ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : งานประลองคัดเลือกกษัตริย์
Chapter 2 งานประลองคัดเลือกกษัตริย์
____________________________________________________________________________
เมืองคาโนวาล ดินแดนแห่งนักรบ ที่บัดนี้เต็มไปด้วยฝูงชนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาจากประเทศต่างๆ บริเวณประตูเมืองเต็มไปด้วย
ฝูงชนที่รอต่อคิวเข้ามาจับจองพื้นที่ค้าขายในตัวเมือง ราวกับงานเทศกาลก็ไม่ปาน บรรดาพ่อค้า แม่ขายต่างตะโกนร้องเรียกลูกค้า
เพื่อหวังหากำไรจากการที่คนมากมายมหาศาลแห่เข้าเมือง เพื่อมาดูการประลองที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า บริเวณกลางเมืองบัดนี้
ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นเหมือน โคลอสเซี่ยม ขนาดใหญ่ ใหญ่ชนิดที่ว่าสามารถจับคนยัดเข้าไปได้เป็นแสนๆ
ภายในโคลอสเซี่ยมถูกประดับประดาไป ด้วยธงประจำชาติ พื้นที่ว่างตรงกลาง ถูกจัดให้เป็นลานประลอง บริเวณที่นั่งถูกจับจอง
ไปด้วยฝูงชนจำนวนมากที่เข้ามาเชียร์ และลุ้นบุคคลที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ลำดับต่อไป ถัดไปเป็นปะรำพิธี และที่ประทับของ
คิงบาโร รวมถึง คิงและเหล่าราชนิกูลจากประเทศอื่นๆ ที่ต่างพร้อมใจกันมาร่วมงานนี้กันอย่างล้นหลาม
งานประลองจะเสร็จสิ้นภายใน สามวัน ช่วงเช้าเป็นรอบแรกหรือรอบคัดเลือก ช่วงบ่ายเป็น รอบสอง วันถัดไปเป็นรอบสองที่ค้าง
และรอบสาม เพื่อที่จะหาผู้ชิงชนะเลิศที่จะแข่ง ในวันสุดท้าย
เบื้องล่างมีเต้นท์ที่พำนักของเหล่าผู้เข้าประลองตั้งอยู่ ภายในเหล่าเจ้าชาย กำลังนั่งรอพิธีที่กำลังจะเริ่มขึ้น รวมถึงเจ้าชายน้ำแข็ง
ที่ยังคงรักษาอาการและสีหน้าได้ราบเรียบอย่างไม่มีที่ติ เขาจะขึ้นประลอง ในคู่ที่สอง ภายในใจนั้นสงบนิ่ง ราวกับไม่รู้สึกรู้สา
อะไรกับการประลองในครั้งนี้ เขาไม่ได้มั่นใจ อะไรจนเกินไป เพียงแต่ จะวิตกมากไปก็เท่านั้น
“คาโล” เสียงเรียกที่ทำให้ผู้ถูกขาน หันไปมอง ก่อนจะทำตาดุ ใส่ คนที่ไม่สมควรเข้าที่นี่หากแต่สายนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนถูกมอง
กลัวแม้แต่นิดเดียว จนทำให้เขาสงสัยว่า มันติดเชื้อภูมิต้านทานสายตาเย็นชาของเขา จากเฟรินกันไปหมดแล้วหรือไง
“นายมาทำอะไรที่นี่ คิล”  คำถามจากคนพูดน้อย เรียกร้อยยิ้มกว้างจากนักฆ่าปัญญาอ่อนได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวมาหยุดยืนตรงหน้า
“ชั้นแค่ แวะมาดู มีคนเข้าขอร้องน่ะ พร้อมแล้วล่ะสินายน่ะ”
“ ..” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ หากแต่คนฟังพยักหน้าเล็กน้อย พลางส่งสายตาเชิงคำถาม ว่าใคร?
นักฆ่าแย้มรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหายไป ทิ้งไว้เพียงเสียงลมที่แว่วผ่านโสต
“เฟริน” คำตอบที่ทำให้คนฟัง ลอบยิ้มบางๆ และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
การประลองคู่แรกได้เริ่มต้นไปแล้ว เมื่อคิลวกกลับไปที่ปะรำพิธี ซึ่งแม่เจ้าตัวดี นั่งอยู่ ด้วยอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด
เรียกความขบขันจากนักฆ่า เมื่อไอ้เฟริน มันได้รับเกียรติถึงขนาดนั่งเก้าอี้ที่ประทับข้างๆ องค์บาโร
ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นราชอาคันตุกะคนสำคัญ โดยคนจัดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากองค์บาโรเอง ที่ต้องการแกล้ง
ว่าที่ลูกสะใภ้ตัวแสบ แถมสั่งกำชับว่าห้ามลุกไปที่อื่นอีกตะหาก เจ้าหญิงสองดินแดนลอบถอนหายใจ
พลางหันไปมองนักฆ่าเพื่อนซี๊ที่บัดนี้ ทำความเคารพแก่องค์บาโร ก่อนจะเดินมายืนข้างที่ประทับ แล้วกระซิบเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง มันพร้อมแล้ว”
    นัดแรกจบลงไปเพียงแค่ 15 นาที เรียกเสียงเชียร์กระหึ่มจากคนดู เมื่อเจ้าชายฟาร์เวล ธีน๊อท
พระญาติห่างๆของเรนอน สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ โดยการประดาบ ท่วงทีที่พลิ้วไสว บวกกับเพลงดาบที่หนักหน่วง
ทำให้เขาสามารถปัดดาบคู่ต่อสู้ให้กระเด็น พร้อมทั้งจ่อปลายดาบไปที่คอ ตามมาด้วยคำกล่าวยอมแพ้ของอีกฝ่าย
    “คู่ต่อไป ระหว่างเจ้าชายคาโล วาเนบลี กับ เจ้าชายโรนัลด์ เอวีรอน”
เสียงโฆษกประกาศก้อง เสียงเชียร์ดังมาจากทุกทิศทางโดยเฉพาะคนจากป้อมอัศวินเมื่อ เจ้าชายน้ำแข็งก้าวขึ้นมาบนลานประลอง
ใบหน้าราวรูปสลักนิ่งเฉย ดวงเนตรสีฟ้าดูเยียบเย็น แทบจะแช่แข็งคนได้หากมีผู้ใดอาจหาญไปสบตาตรงๆ
ร่างสูงมาหยุดยืนอยู่หน้าปะรำพิธี พลางโค้งคำนับแก่พระบิดา นัยน์ตาสีฟ้า สองคู่มองสบกัน แววมุ่งมั่นและกล้าแข็งในดวงตา
เรียกความพึงใจให้เกิดแก่ผู้เป็นบิดาได้อย่างดี แม้พระองค์จะต้องเป็นกลางในฐานะกษัตริย์ หากแต่ในฐานะพ่อนั้น
ทำให้ใจครึ่งหนึ่งเทไปเรียบร้อยแล้วแก่ บุตรชาย เมื่อเหลือบมองมายังสตรีผู้เป็นดั่งดวงใจที่นั่งอยู่ข้างๆพระบิดา
ยิ้มหวานและแววตาเชื่อมั่นที่ถูกส่งมาให้นั้น ก็เพียงพอแล้ว สำหรับกำลังใจ จากเธอผู้นี้
    คาโลหันกลับมาประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ บุคคลตรงหน้าเป็นชายร่างบาง สูง แต่ก็ยังสูงไม่เท่าเขา
ดวงตาสีแดงเพลิงเช่นเดียวกับสีผม ใบหน้านั้นเหมือนพยายามข่มความรู้สึกไว้ข้างใน เหมือนแสร้งให้ดูว่าใจสงบ
หากแต่ในใจร้อนดังไฟเผาเมื่อพบว่าคู่ต่อสู้นั้นเป็นพ่อมดปีศาจแห่งคาโนวาลแต่ยังไงเขาก็ต้องสู้ สู้ด้วยเกียรตินักรบ
แห่งคาโนวาลเช่นกัน
   
กรรมการก้าวเข้ามาและยืนกั้นระหว่างบุคคลทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยกติกาสั้นๆ  “สู้ให้ชนะ ยอมแพ้ สลบหรือตายก่อนเป็นอันแพ้ไป
ผู้ชนะผ่านเข้ารอบสอง”  “เริ่มได้” ก่อนเดินออกไป
คาโลกระโดดถอยห่างจากคู่ต่อสู้ หากแต่ก็หยุดเพียงเท่านั้น ใบหน้าสงบนิ่ง มองตรงไปยังคนเบื้องหน้า ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครขยับ
และเนื่องด้วยเป็นผู้ใช้เวท ทั้งคู่ จึงไม่ใครคิดร่ายก่อน หากแต่ความร้อนใจ ทำให้อีกฝ่ายเรียกอาวุธคู่กายออกมา
แล้วเริ่มบริกรรมคาถา ทางฝ่ายคาโลเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่ม จึงเรียกคทาพิพากษา ออกมา แล้วเริ่มบริกรรมคาถาเช่นกัน
ลูกไฟเพลิงดวงใหญ่พุ่งตรงเข้าหาคาโลทันทีที่เสียงบริกรรมของอีกฝ่ายหยุดลง แสงสีส้มบาดตาพร้อมแรงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว
หากแต่เมื่อควันจางลง บุคคลที่โดนโจมตีเมื่อครู่กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
หนอย!! แก!! เสียงสบถดังออกมาจากคู่ต่อสู้ และเมื่อคาโลหยุดบริกรรมคาถา ลิ่มน้ำแข็งมากมายก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นสนาม
หอกน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งไปยังคู่ต่อสู้ หากแต่อีกฝ่ายก็กระโดดหลบ และร่ายเวทย์ป้องกันได้ทัน
เมื่อเท้าถึงพื้นต่างฝ่ายต่างก็เริ่มบริกรรมคาถาขึ้นอีก ท้องฟ้าที่สดใส บัดนี้เริ่มมืดครึ้ม ลมเริ่มพัดอย่างรุนแรง
เมฆเริ่มเคลื่อนย้ายเข้ามาปกคลุม หากแต่ยังไม่ทันที่เวทอสุนีบาต จะแผลงฤทธิ์  ท้องฟ้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนอีกครั้ง
ความมืดหายไป แสงสว่างและความหนาวเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่เมื่อ หิมะค่อยๆก่อตัวเป็นพายุ ทุกสิ่งทุกอย่างขาวโพลน
อุณหภูมิบริเวณรอบๆลดฮวบ อย่างน่าตกใจ และเมื่อพายุสงบ หมาป่าน้ำแข็งทั้งฝูง ก็เข้ามาหยุดยืนข้างนายเหนือหัวของมัน
ก่อนคำสั่งชี้ชะตาจะเกิดขึ้น
“จัดการ  วีสกาย่า” ฝูงหมาป่ากระโจนเข้าใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ฝ่ายคู่ต่อสู้พยายามเสกบอลไฟ ใส่ หากแต่ก็ทำได้เพียง
ทำให้กองหิมะละลายเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อหมาป่าทั้งฝูงกระโดดหลบแล้วโจนทะยานเข้าใส่ โลหิตแดงฉานย้อมหิมะให้กลายเป็นสีเลือด
ดวงตาสีฟ้าแสนเย็นชามองภาพเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง และหิมะทั้งหมดก็หายไปเมื่อ โฆษก ประกาศก้อง
“ผู้ชนะคือ เจ้าชาย คาโล วาเนบลี”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อเจ้าของห้องกลับมาได้ซักพัก ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาหันไปมอง เมื่อคนสองคนเปิดประตูเข้ามาโดย
ไม่คิดรอให้เขาอนุญาต ด้วยซ้ำไป
    “ไง แก ไม่คิดจะรอเพื่อนมาแสดงความยินดีเลยรึไง”  เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อคนตรงหน้ายังคงนิ่งเฉย
   
“นี่แกก็ผ่านเข้ารอบสามแล้วไม่ใช่หรือไงวะ จะมานั่งบื้อทำบ้าอะไร แทนที่จะดีใจ”  เฟรินเริ่มหน้ามุ่ยเมื่อคนตรงหน้ายังทำ
ทีท่าไม่สนใจ
“นั่นสิ คาโล นี่แกทำเหมือนแกไม่ดีใจเลยว่ะ” คราวนี้เป็นฝ่ายนักฆ่าบ้างที่พูดขึ้น
“หรือนายกำลังกังวล พรุ่งนี้” เสียงจากหัวขโมยสาว ดังขึ้นอีกครั้ง หากแต่คนตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตอบ
ใช่ เขากำลังกังวล ตั้งแต่รอบแรก และรอบที่ผ่านมาทั้งสองรอบ ภาพของเลือดที่ย้อมหิมะให้แดงฉาน
กลิ่นคาวเลือดที่ติดอยู่ที่มือหลังจากการประลอง แม้ว่ามันจะล้างออกไปหมดแล้ว หากแต่คนที่แข็งแต่เปลือกอย่างเขา
กำลังคิดว่า ทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า??
เฟริน นายว่าฉัน .ทำเกินไปรึเปล่า??  น้ำเสียงที่ราบเรียบหากแฝงไปด้วยความกังวลดังออกมาจากปากก้อนน้ำแข็ง
เรียกให้คนฟังอดลอบถอนใจไม่ได้
เฮ้อ!!!  มันใจอ่อน อีกแล้ว ทั้งปี
ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะโน้มศีรษะคนตัวโตกว่า ลงมาซบกับไหล่มน ก่อนพูดปลอบ
“ถ้านายไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่านายคาโล มันหลีกเลี่ยงไม่ได้” ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายให้คนฟังได้สติ
“ผู้ที่ใจอ่อนนั้นล้วนแต่พ่ายแพ้ และย่อมไม่มีวันได้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งบัลลังก์”
    คำพูดของเจ้าตัวดียังคงวนเวียนอยู่ในโสต หลังจากที่มันกับคิลลากเขาไป กินข้าวเย็น ครั้นกลับมาพักที่ห้องนี้
ในใจกลับโล่งขึ้นอย่างประหลาด ราวกลับมีคนมาโยนสิ่งที่ถ่วงใจเขาออกไป กับคำพูดที่ได้รับ ตอนนี้เขาคงต้องใจแข็งมากกว่านี้
เมื่อคิดถึงความฝันที่เขาไม่เคยบอกใคร แม้ว่าเจ้าเพื่อนซี๊ทั้งหลายอาจจะเดาออกหรือรู้อยู่แล้ว ความฝันที่เขาจะต้องไขว่คว้ามาให้ได้
ความฝันที่จะได้ขึ้นเป็นคิงแห่งคาโนวาล เพื่อที่จะให้ได้มีเกียรติและศักดิ์ศรีสูงส่ง เพียงพอที่จะไปสู่ขอสตรีที่รัก เจ้าหญิงสองดินแดน
สตรีผู้เป็นพระราชธิดาองค์เดียวในราชาปีศาจ ..
เฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะ ปริ้นเซส ออฟ เดมอส
   
ไร้ซึ่งเสียงฝีเท้า เมื่อร่างบางเดินมาหยุดข้างเตียง แสงจันทร์ที่ทอดทอผ่านผ้าม่านเผยให้เห็นร่างของคนตัวสูงที่บัดนี้หลับสนิท
ลมหายใจที่สม่ำเสมอ บอกให้รู้ว่ากำลังหลับลึก ร่างบางทิ้งตัวลงข้างๆ ก่อนจะยกมือ เสยผมคนตรงหน้า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องไปยังใบหน้ารูปสลัก ดวงหน้าหวานที่บัดนี้ขึ้นสีเรื่อๆยามเมื่อพินิจมองคนตรงหน้า ก่อนใช้นิ้วเรียวลูบไปตามเรียวปากอย่างเผลอไผล แล้วโน้มตัวลงมอบจุมพิตรักให้อย่างแผ่วเบา ความหวานล้ำค่อยๆ ซึมซาบก่อนรีบผละออกเมื่อรู้ว่า
ตนเองทำอะไรลงไป
    “ราตรีสวัสดิ์ คาโล” เสียงกระซิบแผ่วเบาก่อนคว้าผ้าห่ม ห่มให้แล้วเดินออกไป
แพขนตาหนาค่อยๆ ลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงเนตรสีฟ้าสวย เมื่อมั่นใจว่า อีกคนได้ออกไปแล้ว มือเรียวไล้ไปบนเรียวปากอย่างแผ่วเบา
ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ นานทีจะมีซักครั้ง
    “ราตรีสวัสดิ์เช่นกัน เฟริน”
______________________________________________________________________________________
อ่า งานนี้ เฟรินใจกล้าไปป่าวก็ไม่รุ อิอิ  แต่ว่าเราแต่งบทบู๊ เลือดสาดกระจายไม่เป็นอ่านะคะ ไงก็ อย่าว่าเราเลยเน้อ
ถ้าแต่งไม่ดีเท่าที่ควร
____________________________________________________________________________
เมืองคาโนวาล ดินแดนแห่งนักรบ ที่บัดนี้เต็มไปด้วยฝูงชนจำนวนมากที่หลั่งไหลมาจากประเทศต่างๆ บริเวณประตูเมืองเต็มไปด้วย
ฝูงชนที่รอต่อคิวเข้ามาจับจองพื้นที่ค้าขายในตัวเมือง ราวกับงานเทศกาลก็ไม่ปาน บรรดาพ่อค้า แม่ขายต่างตะโกนร้องเรียกลูกค้า
เพื่อหวังหากำไรจากการที่คนมากมายมหาศาลแห่เข้าเมือง เพื่อมาดูการประลองที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า บริเวณกลางเมืองบัดนี้
ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นเหมือน โคลอสเซี่ยม ขนาดใหญ่ ใหญ่ชนิดที่ว่าสามารถจับคนยัดเข้าไปได้เป็นแสนๆ
ภายในโคลอสเซี่ยมถูกประดับประดาไป ด้วยธงประจำชาติ พื้นที่ว่างตรงกลาง ถูกจัดให้เป็นลานประลอง บริเวณที่นั่งถูกจับจอง
ไปด้วยฝูงชนจำนวนมากที่เข้ามาเชียร์ และลุ้นบุคคลที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ลำดับต่อไป ถัดไปเป็นปะรำพิธี และที่ประทับของ
คิงบาโร รวมถึง คิงและเหล่าราชนิกูลจากประเทศอื่นๆ ที่ต่างพร้อมใจกันมาร่วมงานนี้กันอย่างล้นหลาม
งานประลองจะเสร็จสิ้นภายใน สามวัน ช่วงเช้าเป็นรอบแรกหรือรอบคัดเลือก ช่วงบ่ายเป็น รอบสอง วันถัดไปเป็นรอบสองที่ค้าง
และรอบสาม เพื่อที่จะหาผู้ชิงชนะเลิศที่จะแข่ง ในวันสุดท้าย
เบื้องล่างมีเต้นท์ที่พำนักของเหล่าผู้เข้าประลองตั้งอยู่ ภายในเหล่าเจ้าชาย กำลังนั่งรอพิธีที่กำลังจะเริ่มขึ้น รวมถึงเจ้าชายน้ำแข็ง
ที่ยังคงรักษาอาการและสีหน้าได้ราบเรียบอย่างไม่มีที่ติ เขาจะขึ้นประลอง ในคู่ที่สอง ภายในใจนั้นสงบนิ่ง ราวกับไม่รู้สึกรู้สา
อะไรกับการประลองในครั้งนี้ เขาไม่ได้มั่นใจ อะไรจนเกินไป เพียงแต่ จะวิตกมากไปก็เท่านั้น
“คาโล” เสียงเรียกที่ทำให้ผู้ถูกขาน หันไปมอง ก่อนจะทำตาดุ ใส่ คนที่ไม่สมควรเข้าที่นี่หากแต่สายนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนถูกมอง
กลัวแม้แต่นิดเดียว จนทำให้เขาสงสัยว่า มันติดเชื้อภูมิต้านทานสายตาเย็นชาของเขา จากเฟรินกันไปหมดแล้วหรือไง
“นายมาทำอะไรที่นี่ คิล”  คำถามจากคนพูดน้อย เรียกร้อยยิ้มกว้างจากนักฆ่าปัญญาอ่อนได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวมาหยุดยืนตรงหน้า
“ชั้นแค่ แวะมาดู มีคนเข้าขอร้องน่ะ พร้อมแล้วล่ะสินายน่ะ”
“ ..” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ หากแต่คนฟังพยักหน้าเล็กน้อย พลางส่งสายตาเชิงคำถาม ว่าใคร?
นักฆ่าแย้มรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหายไป ทิ้งไว้เพียงเสียงลมที่แว่วผ่านโสต
“เฟริน” คำตอบที่ทำให้คนฟัง ลอบยิ้มบางๆ และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
การประลองคู่แรกได้เริ่มต้นไปแล้ว เมื่อคิลวกกลับไปที่ปะรำพิธี ซึ่งแม่เจ้าตัวดี นั่งอยู่ ด้วยอาการเกร็งอย่างเห็นได้ชัด
เรียกความขบขันจากนักฆ่า เมื่อไอ้เฟริน มันได้รับเกียรติถึงขนาดนั่งเก้าอี้ที่ประทับข้างๆ องค์บาโร
ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นราชอาคันตุกะคนสำคัญ โดยคนจัดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากองค์บาโรเอง ที่ต้องการแกล้ง
ว่าที่ลูกสะใภ้ตัวแสบ แถมสั่งกำชับว่าห้ามลุกไปที่อื่นอีกตะหาก เจ้าหญิงสองดินแดนลอบถอนหายใจ
พลางหันไปมองนักฆ่าเพื่อนซี๊ที่บัดนี้ ทำความเคารพแก่องค์บาโร ก่อนจะเดินมายืนข้างที่ประทับ แล้วกระซิบเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง มันพร้อมแล้ว”
    นัดแรกจบลงไปเพียงแค่ 15 นาที เรียกเสียงเชียร์กระหึ่มจากคนดู เมื่อเจ้าชายฟาร์เวล ธีน๊อท
พระญาติห่างๆของเรนอน สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ โดยการประดาบ ท่วงทีที่พลิ้วไสว บวกกับเพลงดาบที่หนักหน่วง
ทำให้เขาสามารถปัดดาบคู่ต่อสู้ให้กระเด็น พร้อมทั้งจ่อปลายดาบไปที่คอ ตามมาด้วยคำกล่าวยอมแพ้ของอีกฝ่าย
    “คู่ต่อไป ระหว่างเจ้าชายคาโล วาเนบลี กับ เจ้าชายโรนัลด์ เอวีรอน”
เสียงโฆษกประกาศก้อง เสียงเชียร์ดังมาจากทุกทิศทางโดยเฉพาะคนจากป้อมอัศวินเมื่อ เจ้าชายน้ำแข็งก้าวขึ้นมาบนลานประลอง
ใบหน้าราวรูปสลักนิ่งเฉย ดวงเนตรสีฟ้าดูเยียบเย็น แทบจะแช่แข็งคนได้หากมีผู้ใดอาจหาญไปสบตาตรงๆ
ร่างสูงมาหยุดยืนอยู่หน้าปะรำพิธี พลางโค้งคำนับแก่พระบิดา นัยน์ตาสีฟ้า สองคู่มองสบกัน แววมุ่งมั่นและกล้าแข็งในดวงตา
เรียกความพึงใจให้เกิดแก่ผู้เป็นบิดาได้อย่างดี แม้พระองค์จะต้องเป็นกลางในฐานะกษัตริย์ หากแต่ในฐานะพ่อนั้น
ทำให้ใจครึ่งหนึ่งเทไปเรียบร้อยแล้วแก่ บุตรชาย เมื่อเหลือบมองมายังสตรีผู้เป็นดั่งดวงใจที่นั่งอยู่ข้างๆพระบิดา
ยิ้มหวานและแววตาเชื่อมั่นที่ถูกส่งมาให้นั้น ก็เพียงพอแล้ว สำหรับกำลังใจ จากเธอผู้นี้
    คาโลหันกลับมาประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ บุคคลตรงหน้าเป็นชายร่างบาง สูง แต่ก็ยังสูงไม่เท่าเขา
ดวงตาสีแดงเพลิงเช่นเดียวกับสีผม ใบหน้านั้นเหมือนพยายามข่มความรู้สึกไว้ข้างใน เหมือนแสร้งให้ดูว่าใจสงบ
หากแต่ในใจร้อนดังไฟเผาเมื่อพบว่าคู่ต่อสู้นั้นเป็นพ่อมดปีศาจแห่งคาโนวาลแต่ยังไงเขาก็ต้องสู้ สู้ด้วยเกียรตินักรบ
แห่งคาโนวาลเช่นกัน
   
กรรมการก้าวเข้ามาและยืนกั้นระหว่างบุคคลทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยกติกาสั้นๆ  “สู้ให้ชนะ ยอมแพ้ สลบหรือตายก่อนเป็นอันแพ้ไป
ผู้ชนะผ่านเข้ารอบสอง”  “เริ่มได้” ก่อนเดินออกไป
คาโลกระโดดถอยห่างจากคู่ต่อสู้ หากแต่ก็หยุดเพียงเท่านั้น ใบหน้าสงบนิ่ง มองตรงไปยังคนเบื้องหน้า ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีใครขยับ
และเนื่องด้วยเป็นผู้ใช้เวท ทั้งคู่ จึงไม่ใครคิดร่ายก่อน หากแต่ความร้อนใจ ทำให้อีกฝ่ายเรียกอาวุธคู่กายออกมา
แล้วเริ่มบริกรรมคาถา ทางฝ่ายคาโลเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่ม จึงเรียกคทาพิพากษา ออกมา แล้วเริ่มบริกรรมคาถาเช่นกัน
ลูกไฟเพลิงดวงใหญ่พุ่งตรงเข้าหาคาโลทันทีที่เสียงบริกรรมของอีกฝ่ายหยุดลง แสงสีส้มบาดตาพร้อมแรงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว
หากแต่เมื่อควันจางลง บุคคลที่โดนโจมตีเมื่อครู่กลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
หนอย!! แก!! เสียงสบถดังออกมาจากคู่ต่อสู้ และเมื่อคาโลหยุดบริกรรมคาถา ลิ่มน้ำแข็งมากมายก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นสนาม
หอกน้ำแข็งจำนวนมากพุ่งไปยังคู่ต่อสู้ หากแต่อีกฝ่ายก็กระโดดหลบ และร่ายเวทย์ป้องกันได้ทัน
เมื่อเท้าถึงพื้นต่างฝ่ายต่างก็เริ่มบริกรรมคาถาขึ้นอีก ท้องฟ้าที่สดใส บัดนี้เริ่มมืดครึ้ม ลมเริ่มพัดอย่างรุนแรง
เมฆเริ่มเคลื่อนย้ายเข้ามาปกคลุม หากแต่ยังไม่ทันที่เวทอสุนีบาต จะแผลงฤทธิ์  ท้องฟ้าก็เริ่มแปรเปลี่ยนอีกครั้ง
ความมืดหายไป แสงสว่างและความหนาวเย็นเริ่มเข้ามาแทนที่เมื่อ หิมะค่อยๆก่อตัวเป็นพายุ ทุกสิ่งทุกอย่างขาวโพลน
อุณหภูมิบริเวณรอบๆลดฮวบ อย่างน่าตกใจ และเมื่อพายุสงบ หมาป่าน้ำแข็งทั้งฝูง ก็เข้ามาหยุดยืนข้างนายเหนือหัวของมัน
ก่อนคำสั่งชี้ชะตาจะเกิดขึ้น
“จัดการ  วีสกาย่า” ฝูงหมาป่ากระโจนเข้าใส่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ฝ่ายคู่ต่อสู้พยายามเสกบอลไฟ ใส่ หากแต่ก็ทำได้เพียง
ทำให้กองหิมะละลายเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อหมาป่าทั้งฝูงกระโดดหลบแล้วโจนทะยานเข้าใส่ โลหิตแดงฉานย้อมหิมะให้กลายเป็นสีเลือด
ดวงตาสีฟ้าแสนเย็นชามองภาพเบื้องหน้าอย่างสงบนิ่ง และหิมะทั้งหมดก็หายไปเมื่อ โฆษก ประกาศก้อง
“ผู้ชนะคือ เจ้าชาย คาโล วาเนบลี”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อเจ้าของห้องกลับมาได้ซักพัก ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาหันไปมอง เมื่อคนสองคนเปิดประตูเข้ามาโดย
ไม่คิดรอให้เขาอนุญาต ด้วยซ้ำไป
    “ไง แก ไม่คิดจะรอเพื่อนมาแสดงความยินดีเลยรึไง”  เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อคนตรงหน้ายังคงนิ่งเฉย
   
“นี่แกก็ผ่านเข้ารอบสามแล้วไม่ใช่หรือไงวะ จะมานั่งบื้อทำบ้าอะไร แทนที่จะดีใจ”  เฟรินเริ่มหน้ามุ่ยเมื่อคนตรงหน้ายังทำ
ทีท่าไม่สนใจ
“นั่นสิ คาโล นี่แกทำเหมือนแกไม่ดีใจเลยว่ะ” คราวนี้เป็นฝ่ายนักฆ่าบ้างที่พูดขึ้น
“หรือนายกำลังกังวล พรุ่งนี้” เสียงจากหัวขโมยสาว ดังขึ้นอีกครั้ง หากแต่คนตรงหน้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตอบ
ใช่ เขากำลังกังวล ตั้งแต่รอบแรก และรอบที่ผ่านมาทั้งสองรอบ ภาพของเลือดที่ย้อมหิมะให้แดงฉาน
กลิ่นคาวเลือดที่ติดอยู่ที่มือหลังจากการประลอง แม้ว่ามันจะล้างออกไปหมดแล้ว หากแต่คนที่แข็งแต่เปลือกอย่างเขา
กำลังคิดว่า ทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า??
เฟริน นายว่าฉัน .ทำเกินไปรึเปล่า??  น้ำเสียงที่ราบเรียบหากแฝงไปด้วยความกังวลดังออกมาจากปากก้อนน้ำแข็ง
เรียกให้คนฟังอดลอบถอนใจไม่ได้
เฮ้อ!!!  มันใจอ่อน อีกแล้ว ทั้งปี
ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะโน้มศีรษะคนตัวโตกว่า ลงมาซบกับไหล่มน ก่อนพูดปลอบ
“ถ้านายไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่านายคาโล มันหลีกเลี่ยงไม่ได้” ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายให้คนฟังได้สติ
“ผู้ที่ใจอ่อนนั้นล้วนแต่พ่ายแพ้ และย่อมไม่มีวันได้เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวแห่งบัลลังก์”
    คำพูดของเจ้าตัวดียังคงวนเวียนอยู่ในโสต หลังจากที่มันกับคิลลากเขาไป กินข้าวเย็น ครั้นกลับมาพักที่ห้องนี้
ในใจกลับโล่งขึ้นอย่างประหลาด ราวกลับมีคนมาโยนสิ่งที่ถ่วงใจเขาออกไป กับคำพูดที่ได้รับ ตอนนี้เขาคงต้องใจแข็งมากกว่านี้
เมื่อคิดถึงความฝันที่เขาไม่เคยบอกใคร แม้ว่าเจ้าเพื่อนซี๊ทั้งหลายอาจจะเดาออกหรือรู้อยู่แล้ว ความฝันที่เขาจะต้องไขว่คว้ามาให้ได้
ความฝันที่จะได้ขึ้นเป็นคิงแห่งคาโนวาล เพื่อที่จะให้ได้มีเกียรติและศักดิ์ศรีสูงส่ง เพียงพอที่จะไปสู่ขอสตรีที่รัก เจ้าหญิงสองดินแดน
สตรีผู้เป็นพระราชธิดาองค์เดียวในราชาปีศาจ ..
เฟลิโอน่า เกรเดเวล เดอะ ปริ้นเซส ออฟ เดมอส
   
ไร้ซึ่งเสียงฝีเท้า เมื่อร่างบางเดินมาหยุดข้างเตียง แสงจันทร์ที่ทอดทอผ่านผ้าม่านเผยให้เห็นร่างของคนตัวสูงที่บัดนี้หลับสนิท
ลมหายใจที่สม่ำเสมอ บอกให้รู้ว่ากำลังหลับลึก ร่างบางทิ้งตัวลงข้างๆ ก่อนจะยกมือ เสยผมคนตรงหน้า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องไปยังใบหน้ารูปสลัก ดวงหน้าหวานที่บัดนี้ขึ้นสีเรื่อๆยามเมื่อพินิจมองคนตรงหน้า ก่อนใช้นิ้วเรียวลูบไปตามเรียวปากอย่างเผลอไผล แล้วโน้มตัวลงมอบจุมพิตรักให้อย่างแผ่วเบา ความหวานล้ำค่อยๆ ซึมซาบก่อนรีบผละออกเมื่อรู้ว่า
ตนเองทำอะไรลงไป
    “ราตรีสวัสดิ์ คาโล” เสียงกระซิบแผ่วเบาก่อนคว้าผ้าห่ม ห่มให้แล้วเดินออกไป
แพขนตาหนาค่อยๆ ลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงเนตรสีฟ้าสวย เมื่อมั่นใจว่า อีกคนได้ออกไปแล้ว มือเรียวไล้ไปบนเรียวปากอย่างแผ่วเบา
ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ นานทีจะมีซักครั้ง
    “ราตรีสวัสดิ์เช่นกัน เฟริน”
______________________________________________________________________________________
อ่า งานนี้ เฟรินใจกล้าไปป่าวก็ไม่รุ อิอิ  แต่ว่าเราแต่งบทบู๊ เลือดสาดกระจายไม่เป็นอ่านะคะ ไงก็ อย่าว่าเราเลยเน้อ
ถ้าแต่งไม่ดีเท่าที่ควร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น