ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : หนทางเพียงลำพัง
Chapter 5
.
บทนี้คงสั้นหน่อยอ่นะคะ ไม่ค่อยมีเวลาเยย ทำงานพิเศษ ทุกวัน เหอๆๆ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
โกหก
คนโกหก
ไหนว่านายรักชั้นไง....
แล้วทำไม
..
..
..
นายถึงทิ้งชั้นไป....คาโล
..
..
ความคิดแล่นวาบสู่สมองทันทีที่รู้ข่าว พลันสมองกลับขาวโพลนไปในทันที ราวก้อนหินขนาดยักษ์มาทิ้งตัว
ให้ถ่วงหนักอึ้งในหัวใจ เรี่ยวแรงหดหายก่อนเข่าทั้งสองข้างจะทรุดลงกับพื้น หัวใจเริ่มกรีดร้องราวกับถูกฉีก
กระชาก นัยน์เนตรสีน้ำตาลคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา ก่อนทำนบสุดท้ายจะแตกอย่างห้ามไม่อยู่
เมื่อสิ่งที่รับรู้ ได้รับการยืนยัน ด้วยตาตนเอง
ฮึก!!  โฮ!!
ร่างบางถลาเข้าไปกอดยังร่างคนตัวสูงกว่าที่บัดนี้ อุณหภูมิเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ดวงหน้าที่ปกติขาวอยู่แล้ว ครา
นี้กลับซีดราวหิมะ ไร้ซึ่งลมหายใจ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับเมื่อร่างบางเพียรเรียกหา ไร้ซึ่งรอยยิ้มอบอุ่นที่เคยมีให้เธอ
แต่เพียงผู้เดียว ไร้ผู้ปกป้องที่คอยประคับประคองให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ ไม่มีอีกแล้วคนที่เย็นชาแต่เปลือกนอก
แต่ข้างในอบอุ่นกว่าผู้ใด ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ.........
คาโล วาเนบลี...................เจ้าชายผู้ล่วงลับ
_______________________________________________________________________
เสียงร่ำไห้โศกา ยังวนเวียนไปทั่วบริเวณกว้าง สตรีร่างบางในอาภรณ์สีดำสนิท ดวงหน้าซีดขาว ขอบตาแดงช้ำลึก
โหล หากแปลกนักที่ไร้เสียงสะอื้น แปลกนักที่ไร้ซึ่งอัสสุชล ก้าวย่างแต่ละก้าวราวกับนางพญา อาการสั่นไม่มี
ปรากฏแม้แต่เล็กน้อย  เรียวขายาวที่ทอดน่องมาอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆหยุดนิ่งในที่สุด แววอาลัยปรากฎอยู่เด่น
ชัดในดวงตาสีน้ำตาล พลางเพ่งพินิจ ไปยังใบหน้ารูปสลัก  เพียรเอ่ยคำลาครั้งสุดท้าย
ด้วย จุมพิตรัก
ริมฝีปากบางทาบลงบนอีกหนึ่งริมฝีปากได้รูป เนิ่นนาน ราวกับจะซึมซับความหวานล้ำที่ยังคงมีอยู่แม้จะเจือ
จางยิ่งนัก เสียงกระซิบที่ราวกับจะให้ได้ยินกันแค่สองคน เมื่อถอนริมฝีปากออก
นายจะเป็นคนเดียวที่ฉันรัก  เมื่อไม่มีนาย ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเป็น เฟลิโอน่าให้ใคร
ลากันเสียที เจ้าหญิงแห่งเดมอส จะไม่มีอีกแล้ว เพราะฉันจะไม่มีวันเป็น ผู้หญิงของใคร
นอกจากนาย . .คาโล
สิ้นแห่งวาจามีดสั้นวาววับถูกชักขึ้นมาในมือ  เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น  เมื่อแสงสะท้อนจากมีดแลบผ่านตา
.แพรไหมยาวสีน้ำตาลถูกตัดจนสั้นในเพียงคมมีดเดียว ปลายนิ้วเรียวค่อยๆบรรจงผูกริบบิ้นสีขาว
ให้แก่กลุ่มไหมนั้น พลางค่อยๆวางลงไปข้างๆร่างของผู้จากไป พลันอาคมเวทย์ค่อยๆก่อตัวขึ้นจากปลายเท้า
จนลามเลียไปทั่วทั้งตัว ก่อนจะเผยให้เห็นชายหนุ่มมายืนแทนที่หญิงสาว
บัดนี้จะไม่มีอีกแล้วซึ่ง เฟลิโอน่า เกรเดเวล
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
.
..
.
คิล!!
ไอ้คิล!!
เสียงหวานที่ราวกับอยู่ใกล้แม้จะฟังดูทะแม่งๆ แต่มันคุ้นอย่างไรชอบกล  หากแต่ก็คิดไม่ได้ไกลเมื่อรู้สึกถึงความ
เย็นที่แล่นไปสู่ทุกอณูประสาทสัมผัส
โครม!! ซ่า!!
ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างคิดจะหันไปด่าคนข้างตัว  “ไอ้เฟริน แก .”  แต่ยังไม่ทันจะได้จบประโยคดีนัก
“เป็นยามภาษาห่าไรวะ หลับเป็นตายสงสัยนี่ถ้าเป็นศัตรู แกได้ลงไปหายมบาลจริงๆแน่ ไอ้นักฆ่าบ๊อง”
“ไอ้เฟริน แกตายซะ”  สิ้นเสียงร่างของนักฆ่าก็กระโจนใส่หัวขโมย มือทั้งสองข้างแล่นปลาบไปด้วยกระแสไฟฟ้า
พลางวิ่งไล่เพื่อนรัก ที่ตอนนี้คิดอยากเลิกรักแล้วฆ่าให้ตายแทนดูจะเหมาะกว่า
เสียงหายใจปนหอบดังขึ้นเมื่อการวิ่งไล่กวดจบลงพร้อมกับที่ เหยื่อตาม่วงไปข้าง พลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคนที่ขอ
ยอมแพ้ไปแล้วเมื่อสู้ไม่ไหว ด้วยสภาวะร่างกายไม่เอื้ออำนวยนัก (แล้วยังจะซ่า)
“เฟริน เมื่อกี๊ชั้นฝันร้ายว่ะ”
“ แก ฝันร้าย เรื่องไร  อ๋อ หรือในฝันโดนเรนอนทิ้ง แกถึงได้สะอื้นขนาดนั้น” หัวขโมยถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ใช่ว้อย  แต่ชั้นร้องไห้ด้วยหรอ??  นักฆ่าคิดจะวีนแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
“เออสิวะ  ไม่งั้นก็ไม่ปลุกขึ้นมาหรอก ว่าแต่แกฝันว่าอะไรวะ” หัวขโมยสาวชักอยากรู้ขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าจะ
มีเรื่องใดที่ทำให้นักฆ่าต้องถึงกับร่ำไห้ เว้นก็เสียแต่ถ้าไม่ใช่คนรักก็ต้องเป็น ..
“ชั้นฝันว่า คาโลมันตาย “ น้ำเสียงราบเรียบค่อยเปล่งออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทันเมื่อ
หมัดลุ่นๆ เตรียมเสยมา
“ไอ้คิล แกมันฝันอัปมงคล”  เฟรินเริ่มแว้ดใส่เมื่อรู้เรื่องที่แท้จริง  เตรียมลงโทษเพื่อนซี๊เต็มที่
“ใจเย็นสิวะ ไอ้เฟริน ก็บอกแล้วแค่ฝัน แต่ว่า มันก็เหมือนจริงมากเลย”  ยังไม่วายที่จะพูดซ้ำ
“ทั้งตอนที่โร มันพาร่างคาโลกลับมา  ตอนแกร้องไห้  และก็ตอนแกทิ้งทวน”  นักฆ่าเริ่มอธิบาย
“ทิ้งทวน???  คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนส่งสายตาเชิงคำถามไปให้
“อือ ประมาณว่า แกจะไม่ใช้ร่างผู้หญิงอีกต่อไป และตอนที่แกประกาศจะ ฆ่าล้างคนที่ทำให้คาโลมันตายน่ะ”
“อย่างนั้นหรอ” ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง  “ไม่ต้องห่วงคิล คาโลมันไม่ตายหรอก มันยังติดหนี้ชั้นอยู่
หนี้ ที่ไม่มีใครจะสามารถเอาชีวิตมันได้นอกจากชั้น”  คำพูดสุดท้ายก่อนจะยันตัวลุกขึ้น
“ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ ว่าแต่แกจะไปไหนวะ” นักฆ่าถามขึ้นเมื่อเจ้าตัวดีเดินไปที่ประตู
รอยยิ้มยียวนประดับอยู่บนใบหน้าก่อนจะเอ่ยวาจาให้นักฆ่าต้องส่ายหัวแล้วรีบเดินตามไปเช่นกัน
.
..
“ไปทวงหนี้”
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
อากาศแห้งชื้น และอบอ้าว ย่อมไม่เป็นผลดีเลยสำหรับคนหลายๆคน โดนเฉพาะอย่างยิ่ง “คนบาดเจ็บ”
ซึ่งถ้าไม่ได้รับความอบอุ่นที่พอเหมาะ บาดแผลก็อาจจะเน่า และติดเชื้อได้ง่าย รวมถึงความแข็งแรงของร่างกาย
ก็จะถดถอย จนอาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ทั้งๆที่รู้อย่างนี้  แต่ก็ไม่สามารถขยับกายไปไหนได้อีกแล้ว
“จะทำอย่างไรดี” คำถามที่ก่อเกิดในใจคนที่รู้มากกว่าใคร ยิ่งส่งผลให้หนทางนั้นจนตรอกมากยิ่งขึ้น  ร่างบุรุษผม
สีชา กำลังนั่งอย่างหมดแรงบนกองฟาง ดูจากรอยอิดโรยบนใบหน้าแล้วรู้ได้ถึง ความเหนื่อยยากที่ต้องเผชิญมา
ข้างๆ มีสิ่งที่ไม่สามารถเรียกได้ว่ามีชีวิต ขาว โปร่ง ลอยวนอยู่ ดูจากรูปลักษณ์ ภายนอกแล้วคงเคยเป็นอดีตคน
แก่ๆ ซักคน น่าแปลกนัก ที่ผี ดูเหมือนจะมีความเหนื่อยและกังวลไม่แพ้กัน
“ข้าจน ปัญญา แม้ว่าข้าจะรักษาให้แผลอื่นๆ หายสนิทได้ แต่พิษนั้นยังคงไม่สลายไป แถมนายท่านก็บอบช้ำมาก
พลังวิญญาณก็โดนคทา สูบไปเยอะ ข้า ..ไม่คิดว่านายท่านจะรอด”
“ต้องมีทางสิ ท่านหมอ” เสียงค้านขึ้นในทันทีทันใด  “ ท่านเป็นถึง อดีตผู้วิเศษแห่งบารามอส ต้องมีทางช่วยสิ”
ขอทานที่ไม่หลงเหลือรอยยิ้มใดๆแล้ว มองสบลึกเข้าไปในตาสีเขียวคู่นั้น ที่ฉายแววไหววูบอย่างฉุดไม่อยู่ แววที่
ทำให้ หมอเทวดา ถึงขนาดต้องลอบถอนใจ ก็ขนาดอย่างท่านโร ยังหวั่นใจ แล้วข้าจะทำเช่นไรได้
“ข้า ขออภัย .ข้าทำเต็มที่แล้ว” lสิ้นวาจา หมอเทวดาก็ค่อยๆลอยห่างไป แต่ก็เหมือนลอยคว้าง ภาพที่เหมือนคน
หมดทางสู้
คิดสิ..โร..คิด..
มันต้องมีสักทางสิ .
แสงแวววับสีขาวสะท้อนแยงลูกนัยน์ตา  “ทำไมเขาไม่ยักจะเห็นมันนะ”  ดาบเรียวยาวสีขาว ราวหิมะ  ตัวดาบทำ
จากทรายหิมะเวทย์มนตร์  นำมาประกอบกันด้วยการผนึกเวทย์ซึ่งทำให้ตัวดาบมีความพลิ้วไหว และแข็งแกร่ง
ด้ามดาบทำมาจากเขาของยูนิคอร์น ซึ่งเป็นสัตว์พาหนะส่วนพระองค์ ว่ากันว่าเป็นเจ้าแห่งยูนิคอร์นทั้งหลาย และ
เป็นตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่  ลงอาคมด้วยเวทย์และเลือดของอดีตองค์ราชินีเอง และดาบนี้ไม่เคยเป็นของผู้ใด
นอกจากอดีตองค์ราชินี ซึ่งสืบทอดให้แก่องค์ราชินีรุ่นต่อๆมา เท่ากับว่า เซเชล แห่งอาคมคือสัญลักษณ์ของการ
เป็นเจ้าเหนือสโนว์แลนด์นั่นเอง
“ทำไมมาอยู่ที่ คาโลล่ะ แล้วทำไมถึงใช้ได้โดยไม่โดยเวทย์ปกป้อง แล้วทำไม ”  หากแต่ดวงตาต้องเบิกกว้าง
เมื่อนึกถึงอีกเรื่องสำคัญที่เพิ่งแวบเข้ามาในหัวสมอง
เซเชล พลังเวทย์ของจอมภูติ ทรายหิมะเวทย์มนตร์ของหายากนับพันปี มีฤทธิ์แห่งการรักษาเยียวยาอันน่า
อัศจรรย์   
หากแต่ยังขาดของสำคัญอยู่สองสิ่งคือผู้ใช้เวทย์แห่งทรายหิมะ เพียงหนึ่งเดียว รวมถึงยังเป็นเจ้าของ \"ไข่มุกแห่งราตรี\"
ของวิเศษอีกหนึ่งชิ้นที่สร้างมาควบคู่กัน หยาดเลือดแห่งอดีตองค์ราชินีแห่งสโนว์แลนด์
ผู้ครอบครองโดยชอบธรรม ..ผู้อยู่เหนือดินแดนแห่งน้ำแข็ง
..
.
ราชินีแห่งสโนว์แลนด์องค์ปัจุจุบัน
..
..
..
ไร้สาระน่ะ ไม่มีทาง
แล้วเขาจะไปสโนว์แลนด์ยังไง ตัวเค้าพลังเวทย์ไม่พอ ถ้าพูดถึงคาโล ก็อาจไม่พ้นคืนนี้ด้วยซ้ำ
แสงที่ส่องเข้ามากลับดูริบหรี่ลงทันตา  จะไปสโนว์แลนด์ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วันจะถึงชายแดน แถมไม่นับ
รวมไปถึง เดินทางไปวังหลวงอีก หรือถ้าหากถึงจริงๆ  มีสิ่งใดที่จะรับประกันว่า นางจะช่วยล่ะ
ยากเย็นเหลือเกินหนทางนี้ ชั้นคงช่วยนายได้แค่นี้จริงๆ คาโล .
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กึก...
อาชาสีดำ นิ่งค้าง ร่างบางบนพาหนะ หยุดชะงัก
\"หยุดทำไมวะแก\" คำถามลอยตามมาจากอีกหนึ่งบุรุษที่ตามมาเบื้องหลัง หากแต่ร่างบางยังคงไม่ตอบ ก่อนจะมองไป
บริเวณรอบๆ ราวกับหาอะไรบางอย่าง บางอย่างที่สะกิดใจจนน่าประหลาด
\"ทริสทอร์.....โร......คาโล\"  คำสุดท้ายที่ก้องดังอยู่ในหัวก่อนจะตะบึง ควบม้าไปยังทิศทางด้านข้าง อย่างรวดเร็ว
\"อ้าว เห้ย ไอ้เฟริน รอก่อนสิวะ\" เสียงนักฆ่าที่ยังไม่หายแปลกใจจากท่าที แปลกๆของเพื่อนสาวก่อนจะรีบ
กระโจนตามไปเช่นกัน
ร่างบางยังคงบังคับให้พาหนะ วิ่งไปตามคันนาเลาะเรื่อยๆ ไปยังทิวแถวกว้างของทุ่งร้าง ในใจทั้งตื่นเต้น และลุ้นระทึก
เมื่อเลือดในกายมันบอกว่า มีคนจากทริสทอร์อยู่ไม่ไกล หลังจากออกตามหา มาได้ สองชั่วโมงเต็มๆ ก็ได้เบาะแส
คงต้องเรียกว่าเบาะแส แปลกๆ จากเลือดในกายเธอ ราวกับมีใครเรียกร้อง
ร่างบางกระตุกบังเหียน อย่างรวดเร็วเพื่อหยุดความบ้าระห่ำ ของตนเอง เมื่อรู้สึกถึงพลังที่เริ่มแรงขึ้น ก่อนจะก้าวลง
จากอาชา พลางไปหยุดยืมอยู่หน้ากระท่อมร้าง
\" มาทำอะไรที่นี่วะ เฟริน\" หากแต่คำตอบกลับเป็น สัญญาณมือที่ส่งมาบอกให้นักฆ่าเงียบ
ร่างนักฆ่าหนุ่มจึงค่อยๆก้าวเข้าไปช้า พลางใช้มือ เลื่อนบานประตูโรงนาร้างออก พลางสิ่งที่อยู่ข้างในทำให้ต้องเบิกตากว้าง
เมื่อพบเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคย ซีดราวกับคนตายสลบไสล ไม่ได้สติ ดูทั้งบาดเจ็บสาหัส พร้อมอีกร่างที่แขนข้างซ้ายอาบไปด้วยเลือด
พร้อมกับปลายนิ้วที่จรดลงที่พื้น วาดเป็น วงแหวนดาวห้าแฉกแห่งเพนทาเคิล ไอดำทมึน แผ่กว้างไปทั่วทำให้ขนกายพากันชันลุกซู่
\"คิดแล้ว ว่านายต้องสัมผัสได้\" คำพูดสุดท้ายก่อนร่างของคนพูดจะหมดสติไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
\"นายท่าน\"
เสียงเรียกจากข้ารับใช้ ทำให้ชายหนุ่มเบือนหน้ามามองเพียงเล็กน้อย  \"ว่าไง\"
\"ไม่พบขอรับ สายรายงานมาว่ารับรู้ถึงพลังความมืดบางอย่างแถวชายแดน แต่ก็ไม่พบอะไรขอรับ\"
\"ส่วนทางบาโรนั้น สายสืบมาว่า กำลังรวบรวมกำลังพลเช่นกัน คิดว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์คงโจมตีเข้ามา\"
\"งั้นหรือ ออกไปได้แล้ว\"  รอยยิ้มเหยียดค่อยๆผุดขึ้นที่มุมปาก สมองไล่ทบทวนความคิดสกปรกที่แล่นวนเวียน
\"เชอะ รวบรวมกำลังพลงั้นหรือ ไม่มีทาง!!!
\"จาฟาร์ ถ่ายทอดคำสั่งข้า รวบรวมกำลังพลพร้อมคนเถื่อนที่เราจ้างวานมา ภายใน 2 อาทิตย์หลังจากข้าจัดการ
เจ้าสองพ่อลูกนั่นเรียบร้อย ข้าจะเข้ายึดโคมิเน่ และเวนอล\" ประโยคสุดท้ายเค้าละไว้ในใจ
ไม่เพียงพอแล้วคาโนวาลสำหรับข้า นิอาร์ลผู้นี้ ดินแดนแห่งเอเดนทั้งหมดต้องเป็นของข้า แต่เวลานี้เมื่อไอ้เศษสวะ
ตัวที่หนึ่งมันใกล้ตาย ก็ต้องจัดการอีกหนึ่งตัว..........ข้าจะฆ่าล้างมันทั้งพ่อทั้งลูก
_________________________________________________________________________________
บทนี้จบเท่านี้ไปก่อนนะคะ เด่วจะต่อบทใหม่ให้อิอิ กะลังคิดว่าจะช่วยให้คาโลฟื้นก่อนดีมั้ย
หรือให้รบไปซักพักค่อยฟื้น เอ...ง่ารั่วรูเบ้อเริ่มเลย งี้คาโลก็ไม่ตายน่ะสิ ฮิฮิ...
บทนี้คงสั้นหน่อยอ่นะคะ ไม่ค่อยมีเวลาเยย ทำงานพิเศษ ทุกวัน เหอๆๆ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
โกหก
คนโกหก
ไหนว่านายรักชั้นไง....
แล้วทำไม
..
..
..
นายถึงทิ้งชั้นไป....คาโล
..
..
ความคิดแล่นวาบสู่สมองทันทีที่รู้ข่าว พลันสมองกลับขาวโพลนไปในทันที ราวก้อนหินขนาดยักษ์มาทิ้งตัว
ให้ถ่วงหนักอึ้งในหัวใจ เรี่ยวแรงหดหายก่อนเข่าทั้งสองข้างจะทรุดลงกับพื้น หัวใจเริ่มกรีดร้องราวกับถูกฉีก
กระชาก นัยน์เนตรสีน้ำตาลคู่สวยคลอไปด้วยน้ำตา ก่อนทำนบสุดท้ายจะแตกอย่างห้ามไม่อยู่
เมื่อสิ่งที่รับรู้ ได้รับการยืนยัน ด้วยตาตนเอง
ฮึก!!  โฮ!!
ร่างบางถลาเข้าไปกอดยังร่างคนตัวสูงกว่าที่บัดนี้ อุณหภูมิเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ดวงหน้าที่ปกติขาวอยู่แล้ว ครา
นี้กลับซีดราวหิมะ ไร้ซึ่งลมหายใจ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับเมื่อร่างบางเพียรเรียกหา ไร้ซึ่งรอยยิ้มอบอุ่นที่เคยมีให้เธอ
แต่เพียงผู้เดียว ไร้ผู้ปกป้องที่คอยประคับประคองให้เธอมีชีวิตอยู่ได้ ไม่มีอีกแล้วคนที่เย็นชาแต่เปลือกนอก
แต่ข้างในอบอุ่นกว่าผู้ใด ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ.........
คาโล วาเนบลี...................เจ้าชายผู้ล่วงลับ
_______________________________________________________________________
เสียงร่ำไห้โศกา ยังวนเวียนไปทั่วบริเวณกว้าง สตรีร่างบางในอาภรณ์สีดำสนิท ดวงหน้าซีดขาว ขอบตาแดงช้ำลึก
โหล หากแปลกนักที่ไร้เสียงสะอื้น แปลกนักที่ไร้ซึ่งอัสสุชล ก้าวย่างแต่ละก้าวราวกับนางพญา อาการสั่นไม่มี
ปรากฏแม้แต่เล็กน้อย  เรียวขายาวที่ทอดน่องมาอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆหยุดนิ่งในที่สุด แววอาลัยปรากฎอยู่เด่น
ชัดในดวงตาสีน้ำตาล พลางเพ่งพินิจ ไปยังใบหน้ารูปสลัก  เพียรเอ่ยคำลาครั้งสุดท้าย
ด้วย จุมพิตรัก
ริมฝีปากบางทาบลงบนอีกหนึ่งริมฝีปากได้รูป เนิ่นนาน ราวกับจะซึมซับความหวานล้ำที่ยังคงมีอยู่แม้จะเจือ
จางยิ่งนัก เสียงกระซิบที่ราวกับจะให้ได้ยินกันแค่สองคน เมื่อถอนริมฝีปากออก
นายจะเป็นคนเดียวที่ฉันรัก  เมื่อไม่มีนาย ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเป็น เฟลิโอน่าให้ใคร
ลากันเสียที เจ้าหญิงแห่งเดมอส จะไม่มีอีกแล้ว เพราะฉันจะไม่มีวันเป็น ผู้หญิงของใคร
นอกจากนาย . .คาโล
สิ้นแห่งวาจามีดสั้นวาววับถูกชักขึ้นมาในมือ  เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น  เมื่อแสงสะท้อนจากมีดแลบผ่านตา
.แพรไหมยาวสีน้ำตาลถูกตัดจนสั้นในเพียงคมมีดเดียว ปลายนิ้วเรียวค่อยๆบรรจงผูกริบบิ้นสีขาว
ให้แก่กลุ่มไหมนั้น พลางค่อยๆวางลงไปข้างๆร่างของผู้จากไป พลันอาคมเวทย์ค่อยๆก่อตัวขึ้นจากปลายเท้า
จนลามเลียไปทั่วทั้งตัว ก่อนจะเผยให้เห็นชายหนุ่มมายืนแทนที่หญิงสาว
บัดนี้จะไม่มีอีกแล้วซึ่ง เฟลิโอน่า เกรเดเวล
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
.
..
.
คิล!!
ไอ้คิล!!
เสียงหวานที่ราวกับอยู่ใกล้แม้จะฟังดูทะแม่งๆ แต่มันคุ้นอย่างไรชอบกล  หากแต่ก็คิดไม่ได้ไกลเมื่อรู้สึกถึงความ
เย็นที่แล่นไปสู่ทุกอณูประสาทสัมผัส
โครม!! ซ่า!!
ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างคิดจะหันไปด่าคนข้างตัว  “ไอ้เฟริน แก .”  แต่ยังไม่ทันจะได้จบประโยคดีนัก
“เป็นยามภาษาห่าไรวะ หลับเป็นตายสงสัยนี่ถ้าเป็นศัตรู แกได้ลงไปหายมบาลจริงๆแน่ ไอ้นักฆ่าบ๊อง”
“ไอ้เฟริน แกตายซะ”  สิ้นเสียงร่างของนักฆ่าก็กระโจนใส่หัวขโมย มือทั้งสองข้างแล่นปลาบไปด้วยกระแสไฟฟ้า
พลางวิ่งไล่เพื่อนรัก ที่ตอนนี้คิดอยากเลิกรักแล้วฆ่าให้ตายแทนดูจะเหมาะกว่า
เสียงหายใจปนหอบดังขึ้นเมื่อการวิ่งไล่กวดจบลงพร้อมกับที่ เหยื่อตาม่วงไปข้าง พลางทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคนที่ขอ
ยอมแพ้ไปแล้วเมื่อสู้ไม่ไหว ด้วยสภาวะร่างกายไม่เอื้ออำนวยนัก (แล้วยังจะซ่า)
“เฟริน เมื่อกี๊ชั้นฝันร้ายว่ะ”
“ แก ฝันร้าย เรื่องไร  อ๋อ หรือในฝันโดนเรนอนทิ้ง แกถึงได้สะอื้นขนาดนั้น” หัวขโมยถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ใช่ว้อย  แต่ชั้นร้องไห้ด้วยหรอ??  นักฆ่าคิดจะวีนแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ
“เออสิวะ  ไม่งั้นก็ไม่ปลุกขึ้นมาหรอก ว่าแต่แกฝันว่าอะไรวะ” หัวขโมยสาวชักอยากรู้ขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าจะ
มีเรื่องใดที่ทำให้นักฆ่าต้องถึงกับร่ำไห้ เว้นก็เสียแต่ถ้าไม่ใช่คนรักก็ต้องเป็น ..
“ชั้นฝันว่า คาโลมันตาย “ น้ำเสียงราบเรียบค่อยเปล่งออกมาจากริมฝีปาก ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทันเมื่อ
หมัดลุ่นๆ เตรียมเสยมา
“ไอ้คิล แกมันฝันอัปมงคล”  เฟรินเริ่มแว้ดใส่เมื่อรู้เรื่องที่แท้จริง  เตรียมลงโทษเพื่อนซี๊เต็มที่
“ใจเย็นสิวะ ไอ้เฟริน ก็บอกแล้วแค่ฝัน แต่ว่า มันก็เหมือนจริงมากเลย”  ยังไม่วายที่จะพูดซ้ำ
“ทั้งตอนที่โร มันพาร่างคาโลกลับมา  ตอนแกร้องไห้  และก็ตอนแกทิ้งทวน”  นักฆ่าเริ่มอธิบาย
“ทิ้งทวน???  คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนส่งสายตาเชิงคำถามไปให้
“อือ ประมาณว่า แกจะไม่ใช้ร่างผู้หญิงอีกต่อไป และตอนที่แกประกาศจะ ฆ่าล้างคนที่ทำให้คาโลมันตายน่ะ”
“อย่างนั้นหรอ” ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง  “ไม่ต้องห่วงคิล คาโลมันไม่ตายหรอก มันยังติดหนี้ชั้นอยู่
หนี้ ที่ไม่มีใครจะสามารถเอาชีวิตมันได้นอกจากชั้น”  คำพูดสุดท้ายก่อนจะยันตัวลุกขึ้น
“ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ ว่าแต่แกจะไปไหนวะ” นักฆ่าถามขึ้นเมื่อเจ้าตัวดีเดินไปที่ประตู
รอยยิ้มยียวนประดับอยู่บนใบหน้าก่อนจะเอ่ยวาจาให้นักฆ่าต้องส่ายหัวแล้วรีบเดินตามไปเช่นกัน
.
..
“ไปทวงหนี้”
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
อากาศแห้งชื้น และอบอ้าว ย่อมไม่เป็นผลดีเลยสำหรับคนหลายๆคน โดนเฉพาะอย่างยิ่ง “คนบาดเจ็บ”
ซึ่งถ้าไม่ได้รับความอบอุ่นที่พอเหมาะ บาดแผลก็อาจจะเน่า และติดเชื้อได้ง่าย รวมถึงความแข็งแรงของร่างกาย
ก็จะถดถอย จนอาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ทั้งๆที่รู้อย่างนี้  แต่ก็ไม่สามารถขยับกายไปไหนได้อีกแล้ว
“จะทำอย่างไรดี” คำถามที่ก่อเกิดในใจคนที่รู้มากกว่าใคร ยิ่งส่งผลให้หนทางนั้นจนตรอกมากยิ่งขึ้น  ร่างบุรุษผม
สีชา กำลังนั่งอย่างหมดแรงบนกองฟาง ดูจากรอยอิดโรยบนใบหน้าแล้วรู้ได้ถึง ความเหนื่อยยากที่ต้องเผชิญมา
ข้างๆ มีสิ่งที่ไม่สามารถเรียกได้ว่ามีชีวิต ขาว โปร่ง ลอยวนอยู่ ดูจากรูปลักษณ์ ภายนอกแล้วคงเคยเป็นอดีตคน
แก่ๆ ซักคน น่าแปลกนัก ที่ผี ดูเหมือนจะมีความเหนื่อยและกังวลไม่แพ้กัน
“ข้าจน ปัญญา แม้ว่าข้าจะรักษาให้แผลอื่นๆ หายสนิทได้ แต่พิษนั้นยังคงไม่สลายไป แถมนายท่านก็บอบช้ำมาก
พลังวิญญาณก็โดนคทา สูบไปเยอะ ข้า ..ไม่คิดว่านายท่านจะรอด”
“ต้องมีทางสิ ท่านหมอ” เสียงค้านขึ้นในทันทีทันใด  “ ท่านเป็นถึง อดีตผู้วิเศษแห่งบารามอส ต้องมีทางช่วยสิ”
ขอทานที่ไม่หลงเหลือรอยยิ้มใดๆแล้ว มองสบลึกเข้าไปในตาสีเขียวคู่นั้น ที่ฉายแววไหววูบอย่างฉุดไม่อยู่ แววที่
ทำให้ หมอเทวดา ถึงขนาดต้องลอบถอนใจ ก็ขนาดอย่างท่านโร ยังหวั่นใจ แล้วข้าจะทำเช่นไรได้
“ข้า ขออภัย .ข้าทำเต็มที่แล้ว” lสิ้นวาจา หมอเทวดาก็ค่อยๆลอยห่างไป แต่ก็เหมือนลอยคว้าง ภาพที่เหมือนคน
หมดทางสู้
คิดสิ..โร..คิด..
มันต้องมีสักทางสิ .
แสงแวววับสีขาวสะท้อนแยงลูกนัยน์ตา  “ทำไมเขาไม่ยักจะเห็นมันนะ”  ดาบเรียวยาวสีขาว ราวหิมะ  ตัวดาบทำ
จากทรายหิมะเวทย์มนตร์  นำมาประกอบกันด้วยการผนึกเวทย์ซึ่งทำให้ตัวดาบมีความพลิ้วไหว และแข็งแกร่ง
ด้ามดาบทำมาจากเขาของยูนิคอร์น ซึ่งเป็นสัตว์พาหนะส่วนพระองค์ ว่ากันว่าเป็นเจ้าแห่งยูนิคอร์นทั้งหลาย และ
เป็นตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่  ลงอาคมด้วยเวทย์และเลือดของอดีตองค์ราชินีเอง และดาบนี้ไม่เคยเป็นของผู้ใด
นอกจากอดีตองค์ราชินี ซึ่งสืบทอดให้แก่องค์ราชินีรุ่นต่อๆมา เท่ากับว่า เซเชล แห่งอาคมคือสัญลักษณ์ของการ
เป็นเจ้าเหนือสโนว์แลนด์นั่นเอง
“ทำไมมาอยู่ที่ คาโลล่ะ แล้วทำไมถึงใช้ได้โดยไม่โดยเวทย์ปกป้อง แล้วทำไม ”  หากแต่ดวงตาต้องเบิกกว้าง
เมื่อนึกถึงอีกเรื่องสำคัญที่เพิ่งแวบเข้ามาในหัวสมอง
เซเชล พลังเวทย์ของจอมภูติ ทรายหิมะเวทย์มนตร์ของหายากนับพันปี มีฤทธิ์แห่งการรักษาเยียวยาอันน่า
อัศจรรย์   
หากแต่ยังขาดของสำคัญอยู่สองสิ่งคือผู้ใช้เวทย์แห่งทรายหิมะ เพียงหนึ่งเดียว รวมถึงยังเป็นเจ้าของ \"ไข่มุกแห่งราตรี\"
ของวิเศษอีกหนึ่งชิ้นที่สร้างมาควบคู่กัน หยาดเลือดแห่งอดีตองค์ราชินีแห่งสโนว์แลนด์
ผู้ครอบครองโดยชอบธรรม ..ผู้อยู่เหนือดินแดนแห่งน้ำแข็ง
..
.
ราชินีแห่งสโนว์แลนด์องค์ปัจุจุบัน
..
..
..
ไร้สาระน่ะ ไม่มีทาง
แล้วเขาจะไปสโนว์แลนด์ยังไง ตัวเค้าพลังเวทย์ไม่พอ ถ้าพูดถึงคาโล ก็อาจไม่พ้นคืนนี้ด้วยซ้ำ
แสงที่ส่องเข้ามากลับดูริบหรี่ลงทันตา  จะไปสโนว์แลนด์ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 วันจะถึงชายแดน แถมไม่นับ
รวมไปถึง เดินทางไปวังหลวงอีก หรือถ้าหากถึงจริงๆ  มีสิ่งใดที่จะรับประกันว่า นางจะช่วยล่ะ
ยากเย็นเหลือเกินหนทางนี้ ชั้นคงช่วยนายได้แค่นี้จริงๆ คาโล .
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
กึก...
อาชาสีดำ นิ่งค้าง ร่างบางบนพาหนะ หยุดชะงัก
\"หยุดทำไมวะแก\" คำถามลอยตามมาจากอีกหนึ่งบุรุษที่ตามมาเบื้องหลัง หากแต่ร่างบางยังคงไม่ตอบ ก่อนจะมองไป
บริเวณรอบๆ ราวกับหาอะไรบางอย่าง บางอย่างที่สะกิดใจจนน่าประหลาด
\"ทริสทอร์.....โร......คาโล\"  คำสุดท้ายที่ก้องดังอยู่ในหัวก่อนจะตะบึง ควบม้าไปยังทิศทางด้านข้าง อย่างรวดเร็ว
\"อ้าว เห้ย ไอ้เฟริน รอก่อนสิวะ\" เสียงนักฆ่าที่ยังไม่หายแปลกใจจากท่าที แปลกๆของเพื่อนสาวก่อนจะรีบ
กระโจนตามไปเช่นกัน
ร่างบางยังคงบังคับให้พาหนะ วิ่งไปตามคันนาเลาะเรื่อยๆ ไปยังทิวแถวกว้างของทุ่งร้าง ในใจทั้งตื่นเต้น และลุ้นระทึก
เมื่อเลือดในกายมันบอกว่า มีคนจากทริสทอร์อยู่ไม่ไกล หลังจากออกตามหา มาได้ สองชั่วโมงเต็มๆ ก็ได้เบาะแส
คงต้องเรียกว่าเบาะแส แปลกๆ จากเลือดในกายเธอ ราวกับมีใครเรียกร้อง
ร่างบางกระตุกบังเหียน อย่างรวดเร็วเพื่อหยุดความบ้าระห่ำ ของตนเอง เมื่อรู้สึกถึงพลังที่เริ่มแรงขึ้น ก่อนจะก้าวลง
จากอาชา พลางไปหยุดยืมอยู่หน้ากระท่อมร้าง
\" มาทำอะไรที่นี่วะ เฟริน\" หากแต่คำตอบกลับเป็น สัญญาณมือที่ส่งมาบอกให้นักฆ่าเงียบ
ร่างนักฆ่าหนุ่มจึงค่อยๆก้าวเข้าไปช้า พลางใช้มือ เลื่อนบานประตูโรงนาร้างออก พลางสิ่งที่อยู่ข้างในทำให้ต้องเบิกตากว้าง
เมื่อพบเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคย ซีดราวกับคนตายสลบไสล ไม่ได้สติ ดูทั้งบาดเจ็บสาหัส พร้อมอีกร่างที่แขนข้างซ้ายอาบไปด้วยเลือด
พร้อมกับปลายนิ้วที่จรดลงที่พื้น วาดเป็น วงแหวนดาวห้าแฉกแห่งเพนทาเคิล ไอดำทมึน แผ่กว้างไปทั่วทำให้ขนกายพากันชันลุกซู่
\"คิดแล้ว ว่านายต้องสัมผัสได้\" คำพูดสุดท้ายก่อนร่างของคนพูดจะหมดสติไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
\"นายท่าน\"
เสียงเรียกจากข้ารับใช้ ทำให้ชายหนุ่มเบือนหน้ามามองเพียงเล็กน้อย  \"ว่าไง\"
\"ไม่พบขอรับ สายรายงานมาว่ารับรู้ถึงพลังความมืดบางอย่างแถวชายแดน แต่ก็ไม่พบอะไรขอรับ\"
\"ส่วนทางบาโรนั้น สายสืบมาว่า กำลังรวบรวมกำลังพลเช่นกัน คิดว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์คงโจมตีเข้ามา\"
\"งั้นหรือ ออกไปได้แล้ว\"  รอยยิ้มเหยียดค่อยๆผุดขึ้นที่มุมปาก สมองไล่ทบทวนความคิดสกปรกที่แล่นวนเวียน
\"เชอะ รวบรวมกำลังพลงั้นหรือ ไม่มีทาง!!!
\"จาฟาร์ ถ่ายทอดคำสั่งข้า รวบรวมกำลังพลพร้อมคนเถื่อนที่เราจ้างวานมา ภายใน 2 อาทิตย์หลังจากข้าจัดการ
เจ้าสองพ่อลูกนั่นเรียบร้อย ข้าจะเข้ายึดโคมิเน่ และเวนอล\" ประโยคสุดท้ายเค้าละไว้ในใจ
ไม่เพียงพอแล้วคาโนวาลสำหรับข้า นิอาร์ลผู้นี้ ดินแดนแห่งเอเดนทั้งหมดต้องเป็นของข้า แต่เวลานี้เมื่อไอ้เศษสวะ
ตัวที่หนึ่งมันใกล้ตาย ก็ต้องจัดการอีกหนึ่งตัว..........ข้าจะฆ่าล้างมันทั้งพ่อทั้งลูก
_________________________________________________________________________________
บทนี้จบเท่านี้ไปก่อนนะคะ เด่วจะต่อบทใหม่ให้อิอิ กะลังคิดว่าจะช่วยให้คาโลฟื้นก่อนดีมั้ย
หรือให้รบไปซักพักค่อยฟื้น เอ...ง่ารั่วรูเบ้อเริ่มเลย งี้คาโลก็ไม่ตายน่ะสิ ฮิฮิ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น