คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะ... ฉันชื่อคัง จีวอน เป็นผู้หญิงที่สุดแสนจะธรรมดา เด่นเรื่องเดียวคือทำอาหาร เรียนก็พอไปได้ สุดท้ายก็ถูไถ่จนจบปริญญาให้พ่อ แม่ได้ดีใจ ครอบครัวของฉันอบอุ่นไร้ความกดดัน พ่อของฉันเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ส่วนแม่ของฉันเป็นนางพยาบาลค่ะ ช่างไม่เข้ากันเลยจริงๆ แต่ท่านทั้งสองก็รักกันมากเลยนะคะ หลังจากที่เรียนจบฉันก็ขออนุญาตพ่อและแม่อยู่เฉยไปก่อน ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นไหมล่ะ ว่าพ่อกับแม่ของฉันน่ารักแค่ไหน อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านทั้งสองก็ได้ ท่านถึงได้รักและเอาใจขนาดนี้
เมื่อ ไม่นานมานี้ฉันเห็นแถวๆ บ้านของฉันมีร้านขายไหมพรมจะมาเปิดด้วยล่ะ ฉันตั้งหน้าตั้งตารอให้เขาเปิดเร็วๆ นี่มันก็หน้าหนาวแล้วด้วย ฉันอยากถักผ้าพันคอเอง ถักให้พ่อกับแม่ด้วย ฉันรอจนร้านเปิด และไม่รอช้าที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน ว้าว... เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักจริงๆ ทั้งหน้าตา ท่าทางและนิสัยของเธอ เธอชื่อ พี่ฮันนี่ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลีเสียด้วย ไม่แปลกที่เธอจะแต่งงานไปแล้ว ฉันเคยเห็นสามีของพี่เขาแว็บๆ ด้วยล่ะ รูปร่างสูงดีจริงๆ ท่าทางจะหน้าตาดีเสียด้วย แต่... ยังไม่ทันที่ฉันจะถักผ้าพันคอเสร็จพี่ฮันนี่ก็ปิดร้านไปไหนก็ไม่รู้ยาวเลย ฉันยังไม่ทันเรียนรู้วิธีเก็บตอนจบของมันเลย ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ ฉันออกมาดูร้านทุกๆ วันนี้ก็เหมือนกัน ฉันก็ออกมาเผื่อว่าพี่เขาจะมาเปิดร้านเสียที อ๊ะ!!! นั่น... พี่ฮันนี่นี่นา... ใครมากับเธอน่ะ
“พี่ฮันนี่คะ พี่หายไปไหนมา” ฉันไม่รอช้าที่จะไปทักทายกับเธอ
“อ้าว... จีวอน พี่มีธุระส่วนตัวนิดหน่อยน่ะจ้ะ ตอนนี้โอเคแล้ว” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆของเธอ ฉันแอบมองคนที่อยู่ข้างๆ ของเธอ เขาหล่อมากเลย ขนาดใส่หมวกไหมพรมปิดผมเอาไว้หมด ใส่แว่นตาเชยๆ แต่ดูหล่อเป็นบ้าเลย
“ฉัน ไปก่อน หยุดไปยาวเลย ทุกอย่างเลื่อนไปหมด ฉันต้องไปสะสางก่อน ตอนค่ำฉันจะมารับเธอเอง อย่าไปที่ไหนกับใครล่ะ” ผู้ชายคนนั้นพูด ก่อนที่จะดึงตัวพี่ฮันนี่ไปกอด... ว้าวๆ เขาต้องเป็นสามีของพี่สาวแน่ๆเลย
“นี่!!! จะไปไหนก็รีบไปเลย ลูกค้าฉันมองอยู่นะ” พี่ฮันนี่ผลักตัวออกจากตัวสามีของเธอ
“ไม่ อยากไปเลย... ฉันยังอยากอยู่กับเธอต่อ” สามีของพี่ฮันนี่พูด เอ... เสียงเขาคุ้นหูฉันมากเลย แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหน
“ไปได้แล้ว...” พี่ฮันนี่จัดการผลักเขาเข้าไปข้างในรถ ฉันแอบเห็นพี่ฮันนี่โดนสามีของเธอจูบด้วยล่ะ น่ารักจริงๆเลย ทั้งคู่
“สามีของพี่เหรอคะ” ฉันไม่รอช้าที่จะถามให้หายสงสัย
“จ้า... เขาเหมือนเด็กๆ” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะเปิดประตูร้านเข้าไป “เธอรอพี่ก่อนนะ ขอเก็บกวาดร้านก่อน”
“ให้ฉันช่วยนะคะ” ฉันพูด
“ไม่ได้จ้า เธอนั่งรออยู่เฉยๆ เลย ไม่อย่างนั้นพี่จะไล่เธอกลับบ้าน” พี่ฮันนี่พูด
“มา มุกนี้ใครจะกล้าช่วยพี่ล่ะเนี้ย” พูดจบฉันก็นั่งลงที่โซฟารับแขก มองพี่ฮันนี่เก็บกวาดร้าน ไม่นานเธอก็เดินมาที่ฉันพร้อมกับเค้กและน้ำชาอย่างเคย
“กินอะไรมาหรือยัง” พี่ฮันนี่พูดหลังจากที่วางขนมลง
“เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ พี่หายไปนานเลย ผ้าผันคอฉันถึงไม่เสร็จเสียที” ฉันพูด แล้วก็ล้วงผลงานออกมาให้พี่ฮันนี่ดู
“ว้า ว... ฝีมือใช้ได้เลยล่ะ วันนี้พี่จะสอนวิธีเก็บก็แล้วกันนะ” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะสอนฉัน เธอช่างเป็นคนใจเย็นจริงๆเลย สมกับหน้าตาที่น่ารักๆ ของเธอ ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก
“พี่ ฮันนี่คะ พี่ดูแลตัวเองอย่างไรถึงได้ดูดีขนาดนี้เนี้ย ผมก็ยาวมากสวยด้วย ผิวก็ขาวเนียนไร้รูขุมขน ไร้แผลเป็น หน้าก็ไม่แต่งยังสวยเลย น่าอิจฉาจัง” ฉันพูดหลังจากที่เรียนรู้วิธีเก็บไหมเรียบร้อยแล้ว
“ชม พี่แบบนี้ก็เขินแย่สิ เธอก็น่ารักจ้า หน้าของเธอใสอยู่แล้ว ส่วนผมของเธอก็ดูแลแล้วก็ไว้ให้ยาวกว่านี้หน่อยก็ได้ อย่างอื่นก็โอเคแล้วล่ะ” พี่ฮันนี่พูดแล้วก็ลูบที่ผมของฉันเบาๆ
“ฉันไม่ค่อยมีความอดทนกับผมเลยค่ะพี่ มักจะรวบเอาไว้” ฉันพูดแล้วก็จับที่ผมของตัวเอง
“เธอต้องอดทน แฟนเธอไม่ชอบผู้หญิงผมยาวด้วยล่ะมั้ง”
“แฟน?? ฉันมีที่ไหนล่ะค่ะ ชอบใครก็มักจะอกหักเสมอ เพราะความเป็นฉันมันทำให้ผู้ชายไม่ชอบล่ะมั้งคะ ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เรียบร้อย คิดอะไรก็พูดออกไป คงอ่อนหวานไม่พอ ไม่เหมือนพี่”
“พี่ ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่เรียบร้อยหรอก แต่พอได้มาอยู่กับสิ่งที่เรารัก พี่ก็จะดูสงบเงียบแบบนี้แหละ ตอนอยู่ที่บ้านพี่ก็ไม่นิ่งขนาดนี้หรอกจ้ะ ยุ่งๆ กับสามีบ้าง น้องชายอีกหลายคนเลย...” พูดจบพี่ฮันนี่ก็อมยิ้ม
“พี่มีน้องชายด้วยเหรอคะ... ต้องหล่อมากแน่ๆเลย เพราะพี่น่ารักมากเลย” ฉันแอบหวังเอาไว้นิดๆ นิดหน่อยจริงๆ นะ เพราะฉันยังโสด
“หล่ออยู่แล้วล่ะน้องชายของพี่ พี่มีน้องชายตั้ง 4 คนเลยนะ เอาไว้พี่จะแนะนำให้เธอรู้จัก สักวันก็แล้วกันนะ ว่าแต่เธอชอบผู้ชายแบบไหนล่ะ”
“ฉันชอบผู้ชายที่อบอุ่น หน้าตาไม่ระบุ ไม่ไร้สาระไปวันๆ ดูแลฉันได้ก็โอเคแล้วล่ะคะ อ่อ... ที่สำคัญต้องโสดนะคะ”
“ว้า ว... มีอยู่คนหนึ่งที่เป็นแบบนั้น เขาหล่อนะ สูงมากด้วยหุ่นดีอีกต่างหาก เอาไว้พี่จะพาเขามาแนะนำกับเธอแล้วกัน รับรองเธอต้องตกใจ” พี่ฮันนี่พูดแล้วก็ยิ้ม เหมือนกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ อะไรกันนะ แต่... ฉันอยากเจอเขาคนนั้นจัง ฉันอกหักมาจนชินแล้ว จะมาอกหักเพราะน้องชายของพี่ฮันนี่อีกคนจะเป็นไรไป ใช่ไหมตัวฉัน...
“พี่ฮันนี่คะ... ฉันกลับก่อนนะคะ” ฉันเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน
“จ้ะ” พี่ฮันนี่เงยหน้าขึ้นมาจากการถักไหมพรม
“พี่ยังไม่กลับเหรอคะ”
“พี่รอสามีน่ะจ้ะ เธอกลับไปก่อนเลย”
“งั้นฉันกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ มาทุกวันเลย นะคะ”
“ได้อยู่แล้วจ้า” หลังจากล่ำลากันเรียบร้อย ฉันก็เดินออกจากร้านมา
“ว้าย!!!” ฉันเดินชนกับใครบางคนเขาอย่างจัง ตัวฉันล้มไปกองอยู่ที่พื้น แต่คนที่ฉันเดินชนยังยืนนิ่ง
“เดินดูทางบ้างสิ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉย ฉันค่อยๆ เงยหน้ามองเขา ใครกันนะหมอนี่ ช่างไร้น้ำใจจริงๆเลย เอ่อ... หล่อจัง ไม่ๆๆ หมอนี่แย่ที่สุดเลย
“นี่!!! นายสิไม่มอง” ฉันพยายามที่จะลุกขึ้น แต่... ข้อเท้าฉันมันไม่เป็นใจเลยจริงๆ “โอ๊ย...” พยายามแค่ไหนก็ลุกไม่ขึ้นฉันจึงนั่งอยู่แบบนั้น
“จะนั่งรอใครมาเก็บศพหรือไง” พูดจบหมอนั่นก็เดินตรงไปที่ร้านของพี่ฮันนี่หน้าตาเฉย... ให้ตายสิ เขาจะเข้าไปปล้นร้านพี่ฮันนี่หรือเปล่าเนี้ย
“นี่!!! อย่าเข้าไปข้างในนะเจ้าหัวขโมย” พูดจบฉันก็คว้าโทรศัพท์มือถือปาเข้าที่หัวของหมอนั่น
“โอ๊ย!!! เจ็บนะยัยติงต๊อง ใครหัวขโมยกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หัวเสีย ก่อนที่จะเดินกลับมาที่ฉัน แล้วก็ฉุดตัวฉันขึ้นด้วยมือข้างเดียวของเขา
“ว้าย!!! ปล่อยฉันนะ” ฉันพูดจบหมอนั่นก็ปล่อยตัวฉันทันที ทำให้ฉันล้มลงอีกรอบ รอบนี้เจ็บกว่ารอบแรกเสียอีกเพราะฉันนั่งทับข้อเท้าที่แพงอยู่แล้ว “โอ๊ย!!! เจ็บนะ”
“ก็เธอบอกให้ปล่อย ฉันไม่ได้เป็นหัวขโมย” พูดจบเขาก็ทำท่าจะเดินไปอีก ทีนี้ฉันรับคว้าขาของเขาเอาไว้ทำให้เขาเสียการทรงตัวและล้มลง
“โอ๊ย!!!” เขาร้องขึ้นมา พอได้เห็นร่างยาวๆ ของเขาล้มลงไม่เป็นท่ามันก็ทำให้ฉันขำขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ หาอะไรกินหรือไง” ฉันหัวเราะ เขาพยายามลุกขึ้นมานั่ง พอเขาหันหน้ามาฉันก็แทบช็อก... “คะ คะ คิม... มินแจ...” ฉันเรียกชื่อเขา ใช่แล้ว... คิม มินแจ แห่ง SNOW PRINCE จริงๆด้วย
“เสียเวลาจริงๆเลย” พูดจบเขาก็หยิบแว่นตาที่ล่วงอยู่มาใส่ดังเดิม ก่อนที่จะหันมาจับที่ต้นแขนของฉันเอาไว้แน่น
“ฉะ ฉันเจ็บนะ...” ฉันยังคงจ้องหน้าเขาอยู่
“ฉันไม่ได้เป็นหัวขโมย ฉันเป็นนักร้อง...” เขาพูดแล้วก็จ้องมาที่หน้าของฉัน
“นี่!!! นายไปนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ” ฉันหันไปมองพร้อมกับเขาทางต้นเสีย เอ๊ะ!!! ถ้าการคาดเดาของฉันไม่ผิดพลาดนั่น... คิม จุนโฮนี่นา...
“ก็ยังลิงนี่นะสิ เดินมาชนฉัน พอฉันจะไปดันปาโทรศัพท์ใส่หัวฉันเสียอีก” เขาพูดแล้วก็ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระก่อนที่จะลุกขึ้น
“เป็นอะไรไหมครับ...” คิม จุนโฮแน่ๆ เสียงก็ใช่ เขาเดินมานั่งยองๆ ตรงหน้าฉัน
“เอ่อ...” ฉันพูดไม่ออกจริงๆ เขาก้มมองที่ข้อเท้าของฉัน ก่อนที่จะใช้มือจับ “โอ๊ย!!!” ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือของเขาสัมผัสเข้าที่ข้อเท้าของฉัน
“ท่าทางข้อเท้าของคุณจะแพงน่ะครับ... ให้ผมประคองคุณไปส่งก็แล้วกัน” เขาพูด
“บะ... บ้านของฉันอยู่แถวนี้แหละค่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับเอง”
“มินแจ... นายไปบอกพี่ฮันนี่ด้วยนะว่าฉันมีธุระ” คิม จุนโฮพูดจบก็ประคองตัวฉันขึ้นมา
“คุณรู้จักพี่ฮันนี่ด้วยเหรอ...” ฉันเอ่ยปากถาม
“คุณก็รู้จักพี่สาวของผมเหรอ” เขาถามฉันบ้าง
“พี่สาว??? คุณเป็นน้องชายพี่ฮันนี่เหรอ”
“ครับ...” เขาพูดแล้วก็ยิ้ม “มันเป็นความลับนะ” ว้าว... อบอุ่นดีจังเลยผู้ชายคนนี้
“ค่ะ...” ฉันเหมือนตัวเองต้องมนต์สะกดอย่างไงอย่างนั้นแหละ
“ถ้าอย่างนั้นไปปฐมพยาบาลที่ร้านก่อนดีกว่านะครับ” เขาพูดแล้วก็หันไปมองหน้าเจ้าตัวการ “นายช่วยถือของเธอให้ด้วยนะ ถ้าฉันเดาไม่ผิดผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นคนสำคัญที่พี่ฮันนี่พูดถึง” พูดจบเขาก็ประคองฉันกลับไปที่ร้านไหมพรมของพี่ฮันนี่
“อ้าว... จีวอนเกิดอะไรขึ้นกับเธอ” พี่ฮันนี่รีบวางไหมพรมในมือแล้วก็ตรงมาประคองฉัน
“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” ฉันพูด
“เกิดอะไรขึ้นจุนโฮ” พี่ฮันนี่หันไปมองหน้าคิม จุนโฮ เขาคือคิม จุนโฮจริงๆด้วย เขาถอดหมวกออก ฉันแอบหันไปมอง ว้าว... ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีเสียอีก
“ต้องถามหมอนั่น” คิม จุนโฮหันไปมองคนที่กำลังถือข้าวของของฉันเขามา ก่อนที่จะโยนมันลงข้างๆตัวของฉัน
“มินแจ!!! เสียมารยาทจริงๆเลย” พี่ฮันนี่หันไปตำหนิเขา สมน้ำหน้า
“ยัยนี่เดินมาชนผมเอง แถมยังเอาโทรศัพท์มือถือของเธอปาที่หัวผมอีก ไม่รู้จะแตกไหม เพราะโทรศัพท์มือถือของเธอแตกไปแล้ว” คนโดนปาโทรศัพท์มือถือใส่คลำที่หัวตัวเองปรอยๆ
“ให้ตายสิ...” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะเดินไปผลักให้หมอนั่นมานั่ง... ข้างๆ ฉัน “ไหนพี่ดูหัวนายหน่อยสิ” พี่ฮันนี่จัดการถอดหมวกของเขาออก
“โอ๊ย... เบาๆ หน่อยสิครับ...” เขาบ่น
“บวม... มาก... มีเลือดออกมานิดหน่อย ไม่เป็นไรหรอกลูกผู้ชาย เดี๋ยวพี่ทำแผลให้” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะหันมายิ้มให้ฉัน “เธอก็แรงดีเหมือนกันนะเนี้ย”
“แหะๆๆ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะค่ะ นิดหน่อย... นิดหน่อยจริงๆ” ฉันพูดยิ้มๆ ก่อนที่จะแอบหันไปมองหน้าคนข้างๆ เขาเหล่ตามองฉัน
“นิดหน่อยเหรอ... ฉันเอาโทรศัพท์ของฉันปาหัวเธอดูหน่อยเป็นไง” เขาพูดแล้วทำตาขวางใส่ฉัน
“ขอโทษ... แต่นายก็ปล่อยให้ฉันล้มเหมือนกัน” ฉันพูด
“แล้วใครกันที่บอกให้ฉันปล่อย...” เขาพูด
“ก็ฉันกลัว...”
“เอาล่ะๆๆ พอได้แล้ว เลิกทะเลาะกันได้แล้ว เดี๋ยวพี่ทำแผลให้มินแจก่อน แล้วค่อยนวดข้อเท้าให้เธอนะคัง จีวอน” พี่ฮันนี่พูดห้ามทัพเอาไว้
“เดี๋ยวผมนวดข้อเท้าให้เธอเองครับ” คิม จุนโฮพูด
“อ่อ... ดีเลยจ้ะ” พี่ฮันนี่พูดก่อนที่จะเดินไปหยิบกล่องยามา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณคิม จุนโฮ เดี๋ยวฉันนวดเอง” ฉันพูดเมื่อคิม จุนโฮก้มลงจับที่ข้อเท้าของฉัน
“ให้เขาทำให้เถอะ... เธออยู่นิ่งๆก่อน เดี๋ยวจะเจ็บไปกันใหญ่” พี่ฮันนี่ที่กำลังทำแผลให้เจ้าวายร้ายอยู่หันมาคุยกับฉัน
“รอฉันทำให้ก็ได้นะยัยลิง ฉันจะหักข้อเท้าเธอทิ้งซะ” เจ้าวายร้ายยังไม่วายมาดุฉัน
“มินแจ... นายนี่ยังไงเนี้ย จีวอนเป็นผู้หญิงนะ ใจดีกับเธอหน่อยสิ” พี่ฮันนี่พูด
“อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลยครับ เธอไม่ใช่คน เธอเป็นลิงต่างหาก” เขาพูด ฉันคว้าหลอดยานวดขึ้นมาปาใส่ที่อกของเขาทันที “โอ๊ย!!! ยังจะมาทำร้ายฉันอีกนะยัยลิง” เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาทางฉัน
“พอได้แล้วมินแจ...” พี่ฮันนี่คว้ามือของเขาไปเสียก่อน “จุนโฮ... พาจีวอนไปทายาทางโน้นไป” พี่ฮันนี่ชี้ไปที่โต๊ะนั่งเรียนถักไหมพรม
“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ขืนอยู่ใกล้กันมีหวังได้อีกแผลแน่ๆ” คิม จุนโฮพูดก่อนที่จะประคองฉันเดินไป และจัดการนวดยาที่ต้องแย่งมาจากมือเจ้าวายร้ายที่นั่งหัวแตกอยู่มานวดให้ฉัน
“ขอบคุณมากนะคะคุณจุนโฮ” ฉันพูดเมื่อเขาผันผ้าที่ข้อเท้าฉันเรียบร้อยแล้ว
“เรียกพี่จุนโฮสิจีวอน เขาอายุมากกว่าเธอหนึ่งปี” พี่ฮันนี่พูดขึ้น
“พี่จุนโฮ...” ฉันลองเรียกเขาดู เขาหันมายิ้มให้ฉัน
“ส่วนโน้นก็ พี่มินแจของเธอ” พี่ฮันนี่หันไปมองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินเค้กอยู่
“ให้เรียกหมอนั่นว่าพี่เหรอคะ??? ฉันเรียกไม่ลงหรอกค่ะ” ฉันพูดเสียงดัง เขาวางซ้อมลงแล้วหันมามองหน้าฉัน
“ไม่ต้องเรียก ฉันเองก็ขนลุกเหมือนกัน” เขาพูดก่อนที่จะหันไปสนใจเค้กต่อ ฉันเบ้ปากใส่เขา คนอะไรช่างไม่น่ารักเอาเสียเลยให้ตายสิ
“กลับบ้านได้แล้ว...” เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นพร้อมเสียงพูดของใครบางคน เขาเดินเข้ามา
“มาแล้วเหรอ” พี่ฮันนี่พูดทักทาย เขาเดินตรงมาที่เรา
“สาวน้อยคนนี้ใครกัน อ่อ... ผู้หญิงที่เจอเมื่อเช้านี่นา หรือว่าคนนี้คือลูกศิษย์ที่เธอพูดถึง” เขาเดินมาถึงก็คว้าเอวของพี่ฮันนี่ไปกอด ว้าว... ต้องใช่แน่ๆ พี่มินจุนสุดหล่อ...
“ใช่แล้ว... คัง จีวอน” พี่ฮันนี่หันไปคุยกับเขาก่อนที่จะหันมามองหน้าฉัน “เขาคือสามีของพี่เองจ้ะ” พี่ฮันนี่พูดแล้วยิ้ม อะไรนะ!!! คิม มินจุนแห่ง SNOW PRINCE คือสามี ของพี่ฮันนี่อย่างนั้นเหรอ ตายแล้ว... เขาจัดการถอดแว่นตาและหมวกไหมพรมออก ทำให้ฉันได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างชัดเจน เขาเป็นคนจริงๆเหรอเนี้ย... จริงอย่างที่ใครๆ เขาว่าไว้ว่าพี่มินจุนเป็นดังรูปปั้นเดินได้
“น้ำลายไหลแล้วยัยลิง” เสียงทำลายบรรยากาศดังขึ้นพร้อมกันเค้กก้อนโตยัดเข้าปากฉัน
“แค่กๆๆ” ฉันสำลักเค้กที่โดนยัดไป ทำให้เค้กกระเด็นใส่หน้าคนก่อเรื่อง
“เฮ้ย!!! สกปรกจริงๆ เลยเธอเนี้ย” เขาโวยวายขึ้นมา พร้อมกับเสียงหัวเราะของคนที่เหลืออยู่
“นายไปแกล้งจีวอนก่อน” พี่จุนโฮพูด
“เธอนะเธอ!!!” เขาพูดก่อนที่จะเดินหนีเข้าห้องน้ำไป
“ฉันผิดอย่างนั้นเหรอคะ” ฉันหันไปมองหน้าพี่ฮันนี่
“เธอไม่ผิดหรอกจ้ะ เขาแหละผิด” พี่ฮันนี่ชี้ไปทางห้องน้ำ
“คนอะไรก็ไม่รู้ อย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย” ฉันพูด
“เกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะจ๊ะคัง จีวอน” พี่ฮันนี่พูด ก่อนจะเข้ามาประคองฉันให้เดินไปนั่งที่โซฟา “พี่มีเรื่องต้องพูดให้เธอเข้าใจ” พี่ฮันนี่ทำสีหน้าจริงจังอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าฉันเดาไม่ผิดมันต้องเกี่ยวกับเรื่องของ SNOW PRINCE เป็นแน่แท้ และก็จริงอย่างที่คิด
เธออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามีและพี่จุนโฮ ว่าพ่อของเธอและพี่จุนโฮเป็นเพื่อนของพ่อพี่มินจุน เธอเป็นลูกคนละแม่กับพี่จุนโฮ แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อของพี่ฮันนี่จะต้องมาแต่งงานกับแม่ของพี่จุนโฮเลยทำ ให้พ่อของพี่ฮันนี่ไม่สามารถอยู่กับเธอและแม่ได้ ดังนั้นพ่อของพี่ฮันนี่เลยขอให้พ่อของพี่มินจุนจดทะเบียนรับรองบุตรให้กับ พี่ฮันนี่ ต่อมาพอแม่ของพี่ฮันนี่เสียชีวิต ครอบครัวของพี่มินจุนจึงรับเธอมาอยู่ด้วย และเกิดความรักขึ้น พ่อแม่ของพี่มินจุนรักพี่ฮันนี่มากเลยยินดีที่จะให้ทั้งคู่แต่งงานกันอย่าง ลับๆ รอเวลาที่จะเปิดเผย แต่ไม่ใช่ตอนนี้
“ว้าว... โรแมนติกจังเลยค่ะ” ฉันพูดขึ้นเมื่อพี่ฮันนี่พูดจบ
“ประเด็นคืออย่าปากโป้ง” คนที่พึ่งออกจากห้องน้ำมาพูดขึ้น “พี่คิดอย่างไรถึงได้เล่าให้ยัยลิงนี้ฟังกันนะพี่ฮันนี่” เขาพูดต่อ
“ดูนายจะหยาบคายกับเธอจังเลยนะมินแจ” พี่มินจุนที่นั่งอยู่ข้างๆ ของพี่ฮันนี่หันไปตำหนิหมอนั่น สมน้ำหน้า...
“ไม่รู้สิครับ... เห็นหน้ายัยนี้แล้วหงุดหงิด” เขาพูดก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างๆ พี่จุนโฮ
“เอาล่ะๆ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” พี่ฮันนี่พูด ก่อนที่จะหันมามองหน้าฉัน “จีวอนจ๊ะ พี่ไว้ใจเธอมากนะถึงได้บอกเรื่องนี้กับเธอ...”
“รับรองได้ว่าฉันจะไม่เอาไปบอกใคร กระทั่งพ่อและแม่ของฉันก็จะไม่บอกค่ะ ฉันสัญญา” ฉันพูด
“ขอบใจนะจ๊ะที่เข้าใจเรา” พี่ฮันนี่พูด
“ฉันว่าเรากลับบ้านกันก่อนดีกว่าไหม... ฉันหิวแล้ว” พี่มินจุนพูดก่อนที่จะซบลงที่ไหล่ของภรรยาของเขา ว้าว... น่ารักจัง ทำไมนะ... ฉันน่าจะอิจฉาพี่ฮันนี่ที่ได้ครอบครองผู้ชายที่เปรียบพร้อมคนนี้ แต่ฉันกลับยินดีที่เป็นพี่ฮันนี่ เพราะเธอเป็นพี่สาวที่น่ารักของฉันสินะ...
“จุนโฮไปส่งจีวอนที่บ้านก็แล้วกันนะ พี่กลับบ้านไปทำอาหารไว้รอ” พี่ฮันนี่พูดขึ้น
“ผมเอามอร์เตอร์ไซด์มาน่ะสิ” พี่จุนโฮพูด
“ไม่เป็นไรค่ะ บ้านอยู่แค่นี้เอง ฉันไปเองได้” ฉันรีบพูดขึ้น
“ไม่ได้หรอกเธอยังเจ็บอยู่... มินแจไปส่งเธอที่บ้านก็แล้วกัน อย่าทำอะไรเธอ อย่าบ่น ไม่งั้นนายไม่ต้องกลับมาที่บ้านพี่เลย” พี่มินจุนออกคำสั่งโดยเด็ดขาด
“ก็ได้ครับ...” เขาพูดก่อนจะเข้ามาฉุดต้นแขนของฉัน “ไปกันได้แล้ว” พูดจบเขาก็ฉุดฉันไปที่รถของเขา รถสปอร์ตเปิดประทุนคนสีดำ ว้าว... สวยจัง เขาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ก่อนที่จะยัด... ขอย้ำว่ายัด ฉันเข้าไปด้วยความรุนแรง
“ฉันเจ็บนะ” ฉันพูด
“เก็บเท้าของเธอด้วย ไม่อย่างนั้นฉันปิดประตูใส่จริงๆด้วย” เขาพูด ฉันเชื่อว่าหมอนี่ปิดประตูรถทับเท้าของฉันได้จริงๆ ฉันจึงรับเก็บเท้าเข้ามาในรถ “บ้านอยู่ไหน” เขาพูดขึ้นเมื่อเข้ามานั่งข้างๆฉัน
“ตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว” ฉันพูด เอาล่ะ วินาทีนี้ต้องสงบปากสงบคำเอาไว้เป็นดีที่สุด เกิดหมอนี่บ้าขึ้นมาก หักคอฉันทิ้งไว้แถวนี้จะทำไง ตอนนี้พี่ฮันนี่ พี่มินจุนและพี่จุนโฮก็ไม่มีใครอยู่ปกป้องฉันแล้วด้วย
“ลงไป” เขาพูดเมื่อมาหยุดรถอยู่ที่หน้าบ้านของฉันเรียบร้อยแล้ว
“รู้แล้วล่ะน่า...” ฉันค่อยๆ เดินออกไป “โอ๊ย..." ฉันไม่สามารถเหยียบเท้าลงที่พื้นได้เลย
“น่ารำคาญจริงๆเลย” เขาบ่นก่อนที่จะเดินลงมาจากรถ และเดินอ้อมมาทางฉัน
“ฉะ ฉันเดินเองได้” ฉันพูด
“ถ้าได้เธอคงลงไปแล้ว” พูดจบเขาก็กระชาก... ใช่แล้ว เรียกว่ากระชากน่ะถูกแล้ว เขากระชากฉันออกจากรถก่อนจะฉุดให้ฉันเดินตามไปที่หน้าประตู “ไม่มีใครอยู่เหรอ”
“แม่ฉันคงกลับมาแล้วล่ะ” ฉันเอื้อมมือไปกดกริ่ง
“กลับบ้านแล้วเหรอจีวอนของแม่” แม่เดินออกมาทักทายด้วยน้ำเสียงที่ใจดีเหมือนเคย “อุ๊ยตาย... ลูกพาใครมาด้วยน่ะ หล่อมากเลย อย่างกับพระเอกหนังเลย” แม่พูดเมื่อเห็นหน้าคนมาส่งฉัน
“สวัสดีครับ... ผมมาส่งคัง จีวอนน่ะครับ พอดีกว่าเธอประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยข้อเท้าเธอพลิกน่ะครับ” เขาพูดจาสุภาพมากๆ กับแม่ของฉัน
“ขอบใจมากนะจ๊ะที่มาส่งลูกสาวของแม่ ไปดื่มชาข้างในก่อนสิจ๊ะ” แม่พูด
“เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับ วันนี้ผมต้องกลับแล้ว” เขาพูดแล้วทำทีส่งตัวฉันให้แม่
“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ ต้องมาให้ได้นะ แม่จะทำอาหารเย็นเลี้ยงเธอ” แม่รับตัวฉันจากเขา
“ครับ ผมจะมาให้ได้” เขาพูดจบก็ลากลับไปทันที ส่วนฉันก็ให้แม่ประคองขึ้นห้องนอนมา เพราะเหนื่อยเหลือเกินแล้ววันนี้
“นี่... เขาหล่อมากเลยนะ” แม่ฉันเปิดประเด็นทันทีที่พาฉันมาถึงห้องนอนแล้ว
“แม่เห็นหน้าเขาชัดแล้วเหรอถึงบอกว่าเขาหล่อ เขาทั้งใส่แว่นตาทั้งใส่หมวกเลยนะ” ฉันพูด
“ก็ขนาดทั้งใส่แว่นตา ทั้งใส่หมวกแม่ยังดูว่าเขาหล่อเลย ถ้าถอดออกจะขนาดไหนนะเนี้ย” แม่พูดแล้วก็นั่งลงที่เตียงนอนของฉัน
“ช่างเถอะค่ะแม่... ถึงอย่างไรก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ”
“อะไรกัน... แม่ชวนเขามากินข้าวบ้านเราแล้วเขาก็รับปากแม่แล้วด้วย ลูกต้องพาเขามากินข้าวบ้านเราให้ได้นะ”
“แม่คะ...”
“เอาล่ะๆ แม่ไม่กวนลูกแล้วก็ได้ ถ้าอยากได้อะไรก็เรียกแม่ก็แล้วกัน” พูดจบแม่ก็เดินออกจากห้องไป ให้ตายสิเจ้าหมอนั่นเป็นคนร้ายกาจขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย ใจร้ายที่สุดเลย ช่างต่างจากพี่มินจุนสามีของพี่ฮันนี่เหลือเกิน อ่อ... ต่างจากพี่จุนโฮด้วย แล้วปาร์ค ฮยอนอูกับคัง จีฮุนจะเป็นคนอย่างไรกันนะ
ความคิดเห็น