ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย ดวงใจแห่งเวทย์ ~FicSuJu~[-{ Yaoi}-]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 : ปลดปล่อย (รีไรท์ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 51


     

      

     

     

    บทที่ 3 :: ปลดปล่อย

     

    ที่นี่น่ะเหรอ ที่วิญญาณนั่นบอก ดงแฮพึมพำเบาๆพลางกราดตามองไปรอบๆ บรรยากาศตรงหน้าแทบจะไม่ต่างกับห้องมืดเลยสักนิด เขาตัดสินใจผลักประตูไม้ผุๆออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไอโขลกเมื่อกองฝุ่นคละคลุ้งทั่วบริเวณทุกครั้งที่เขาขยับตัว

            ภายในบ้านไม่ค่อยน่าดูนัก ข้าวของรกระเกะระกะราวกับไม่มีคนอยู่ หากกลิ่นอายของความโศกเศร้าและเงียบเหงาอ้างว้างกลับทำให้ดงแฮเกิดความรู้สึกหวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว

     

    ตุบ!

     

    เสียงกระทบพื้นทำให้เด็กหนุ่มหันหลังพรึ่บ ดวงตาคมกริบมองฮีซอลที่กำลังปัดเสื้อผ้าด้วยสีหน้าหงุดหงิด

     

    โอ้ย ฮันเกิง ส่งฉันมาดีๆไม่ได้เหรอไง เกิดเคล็ดขัดยอกขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ!!” เด็กหนุ่มหน้าหวานโวยวายเสียงดัง กันไปมองคนรักที่กำลังยืนยิ้มแห้งๆราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

     

    ใช้ โทนาส สิ

     

    โป๊ก!!!!

     

    เล่นมุขบ้าอะไรฟะ!!!”

     

     มากันแล้วสินะครับดงแฮพูดแล้วต้องรับทำหน้าที่กรรมการจำเป็น

     

    ก็มาแล้วน่ะสิ แล้วใครใช้ให้นายแอบมาคนเดียวไม่บอกไม่กล่าวห๊ะ!! ฉันตกใจแทบแย่ นึกว่าใครคาบไปกินฮีซอลว่าพลางประทานมะเหงกใส่เพื่อนรักเข้าไปอีกดอก เรียกเสียงโอดโอยเบาๆ ก่อนที่ดวงตากลมโตจะหันไปด้านข้าง หรี่ตาลงด้วยความไม่แน่ใจ

     

    รู้สึก........

    เหมือนมีใครมองอยู่

     

    ฮึก....ฮือ เสียงร่ำไห้ดังผะแผ่วพลอยทำให้ผู้มาเยือนพลอยขนลุกเกลียว แม้จะเคยประสบพบเจอวิญญาณอยู่บ่อยๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังอดกลัวนิดๆไม่ได้

     

    คุณใช่วิญญาณตนนั้นรึเปล่าครับ ดงแฮพยายามถามอย่างอ่อนโยน

     

    ปล่อยฉันไปที ปลดปล่อยลูกฉันไปทีเสียงคร่ำครวญใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะผุดพรายกลายเป็นร่างหญิงสาวร่างโปร่งแสง ประกบหน้าร้องไห้ คร่ำครวญด้วยความทุกข์ทรมาน

     

    ดูเหมือนที่นี่จะมาบาเรียอยู่นะครับ ดงแฮ อีทึกออกความเห็นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

     

    เอ๊ะ! หรือเพราะบาเรียนี่ ดวงวิญญาณถึงไปเกิดไม่ได้ ฮีซอลอุทานเบาๆ ก่อนจะหันไปทางดงแฮถามความเห็น

     

    เป็นไปได้ครับ

     

    ถ้าทำลายบาเรียนี่ซะ วิญญาณก็คงไปเกิดได้สินะ

     

    อย่ามายุ่งนะ!!!” เสียงเล็กตวาดลั่นเรียกความสนใจจากผู้มาเยือนกลุ่มใหญ่ ร่างเด็กหนุ่มก้าวออกจากที่ซ่อนเร้น ดวงตากลมโตกันมามองพวกเขานัยน์ตากร้าว

     

    ออกไปให้พ้น!!! อย่ามายุ่งกับแม่นะ!!”

     

    แม่...? นายเป็นลูกที่วิญญาณตนนี้พูดถึงเหรอ? ดงแฮถามแผ่วๆ แต่อีกฝ่ายกลับมองเขาด้วยความไม่ไว้วางใจ ราวกับลูกแมวที่กำลังพองขนขู่ฟ่อ

     

    ฉันบอกว่า ให้ออกไปให้พ้นไงเล่า!!!!” เสียงตวาดดังขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับบาเรียที่เริ่มหนาขึ้นจนพวกเขารู้สึกอึดอัดจากพลังที่เพิ่มมากเพราะความโกรธเกรี้ยว

     

    นายเป็นคนสร้างบาเรียนี่ขึ้นมาเหรอ?

     

    ใช่.......

     

    นายไม่รู้เหรอว่า ถ้านายทำแบบนี้แล้ววิญญาณแม่นายจะไม่ได้ผุดไม่เกิด

     

    ฉันรู้....แต่ฉันอยากอยู่กับแม่!! ฉันไม่ต้องการจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว!!!” เสียงเล็กตวาดก้อง ดวงตากลมโตชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำตา เขาตวาดทั้งๆที่กลั้นเสียงสะอื้นไม่อยู่

     

    และฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากแม่ไปจากฉันอีกแล้ว!!!”

     

    นายไม่ได้เสียงร้องของแม่นายเหรอ? ไม่รู้สึกถึงความทุกข์ทรมานของแม่นายเลยเหรอ? เด็กหนุ่มชะงักกึก มือเล็กพยายามปาดน้ำตาอย่างทุลักทุเล

     

    ไม่จริง....แม่อยู่กับฉัน แม่ฉันต้องมีความสุขอยู่แล้ว

     

    บ้าจริง...เจ้าเด็กนี้ผูกติดกับวิญญาณจนไม่ฟังใครแล้วฮีซอลสบถเบาๆก่อนจะเงื้อ คฑาขึ้น

     

    ในเมื่อพูดกันด้วยเหตุไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องพูดกันแล้ว!!!”

     

    อย่านะ!!!!” ร่างเล็กกรีดร้องห้าม ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธเกรี้ยว บาเรียสีฟ้าอ่อนค่อยๆแปรสภาพเป็นหนามแหลมคมล้อมรอบด้านราวกับหินย้อย

     

    ถ้าพวกแกขัดขวางฉัน!!! ฉันจะฆ่าทุกคนทิ้งซะ!!!!”สภาพรอบด้านไม่ต่างกับคุกที่เปี่ยมไปด้วยอันตราย ยิ่งเด็กหนุ่มโกรธเกรี้ยวมากเท่าไหร่บาเรียก็ยิ่งบีบตัวเข้าเรื่อยๆ ราวกับจะฆ่าเขาเมื่อไหร่ก็ได้

     

    ให้มันได้อย่างนี้เซ่!!!!!” คังอินโวยวายด้วยความหัวเสีย

     

     ฟลูทอีทึกร่ายคาถายืดแขนไปทางด้านข้าง ทันใดนั้นก็ปรากฏขลุ่ยจีนโบราณก็ผุดขึ้นกลางอากาศ เขารีบคว้ามันไว้แน่นก่อนจะวางแนบลงบนริมฝีปากทันที

     

    ไม่!!!” เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านกรีดร้องทั้งน้ำตาก่อนจะผงะถอยเมื่อรู้สึกถึงพลังแห่งไฟของฮันเกิงที่ดันเขาจนขยับตัวไม่ได้

     

    เสียงขลุ่ยของอีทึกดังขึ้นท่วงทำนองอันไพเราะ เศร้าสลด หากระรื่นหู เสียดหูหากฟังดูยิ่งใหญ่ราวกับกับมีพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นต้านบาเรียจนร้าว ก่อนจะแตกสลายในพริบตา ร่างวิญญาณหญิงสาวค่อยๆจางลง

     

    แม่!!!!”ร่างเด็กหนุ่มสลักตัวจนหลุดจากพลังแห่งไฟ เขาพยายามจะรวบรวมพลังสร้างบาเรียกักขังผู้เป็นแม่ไว้กับตนอีกครั้ง แต่เปล่าประโยชน์ เมื่อวิญญาณค่อยๆเลือนรางลงทุกที

     

    แม่.....อย่าทิ้งผมไป อย่าทิ้งผมไว้คนเดียว

     

    ลูกจะไม่โดดเดี่ยวจ้ะ เขาเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ทั้งน้ำตา ใบหน้าของหญิงสาวอิ่มเอิบ ผุดผ่อง ไม่เหมือนเมื่อก่อน คราบเลือดคราบน้ำตาจางหายกลายเป็นรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น

     

    แม่... ร่างบางครางเรียกอย่างแผ่วเบา

     

    แม่จะอยู่ในใจลูกเสมอ ทันทีที่หยาดน้ำตากระทบพื้นร่างวิญญาณของผู้เป็นที่รักก็สูญสลายไป ทิ้งให้เด็กหนุ่มสะอื้นกุมหัวใจตัวเองด้วยความปวดร้าว

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!”

     

    เมื่อความโศกเศร้าเข้าทิ่มแทงจนไม่มีชิ้นดี สติสัมปชัญญะก็ค่อยๆเลือนรางไป ความมืดเข้าครอบงำไปในมโนสติ

     

             ...................................................................................................

     

    ร่างเด็กหนุ่มนอนแน่นิ่งบนเตียงขนาดกลาง คนในห้องหยุดมองเด็กหนุ่มด้วยความเป็นกังวล

     

    เขาหลับไปนานแล้วนะ จะเป็นอะไรรึเปล่า ฉันว่าน่าพาเขาไปหาหมอนะ ฮีซอลเอ่ยพลางปาดเหงื่อข้างขมับ

     

    ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เพียงแค่ใช้พลังมากเกินไป และจิตใจยังไม่เตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง ดงแฮเอ่ยเสียงเรียบแม้ภายในใจจะร้อนรนไม่แพ้คนอื่นๆ

     

    ทันใดนั้นร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่นานก็ค่อยๆกระพริบตาถี่ๆ ดวงตากลมโตกวาดไปรอบด้าน ก่อนจะหันมามองพวกเขาด้วยแววตาโศกเศร้า

     

    แม่....ไม่อยู่แล้ว เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นพร่า พยายามกลืนก้องสะอื้นของตนเองด้วยความยากเย็น พลอยทำให้คนในห้องชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าทำถูกรึเปล่าที่พรากแม่ออกจากคนตรงหน้า

     

    แม่นายไปสู่สุขคติแล้ว เขาจะมีความสุข หากถ้อยคำปลอบทำได้แค่ทำให้เด็กหนุ่มก้มหน้าซุกหัวเข่าตนเอง ไหล่บางสั่นเบาๆบ่งบอกว่าเขากำลังร้องไห้

     

    นายชื่ออะไรเหรอ ดงแฮถามพลางลูบหลังของอีกฝ่ายเบาๆ

     

    คิม....คิมคิบอม

     

    จริงสินายสร้างบาเรียได้ยังไงกัน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอ ถ้าคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนจะใช้เวทย์มนตร์ได้ขนาดนี้ ฮันเกิงเอ่ยพลางม่นคิ้วความความสงสัย

     

    เมื่อนานที่แม่เสียใหม่ๆ ตอนนั้นมีชายชุดดำคนหนึ่งมาบอกวิธีสร้างบาเรีย ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามที่เขาบอก

     

    พ่อแม่ของนายมีเพื่อนเป็นจอมเวทย์ระดับสูงรึเปล่า

     

    ก็มีไม่น้อย เพราะพ่อของฉันเป็นจอมเวทย์ ส่วนแม่เป็นสัตว์เทวะถ้อยคำเรียบเฉยแต่กลับทำให้ดงแฮสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบนวดขมับก่อนจะเอ่ยด้วยความไม่แน่ใจ

     

    ถ้าจำไม่ผิด สัตว์เทวะกับจอมเวทย์เมื่อมีลูก ลูกที่ออกมาจะเป็น หัวใจไม่ใช่หรือ!?!”

     

    เอ๋?? เหมือนเจ้าตัวเองก็เพิ่งเคยได้ยิน ดวงตากลมตาฉายแววแปลกใจเล็กน้อย

     

    ปัง!!!

     

    เสียงกึกก้องกัมปนาททำให้ทุกคนสะดุ้งโหยง อีทึกที่อยู่ใกล้หน้าต่างเอ่ยขึ้ยด้วยความตกใจ

     

    มีชายชุดดำมาโจมตีเต็มไปหมดเลยครับ!!!” พวกเขารีบคว้าอาวุธมาไว้ในมือตนทันที ฮันเกิงรีบบริกรรมคาถาสร้างช่องว่างระหว่างมิติ ดงแฮหันมาอุ้มร่างเด็กหนุ่มที่กำลังทำหน้าละล่ำละลักขึ้นพาดบ่า ก่อนจะพาข้ามมิติเคลื่อนย้ายไปยังห้องมืดทันที

     

     อะไรวะเนี่ยฮีชอลเริ่มเหนื่อยอ่อนเล็กน้อยหลังจากต้องร่ายเวทย์อย่างต่อเนื่อง ฝ่ายอีทึกบรรเลงท่วงทำนองเพลงแห่งการทำลายล้างอย่างไพเราะอยู่ยาวนานจนแทบไม่มีเวลา แต่เหล่าชายชุดดำก็ดูเหมือนจะไม่ลดลง มิหนำซ้ำยังเพิ่มขึ้นทุกทีๆ

     

     โอ๊ย!!!” ฮีซอลร้องเสียงดังลั่นก่อนจะทรุดฮวบลงไปนั่งกองกับพื้น มือเรียวกุมบาดแผลที่เปิดกว้างจากธนูเวทย์ด้วยความเจ็บปวด

     

    ฮีซอล!!!” ฮันเกิงรีบถลาเข้ามาดูอาการของคนรักที่ใบหน้าซีดเซียวมากขึ้นทุกทีจากบาดแผลที่ไหลทะลักไม่หยุด เขากอดร่างอีกฝ่ายแน่น หวาดกลัวที่จะต้องสูญเสียฮีซอลไป

     

    ไม่เป็นไรนะ….” ฮีซอลพยักหน้าแม้จะไม่ค่อยได้สตินัก พาลทำให้เลือดในกายของเด็กหนุ่มร่างสูงเดือดพล่าน พลังแห่งไฟโชติช่วงเต็มที่เมื่อรวมเข้ากับความโกรธเกรี้ยว ความคับแค้นที่บังอาจทำให้คนสำคัญของเขาต้องบาดเจ็บ

     

    หายไปซะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!~” แทบจะไม่ทันได้กรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายร่างของชายชุดดำก็ราวกับขาดสะบั้นเป็นสองท่อน หยาดเลือดไหลนองชโลมผืนดิน ฮันเกิงหอบอย่างรุนแรงก่อนจะกัดฟันสร้างช่องว่างระหว่างมิติอีกครั้ง

     

    นายจะต้องไม่เป็นไรฮีซอล

     

     

     

    เหมือนตอนนี้นังออมจะเอาการ์ตูนมามั่วหลายเรื่อง

          ชายชุดดำ (ลูกกระจ๊อกกีเด่น) ----> โคนัน

           หัวใจ                                   ---à ดีเกรย์แมน

     

    ส่วนนังแจมขอมั่ว

           หายไปซะ!!!!!”                    ---à ตุลาการทมิฬ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×