ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Snow Prince...(Lesson 3) รักหมดใจ...ของยัยจอมแก่น

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 56


    Junho's Part

    “งานเข้าอีกแล้วสินะ” พี่มินจุนพูดระหว่างที่ขับรถอยู่

    “งานใหญ่เลยล่ะครับพี่” ผมตอบแบบเซ็งๆ

    จุนโฮ... วันนี้มากกินข้าวเป็นเพื่อนแม่นะ อย่าปฏิเสธโดยเด็ดขาด ทีแรกแม่คิดว่ารอให้ลูกกลับมาจากการทัวร์คอนเสิร์ตก่อนค่อยให้เจอกับน้อง... แม่หมายถึงกาอินน่ะ เอาเป็นว่าเย็นนี้มาที่บ้านก็แล้วกันป้าเกอินจะพาน้องมากินข้าวที่บ้านเรานี่คือคำพูดของคุณแม่เมื่อสักครู่

    “มากันแล้วเหรอ...” คุณแม่พี่นั่งรออยู่แล้วพูดต้อนรับเรา

    “สวัสดีค่ะคุณอา...” พี่ฮันนี่เอ่ยทักทาย ก่อนที่จะโค้งให้ด้วยความเคารพ

    “จ้า...” คุณแม่เพียงหันมามองเล็กน้อย

    “ฮันนี่... จุนโฮ... มินจุน...” เสียงคุณย่าดังขึ้น พี่ฮันนี่รีบเดินไปประคอง ก่อนที่จะโดนคุณย่าหอมแก้มซ้ายขวาอย่างคิดถึง “เธอไม่ต้องกังวลนะ แม่จะพามินจุนกับฮันนี่ไปทานข้าวที่บ้านของแม่” คุณย่าพูดแล้วมองไปที่คุณแม่ ดูเหมือนว่าคุณย่าจะรู้ทันคุณแม่

    “ค่ะคุณแม่...” คุณแม่ของผมพูดเพียงแค่นั้นก่อนที่จะเดินเข้าห้องครัวไป วันนี้คุณแม่ของผมเข้าครัวเองเลย

    เรานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ห้องโถงของบ้านใหญ่ คุณย่าดูมีความสุขมากที่มีพวกเราล้อมหน้าล้อมหลังอยู่แบบนี้ ไม่นานนักคุณแม่ก็เดินออกไปรับแขกของท่าน ท่านเดินเข้ามาพร้อมป้าเกอินกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งแน่นอนเธอคงเป็นลูกสาวของป้าเกอิน สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวยมากแค่ไหน ผมดำยาวเป็นเงา ตัดกับผิวขาวๆของเธอ หน้าที่ไม่ต้องเติมแต่งอะไรก็ดูสวย การแต่งตัวออกแนวน่ารักดูดีไม่หวาน ไม่เปรี้ยวจนเกินไป

    “ท่าทางลูกชายของฉันจะหลุดลอยไปแล้วนะเกอิน” เสียงของคุณแม่เรียกให้ผมหันมามองท่าน

    “หล่อกว่าในโทรทัศน์อีกนะจุนโฮ” ป้าเกอินพูด

    “ขอบคุณครับ” ผมพูด

    ระหว่างมื้ออาหารคุณแม่กับคุณป้าเกอินก็คุยกันตามประสาท่าน พี่ฮันนี่กับพี่มินจุน ก็แยกไปทานข้าวที่บ้านคุณย่าเพราะเกรงว่าเรื่องที่ทั้งสองแต่งงานกันจะแพร่ออกไป

    “ไม่พูดเลยนะจ๊ะหนูกาอิน” คุณแม่พูดขึ้นระหว่างที่เรารอของหวานมาเสิร์ฟ

    “ตกใจในความหล่อของพี่จุนโฮน่ะสิ ปกติเป็นคนช่างพูดนะ” ป้าเกอินพูด สาวน้อยเธอหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อย

    “อ่อ จุนโฮเดี๋ยวแม่กับป้าเกอินจะไปดูเครื่องเพชรกันสักหน่อย ฝากลูกดูแลน้องด้วยนะ” คุณแม่พูดหลังจากเสร็จสิ้นการทานอาหารเย็น พูดจบคุณแม่กับคุณป้าเกอินก็พากันเดินออกไปจากห้องโถง

    “เออ... ดูเหมือนว่าเราสองคนจะเคยเจอกันเมื่อนานมาแล้วใช่ไหมครับ” ผมเป็นคนพูดทำลายบรรยากาศอันแสนเงียบงัน

    “ค่ะ... พี่จำฉันได้เหรอคะ” เสียงเล็กๆ น่ารักๆ ของเธอดังขึ้นเป็นครั้งที่สองหลังจากที่ทักทายกันไปในครั้งแรกที่เจอกัน

    “ผม... ไม่สิ... พี่ยังจำได้ว่าเธอมักจะอุ้มตุ๊กตาหมีมาด้วยทุกครั้ง” ผมพูดรำลึกความหลัง

    “ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะกลับมาเจอกันอีกครั้งในตอนที่พี่เป็นคนดังไปแล้ว” เธอพูด

    “น่ารักๆอย่างนี้คงจะมีแฟนแล้ว...???” ผมเว้นให้เธอตอบ

    “ยังหรอกค่ะ... ฉัน... คือ... ฉันถูกเลี้ยงมาให้เป็นเจ้าสาวของพี่จุนโฮค่ะ ฟังดูน่าเบื่อใช่ไหมคะ แต่ว่า... ฉันก็มีความคิดเป็นของตัวเองนะคะ” คำตอบของเธอทำให้ผมหนักอึ้งไปหมด

    “ตกลง... เราสองคนคงต้องได้แต่งงานกันจริงๆใช่ไหม” ผมถามเธอไปตรงๆ

    “ฉันยินดีค่ะ แต่พี่อย่างเพิ่งเข้าใจฉันผิดนะคะ ฉันไม่ได้จะแต่งงานกับพี่เพียงเพราะคุณแม่บอกเท่านั้นนะคะ สำหรับฉันแล้วพี่คือผู้ชายที่วิเศษ...”

    “โอเค... พี่เข้าใจ แต่ไม่คิดที่จะเปิดใจให้ใครนอกจากพี่จริงๆเหรอ พี่ถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ชีวิตเองได้ แต่พี่ก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง”

    “ไม่ค่ะ... ฉันไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง แต่ฉันรักใครไม่ได้จริงๆ”

    “สุดท้ายแล้ว... เราก็คงต้องแต่งงานกัน” ผมพูด

    “พี่ไม่รังเกียจฉันใช่ไหมคะ”

    “พูดอะไรอย่างนั้น... มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่จะรังเกียจเธอได้ลงคอ ถ้าอย่างนั้น... พี่ก็ขอพูดอย่างเป็นทางการว่า... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ... ว่าที่เจ้าสาวของผม” ผมพูดแล้วยื่นมือไปให้เธอ เธอยื่นมือมาจับกับผม ว้าว... มือของเธอนุ่มนิ่มดีจริงๆเลย

    “แม่ว่าแม่จะหมั้นน้องเอาไว้เลย” เสียงของแม่ดังขึ้นขัดการสนทนาของผมกับเธอ

    “คุณแม่ครับ... มันไม่เร็วไปเหรอครับ” ผมหันไปคัดค้าน

    “ไม่เร็วหรอก ช้าไปด้วยซ้ำ แม่คิดที่จะหมั้นพวกเธอตั้งแต่น้องอยู่ในท้อง” คุณแม่พูดพร้อมกับยื่นกล่องกำมะหยีสีแดงสดมาให้ผม “นี่เป็นของหมั้นหมายของลูกกับน้อง สวมแหวนให้น้องซะ” ผมจำใจรับมา พอเปิดออก ในกล่องมีแหวนเพรชสองวง วงเล็กแน่นอนคงจะเป็นของฝ่ายหญิง แต่...

    “แม่ครับ... ตอนนี้ผมยังสวมไม่ได้” ผมรีบพูดขึ้น

    “ได้สิ... ถ้าอาชีพลูกจะทำให้สวมไม่ได้ก็ออกมาซะ เลือกเอาว่าจะสวมหรือจะออกมาจากมัน” คุณแม่พูดพลางกับหยิบแหวนวงที่น่าจะเป็นของผมออกมาให้ฝ่ายหญิง

    “คุณแม่...” ผมพูดได้เพียงเท่านั้นจริงๆ “ครับ...” ผมรับคำก่อนที่จะสวมแหวนหมั้นให้กับผู้หญิงที่ไม่ใช่เป็นว่าที่คู่หมั้น แต่เธอคงจะเป็นคู่หมั้นของผมนับตั้งแต่วันที่เธอเกิดมา

    “พี่จุนโฮคะ...” คู่หมั้นของผมเรียกผมก่อนที่เธอจะกลับบ้าน

    “ครับ...” ผมหันไปคุยกับเธอ

    “พี่คงจะทรมานมากใช่ไหมคะ” คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกสงสารเธอมากกว่า

    “อย่าคิดมากไปเลยปาร์ค กาอิน... สุดท้ายแล้วเธอกับพี่เราทั้งสองก็คงต้องแต่งงานกัน พรุ่งนี้พี่ต้องไปทัวร์คอนเสิร์ต อีกหลายวันกว่าจะกลับมา และพี่คงจะยุ่งมากในช่วงนี้ เอาไว้พี่จะหาเวลามาทำความรู้จักกับเธอนะ” ผมพูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปจะจับผมของเธอ แต่... ผมต้องชะงักเมื่อมีใบหน้าของใครอีกคนลอยมาในหัวผม ปาร์ค ฮานึล... ผมเลยจับที่ไหล่ของเธอเบาๆ

    “ขอบคุณค่ะพี่จุนโฮ” เธอพูดก่อนที่จะเดินไปที่รถของเธอ

    “ทำได้ดีมากคิม จุนโฮ” คุณแม่พูดหลังจากที่สองแม่ลูกกลับไปแล้ว

    “ในเมื่อผมทำหน้าที่ของลูกที่ดีให้กับคุณแม่แล้ว ผมขออนุญาติทำความฝันของผมต่อไปเถอะนะครับ ไม่เกินสองปีและในระหว่างนี้ ผมจะทำหน้าที่ลูกที่ดี คู่หมั้นที่ดี และศิลปินที่ดีให้ได้”

    “ดีมากลูกแม่” คุณแม่พูด ท่านคงจะมีความสุขมากสินะ แต่ทำไมผมถึงได้รู้สืกเหมือนโดนบีบคออยู่นะ ความสุขของคุณแม่... ความสุขของผม... ผมอยากให้มันรวมเป็นหนึ่งเดียวจริงๆ ผมต้องรักคู่หมั้นของผมให้ได้สินะ มันคงเป็นวิธีเดียวที่ผมจะต้องทำ และทำมันให้ได้...

    “พี่ฮันนี่... พี่มินจุน... อย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้ไหมครับ นี้เป็นคำขอร้องด้วยความเห็นแก่ตัวของผม ขอร้องนะครับ” ผมพูดขึ้นเมื่อพี่มินจุนออกรถมาได้สักพัก และยังไม่มีใครพูดอะไร

    “ทำไมมันยากแบบนี้นะ” พี่ฮันนี่พูด ก่อนที่จะกันมาลูบที่แก้มของผม

    “นะครับพี่... ผมไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น ผมยังมีหลายอย่างที่ยังอยากจะค้นหามัน” ผมพูดแล้วมองหน้าพี่มินจุนผ่านกระจก พี่มินจุนยิ้มบางๆมาที่ผม

     

    “กินอะไรกันรึยังหนุ่มๆ กับอีกสองสาว” พี่ฮันนี่พูดทักทายทุกคนที่อยู่รวมกันที่ห้องโถง

    “เรียบร้อยแล้วครับ” ปาร์ค ฮยอนอูเป็นตัวแทนตอบคำถาม

    “ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมพูดขึ้น และไม่ลืมที่จะแอบมองคนตัวเล็ก ตอนนี้ผมอยากกอดเธอเหลือเกิน คำขอผ่านแววตาของผมมันจะบอกส่งไปบอกให้เธอได้รับรู้ได้ไหมนะ พอมาถึงห้องนอนผมจัดการล้วงแหวนหมั้นที่ถอดออกตั้งแต่ออกมาบ้านมาแล้ว โยนมันไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอน ก่อนที่จะล้มตัวลงที่โซฟานุ่มๆ อย่างเหนื่อยล้า ปาร์ค กาอิน... เธองดงามเหลือเกิน ผมอาจจะรักเธอได้เมื่อเราอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แววตาที่เธอส่งมาให้ผม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอรู้สึกดีกับผมมากแค่ไหน มันทำให้ผมหวั่นใจไปเหมือนกัน ผมค่อยๆหลับตาลงของพักสายตาสักหน่อยแล้วค่อยไปอาบน้ำก็แล้วกัน

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องนอนผมดังขึ้น เช้าแล้วอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมผมรู้สึกว่านอนไม่พอนะ เข้ามาเถอะครับผมไม่ได้ล็อกประตู ผมคิดในใจแบบนั้น ตอนนี้ผมไม่มีแรงลุกไปเปิดประตูให้คุณผู้มาเยือน

    “พี่จุนโฮ... ฉันเข้าไปนะ” เสียงใสๆ ของคนที่ผมรอ เธอมาหาผมจริงๆ เสียงเดินของเธอเดินตรงมาที่ผม ผมพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น “หลับแล้วเหรอคะ ทำไมไม่อาบน้ำ แล้วไปนอนที่เตียงนอนล่ะคะ” อ่อ... น่าจะยังไม่เช้า ยังไม่ข้ามวันไปสินนะ เธอเข้ามานั่งข้างๆผม ทำให้ผมล้มตัวลงนอนหนุนตักของเธอเสียเลย

    “พี่ง่วง... เหนื่อยจังเลยวันนี้” ผมขยับปากพูดเบาๆ เธอลูบที่ผมของผมเบาๆ ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าของผมมันคลายลงไปเยอะเลย

    “ไปเจอคุณแม่ของพี่มาถึงกับหมดแรงเลยเหรอคะ” เธอพูด

    “อืม... หมดแรงทุกครั้งที่เจอท่านเลย” ผมพูดและเริ่มคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้

    “ฉันจะเพิ่มพลังให้พี่เอง” พอเธอพูดจบ ปากอุ่นๆ ของเธอก็จะทับลงที่แก้มของผม

    “แค่นี้เองเหรอ...” ผมพูด ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งและหันไปล็อกเธอไว้กับเก้าอี้ และไม่รอช้าที่จะจู่โจมจูบเธอ... คนตัวเล็กของผมเธอเป็นเหมือนอาหาร... หลากรสชาติ... น่ากินไปหมด...

    “พอแล้วค่ะ...” เธอดันตัวผมออกและหันหน้าไปทางอื่น ทำให้ผมเห็นซอกคอขาวๆของเธอ มันยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง ผมรีบกัดปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้เข้าไปจู่โจมที่ซอกคอของเธอ

    “หอมจัง...” ผมพูดก่อนที่จะเอาหน้าซุกลงที่ซอกคอของเธออย่างหมดความอดทน ผมช้อนตัวเธอเข้ามากอด เธอทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ อยู่ถึงบ้านแล้ว

    “ตัวพี่ก็หอมเหมือนกัน” คนตัวเล็กพูดแล้วกอดผมตอบ เธอกอดผมแน่นมากกว่าที่ผมกอดเธอ

    “กลับห้องของเธอแล้วไปนอนเถอะ พี่ก็จะอาบน้ำนอนแล้วเหมือนกัน” ผมพูดแล้วพลิกตัวนั่งท่าปกติ อย่างอดทนอดกลั่น

    “ค่ะ... ฉันไปนอนก่อนนะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้น มือเจ้ากรรมของผมดันไปคว้าให้ตัวเธอล้มลงมานั่งที่ตักของผม “อุ๊ย!!!” เสียงอุทานของเธอน่ารักจริงๆ

    “อยู่กับพี่ก่อนสักพักได้ไหม” ผมพูด ก่อนจะจรดจมูกของผมลงที่แขนหอมๆของเธอ เธอเอาแขนมาผสานกันที่คอของผม

    “อ้อนเข้าไปสิ... เป็นอย่างนี้ฉันคนนี้จะไปไหนรอด” พูดจบเธอซบลงที่ไหล่ของผม ผมต่างหากที่ต้องพูดประโยคเหล่านั้น

    “ตัวหนักเหมือนกันนะเรา” ผมเอ่ยปากแซวเธอ ทั้งๆที่เธอตัวเบากว่าชา โบอึนแดนเซอร์คู่ของผมตั้งเยอะ

    “หนักก็ต้องทนค่ะ...” เธอพูดแล้วเอาจมูกของเธอแตะกับจมูกของผมไปมา เธอช่างไม่รู้ถึงความอันตรายของผู้ชายเลยจริงๆ “จำไว้เลยนะคะ พี่เป็นผู้ชายอื่นคนแรก ที่ฉันใกล้ชิดขนาดนี้ พี่เป็นคนพรากจูบแรกของฉันไป และพี่ก็จะเป็นคนแรกที่ฉันมอบสิ่งสำคัญที่ฉันหวงแหนให้กับพี่ เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วนะคะ” คำพูดของเธอทำให้ผมรู้ได้ถึงความเต้นแรงของหัวใจ

    “ฮานึล... เธอกำลังจะทำให้พี่คลั่ง...” ผมพูดออกไปอย่างไร้สติควบคุมมัน

    “ฉันไปนอนแล้วนะคะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างที่ผมเองไม่ทันได้ตั้งตัว “ฝันดีนะคะ เจ้าชายของฉัน” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องของผมไปทันที อะไรนะ... เจ้าชายอย่างนั้นเหรอ อีกไม่นานผมอาจจะกลายเป็นซาตานก็ได้ ถึงตอนนั้นเธอยังจะบอกรักผมอยู่อีกไหมนะ ผมอยากรู้จัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×