คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ..... Sure ..... 6 รักครั้งใหม่ ท้องฟ้า เเละ ดวงดาว
Sure . มั่นใจว่านายเคยรักฉัน
4
“สวัสดีครับ คุณ คิบอม” ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับคิบอม เอ่ยน้ำเสียงทุ้มเพื่อเป็นการทักทาย
“สวัสดีครับ คุณ
“ไม่หรอกครับ คุณพ่อส่งผมมาแทน หวังว่าคุณคงจะไม่ว่าอะไรนะครับ” คำพูดดูจริงใจ แต่สีหน้ากลับแสดงความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน
“ผมจะไปบังอาจว่าลูกชายของท่านประธานบริษัท ฮัน ไรท์เวอร์ซั่นได้อย่างไรกันหล่ะครับ เกิดว่าท่านอนาคตประธานบริษัทไม่พอใจขึ้นมาแล้ว บริษัทเล็กๆอย่างผมจะไปอยู่รอดได้ยังไงกันครับ” แน่นอนถ้าไม่มีแขกเหรื่อในงานมากมายขนาดนี้คิบอมคงไม่มีทางญาติดีกับผู้ชายตรงหน้าแน่
“ก็เกินไปครับ ฮัน ไรท์เวอร์ซั่นอาจจะยิ่งใหญ่จริงในจีน และไต้หวัน แต่ถ้าไปทางยุโรป ฮัน ไรท์เวอร์ซั่น ก็แทบเทียบ คิม ไนท์เซอร์ ไม่ได้หรอกครับ”
“แต่ยังไง ฮัน ไรท์เวอร์ซั่น ก็เป็นบริษัทที่มีมานาน แล้วก็เป็นที่เกรงขาม ยังไง บริษัท น้องใหม่อย่าง คิม ไนท์เซอร์ ก็ต้องให้ความเคารพอยู่ดีนั่นหล่ะครับ”
“ครับๆ ยังไงต้องขอบคุณนะครับ ผมเข้างานก่อนดีกว่า ไว้เดี๋ยวไปเจอกันในงานนะครับ” ชายหนุ่มจับมือกับคิม คิบอม ความจริงน่าจะเรียกว่าการบีบมือมากกว่าการจับมือด้วยซ้ำมั้ง จากนั้นก็เดินหันหลังเข้าไปในงาน
คนเรานี้คำพูดกับสีหน้า แสดงให้เห็นนิสัยจริงที่ซ่อนอยู่ภายในเลยแหะ กี่ปีผ่านไปนายก็ยังนิสัยเหมือนเดิมนะ ฮันกยอง ร่างสูงได้แต่แก่นด่าคนที่เดินผ่านไปเมื่อตะกี้อยู่ภายในใจเงียบๆ แต่ในที่สุดคิบอมก็เลือกที่จะไล่ความคิดนั้นออกไป เดินไปทักทายแขกผู้ใหญ่ในงานต่อ
ส่วนดงแฮนั้นถึงแม้จะเคยออกงานสังคมที่บริษัทอยู่บ้าง แต่ทุกครั้งก็จะมีเพื่อนมาเดินด้วย หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็อาจจะเจอคนรู้จักอยู่ในงานพอให้อยู่คุยด้วยได้บ้าง แต่งานนี้ร่างบางไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าใครสักคนที่อยู่ในงาน ส่วน คิม คิบอม ก็มัวแต่ออกไปตอนรับแขกจนกลายเป็นว่า ดงแฮต้องอยู่ในงานโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ควรรู้จักใคร หรือควรจะทักทายใคร
ร่างบางเดินเลี่ยงผู้คนออกมาจนถึง ริมสระน้ำด้านหนึ่งที่ไม่มีผู้คนอยู่เลย ดงแฮเดินออกไปยืนริมสระน้ำนั้น ถ้ามองออกไปอีกฝากก็จะเห็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้น ร่างบางมองไปยิ่งสิ่งที่ตนเห็น แล้วก้มลงมองดูตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเนือยๆ
คำถามมากมายเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งภายในจิตใจ ทำไม เค้าต้องมายืนอยู่ตรงนี้ ทำไม ต้องมาอยู่ในบ้านหลังใหญ่อย่างนี้ ทั้งที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการสร้างหรือแม้แต่เป็นทายาทเลยแม้แต่น้อย ทำไม ตัวเองต้องมาใส่ชุดเดรสรองเท้าผู้หญิงขนาดนี้ ทำไม ต้องมาทำเป็นคนรักของคนที่ตัวเองไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อ ทำไม ..
“นี่ เธอที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ” ความคิดของดงแฮสะดุดลงเพราะเสียงหวานของชายคนนึงดังขึ้น ดงแฮหันไปมองรอบด้าน เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงนั้นเรียกตัวเอง แต่แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่าที่วนเวียนอยู่รอบตัว
“นายเรียกฉันหรอ” ถามย้ำกลับไปอีก ก็งานนี้น่ะเข้าไม่รู้จักใครเลยแล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนมาเรียก จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงหล่ะ
“ใช่ ฉันเรียกเธอน่ะแหละ มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไม ไม่เข้าไปในงานหล่ะ อ๊ะ โฮยอน” ชื่อนี้อีกแล้ว นอกจากคิบอมแล้วยังมีคนมาเรียกฉันอย่างนี้อีกหรอ อะไรกัน ฉันชื่อ ลี ดงแฮเว้ย เรียกให้มันถูกคนหน่อยได้มั้ย
“ขอโทษนะ ฉันชื่อ ลี ดงแฮ” หนุ่มน้อยคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ฉันยิ่งขึ้น พอเขาเดินเข้ามาจนถึงแสงไฟแล้ว ฉันก็เห็นหน้าเค้าได้ชัด ยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่ฉันคิดขึ้นมาได้คือ หล่อ !! ผู้ชายคนนี้หล่อมาก จะพูดว่าหล่อแบบเข้มอย่างนั้นเลยมันก็ไม่ใช่หรอกนะ เพียงแต่ผู้ชายคนนี้หน้าตาหวานมาก ดวงตาคมสีดำใส แต่มีแววอ่อนโยนอยู่ภายใน จมูกโด่งสวย ริมผีปากได้รูปสีอมชมพู ขับกับใบหน้านวลขาวเป็นอย่างดี หนุ่มน้อยอยู่ภายในชุดสูทสีดำที่เพิ่มความเท่ห์ให้กับคนใส่ได้เป็นอย่างดี ถ้าถามฉันนะ หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ได้หล่อแบบสวยอย่าง คิม ฮีชอล แห่ง Super Junior หรือ แบบ ยองอุง แจจุง แห่ง ดงบังชิงกิ แต่เขาหล่อแบบ โรแมนติกแมน มากกว่า พูดแล้วชักเคลิ้มสิ
“ดงแฮ งั้นหรอ อืม ฉันชื่อ คิม จองฮุล เรียกว่า จองฮุลเฉยๆก็ได้” หนุ่มน้อยยื่นมือออกมาเพื่อที่จะจับทักทายกับฉัน ฉันก็ทักทายกับเขาน่ะสิ มือนิ่มยังกะผู้หญิงเลยแหะ ผู้ชายอะไรหว่า “ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงนู้นกันเถอะ” หนุ่มน้อยชี้ไปที่เก้าอี้ม้านั่งสีขาวที่ไม่ได้ถือว่าอยูในมุมมืดมากนัก จากนั้นก็เดินนำฉันออกไป การเดินของฉันเมื่อเทียบกับผู้ชายตรงหน้าแล้วต่างกันมาก เพราะอะไรน่ะหรอก็ไอชุดเดรสที่ใส่อยู่นี่แหละ ถึงแม้ว่าปลายมันจะกว้างอยู่ก็เถอะ แต่ว่าลมที่พัดมานี่อ่ะดิ พัดที่กระโปรงเปิด เดินแล้วเสียวๆยังไงไม่รู้ ก็คนมันไม่ชินนี่ ปกติก็ใส่แต่กางเกง รองเท้าคัตชูนี่อีกดันจะมีส้นขึ้นมาทำไมก็ไม่รู้แค่กระโปรงอย่างเดียวก็จะแย่แล้ว นี้ยังต้องมาสู้กับส้นรองเท้าอีก เฮ้ย ดงแฮอยากบ้าตาย
“บรรยากาศ แถวนี้ สบายดีเนาะ” หนุ่มน้อยถามฉันขึ้นมา ความจริงฉันไม่ควรจะเรียกเขาว่าหนุ่มน้อยแล้วสิ ก็เขาชื่อ จองฮุลนี่
“ก็ดีนะ” ฉันพูดจบก็เอาแต่นั่งมองสร้อยข้อมือที่ตนเองใส่อยู่อย่างใจเย็น
“คิบอมบอกเธอหรือเปล่าว่าวันนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงาน” ทันทีที่ฟังประโยคจบ ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้านายจองฮุลทันที จองฮุลจ้องฉันอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับแววตาที่แฝงไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถอ่านออก
“ขอโทษนะ ฉันเป็นผู้ชาย” ตอนแรกก็กะจะอาละวาดใส่นายนี่นั่นแหละ แต่พอเจอกับสายตีที่เขามองมาที่ฉันแล้วรู้สึกทำไม่ลงยังไงไม่รู้
“งั้นหรอ” นายจองฮุลบอกด้วยสีหน้าไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น นี่นายไม่คิดจะรู้สึกผิดเลยเหรอไง “ฉันว่าเรากลับเข้าไปในงานกันเถอะ เดี๋ยวคิบอมมันจะออกมาตามหานาย”
“แต่ว่าฉันยังไม่อยากกลับเข้าไปในงานเลยนะ”
“ทำไมหล่ะ ดงแฮ” คำถามสั้นตอกกลับมาความจริงฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงไม่อยากกลับเข้าไปที่งาน คงเป็นเพราะที่ตรงนี้มันสบายมั้ง อีกอย่างพอมีเพื่อนคุยแล้วก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
“ไม่รู้สิ” ฉันตอบนายจองฮุลกลับไปด้วยน้ำเสียงสูงนิดๆ
“ทำไมถึงไม่รู้หล่ะ นั่นมันเป็นความรู้สึกของนายไม่ใช่หรอ”
“นี่ บางครั้งคนเราก็อาจจะคิดโดยที่ไม่ต้องใช้เหตุผลไปซะทุกอย่างก็ได้หรอกนะ” ฉันตอกกลับเขาไปด้วยน้ำเสียงตำหนินิดๆ
“ฉันถามนายว่า นั่นมันความรู้สึกของนายไม่ใช่หรอ ไม่ใช่นั่นมันความคิดของนายไม่ใช่หรอ”เขาตอกฉันกลับโดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ท้องฟ้าสีดำมืดสนิท ก็ฉันมันไม่ได้มีอารมณ์สุนทรีย์ถึงความรู้สึกเหมือนนายนี่ แล้วอีกอย่างนะฉันไม่สามารถพอที่จะอธิบายความรู้สึกของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้หรอกนะ
“ไม่รู้น่ะสิ” วันนี้คงได้แต่จะตอบเพียงแต่ว่า ไม่รู้อย่างเดียวน่ะสิฉัน เฮ้อ อยากบ้าตาย
“งั้นลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสิ มันมีความรู้สึกอะไรแฝงอยู่” เขาหันมามองหน้าฉันครั้งนึง เป็นเชิงว่าให้ลองทำแบบที่เขาพูดดูสิ ฉันเลยตัดสินใจหันหน้าไปมองท้องฟ้า ฉันมองท้องฟ้าสีดำมืดสนิทนั้นอยู่นานแสนนาน ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความรู้สึกอะไรแฝงอยู่ ส่วนจองฮุลก็มองท้องฟ้านั้นราวกับเป็นจอหนังโปรเจ็คเตอร์ที่ฉายรูปและเรื่องราวต่างๆอยู่มากมาย “เป็นไงรู้สึกถึงความรู้สึกอะไรบ้าง” เขาหันหน้ากลับมาถามฉันอีกครั้งนึง ฉันได้แต่ส่ายหน้ากลับไปให้เขาน้อยๆ
“ฉันไม่เห็นจะรู้สึกเลยว่ามันมีอะไรอยู่เลย” ฉันตอบเขากลับไป จองฮุลหันกลับมามองหน้าฉัน
“แต่ฉันเห็นนะ ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ท้องฟ้าเหมือนมีความสุข แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์ในขณะเดียวกัน เหมือนดีใจกับสิ่งนั้นแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน” ฉันว่ารู้สึกเหมือนนั่งอยู่กับคนที่ไม่ค่อยจะเต็มบาทเท่าไหร่เลยอ่ะ (แฟนคลับพี่จองฮุลอย่าฆ่าไรท์เตอร์) ใครที่ไหนจะรู้สึกถึงความรู้สึกของท้องฟ้า นี่ชีวิตจริงนะไม่ใช่นิยายแฟนตาซีที่พวกเซ็นทอร์มองไปบนท้องฟ้าแล้วจะเห็นดาวแห่งความเจ็บปวดและความสุข หรือเห็นเทพีแอโฟรไดทีเทพีแห่งความรักกำลังโคจรรอบดาวศุกร์อยู่อะไรอย่างนี้ นายนี่ถ้าจะอ่านนิยายมากเกินไปมั้ง
“ฉันว่าเรารีบกลับเข้าไปในงานกันเถอะ” ฉันว่าตอนนี้ทางที่ดีที่สุดคือฉันควรจะออกห่างจากตาจองฮุลนี่ใช่ไหมเนี่ย ฉันลุกขึ้นพร้อมไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณเขาที่มานั่งคุยอยู่เป็นเพื่อนฉัน จากนั้นก็รีบสาวเท้าออกจากนายนี่ให้เร็วที่สุด กลัวว่าเกิดอากอารคลุ้มคลั้งขึ้นมา แล้วจะทำร้ายหน้าตาหล่อๆ (สวย) อย่างฉันซะพังหมด
“แต่ฉันเห็นนะ ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ท้องฟ้าเหมือนมีความสุข แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์ในขณะเดียวกัน เหมือนดีใจกับสิ่งนั้นแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน” รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไปมันงี่เง่าแค่ไหน ฉันไหมหวังหรอกว่าจะให้เธอเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด ไม่หวังหรอกว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันพยายามจะสื่อสาร
เพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอในครั้งแรก ฉันก็แปลกใจที่จู่ๆ ก็มีความรู้สึกดีๆ พุ่งขึ้นมาจากก้นลึกของจิตใจ ความรู้สึกที่ไม่เคยมีให้ใครอีกเลยตั้งแต่ที่เธอคนนั้นจากไป เธอเหมือนกับโฮยอนทุกอย่าง แต่มีอย่างนึงที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ใช่โฮยอน หัวใจดวงน้อยๆของเธอที่ทำให้ หัวใจของฉันที่ด้านชากลับมามีความรู้สึกนี้อีกครั้ง ฉันไม่เข้าใจตัวเองสักนิด ทั้งที่ฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะชอบโฮยอนเลย แต่พอเห็นเธอเหมือนกับฉันได้เจอสิ่งสวยงามอีกครั้ง สิ่งสวยงามที่ไม่อยากจะปล่อยให้ใคร สิ่งสวยงามที่อยากจะครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่จะทำยังไง เมื่อ สิ่งสวยงามนั้นมันไม่ใช่ของฉัน
Talk
ขอโทษมากมายเลยนะที่ไรท์เตอร์ดอง ไรท์เตอร์ไม่ได้ตั้งใจจะดองอ่ะนะ แต่ว่าไรท์เตอร์เหนื่อยมากเลย
เพิ่งสอบเสร็จ แต่ก็ต้องไปทำงานอีกกว่าจะผ่านแทบตายแล้ววันจันทร์ไรท์เตอรก็มีงานต้องทำต่อ ไม่จริ๊งงงงงงงงง
เหนื่อยจริงๆนะคะ เฮ้อ ไม่เป็นไรแต่ว่าถ้าทุกคนมีความสุข ก็โอเคนะ
เออ สำหรับ คห. นึงที่มีคำถามมานะ เอาหล่ะ ไรท์เตอร์จะตอบให้
สำหรับคำตอบก็จะอยู่ในเนื้อเรื่องนั่นแหละ จะบอกให้นะว่าจะอยู่ตอนกลางๆหรือเกือบปลายเรื่องแล้วแหละ ต้องติดตามกันต่อไป ว่าคำตอบ คืออะไร
สำหรับเพื่อนทุกคนวันที่ 29 เอสเจ มาแล้วใช่ไหมหล่ะ
ไรท์เตอร์อยากไปนะแต่ไปไม่ได้ เศร้าจัง แต่ไม่เป็นไร ยังไงเจอกันที่คอมก็ได้
เพื่อนๆทุกคนสู้ๆนะคะ อดทนต่อไปเพื่อโอปป้า ของเรา
เชื่อเอาไว้ว่า โชคชะตา นำเค้ามาพบกับเราแล้ว เค้าจะอยู่กับเราตลอดไป ถึงแม้ว่าเค้ากับเราจะเป็นเส้นขนาน
แต่เราจะรักเค้าด้วยหัวใจทั้งหมด เราจะเชื่อมั่นในเค้า จนกว่าที่เค้าจะบอกให้เราเลิกเชื่อมั่นในตัวเค้า
With all my heat
นะคะ
ความคิดเห็น