คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
“พี่ก็ว่าดีนะ... ย้ายมาอยู่ที่นี่กันก่อนเถอะ ทำอะไรจะได้สะดวกกันทุกคน” พี่มินจุนพูดขึ้นหลังจากที่เรากินอาหารค่ำกันเรียบร้อยแล้ว ที่ในตอนนี้มีเพียงผม พี่ฮันนี่ พี่มินจุน คิม มินแจและภรรยาของเขา
“งั้นผมขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บก่อนนะ” คิม มินแจพูดก่อนที่จะหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สองใบขึ้นไปยังห้องของเขา ก่อนหน้าเขาก็คงจะมีแค่กระเป๋าใบเดียว ตอนนี้มีภรรยาด้วยก็คงต้องเป็นสองเท่าแล้วสินะเนี้ย
“กว่าจะคุยให้มาได้ แทบแย่เหมือนกันนะคะ” คัง จีวอนผู้เป็นภรรยาของคิม มินแจพูดขึ้นหลังจากที่สามีของเธอขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บ
“พี่ว่าเจ้ามินแจชักจะงอแงตั้งแต่แต่งงานไปนี่แหละ” พี่มินจุนพูด ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเจ้าหมอนั่นทุกทีก็จะก็แค่อีดออดนิดหน่อย ไม่พูดอยากเหมือนตอนนี้ ตอนนี้เขาชอบมีโลกส่วนตัวกับภรรยาของเขา กว่าจะมาทำงานได้ก็นานสายตลอด น่ารำคาญใจผมเล็กน้อยเมื่อเราต้องทำงานร่วมกัน แต่ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น
“ฉันควรจะหนีจากเขาไปสักพักดีไหมคะ” คัง จีวอนพูดขึ้น
“ไม่ๆๆๆ ถ้าไม่มีเธอหมอนั่นอาจจะขาดใจตายไปก่อนก็ได้ เธอควรจะขู่เขาเรื่องนี้มากๆ เข้าใจไหม” พี่มินจุนพูด
“งั้นฉันทำบางดีไหมคะคุณสามี” ทีนี้พี่ฮันนี่พูดบ้าง
“ไม่สิ... ฉันไม่ได้งอแงเหมือนเจ้าหมอนั่น” พี่มินจุนรีบออกตัว
“พี่บอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิปาร์ค ฮานึล” เสียงปาร์ค ฮยอนอูดังขึ้น ทำให้ผมเริ่มขนลุกบอกไม่ถูก
“พี่ชายคะ... นะๆๆ ฉันจบมาทางด้านนี้ ฉันก็ควรจะทำ” เสียงสุดสยองดังตามปาร์ค ฮยอนอูมา
“อะไรกันสองคน” พี่มินจุนพูด
“ก็ยัยเด็กคนนี้น่ะสิ จะตามเราไปทำงาน บอกไปแล้วว่าแดนเซอร์เราครบแล้ว ไปถามลีดเดอร์ดูซิ ว่าพอจะมีอะไรให้ทำบ้าง” ปาร์ค ฮยอนอูพูด
“ให้ฉันไปช่วยนะคะ ไม่ต้องเป็นแดนเซอร์ก็ได้ ทำอะไรก็ได้” สาวเจ้าปัญหาพูดขึ้น ให้ตายสิ พี่เขยอันเป็นที่รักของผมอย่าได้รับปากเชียวนะ
“จบอะไรมาล่ะเรา” พี่มินจุนเอ่ยปาก
“การร้องและการแสดงค่ะ” เธอตอบฉะฉาน
“พี่ได้ข่าวมาว่าอีกสองสามเดือนข้างหน้าบริษัทเราจะมีการเปิดรับนักร้องหน้าใหม่โดยการออดิชั่น เธอจะลองดูก็ได้นะ” พี่มินจุนพูด
“จริงเหรอคะ??? ว้าว... ดีจัง ฉันไม่พลาดแน่ๆค่ะ แต่... ตอนนี้ฉันขอตามไปทำงานด้วยคนนะคะ” เธอหันไปมองหน้าพี่มินจุน
“ลองไปดูก่อนก็ได้พรุ่งนี้” พี่มินจุนพูด ให้ตายสิ!!! คำพูดของพี่มินจุนมันยิ่งกว่าฟ้าผ่าลงกลางหัวของผมเลย
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดก่อนที่จะหันมาที่ผม “ที่รักคะ... ทำไมมองหน้าฉันอย่างนั้นล่ะ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงคนที่เหลือขำขึ้นมา
“ที่รัก!!! นายทำอะไรน้องสาวฉันรึป่าวคิม จุนโฮ” พี่ชายของสาวเจ้าปัญหาหันมาคุยกับผม
“เปล่านะ!!! น้องนายนะสิที่ทำฉัน” ผมพูด ก่อนที่จะหันไปทางน้องสาวของเขา “อย่าเรียกพี่แบบนี้อีกนะ พี่ไม่ชอบ” พูดจบผมก็รีบเดินขึ้นห้องนอนมา
ตอนนี้เราทุกคนมีห้องของใครของมันแล้ว สาเหตุเพราะแม่ของพี่มินจุนเป็นคนจัดการให้ ท่านบอกว่าห้องมีเยอะแยะทำไมต้องไปแชร์กันนอนด้วย แม่บ้านทำความสะอาดก็เยอะแยะ ท่านเลยจัดห้องคนล่ะห้อง ก็คงจะมีสองคนที่มีภรรยาแล้วไม่ต้องนอนคนเดียว แต่ผมก็ไม่คิดที่จะอิจฉาหรอกนะ เวลาเห็นพวกผู้หญิงงอนสามีแล้วผมก็เหนื่อยแทน อะไรคือความสุขที่แท้จริงกันแน่นะ เพราะในบางทีผมก็รู้สึกเหงา และอยากจะปกป้องใครสักคน เหมือนตอนที่คิม มินแจสูญเสียความทรงจำ ผมอยากปกป้องคัง จีวอน แต่... มันไม่ใช่ความรัก ผมคงอยากจะปกป้องน้องสาวของผมก็เท่านั้นล่ะมั้ง เพราะผมโตมาโดยที่รู้ว่าเป็นลูกชายคนเดียว แต่พอมาเจอพี่ฮันนี่ ผมก็มีพี่ฮันนี่คอยดูแล เธอจะคอยปกป้องผมเสมอเมื่อผมมีปากเสียงกับคนที่บ้าน ความรู้สึกที่อยากปกป้องใครสักคนมันคนเกิดขึ้นมาเพราะผมไม่เคยทำ
“ยังไม่นอนเหรอคะ” เสียงเล็กๆ ของใครบางคนดังขึ้น เรียกให้ผมหันไปมอง ตอนนี้ผมลงมานั่งข้างสระน้ำรับลมหลังจะที่เข้านอนแล้วก็นอนไม่หลับ
“จีวอน... ยังไม่ง่วงแล้วเธอล่ะ” ผมพูดก่อนที่จะกวักมือเรียกให้เธอมานั่งข้างๆผม
“ยังค่ะ... มีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อย” เธอเดินมานั่งข้างๆผม
“สามีของเธอทำอะไรให้เธอต้องคิดอย่างนั้นเหรอ” ผมพูด
“เปล่าหรอกค่ะ เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันเอง สามีของฉันเขาไม่ทำอะไรให้ฉันเครียดได้หรอกค่ะ ฉันรับมือเขาไหวอยู่แล้ว” เธอพูดก่อนที่จะยิ้ม เมื่อพูดถึงสามีของเธอ
“ไปไหนแล้วล่ะสามีของเธอ”
“หลับไปแล้วค่ะ วันนี้คงจะเพลียมากจริงๆ ฉันไม่อยากเปิดไฟรบกวนเขา เลยออกมาเดินรับลมก่อนค่อยเข้านอน มาเจอพี่จุนโฮพอดีเลย”
“มีอะไรจะระบายให้พี่ชายคนนี้ฟังก็ได้นะ” ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมของเธอเบาๆ
“ที่รักคะ!!! ดึกแล้วมานั่งสองต่อสองกับผู้หญิงที่มีสามีแล้วได้ยังไงคะ” เสียงแหลมๆ ของใครบางคนทำให้สติผมแทบแตก
“อะไรของเธอ!!!” ผมรู้ตัวว่าผมพูดเสียงดังใส่เธอ
“ไปนอนเลย...” เธอพูดแล้วเข้ามาดึงแขนผม ก่อนที่จะหันไปมองค้อนใส่คัง จีวอน “พี่สาวก็เหมือนกันใช่เวลาที่พี่จะมานั่งคุยกับผู้ชายคนอื่นเหรอคะ ไปดูแลสามีพี่สิ”
“มากไปแล้วนะ ปล่อย!!!” ผมพูดก่อนที่จะสะบัดแขนออกจากมือของเธอแรงๆ ทำให้เธอล้มลงไปกองกับพื้น
“โอ้ย... ฉันเจ็บนะ” เธอคลางออกมาเบาๆ
“เป็นอะไรรึป่าวจ๊ะฮานึล” คัง จีวอนรีบเข้าไปดูคนตัวเล็กอีกคนที่กองอยู่บนพื้น “ตายแล้ว!!! แขนเธอมีเลือดออกด้วย ไปกับพี่เดี๋ยวพี่ทายาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่สาวไปดูแลสามีเถอะ ฉันทาเอง พี่สาวพาฉันไปเอายาหน่อยสิคะ” คนตัวเล็กพูดเสียงเบา ดูเหมือนว่าเธอจะเจ็บจริงๆ
“พี่จุนโฮคะ... ฉันว่าพี่ทำรุนแรงกับฮานึลมากเกินไปนะคะ ไม่สมเป็นพี่เลย” คัง จีวอนหันมาตำหนิผมก่อนที่จะประคองร่างเล็กเดินเข้าบ้านไป ให้ตายเถอะ ทำไมผมอารมณ์รุนแรงแบบนี้นะ คิดได้อย่างนั้นผมก็เดินตามสองสาวเข้าไปข้างในบ้าน
“มา... พี่ทาให้” ผมคว้าขวดยามาจากมือคนตัวเล็ก “จีวอนไปนอนเถอะ ทางนี้พี่จัดการเอง” ผมหันไปคุยกับคัง จีวอนที่นั่งเฝ้าคนตัวเล็กอยู่
“ค่ะ... ฝากด้วยนะคะ” พูดจบเธอก็เดินขึ้นห้องไป ผมอดที่จะมองตามเธอไปไม่ได้ ดูเหมือนเธอต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง
“เธอมีสามีแล้วนะ” คนตัวเล็กข้างๆ ผมพูดขึ้น
“อืม...” ผมไม่อยากต่อปากต่อคำกับเธอคนนี้แล้ววันนี้ ผมเทแอลกอฮอร์ใส่สำลีก่อนที่จะค่อยๆ แตะลงที่แผล
“โอ้ย!!! เจ็บๆๆๆ แสบไปหมดเลย” คนตัวเล็กดิ้นไปมา
“อยู่นิ่งๆสิ” ผมพูดแล้วเป่าที่แขนของเธอ เธอสะบัดแขนออกแล้วลุกหนีไป “จะไปไหน มานี่...” พูดจบผมก็รีบเดินไปคว้าตัวเธอเอาไว้
“ไม่เอาแล้ว... เจ็บ” เธอพูดแล้วทำตาปริบๆ
“ไม่ได้... ต้องล้างแผลก่อน ทายาด้วย” พูดเสร็จ ผมก็ฉุดให้เธอไปนั่งที่เดิม และยังไม่ทันที่ผมจะหยิบสำลีขึ้นมา คนตัวเล็กก็วิ่งขึ้นบันไดไป ผมรีบวิ่งตามไปจับตัวเธอระหว่างที่เธอขึ้นบันไดไปได้สองขั้น “จะลงมาดีๆหรือให้พี่แบกลงมา” ผมพูดขู่เธอ
“พี่แบกฉันไม่ไหวหรอก” เธอพูดก่อนที่จะเดินไปอีกสองขั้น ผมจึงรวบตัวเธอขึ้นมาพาดที่ไหล่ก่อนที่จะพาลงมาที่โซฟาตัวเดิม ทีนี้ผมไม่ปล่อยให้เธอนั่งเองแล้ว ผมจับเธอนั่งที่ตักของผม แล้วใช้มืออีกข้างล็อกเอวเธอเอาไว้
“เรียบร้อย... ไปนอนได้” ผมพูดขึ้นหลังจากจบสงครามเล็กๆ ระหว่างผมกับคนตัวเล็ก กว่าผมจะทายาให้เธอเสร็จผมโดนเธอทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งหยิก ทั้งขวาน ทั้งกัดผม เพราะความแสบที่ผมล้างแผลให้เธอ เล่นเอาผมระบมไปทั้งตัว
“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดก่อนที่จะเดินทำหน้าบูดขึ้นห้องนอนไป วันนี้ผมเหนื่อยมากเลยเกิน แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวทำเอาผู้ชายตัวโตอย่างผมหมดแรงไปเลยทีเดียว
“ฮานึล... แขนเธอไปโดนอะไรมา” ปาร์ค ฮยอนอูเอ่ยถามน้องสาวของเขาระหว่างทานอาหารเช้ากัน
“อ่อ... ฉันหกล้มค่ะ แต่ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ดีที่พี่จุนโฮช่วยทำแผลให้” เธอพูดก่อที่จะหันมามองที่ผม
“นายรอดชีวิตมาได้ไง” ปาร์ค ฮยอนอูถาม เขาคงจะรู้ถึงฤทธิ์เดชของน้องสาวของเขาดี
“เล่าเอาฉันระบมไปทั้งตัวเหมือนกัน แต่... ฉันเป็นคนทำน้องนายล้มเอง ขอโทษนะ” ผมพูดสารภาพความจริง
“อ่อ... งั้นก็หายกันเลยสิสองคน” ปาร์ค ฮยอนอูพูดก่อนที่จะหันไปสนใจอาหารเช้าของเขาต่อ
“แล้วมินแจกับจีวอนไปไหนแล้วล่ะครับ” ผมเอ่ยปากถามเมื่อไม่เจอสองคน ส่วนคัง จีฮุนยังไม่เข้ามาตั้งแต่เมื่อวาน
“เห็นออกไปแต่เช้าแล้วล่ะจ๊ะ” พี่ฮันนี่หันมาตอบผม
“อย่างนั้นเหรอครับ” ผมพูด ก่อนที่จะหันไปสบตากับคนตัวเล็กที่นั่งตรงกันข้ามผม เธอจ้องหน้าผมอยู่ “มองอะไร” ผมพูดแต่ไม่ได้ออกเสียงไป เธอส่ายหน้าก่อนที่จะก้มลงจัดการกับอาหารตรงหน้าของเธอ ผมเป็นอะไรไปอีกแล้ว ทำไมผมก้าวร้าวกับผู้หญิงอีกแล้ว
“กรี๊ดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังขึ้น ผมที่อยู่ห้องซ้อมข้างๆ จึงรีบวิ่งไปดู
“เกิดอะไรขึ้น” ผมพูดทันทีที่วิ่งมาถึง ภาพที่ผมเห็นคือแดนเซอร์สาวที่มักจะประกบคู่กับผมตอนนี้เธอนอนกองอยู่มุมห้องซ้อม ผมตรงเข้าไปหาเธอ “โบอึน!!! เกิดอะไรขึ้น” ผมเอ่ยถามเธอ
“ผมผิดเองเราซ้อมผิดคิวกัน ผมเหวี่ยงเธอจนหลุดมือ” แดนเซอร์ชายอีกคนวิ่งเข้ามาหาผม
“เจ็บตรงไหนไหม” ผมถามคนที่นอนกองอยู่ที่พื้น
“แขน...” เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ แล้วจับที่แขนของเธอ ผมเอื้อมมือไปจับ “โอ้ย!!!” เธอร้องดังลั่น
“ผมจะพาเธอส่งโรงพยาบาลเอง” ผมพูดแล้วก็รวบตัวเธอไปอุ้ม
“เกิดอะไรขึ้น!!!” เสียงผู้จัดการที่กำลังเดินเข้ามาในห้องซ้อมพอดีพูดขึ้น
“เกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างซ้อมน่ะครับ ผมกำลังจะพาโบอึนไปโรงพยาบาล” ผมพูด
“ไม่ต้อง... นายไปไม่ได้” ผู้จัดการพูดก่อนที่จะหันซ้ายหันขวา แล้วก็เรียกสต๊าฟคนหนึ่งมารับตัวของชา โบอึนไป
“เอายังไงดีล่ะทีนี้ อีกสิบวันเราจะมีคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์นะ” พี่มินจุนพูดขึ้นขณะที่เราทั้งห้าคนอยู่กันพร้อมหน้ารอฟังข่าวของชา โบอึนอยู่ที่ห้องซ้อม
“ต้องหาคนมาแทน... คนนั้นต้องมีทักษะมากพอ” ปาร์ค ฮยอนอูพูดขึ้น
“นึกไม่ออกเลย” คิม มินแจพูด
“เราไม่มีแดนเซอร์สำรองด้วยสิ ยิ่งไปกว่านั้นเหลือแค่สิบวันเองนะ แล้วที่มันจะหนักตอนที่นายโซโลน่ะสิจุนโฮ” คัง จีฮุนที่เพิ่งจะมาถึงไม่กี่นาทีที่ผ่านมาพูด
“พี่นึกออกแล้ว...” พี่มินจุนพูดก่อนที่จะยิ้มเจ้าเล่ห์หันไปมองหน้าปาร์ค ฮยอนอู
“ใช่แล้ว!!! ผมว่ายัยนั้นต้องทำได้” ปาร์ค ฮยอนอูพูดก่อนจะหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินออกจากห้องซ้อมไป
“ใครกันครับพี่มินจุน” คัง จีฮุนพูด
“เดี๋ยวพวกนายก็จะรู้” พี่มินจุนพูด เอ... ผมชักใจเสียแล้วสิ อย่าบอกนะว่า...
“สวัสดีค่ะ...” เสียงแหลมๆ ของใครบางคนเรียกให้ผมหยุดซ้อมเต้นทันที
“ฮยอนอูบอกเธอแล้วใช่ไหม” พี่มินจุนพูด
“ค่ะ...” เธอยิ้มรับ
“เออ... ใครกันครับ” คัง จีฮุนพูด
“อ่อ... ปาร์ค ฮานึลลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง จริงสินะ เมื่อวานนายไม่อยู่บ้านนี่นา ถึงยังไม่เจอกัน” ปาร์ค ฮยอนอูพูด
“สวัสดีค่ะ พี่จีฮุนใช่ไหมคะ ฉันปาร์ค ฮานึลยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” คนตัวเล็กแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มร่าเริง เชอะ!!! ดูเจ้าคัง จีฮุนมองหน้าเธอเข้าสิ จะกลืนเธอเข้าไปเลยหรือเปล่า
“เฮ้ย!!! ยัยเปี๊ยกคนนี้ นี่ไม่ใช่อาหารนะ นายจะกินเธอเข้าไปเลยหรือเปล่าเพื่อน” ผมเข้าไปกระซิบคัง จีฮุน
“อ่อ... เออ... ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คัง จีฮุนพูดก่อนที่จะยื่นมือออกไป คนตัวเล็กยื่นมือออกมาจับกัน
“ไปซ้อมกันได้หรือยัง” ผมพูดขึ้นเมื่อดูท่าทางว่าสองคนจะจับมือกันอีกนาน
การซ้อมเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่น่าเชื่อว่ายัยตัวเล็กจะเต้นเก่งไม่เบา แค่มองครูสอนเต้นเพียงรอบเดียวเธอก็สามารถเต้นตามและเต้นได้ดีอย่างที่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเธอเก่งจริงๆ
“ว้าว... ฮานึลเก่งมากจริงๆ” เจ้าคัง จีฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้น ท่าทางเหม่อลอย
“นี่... อย่าบอกนะว่านายชอบ...” ผมพูดยังไม่ทันจบคัง จีฮุนก็หันมามองหน้าผม
“โป๊ะเช๊ะ!!! นายพูดถูกเพ่งเลย คนอะไรน่ารักไปซะทุกท่าทาง” พูดจบคัง จีฮุนก็เดินไปหาปาร์ค ฮยอนอู เขาคุยกันสักพัก ปาร์ค ฮยอนอูก็หัวเราะออกมา ตามด้วยท่าทางของคัง จีฮุนที่ดูจะระริกระรี่เสียเหลือเกิน
“เปลี่ยนแดนเซอร์กันไหม” ผมเดินไปที่เพื่อนสองคนแล้วพูด
“คาดว่าจะไม่ได้นะจุนโฮ เพราะแดนเซอร์คู่ของจีฮุนมีทักษะดีไม่เท่าฮานึลของฉัน เปลี่ยนตอนนี้เห็นทีว่าจะไม่ได้” ปาร์ค ฮยอนอูพูดให้เหตุผล
“จุนโฮ... มาซ้อมได้แล้ว” ครูสอนเต้นเรียกผม
“ครับ” ผมขานรับก่อนไปซ้อมเต้นคู่ยัยตัวเล็ก การซ้อมเต้นคู่กับเธอเป็นไปอย่างราบรื่น เธอดูจริงจังไร้คราบเด็กกระโปโลเมื่อวาน
ความคิดเห็น