี่ฮันนี่ทำให้ฉันใจหาย “มินจุน!!! จุนโฮตกน้ำ” พี่ฮันนี่วิ่งกลับไปข้างในบ้านตะโกนเรียกสามีของเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×