ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 3) รักหมดใจ...ของยัยจอมแก่น

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 57


    Haneul's Part

    เสียงเตือนเรียกให้ฉันตื่นขึ้นในช่วงสายๆ เพราะวันนี้ไม่ได้มีอะไรทำในช่วงเช้า... อ่อ!!! เมื่อคืนนี้ พี่จุนโฮนอนที่ห้องฉันนี่นา เมื่อคิดมาถึงตอนนี้ฉันก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แต่ก็พบกับความว่างเปล่า ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้นเพราะเขาบอกจะออกไปแต่เช้า ป่านนี้คงไปให้สัมภาษณ์ที่ห้องรับรองแล้วล่ะมั้ง ช่วงเช้าของวันนี้ฉันก็ยังคงฟรีเหมือนเดิน เมื่อวานเดินเที่ยวจนเหนื่อยซื้อแว่นตาให้พี่ชาย แล้วก็... พี่จุนโฮ ดูเหมาะมากเลยซื้อมาให้ ว่าจะให้แต่ยังไม่ได้ให้เลย เมื่อคืนก่อนฉันก็เกาหัวให้เขาจนเขาหลับไป หลังจากที่เขาหลับ เขาก็พลิกตัวไปนอนหงายเอง ฉันเลยเปลี่ยนไปนอนทับตัวเขาเอง ใบหน้ายามหลับของเขายิ่งดูยิ่งหน้าหลงใหล คิดแล้วก็เขินจริงๆ รสชาติจูบของเขายังคงตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของฉันอยู่เลย

    “โอ๊ย... เหนื่อยๆๆ หิวแล้วด้วย” เสียงของพี่จีฮุนดังขึ้นเมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร ฉันนั่งรออยู่แล้ว “อ้าว... ฮานึล” พี่จีฮุนพูดแล้วยิ้มหวานมาที่ฉัน

    “กินเสร็จก็ต้องไปให้สัมภาษณ์ต่อ เสร็จแล้วถึงไปซ้อมกัน” พี่ชายพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆฉัน

    “พี่ชาย... เมื่อวานฉันซื้อแว่นตามาให้พี่” พูดจบฉันก็หยิบแว่นตาออกจากกล่องมาสวมให้พี่ชาย “ว้าว... คิดไว้แล้วว่ามันต้องเหมาะกับพี่” ฉันพูด

    “เหมาะอยู่แล้ว...” พี่ชายพูดแล้วยิ้มก่อนจะลูบตัวของฉันเบาๆ “ขอบใจนะน้องสาว”

    ระหว่างมื้ออาหารฉันกับพี่จุนโฮต่างก็มองหน้ากันไปมา และก็เป็นฉันที่ต้องยอมแพ้กับสายตาคู่นั้น ยิ่งคิดถึงตอนที่เขาจูบเมื่อไหร่ ฉันก็ยิ่งเขินอย่างบอกไม่ถูก หลังจากมื้ออาหาร หนุ่มๆก็รีบไปทำงานกันต่อทันที

     

    “เอาล่ะ... พักผ่อนกันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้ต้องขึ้นคอนเสิร์ตกันจริงๆแล้วนะ ฮานึล...ตื่นเต้นหรือเปล่า” พี่ผู้จัดการพูดขึ้นหลังจากซ้อมใหญ่กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    “นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะทำให้เต็มที่ค่ะ” ฉันพูด

    “โอเค... วันนี้เหนื่อยกันมาเยอะแล้วพักผ่อนให้เต็มที่ 5 คนตอนเช้าต้องไปอัดรายการ 1 รายการ กับอีก 1 รายการวิทยุนะ” พูดจบผู้จัดการก็เดินไปขึ้นรถกับทีมงาน เหลือแต่หนุ่มๆ ทั้ง 5 ฉันและคนขับรถของทางโรงแรม

    “กลับกันเถอะ พี่เหนื่อยมากเลยวันนี้” พี่มินจุนพูด คงจะจริงเพราะดูจากหน้าตาแต่ล่ะคนนี้ ดูเอาจากของสองหนุ่มหน้าเป็นยังหงอยไปเลย พอมาถึงโรงแรมพี่มินจุนและพี่มินแจของตัวสั่งอาหารเข้าไปกินในห้องนอน พี่ชายบอกจะกินเป็นเพื่อนฉันเลยนั่งกินอยู่ที่ห้องอาหารกับฉัน สักพักพี่จีฮุนกับเจ้าชายของฉันก็เดินมาสมทบ

    “เกิดอะไรขึ้นกับพี่มินจุนหรือเปล่าค่ะพี่ชาย ดูสีหน้าไม่มีเลย” ฉันพูดถามพี่ชายระหว่างมื้ออาหาร

    “โดนแฟนคลับกระโดดจูบ แต่ไม่โดนที่ปากนะ พี่มินจุนหลบทันโดนแค่ที่แก้มแทนเท่านั้น อันนั้นคงไม่เท่ากับที่โดนบอร์ดี้การ์ดกระชากให้ห่างจากแฟนคลับคนนั้นอย่างรุนแรง พี่มินจุนแคร์แฟนคลับมาก แต่ก็ด้วยหน้าที่เขาก็ต้องทำ พี่มินจุนทำอะไรไม่ได้เลยเป็นแบบนั้นแหละ แต่... จุนโฮโดนกอดบ่อยๆ จุนโฮมือไว้กว่ามือของบอร์ดี้การ์ด แฟนคลับเลยไม่โดนกระชากออกแรงๆเหมือนของพี่มินจุน” พี่ชายอธิบายยาว

    “เราเข้าใจนะว่าแฟนคลับอยากจะสัมผัสพวกเราให้ได้มากที่สุด แต่เราก็ไม่สามารถตอบสนองได้มากมายแบบนั้น แต่ส่วนมากแฟนของเราจะน่ารัก แค่จับมือก็ไม่ทำอะไรลุ่มล่าม แต่บางคนก็คงจะคุมอารมณ์ไม่ไหวเราก็ไม่โกรธหรอก” พี่จีฮุนพูดเสริม

    “แล้วพี่ชายไม่โดนกอดโดนจูบบ้างเหรอคะ” ฉันหันไปมองหน้าพี่ชาย

    “เคยนะแต่พี่น่ะเป็นคนตื่นตัวเร็ว พอโดนจู่โจมพี่จะหลบทันทีเลย คืออยู่ในอารมณ์ที่เราตกใจไง ไม่ได้รังเกียจ เลยถอยออกห่างเลย” พี่ชายพูด

    “พี่มินจุนเครียดมากเรื่องนี้” คนตรงหน้าฉันพูดขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน ฉันชอบเหลือเกินเวลาที่เขากินอาหาร นิ่งๆ เรียบร้อยๆ เคียวอาหารราวกับว่ากลัวมันจะเจ็บ

    เป็นไปตามที่ฉันคาดเอาไว้ หลังจากที่แยกย้ายกันที่ห้องอาหาร ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องของฉันดังขึ้นเป็นจังหวะ... กลัวประตูเจ็บ ฉันเดินไปส่องที่ตาแมวก่อน คนที่ยืนรออยู่ทำปากจู๋ใส่ฉัน ทำให้อดขำไม่ได้

    “ที่ห้องกว้างกว่าห้องนี้ทำไมไม่นอนล่ะคะ” ฉันพูดหลังจากที่เป็นประตูต้อนรับคนหน้าประตู

    “แค่จะมาบอกว่า... Goodnight Kiss แค่นั้นแหละ” พูดจบก็คว้าตัวของฉันไปกอด ก่อนที่จะประกบปากลงมาอย่างรวดเร็ว ชักจะเคยตัวใหญ่แล้วคิดจะจูบก็จูบ แต่... ฉันก็ยอม

    “เหนื่อยมากสินะคะวันนี้ โดนกอดไปกี่รอบแล้วล่ะ” ฉันพูดหลังจากนั่งที่โซฟาแล้วมีคนตัวสูงนอนหนุนตักอยู่

    “วันนี้ไม่โดน พี่มินจุนโดนแจ็คพอตไปคนเดียวเลยวันนี้” เขาพูด

    “เอาแต่มองหน้าฉันอยู่ได้” ฉันพูดเมื่อเขาเอาแต่มองหน้าของฉันจริงๆจังๆ

    “มองแล้วหายเหนื่อย ให้มองหน่อยไม่ได้เหรอ”

    “เดี๋ยวก็จะเบื่อเข้าสักวัน” นั่นน่ะสิ ฉันชักจะหวั่นใจเมื่อวันที่ต้องเสียเขาไป

    “เบื่อ...??? ไม่รู้สิคิดไม่ออกว่าเป็นยังไง”

    “พี่คะ... ความคิดของผู้หญิงน่ะมันไปได้ไกลกว่าที่พี่คิดนะคะ แต่... ฉันไม่กล้าที่จะผูกมัดมันกับพี่จริงๆ พี่เหมือนผู้ชายที่ไม่ควรจะรัก ผู้ชายที่ฉันรักไม่ได้...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรต่อไป เขาก็เอานิ้วแตะที่ปากของฉันเอาไว้

    “ไม่ต้องพูดแล้ว... พี่ก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่... ติดตรงที่คุณแม่ของพี่ ท่านหวังกับพี่เอาไว้มาก ฮานึล... ตอนนี้ของให้พี่มีความสุขอยู่ตรงนี้ได้ไหม ในอนาคต อย่าเพิ่งไปคิดจะได้ไหม พี่เห็นแกตัวไปไหม” ทีนี้ถึงคราวที่ฉันจะต้องเอามือปิดปากของเขาเอาไว้บ้างแล้ว

    “ทั้งๆที่ฉันรู้ ว่าในอนาคต... เราอาจจะไม่ได้อยู่ร่วมกัน ฉันเองก็ของมีความสุขอยู่กับตอนนี้ก่อนเหมือนกันค่ะ อย่าได้ห่วงไปเลย ตราบใดที่การกระทำของฉันจะทำให้พี่มีความสุขได้ฉันก็จะทำ”

    “พี่เป็นเจ้าของเธอได้อย่างนั้นเหรอ”

    “พูดเหมือนพี่ไม่แสดงความเป็นเจ้าของฉันเลยนะคะ... พี่เป็นเจ้าของฉันอยู่นานแล้วค่ะ แต่... ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นเจ้าของพี่ให้พี่ต้องหนักใจ” จบคำพูดคนตัวสูงก็ลุกขึ้นนั่ง

    “น่ารักเกินไปแล้ว ไม่ไปนอนที่ห้องแล้ว นอนที่นี่แหละ” พูดจบคนตัวสูงก็เดินไปล้มตัวนอนบนเตียงนอน ฉันเดินไปหยิบแว่นตาส่งให้เขา

    “ของพี่ค่ะ” เขารับไปก่อนที่จะเปิดดู ก่อนที่จะสวมมันทันที

    “หล่อไหม” เขาพูดแล้วหันมามองหน้าฉัน

    “กล้าถามนะเนี้ย” ฉันพูดแล้วก็หัวเราะก่อนที่จะนั่งข้างๆตัวเขา

    “ขอบใจนะ” เขาถอดแว่นตาออกก่อนที่จะเก็บมันไว้ในกล่องฉันรับจากเขาไปวางข้างเตียงนอน

    “นอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้พี่มีงานแต่เช้า”

    “มา Goodnight Kiss พี่ก่อนสิ”

    “จะ Kiss กี่รอบถึงจะนอนค่ะ???” พูดจบฉันก็จู่โจมเข้าจูบเขา อย่างที่เขามักจะทำกับฉันก่อน คนตัวสูงจูบตอบแบบไม่ปราณีฉันเลยให้ตายสิ... คนนี้คนตัวโตกอดฉันเอาไว้ในอ้อมอกอุ่นๆของเขา ทำให้ฉันหลับสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    วันนี้เป็นวันเล่นคอนเสิร์ตจริง ระหว่างที่หนุ่มๆไปอัดรายการ พวกเราทีมงานก็มาเตรียมความพร้อมอยู่สถานที่จริงๆ

    “ฮานึล... มีอะไรกุ๊กกิ๊กกับจุนโฮใช่ไหม” พี่ช่างแต่งหน้าพูด เธอเป็นคนน่ารัก ไว้ใจได้ พี่ชายเคยบอกฉันไว้

    “พี่โคตี้พูดอะไรคะ” ฉันแอบสะดุ้งน้อยๆ หรือพี่โคตี้จะเห็นพี่จุนโฮมาห้องฉัน

    “หน้าตาตื่นเชียวสาวน้อย พี่เดาอะไรไม่ค่อยพลาดอยู่แล้วล่ะ” พี่โคตี้พูดยิ้มๆ ระหว่างที่จัดการแต่งหน้าทำผมให้ฉัน

    “แล้ว แล้วพี่โคตี้ดูจากตรงไหนล่ะคะ”

    “สายตาที่ส่งให้กัน แล้วไหนจะการฝากให้พี่ดูแลเธอของจุนโฮ ทั้งๆที่ต้องเป็นฮยอนอูสิที่ต้องเป็นห่วงเธอได้มากมายแบบนั้น” พี่โคตี้พูดยิ้มๆ

    “เป็นห่วง... พี่จุนโฮเป็นห่วงฉันเหรอคะ”

    “ใช่จ้ะ เขาไม่ให้บอกเธอนะ บอกให้ดูเธอห่าง เพราะกลัวแดนเซอร์สาวจะมากัดจิกเธอ แต่พี่คิดแล้วล่ะว่าคงไม่มีใครกล้าเพราะเธอน่ะ น้องสาวปาร์ค ฮยอนอูเชียวนะ ทำอะไรน้องสาวผู้ชายคนนี้อยู่ยาก” พี่โคตี้พูดขำๆ พี่ชายของฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ก็จริงนะ ไม่มีใครมากัดจิกฉันเลย ทั้งๆที่ดูจากสายตาแล้วไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่

    “ก็... ไม่ได้มีอะไรนี่คะ พี่จุนโฮเป็นคนใจดีอยู่แล้ว”

    “อย่างนั้นเหรอ... โอเค... พี่น้องก็พี่น้อง” พี่โคตี้ยิ้มมาที่ฉันผ่านกระจกนั้นมันยิ่งทำให้ฉันเขิน

    “ว้าว... นี่แดนเซอร์สาวหรือนักร้องสาวดาวรุ่งกันแน่” เสียงพี่ชายดังขึ้น

    “พี่ชาย... มาแล้วเหรอคะเหนื่อยไหม” ฉันพูดแล้วเข้าไปกอดพี่ชาย

    “หายเหนื่อยเลยมาเจอสาวน้อยกอดแบบนี้” พี่ชายพูดแล้วกอดตอบฉัน อบอุ่นจริงๆเลยนะอ้อมอกพี่ชายของฉัน

    “ตื่นเต้นไหมฮานึล” พี่มินจุนพูดระหว่างที่กำลังโดนแต่งหน้าอยู่

    “อืม... จะว่าตื่นเต้นก็ตื่นเต้นอยู่นะคะพี่มินจุน แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” ฉันพูด

    “จุนโฮ... ฝากฮานึลด้วยนะ” พี่ชายฉันพูด

    “อืม...” เขาที่กำลังแต่งหน้าอยู่ครางรับเบาๆ ไม่นานนักทุกอย่างพร้อม การแสดงเริ่มขึ้น ในใจของฉันเต้นรัว ก่อนที่จะขึ้นเพลงแรก คนข้างๆ ของฉันบีบมือของฉันเบาๆ ฉันหันไปยิ้มให้เขา เขาขยับปากบางพูด ‘Fighting’ ยิ้มหวานๆของเขาทำให้ฉันมีกำลังใจ หลายเพลงผ่านไป และตอนนี้ก็มาถึงเพลงที่ฉันต้องเต้นคู่กับเขา ใจฉันเต้นแรงบอกไม่ถูก แต่ฉันก็ยังคงควบคุมสติและสมาธิในการเต้น มาจนถึงท่าที่เขาต้องเข้ามาทำท่าจะจูบแต่เขากลับไม่แค่ทำท่า เข้าจูบมาจริงๆ ก่อนที่จะขยิบตาให้ฉัน ร้ายจริงๆ ดีนะที่ใกล้จบเพลงแล้วทำให้ฉันไม่สติแตกไปเสียตั้งแต่ต้นเพลง และตอนนี้ก็มาถึงเพลงสุดท้าย เต้นไปได้แค่ไม่ถึงครึ่งเพลง อยู่ๆก็มีใครสักคนสาดน้ำมาที่ฉัน ทำให้ฉันตกใจมาก

    “ว้าย!!!” ฉันร้องเสียงหลง หันซ้ายมองขว้า อ่อ จากแฟนคลับข้างล่าง และตอนนี้บรรดาหนุ่มๆ และแดนเซอร์คนอื่นๆ ก็เริ่มเอาอุปกรณ์เล่นน้ำออกมาตอบโต้กับแฟนคลับ ให้ตายเถอะ ไม่มีใครบอกฉันเลยเสื้อสีขาวบางของฉันพอโดนน้ำสาดมามันก็แนบเนื้อเห็นชุดชั้นในของฉันน่ะสิ ตายแล้วฉันจะทำยังไงดีเนี้ยถ้ารู้ก่อนหน้าฉันก็คงจะใส่เสื้อข้างในอีกชั้นแล้วสิ ตอนนี้ฉันสติแตกไปแล้วสิเพราะไฟสาดลงมาที่ฉัน พอหันไปที่จอภาพขนาดใหญ่ ตากล้องกำลังแพลนมาที่ฉันพอดี

    พรึ่บ!!! แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีผ้าคล้ายๆผ้าเชียร์ผื่นไม่ใหญ่มาโดนโยนมาเต็มหน้าฉัน ฉันรีบเอามันมาคลุมไหล่ปิดร่างกายทันที ตามด้วยแขนของใครบางคนตามมากอดที่ไหล่ของฉันเหมือนชวนฉันเต้น ฉันหันไปมองหน้า... เขาพึ่งพาได้จริงๆเลยนะ... เจ้าชายของฉัน ตอนนี้เขาเปียกไปหมดทั้งตัว เสื้อขาวแนบเนื้อเขาจนมองเห็นกล้ามเนื้อ เช็กซี่เป็นบ้าเลย

    “เหนื่อยจังเลย!!!” เสียงของพี่จีฮุนพูดหลังจะที่ลงจากเวทีก้นเรียบร้อยแล้ว

    “ฮานึล!!! เป็นยังไงบ้าง ไม่มีใครบอกเลยเหรอว่าจะมีการสาดน้ำ” พี่ชายเขามาโวยวาย

    “ถ้ามีแล้วฉันจะออกอาการแบบนั้นเหรอคะ” พูดจบฉันขอตัวไปอาบน้ำ

    “สมน้ำหน้ายัยฮานึลจริงๆ คนเห็นหล่อนโชว์หน้าอกไปทั่วสิงคโปร์แล้วมั้ง” เสียงแดนเซอร์สาวคนอื่นๆคุยกัน ฉันที่กำลังอาบน้ำอยู่นิ่งฟัง

    “ตกลงเธอไม่ได้บอกเจ้าหล่อนจริงๆเหรอเนี้ย” เสียงสาวอีกคนพูดขึ้น

    “ไม่บอก... สะใจจริงๆ” พูดจบเสียงเหมือนสองสาวจะเดินออกไป เฮ้อออออ นี่ล่ะนะ ความอิจฉา แต่ฉันก็รู้สึกอายจริงๆ

    “ใจเย็นๆก่อนเถอะน่าฮยอนอู” ฉันได้ยินเสียงของพี่มินจุนทันทีที่กำลังจะเดินเข้าห้องแต่งตัวศิลปิน

    “มันเกินไปแล้วนะทำกันแบบนี้!!!” เสียงพี่ชายเกรียวกราดมาก

    “พอเถอะค่ะพี่ชาย... เรากลับกันเถอะ” ฉันพูด ถ้าฉันไม่ห้ามก็คงจะไม่มีใครห้ามเข้าได้แล้ว

    “ได้ยังไงกัน” พี่ชายหันมาลูบผมฉันเบาๆ

    “อย่าให้ฉันต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้เลยค่ะ คราวหน้าฉันจะจำเอาไว้ จะไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก...” พูดจบฉันก็เดินออกจากห้องไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×