ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ตอนชีวิตที่ดำเนินต่อไป

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนพิเศษ คนที่ไม่สมควรเกิดมา

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 49


    ตอนนี้ เราค่อนข้างออกจะตันๆเรื่อง เลยมาปั่นภาคพิเศษดีกว่านะค่ะ ตอนนี้ให้เป็นตอนหลังจากที่ คาโลสู้กับ
    โรเวนเสร็จแล้วพากลับมารักษาตัวนะเจ้าคะ เอามาบรรยายกันหน่อย


    ตอน คนที่ไม่สมควรเกิดมา


    ไม่..
    .
    .
    .

    หากโอรสของฝ่าบาท ไม่ได้เกิดแต่เจ้าหญิงแห่งบารามอส แล้วล่ะก็  ฝ่าบาทจะทรงโปรดเขาบ้างมั้ย?


    “ไม่”


    ถ้าเช่นนั้น......ก็ไม่สมควรให้หม่อมฉันเกิดมา....................

    ...

    ..

    ..

    .

    .


    มืด..


    ยังมืดอยู่อย่างนั้นเหรอ....

    คำที่รำพันในใจ สิ่งที่รับรู้พยายามอย่างยิ่งที่อยากจะให้มันเป็นเพียงแค่ฝัน น้ำตาที่ไม่สามารถจะไหลออกมาได้
    เพราะคำว่าศักดิ์ศรี ตอนนี้เปรียบเหมือนน้ำกรด ที่คอยกัดเซาะหัวใจอยู่ตลอดเวลา ร่างสูงพยายามอย่างยิ่งที่จะขยับ
    ร่างกายแต่ก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่เคยมี ความเหนื่อยล้าจากทั้งทางกายและใจ ทำให้เขา........สมควรที่จะหลับจริงๆเสียที
    …..หากแต่เสียงดังข้างนอกนั่นทำให้เขาหลับไม่ลง คนบาดเจ็บเจียนตายจึงได้แต่เงี่ยหูฟัง นึกสงสัยใครกันที่
    รบกวนเวลาการนอนของเขา  ผ่านไปซักพัก ก็ดูเหมือนจะซาลง ก่อนเสียงหนึ่งจะดังขึ้น ราวกับต่อว่า แต่เขาก็ได้
    ยินไม่ถนัดนัก สติสุดท้ายก่อนที่จะดับวูบอีกครั้ง ได้ยินเพียงแต่ “ผีสามตัวนั่น”


    “ริช!! นายต้องช่วย......นายต้องรักษาให้ได้” ถ้อยคำขอร้องที่ร้อยวันพันปีไม่เคยและไม่มีวันหลุดออกจากปากของ
    บุรุษผู้นี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และหยิ่งทะนงในเกียรติและศักดิ์ศรีมากกว่าผู้ใด กำลังพร่ำร้องให้คนตรงหน้า
    ช่วยเหลือ ช่วยในสิ่งที่ชีวิตนี้ของเขาต้องรักษาไว้ให้ได้ หากแต่ไม่ว่าจะพูดซักเท่าไหร่คนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะจน
    ปัญญาเต็มที ดวงหน้าที่ดูรื่นเริงอยู่เป็นนิจนั้น เครียดจัด พร้อมๆกับที่สมองกำลังใคร่ครวญอย่างหนัก และเริ่มจะ
    ระเบิดในไม่ช้าเพราะคนที่อยู่ข้างหน้าทำตัวไม่เหมือนอย่างที่เคยเป็นที่สุด

    “บาโร นายสงบสติก่อน ฉันกำลังคิด ยังไงฉันก็ต้องหาทางให้ได้ นายใจเย็นกว่านี้ได้มั้ย” คำต่อว่าที่นานๆจะมี
    ออกจากปากบุรุษผู้นี้ พร้อมกับที่ใครอีกคนต้องทรุดตัวลงบนเก้าอี้ พลางซบหน้าลงกับฝ่ามือ อาการที่ใครมาเห็น
    คงต้องตะลึงและชะงักค้างเมื่ออาการแบบนี้ไม่เคยมีปรากฏสักครั้งในชีวิตของคนที่ได้ชื่อว่า “กษัตริย์นักรบ”

    “เจ็บหนักขนาดนี้ คงต้องให้เทวดาลงมาช่วย” คำบ่นที่ปนมากับเสียงถอนหายใจก่อนจะเบนมองไปยังเพื่อนรัก
    ที่วันนี้เรียกได้ว่า น็อตหลุด หลุดเพราะคนๆหนึ่งที่เจ้าตัวไม่เคยจะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา อาจกำลังจะ
    จากไป คนที่มีชื่อว่า “คาโล” คนๆเดียว สายเลือดและลูกชายเพียงคนเดียวของมัน


    “ปากหนักทั้งตระกูล ไอ้เจ้าพวกแสดงความรู้สึกไม่เป็น มันน่า...นัก” เสียงยังก่นด่าในใจยังมีอยู่ไม่ขาดจาก
    กษัตริย์จอมเวทย์ สมองพยายามครุ่นคิดว่าวิธีช่วยหลานชายคนโปรด แต่ดูเหมือนความหวังจะเลือนรางเสียเหลือ
    เกิน ก่อนจะทรุดตัวลงที่เก้าอี้บ้าง  สายเหลือบมองที่เพื่อนรักอีกหน ก่อนจะเห็นกุญแจ......กุญแจบางอย่างที่จะนำ
    มาซึ่งทางรอดของใครคนนั้น......................คทาพิพากษา.......

    เท่าทันความคิดคทาพิพากษาก็ถูกเรียกวูบเข้ามามือ ก่อนจะตามมาด้วยการกระทุ้งสามครั้ง หากแต่ยังไม่เป็นผล
    เพราะไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

    “นายทำอะไร ริช” คิงบาโรเอ่ยขึ้นหลังเห็นท่าทีแปลกๆจากสหาย

    “ผีสามตัวนั่น ทำไมไม่มี หายไป หรือว่า........อ้อ นึกออกแล้ว........”  เจ้าตัวที่ไม่ตอบคำถามกลับควงคทาในมือ
    แล้วปักลงที่พื้น การบริกรรมคาถาค่อยๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก พร้อมๆกับที่พายุเริ่มจะก่อตัวขึ้น ลมแรงที่
    พัดให้กระโจมต้องไหววูบหากแต่ยังทรงอยู่ได้ ด้วยเขตอาคมของจอมเวทย์แห่งเอเดน ไม่นานนักบางอย่างที่โปร่ง
    ขาวราวมุก ก็ค่อยวนมาใกล้ ก่อนจะปรากฏให้เห็น ร่างวิญญาณสามร่าง หนึ่งชายแก่ หญิงสาว และนักรบ

    “ท่านคงจะเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อคนนั้น” เสียงที่เรียกให้วิญญาณชายแก่หันไปมองตาม แล้วโค้งนับลงช้าๆ เมื่อ
    รู้ว่าคนเอ่ยเรียกคือใคร

    “ไม่ทราบว่า ฝ่าบาท มีธุระอะไรกับหม่อมฉัน”

    “นายของพวกเจ้าต่างหากที่มี อย่ารอช้าท่านหมอ ท่านคงต้องเร่งมือ” สุรเสียงเรียบๆ จากคิงริชาร์ด พร้อมการผาย
    มือ เรียกให้ท่านหมอหันมองยังไปเต็นท์นั้น  ก่อนจะรีบรุดไปภายในทันที พร้อมกับสองคิงและอีกสองผี

    “อาการหนัก แย่มากกว่าที่คิด” เสียงจากลุงหมอทำให้คนฟังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ก่อนเสียงหนึ่งจะตามมาอย่าง
    เหมือนคนคุมอาการไม่ได้ “มีวิธีมั้ยท่านหมอ”

    “คงต้องให้ทั้งหมดออกไปจากห้องก่อน ฝ่าบาททั้งสองด้วยกระหม่อม” ฝ่ายคิงบาโรทำท่าเหมือนจะคัดค้าน
    หากแต่เมื่อเพื่อนรักจับบ่าไว้ ทำให้ต้องยอมสงบแต่โดยดี

    “ฝากเขาด้วย” คำสุดท้ายของคิงริชาร์ดก่อนทั้งหมดจะยอมออกจากกระโจมไป ทันทีที่ทั้งหมดออกไปลุงหมอก็
    เริ่มทำการรักษา หลังจากสำรวจบาดแผลต่างๆแล้วก็ต้องถอนหายใจหนัก “นายท่าน ข้าจะทำสุดความสามารถ”

    ..

    .

    .

    .


    เวลาล่วงเลยไปนานเพียงไม่มีผู้ใดรู้ หากแต่หนึ่งบุรุษที่ยังไม่ยอม เยื้องกรายไปไหนตั้งแต่เมื่อคืน จนบัดนี้ฟ้าสาง
    แล้วก็ยังคงปักหลัก รอคอย........ ใจได้แต่ภาวนาขอให้ลูกชายของเขารอดปลอดภัย ภาวนาขอให้กลับมาแข็งแรง
    คงเป็นครั้งนี้ที่เขาอ้อนวอนต่อ....พระเจ้าซึ่งเขาไม่เคยคิดว่ามีอยู่จริง อ้อนวอนขอให้ลูกของเขา..หายดี ขอให้ดวงตา
    ทั้งสองข้างนั้นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เขาขอเพียงเท่านี้......เท่านี้จริงๆ

    “นายควรไปพักผ่อน” เสียงจากสหายรักดังขึ้นอยู่ข้างหลัง เขารู้ได้โดยไม่ต้องหันไปมอง เพียงแต่ตอนนี้เขายัง
    ไม่มีกะจิตกะใจ จะพัก ร่างสูงสง่าของกษัตริย์นักรบ จึงยังนิ่งเฉย  และอีกคนที่รู้ดีเท่าทันเดินมาหยุดอยู่เคียงข้าง
    พร้อมทั้งบีบบ่าเบาๆเพื่อปลอบใจ


    “…………...” ไร้ซึ่งเสียงใดๆ อยู่เนิ่นนาน จนในที่สุด ความหวังที่อุตส่าห์ตั้งตารอคอยก็เผยออกมาให้เห็น
    ร่างโปร่งมุกของผีหมอเทวดา ค่อยๆลอยออกมาอย่างเชื่องช้า ดูเหนื่อยอย่างสาหัสสากรรจ์ เลยทีเดียว แต่ร่างนั้นก็
    เหมือนจะรู้ว่าสองบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้ากำลังรออะไรบางอย่างจากเขา

    “นายท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ร่างกายก็อ่อนแอเต็มที ยังคงอีกราวสามถึงสี่วันถึงจะฟื้น ช่วงนี้คงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
    คาดว่า.......คงต้องใช้เวลาร่วมสองอาทิตย์ถึงจะแข็งแรงดังเดิม ส่วนเรื่องตา...คงต้องรอดูนายท่านฟื้นอีกที”
    ว่าจบร่างทั้งร่างก็หายวับเข้าสู่คทา อย่างไม่รอเสียงคัดค้านใดๆ คงเพราะใช้พลังไปเต็มที่ในการรักษา คนฟัง
    ทั้งสองจึงได้แต่ลอบถอนใจ อย่างน้อย คาโล ก็ยังรอดตาย สิ้นสุดความคิดร่างสง่าของนักรบผิวสีทองแดง ก็ก้าว
    เข้าไปในกระโจม ทอดสายตามองร่างที่นอนอยู่ตรงหน้า แววตาที่ทอประกายด้วยความเป็นห่วงนั้นปิดไม่มิด
    คิงบาโรหันไปมองยังสหายรักก่อนจะเอ่ยปากขอร้องอีกครั้งหนึ่งในชีวิตเขา
    “นายช่วยดูแล คาโล ได้มั้ย ริช ดูจนกว่าเขาจะแข็งแรงดีดังเดิม” เสียงตอบรับที่ดังขึ้นเรียกความโล่งใจส่วนหนึ่ง
    ให้กลับมา กษัตริย์นักรบทิ้งตัวลงสู่เก้าอี้ด้านข้างเตียงคนป่วย ก่อนจะนั่งนิ่งเหมือนคนตกอยู่ห้วงคิดเพียงลำพัง
    รอยยิ้มจางเกิดขึ้นที่มุมปากคนมอง ก่อนจะสาวเท้าทิ้ง.....พ่อกับลูก.....ไว้ให้อยู่ด้วยกัน ตามลำพัง.

    ...

    ..

    .

    .

    .

    เปลือกตาที่ค่อยๆกระพริบๆช้าๆ ก่อนจะเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าคู่สวย แสงแดดยามเช้าแยงตาทำให้ต้อง
    กระพริบตาซ้ำ ตามมาด้วยเสียงเบาๆที่ดังขึ้นข้างกาย

    “ไง ฟื้นแล้วรึ คาโล......อย่าเพิ่งขยับตัวสิ” ประโยคหลังดังขึ้นเมื่อร่างคนเจ็บพยายามที่จะยันตัวเองลุกขึ้นมา 
    แต่ก็ต้องรีบเข้าไปช่วยพยุงเมื่อคนป่วยดึงดันจะลุกขึ้นมาจนได้ ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของเจ้าชายแห่งคาโนวาล
    จึงนั่งพิงขอบเตียงแม้จะทุลักทุเลเต็มทีก็ตาม

    “ดื้อเหมือน พ่อมัน...” คำด่าที่คิดด่ารวมไปถึงอีกคนอย่างน่าหงุดหงิดใจพลาง มองเจ้าหลานชายตรงหน้า ที่คิด
    ฝืนสังขารไม่ดูตัวเอง พลางเอ่ยบางประโยคบางอย่างที่ทำให้เจ้าชายครุ่นคิด

    “เราน่ะ บาดเจ็บสาหัส หลับไปสี่วันเต็มๆ ทหารสอดแนมของคาโนวาลเป็นคนหามเรากลับมา” แต่ก่อนที่จะได้
    พูดอะไรเพิ่มเติม ร่างของผีลุงหมอก็ปรากฏขึ้น ทำให้คนป่วยเลิกคิ้วฉงน แต่ยังไม่ทันจะได้ถามก็ราวกับกษัตริย์
    ตรงหน้าจะเดาใจได้ จึงบอกกล่าวว่าตนเป็นคนเรียกกลับมา

    “พักผ่อนซะ คาโล ไว้ บ่ายๆข้าจะมาดูเจ้าอีกที” ก่อนจะสาวเท้าหันหลังกลับ แต่ก็ชะงักไปชั่วอึดใจ แล้วหันกลับมา
    สบตาคู่สวยสีฟ้าอีกครั้ง

    “ตา เจ้ามองเห็นแล้ว ใช่มั้ย” เมื่อคนป่วยพยักหน้าคิงริชาร์ดจึงเดินออกไป เสียงทิ้งท้ายที่ดังตามมาเบาๆ ก่อนร่าง
    พุงพลุ้ยนั้นจะหายไป “แม่ธิดาแห่งความมืดนั่น ข้ามแม่น้ำเลทิสไปแล้ว”


    “นายท่าน เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” พี่ผีสาวถามขึ้นขณะที่นายท่านของเจ้าหล่อน เอนกายลงพักอีกครั้ง แต่ก็
    เหมือนเดิม นายท่านคนนี้ยังไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น บ่าวที่รู้นิสัยนายตัวเองดี จึงโค้งคำนับแล้วหายวับไป....


    “คาโล ฟื้นแล้ว..........แต่ยังต้องพักผ่อนอีกมาก” เสียงที่ดังขึ้นหลังจากบุรุษผู้หนึ่งเข้ามาในกระโจม


    “แล้ว.....”


    “เห็นแล้ว....แต่ไม่รู้ว่าเห็นแบบไหน....เจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไร”


     “นายจะไม่ไปดูหน่อยรึ” คำถามที่ดังขึ้นหลังจากฝ่ายหนึ่งเงียบไป


    “ข้ายังมีงานต้องทำ” อีกฝ่ายตอบเลี่ยงๆ เรียกให้คนฟังเริ่มชักหงุดหงิดขึ้นมา   “ตามใจ แล้วข้าจะมาใหม่”
    หลังจากบุรุษผู้นั้นออกไป ร่างสูงก็ค่อยๆนั่งลงที่โต๊ะทำงาน พลางกางแผนที่สมรภูมิ แม้ดวงตาจะจับจ้อง
    ไปยังสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หากแต่สมองและใจ ไม่ได้รับรู้อะไรอื่นอีกเลย

    “หม่อมฉัน ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงช่วย” หลังจากที่คาโลฟื้นเพียงแค่สองวันเจ้าตัวก็ออกมานอกกระโจม ทั้งที่
    ควรจะพักผ่อนและไม่ควรอย่างยิ่งที่จะลุกขึ้นมาภายใน4-5 วันตามที่ลุงหมอสั่ง แต่คนป่วยกลับฝืนสังขารตัวเอง
    จนได้ และดูเหมือนก็ไม่มีใครกล้าที่จะไปห้าม  ซึ่งเจ้าตัวบัดนี้อยู่ในพลับพลาของกษัตริย์แห่งแอเรียส


    “ไม่เป็นไร แต่ข้าว่าเจ้าไม่น่ารีบลุกมาแบบนี้” ประโยคหลังนั้นออกแนวตำหนิเล็กน้อย


    “หม่อมฉัน ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของกองทัพ เมื่อหายแล้วก็เลยไม่อยากนอนเฉยๆ” คำทูลตอบที่คิงริชาร์ด นึกแล้วก็
    ให้หมั่นไส้นัก  หายดี???  ซีดเซียวจนจะเป็นผียังบอกหายดี  .......เด็ก.........

     
    “เอาเถอะ เจ้าก็อย่าฝืนให้มาก คนที่เขาเป็นห่วงเราน่ะ คงไม่สบอารมณ์นัก” คำพูดที่เรียกให้บุรุษตาสีฟ้าเงยขึ้นไป
    สบตา ราวกับจะถามว่า คนที่ห่วงหม่อมฉัน???   และดูเหมือนกษัตริย์ตรงหน้าจะรู้เลยเอ่ยสำทับ


    “คนๆนั้นไม่ได้ใจร้ายและแล้งน้ำใจอย่างที่เจ้าคิดหรอก” คำบลั๊ฟที่ส่งผลให้เจ้าชายคาโล ไหววูบในแววตา ก่อนจะ
    รีบกลบเกลื่อนทันควัน แต่ยังไงก็คงไม่รอดพ้นสายตาของคนตรงหน้า


    “เราน่ะ น่าจะได้เห็นตอนที่เขารู้ว่าเจ้าน่ะ ปางตาย กับตอนที่ข้ายังหาทางรักษาไม่ได้” คนฟังยังคงนิ่งเฉย


    “เขาเป็นคนขอร้องข้าให้ตามดูแลเจ้า” คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างแทบไม่เชื่อหู


    “คนที่เจ้าเห็นตอนตื่น รางๆน่ะ ไม่ใช่ข้าหรอก” เอ่ยจบเพียงเท่านี้ผ้าใบหน้ากระโจมก็ถูกเลิกขึ้น พร้อมใครบางคน
    ที่เพิ่งถูกเอ่ยถึงก็เข้ามา ดวงตาสีฟ้ามองสบกัน ก่อนผู้มีศักดิ์มากกว่าจะเอ่ยขึ้นก่อน

    “ทำไมเจ้าไม่ พักผ่อนล่ะ” แต่ก่อนที่จะได้ตอบ คิงริชาร์ดก็แทรกมาเสียก่อน

     “เจ้าควรจะไปดูเขาบ้าง ไปตอนที่ตื่น ไม่ใช่แอบไปตอนหลับ” เสียงออกแซวนิดๆที่เรียกริ้วบางอย่างให้เกิดขึ้น
    ดวงหน้ากษัตริย์นักรบ พระพักตร์กษัตริย์คาโนวาล เบนไปมองยังคนที่สบตาเขามาตรงๆ แววเป็นห่วงปรากฏใน
    ดวงตา ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว คิงบาโรได้แต่ลอบถอนใจ จากการบลั๊ฟของเพื่อนรัก พลางบอกให้ใคร
    คนหนึ่งควรจะไปพักจริงๆเสียที.......เจ้าตัวโค้งคำนับ หากแต่ดวงตานั้นเป็นประกาย


    ท่านพ่อ ยังมีน้ำพระทัยเมตตาอยู่เสมอ....... ความคิดที่ทำให้หัวใจนั้นพองขึ้นมาอย่างอดไม่ได้


    “หม่อมฉันทูลลา”


    …………….


    …………….


    …………….


    “คาโล…..”  เสียงเรียกที่ดังมาแต่ไกลจากหนุ่มน้อยนักฆ่า เรียกให้ดวงตาคู่สวยสีฟ้าหันไปมอง ก่อนจะแย้มรอยยิ้ม
    ออกมาเมื่อพบว่าคนที่เรียกเป็นใคร

    “ดีที่นาย หายแล้ว มาเถอะพวกเราทั้งหมดอยู่ที่พลสื่อสาร ไปนั่งคุยกัน”  สิ้นคำคิลก็โอบรอบคอคาโล แล้ว ลาก??
    ให้ตามไปด้วยกัน พร้อมกับที่คนถูกลาก ระบายยิ้มน้อยๆ  “งานนี้ต้องโต้รุ่ง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×