ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 2) วิวาห์อลวนปล้นหัวใจนายคาสโนว่า

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 56


    “พ่อ!!! แม่!!!” ใช่แล้ว พ่อและแม่ของฉันเองดูเหมือนว่าท่านจะกำลังออกมาจากห้องข้างๆ ของฉัน

    “นายทำอะไรลูกสาวที่รักของฉัน!!!” พ่อของฉันพูดก่อนที่จะเข้าไปคว้าคอเสื้อของคู่กรณีของฉันแบบ...ว่าเขย่งเท้าเล็กน้อยเพราะดูแล้วหมอนั่นจะสูงกว่าพ่ออยู่มาก

    “พ่อ!!! ใจเย็นๆก่อน” ฉันรีบเข้าไปห้ามพ่อ ก่อนที่พ่อจะปล่อยหมัดเข้าที่หน้าขาวๆ ที่ยังคงงงๆ อยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

    “โธ่... คัง จีวอนของแม่... ลูกมีสามีแล้วเหรอเนี้ย แม่จะเป็นลม” แม่พูด ทำให้ฉันและผู้ชายตัวสูงมองหน้ากันอย่างงงๆ

    “แม่พูดอะไรน่ะ” ฉันหันไปคุยกับแม่ที่ทรุดตัวลงกับพื้น

    “ยังจะมาถามอีก... ลูกเดินร้องไห้ออกมาจากห้องของโรงแรม... แล้วพูดว่าเสียความบริสุทธิ์ไปให้กับผู้ชายหน้าหล่อคนนี้ แม่... อกจะแตกตายอยู่แล้ว” แม่พูดแล้วก็ร้องไห้ฟู่มฟาย

    “ที่รัก... ใจเย็นๆก่อนนะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อยนะจ๊ะ” พ่อปล่อยมือจากคอเสื้อของสามีของฉัน(ตอนไหนเนี้ย) แล้วไปกอดแม่แทน

    “พ่อ... แม่... ไปกันใหญ่แล้ว” ฉันพูดมองหน้าพ่อกับแม่สลับกับผู้ชายหน้าหล่อที่ยังคงยืนงงอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “นายเป็นใคร? กล้าดียังไงพาลูกสาวสุดที่รักของพวกเรามาทำ... เฮ้อออ ไม่อยากจะพูด นายจะรับผิดชอบยังไงไอ้หน้าหล่อ” เอ่อ... ไม่ทราบว่าพ่อฉันด่าหรือชมเขาอยู่กันแน่

    “ผม...” เขาอาจจะช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยพูดได้แค่นั้น

    “พ่อคะ... พ่อกับแม่เข้าใจผิดแล้ว...” ฉันพยายามจะอธิบาย

    “ที่รักคะคุณดูลูกสาวเราสิ ยังไม่ทันไรเธอก็ปกป้องสามีของเธอออกนอกหน้าแล้ว อย่างนี้เราสองคนจะมีหน้าไปเรียกร้องอะไรกับพ่อลูกเขยหน้าหล่อคนนี้ได้อีก” แม่ฉันก็อีกคนไปกันใหญ่อีกคนแล้ว อะไรนะ สามี... ลูกเขย...

    “นะ...นั่นสิที่รัก... เราจะทำอย่างไรดี” พ่อทำท่าจะร้องไห้ไปอีกคน

    “พ่อคะ... แม่คะ...” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

    “ผมจะรับผิดชอบเอง... พวกคุณจะให้ผมทำอะไร บอกผมมาได้เลย” และแล้วคนที่นิ่งเงียบก็เปิดปากพูดออกมา ทำเอาฉันแทบช็อกไปเหมือนกัน

    “ต้องอย่างนี้สิพ่อลูกเขย เรามันลูกผู้ชาย ทำอะไรลงไปต้องรับผิดชอบ แต่งงานกับลูกสาวของพวกเราให้เร็วที่สุด ก่อนที่หลานตัวน้อยๆ จะให้กำเนิด” พ่อพูดอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะลุกขึ้นมาตีที่ไหล่ของลูกเขย(ตอนไหนอีกเนี้ย)

    “ตะ... แต่งงานอย่างนั้นเหรอครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ

    “ไม่นะคะ!!! เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แต่งงาน!!! หลานตัวน้อยอะไรกันคะพ่อ อีกอย่างเราก็ไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้อย่างไร” ฉันโวยวายขึ้นมา

    “ต้องแต่งงานสิลูก!!! ทุกอย่างมันเห็นอยู่ตำตา ลูกเดินออกมาจากห้องกับผู้ชายแบบนี้ บอกแม่มาซิว่าเมื่อคืนลูกไม่ได้นอนกับเขาที่นี่” แม่ฉันลุกขึ้นมาพูดเสียงดัง

    “แม่คะ...” ฉันปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้นอนที่นี่

    “นั่นไง... ลูกก็ตอบแม่มาไม่ได้” แม่พูดก่อนที่จะหันไปมองหน้าคนตัวสูง “พ่อลูกเขยชื่ออะไร เป็นลูกใคร แนะนำตัวเองให้แม่ภรรยารู้จักหน่อย”

    “ละ... ลูกเขย... ผมเหรอครับ” เขาชี้ที่อกของตัวเอง

    “จะใครอีกล่ะ ก็เธอนั่นแหละ” แม่พูด

    “ผม... คิม มินแจ ผมเป็นนักร้อง...”

    “นักร้อง!!!” พ่อและแม่ของฉันผสานเสียงกันพูด

    “ครับ...” เขารับคำเบาๆ

    “อ้าว... คุณมินแจ คุณมาใช้ห้องเมื่อคืนนี้เหรอครับ” อยู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งกายภูมิฐานก็เดินเข้ามาทักทายคนข้างๆ ฉัน ก่อนที่จะหันไปมองหน้าพ่อกับแม่ของฉันแล้วพูด“คุณสองคนก็คงนอนหลับสบายดีนะ ครับ...”

    “สบายดีครับคุณผู้จัดการ ว่าแต่คุณรู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยเหรอ” พ่อฉันพูด

    “ต้องรู้จักรู้แล้วครับ คุณมินแจเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้” คุณผู้จัดการพูด

    “ห๊า!!! เจ้าของโรงแรม!!!” พ่อและแม่ของฉันผสานเสียงกันอีกแล้ว...

    “ผมว่าเราไปคุยกันต่อที่บ้านของพวกคุณจะดีกว่านะครับ” เจ้าของโรงแรมพูดกับพ่อแม่ของฉัน

    “มีอะไรกันอย่างนั้นเหรอครับ” คุณผู้จัดการพูด

    “มีครับ... เอาเป็นว่าผมฝากดูแลห้องด้วย...” เขาพูดกับผู้จัดการจบก็หันไปมองหน้าพ่อกับแม่ของฉันแล้วพูดต่อ “เราไปกันเถอะครับ...คุณลุงคุณป้า”

    “ลุงกับป้าได้ไง เธอต้องเรียกเราว่าพ่อกับแม่ถึงจะถูก” แม่ของฉันพูด ทำเอาคุณผู้จัดการอ้าปากค้างไปเลย พอแม่พูดจบก็เดินควงพ่อแล้วหันมามองที่ฉันและเขา “ลูกเขยพาภรรยาของเธอตามเราไปที่บ้านด้วยนะ” พูดจบแม่ก็เดินไปพร้อมกับพ่อ

    “เอ่อ... มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับคุณมินแจ” คุณผู้จัดการพูดทันทีที่พ่อและแม่ของฉันเดินจากไป

    “คุณอย่าเพิ่งเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านประธานนะ ผมจะเป็นคนบอกท่านเอง” เขาพูดจบก็คว้าข้อมือของฉันแล้วเดินไปที่รถทันที

    “มันจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี้ย นายต้องปฏิเสธไปนะ ที่เหลือฉันจะจัดการเอง” ฉันพูดหลังจากที่เขาออกรถมาได้สักพัก

    “ใครกันที่ทำให้เป็นแบบนี้” เขาพูดเสียงเรียบยากเกินที่ฉันจะคาดเดาว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน

    “ฉันขอโทษ... ฉันถึงบอกไงว่าฉันจะจัดการเอง พูดไปตามความเป็นจริง แต่!!! อย่าบอกไปนะว่านายนอนกอดฉันน่ะ” ฉันพูด

    “เธอคิดเหรอ... ว่าพ่อกับแม่เธอจะเชื่อ สถานการณ์มันฟ้องซะขนาดนั้น เธอดันมาโวยวายให้ท่านได้ยินอีกว่าเธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับฉัน ถ้าฉันเป็นพ่อแม่ของเธอก็คงจะคิดเป็นอื่นไม่ได้ แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาดูถูกความเป็นลูกผู้ชายของฉันง่ายๆ เสียด้วย” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดิม

    “ฉันจะทำอย่างไรดีเนี้ย...” ฉันพูด แล้วถอนหายใจไปยาวๆ

    “เธอยังต้องคิดอะไรอีกนอกจากการแต่งงานกับฉัน” เขาพูด

    “ไม่นะ!!! ฉันไม่ได้รักนายจะให้แต่งงานกับนายได้อย่างไร” ฉันหันไปโวยวายใส่เขา

    “แล้วเธอคิดเหรอว่าฉันอยากจะแต่งงานกันเธอ แล้วเธอคิดเหรอว่าฉันรักเธอ ในตอนนี้ฉันและเธอซึ่งมันหมายความว่าเรา... ต้องปล่อยให้มันเลยตามเลยไปก่อน รอให้อะไรๆ มันดีกว่านี้แล้วค่อยคิดกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อ” เขาพูดปิดประเด็นได้อย่างที่ฉันไม่ต้องพูดอะไรต่อเลย

    “เอาล่ะ... ในเมื่อเรื่องมันมาขนาดนี้แล้ว คำเดียวที่ฉันจะพูดกับเธอก็คือ จัดการแต่งงานกับลูกสาวสุดที่รักของฉันซะ ไม่ว่าพวกเธอจะรักหรือไม่รักกันก็ตาม แต่เหตุการณ์วันนี้... มันทำให้ฉันเสียใจมาก” พ่อพูดเปิดประเด็นเมื่อเราอยู่กันพร้อมหน้ากันที่บ้านของฉัน

    “ครับ... แต่ผมมีเรื่องที่ต้องพูด ในฐานะที่ผมเป็นนักร้อง และในตอนนี้วงของผมก็ดังมากด้วย ผมในฐานะสมาชิกคนหนึ่งไม่สามารถแต่งงานได้อย่างเปิดเผย และไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ในตอนนี้ มันอาจจะทำให้คุณพ่อและคุณแม่ไม่พอใจแต่เป็นเรื่องเดียวที่ผมอยากจะขอร้อง” คนข้างๆ ของฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นๆ

    “แล้วเธอจะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้” แม่ของฉันพูดบ้าง

    “เราต้องไปแต่งงานกันที่ต่างประเทศครับ หลังจากที่แต่งงานกันเสร็จผมและจีวอนจะย้ายไปอยู่ที่โรงแรมในเครือของผม เพื่อตัวจีวอนเองและผม” เขาพูด

    “แต่งที่ต่างประเทศอย่างนั้นเหรอ ค่าใช้จ่ายมันสูงมากนะ แล้วไหนจะญาติๆ อีกล่ะ” พ่อพูด

    “คุณพ่อครับ ผมอยากให้มีแค่คุณพ่อและคุณแม่ แม่ของผม แล้วสมาชิกในวงของผมเท่านั้นที่เข้าร่วมพิธีของเรา ได้โปรดด้วยเถอะครับ อย่าว่าผมเห็นแก่ตัวเลย ถ้าเรื่องที่ผมแต่งงานมันแพร่ออกไป คนหลายคนต้องเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นผม จีวอนและสมาชิกในวงของผม ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับทางผมจะจัดการเองทุกอย่าง” พ่อและแม่ของฉันในตอนนี้ราวกับว่าโดนมนต์สะกด ท่านทั้งสองต่างก็มองไปที่เขาอย่างชื่นชม

    “โชคดีของลูกเรานะคะที่รัก ที่ได้เจอผู้ชายที่คิดได้ดีแบบมินแจ” แม่พูด

    “นั่นน่ะสิ มีความรับผิดชอบสูงมาก” พ่อพูด

    “วันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับคุณพ่อ เอาไว้ผมจะมาหาอีกทีพร้อมกับแม่ของผมนะครับ” เขาพูดก่อนที่จะเดินออกไปอย่างสุภาพ

    “เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆเลย” พ่อฉันพูดหลังจากที่เดินออกมาส่งว่าที่ลูกเขยของท่าน

    “นั่นน่ะสิคะที่รัก... ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งดีขนาดนี้จะหาที่ไหนได้อีก” แม่ฉันพูดเสริม

    “หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันพูดแค่นั้นก็รีบเดินเข้าห้องนอนมาทันที ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของฉันกันนะ ใครก็ได้บอกฉันทีว่าฉันฝันไป ทำไมนะ ทำไมเขาไม่โต้แย้งหรืออะไรก็ได้ ถึงอย่างไรเสียคนรวยอย่างเขาก็ทำได้ พ่อกับแม่ของฉันทำอะไรได้ไม่มากมายนักหรอก ทำไมเขาถึงไม่บอกปัดไป ฉันคิดไม่ออกเลยว่าชีวิตของฉันหลังจากนี้มันจะเป็นอย่างไร แต่งงาน... กับผู้ชายที่ฉันเกลียดเขา แล้วเขาก็เกลียดฉันเนี้ยนะ ชีวิตคู่ของฉันกับเขาจะเป็นอย่างไรกัน ฉันคิดไม่ออกเลยจริงๆ

     

    “อะไรนะ!!! แต่งงาน... เธอสองคนเนี้ยนะ” พี่ฮันนี่ร้องขึ้นมาเสียงดังกลางร้านไหมพรม หลังจากที่นั่งฟังฉันเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนเช้าที่ผ่านมาให้เธอฟัง

    “ครับ... ผมหาทางออกไม่เจอเลยจริงๆ” ว่าที่เจ้าบ่าวของฉันพูดก่อนที่จะทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ฉันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

    “เรื่องใหญ่เลยนะเนี้ย จะไหวไหมเนี้ยเธอสองคน” พี่ฮันนี่มองหน้าฉันและว่าที่สามีสลับกันไปมา

    “ผมน่ะพอได้ พี่ถามน้องสาวพี่ดีกว่า” ว่าที่เจ้าบ่าวพูดแล้วหันมาชำเรืองมองฉัน

    “พี่คะ...” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ

    “ถึงฉันจะไม่ได้รัก แต่ฉันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันไม่ทำอะไรเกินเลยเธออยู่แล้ว จนกว่าเธอจะเจอคนที่เธอรักจริงๆ ฉันจะเลิกให้ ตอนนี้ทำให้พ่อกับแม่ของเธอสบายใจเสียก่อน” คนข้างๆ พูดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างหมอนี่จะแคร์อะไรมากมายกับความรู้สึกของพ่อและแม่ของ ฉัน ฉันอาจจะต้องมองเขาใหม่แล้วล่ะ

    “ว่าแต่ครอบครัวของเธอจะว่าอย่างไรหรือเปล่าคิม มินแจ” พี่ฮันนี่พูด

    “เรื่องนี้ทางบ้านผมไม่ซีเรียสอยู่แล้วล่ะครับพี่ อีกอย่างประธานจองเธอก็ได้เจอกับว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอไปแล้วด้วย ดูเหมือนว่าจะถูกใจกัน” เขาพูดออกๆ แนวประชดประชัน

    “อย่างนั้นเหรอ... งั้นคงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อน แล้วระหว่างนี้เธอเจอคนที่ใช่ก่อนที่จีวอนจะเจอล่ะ จะทำอย่างไร” พี่ฮันนี่มองไปที่คนข้างๆ ฉัน ฉันแอบมองแววตาที่เขามองไปที่พี่ฮันนี่ด้วยล่ะ มันดูเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่ชอบเลยแววตาแบบนี้ของเขา มันทำให้ฉันไม่สบายใจไปด้วย

    “อันนั้นมันไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไปหรอกครับพี่ ตอนนี้ผม... ช่างเถอะครับ ผมจะอยู่เป็นสามีของเธอคนนี้ไปจนกว่าเธอจะหาคนรักในแบบของเธอเจอ ส่วนผม ยังไม่คิดที่จะมีใครหรืออะไรในตอนนี้ ผมอยากทำงานเพลงให้ออกมาดีที่สุด ไม่อยากให้มีอุปสรรค์อะไรทั้งนั้น” เขาพูดกับพี่ฮันนี่ก่อนที่จะหันมามองหน้าฉัน “อีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้าฉันต้องไปเก็บตัวอยู่ที่ญี่ปุ่นนานมากกว่า หนึ่งเดือน นั่นก็หมายความว่าฉันจะไม่มีเวลาว่างเลย เราต้องจัดการอะไรให้เสร็จก่อนที่เวลานั้นจะมาถึง”

    “เอาอย่างนี้ดีกว่า ไปแต่งงานกันที่บ้านของพี่ที่เมืองไทย พี่จะพาจีวอนไปก่อน ส่วนเธอและคนอื่นก็ตามไปทีหลัง พี่จะเป็นธุระให้เอง”

    “เธอว่าไง” เขาหันมาคุยกับฉัน

    “ฉันไม่อยากแต่งงาน...” ฉันพูด

    “แล้วเธอคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับเธอมากนักหรือไง!!! ฉัน พยายามแล้วนะ จะเอายังไงก็ว่ามา ไม่แต่งก็ดี ฉันก็ไม่อยากแต่งงาน ฉันเองก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วเหมือนกัน สถานะของฉันมันต้องระวังมากกว่าเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่าฉันยังต้องทำเพื่อพ่อ และแม่ของเธอ ฉันให้เกียรติเธอมากแล้วนะ ที่ไม่ใช้เงินแก้ไข้ปัญหา บ้าชะมัด!!!” พูดจบเขาก็คว้ากุญแจของเขาเดินออกจากร้านไป

    “พี่ว่า... เธอไปจัดการคุยกับพ่อแม่ของเธอจะดีกว่านะ มินแจเขาทำดีที่สุดแล้ว พี่ยังตกใจกับสิ่งที่เขาทำเลย มินแจของพี่ เขาเป็นเด็กที่น่ารักสดใส ไม่จริงจังกับอะไรในโลกนอกจากเรื่องการเป็นนักร้องของเขา พี่ยังอดนับถือเขาไม่ได้เลยนะที่เขาทำแบบนี้ อย่างที่เขาพูด เขาให้เกียรติเธอนะ ทั้งๆที่เพราะช่วยให้เธอมีที่นอน แต่กลับโดนเข้าใจผิดว่าไปทำอะไรเธอ เขาก็ยังไม่ปล่อยให้ครอบครัวของเธอต้องเสียใจอยู่ฝ่ายเดียว เขายอมรับผิดชอบ” พี่ฮันนี่พูดยาวหลังจากเขาเดินจากไป

    “พี่คะ... ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเขาต่างหาก ถึงฉันจะเกลียดเขาแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่ได้ยินดีที่จะเห็นเขาเป็นทุกข์อย่างนี้... เขาน่าจะฟังฉันพูดบ้าง” ฉันพูดความในใจออกไป หลังจากที่เก็บและทนฟังอยู่ฝ่ายเดียว

    “โธ่... แล้วทำไมเธอไม่รีบพูด พี่ก็พลอยเข้าใจในตัวเธอแย่ไปอีกคน ขอโทษนะ” พี่ฮันนี่พูดแล้ว เข้ามานั่งใกล้ๆฉัน

    “เฮ้อออ มันไปกันใหญ่แล้วจริงๆ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะหาคนที่ฉันรักได้ล่ะ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะให้อิสระเขาได้ พี่คะ... ฉันจะทำอย่างไรดี” ฉันพูด ก่อนที่จะซบลงที่ไหล่ของพี่ฮันนี่อย่างเหนื่อยล้า

    “เธอก็รักเขาซะสิ... แล้วทำให้เขารักเธอ” ฉันรีบลุกและหันไปมองหน้าพี่ฮันนี่

    “เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!!” ฉันพูดตามความรู้สึก ถึงเขาจะดีในเรื่องนี้ แต่อีกหลายเรื่องที่ฉันและเขาเข้ากันไม่ได้เลย

    “อยู่ด้วยกันไปก่อน แล้วเธออาจจะเปลี่ยนใจ มินแจของพี่เขาเป็นเด็กดี น่ารัก”

    “แล้วทำไมพี่ไม่รักเขาล่ะคะ” ฉันพูดทำให้พี่ฮันนี่ยิ้มออกมา

    “เพราะพี่รักคนอื่นก่อนที่จะเจอตัวตนของเขานะสิจ๊ะ พี่รักสามีของพี่ตั้งแต่ที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน หน้าก็เห็นไม่ชัด รู้แค่ว่าชอบจังเลยผู้ชายคนนี้แปลกๆดี จนได้มาอยู่กับเขา และรักเขาก่อนที่จะหันมามองมินแจ ถ้าพี่ไม่ได้เจอสามีของพี่เสียก่อน พี่ก็อาจจะเลือกเขาก็ได้ และอีกอย่าง... เธอเชื่อเรื่องเนื้อคู่ไหมจ๊ะ”

    “เนื้อคู่... เหรอคะ เชื่อสิคะ” ฉันพูด มันก็จริงฉันรอคอยคนนั้นมาตลอด

    “มินแจเขาคงไม่ใช่เนื้อคู่ของพี่หรอกจ้า อาจจะเป็นของเธอ” คำพูดทิ้งท้ายของพี่ฮันนี่มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ ความเป็นไปมันน้อยมาก ทั้งฉันไม่คิดที่จะรักเขาเลย แล้วตัวเขาเองก็คงจะเกลียดขี้หน้าฉันไม่น้อยเหมือนกัน ฉันกับเขาคงทะเลาะกันตั้งแต่ตื่นมาเจอหน้ากันแน่ๆ โอ้... เอาชีวิตอันเป็นสุขของฉันคืนมานะนายคิม มินแจ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×