ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf love controls คริสลู่ krislu krishan

    ลำดับตอนที่ #2 : Flavor of love...1

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 56




    บรรยากาศภายในร้านไม่ค่อยหนาวเย็นเท่าไรนัก แต่กลับเป็นหัวใจของลู่หานที่กำลังถูกหิมะโปรยปรายในหัวใจจนเหน็บหนาวซะมากกว่า



    “ดีมากครับ.....คุณอี้ฝานเอามือโอบเอวคุณลู่หานเข้ามาหน่อยสิครับ  แล้วคุณลู่หานก็หันมามองหน้าคุณอี้ฝานนิดนึงนะครับ”  เสียงช่างภาพบอกท่าทางให้กับว่าที่คู่แต่งงานใหม่ที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงหน้า



    ถึงแม้ช่างภาพอาจจะคิดว่าเค้าทั้งคู่จะดูเขินอายกันและกันมากไปซักนิด  แต่ความเป็นจริงแล้วเค้าทั้งสองคนไม่อยากจะถูกเนื้อต้องตัวกันไปมากกว่านี้เลยต่างหาก


    “อย่าทำหวงเนื้อหวงตัวหน่อยเลย น่ารำคาญชะมัด”  อี้ฝานก้มกระซิบที่ใบหูของลู่หานที่หันมามองตามคำแนะนำของช่างภาพเมื่อครู่  ใบหน้าเนียนกัดเม้มริมฝีปากของตัวเองจนรู้สึกเจ็บ  คำพูดแต่ละคำของว่าที่เจ้าบ่าวกลับเสียดแทงเข้าไปถึงขั้วหัวใจ


    แต่มันก็คือความต้องการของตัวเองตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่รึไง  ยิ่งเค้าเกลียดเรามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีสำหรับตัวของเค้าเอง  แล้วทำไมต้องรู้สึกเจ็บเจียนตายทุกครั้งที่เค้าทำท่าทางเย็นชาและคำพูดแดกดันจนน้ำตาตกในถึงขนาดนี้


    “ฉันไม่ได้หวง ก็แค่รังเกียจ ขยะแขยง นายไม่รู้รึไง??” น้ำเสียงเย็นชาไม่ต่างกัน สบตากับอี้ฝานที่ถลึงตาใส่แทบจะขย้ำตัวเค้าให้เนื้อหลุดติดมือไปแล้วก็ได้  ถ้าอี้ฝานเป็นราชสีห์ ลู่หานก็คงจะเป็นกวางน้อยๆที่พร้อมจะโดนขย้ำจนไม่มีชิ้นดีไปแล้วแน่ๆ

     
     

    “รู้สิ  เพราะรู้ว่านายเกลียดฉันมากแค่ไหนฉันก็เกลียดนายมากเท่านั้น  ฉันล่ะยังไม่เข้าใจจริงๆที่แม่นายแทบจะคุกเข่าอ้อนวอนฉันให้แต่งงานกับนายขนาดนี้  มันเพราะอะไร??”  อี้ฝานกระซิบกระซาบอีกครั้งจนลู่หานเริ่มจะขยับออกห่างอ้อมแขนที่โอบกระชับรอบเอวบางของตัวเองเมื่อครู่

     
     

    “อย่าเรื่องมากน่าลู่หาน  คนอื่นเค้าจะสงสัยกันหมดนะ  ไม่อายเค้ารึไง”  อี้ฝานยิ้มเยาะ  ลู่หานจ้องใบหน้าคมอย่างเอาเป็นเอาตายแต่แล้วก็ต้องหันมามองช่างภาพและผู้ช่วยอีกสองคนที่อยู่ใกล้ๆเมื่อรู้สึกตัว  มันคงจะเป็นการดีถ้าเค้าไม่แสดงกิริยาแย่ๆออกไปให้บุคคลอื่นได้รับรู้เท่าไรนัก

     
     

    อี้ฝานผ่อนลมหายใจขึ้นลงเบาๆเพื่อระงับสติอารมณ์ที่วิ่งพลุ่งพล่านของตัวเอง ฝ่ามือของอี้ฝานเอื้อมเข้ามารวบเอวบางของลู่หานเข้าหาตัวอีกครั้งจนเจ้าตัวชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจเมื่อมืออีกข้างที่อยู่ด้านหลังของลู่หานกลับลูบขึ้นลูบลงไปมาตามแผ่นหลังของตัวเองอย่าถือสิทธิ์

     

     

    อดทนไว้นะลู่หาน  ไม่นานหรอก ไม่นานทุกอย่างก็คงจะจบ

    จบโดยที่มีเราเพียงคนเดียวที่เจ็บปวด

     

     

    อีกไม่นานจริงๆ

     


     

    .................

     


     

    บรรยากาศที่ชวนฝัน  กลิ่นของมวลดอกไม้ที่แข่งกันส่งกลิ่นหอมหวานไปทั่วบริเวณที่จัดงานกับแขกเหรื่อมากมายที่ต่างก็ยิ้มแย้มยินดีกับงานมงคลของทั้งคู่ที่ยืนเคียงข้างกันดุจตัวละครในเทพนิยาย  งามสง่าจนน่าหลงใหล เหมาะสมทั้งรูปร่างหน้า
    ตาและก็ฐานะทางสังคม



    “ฝากดูแลน้องด้วยนะอี้ฝาน  น้องอาจจะเอาแต่ใจไปบ้างก็อย่าถือน้องเลยนะ  ลู่หานอย่าดื้อกับพี่เค้านะลูก  อย่าทำให้พี่เค้าเป็นห่วง  อย่า......”  แม่ของลู่หานให้พรแล้วก็ทำหน้าจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ

     
     

    ลู่หานลุกขึ้นโอบกอดผู้เป็นแม่เพื่อปลอบโยน  เค้ารู้ว่าแม่ต้องการจะพูดอะไร  เค้ารู้ว่าแม่เจ็บปวดแค่ไหน  แต่เค้าต้องยิ้มเพื่อให้ท่านทั้งสองหายห่วงกับเค้าจริงๆซะที

     
     

    “ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ  ผมเป็นเด็กดีอยู่แล้ว  ใช่มั้ยคุณอี้ฝาน” ดันอ้อมกอดออกนิดนึงพลางหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งนิ่งๆอยู่ข้างๆ

     
     

    “เอ่อ...ครับ  คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ  ลู่หานเคยเป็นเด็กดี  และเค้าก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด จริงมั้ย?” อี้ฝานหันไปยักคิ้วถามลู่หานกับประโยคสุดท้ายของตัวเองเมื่อครู่

     
     

    ร่างบางทำปากขมุบขมิบใส่อี้ฝานเบาๆ ใบหน้าคมกลับไม่ใส่ใจพลางหันไปยิ้มกับคุณพ่อคุณแม่ของพวกเค้าที่ยืนยิ้มด้วยความเป็นสุข

     
     

    ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ออกจากห้องไปแล้ว ลู่หานเหลือบมองอี้ฝานที่นั่งอยู่ข้างๆนิดนึงอย่างระวังตัว  ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องน่าแปลกที่ต้องระวังเรื่องนี้กับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าว  แต่ก็อดที่จะกลัวขึ้นมาไม่ได้จริงๆ  ถึงแม้ในส่วนลึกจะตื่นเต้นดีใจจนแทบปิดไว้ไม่อยู่ก็ตามที

     
     

    “มองอะไร? กลัวฉันรึไง?..”  อี้ฝานไม่พูดเปล่ากลับขยับเข้ามาใกล้ๆร่างบางอีกนิด.. ลู่หานขยับถอยหนีออกทันทีแต่ก็คงจะช้าเกินไปเมื่อจู่ๆอี้ฝานก็ใช้มือทั้งสองข้างขึ้นมาจับไหล่บางพร้อมกับโน้มกายลงไปทาบทับร่างบางที่สะดุ้งเฮือกอย่างตกใจเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

     
     

    “อี้ฝาน.......นายจะทำอะไร!!!”  ลู่หานถามออกไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ  มือบางพยายามดันอกแกร่งของอี้ฝานที่ทาบทับตัวเองเอาไว้ทั้งตัวจนขยับไปไหนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

     
     

    “อย่าทำตัวไร้เดียงสาไปหน่อยเลยน่า..ฉันไม่ได้เป็นพระอิฐพระปูนนะถึงไม่ต้องทำอะไรนายในวันแต่งงานคืนแรกแบบนี้”  ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ข้อมือทั้งสองข้างของลู่หานถูกมือของอีกฝ่ายรวบมันเอาไว้อยู่ข้างๆลำตัวจนแทบจะขยับตัวไม่ได้

     
     

    ลู่หานกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น...เค้าเข้าใจดีว่าอี้ฝานปากคอเลาะร้ายขนาดไหน  แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะร้ายกาจมากถึงขนาดนี้  แม้แต่คืนสำคัญในวันแต่งงานเค้าก็ยังไม่ลดคำพูดเชือดเฉือนที่น่ารังเกียจแบบนี้เลยซักนิด

     
     

    “ใจร้าย...ฉันเกลียดนาย ได้ยินมั้ย...ว่าฉันเกลียด......”  ยังไม่ทันจะได้พูดจบริมฝีปากของลู่หานก็ถูกปิดสนิทจากอีกคนไปซะแล้ว

     
     

    ใบหน้าคมยกยิ้มขึ้นมาเบาๆอย่างเหนือกว่า จ้องมองใบหน้าเนียนที่จ้องตาเค้าเขม็งอยู่ด้านล่างของตัวเองอย่างพอใจ

     
     

    “เพี๊ยะ!!!....”  มือข้างที่ดิ้นหลุดจากการเกาะกุมยกขึ้นฟาดใบหน้าคมของอี้ฝานจนต้องหันไปตามแรงอย่างรวดเร็ว

     
     

    ลู่หานหอบหายใจขึ้นมาด้วยความโกรธ...ดวงตาคู่สวยกลับรื้นขึ้นมาพร้อมกับหยดน้ำตาอย่างห้ามไม่ได้  อี้ฝานยังคงนิ่ง  ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบแก้มของตัวเองเบาๆกับรอยที่ได้รับจากแรงตบของร่างบางเมื่อครู่  ใบหน้าคมค่อยๆหันกลับมาจ้องมองลู่หานที่จ้องมองตัวเองด้วยหยดน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาเต็มที

     

    “บีบน้ำตางั้นเหรอ....คิดว่าไง  ฉันขืนใจนายงั้นสิ การแต่งงานมันก็ต้องจบลงด้วยเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว  เลิกทำเหมือนเด็กๆได้แล้วลู่หาน”  อี้ฝานใช้ท่อนแขนวางทาบลงข้างๆกับใบหน้าลู่หานที่นอนสะอึกกับคำพูดของร่างสูงจนน้ำตาเจ้ากรรมไหลลงมาจากปลายตาคู่สวยอย่างห้ามมันไม่ได้อีกต่อไป

     
     

    “ฉันเกลียดนาย.........เกลียด” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ สิ่งที่เต้นอยู่ในอกด้านซ้ายดูเหมือนจะทิ่มแทงด้วยเข็มเป็นล้านๆเล่ม เลือดที่หล่อเลี้ยงอยู่ภายในเหมือนจะหยุดเอาดื้อๆ

     
     

    “ไม่ต้องย้ำคำๆนี้กับฉัน  ฉันไม่อยากฟัง หยุดพูดซะที!!” อี้ฝานตะคอกใส่ร่างบางที่เริ่มสะอื้นไห้ ร่างสูงไม่สนใจหยดน้ำตาของอีกคนเลยซักนิด ความต้องการทางร่างกายสำคัญกว่าจิตใจไปแล้ว เค้าคนนั้นคนที่ลู่หานเคยรู้จักตอนเด็กๆไม่มีอีกแล้ว

    ไม่มีอีกแล้วสินะพี่อี้ฝาน



    น้ำตาหยดที่เท่าไหร่ที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย หัวใจที่กำลังสับสนมันกลั่นกรองออกมากลายเป็นหยดน้ำตาอย่างห้ามมันไม่อยู่ เจ็บปวดไปหมดทั้งกายและก็ใจ


     

     

    หมับ!!!!  อี้ฝานกระชากร่างบางของลู่หานเข้ามาหาตัวอีกครั้งหลังจากอีกฝ่ายนอนหันหลังให้กับเค้า ร้องไห้อีกแล้ว  แต่หยดน้ำตาครั้งนี้กลับทำให้อี้ฝานชะงักความรุนแรงของตัวเองลงอย่างอัตโนมัติ

     
     

    “ขอโทษ...” อี้ฝานเอ่ยสั้นๆ ถอนหายใจเบาๆพร้อมกับเกลี่ยใบหน้าของลู่หานที่ถูกปอยผมปกคลุมบนหน้าผากมนอย่างเบาๆอย่างรู้สึกผิด

     
     

    “นาย....นายเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ??  เกลียดฉันจริงๆใช่มั้ย??” น้ำเสียงของอี้ฝานดูอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ลู่หานได้ยินและรับรู้มันอย่างชัดเจน  ใจดวงน้อยดูแช่มชื้นขึ้นมาได้บ้าง  ริมฝีปากบางดูเหมือนจะขยับยิ้มอย่างไม่รู้ตัว แต่แล้วลู่หานกลับเลือกที่จะแสดงและพูดมันอีกอย่างที่ตรงกันข้ามกับใจของตัวเอง

     
     

    “แน่นอน....ฉันรู้สึกกับนายแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้รึไง?” น้ำเสียงสั่นเครือปนมาเล็กน้อยแต่ลู่หานก็พยายามพูดมันออกมาแล้ว

     
     

    พูดให้อี้ฝานเกลียดลู่หานเข้ากระดูกดำ

     
     

    อี้ฝานพูดอะไรไม่ออก  ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของลู่หานอย่างผิดหวังในคำตอบเป็นที่สุด... อี้ฝานผละออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้าวยาวเดินตรงไปยังห้องน้ำให้เร็วที่สุดก่อนที่น้ำตาลูกผู้ชายจะไหลออกมาแสดงความอ่อนแอให้กับอีกฝ่ายได้รับรู้

     
     

    “ขอโทษ.......ฉันขอโทษที่โกหก พี่อี้ฝาน” ลู่หานยกมือบางขึ้นมาปิดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง  หยดน้ำตาหลั่งไหลลงมาอีกครั้งเพื่อระบายความอัดอั้นภายใจจิตใจของตัวเองอย่างทรมาน

     
     

    พี่อี้ฝานต้องเกลียดลู่หานคนนี้สิ

     
     

    ลู่หานเด็กดีของพี่ในอดีตได้หายไปแล้ว

     
     

    หายไปแล้วจริงๆ......

     

     

    ......................



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×