ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ตอนชีวิตที่ดำเนินต่อไป

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนพิเศษ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 49


    ตอนพิเศษ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

    ตอนนี้เป็นตอนหลังจากงานหมากกระดานเกียรติยศ ของเฟริน และเอวิเดส เจ้าค่ะ คือเป็นตอนที่แต่งไว้ก่อนที่เฟรินจะหนีไปล่ะเจ้าค่ะ อาจจาเพี้ยนไปจากหนังสือเล่มเดิมเล็กน้อยนะเจ้าคะ


    ____________________________________________________________________

    ..แพ้..



    ..พ่ายแพ้..

    คำตอกย้ำที่ดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา หลังจากเกมที่เพิ่งจบไประหว่างเธอและพ่อปีศาจ ขอบตาเริ่มมีรอยแดงช้ำ พร้อยน้ำใสๆที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตาคู่งาม


    ...คนถ่อยแห่งเอเดน...



    คำตราหน้าที่ชาตินี้เธอคงไม่อาจลบล้างได้ และแน่นอนว่าคงไม่มีหน้าไปพบใครที่ไหนอีกต่อไป

    หญิงสาวค่อยเอนหัวลงพิงขอบหน้าต่างเกวียน ผมสีน้ำตาลไหวตามลมคลอเคลียแก้มนวล แสงจันทร์ที่สาดต้องลงมาขับใบหน้างามให้ชวนมองยิ่งนัก หากไม่ติดตรงที่ว่า มีรอยหมองเศร้าปรากฎอยู่ ดวงหน้าหวานผินไปมองคนขับเกวียน

    "มาดัส เดอโบว์โรว์"  พ่อที่เคยคิดว่าตายไปแล้วครั้งหนึ่ง

    ร่างขอคนแก่หัวล้านเลี่ยน ยังคงคุมบังเหียนม้า โดยไม่สนใจว่าจะมีใครจับจ้องอยู่
    หากแต่เสียงที่ลอยตามลมมาทำให้คนฟังต้องสะดุ้ง

    "แกจะจ้องข้าทำไมวะ ไอ้เฟริน"


    "ป่าวนี่พ่อ ข้าแค่มองเฉยๆ หรือว่ามองแค่นี้ก็ไม่ได้"


    "เออ เรื่องของเอ็ง ว่าแต่ อยากไปเยี่ยมตาแกมั้ยล่ะ"


    คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยินข้อเสนอ พร้อมๆกับที่เกวียนชะลอลงเรื่อยๆ ไม่นานร่างของคนขับก็เข้ามาในเกวียน พร้อมทั้งกล่าวต่อไป

    "อีกไม่นานจะครบ 49 วันตามที่กำหนดไว้แล้ว เจ้าอยากไปดูหน้าท่านครั้งสุดท้ายมั้ยล่ะ"


    "แต่นี่เราหนีมานะพ่อ"



    "อุวะ แล้วเอ็งคิดว่าใครจะเดาออกมั่งล่ะ ว่าเอ็งจะไปบารามอสน่ะ เค้าคงคิดว่าเอ็งหนีไปไกลโห่แล้ว"



    เฟรินคิดตาม ก่อนจะพยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง "ก็ดีพ่อ ยังไงเค้าก็ตาฉัน ไปหาก็ดีเหมือนกัน"



    จากนั้นเกวียนดังกล่าวจึงเบนไปอีกทางนึงมุ่งสู่บารามอส ก่อนคนขับจะกระตุกบังเหียนไว้ม้าเร่งฝีเท้าแล้วหายลับไปในความมืด


    __________________________________________________________________


    ตลาดบารามอสยังคงคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านเดินผ่านกันไปมา จับจ่ายซื้อของ โดยที่ผู้คนจำนวนมากยังไม่รู้ถึงอาการประชวรของอดีตเจ้าผู้ครองประเทศเลยแม้แต่น้อย ที่ปิดข่าวไว้เช่นนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้ผู้คนแตกตื่น สิ่งที่คนทั่วไปได้รับรู้ก็คือ ไฮคิงได้ยกตำแหน่งคิงบารามอสให้กับพระอนุชาของพระองค์ คือ เจ้าชายชามัล ส่วนเหตุผลหรือเพราะเหตุไดจึงมีการเปลี่ยนผู้นำ ไม่มีผู้ใดร่วงรู้

    เกวียนเก่าๆโทรมๆ เล่มหนึ่งค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองหลวงของบารามอส แล้วเหมือนกับว่าจุดหมายปลางทางมีอยู่เพียงแห่งเดียว คือ วังหลวง
    เกวียนดังกล่าวค่อยๆชะลอลงเรื่อยๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ใกล้ๆกำแพงวังปีกตะวันตก พลันเมื่อเกวียนหยุดดังกึก เสียงหวานก็ดังออกมาให้ได้ยิน หาก แต่คำพูดนั้นไม่ได้เข้ากับใบหน้าและศักดิ์ของผู้พูดเลยแม้แต่น้อย

    "เฮ้ย พ่อ แล้วเราจะเข้าไปไงล่ะ ข้าว่าทหารคงไม่ให้เราเข้าง่ายๆหรอก"



    "เอ็ง อย่าลืมสิฟระ ไอ้เฟริน ว่าพ่อเอ็งเป็นใคร สุดยอดหัวขโมยเชียวนะเว้ย"



    "พ่อ อย่าบอกนะ ว่าจะเข้าไปแบบอาชีพเก่า" ทั้งๆที่รู้ว่าไม่น่าถามแต่ใจก็อยากให้มันเป็นอย่างอื่น 



    "เออ สิวะ ไม่งั้นเอ็งจะเข้าไปยังไงล่ะ"  เมื่อได้ฟังก็ต้องตบหน้าผากตัวเอง ว่าไม่น่าไปเชื่อไอ้พ่อบ้านี่เลย แต่ก็ต้องถอนหายใจ เมื่อคนที่พูดตะกี๊ได้กระโดดข้ามกำแพงวังเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



    "พ่อนะ พ่อ หาเรื่องแท้ๆเชียว" ก่อนร่างบางจะลอยข้ามกำแพงวังไปอีกเช่นเดียวกัน ทิ้งไว้ให้ทหารเวรที่เพิ่งเดินมา ออกอาการงงเล็กน้อย

    "เมื่อกี๊ข้าเห็นอะไรแว๊บๆ แกเห็นหรือป่าว" ทหารเวรนายหนึ่งถาม


    "ไม่ แกน่ะตาฝาดไปเอง" ทหารอีกนายตอบก่อนทั้งสองจะไม่ใส่ใจแล้วเดินตรวจต่อไป




    เมื่อมาถึงด้านใน ร่างบางที่วิ่งตามผู้เป็นพ่อก็ส่งเสียงถามขึ้น เมื่อคนข้างหน้าชะลอฝีเท้าลงอีกครั้ง ก่อนจะเคาะประตูบานใหญ่ แล้วพลักเข้าไปโดนไม่สนใจเสียงลูกเลยแม้แต่น้อย


    "พ่อหยุดทำไม อ้าวเอ้ย พ่อเข้าไปทำไมล่ะนั่น"


    ภาพที่ปรากฎแก่สายตาคือห้องทำงานสีมะฮอกกะนี ภายในดูสะอาดและเรียบง่าย หากแต่ก็แฝงไปด้วยบรรยาศที่เคร่งขรึมและน่าเกรงขาม ร่างของคนที่อยู่ตรงโต๊ะทำงานโผล่หน้าขึ้นมาให้ ร่างบางแปลกใจเล็กน้อย แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรคนบนนั้นก็ขัดขึ้นเสียก่อน


    "เฟลิโอน่า เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร" คำถามจากพระเจ้าตาชามัลดังขึ้นหากแต่คนตอบกลับเป็นอีกคนหนึ่ง


    "ข้าพามาเอง กะให้มันมาเยี่ยมเสด็จตามันซะหน่อย"  ผู้สูงศักดิ์บนโต๊ะเบือนหน้ามาตามเสียง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ "ท่านเองหรือมาดัส"  พร้อมกับที่ชายแก่ ดันตัวลูกสาวจอมดื้อมาไว้ข้างหน้า ร่างบางส่งเสียงอุทธรณ์เบาๆ เพราะเกรงใจท่านตาอีกคน


    "คือ หม่อมฉันอยากมาหาเสด็จตาน่ะเพคะ เอ่อ..ไม่ทราบว่าจะขอเข้าเฝ้าได้หรือไม่"

    คิงชามัลพินิจหลานสาวอยู่ครู่นึงก่อนจะตอบ "ได้..แต่เจ้าช่วยเราอย่างนึงได้หรือไม่"

    "อะไรหรือเพคะ"????


    หากแต่คิงชามัลยังไม่ตอบก่อนจะเรียกให้นางกำนัลหน้าห้องเข้ามาพลางเอ่ยรับสั่งที่พอจะทำให้เฟรินเข้าใจว่าท่านต้องการสิ่งใด

    "พวกเจ้าจงพา เจ้าหญิงเฟลิโอน่า ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของเจ้าหญิงอลิเซีย แล้วเอาชุดโปรดของอลิเซียให้นางใส่ เข้าใจมั้ย"



    "เพคะ" นางกำนัลทั้งสองรับคำสั่งก่อนจะพาเฟริน ออกไป



    "ถ้าข้าเดาไม่ผิดท่านคิดจะ.........."


    "ถูกแล้วมาดัส อย่างน้อยข้าก็อยากให้ท่านพี่ได้เห็นคนที่ท่านคิดถึงมากที่สุด ก่อนท่านจะจากไป"




    หลังจากที่แยกมาจากห้องอักษร เฟรินหรือเจ้าหญิงเฟลิโอน่าก็ถูก ขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่ ร่างบางแทบไม่ต้องขยับตัวเมื่อนางกำนัลทั้งสอง บรรจงสวมชุดให้ ชุดสีเหลืองที่รับเข้ากับผมสีน้ำตาลไหม้พลางเกล้าขึ้นก่อนจะทิ้งปอยผมให้มาคลอเคลียดวงหน้าหวาน จากนั้นจึงมีการตบแต่งใบหน้าด้วยสีอ่อนๆทำให้ความงามที่เก็บซ่อนอยู่เผยออกมาอย่างเด่นชัด หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ยาวนานถึง 1 ชม.เต็ม นางกำนัลทั้งสองจึงถอนสายบัวแล้วออกจากห้องไป เฟรินค่อยๆก้าวพาตัวเองไปที่กระจก ภาพที่สะท้อนออกมาทำให้เฟรินต้องยิ้มรับอย่างสุขใจ ก่อนจะค่อยๆสำรวจภายในห้องนั้น มือเรียวยาวค่อยๆลูบไปบนผ้าปูเตียง รวมถึงหยิบรูปถ่ายหัวเตียงขึ้นมาดู หญิงสาวที่อยู่ในรูปไม่มีตรงไหนเลยที่ต่างกับเธอ อาจจะเพียงแค่ดวงตา แต่นอกนั้น ทั้งสองราวกับคนๆเดียวกัน หลังจากตกอยู่ในภวังค์ไม่นาน ร่างบางก็สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมีเสียงคนเคาะประตู แล้วเปิดเข้ามา

    พระเจ้าตากับพ่อของเธอนั่นเอง แต่สิ่งที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ ดูเหมือนว่าทั้งสอง จะชะงักไปเมื่อเห็นเธอ และพึมพัมพร้อมกันว่า "อลิเซีย"

    "ฝ่าบาท....พ่อ หม่อมชั้น เฟลิโอน่านะเพคะ"

    บุรุษทั้งสองหลุดออกจากภวังค์ก่อนผู้มีศักดิ์เป็นตาจะเอ่ยขึ้น "ไปกันเถอะ" ก่อนจะเดินนำออกนอกห้องไป

    ก๊อก..ๆๆ

    มือหนาของคิงชามัลพลักประตูบานใหญ่เข้าไป พร้อมทั้งส่งสัญญาณให้เหล่าองค์รักษ์ นางกำนัลและหมอหลวงออกไป ทั้งหมดยอมทำตามแต่โดยดี หากแต่เมื่อเดินสวนออกไปทุกคนก็ต้องตาค้างเมื่อเห็นบุคคลที่ยืนอยู่หน้าประตู แต่ก่อนที่จะได้พินิจจนชัดเจน อาการเสียวสันหลังเย็นวาบก็ตามมาเมื่อ คนบางคนจ้องเขม็งเป็นเหตุให้ต้องรีบแปรขบวนกันออกไปโดยเร็วพลัน ร่างผู้เป็นใหญ่องค์ปัจจุบันของบารามอสค่อยน้อมตัวลงคุกเข่าลงข้างเตียงใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ร่างบางค่อยๆเดินตามเข้ามา พลางจะคุกเข่าลงบ้างแต่คิงชามัลกลับส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงบนเตียงนั้น ภาพที่เห็นทำให้ดวงตาเธอรื้นน้ำตามาอย่างกลั้นไว้ไม่ได้ เมื่อบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเอเดน บัดนี้ซีดเซียวและดูเหนื่อยอ่อนจนน่าใจหาย มือเรียวสวยเอื้อมไปคว้ามือหนาที่วางอยู่ขึ้นมากุมไว้แนบอก

    ความอุ่นจากมือทำให้คนที่นอนหลับใหล ค่อยๆลืมตา เปลือกตาหนากระพริบถี่ๆก่อนจะเปิดกว้าง ภาพที่รับเข้าสู่สายพระเนตรครั้งแรกทำให้น้ำตานั้นเอ่อล้น ริมฝีปากหนาพึมพัมเรียกชื่อคนที่รักและสุดแสนจะห่วงหา  "อลิเซีย ลูกพ่อ" 



    มะ หม่อมชั้นไม่......." ก่อนที่จะได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมหัตถ์หนาก็ค่อยๆยกขึ้นลูบแก้มนวล ส่งสายตาเป็นเชิงให้เงียบ เมื่อพินิจอยู่อึดใจก็ทรงแย้มโอษฐ์

    "ข้ารู้แล้ว.....เฟลิโอน่าสินะ" หากแต่รอยยิ้มเมื่อครู่กลับเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่เศร้าหมองในทันที ก่อนจะเอื้อนเอ่ย คำตอกย้ำหัวใจตนเอง

    "ตามันเป็นพ่อที่ไม่ดี ทำให้แม่เจ้าต้องเสียใจ พอเป็นเจ้า ตาก็ยังเป็นตาที่ไม่ดีอีก ที่ทำให้เจ้าต้องตกระกำลำบาก ทั้งๆที่ตาควรจะดูและเจ้า แต่ตาก็........"

    "อย่าทรงตัดเช่นนี้เพคะ  เสด็จตาทรงเสียสละ ท่านทำเพื่อส่วนรวม ท่านยัง......." หากแต่นิ้วเรียวยาวเอื้อมมาปิดปากหญิงสาว

    "ไม่ต้องแก้ตัวให้ตาหรอกเฟลิโอน่า ตารู้ ตาทำให้แม่เจ้าเสียใจมาครั้งนึง พอเจ้าเกิดตาก็ได้ทำลายความรักและความหวังของนางจนสลายสิ้น เจ้าต้องถูกลักพาตัวจากอ้อมอกของนาง และตัวนางเองก็ต้องจบชีวิตลง"

    "ตาดีใจเหลือเกินที่เจ้ายังมีชีวิต ครั้งสุดท้ายที่ตาเห็นเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตารู้ว่า ตาทำผิดต่อแม่เจ้าอีกเป็นครั้งที่สาม ซึ่งคราวนี้ได้รวมไปถึงการทำร้ายเจ้าด้วย"

    "หม่อมชั้นและท่านแม่ ไม่เคย.....และไม่มีวันโกรธเคืองเสด็จตาเลย เราสองคนเข้าใจ และไม่เคยเสียใจในการตัดสินพระทัยของท่านเลย" เฟรินพูดพร้อมๆกับสะอื้นเบาๆ วงแขนกว้างจึงรวบตัวหลานสาวเข้ามากอดไว้แนบอก พร้อมทั้งลูบหัวเบาๆ


    "เจ้าช่างเหมือนแม่เหลือเกินเฟลิโอน่า เหมือนเสียจนตาไม่อยากปล่อยเจ้า เพราะกลัวเจ้าจะหายไป ที่กลัวที่สุดคือถ้าตาหลับตาลงแล้วเจ้าจะเป็นเพียงภาพลวงตา" ริมฝีปากไม่อาจเอ่ยเอื้อนคำใดอีกแล้ว พลันคำพูดย้อนกลับที่ทำให้คนฟังไม่สามารถสะกดกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป

    "หลานรักท่านตาค่ะ"

    "ตา.......ขอบใจเจ้ามาก ตาก็รักเจ้า เจ้าหญิงน้อยของตา" ดวงเนตรที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาค่อยปรือลง จนปิดสนิทในที่สุด วงแขนค่อยคลายออก จนตกลงข้างตัว เฟรินที่ยังคงสะอื้นไห้ซบอยู่บนอก รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ไร้ซึ่งเสียงที่เมื่อกี๊ยังดังอยู่แผ่วๆ ร่างบางตัวสั่นระริก จนสุดกลั้นแล้วกรีดร้อง


    "ท่านตา อย่าหลับสิคะ"

    "ท่านต้องคุยกับหม่อมชั้นก่อน ห้ามหลับนะคะ"

    "อย่าทิ้งข้าแบบนี้ ฮือ...ไม่นะ  อย่าทิ้งหลานไป"


    เสียงที่กึ่งร้องไห้กึ่งหวีดร้องทำให้เหล่าบุคคลที่เฝ้าอยู่หน้าห้องพากันกรูเข้ามา เมื่อได้รับรู้แน่ชัดแล้วว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ร่างทั้งหลายเหล่านั้นก็พากันคุกเข่าและร่ำไห้ นางกำนัลสองคนที่ตาแดงก่ำพยายามที่จะฉุดลากเจ้าหญิงของพวกเขาออกตามคำสั่งของคิงชามัล ผู้ซึ่งไม่อาจกลั้นสิ่งที่เพียรข่มไว้ได้อีกต่อไป เฟรินดิ้นขัดขืนหากแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่เคยมี เสียงประกาศเรื่องการสิ้นพระชมน์กระจายไปทั่ววังอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่กระจายไปทั่วทั้งบารามอส ไม่นานก็ทั่วทั้ง เอเดน เป็นหนึ่งครั้งที่ผู้คนทั้งหลายได้พร้อมกันร่ำไห้และไว้อาลัยให้กับ

    "บุรุษที่เสียสละ และยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเดนที่จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับ"


    ..

    ..

    .

    .

    พระราชพิธีศพได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ เหล่ากษัตริย์ต่างเมืองและผู้คนทั่วไป ต่างมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่กระนั้นผู้ที่สมควรจะอยู่ที่นี่คนหนึ่งกลับไม่โผล่มาให้เห็น และหากมีใครไปถามถึงหรือมีคำครหาเกี่ยวกับนางแล้วล่ะก็ จะได้รับคำตอบจากคิงชามัลเพียงว่า "นางได้ทำสิ่งสมควรที่สุดแล้ว"

    บริเวณชายแดนบารามอสและคาโนวาลมีเหล่าผู้คนทยอยเดินทางเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากแต่มีเกวียนเก่าๆโทรมๆเล่มหนึ่งวิ่งสวนออกมา ร่างบางค่อยโผล่ดวงหน้าออกมาจากหน้าต่างพลางมองไปยังทิศทางที่จากมา แม้น้ำตาจะเหือดแห้ง แต่ความเศร้าหมองในแววตานั้นยังไม่จางหาย ริมฝีปากบางเพียรกระซิบเบาๆผ่านสายลม ก่อนจะหลบหน้ากลับเข้าไปเช่นเดิมว่า

    "ลาก่อนบารามอส ดินแดนที่ข้ารักที่สุด ลาก่อน....ท่านตา..."


    __________________________________________________________________

    จบแล้วค่ะ จบจนได้เราต้องมานั่งคิดใหม่และพิมพ์ใหม่ เซ็งที่สุดเลย เนื้อเรื่องก็จะผิดแปลกไปจากที่เราเขียนครั้งแรกนิดหน่อยอ่ะค่ะ ก็ตอนบันทึกอ่ะ มันดันไม่ติด แต่ยังไงก็ช่วยเม้นกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

     
    แง เราแต่งสดแล้วมันหายไปง่า เด๋วไว้เย็นๆค่อยมาต่อแล้วกันแมร่ง พิมพ์ตั้งนานดันหาย กำที่สุด เซ้งมาก พอกดบันทึกแล้วดันหาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×