คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 #Kim Min Jae
เสียงอาบน้ำของเธอดังขึ้น ในใจผมเริ่มสั่น คิดไปต่างๆนาๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันเนี้ย อาจจะเกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในตัวผมหรือเปล่า ผมรีบซดน้ำซุปจนหมดก่อนที่จะดื่มน้ำมะนาวต่อ ถึงเธอจะไม่ได้หุ่นดีอะไรแต่ผมว่าหน้าอกของเธอก็ไม่น้อยนะ ส่วนเว้าส่วนโค้งที่ควรจะมีเธอก็มี นี่ผมคิดบ้าอะไรอยู่เนี้ย สะบัดความคิดนี้ไม่ออกเลย ผมไม่ควรจะนอนบนเตียงเดียวกันเธอ แต่ผมแต่งงานกับเธอไปแล้วนะถึงแม้ว่าเราจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ ใช่ความรักก็เถอะ เราสาบานต่อกันแล้วว่าจะเป็นสามีภรรยากันแล้ว
“ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว” เธอออกจากห้องน้ำมาด้วยชุดนอนกระโปรงลายสก๊อตสีชมพู
“อาบนานจัง เนื้อหลุดไปบ้างหรือเปล่า” ผมพูดก่อนที่จะลุกขึ้นไปจับข้อมือของเธอ
“ผู้หญิงก็แบบนี้แหละ... ไปอาบน้ำได้แล้ว” เธอพูดแล้วก็ดันหลังผมให้เข้าห้องน้ำมา ผมจัดการอาบน้ำชำระร่างกาย น้ำเย็นๆ อาจจะช่วยให้ผมใจเย็นขึ้นมาบ้าง พออาบน้ำเสร็จผมก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกจากห้องน้ำมา ผมกำลังจะเอ่ยปากถามถึงชุดนอนของผม แต่มันวางเอาไว้บนเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว พอผมเห็นก็เกือบจะหัวเราะออกมาเพราะชุดนอนของผมช่างเข้ากับของเธอดีจริงๆ ลายสก๊อตสีฟ้า ผมหยิบมันมาใส่ก่อนที่จะหันไปมองดูเธอกำลังใช้ไดร์เป่าผมเธออยู่หน้ากระจก ผมดำยาวถึงกลางหลัง คงทำให้เธอลำบากเวลาที่จัดการกับมัน ตาเจ้ากรรมของผมดันไปมองที่ซอกคอขาวๆ ของเธอเขา ใจผม... สั่นไปหมดแล้วตอนนี้
“ฉันนอนก่อนนะ” ผมพูดขึ้นก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงนอน เธอปิดไดร์เป่าผมแล้วหันมามองหน้าผม
“มานี่ก่อนสิ ผมนายยังเปียกอยู่เลย” เธอพูดแล้วกวักมือให้ผมไปหาเธอ ยัยผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้จักผู้ชายเลยจริงๆให้ตายสิ
“ไม่เป็นไรผมฉันสั้นเดี๋ยวก็แห้งเอง” ผมพูด
“มานี่” เธอไม่พูดเปล่าเธอเดินมาฉุดผมให้ลุกขึ้น แล้วเดินตามเธอไปที่หน้ากระจก เธอจัดการเป่าผมให้ผมอย่างใจเย็น “นายไม่ดูแลตัวเองเอาเสียเลย นับจากนี้ไป... ฉันจะดูแลนายเอง ดูแลไปจนกว่า... ผู้หญิงคนนั้นของนายจะปรากฏตัว” ผมมองตาเธอผ่านกระจก วันนี้ผมเห็นเธอในมุมที่ผมไม่เคยเห็น ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสวยได้ในชุดเจ้าสาว ผมตกใจเล็กน้อยหลังจากที่เธอปรากฏตัวในชุดเจ้าสาว มันทำให้ผมหวงเธอเมื่อเพื่อนในวงของผมพูดถึงความสวยของเธอ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นเจ้าของเธอขึ้นมาทันใดที่เราสาบานต่อหน้าพระผู้ เป็นเจ้าด้วยกัน ตอนที่ผมต้องสาบาน ผมตื่นเต้นจนลืมสิ่งที่ตั้งใจท่องมา ผมรับรู้ได้ว่าเธอเข้าใจว่าผมคิดที่จะไม่สาบานออกไป
“ขอบใจ...” ผมตอบเธอสั้นๆ หลังจากที่เธอจะเป่าผมให้ผมเสร็จ
“ฉันง่วงมากแล้ว” เธอพูดขึ้นหลังจากที่เธอเก็บไดร์เป่าผมเรียบร้อยแล้ว ผมและเธอต่างก็ยืนอยู่ข้างเตียงคนละด้าน
“ก็นอนสิ...” ผมชี้ให้เธอนอนลงบนเตียงนอน
“นายนอนก่อนเลย” เธอชี้บ้าง ผมพยักหน้าก่อนจะล้มตัวลงนอน
“เธอนอนไปเถอะ... สบายใจได้ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” พูดจบผมรู้สึกถึงการล้มตัวลงนอนอยู่ข้างตัวผม ตอนนี้ในตัวของผมร้อนไปหมด กระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก
“ฝันดีนะ” เธอพูดดังขึ้นอยู่หลังผม ให้ตายสิ เธอนอนหันมาทางผมด้วย ทำไมเธอไม่หันหลังไปนะ
“อืม... เธอก็เหมือนกัน” ผมพูดก่อนที่จะข่มตานอน มันยากเย็นเหลือเกินสำหรับการสั่งให้ตัวเองนอนหลับในอารมณ์แบบนี้ ทรมานเหลือเกิน...
ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ เมื่อคืนกว่าจะข่มตาให้หลับได้เกือบตาย เพราะยัย... อ้าว... หายไปไหนแล้วล่ะ พอลืมตาขึ้นมาก็เจอแต่ความว่างเปล่า หรือจะตกเตียงนอนไปแล้ว ผมคิดได้อย่างนั้นก็ลุกขึ้นชะโงกมองไปรอบๆ ห้อง ว่างเปล่า... สงสัยจะตื่นแล้วล่ะ ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ กำจัดของเสียออกจากร่างกายก่อนเดินไปแปรงฟัน แปรงฟันของผมมียาสีฟันแต้มเอาไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมแปรง พอเห็นผมก็อดยิ้มไม่ได้ ยัยบ๊องของผมเธอคงจะบีบไว้ให้สินะ หลังจากแปรงฟันเสร็จผมก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที คงต้องลงไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า ผมเดินลงไปที่ห้องอาหารก็พบกับความว่างเปล่า นี่มันกี่โมงแล้วเหรอ ทุกคนยังไม่ตื่นหรือไปไหนกันหมดแล้ว ผมมองซ้ายแลขวาหานาฬิกาติดผนัง โอ้ว... ก็คงไม่มีใครเขาอยู่รอผมหรอกนะ เพราะตอนนี้มันปาเข้าไปเกือบเที่ยงวันแล้ว
“หิวรึยัง” ผมสะดุ้งโหยง ก่อนที่จะหันไปมองตามเสียงเล็กๆ ของใครบางคนที่โผล่หน้าเข้ามาจากข้างนอก
“อืม... คนเค้าไปไหนกันหมดแล้วล่ะ” ผมพูดก่อนจะทำทีเข้าไปในห้องครัว เจ้าของเสียงเล็กเดินแทรกตัวเข้าไปก่อนผม
“ผู้ใหญ่กลับกันหมดแล้ว พี่ฮันนี่ พี่มินจุน พี่ฮยอนอูรู้สึกว่าจะไปหาเพื่อนที่ชื่อ... เม.. อะไรนะคิดไม่ออก” เธอทำท่าคิด
“เมษา... เพื่อนชาวไทยของพี่ฮันนี่” ผมพูด ก่อนที่จะกวาดตาหาของกิน
“อ่อ... ใช่ๆ พี่จุนโฮกับพี่จีฮุนเห็นว่าเอาเรือออกไปเที่ยวเกาะอะไรสักอย่างนี่แหละ” เธอพูดก่อนที่จะเปิดตูเย็นเอาวัตถุดิบการทำอาหารเช้าที่เตรียมเอาไว้ออกมา
“ไปกันหมดแล้วสิ คุณพ่อคุณแม่ของเธอฉันก็เลยไม่ได้ออกไปส่งท่าน ทำไมเธอไม่ปลุกฉันล่ะ” ผมยืนมองเธอทำอาหารอยู่ใกล้ๆ
“เห็นนายนอนหลับสบายอยู่เลยไม่อยากปลุก ผู้ใหญ่ก็บอกว่าไม่ต้องปลุก โดยเฉพาะคุณแม่ของนาย ท่านอยากให้นายพักผ่อนเยอะๆ”
“อืม...” ผมมองดูเธอจับโน้น ทำนี้อย่างคล่องแคล่วดีจังเลย
“พี่ฮันนี่เคยบอกไว้ อาหารเช้าของนายไม่รับกาแฟ” เธอพูดกับผมขณะที่เธอตั้งหน้าตั้งตาจัดอาหารเช้าใส่จาน
“แล้วทำไมเธอไม่ไปเที่ยวข้างนอกกับคนอื่นๆเขาล่ะ” ผมพูด
“แล้วใครจะทำอาหารเช้าให้นายล่ะ... ออกไปรอข้างนอกไป จะเสร็จแล้ว” เธอพูดแล้วผลักให้ผมออกจากห้องครัวมา ผมเดินออกมานั่งที่โต๊ะรอเธอ ยัยนี่คิดถึงผมขนาดนี้เลยเหรอ คิดได้อย่างนั้นผมก็ยิ้มออกมา พักเดียวเท่านั้นเธอเดินออกมาพร้อมถาดอาหารเช้า
“เยอะจัง” ผมพูด
“ฉันเชื่อว่านายต้องกินหมด” พูดจบเธอก็วางจานอาหารเช้า ตามด้วยซ้อมและมีด น้ำส้มคั้นสดๆ นมสดแก้วใหญ่
“จะไปไหนล่ะ” พอเสิร์ฟเสร็จเธอก็ทำท่าจะเดินออกไป
“นายกินไปเถอะน่า... ทำไม... ไม่เห็นหน้าฉันกินข้าวไม่ลงหรือไง” เธอพูดยิ้มๆ
“พูดโง่ๆ” ผมพูด เธอเบ้ปากใส่ผมก่อนที่จะเดินหายไป เอาอีกแล้วผมทำให้รอยยิ้มของเธอหายไปอีกแล้ว ผมจะทำอย่างไรดีให้เธอยิ้มบ่อยๆได้บ้างนะ ไม่น่าเชื่อว่าอาหารที่แสนจะธรรมดา ที่เหมือนๆกับที่พี่ฮันนี่ทำให้กินบ่อยๆ แต่ทำไมพอยัยบ๊องคนนี้ทำมันถึงได้อร่อยแบบนี้นะ น้ำส้มคั้นก็ธรรมดา แต่รสชาติรู้สึกว่าจะดีกว่า ของพี่ฮันนี่ไม่ใส่เกลือสินะ เพราะแก้วนี้ผมรู้สึกว่ามันจะเค็มๆ ทำให้รสชาติมันกลมกล่อมขึ้น นมอุ่น... ใช่สิ ของพี่ฮันนี่จะร้อนจนต้องรอ ไข่ดาวสุกหนึ่งฟอง ไม่สุกหนึ่งฟอง ขนมปังนึ่งนิ่มๆ ไม่ใช่ขนมปังปิ้งแบบของพี่ฮันนี่ ไส้กรอกและแฮมทอดไม่ได้นึ่งเหมือนของพี่ฮันนี่ ผมชอบแบบนี้มากกว่านะ
“กินเสร็จแล้วเหรอ...” ผมดื่มนมเสร็จพอดีเธอก็เดินมานั่งข้างๆ
“อืม...”
“ฉันว่าจะเดินเล่นอยู่แถวๆ ชายหาด” เธอพูดขึ้นระหว่างที่เก็บจานและแก้วตรงหน้าของผมใส่ถาด
“บอกฉันทำไม” ผมพูด เอาอีกแล้ว พูดกวนอารมณ์เธออีกแล้ว
“บอกเอาไว้เผื่อนายอยากได้อะไรจะได้ตามฉันเจอก็เท่า นั้น เพราะพวกพี่ฮันนี่บอกว่าจะกลับมากันตอนดึกๆ ส่วนพวกพี่จุนโฮกับพี่จีฮุนอาจจะไปค้างที่เกาะเลย แค่นี้แหละ” พูดจบเธอก็ยกถาดเดินเข้าห้องครัวไป แล้วผมควรจะทำอะไรต่อดีในเมื่อตอนนี้บ้านทั้งหลังก็เหลือแค่ผมกับเธอสองคน
“เธอ...” ผมเดินตามเธอเข้าไปในครัว “อยากไปไหนไหม... ที่นี่ฉันเคยมากก่อนหน้าแล้ว” เธอหันมายิ้มร่าให้ผม
“อยากไปดูปะการังแถวๆนี้ก็ได้ ได้ยินพี่จุนโฮพูดเมื่อเช้าว่าแถวนี้ก็สวย” เธอพูด
“ถ้าอยากดูมากทำไมไม่ตามจุนโฮไปซะเลยล่ะ พวกเขาไม่ชวนเธอไปด้วยเหรอ” อะไรกันเธอเอาแต่พูดถึงคิม จุนโฮ
“ชวนสิ ชวนหลายรอบด้วย แต่ฉัน...” เธอยังพูดไม่ทันจบแต่ผมรีบพูดแทรกขึ้นมา
“เรื่องของเธอ!!! อยากไปดูปะการังก็ไปดูเอง” ทำไมผมต้องหงุดหงิดด้วยเนี้ย
“ฉันว่ายน้ำไม่เก่ง... ไม่เป็นไรถ้ามันจะรบกวนใจนาย” พูดจบเธอก็เดินกลับไปที่อ่างล้างจาน ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว เฮ้อออ ช่างเถอะ ไปอาบน้ำดีกว่า คิดได้อย่างนั้นผมก็เดินขึ้นห้องนอนมา ผ้าอะไรวางอยู่บนเตียงนอน ผมเดินตรงไปดู เสื้อผ้าของผู้ชาย แต่ไม่ได้เป็นของผมนะ ยัยบ๊องนั้นเตรียมเอาไว้ให้ผมสินะ พอเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัวและผ้าคลุมอาบน้ำก็วางเตรียมเอาไว้พร้อม เธอจะรู้ตัวไหมว่าเธอชักจะทำให้ผมเสียนิสัย เธอทำแบบนี้มันจะทำให้ผม... ไม่อยากให้เธอห่างผมไปไหน
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินออกมา ยัยตัวป่วนของผมเธอหายไปไหนกันนะ เดินไปรอบบ้านแล้วไม่เห็นเจอเลย อ่อ... หรือว่าเธอจะไปเดินเล่นที่ชายหาด ผมเดินลงไปที่ชายหาด... ผมเห็นแล้วยัยตัวเล็กในชุดกระโปรงสีขาวโชว์ไหล่ขาวๆของเธอ เดินเรียบชายหาดอยู่ ดูเหมือนว่าเสื้อยืดคอกลมสีขาว เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขาสั้นสีขาวที่เธอจัดไว้ให้ผม... เข้าชุดกับเธอดีมากเลย คิดได้อย่างนั้นก็ทำให้ผมยิ้มออกมา กลัวคนเขาไม่รู้หรือไงว่าเพิ่งแต่งงานกัน
“มินแจ!!!” เธอตะโกนเรียกผม และโบกไม้โบกมือให้ผม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกชื่อผม รู้สึกอย่างไรไม่รู้บอกไม่ถูก ให้เธอมาเรียกผมว่าพี่มินแจมันดูเหมือนว่าไม่ต่างจากที่เธอเรียกพวกเพื่อนๆ ของผม เธอเรียกชื่อผมแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึก... เขิน...
“ไม่ร้อนหรือไง” ผมเดินไปหาเธอแล้วพูด เธอยิ้มให้ผมก่อนที่จะเอื้อมมือมาจัดปกเสื้อเชิ้ตให้ผม
“ฉันคิดว่านายจะไม่ใส่มันซะแล้ว”
“ขี้เกียจไปหาใส่เอง” ผมพูดก่อนที่จะหันไปมองท้องทะเล
“เมื่อวันก่อนพี่ฮันนี่พาฉันไปเที่ยวตลาดแถวนี้ พอเห็นฉันก็คิดถึงเธอ เป็นเสื้อผ้าถูก แต่เนื้อผ้าดีใช้ได้เลยนะ” เธอพูดแล้วเดินมาดักหน้าผม
“ก็ไม่เลว” ผมพูดแล้วก็จับเนื้อผ้าดู
“นี่!!! ไม่คิดจะพูดดีๆ กับฉันบ้างหรือไง เรามาดีกันนะ นะๆๆ” เธอพูดแล้วก็ยื่นนิ้วก้อยมาที่ผม อะไรกันยัยนี่... จะทำตัวน่ารักไปไหนเนี้ย ให้ตายสิ
“ฉันกับเธอก็ไม่โกรธอะไรกันนี่นา ต้องดีกับทำไม” ผมปัดมือเธอออก เธอเบ้ปากใส่ผม
“นายคงเกลียดฉันมากสินะ ขอโทษ... ที่ทำให้นายต้องลำบาก นับจากนี้ฉันจะชดเชยให้นายเป็นการตอบแทนที่นายยอมทำอะไรให้พ่อแม่ของฉันขนาด นี้ ขอบคุณนายมากจริงๆ ฉันจะไม่เรียกร้องอะไรจากนายอีก จะไม่กวนใจนายอีก” พูดจบเธอก็เดินจากไป ผมมองตามหลังของเธอ มันทำให้ผมใจหาย ถ้าในวันใดวันหนึ่งเธอต้องเดินจากผมไป ผมอาจจะต้องมองภาพที่เธอเดินเคียงคู่ไปกับผู้ชายที่เธอรัก ถึงตอนนั้นใจของผมจะเจ็บปวด...หรือเปล่านะ
“ยัยบ๊อง!!! ไปดำน้ำกันไหม” ผมเรียกเธอ เธอหันมายิ้ม
“ไปสิ!!!” เธอรีบเดินมาหาผมทันที “ฉันว่ายน้ำไม่เก่งนะ อย่าดุล่ะเพราะมันอาจจะทำให้ฉันช็อกตาย” เธอพูดต่อหลังจากที่เดินมาจับแขนของผม
“ฉันว่ายน้ำเก่ง คงไม่ปล่อยให้คนโง่ๆ อย่างเธอจมน้ำไปต่อหน้าต่อตาหรอกน่า” พูดจบผมก็เดินเข้าบ้านมาเพื่อมาเอาอุปกรณ์ดำน้ำ
การดำน้ำครั้งนี้ของผมดูเหมือนว่ามันจะทำให้ผม เหนื่อยกว่าทุกทีที่เคย แต่กลับทำให้ผมสนุก ยัยนี่ทำให้ผมขำ ตัวสั้นๆของเธอ ต้องให้ผมคอยอุ้มเธอตลอด เธอบอกผมว่าเธอว่ายน้ำไม่เก่ง ผมว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นเลยต่างหาก พอผมแกล้งปล่อยเธอ เธอก็ตะเกียดตะกายเหมือนจะจมน้ำตายไปในทันทีเสียอย่างนั้น
“ว้าว... สนุกจัง” เธอพูดระหว่างที่เรากำลังเดินกลับเข้าบ้าน
“เหนื่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยดำน้ำมาเลยล่ะ” ผมหันไปแขวะเธอ
“ขอบใจนะ... ฉันสนุกมากเลย” เธอยังคงยิ้มร่าให้ผม ทำให้ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ “ว้าว... นายยิ้มให้ฉันด้วย” พูดจบเธอก็เดินขึ้นบ้านไป เธออาจจะชินชากับคำพูดที่แย่ๆของผม แล้วก็ได้... แล้วเมื่อไหร่ผมจะพูดดีๆกับเธอได้เสียทีเนี้ย
“เธอไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” ผมเอ่ยปากถามเธอเมื่อเราไปเดินตลาดกันมาแล้วหนึ่งรอบ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเธอยังชวนผมแวะสวนสาธารณะที่ผมเคยมากับพวกพี่ฮันนี่
“ไม่เหนื่อย สนุกดีออก” เธอหันมาพูดกับผมก่อนที่จะหันไปมองบรรยากาศ “น่าแปลกจัง แค่นายใส่แว่นตาเชยๆกับหมวกก็ไม่มีใครจำนายได้แล้ว”
“ถ้าเป็นเกาหลีก็ไม่แน่ อีกอย่างที่ที่เราไปเดินมันเป็นตลาดสด เด็กวัยที่รู้จักฉันคงไม่ค่อยมีใครไปเดินมากกว่า อย่างสวนนี่ก็เหมือนกัน แทบจะไม่มีคนเดิน” ผมพูด
“แต่ก็มีแต่คนมองนายกันใหญ่เลยนะ” เธอหันมามองหน้าผม เหมือนกำลังพิจารณาอะไรสักอย่างก่อนที่จะยิ้มออกมา “นี่ถ้ามีสาวๆแฟนคลับของนายรู้เรื่องที่นายแต่งงานกับฉัน ฉันอาจจะตายก็ได้”
“ตายแน่อยู่แล้ว ยัยบ๊องสุดจะขี้เหร่อย่างเธอได้มาแต่งงานกันฉันน่ะ” ผมพูด เธอยังคงยิ้มอยู่ ยัยนี่บ๊องได้อีกนะเนี้ย
“นั่นน่ะสิ... คนอย่างฉันได้เป็นภรรยาของนาย ก็แค่ชั่วคราวล่ะน่า... เดี๋ยวนายก็ได้เจอภรรยาตัวจริงของนายเข้าสักวัน ฉันก็คงต้องไป” เธอพูดก่อนจะหันไปทางอื่น “ฉันจะจดจำช่วงชีวิตที่ได้ใช้มันร่วมกับนาย มันเป็นช่วงชีวิตที่ดีช่วงหนึ่งสำหรับฉัน ถึงแม้นายจะเกลียดฉัน แต่ฉัน... ก็จะดูแลนายจนว่าวันนั้นจะมาถึง” พูดจบเธอก็เดินออกไปจากศาลาที่นั่งพัก คำพูดของเธอมันทำให้ผมใจหายไปเหมือนกัน ผมควรจะทำอะไรดีๆ ให้เธอบ้าง แล้วอะไรดีๆสำหรับผมที่จะทำให้เธอคืออะไรกันล่ะ ผมคิดไม่ออก
“ใกล้ค่ำแล้ว... กลับกันได้หรือยัง” ผมพูดกับเธอหลังจากเดินเล่นอยู่ในสวนอยู่นานแล้ว
“นายหิวแล้วเหรอ” เธอหันมาถามผม
“อืม...” ผมตอบไปส่งๆ เพราะผมเริ่มเหนื่อยแล้ว
“งั้นเราก็รีบกลับกันเถอะ ฉันจะได้ไปทำกับข้าวให้นายกิน”
“หาอะไรกินก่อนเข้าบ้านก็ได้ มีร้านที่เคยไปกับพี่ฮันนี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่”
“เอาอย่างนั้นก็ได้... นายคงจะเบื่อฝีมือของฉันแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออกจะน้อยใจ
“ไม่เบื่อหรอก... วันนี้เธอคงเหนื่อยมาเยอะแล้ว” พูดจบผมก็เดินไปที่รถทันที
“ฉันดีใจนะ... ที่นายไม่เบื่ออาหารของฉัน” เธอพูดหลังจากที่อาหารเรียงรายมาเสิร์ฟครบหมดแล้ว
“พูดมากน่า... กินข้าวได้แล้ว” ผมรู้สึกเขินมากเลยเวลาที่ต้องพูดจาน่ารักต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ ทำไมนะ ทั้งๆที่ปกติแล้วผมมักจะพูดจาดีๆกับคนทั่วไป คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างไม่อายที่จะพูด แต่กับยัยผู้หญิงตรงหน้าผมคนนี้ มันถึงได้ยากเย็นนักที่จะพูดดีๆด้วย ความรู้สึกแบบนี้มันคุ้นๆ จัง เหมือนกับที่ผมไม่อยากจะปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนั้น... แม่ของผม ผมรักแม่นะ รักมาก และผมก็รู้ว่าแม่ก็รักผมมากเหมือนกัน เพียงแค่ท่านไม่มีเวลาให้ผมก็เท่านั้นที่ทำให้ผมน้อยใจท่าน เอ๊ะ!!! ผมรู้สึกอยากจะปฏิบัติกับคนที่ผมรักแบบนี้ ไม่นะ!!! ผมคงไม่ได้รักยัยบ๊องคนนี้เข้าแล้วนะ ไม่หรอก... เพราะหัวใจของผม... ผมยกให้พี่ฮันนี่ไปหมดแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะรักยัยคนนี้
“ว้าว... อิ่มจัง อร่อยด้วย อาหารไทยรสชาติดีจริงๆเลย ฉันหัดทำบ้างดีไหม” เธอพูดระหว่างที่ผมกำลังขับรถอยู่
“ตามใจสิ” ผมต้องใช้สมาธิอย่างมากที่ต้องขับรถพวงมาลัยขวา และในเวลาที่มืดๆ แบบนี้
“ที่เกาหลีจะมีที่สอนเรียนทำอาหารไทยหรือเปล่านะ... อ่อ... ฉันลืมไปได้อย่างไร ก็พี่ฮันนี่ไง คงทำเป็นหลายอย่าง ฉันไปเรียนกับพี่ฮันนี่ดีกว่า พรุ่งนี้เราชวนพี่ฮันนี่มาหาซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารไทยกันดีไหม”
“อืม...”
“นายรับปากแล้วนะห้ามเบี้ยวล่ะ ไม่รู้ตอนนี้พี่ฮันนี่จะกลับมาถึงกันหรือยัง โทรถามหน่อยดีไหม”
“โทรสิ... โทรศัพท์ของฉันน่ะ” ผมพูดแล้วก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอ
“เบอร์พี่ฮันนี่... อ่ะ... ฉันเอามือไปโดนอะไรเข้าเนี้ย นี่มัน...” เธอบ่นอะไรของเธอกันนะ ผมไม่มีสมาธิมากพอที่จะหันไปสนใจเธอจริงๆ “ถึงบ้านก็คงรู้เอง...” พูดแค่นั้นเธอก็เงียบไปตลอดทาง เป็นอะไรขึ้นมาอีกล่ะเนี้ย
“ยังไม่มีใครกลับมาเลย” ผมพูดขึ้นเมื่อเรากลับมาถึงบ้านกันแล้ว พอมาถึงบ้านปุ๊บยัยตัวแสบก็เดินขึ้นบ้านไปโดยที่ไม่คุยอะไรกับผมสักคำ เป็นอะไรอีกล่ะเนี้ย โทรถามพี่มินจุนหน่อยดีกว่า คิดได้ดังนั้นผมก็ปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผม สิ่งแรกที่เห็นคือรูปของผมที่กำลังทำแก้มป่องให้ฮัน ซาร่าจูบที่มุมปากของผม รูปนี้ผมยังไม่ได้ลบออกไปอีกเหรอเนี้ย ผมกับฮัน ซาร่าเลิกกันไปแล้วและสถานะตอนนี้ก็เป็นแค่เพื่อนกัน หรือว่าที่ยัยบ๊องเงียบไปเพราะเห็นรูปนี้อย่างนั้นเหรอ ผมเดินตามเธอขึ้นไปที่ห้องนอน เธอนั่งนิ่งอยู่ที่ระเบียงห้อง
“นายไปอาบน้ำก่อนสิ... ฉันเตรียมผ้าเช็ดตัวแล้วก็ชุดนอนให้แล้ว” เธอพูดขึ้นทันทีที่ผมเดินไปถึงตัวเธอ เธอเอ่ยปากพูดทั้งๆที่ไม่หันมามองหน้าผมเลย
“ฉันกับซาร่าไม่ได้มีอะไรกันแล้วเราเลิกกันไปนานแล้ว” ผมพูด
“งั้นข่าวที่นายกับเธอเคยคบกันก็จริงสินะ นางแบบสาวไฮโซ กับนักร้องหนุ่มหน้าเป็นวง SNOW PRINCE” เธอเดินไปเกาะขอบระเบียง
“อืม... ตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
“แต่นายก็ยังเก็บรูปเธอเอาไว้...” พูดจบเธอหันหน้ามา สีหน้าของเธอเหมือนกำลังจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา “รักเธอมากสินะ” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องนอนไปทันที อะไรกัน... อย่าบอกนะว่าเธอโกรธผม ผมก้มมองรูปก่อนที่จะกดลบมันออกไป และดูรูปในโทรศัพท์รูปอื่นๆ ว่ามีรูปผู้หญิงคนไหนแปลกปลอมอีก แล้วนี่ผมเป็นอะไรทำไมต้องลบออกด้วยเนี้ย ผมลบออกกระทั่งรูปพี่ฮันนี่ที่ผมแอบถ่ายตอนเธอยิ้ม นี่ผมทำอะไรอยู่เนี้ย หลังจากที่ลบรูปออกจนหมด ผมก็โยนโทรศัพท์ลงบนเตียงนอน ก่อนที่จะเดินออกไปตามหาเธอ ผมเดินหาเธอจนทั่วเหลือแต่ห้องครัวที่ผมคิดว่าเธอคงไม่อยู่ แต่... ผิดคาด... เธออยู่ในห้องครัว ผมแอบมองเธออยู่ที่ประตูห้องครัว เธอกำลังทำอาหารอยู่อย่างนั้นเหรอ ผมเห็นเธอทำอะไรบางอย่างกับปลา...
“ทำอะไรเหรอ” ผมเดินตรงไปที่เธอ เธอไม่หันมามองหน้าผม
“แล่เนื้อปลาเอาไว้ให้นายพรุ่งนี้ จะทำข้าวต้มปลา” เธอพูด แต่ไม่หันมามองหน้าผมเลย
“พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้นี่นา... วันนี้เธอไปอาบน้ำก่อนเถอะ” ผมพูดแล้วเข้าไปจับมีดออกจากมือของเธอ
“ทำเอาไว้วันนี้แหละ พรุ่งนี้เดี๋ยวไม่ทัน” เธอพูดแล้วก็คว้ามีดกลับมา
“ไม่ทันอะไรล่ะ ฉันไม่เหมือนจีฮุนนะ ที่จะกินก็ต้องได้กิน ฉันรอได้”
“ฉันก็แค่... อยากทำหน้าที่ภรรยาที่ดีให้นาย ก็เท่านั้นเอง... ฉันกับคุณซาร่าต่างกันทุกอย่าง เธอเป็นคนที่นายรัก เธอดีพร้อมทุกอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรเลย” เธอพูดแล้วก็หั่นเนื้อปลาอย่างเบามือ ราวกับว่ากลัวปลาที่ตายไปแล้วมันจะเจ็บ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่เธอเป็นแบบนี้
“ฉันลบทิ้งหมดแล้วนะ ไม่เชื่อก็ขึ้นไปดูเองแล้วกัน ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” พูดจบผมก็เดินออกมา ผมแอบมองเธออยู่ แต่เธอก็ไม่หันมามองผมแม้แต่น้อย แล้วผมจะง้อเธออย่างไรดีล่ะเนี้ย ผมจะถามใครได้บ้างเนี้ย พอขึ้นมาถึงห้องนอนผมก็คว้าโทรศัพท์กดโทรหาผู้ที่(น่าจะ)รู้ ปาร์ค ฮยอนอู
‘ว่าไงเพื่อน พวกฉันคงยังไม่กลับ’ ปาร์ค ฮยอนอูกรอกเสียงกลับมาทันทีที่รับสายผม
“พวกนายอยู่ไหนกันเนี้ย”
‘กินข้าวกันอยู่เพื่อน ไม่ต้องห่วงนะ นอนไปก่อนเลย’
“คือ... ฉันจะเริ่มยังไงดีล่ะ”
‘อะไรของนายวะ พูดมาซะทีสิ’ ปาร์ค ฮยอนอูเริ่มอารมณ์เสีย
“เฮ้อออ... ฉันจะทำไงดีเนี้ย ยัยบ๊อง... ฉันหมายถึงคัง จีวอนน่ะ เธอเปิดเจอรูปฉันกับซาร่า”
‘ฮ่าๆๆๆ เจ้าโง่ แล้วเธอก็งอนนายใช่ไหม’
“อย่ามาว่าฉันโง่นะ... ก็เป็นอย่างนั้นแหละ”
‘นายน่ะ... หัดพูดกับเธอดีๆบ้างสิ ภรรยาของนายน่ะ เธอแคร์นายมากนะฉันจะบอกให้ เมื่อเช้าใครชวนเธอไปไหนก็ไม่ไป เพราะกลัวนายตื่นมาไม่เจอใคร จะรอนายก่อน จีวอนน่ะแค่นายยิ้มให้เธอบ้าง เธอก็ดีขึ้นมากแล้ว ฉันว่านะ... ไม่มีอะไรๆ คิดเอาเองแล้วกัน แค่นี้นะ’ พูดจบปา ร์ค ฮยอนอูก็ตัดสายไปในทันที มันก็ไม่ได้ยากเลยนะที่จะง้อเธอคนนี้ แต่มันยากสำหรับผม... ปวดหัวจริงๆ คิดไม่ออก ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ค่อยคิดต่อว่าจะทำอย่างไร
ความคิดเห็น