ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย ดวงใจแห่งเวทย์ ~FicSuJu~[-{ Yaoi}-]

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 :: วิญญาณ ( รีไรท์ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 51




     

     

    บทที่ 1 : วิญญาณที่น่าสงสัย

     


    "กรี๊ด!!!!~" เสียงแผดร้องด้วยความปวดร้าวดังก้องไปทั่วห้อง หญิงสาวถอยอย่างลนลาน นัยน์ตาทั้งสองข้างฉายแววหวาดกลัว แต่คนตรงหน้ากลับกระตุกยิ้มอย่างเลือดเย็น

     

    ได้โปรด ไว้ชีวิตฉันเถอะ หล่อนอ้อนวอน แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นไม่ได้ยิน เสียงร่ำร้องประหนึ่งจะขาดใจกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือดคาวคลุ้งไหลย้อมพื้นกระเบื้องขาวบริสุทธิ์ให้แดงฉาน

    ตุ๊บ.....

     

    ตุ๊กตาตัวน้อยร่วงผล็อยลงบนพื้น ร่างเด็กน้อยยืนมองตัวสั่นเทา นัยน์ตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ

     

    แม่จ๋า.... เด็กชายเดินเตาะแตะ มือบอบบางเขย่าร่างผู้เป็นมารดาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะชักมือกลับเมื่อสัมผัสได้เพียงความเย็นชืดราวกับน้ำแข็ง

    แม่จ๋า.....ตื่นสิ ทำไมมานอนตรงนี้ เขาเขย่าแรงขึ้น ก่อนจะกรีดร้องเสียงดังลั่น เมื่อใบหน้าของผู้เป็นมาพลิกมาทางเขา

     

    ดวงตาที่เคยมองด้วยความอ่อนโยนเหลือกถลน คราบน้ำตา คราบเลือดเกรอะกรังบนใบหน้าบอบช้ำ ดวงหน้าบิดเบี้ยว ร่างกายยับเยิน ราวกับซากเนื้อ ไม่ใช่แม่ ที่เขารู้จัก

     

    เด็กน้อยถดกายหนี ก้มลงมือมองฝ่ามือชุ่มเลือดจากกายแม่ด้วยความหวาดกลัว

     

    แม่!!!!!!!!!!”


    กลัว

    กลัวเหลือเกิน

    กลัวที่จะต้องโดดเดี่ยวไม่เหลือใคร


    *****************************************************************************************

    นี่ฉันเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์หรือผู้ล่าความตายกันแน่นะ เจ้าของริมฝีปากแดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี่หอมหวานบ่นพึมพำด้วยความไม่พึงพอใจ

     

    ช่วยไม่ได้นี่ อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปแอบหลับในคาบของมาสเตอร์โบอาเขาฮันเกิงเอ่ยเย้าเล็กน้อยพาลทำให้ฮีซอลตีหน้าบึ้ง

    " แต่ถึงอย่างนั้น นายไม่น่ามาด้วยเลยนี่" เด็กหนุ่มพูดพลางนำผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ฮันเกิงอย่างแผ่วเบา

    "อย่าลืมสิ มีฮีชอลที่ไหน ฮันเกิงจะตามไปถึงที่นั่น" ดวงหน้าสวยหวานแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวตีแขนอีกฝ่ายเบาๆด้วยความเคอะเขิน

     

    คนบ้า เวลาอย่างนี้ยังจะ.....

    "เฮ้ยนั่น วิญญาณออกอาละวาดแล้ว" เสียงตะโกนที่ร้องเรียกให้ฮีชอลแปรจากสีหน้าเขินอายได้เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังทันที เขาค่อยๆร่ายเวทย์มนตร์ศักดิ์สิทธิ์แผ่วเบาและรัวเร็ว

    "มาแล้วหรอ โอม อะนาลาเวส สายลมแห่งรัตติกาลเจ้าจงทำตามคำสั่งข้า"

    "มาทะมีเนส ทามะ เจ้าจงกลายเป็นเกราะปกป้องผู้ที่อยู่ภายใต้รัศมี 10 เมตร" สิ้นสุดคำสั่งของฮันเกิง ควันเพลิงก็ผุดพรายออกจากลูกแก้วสีแดงก่ำรวมกายเป็นร่างชายฉกรรจ์ผิวคล้ำ ดวงตาดุดันก้มลงมองผู้เป็นนายก่อนจะโค้งคำนับอย่างนอบน้อม


    "ขอรับนายท่าน"

    "ซาเวออรอทิส สายลมเอ๋ยเจ้าจงกำราบวิญญาณ เผาผลาญจิตใจไม่บริสุทธิ์ออกไป"สิ้นสุดคำสั่งของฮีซอล สายลมรุนแรงประหนึ่งพายุก็เข้าไปทะลุร่างของวิญญาณหญิงสาวตรงหน้าทันที

    "ช่วยด้วย ช่วยลูกฉันด้วย ช่วยปลดปล่อยฉันและลูกที" เสียงร่ำร้องของหล่อนทำให้ฮีซอลชะงักเล็กน้อย ก่อนจะแปรเป็นความตกตะลึงเมื่อเห็นว่าพลังของเขาทำอะไรวิญญาณไม่ได้แม้แต่น้อย ในขณะที่เขาเหนื่อยล้าจนแทบล้มไปกองเสียตรงนั้น

    "ฮีชอล ยังไหวรึเปล่า"ฮันเกิงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มยืนหอบอย่างรุนแรง

    "ไหวสิ"

    "สตาร์ ดวงดาวแห่งรัตติกาลเจ้าจงกลายมาเป็นพลังแก่ข้า สตาร์เซิฟแอคแท็ก" ฮีซอลพยายามรวบรวมพลังอีกฝ่าย แต่ทันทีที่หมอกควันจางไป ร่างวิญญาณที่ไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองก็ยังคงอยู่

    "บ้าจริง ทำไมมันไม่สะทกสะท้านอะไรเลย" ฮีซอลกัดฟันกรอด ขาทั้งสองข้างล้าจนสั่นไปหมด ฝ่ายฮันเกิงเองก็เหมือนจะหอบนิดๆหลังจากใช้พลังป้องกันเกินเวลานานเกินไป

    ฮันเกิง นาย....ยังไหวมั้ย ร่างบางเบาใจลงเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้ เขาพยายามรวบรวมพลังอีกครั้ง แต่ไม่ทันมากพอดี ร่างของเขาก็ทรุดฮวบลงให้ความเหนื่อยอ่อน

     

    ฮีซอล!!” ฮันเกิงก้มมองร่างบางที่กำลังหอบอย่างรุนแรงในอ้อมแขน มิหนำซ้ำยังพยายามฝืนสังขารลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตนเองอีกครั้ง
     
    "โถ่โว้ย!! ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว เอาไว้ฉันจะชดใช้ความผิดทีหลังละกัน อาละเวท เชพมาส เปลวเพลิงแห่งการทำลายร้างจงเผาผลาญดวงวิญญาณร้ายให้สิ้นซาก" ฉับพลัน! กำแพงเพลิงก็แปรสภาพเป็นก้อนพลังขนาดใหญ่ ฝังร่างวิญญาณไว้ภายในเปลวเพลิง เสียงกรีดร้องระคนร่ำไห้บาดหัวใจดังขึ้น ก่อนจะเงียบหายไป

    "เฮ้อ….จบซักที"ฮันเกิงถอนหายใจพลางใช้นิ้วปาดเหงื่อฮีชอลอย่างทะนุถนอม

    "เดี๋ยวนายก็โดนมาสเตอร์ทำโทษหรอก"

    "เพื่อฮีชอล ฮันยอมครับ" ดวงหน้าที่เพิ่งซีดสนิท แดงระเรื่ออีกครั้ง

    "กลับกันเหอะ"

    "อืม"

           ****************************************************************************


    "คิดอะไรอยู่เหรอฮีชอล" ฮันเกิงถามขึ้นหลังจากที่เห็นฮีซอลนั่งเหม่ออยู่นานสองนาน

    "แค่แปลกใจนิดหน่อยน่ะ ทำไมกันนะ วิญญาณตนนั้นถึงได้ร้องให้ช่วย" เด็กหนุ่มร่างสูงนิ่งคิด ก่อนจะก้มตัวลงนั่งข้างๆ

    "นั่นสินะ บางทีวิญญาณตนนั้นอาจจะไม่ใช่วิญญาณร้ายก็ได้" ฮีซอลเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความงุนงง

    "ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ"

    "เพราะเวทย์ที่เราใช้ทั้งหมดนั้นเป็นเวทย์ทำลายวิญญาณร้ายเท่านั้น นายก็เห็นว่ามันไม่มีผลกระทบกับวิญญาณตนนั้นเลยซักนิด"

    ถ้าไม่ใช่วิญญาณร้ายแล้วทำไมไม่ไปผุดไปเกิดกันนะ


    "คิดไปก็ปวดหัว"

     

    หืม?? จากนั้นสีหน้าจากที่เคร่งเครียดพลันร้อนผะผ่าวราวกับมีไฟมาสุมเมื่อริมฝีปากหอมหวานของฮันเกิงเข้ามาประทับ สัมผัสอ่อนหวาน นุ่นนวลพลอยทำให้ฮีซอลโอนอ่อนโดยไม่รู้ตัว ปลายลิ้นเข้าลุกล้ำหยอกเย้าภายในโพรงปาก เรียกเสียงอื้ออึงแผ่วๆในลำคอ ก่อนจะถอนออกช้าๆ สบใบหน้าอ่อนหวานที่ปรือลงด้วยวาบหวาบ ฮีซอลหอบแฮ่กอยู่นาน รู้สึกเหนื่อยกว่าตอนที่ต้องฝืนตัวเองปราบวิญญาณร้ายไม่รู้กี่เท่า

    " ยาแก้เหนื่อยน่ะ ฮันเกิงฉีกยิ้มกรุ่มกริ่ม เรียกดวงหน้าเคอะเขินที่ไม่ว่าเห็นกี่ครั้งก็ยังคงน่ารักไม่หาย

     

    คนบ้า!!!!”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×