ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย ดวงใจแห่งเวทย์ ~FicSuJu~[-{ Yaoi}-]

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 7 : เอาใจ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 51


     

     

    บทที่ 7 : เอาใจ

     

    คุณฮีซอลอยู่ปีไหนเหรอคะ เซเลน่าถามเสียงใส ใบหน้าอ่อนหวานช้อนตาพลางปรายยิ้มน่ารักให้เป็นระยะ

     

    ปีสี่แล้วครับ

     

    ถ้าอย่างนั้นคุณฮีซอลก็เป็นรุ่นพี่สินะคะ ถ้าอย่านั้นเซเลน่าเรียกว่า พี่ฮีซอล จะรังเกียจมั้ยคะ เธอเสียงด้วยน้ำเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความหวังจนฮีซอลเองก็ปฏิเสธไม่ลง

     

    ไม่หรอก

     

    ดีจริง อย่างนี้เซเลน่าจะได้มาขอให้พี่ฮีซอลช่วยสอนการบ้านได้บ่อยๆ เซเลน่าเอ่ยพลางจรดปากกาลงมือทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจ ในขณะที่ฮีซอลวางหนังสือที่อ่านลง ร่างบางเหงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่แว่วจากนอกห้อง และใกล้เข้ามาทุกที

     

    กลับมาแล้วสินะ

     

    กลับมาแล้ว บานประตูไม้เปิดอ้าออก ตามมาด้วยร่างของฮันกยองที่พยายามถอดรองเท้าเก็บอย่างทุลักทุเล เดินเซเล็กน้อย พวงแก้มที่เรื่อไปด้วยสีแดงจางๆบ่งบอกให้รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายหายไปไหนมากว่าค่อนคืน

     

    ไปดื่มเหล้ามาอีกแล้วเหรอไง รู้ว่าคออ่อนก็ยังจะไปกินอีกนะ ฮีซอลบ่นด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเหนื่อยใจ มือบางค่อยๆช่วยปลดเสื้อคลุมให้ฮันกยอง

     

    หิวรึเปล่าล่ะ เดี๋ยวไปกินข้าวหน่อยแล้วกัน กินเหล้าทั้งๆที่ท้องว่างอย่างนี้มันดีที่ไหน

     

    กินข้างนอกมาแล้ว เด็กหนุ่มร่างบางปรายตาตำหนิอยู่กลายๆพลอยทำให้ฮันกยองลอบกลืนน้ำลายลงคอ

     

    แต่ก็ยังไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ฮันกยองก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมืออย่างจงใจ ก่อนจะหันมายิ้มการค้าให้เซเลน่าที่กำลังนั่งมองเหตุการณ์ตาแป๋ว

     

    ดึกดื่นป่านนี้ เข้าห้องผู้ชายคนเดียวมันจะไม่ดีรึเปล่า เซเลน่าหน้าชาวูบ มือเล็กรีบเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

     

    น้องเขาแค่มาขอให้สอนการบ้านน่ะ ฮันกยอง ดูพูดเข้าสิ  เด็กสาวโค้งศีรษะให้สองคนเป็นเชิงอำลา ทันทีที่ประตูปิดลง ฮันกยองก็บ่นเสียงขุ่นพลางมุ่นคิ้วด้วยความหงุดหงิด

     

    เชอะ น่ารำคาญชะมัด ห้องตัวเองมีก็ไม่รู้จักไปนอน ฮีซอลหัวเราะคิก มือเรียวจัดการเตรียมอาหารบนโต๊ะอย่างฉับไว

     

    คนขี้หึง เด็กหนุ่มร่างสูงหน้าร้อนผ่าวเมื่อถูกจับได้ พยายามเอ่ยปฏิเสธแก้เขินเสียเป็นการใหญ่ จนลิ้นแทบจะพันกัน จนสุดท้ายก็ต้องนั่งมู่หน้า นั่งเจี๋ยมเจี้ยมบนโต๊ะกินข้าว

     

    มาช้าซะจนซุปจะเย็นชืดไปหมดแล้วฮันกยองค่อยๆบรรจงช้อนซุปขึ้นมาซดก่อนจะนั่งพัดปากเร่าๆราวกับร้อนเต็มแก่ทั้งๆที่จริงๆแล้วซุปอุ่นกำลังดีแล้วแท้ๆ

     

    ร้อนๆๆๆ ฮีซอลกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างรู้ทัน หันมาตีมืออีกผ่ายเป็นเชิงดุ

     

    โกหกไม่เก่งเอาซะเลย

     

    ก็จะให้เป่านี่.. เขาเอ่ยพลางเบ้หน้ากระเง้ากระงอด

     

    ก็บอกอย่างนี้มาตั้งแต่ทีแรกสิ

     

    ฮีซอลค่อยๆบรรจงเชยคางฮันกยองอย่างทนุถนอม ใบหน้าสวยหวานเลื่อนเข้าประชิด ห่างกันเพียงแค่เสี้ยวเส้นผมกั้น ร่างบางค่อยๆเอียงใบหน้าเล็กน้อยจนอีกฝ่ายใจเต้นไม่เป็นส่ำ ริมฝีปากปากพ่นลมเป่าอย่างแผ่วเบา จนริมฝีปากแตะกันผิวเผินเป็นครั้งเป็นคราว ยิ่งทำให้ร่างสูงเริ่มหายใจไม่คล่องคอ เมื่อฮีซอลผละออกไป เขาจึงกลับมาหายใจได้เต็มปอด

     

    หายร้อนรึยังล่ะ

     

    ร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก ฮันกยองลอบบ่นอุบอิบ  ก่อนจะเหลือบไปมองฮีซอลที่เริ่มป้องปากหาว บิดขี้เกียจ บ่งบอกว่าง่วงเต็มที

     

    เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน

     

    เดี๋ยวสิ....ไปอาบพร้อมกันเถอะ

     

    ใช่แล้ว ไม่ต้องเปลืองน้ำ อย่างน้อยตอนนี้โลกร้อนเราต้องช่วยประหยัดพลังงาน ไม่ใช่ว่าอยากดูนู่น เห็นนี่ซักหน่อย ถ้าบังเอิญเห็น ก็แค่กำไรชีวิต

     

    ร่างสูงเรียบเรียงข้อแก้ตัวพร้อมเหตุผลข้างๆคูๆเสร็จสรรพ

     

    ไม่ต้องมาพูดด้วยสีหน้าแบบนั้น ยังไงฉันก็ไม่อาบน้ำกับนายแน่นอน แว่วเสียงหัวใจและใบหน้าแตกสลายอยู่แว่วๆ ทันทีที่ฮีซอลเอ่ยเสียงเรียบ หนักแน่น ชัดเจน เขาจึงต้องนั่งซดน้ำซุปต่อด้วยท่าทีหงอยๆ แต่ก็ไม่วายลอบฟังเสียงฝักบัว อดจินตนาการถึงยามสายน้ำกระทบผิวกาย ผิวที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะน้ำอุ่น มือที่ลูบไล้ไปทั่งร่าง เรือนผมเปียกชื้นที่เลื้อยไล้บ่าเรียวไม่ได้ แค่คิดก็ริษยากระจกห้องน้ำเสียเหลือเกิน

     

    คิดอะไรอยู่ ทำไมหน้าหื่นขนาดนั้น ฮันกยองนิ่งค้างไปชั่วขณะ ทันทีที่เห็นฮีซอลที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ยืนเท้าสะเอวมองเขาด้วยสีหน้าเคืองๆเล็กน้อย

     

               นี่เขาเผลอคิดไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!!!

     

    น้ำซุปไม่พร่องสักนิดเลยนี่ กินเสร็จก็ล้างจานให้เรียบร้อย แล้วไปอาบน้ำแล้วกัน ฉันไปนอนแล้วฮันกยองทำได้แค่มองฮีซอลเดินเข้าห้องนอนตาละห้อย

     

                   ........................................................................................

     

    ฮันกยองเดินเตาะแตะไปเปิดไฟ ก่อนจะพาดผ้าคุณหนูลงกับราวตากผ้าข้างๆ ริมยิ้มคมคายผุดพรายบนใบหน้าทันทีที่เห็นฮีซอลพยายามหรี่ตามองเขาด้วยความงัวเงีย

     

    ปิดไฟซักทีสิปิดดับลง เด็กหนุ่มร่างบางจึงหันกลับไปนอนอย่างสบายใจ ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเหมือนเตียงกำลังยวบลงตามน้ำหนัก

     

    ทำไมไม่นอนเตียงตัวเองล่ะ

     

    หนาว.....เหงา.....อยากกอดคนสวยฮีซอลหัวเราะเบาในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวพิงแผ่นอกกว้างของฮันกยองอย่างว่าง่าย

     

    ขี้อ้อนไม่เข้าท่า

     

    ช่างประไรล่ะฮันกยองค่อยๆหลุบเปลือกตาลง พลางฉีกยิ้มบางๆ เหงี่ยฟังเสียงหัวใจเต้น

     

             ไม่ต้องหึงไปหรอก ยังไงฉันก็รักนายคนเดียวอยู่แล้ว

     

    และเหงี่ยฟังเสียงกระซิบแผ่วๆอย่างมีความสุข

     

                  ................................................................................................

     

    สำหรับบทนี้ตั้งเป็นคำขวัญได้เลยว่า มีแฟนดีเหมือนมีเมียอยู่ในบ้าน

    แอบเลี่ยนนิดๆ ดูแลปานแม่เลยวุ้ย

    แต่ถามจริงเห้อ......มีคนบ้าที่ไหนฟะพอมีมือที่สามรุกแฟนแล้วแอบหนีไปกินเหล้ารอให้ง้อ  มันต้องคอยกันท่าไว้สิ........ =_=  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×