ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 3) รักหมดใจ...ของยัยจอมแก่น

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 56


    “โอเค... วันนี้พอแค่นี้ก่อน วันเดียวได้ขนาดนี้ครูชื่นใจจริงๆ” ครูสอนเต้นพูด ก่อนที่จะขอตัวกลับบ้าน ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย

    “กลับบ้าน...” ผมพูดยังไม่ทันจบ เสียงเปิดประตูห้องซ้อมก็ดังขึ้น

    “เสร็จแล้วใช่ไหม... ฮยอนอูฝากพี่มารับเธอกลับบ้าน” คัง จีฮุนเดินเข้ามา

    “ไม่เห็นต้องลำบากพี่จีฮุนเลยค่ะ ฉันกลับกับพี่จุนโฮน่าจะสะดวกกว่า” คนตัวเล็กออกตัว

    “ไม่สะดวกหรอก... เพราะพี่ต้องไปที่อื่นก่อนกลับบ้านวันนี้ เธอไปกับจีฮุนเถอะ” พูดจบผมก็ออกจากห้องซ้อมมาแล้วตรงไปที่รถ ก่อนที่ผมจะออกรถผมเห็นเจ้าคัง จีฮุนเดินหัวเราะต่อกระซิกออกมาพร้อมคนตัวเล็ก ตอนอยู่กับผมเธอไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย ท่าทางจะถูกอกถูกใจคัง จีฮุนเข้าแล้วสิท่า ดีเหมือนกันชีวิตของผมจะได้ไม่วุ่นวาย

    “อ้าว... จุนโฮ” คุณย่าพูดทักทายผม ผมเข้าไปกอดอ้อนท่านเหมือนเคย ก่อนที่ท่านจะมองหาใครบางคน

    “ผมมาคนเดียวครับคุณย่า” ผมพูด

    “แล้วพี่สาวกับพี่เขยของเราน่ะยุ่งอะไรนักหนา ไม่มาหาคนแก่บ้างเลย” คุณย่าพูดออกแนวน้อยใจ

    “พี่ฮันนี่ยุ่งกับงานที่ร้านครับคุณย่า พี่จะซื้อตึกห้องข้างๆ เธอจะขยายร้านของเธอด้วย ระหว่างที่ปรับปรุงร้าน รับรองว่าพี่ต้องมาหาคุณย่าทุกวันแน่ๆ” ผมพูด คุณย่ายิ้ม

    “อย่าหลอกให้คนแก่ดีใจเล่นล่ะ” คุณย่าพูด

    “ใครจะไปหลอกคุณย่าล่ะครับ”

    “แล้วไปหาแม่มาหรือยัง” ผมยิ้มให้กับคำถามของคุณย่า

    “ยังครับ... มาถึงก็ตรงมาหาคุณย่าก่อนเลย” ผมพูด ในบริเวณบ้านของผมมีบ้านอยู่สามหลัง บ้านหลังใหญ่คุณพ่อกับคุณแม่ของผมอยู่ บ้านหลังรองท่านสร้างเอาไว้ให้ผม เพราะผมเป็นลูกชายคนเดียว คุณพ่อและคุณแม่เลยไม่อยากให้แยกครัวไปที่ไหน และบ้านหลังเล็กเป็นบ้านของคุณย่า บ้านสไตล์เกาหลีโบราณ แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

    “อยู่กินข้าวกับย่าก่อนไหม” คุณย่าพูด

    “แน่นอนสิครับ” คำพูดของผมทำให้คุณย่ายิ้มดีใจ ก่อนที่จะหันไปสั่งแม่ครัวทำอาหารวุ่นวายกันใหญ่ ระหว่างที่รออาหารเย็น ผมขอตัวมาหาคุณแม่ก่อน

    “จุนโฮ... นึกว่าจะไม่มาหาแม่เสียแล้ว” คุณแม่พูดทักทายผม

    “มาสิครับ คุณแม่สบายดีนะครับ”

    “ก็อย่างที่ลูกเห็นนั่นแหละ อ่อ... แม่ว่าจะโทรหาลูก ลูกจำป้าเกอินได้ไหม”

    “จำได้สิครับ เพื่อนรักของคุณแม่”

    “แล้วจำกาอินลูกสาวคนเล็กของคุณป้าได้ไหม” คำพูดของแม่ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าท่านจะพูดอะไรต่อไป

    “ครับ...” ผมตอบสั้นๆ ภาวนาให้คุณย่าโทรมาตามไปทานข้าวเร็วๆ

    “น้องเรียนจบแล้วนะ เอาเป็นว่าหลังจากที่ไปคอนเสิร์ตบ้าบออะไรของลูกคราวนี้เสร็จ ไปทานข้าวกับคุณป้ากันหน่อยนะ” ผมนึกแล้วว่ามาต้องพยายามจับคู่ให้ผม

    “คุณแม่ครับ... ผมยังไม่พร้อมกับเรื่องแบบนี้”

    “พอๆ แม่ไม่อยากฟัง อายุเท่าไหร่เข้าไปแล้ว ถึงเวลาแล้วกับเรื่องมีครอบครัว ถ้าการเป็นศิลปินของลูกทำให้มีครอบครัวไม่ได้ ก็ลาออกจากวงการซะ อย่างไรลูกก็ต้องรับช่วงต่อคุณพ่ออยู่แล้ว” นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมไม่อยากกลับบ้าน และเดินเข้าบ้านใหญ่มา

    “คุณจุนโฮคะ... คุณท่านเรียกหาค่ะ” เสียงคนรับใช้บ้านใหญ่ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมา

    “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่ คุณย่ารอทานข้าวอยู่” พูดจบผมก็ลุกขึ้น

    “อะไรกัน แม่นึกว่าลูกจะทานข้าวเป็นเพื่อนแม่เสียอีก คุณพ่อก็ไม่อยู่บ้าน”

    “เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับ” พูดจบผมรีบเดินออกจากบ้านมาทันที สุดท้ายแล้วผมก็ต้องยอมรับการแต่งงานแบบนี้อย่างนั้นใช่ไหม... อยู่คนเดียวยังจะดีเสียกว่า คงจะดีถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมกับเรื่องนี้ด้วย

    “ทำไมเอารถมอร์เตอร์ไซด์ไปล่ะจุนโฮ” คุณย่าพูดเมื่อผมจัดการเอารถมอร์เตอร์ไซด์คันใหญ่ของผมมาจอดหน้าบ้านท่าน

    “สะดวกดีครับคุณย่า”

    “แต่ย่าเป็นห่วง ไม่อยากให้ขับมอร์เตอร์ไซด์เลย เบื่อรถแล้วใช่ไหม ย่าจะซื้อใหม่ให้ เอาแบบคันใหญ่ๆ เลยดีไหม สองคันที่มีอยู่ย่าว่ามันเล็กไป ดีๆ มาคราวหน้าย่าพาไปถอยใหม่”

    “ไม่ได้เบื่อหรอกครับคุณย่า อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”

    “ย่ารู้ว่าหลานไม่มีเวลาไปดูรถ ไว้ย่าดูให้ก็แล้วกัน พี่สาวเราก็ไม่ยอมขับรถให้เป็นเสียที จะซื้อรถให้ก็จอดทิ้งไว้”

    “มาคราวหน้าคุณย่าก็กล่อมพี่สิครับ ลองคุณย่าเป็นคนพูดเองล่ะก็ พี่ไม่ขัดหรอก”

    “จริงเหรอ... ย่าจะลองดู” คุณย่าพูดแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข

    “คุณท่านคะ... คุณหนูโทรมาค่ะ” คนรับใช้ของคุณย่าเดินถือโทรศัพท์มือถือมายื่นให้ท่าน

    “เพิ่งพูดถึงก็โทรมาเลยนะพี่สาวเรา” คุณย่าพูดก่อนจะรับสายพี่ฮันนี่ “ว่าไงฮันนี่ของย่า... ใช่น้องอยู่กับย่า... จริงเหรอจ๊ะ ย่าจะรอหนูนะ จ้า...”

    “คุณย่าผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมพูดขึ้นหลังจากที่คุณย่าวางสายจากพี่สาวแล้ว

    “ขับรถดีๆนะหลาน” คุณย่าคุยกับผมด้วยรอยยิ้ม

    “ครับ” พูดจบผมจัดการใส่หมวกกันน๊อกและออกรถมาทันที ไม่ได้ขับมอร์เตอร์ไซด์มาพักใหญ่แล้ว รู้สึกสดชื่นจริงๆเลย

     

    “จุนโฮมาพอดี พี่ว่านายซ้อมเต้นกับฮานึลอีกหน่อยก็แล้วกัน เพื่อความชัวร์ควรจะซ้อมให้หนักกว่านี้อีกหน่อยนะ” พี่มินจุนพูดเมื่อผมเดินเข้ามาข้างในบ้าน

    “ครับ” ผมพูดก่อนทีจะเดินเลยไปที่ห้องนอนก่อนเพื่อจัดการเปลี่ยนชุด

    “จุนโฮจะกินอะไรรอบดึกดี” พอผมมาถึงห้องซ้อมทุกคนก็มานั่งรวมตัวกันอยู่ในนั้น พี่ฮันนี่พูดกับผมเมื่อผมเดินเข้ามา

    “ผมอิ่มแล้วครับ” ผมพูด

    “ทุกทีสิน่าน้องชายของฉัน” พี่ฮันนี่พูดแล้วเข้ามากอดผม “คุณแม่พูดอะไรอีกแล้วใช่ไหมเด็กดีของพี่ ออกมาคุยกับพี่ก่อน” พูดจบพี่ฮันนี่ก็ลากผมออกมาจากห้องซ้อม

    “พี่รู้ได้ไง” ผมพูด

    “ดูจากสีหน้าของเธอ บวกกับที่คุณย่าพูดกับพี่ พี่ก็เดาออกแล้ว” พี่ฮันนี่พูดแล้วเข้ามากอดผม

    “นิดหน่อยครับ... พี่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ”

    “กอดเธอแล้วพี่มีความสุขที่สุดในโลกเลย”

    “ไม่เท่ากับกอดพี่เขยหรอกมั้งครับ”

    “มันไม่เหมือนกัน... ในชีวิตของพี่มีผู้ชายสามคนที่พี่ตายแทนได้ พ่อ เธอและก็พี่เขย เห็นใบหน้าเศร้าๆ ของเธอมันทำให้พี่ไม่อยากจะทำอะไรเลยรู้ไหม”

    “อย่าคิดมากสิครับพี่... ไม่มีอะไรหรอก... งั้นเอาเป็นว่าคืนนี้ผมขอเค้กผลไม้ฝีมือพี่ก็แล้วกัน เอาชิ้นโตๆ เลยนะ ผมคงซ้อมจนดึก”

    “โอเคจ๊ะ พี่จะทำสุดฝีมือเลย” พอพี่ฮันนี่พูดจบเธอก็เดินเข้าห้องครัวไป ส่วนผมก็เดินเข้ามาที่ห้องซ้อม

    “พี่สาวนายไปไหนแล้วล่ะ” พี่มินจุนพูดทันทีที่เห็นแค่ผมเดินเข้ามา

    “พี่เข้าห้องครัวไปแล้วครับ”

    “เอาใจจริงๆเลยกับน้องชายน่ะ” พี่มินจุนพูด ก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ “พี่ก็เป็นพี่ชายของนายนะ มีอะไรต้องบอกพวกเรา” พี่มินจุนพูดก่อนที่จะเดินออกไป

    “เริ่มกันได้หรือยัง” ผมเดินตรงไปที่ปาร์ค ฮานึลและคัง จีฮุน

    “ค่ะ” เธอลุกขึ้นเดินตามผมมาตรงกลางห้อง ก่อนที่จะเริ่มซ้อมเต้นกันอย่างจริงๆจังๆ

    “พักกันก่อนนะจ๊ะ” พี่ฮันนี่พูดพร้อมกันยกถาดเค้กเข้ามา

    “ว้าว... น่ากินจัง” คนตัวเล็กแต่กินจุพูดขึ้น เธอจัดการตักเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

    “ฮานึล... กินเก่งจริงๆ” คัง จีฮุนพูด

    “ฉันแพ้ของอร่อยค่ะพี่จีฮุน อาหารคาวฝีมือของพี่จีวอนสุดยอดอาหารเลย ส่วนอาหารหวานแล้ว ฉันว่าพี่ฮันนี่ทำอร่อยเป็นที่สุด” คนตัวเล็กพูด แล้วกินต่อ

    “แล้วเราทำอะไรเป็นบ้าง” ปาร์ค ฮยอนอูพูด

    “ไม่เป็น... กินเป็นอย่างเดียว” คนตัวเล็กพูดแล้วส่ายหัว

    “ใครได้เธอไปเป็นภรรยาซวยตายเลย” ปาร์ค ฮยอนอูแสร้งถอนหายใจ

    “ฉันเป็นคนหัวไวนะคะ คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้ ถ้าแฟนของฉันอยากให้ฉันทำอาหารให้เป็น ฉันจะก็ทำให้เป็น” คนตัวเล็กพูดอย่างมั่นใจ

    “เอาไว้มาเรียนทำอาหารคาวกับพี่ได้นะจ๊ะ” คัง จีวอนพูด

    “เรียนทำขนมได้ที่พี่” พี่ฮันนี่พูด

    “จีฮุน... นายอยากกินอาหารคาวหรืออาหารหวานก่อนดี” ผมเอ่ยปากแซว

    “นี่... พูดอะไรของนายน่ะจุนโฮ” คัง จีฮุนพูดและทำท่าทางเขินๆ

    “แล้วทำไมต้องไปถามพี่จีฮุนด้วยล่ะคะ” คนตัวเล็กมองมาที่ผม ผมหยักไหล่แล้วหันไปสนใจขนมตรงหน้าแทน

    “จีวอนไม่กินเหรอ” ผมหันไปถามคนข้างๆ

    “ไม่ล่ะค่ะ ดึกแล้วเดี๋ยวอ้วน” คัง จีวอนพูดก่อนจะหันไปเหล่สามีของเธอที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากินขนมอย่างขมักเขม้น

    “มีคนว่าเธออ้วนเหรอ” ผมพูดก่อนที่จะหันไปมองตัวต้นเหตุ

    “มีสิคะ!!!” พูดจบคัง จีวอนก็ใช้มือผลักไหล่สามีของเธอ

    “อะไรล่ะ... ก็ฉันเห็นพุงของเธอออก” สามีของเธอพูด

    “นี่!!! อย่าพูดต่อหน้าคนอื่นแบบนี้นะ เดี๋ยวตีตายเลย” เธอพูดแล้วทำหน้ามุ่ย ทำให้ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และที่ขำยิ่งกว่าก็คือท่าทางและสายตาของสามีเธอ เขามองไปที่พุงของภรรยาแล้วถอนหายใจ “วันนี้ไม่ต้องนอนในห้องเลยนะ” คัง จีวอนประกาศประกาสิตกับสามีของเธอ

    “อะไรล่ะ... อย่ารังแกฉันสิ” คิม มินแจพูดเสียงออดอ้อนภรรยาของเขา

    “อย่ามาห้องฉันนะ” ปาร์ค ฮยอนอูพูดขึ้นก่อน

    “อย่ามาห้องฉันด้วย” คัง จีฮุนพูดเสริม

    “มาห้องฉันได้นะ แต่... ฉันจะไปนอนแทนนาย” ผมพูดก่อนที่ทุกคนจะพากันฮาตาม เว้นแต่คนที่จะโดนแทนที่กับคนตัวเล็กที่นั่งตรงกันข้ามกับผม

    “ไปซ้อมกันต่อเถอะค่ะ” พูดจบเธอก็เดินมาที่ผมก่อนที่จะฉุดให้ผมลุกขึ้น

    “อะไร... พี่ยังกินไม่เสร็จ” ผมพูดแล้วรั้งตัวผมเอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้น

    “งั้นก็ต้องกินให้เสร็จ” พูดจบเธอใช้มือหยิบเค้กที่เหลืออยู่ในจานของผมยัดเข้าปากผมอย่างที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวเลยทีเดียว “เคี้ยวสิคะ กลืนลงไป” ไม่พูดเปล่าเธอใช้มือดันเค้กเข้าปากผมอย่างไร้ความปราณี เล่นเอาคนทั้งห้องอึ้งไปตามๆกัน

    “แค่กๆๆๆ” ผมสำลักเค้กพ่นออกมาเต็มหน้าคัง จีฮุน

    “เฮ้ย!!!” คัง จีฮุนร้องเสียงหลง

    “หมดแล้วนี่คะซ้อมกันได้แล้ว” พูดจบเธอก็เดินไปเปิดเพลง

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” คิม มินแจปล่อยเสียงฮาออกมาเป็นคนแรก ตามด้วยพี่มินจุนและพี่ชายของแม่ตัวแสบ ผมแอบเห็นพี่ฮันนี่กับคัง จีวอนหัวเราะแบบกลั้นเอาไว้กันแบบสุดๆ

    “ผมขอตัวก่อน” ผมพูดเมื่อตั้งสติได้ ก็เดินเข้าห้องน้ำไป เจ็บใจจริงๆ น่าขายหน้าชะมัดเลย

    “ฉันขอโทษแทนน้องฉันด้วยนะ” ทันทีที่ผมออกจากห้องน้ำมา ปาร์ค ฮยอนอูที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้น

    “น้องนายเกลียดอะไรฉันนักหนาเนี้ย เล่นงานฉันตั้งแต่เมื่อวานตอนเจอหน้ากันแล้วนะ” ผมพูด

    “ไม่ได้เกลียดนายหรอก... เอาเถอะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกัน จนกว่าชา โบอึนจะหายดี นายกับฮานึลต้องร่วมมือกันอีกพักใหญ่อย่างน้อยๆ ก็สองคอนเสิร์ตใหญ่เลยล่ะ เอาไว้ฉันจะสั่งสอนน้องสาวของฉันอีกทีก็แล้วกัน” ปาร์ค ฮยอนอูพูด

    “แค่สองวัน... ฉันแทบจะเสียสติไปแล้วนะเนี้ย ถ้าเป็นเดือนฉันอาจจะบ้าได้” พูดจบผมก็เดินกลับไปที่ห้องซ้อม

    “กว่าจะมาได้นะคะ” แม่ตัวแสบพูดขึ้น

    “คนอื่นล่ะ” ผมพูดเมื่อไม่เห็นใครอยู่ในนั้นแล้ว

    “ไปหลับไปนอนกันแล้วล่ะคะ อ่อ... พี่จีวอนกับพี่มินแจดีกันแล้วนะคะ ดังนั้นเลิกหวังอะไรลมๆ แล้งๆ ได้แล้วล่ะค่ะ” ผมงงๆ กับคำพูดของเธอ แต่ก็ช่างเถอะ ซ้อมต่อดีกว่า

    “โอเค... พอแค่นี้ก่อน ดึกแล้วไปนอนได้” ผมพูดเมื่อซ้อมกันต่อไปหลายรอบ

    “ฉันหิวอีกแล้วล่ะคะ... ไปหาอะไรกินกันก่อนนอนได้ไหม” เธอพูดทำตาปริบๆ

    “พี่ทำอาหารไม่เป็น” ผมพูด

    “ก็ไปหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อก็ได้นี่คะ ไปส่งฉันหน่อยนะ” เธอเริ่มเข้ามาจับแขนผม

    “พี่มีแต่รถมอร์เตอร์ไซด์”

    “ว้าว... ดีเลย ไปกันเถอะค่ะ” ไม่พูดเปล่าเธอฉุดผมออกไป

    “ไปเอากุญแจรถก่อน” ผมพูดเมื่อออกมาจากห้องซ้อม

    “ไปเอาสิคะ” เธอดันหลังผม ดีเลย พอเข้าห้องนอนไปแล้วผมจะไม่ออกมาเลยคอยดู ผมหันมาพยักหน้าให้เธอ

    “ถ้าพี่ไม่ลงมาจะกรี๊ดดังๆ ให้คนตื่นกันทั้งบ้านเลย” คำพูดของเธอทำให้ผมชะงัก

    “จะบ้าเหรอ!!!” ผมพูด

    “เห็นไหม??? ฉันคิดแล้วว่าพี่จะขี้โกงฉัน เอาสิ ให้เวลาห้านาที ถ้าไม่มาฉันจะกรี๊ดดังๆ เอาล่ะนะ ฉันจะจับเวลาแล้วนะ” พูดจบเธอก็ยกโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาจิ้มๆ เล่นเอาผมใจหายหมด

    “รีบๆ ขึ้นมาสิ” ผมพูดเมื่อไปหยิบกุญแจรถมอร์เตอร์ไซด์ลงมา ผมไม่ลืมที่จะหยิบหมวกกันน๊อกอีกใบส่งให้เธอ

    “ตื่นเต้นจัง... ฉันไม่เคยซ้อนมอร์เตอร์ไซด์ใครเลยตั้งแต่เกิดมา” พูดจบเธอก็รับหมวกกันน๊อกไปสวม

    “ติดสายรัดคางด้วยสิ” ผมพูด

    “ติดยังไงล่ะ” เธอพูดแล้วคลำหาสายรัดคาง

    “มานี่...” ผมดึงแขนเธอให้เดินมาใกล้ๆ ผม และจัดการติดสายรัดคางให้เธอ “จับไหล่พี่เอาไว้ แล้วก็เหยียบที่พักเท้าขึ้นเลย” ผมพูดแล้วเอามือของเธอมาจับไว้ที่ไหล่ของผม

    “ขึ้นยากจัง” เธอพูดเสียงอู้อี้

    “จับเอวพี่เอาไว้” ผมพูด

    “ค่ะ!!!” เธอขานรับ ก่อนที่จะเข้ามากอดเอวผม

    “จับพอ... ไม่ต้องกอด” ผมหันไปพูดกับเธอ

    “ไม่จับก็ได้” พูดจบเธอก็ปล่อยมือของเธอออก แล้วไปกอดอกแทน

    “ตามใจ” พูดจบ ผมแกล้งกระชากรถ

    “ว้าย!!!” เธอร้องเสียงหลงก่อนที่จะรีบคว้าเอวของผมเอาไว้แน่ “ตกใจหมดเลย”

    “ไปแล้วนะ” ผมพูดก่อนที่จะค่อยๆ ออกรถ สักพักก็ถึงร้านสะดวกซื้อ

    “พี่กินอะไรไหมคะ” เธอถามผม

    “ไม่ล่ะ” ผมตอบ เธอเดินเข้าร้านไป สักพักเธอก็หิ้วของออกจากร้านมา

    “เราไปนั่งกินกันตรงสวนสาธราณะก่อนเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ดึกแล้วไม่มีคนหรอก” เธอพูด ผมพยักหน้าแล้วขับรถไปจอดที่สวนสาธราณะที่คนตัวเล็กพูด

    “ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” ผมพูดเมื่อเรานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวยาวในสวนสาธราณะ

    “ฉันซื้อไอศกรีมมาด้วย พี่กินกับฉันนะ” เธอพูดแล้วตักไอศกรีมส่งมาที่ปากผม ทำให้ผมถอยออกอย่างตกใจ ผมยังไม่ลืมรสชาตเค้กเมื่อตอนหัวค่ำ “ฉันขอโทษ... ที่ฉันเอาเค้กยัดปากพี่” เธอพูดเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

    “ขอโทษเป็นด้วยเหรอ” และในขณะที่ผมพูดเธอจัดการยัดไอศกรีมเข้าปากผม คราวนี้นุ่มนวลกว่าเมื่อตอนหัวค่ำ “เอาช้อนมาพี่กินเอง” ผมพูดเมื่อรู้ชะตาชีวิตว่าต้องกิน ผมค่อยๆ ตักกินไอศกรีม ในขณะที่เธอตั้งหน้าตั้งตาหยิบโน้นนี่ขึ้นมาทาน อะไรที่เธอบอกว่าอร่อยเธอก็จับมันยัดเข้าปากผมทันที หลายต่อหลายอย่างทำให้ผมต้องชินกับมันแล้วล่ะ

    “อิ่มจังเลย” เธอพูดเมื่อจัดการกับอาหารหมดทั้งถุงที่ซื้อมา

    “กินเก่งชะมัดเลย” ผมพูด

    “พี่ช่วยฉันกินตั้งเยอะ”

    “ช่วย??? เธอเอายัดปากพี่มากกว่ามั้ง” เธอเบ้ปากใส่ผม

    “กลับกันเถอะค่ะฉันง่วงแล้ว” พูดจบเธอก็เดินไปที่รถ พอผมออกรถเธอก็ทิ้งน้ำหนักตัวมาพิงที่ตัวผม นั่งเงียบตลอดทาง ไม่เหมือนตอนขามา เธอคุยจ้อไม่รู้อะไรต่อมิอะไรเต็มหูผมไปหมด ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆ คราวนี้

    “ลงไปได้แล้ว...” ผมพูดเมื่อจดรถสนิทที่โรงรถ “อย่าบอกนะว่าเธอหลับ” ผมพูดและขยับตัวแรงๆ ให้ตายสิผมแทบทำเธอล่วงลงจากรถดีนะที่รับเอาไว้ทัน เธอหลับจริงๆ ลำบากผมอีกแล้วสิ ผมค่อยๆ ลงจากรถมอร์เตอร์ไซด์ แล้วเอาเธอขี่หลัง

    “ไปไหนกันมาล่ะนั่น” พี่ชายของคนตัวเล็กที่หลับสนิทอยู่บนหลังผมนั่งรอเราอยู่ที่ห้องโถ่ง

    “น้องนายสิหิว เอาคืนไป” ผมพูดก่อนส่งตัวน้องสาวให้พี่ชาย

    “ขอบใจนายมากนะจุนโฮ” ปาร์ค ฮยอนอูพูด ก่อนที่จะอุ้มแม่น้องสาวขึ้นห้องไป คืนนี้เป็นอีกคืนที่ผมหลับสนิท โดยที่ไม่คิดว่าจะไปออกกำลังกายตอนเช้าเลย เหนื่อยเหลือเกิน...

     

    สวัสดีค่าาาาาาาาา
    เป็นยังไงกันบ้างเรื่องราวเบื้องต้นของคิม จุนโฮ
    หนึ่งเสียงของรีดเดอร์(ที่ตรงกับใจของไรท์เตอร์)
    สำหรับเรื่องราวความรักของคิมจุนโฮ
    จะมาอัพทุกวันเลยนะคะ ถ้าไม่ติดอุปสรรค์อะไร
    ขอบคุณมากค่ะสำหรับรีดเดอร์ที่รออ่านอยู่
    ขอบคุณค่าาาาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×