ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายใย ดวงใจแห่งเวทย์ ~FicSuJu~[-{ Yaoi}-]

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 :: ถ้อยคำ ( รีไรท์ 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 51


     

     

     

     

    บทที่ 2 :: ถ้อยคำ

     

                  ฮันเกิง ชั้นคิดว่าชั้นสั่งไปแล้วซะอีก ว่ามันเป็นหน้าที่ของฮีซอลที่จะต้องปราบปีศาจ ส่วนเธอมีหน้าที่ป้องกันให้เขา แล้วเธอกล้าดียังไงมาขัดคำสั่งของชั้น

     

    เสียงแหลมปรี๊ดโวยวายเสียงดังจนนักเรียนแทบจะต้องหาอะไรมาอุดหู ดวงตาฉายแววกราดเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้ว เสียงฟี้เบาๆก็ทำให้ดวงตาคมกริบประดุจเหยี่ยวเฉไปมองคนที่ยังหลับไม่รู้จักเข็ดทันทีทันใด

    "คิมฮีชอล เมื่อคืนเธออดหลับอดนอนหรือไง เมื่อวานก็เพิ่งทำโทษไปที ยังไม่ยอมสำนึกอีกรึ!!!"

    "ก็เพราะใครล่ะ ให้ข้อมูลผิดๆผมมา แทนที่จะให้ปราบปีศาจ ดันมาให้ทำร้ายวิญญาณดีน่ะ"  ถึงแม้ฮีชอลที่กำลังสะลึมสะลืออยู่แต่ก็ยังสามารถต่อปากต่อคำกับมาสเตอร์โบอาได้ ฮันเกิงเห็นแล้วยังนับถือเลยทีเดียว

    "ธ....ธ... เธอจะมาหาว่าเป็นความผิดของชั้นอย่างนั้นเหรอ"มาสเตอร์โบอาพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เรียบเต็มที่ ปลายนิ้วเรียวดันกรอบแว่นขึ้นอย่างไว้ท่าทีแม้ว่าสิ่งที่ฮีซอลพูดจะเป็นความผิดของเธอจริงๆ

    "ผมเข้าใจครับ คนเราพอแก่มากๆอะไรมันก็อาจเลอะเลือนไปบ้างบ้าง " ถ้อยคำกระแนะกระแหนทำให้มาสเตอร์โบอาโกรธจัดจนควันออกหู เส้นสมองเหมือนจะขาดผึ่งอยู่รอนๆ

    "หนอย ชั้นเป็นมาสเตอร์เธอนะ มาใช้วาจาว่ากล่าวผู้มีพระคุณอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน  กล้าพูดอย่างนี้แสดงว่าอยากลองดีสินะ ได้.....ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เธอ...ฮีชอลหอบผ้าห่มไปนอนตบยุงในห้องมืดซะ ส่วนนายฮันเกิงคราวนี้ฉันขอลงโทษนายให้ไปอยู่ห้องมืดพร้อมกับฮีชอล โทษฐานที่เธอทำนอกคำสั่งชั้น"

     

    โบอาสั่งด้วยน้ำเสียงฮึดฮัดก่อนจะเดินออกไปข้างนอกทำให้ฮันเกิงแอบลอบยิ้ม ก่อนจะเหลือบมองคนรักด้วยนัยน์ตาเจ้าเล่ห์

     

    นี่มาสเตอร์จะทำโทษ หรือให้รางวัลกันแน่นะ

           ***************************************************************************

     

    นี่ดงแฮ ปกติแล้วมันจะมีสาเหตุอะไรบ้างเหรอที่จะทำให้วิญญาณไม่ไปผุดไปเกิด ฮีซอลถามพลางเขี่ยข้าวในจานไปมา ฮันเกิงเองที่ค้างคาใจอยู่ไม่น้อยก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ารอฟังด้วยความสนอกสนใจ

     

    มันก็มีหลายสาเหตุนะ ฮีซอล อาจจะเพราะตายทั้งๆที่ชะตายังไม่ขาด ยังมีห่วง จากความโกรธแค้นเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ หรืออาจจะเพราะโดนคำสาปไม่ให้ไปผุดไปเกิดก็มี

     

    ดงแฮตอบเสียงเรียบโดยไม่ต้องหยุดคิดสมเป็นนักเรียนธาตุแสงอันดับ 1 ของโรงเรียน ตรงข้ามฮีซอลหรือกระทั่งฮันเกิงที่อยู่ในอันดับท๊อป 5 แต่กลับไม่มีความรู้อะไรบ้างเลย

    "เอ....แล้วจะมีวิธีไหนบ้างนะ ที่จะทำให้รู้สาเหตุที่แท้จริง"

    "ก็คงต้องไปถามเขาตรงๆ หรือไม่ก็สืบต้นตอจากชีวิตก่อนตาย"

    "แล้วเราจะเรียกเค้ามาได้ยังไงกัน" ฮันเกิงด้วยความแปลกใจหลังจากได้ยินความรู้ใหม่จากปากของนักเรียนดีเด่น

    "ได้ครับ แต่ต้องอาศัยจอมเวทย์ธาตุมืดเป็นคนทำพิธี แล้วให้จอมเวทย์ธาตุแสง
    คอยหนุนน่ะครับและก็สถานที่นั้นต้องเป็นสถานที่ไม่มีพลังป้องกันวิญญาณด้วย"

    "จริงสิ" ฮีซอลดีดนิ้วดังเป๊าะ

     

    "ดำเนินการคืนนี้เลย ดงแฮนายต้องช่วยเรานะ"

    "หา คืนนี้เหรอ ฮีชอล คืนนี้เราไปอยู่ในห้องมืดไม่ใช่เหรอไง"ฮันเกิงเริ่มต่อต้านเมื่อเห็นว่าอะไรๆชักจะผิดแผนขึ้นไปทุกที ก็ในเมื่อห้องมืดเป็นห้องเก็บเสียง

     

               ห้องเก็บเสียงเชียวนะ!!

    "ก็เพราะคืนนี้ เราต้องอยู่ในห้องมืดไง ถึงต้องใช้คืนนี้ให้เป็นประโยชน์"

    "ฉันไม่เข้าใจ "ฮันเกิงถามก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

    "นายรู้ไหมห้องมืดพิเศษกว่าห้องอื่นยังไง"

    "เก็บเสียง"ฮันเกิงตอบโดยไม่ต้องคิด แต่น่าเสียดายคำตอบที่ออกมาไม่ได้มีแก่นสารเหมือนกับดงแฮเลยซักนิด พาลทำให้ฮีซอลคันไม้คันมือนึกอยากตบหัวทิ่ม

    "อะไรอีก"ฮีชอลถามพลางฉีกยิ้มหวานปานน้ำเชื่อม

    "ไม่รู้"

    "ให้ตายสิ!! นี่นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าห้องมืดน่ะเค้าไม่มีวัตถุป้องกันวิญญาณน่ะ"

    "แล้วทำไมต้องไปวันนี้ด้วยวันอื่นไม่ได้เหรอก็วันนี้ฉันอยากอยู่กับนายนะฮีชอล" ฮันเกิงหยอดคำหวานเข้าไปนิดหน่อย ดวงหน้าหล่อเหลาฉายแววออดอ้อน

    "น....นายจะบ้าหรอ ห้องมืดน่ะ เดี๋ยวก็ต้องมีวิญญาณโผล่มา ย...ยังไงก็ทำอย่างนั้นไม่ได้อยู่แล้ว" ฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าร้อนแผ่วๆจนชักอายดงแฮที่กำลังนั่งมองอยู่ใกล้ๆ

    "แต่เราต้องขอให้ดงแฮเป็นเวทย์แสงให้ทีนะ" เด็กหน้าเฉไฉมาทางดงแฮแทนที่จะสบกับกับดวงตาออดอ้อนราวกับลูกแมว

    "แต่ว่า..."ดงแฮอึกอักเล็กน้อย พลางเหลือบมองฮันเกิงที่ขู่ฮื่อแฮ่ ชูนิ้วทำท่าปาดคอ บ่งบอกว่าถ้าเขาตกลง เขาจะไม่ตายดี

    "ไม่มีแต่....ลุย"ฮีชอลขึ้น

    "โอเค" และแล้วสามหนุ่มก็ประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียง แม้จะมีสองเสียงที่จะหลงพูดอ่อยๆด้วยความไม่เต็มใจ

                     ************************************************************


    บรรยากาศภายในห้องมืดสยองขวัญราวกับบ้างผีสิง มีเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดลอดผ่านบานกระจกแตกร้าวที่เป็นแสงส่องนำทาง ฮีซอลไอโขลกอยู่บ่อยครั้งเมื่อสูดเข้ากับกองฝุ่นสกปรก ดงแฮต้องเอาไม้คฑาศักดิ์สิทธิ์มากวาดเอาหยากไย่ยั้วเยี้ยออกให้พ้นทาง ฮันเกิงเหลือบมองภาพวาดหญิงสาวอายุอานามหลายร้อยปีที่ให้ประดับห้องแล้วอดไม่ได้ที่จะขนลุกเกรียว

     

    " ฮันเกิงขอไฟหน่อยได้ไหมครับ" เสียงของดงแฮดังขึ้นมาอย่างหวาดๆ เมื่อเห็นแมงมุมตัวเขื่องขู่ฟ่อใส่ทันทีที่เขาไปทำรังของมันพัง

    "นายก็เสกเองสิทำไมต้องเป็นฉันด้วย" ฮันพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเนื่องด้วยพาลจากเหตุการณ์เมื่อกลางวันที่ดงแฮทำให้เขาผิดแผนไปหมด ถึงจะไม่ใช่เพราะดงแฮ เขาก็จะโทษว่าเป็นความผิดของดงแฮอยู่ดี (??)

    "ฮันเกิง ทำไมนายต้องทำอย่างนี้ด้วยล่ะ ดงแฮเค้ามองไม่เห็นนะ แล้วอีกอย่าง.....โอ๊ยย!!" ฮีซอลร้องเสียงดังหลังจากเดินชนกับคานเตี้ยๆอันนึงเข้า

    "เจ็บรึเปล่าฮีชอล" ฮังเกิงรีบวิ่งมาดูด้วยความห่วงใย

    "โอ๊ยยยย เพราะนายแท้ๆเลยฮันเกิง ถ้าเสกไฟมาตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่ต้องเดินชนนู่นชนนี่แล้ว!! "ฮีชอลพูดพร้อมลุกขึ้นเดิน ฝ่ายฮันเกิงนั้นค่อยๆเดินตามคนข้างหน้าด้วยอารมณ์บูดเต็มทีเมื่อโดนตำหนิเข้า

    " ตอนนี้เราถึงใจกลางของห้องมืดแล้ว ทุกคนประจำตำแหน่งนะครับ พี่ฮีชอล ทำ
    พิธีนะครับ ผมจะคอยเป็นคนหนุนให้ ส่วนพี่ฮันเกิงคุณช่วยป้องกันพวกเราระหว่างทำพิธีนะครับ"

    "ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งนายด้วย"ฮันเกิงพูดอย่างหัวเสีย ฮีชอลได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา ก่อนที่เจ้าของดวงหน้างามจะฉีกยิ้มหวานแล้วเข้าไปกระซิบใกล้ๆคนรัก

    "ทำเถอะนะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้มีรางวัลให้"

    "จริงนะ"

    "อื้อ"

    "ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้คงต้องขอมัดจำไว้ก่อนแล้วกัน" จบคำฮันเกิงก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้ จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกฝ่าย เขาค่อยๆไล้ริมฝีปากนุ่มนิ่มของฮีซอลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปอย่างร้อนแรง มือข้างประคองเอวของเด็กหนุ่มเข้าแนบชิดเมื่อเห็นฮีซอลทำท่าจะยืนไม่ไหว มือเรียวยึดไหล่ของฮันเกิงพยุงร่างไว้ ร่างสูงค่อยๆถอนริมฝีปากออก ทันทีที่ได้ยินดงแฮเรียก


    "เอาล่ะครับหมดเวลาสวีทแล้วทุกคนประจำที่"

    "คทา"ฮีชอลพูดพร้อมหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาโยนขึ้นกลางอากาศ เขาร่ายคาถาสั้นๆส่งผลให้ปิ่นนั้นใหญ่ขึ้นจนยาวขนาดเท่าตัวคน ขนาดพอดีมือ

     

    คฑา ดงแฮเอ่ยต่อ พลางพึมพำคาถาบทเดียวกันกับอีกฝ่าย ทันใดนั้นคฑาก็เปล่งแสงสีเงินยวง งดงามราวกับอัญมณีเลอค่า


    "ทามิเนสทามะภูติของข้า เจ้าจงปกป้องบุคคลผู้อยู่ภายใต้ห้องมืดแห่งนี้ด้วยเถิด" ประหนึ่งเปลวเพลิงแผดเผาห้องมือให้ดับสิ้น แสงสว่างโชติช่วงเจิดจรัสไปทั่วห้อง

     

    ดาร์กบุ๊ค ฮีชอลพูดพร้อมวาดคทา ทันใดนั้นหนังสือปกดำหน้าปกประดับด้วยไม้กางเขนสีทองก็มาอยู่ข้างหน้าฮีชอล

     

    มนตราแห่งรัตติกาลเอ๋ย เจ้าจงนำพาดวงวิญญาณที่ข้าระลึกด้วยเถิด ฮีชอลพูดพร้อมหลับตาพลางนึกภาพดวงวิญญาณที่เขาอยากให้ปรากฏรูปกายอยู่ตรงหน้าเขา

     

    วงแหวนแห่งเวทย์ดงแฮเอ่ยขึ้นพร้อมนำคฑาปักไว้ที่พื้นดินทำให้เกิดวงแหวนอักขระโอบล้อมทั่วห้อง

     

    พรึบ!!!

     

    สิ้นสุดพิธีฮีชอลค่อยๆลืมตาขึ้น  สิ่งที่เค้าเห็นสิ่งแรก นั้น คือภาพวิญญาณหญิงสาว ริมฝีปากแห้งผาด ผิวหน้าซีดเผือก ดวงตาชุ่มโชกไปด้วยน้ำตา

     

    ปลดปล่อย ปลดปล่อยฉัน ปลดปล่อยลูกฉันทีเธอพร่ำเพ้อคำพูดอยู่เพียงคำเดียว แลดูเหมือนจะไม่ได้ยิน ไม่รับฟังทุกถ้อยคำที่เขาพยายามพูดเลยแม้แต่น้อย

     

    คำๆเดียวที่ฮีชอลจำได้ เธอพูดคำนั้น พูดมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

     

    แล้วเราจะปลดปล่อยเธอได้อย่างไรฮันเกิงที่ยืนเงียบอยู่นานถามบ้าง

     

    หมู่บ้านทางตะวันตก ไม่ไกลนัก ลูกของฉันอยู่ที่นั่น ปลดปล่อยฉันด้วย ปลดปล่อยลูกฉัน ดวงวิญญาณของเธอค่อยๆเลือนลางหายไป ไม่ทันที่พวกเขาจะไม่เข้าใจอะไร

     

    ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยสิเนี่ย เสียงนุ่มดังขึ้นจากเบื้องหลัง ทั้งสามหันพรึบไปทางเบื้องหลังทันที ฮีซอลมุ่นคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าที่แสนคุ้นเคย โครงหน้าเรียวได้รูป ผิวขาวเนียน ริมฝีปากสีชมพูแย้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาดำขลับงดงามหันมามองทางพวกเขา

     

     อีทึกฮีชอลอุทานเสียงเครือ

     

    ทำท่าเหมือนลืมผมไปเสียอย่างนั้น สวัสดีครับ ทุกคน ผมคือเพื่อนสมัยเด็กของฮีซอล ครับ อีทึกแนะนำตัวพลางฉีกยิ้มหวานพลอยจะทำให้ดงแฮกับฮันเกิงรู้สึกถึงรัศมีประหลาดที่เจิดจรัส ราวกับเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วเขาจะลืมความรู้สึกไม่มีไปเสียหมด

     

    แล้วทำไมถึงไม่พูดถึงผมเลยหละครับอีทึกคังอินค่อยๆเขยิบตัวเข้ามาใกล้อีทึก

     

    เอ่อ ทุกคน นี่คือ คังอิน ฟะ ฟะ แฟนผมเองครับอีทึกพูดพลางก้มหน้างุด ดวงหน้าแดงระเรื่อไปถึงหู

     

    แหม ทึก มีแฟนแล้วไม่บอกเพื่อนนะฮีชอลผิวปากแซวยกใหญ่

     

    แล้วทีฮีชอลล่ะครับ ฉากจูบร้อนแรงดีนะครับ เด็กหนุ่มสะอึกกึก ทันทีที่โดนย้อนคืนเข้าให้

     

    เอ๋......แล้วดงแฮหายไปไหนน่ะ ทุกคนหันซ้าย หันขวาด้วยความแปลกใจ

    โดยหารู้ไม่ว่า ดงแสแอบไปตรวจสอบเรื่องราวล่วงหน้าแล้ว

     

     


    ---------------------------------------------------------------------------*-*-----------------------

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×