ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย ดวงใจแห่งเวทย์ ~FicSuJu~[-{ Yaoi}-]

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5 : สืบสาว (รีไรท์ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 51


     

     

    บทที่5 : สืบสาว

     

    เสียงพูดคุยของเด็กนักเรียนดังระงม เปี่ยมไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ จนฮีซอลอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจด้วยความสดชื่น หลังจากต้องประสบจากเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแล้วครั้งหนึ่ง

     

    คงเป็นความรู้สึกที่คับคล้ายคับว่าดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่ล่ะมั้ง

     

    เอ...แล้วดงเฮจะมามั้ยนะ ดูท่าจะบาดเจ็บด้วยนี่ ฮันกยองเบ้หน้าเหมือนกำลังพูดถึงของแสยง

     

    ต้องมาอยู่แล้ว เจ้าหมอนั่นอึดอย่างกับอะไรดี กระนั้นฮีซอลก็ยังไม่คลายสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

     

    เอ....แล้วคิบอมตอนนี้จะอยู่ที่ไหนกันชายหนุ่มครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่ค่อยจะแน่ใจนัก

     

    ได้ยินว่าญาติทางฝ่ายคิบอมช่วยทำเรื่องเข้าเรียนให้ด้วยล่ะ

     

    ดีจริง.....อย่างนี้เราก็ได้เรียนด้วยกันสิฮีซอลฉีกยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะกว้างขึ้นเมื่อเห็นอีทึกกับคังอินโบกมือทักเขามาแต่ไกล หากเด็กหนุ่มกลับเลิกคิ้วทันทีที่เห็นทั้งสองคนสวมชุดเครื่องแบบของโรงเรียนเขาเสียเรียบร้อย

     

    ทำไมนายถึงใส่เครื่องแบบนี้ล่ะ.......แอบไปจิ๊กใครมา ฮีซอลหรี่ตาลง

     

    อ๊ะ...เปล่านะครับ คือว่าพอดีทางพ่อแม่ผมเขาต้องย้ายบ้านมาแถบนี้พอดีน่ะครับ ก็เลยย้ายเข้ามาเรียนที่นี่อีทึกเอ่ยด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจจนหนุ่มๆสาวๆในรัศมี 5 เมตร ต่างก็พากับแข้งขาอ่อน ละลายกันไปถ้วนหน้า

     

    กลางเทอมอย่างนี้เนี่ยนะ พวกมาสเตอร์หัวแข็งปล่อยเข้ามาง่ายๆได้ยังไงกัน

     

    เอ่อ....บังเอิญว่าแม่ของผมเป็นหุ้นส่วนของโรงเรียนนี้แค่ 50% น่ะครับ ผมกับคังอินก็เลยพลอยโชคดีได้ใช้เส้นนิดๆหน่อยๆเข้ามาน่ะครับเสียงหวานใสเอ่ยอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว

     

    อย่างนี้นี่เองคุณลูกเจ้าของโรงเรียน ฮีซอลเอ่ยแซวอย่างอารมณ์ดี

     

    แต่ทางแม่คุณเองก็กำลังจะเป็นหุ้นในอีก 50% ไม่ใช่หรือครับ เด็กหนุ่มสะอึก รู้สึกหน้าแตกเล็กๆเมื่อถูกย้อนเข้าให้

     

                      ...................................................................................

    ลมเย็นๆที่พัดลอดจากช่องหน้าต่างที่ลืมปิดไว้ พัดใส่ใบหน้าของฮีซอลที่กำลังตาเยิ้มเต็มที เด็กหนุ่มป้องปากหาวอย่างเบื่อหน่าย บทเรียนที่มาสเตอร์โบอาพร่ำสอนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวามากทุกที ฟังเผินชักเหมือนเสียงสวดมนตร์ชวนง่วงเสียแล้ว

     

           อา.....อากาศอย่างนี้น่านอนจริงๆสิน่า

           เมื่อคืนก็ไม่ค่อยจะได้นอน เสียเลือดก็มาก เพลียจะแย่

     

    ฮีซอลตั้งข้ออ้างให้ตัวเองเสร็จสรรพจะก็ซุกใบหน้าลงกับหนังสือต่างหมอน

     

     นี่คิมฮีชอล ตื่นได้แล้วนะ เธอมาโรงเรียนเป็นห้องนอนรึไง มาสเตอร์โบอาบ่นแว๊ดๆอย่างเคยจนเขาชักจะรู้สึกชินชา

     

    บรรยากาศน่านอนดีนี่ครับ แม้จะถูกลงโทษมานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่ยักจะเข็ดเสียที

     

    นี่เธอ!!!...ถ้าไม่เรียนแล้วจะรู้เรื่องได้ยังไงกันห๊ะ!!” แก้มขาวของมาสเตอร์โบอาเริ่มขึ้นสีแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยว

     

    ตำราพวกนี้ผมก็อ่านมาหมดแล้ว รู้จนจะพ่นออกมาเป็นตัวอักษรแล้ว หล่อนเริ่มยิ้มเยาะนิดๆที่มุมปาก

     

    ปิดหนังสือลง แล้วลองอธิบายซิว่าหน้าหนึ่งร้อยเก้าสิบห้า เป็นบทที่เท่าไหร่ พูดถึงอะไร กี่ตัวอักษร สรุปเนื้อหาคร่าวๆของหน้านั้น รอยยิ้มเริ่มหุบลงทันทีที่เห็นฮีซอลเอ่ยตอบอย่างคล่องแคล่ว ถูกต้อง ไม่ผิดสักนิดราวกับตาเห็น มาสเตอร์โบอาโกรธเสียจนควันแทบออกหูเมื่อถูกฉีกหน้า

     

    ดี.....ถ้าได้กันแล้วก็ไม่ต้องสอนมันแล้วว่าแล้วหล่อนก็กระทืบเท้าออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิด

     

    วันนี้ท่าจะลมบ้าหมูบุก มาสเตอร์แกไม่ยักลงโทษฉัน ฮีซอลอดบ่นไม่ได้นิดๆตามประสา

     

    ใครจะไปกล้าทำอะไรลูกเจ้าของโรงเรียนกันเล่า ชายหนุ่มพยักหน้าอือออรับก่อนจะซุกหัวลงบนกองหนังสือนอนเสียง่ายๆ

     

    เดี๋ยวอย่าเพิ่งนอน ฮีซอล เราต้องปรึกษา เรื่องชายชุดดำนั่นอยู่นะ ฮีซอลที่กำลังสะลึมสะลือสบถด้วยความหงุดหงิด

     

    คือ....แม่ของฉันตายเพราะถูกฆาตกรรมเหมือนคิบอม ดงเฮเอ่ยด้วยแววตาเศร้าสร้อย หากคนที่เพิ่งเคยรู้กลับผงะด้วยความตกใจ

     

                ดูไม่ออกเลย คนที่สามารถยิ้มได้ตลอดอย่างดงเฮ

                จะมีอดีตที่แสนรวดร้าวอย่างนั้นหรือ?

     

    ผมสังหรณ์ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่ฆาตกรจะเป็นคนกลุ่มเดียวกัน ดงเฮเอ่ยพลางหยิบกระดาษที่เก็บไว้ในแฟ้มขึ้นมาวางบนโต๊ะ เป็นรูปประหลาดที่มีลวดลายพันเกี่ยวราวกับหัวใจ ทุกคนต่างหยุดดูรูปนั้นด้วยความสนอกสนใจ ในขณะที่คิบอมใบหน้าซีดเผือด ปากสั่นจนได้ยินเสียงกระทบของฟัน

     

    นี่เป็นรอยสักของกลุ่มองค์กรลับองค์กรหนึ่ง....ที่ฉันไม่มีทางลืม

     

    ผ.....ผมเคยเห็นรอยสักนั่น....มันอยู่ที่ต้นแขน....ของ....ของคนที่ฆ่าแม่ดงเฮค่อยๆสวมกอดร่างที่กำลังสั่นเทาอย่างแผ่วเบาเพื่อเป็นการปลอบโยน

     

    คนพวกนั้น เป็นพวก....สะสม

     

    สะสม? ฮันกยองทวนคำด้วยเสียงสูง

     

    สะสมร่างกายของพวกธาตุพิเศษครับ ไม่ว่าจะอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน และที่มีค่าที่สุด ก็คือ จิตวิญญาณ ไงล่ะครับ

     

    ไอ้พวกระยำ ฮีซอลสบถอย่างกราดเกรี้ยว

     

    พวกมันสะสมและขายเหมือนสินค้า ราคาสูงลิบลิ่วเลยล่ะครับ

     

    ฉันว่าเราควรจะดำเนินเรื่องไปทางศาลกลางนะ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ยังไงก็ไม่น่าจะปล่อยให้พวกนี้มันลอยนวลฮันกยอลงออกความเห็น

     

    คงจะยากครับ เพราะดูเหมือนทางองค์กรนั้นจะมีเส้นสาย อยู่กับทางกรมรักษาความยุติธรรม และอาจจะมีแทรกซึมอยู่กับหลายองค์กร ถ้าเราไม่มีหลักฐานดีพอ เกรงว่าจะเกิดปัญหามากกว่านะครับ

     

    จริงของดงเฮนะครับ....อย่างน้อยเราน่าจะสืบหาหลักฐานให้มากกว่านี้อีทึกเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานใส

     

    จากเหตุการณ์เล็กๆชักจะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว

    จากวิญญาณตนหนึ่งสู่คนๆหนึ่ง ถึงองค์กรหนึ่ง

    เหตุการณ์ต่อในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×