ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วังวนอสูร

    ลำดับตอนที่ #4 : หวง ห่วง หรือ หึง

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 59




                



    รสินทราเดินสวมเสื้อคลุมของโรงแรมลงมา โดยไม่ผูกเสื้อคลุมให้มิดชิด เวลาเดินเรียวขางามสวยก็โผล่ให้ระยะๆเชิญชวนสายตาของเหล่าหนุ่มๆ ที่อยู่ริมสระให้หันมามองกันตามัน จนกระทั่งมาถึงโต๊ะมองสิ่งที่ลุคเตรียมไว้ให้อย่างดีด้วยความตกใจ

    “โอ้โห่...แค่ว่ายน้ำเองลุคต้องเตรียมอะไรให้ยุ่งยาก เดี๋ยวก็ไปกินข้าวแล้ว”

    “ก็ไม่ยุ่งยากนะ อยากให้แอลผ่อนคลาย” ขณะที่ชายหนุ่มกลับดูภาคภูมิใจที่หญิงสาวถูกมองและตัวเองเองก็เคยชินแล้วด้วยเพราะความที่คนหัวนอกปกติที่สาวๆ จะใส่บิกินี่เดินไปเดินมา

    “ว่ายน้ำก็ผ่อนคลายแล้วสำหรับแอล” หล่อนนั่งลงแล้วไขว่ขาเหยียดยาวเหมือนอวดความงามของเรียวขาตนเองให้ใครๆได้มองตามความเคยชิน

    “ดื่มอะไรก่อนไหม” ชายหนุ่มรินเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ผสมเองกับมือให้กับ

    หญิงสาว แล้วส่งไปให้กับเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “แบบที่แอลชอบเลยนะ”

    “ขอบใจ” หญิงสาวรับมาแต่โดยดีมองดูสีสันและหน้าตาแล้วรู้สึกคุ้นเคย คิดในใจคาดว่าชายหนุ่มคงจะคนเตรียม

    “ดื่ม” เขาพยายามจะยื่นแก้วไปชนด้วย แต่หล่อนกลับมองดูแก้วแล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่โดยไม่รอชน ซึ่งเขาก็ไม่คิดมากอะไรดื่มตามหญิงสาวแล้วนั่งมองหน้าเธอว่าจะรู้ไหมว่าเขาคนผสมเอง

    “ลุคผสมเองใช่ไหม” เมื่อกลืนลงคอแอลก็หันมายิ้มหวานให้กับชายหนุ่มรู้ดีหากไม่ทักมีหวังจะเซ้าซี้ถามว่าอร่อยไหมชอบไหมรู้ไหมว่าใครทำเลยต้องรีบออกตัวก่อนทันที

    “จำรสชาติได้เหรอ” ชายหนุ่มเหมือนเด็กน้อยได้ทำอาหารครั้งแรกเมื่อรู้ว่าเธอสนใจกับเครื่องดื่มขนาดนี้หัวใจของเขาก็พองโตขึ้นมาทันที

    “อือ คุ้นเคยขนาดนี้จะลืมได้ยังไง” รสินทราพยักหน้าพลางหันไปตักของว่างเข้าปากซึ่งก็คงไปตามคาดลุคน่าจะไปคนควบคุมการผลิตเองกับมือ

    “ดีจัง เออ...แอล...” ลูคัสยิ้มกว้างนั่งมองใบหน้างามยามพระอาทิตย์ตกดินด้วยความหลงใหลดูเหมือนบรรยากาศจะใจชวนให้เขาทำในสิ่งที่ตั้งใจมากนานตั้งแต่เธอรักษาตัวหายจากโรคหัวใจ

    “ว่ายน้ำดีกว่า ดื่มแล้วรู้สึกร้อนดีจัง” ด้วยเพราะหล่อนไม่เอ๊ะใจคิดอะไรว่าชายหนุ่มจะมีเรื่องสำคัญพูดด้วย แอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ถอดเสื้อคลุมออกในทันที พลางหันไปมองหน้าคนที่เหมือนมีอะไรพูดด้วยเชิงชวนให้เขาตามลงไปในสระพร้อมกับตน “ไปไหม”

    “ยังล่ะ ไปก่อนเถอะ ลุคขอดื่มอีกสักพักแล้วเดียวตามลงไป” ชายหนุ่มส่ายหน้าพยายามเก็บอาการเอาไว้ก่อนบางทีอาจจะเอาแหวนตามลงไปขอที่กลางสระหรือไม่คืนนี้ในห้องอาหารของโรงแรมซึ่งเขาเองก็เตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้วหากโอกาสริมสระนี้พลาดพลั้ง

    “แฟนผู้บริหารน่ารักเนอะ เอาใจน่าดู สงสัยมีแผนจะขอแต่งงานแน่เลยอิจฉาจัง” พนักงานต้อนรับสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในเคาเตอร์พูดคุยหัวเราะต่อกระซิบกันอย่างสนุกสนานท่ามกลางสายตาของแขกที่กำลังเข้าพักและหนึ่งในนั้นคือคันธารัตน์ที่เพิ่งมาถึง

    “เห็นว่าทำธุรกิจประเภทเดียวกันเลยง่ายที่จะทองแผ่นเดียวกัน”

    คันธารัตน์กำลังเซ็นต์เอกสารเพื่อเข้าพักในโรงแรมได้ยินชัดเจนเหลือบมองดูพนักงานต้อนรับทั้งสองคนพูดคุยกันรู้สึกมือไม้สั่นอยากจะไปดูให้เห็นกับตาใจจะขาดรอนๆ

    ทองแผ่นเดียวกันเหรอ ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้คำๆนี้ทำไมตอนนี้สำหรับเขามันแสลงหูเหลือเกินทั้งที่รู้ว่าสักวันน้องสาวของเขาจะต้องแต่งงานแต่สำหรับแอลตอนนี้บางอย่างในใจของเขามันไม่เหมือนเดิม

    “แอล...” คันธารัตน์ตกตะลึกเมื่อเห็นสัดส่วนชวนมองของน้องสาวที่กำลังก้าวขึ้นบันไดของสระว่ายน้ำราวกับภาพชายให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากพยายามยอมรับกับหัวใจตัวเองว่าเธอหลงใหลเกินจะห้ามใจเก็บเอาไว้แค่น้อง

    แต่ทว่า...น้องสาวของเขาในชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่ตัวจิ๋วสีน้ำตาลขับกับสีผิวขาวอมชมพูของเธอ เนินอวบอั๋นที่ตอนนี้อวบอิ่มมันน่ามองแถมยังชวนให้หลงใหลไม่มีแม้แผลผ่าตัดให้เห็น เพราะเจ้าตัวคงทุ่มเงินทำศัลยกรรมตกแต่งปกปิดแผลผ่าตัดมาอย่างดี

    แถมทรวดทรงองเอวของเธอตอนนี้ก็ดูเหมาะสมกันทุกสัดส่วน อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกผาย ก้มงอนงามน่าจับ เรียวขาสูงเรียวยาว ที่สำคัญเวลาเดินความงอนงามนั้นก็โยกย้ายส่ายไปมาทำเอาน้ำลายสอเกินกว่าจะห้ามใจเอาไว้ได้อีกต่อไป

    ไม่แม้แต่เคนและหนุ่มๆ ริมสระ ลูคัสเองก็คิดเหมือนกันยิ่งยามที่เนื้อตัวของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำมันทำให้ใครๆต่างหลงใหล แล้วคิดไปไกลเปรียบเทียบยามเธอขยับเคลื่อนไหวอยู่บนเตียงนอนหยาดน้ำที่อยู่ตามคือหยาดเหงือที่ซึมออกมาทำเอาหลายๆคนคิดฟุ้งซ่านกันไปใหญ่โต

    “มองอะไรลุค” หญิงสาวมองเห็นสายตาของชายหนุ่มดูเขากำลังตกตะลึงกับเรือนร่างของเธอจนเกินกว่าเหตุทั้งที่น่าจะเคยเห็นจนชินตา

    “มองคนสวย แอลสวยมากเลยรู้ไหม” ลูคัสเปิดปากออกไปตามตรงไม่ปกปิดที่เธอดูสวยกว่าทุกครั้งคงเพราะวันนี้บรรยากาศช่างใจ แสงพระอาทิตย์กระทบกับผิวเนื้อสีขาวอมชมพูชวนหลงใหลเหรอเกิน

    “หึ...ที่ชมเนี่ยจะเอาอะไร” แอลหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตามเนื้อตัวพร้อมหยิบเครื่องดื่มมารินใส่แก้วของตัวเองแล้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่เพื่อดับกระหาย

    “ถ้ามีของที่อยากจะได้จริงๆแอลจะให้ไหมละ” ชายหนุ่มกระดกลิ้นเลียริมฝีปากเหมือนพยายามจะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้อีกครั้ง

    “ถ้า...ไม่ลำบากก็จะให้” หญิงสาวไม่คิดอะไรมองดูแววตาสีฟ้าอ่อนๆคู่ที่มีความนัยน์แอบแฝงด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    “ของที่ลุคอยากได้ไม่ลำบากเลย” เขาพยายามรวบรวมความกล้าแต่ทว่าตอนนี้ใจของเขาเต้นแรงไม่จังหวะเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะพูดหรือไม่ควรดีเพราะเธอไม่เคยมีท่าทีที่ชอบพอกับเขาเลยจึงกลัวจะผิดหวังหากเธอปฏิเสธความรักของเขาที่มอบให้

    “เหรอ อะไร...” ยิ่งเขาพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งสงสัยด้วยความเพราะไว้ใจมากตลอดทำให้ไม่คิดว่าเขาจะแอบชอบเธอเพราะบรรยากาศแบบนี้มันเหมือนเขากำลังจะสารภาพรัก

    ขณะที่ลูคัสพยายามจะอ้าปาก คันธารัตน์ก็เดินเข้ามาถึงโต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่พอดี พร้อมเรียกหาน้องสาวที่ตนสัญญาเอาไว้ว่าจะตามมา

    “แอล...”

    “พี่เคน ดีใจจังพี่เคนมาได้” รสินทราหันไปสนใจผู้ที่พึ่งมาถึงในทันที โผ

    เข้ากอดอย่างไม่แคร์และไม่สนใจสายตาของเขาทำเอาเรือนร่างที่เปียกและกึ่งเปลือยของเธอแนบชิดไปกับเรืองร่างของชายหนุ่ม ซึ่งดูเหมือนเขาตอนนี้กลับไม่รังเกียรติยินดีซะด้วยซ้ำไป

    “น้องสาวกลับมาทั้งที พี่ก็ต้องหาเวลามาเที่ยวด้วยให้ได้สิ ไม่งั้นน้อยใจตายเลย” ชายหนุ่มกอดตอบพอหอมปากหอมคอแล้วรั้งร่างเย้ายวนออกแทบจะไม่กล้าก้มหน้ามองสัดส่วนในระยะใกล้แบบนี้

    ลูคัสพูดไม่ออกได้แน่นั่งนิ่งกำกล่องเล็กๆที่อยู่ในมือ คิดสาปแช่งผู้มาใหม่ในใจ ก้างขวางคอชัดๆไม่รู้จะมาทำไมให้เขาเสียแผน

    “ดีใจจังเลยคะ พี่เคนทานอะไรมารึยังคะ” แอลฉุดพี่ชายที่ตนหลงรักมานั่งเก้าอี้อีกตัวมือไม้ของเธอเกาะเกี่ยวแขนล่ำของพี่ชายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ลุคตวัดสายตามองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจเบือนหน้าหนีพร้อมกับแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มการย้อมใจตัวเอง

    “ก็หิวอยู่นะ แต่ไม่อยากกินที่โรงแรม” คันธารัตน์พยักหน้าแต่ขอออกตัวไม่คิดจะกินที่โรงแรมของหญิงสาวด้วยเพราะเบื่อหน่ายกับกินตามห้องอาหารเต็มทีรับลูกค้าทีก็ต้องไปเลี้ยงแบบนั้นประจำ ไปได้ตอนนี้ถ้าเลือกได้ขออาหารข้างถนน

    ธรรมดาก็เพียงพอ

    “งั้นไปเดินตลาดโต้รุ่งกันนะ” เหมือนจะรู้ใจชายหนุ่มแอลรีบเสนอสถานที่ยอดนิยมของหัวหินในทันทีแม้ตัวของเธอเองนั้นก็ยังไม่เคยเดินเมื่อได้โอกาสจึงรีบเสนอให้พี่ชายได้อย่างทันใจ

    “เดินทางมาเหนื่อยเขาคงไม่อยากจะไปหรอก” ลูคัสรีบออกปากขัดเพราะก่อนหน้านี้ตนได้สั่งอาหารกับทางห้องอาหารของโรงแรมเอาไว้จำนวนมากหากคันธารัตน์ไม่มาขวางไว้ทุกอย่างก็คงไปตามแผนการหรือไม่ถ้ายอมกินตนก็จะจัดการตามแผนโดยไม่สนใจใครอีกต่อไป

     “ใครว่าไปสิ พี่ไม่ได้ออกมาเที่ยวนานแล้ว” เคนตอบกลับโดยไม่รอช้า เหมือนคำพูดของลุคเพียงลมพัดผ่านไม่มีใครสนใจวาจาที่กล่าวออกมาของหนุ่มต่างชาติสักนิดเดียว

    “ดีจังเลยคะ งั้นแอลไปเปลี่ยนชุดก่อน” หญิงสาวหน้าระรื่นลุกขึ้นยืนพลางหันไปชวนชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่กำลังนั่งอึ้งพูดไม่ออกเพราะกำลังรู้สึกเหมือนส่วนเกินต่อคนทั้งสอง

    “ลุคไปกันเถอะ”

    “อือ” ลูคัสตอบเสียงแผ่วเบากับหญิงสาวส่ายหน้าตวัดไปมองเคนที่กำลังรินเครื่องดื่มใส่แก้วของแอลแล้วยกขึ้นดื่มทำเหมือนไม่คิดอะไรในใจ

    ณ. ตลาดโต้รุ่ง หัวหิน ชายหนุ่มทั้งสองและหญิงสาวนั่งรถของทางโรงแรมมาลงที่หน้าตลาด ด้วยความที่รสินทราไม่เจอพี่ชายที่แสนดีมานานมากจึงเดินเข้าไปเกาะเกี่ยวแขนเขาโดยไม่สนใจชายหนุ่มชาวต่างชาติที่เธอเคยเกาะเกี่ยวแขนเขามาตลอดสามปีเมื่อครั้งตอนอยู่เมืองนอกด้วยเพราะหล่อนคิดว่าลุคน่าจะเข้าใจ

    “พี่เคนอยากกินอะไรคะ” หญิงสาวถามอย่างเอาอกเอาใจชายหนุ่มพยายามเพ่งสายตามองดูร้านขายของผ่านผู้คนที่เยอะแยกมากมาย

    “อือ ไม่รู้สิ แอลล่ะ พี่ไม่เคยมาเหมือนกับแอลนั่นแหละ” เคนยกมือขึ้นเกาหัวคนเยอะจนเขาดูไม่ออกว่าไหนร้านขายของไหนคนซื้อไหนแม่ค้ารู้แต่ว่าคนมากจนเบียดเสียดแน่นกันไปหมดจนเขาต้องโอบประคองน้องสาวเพื่อปกป้องเธอจากการถูกคนอื่นชน

    “ลุค ลุคเคยมาดูงานที่นี่ก่อนแอล พอมีร้านไหนแนะนำไหม” แอลหันไปถามชายหนุ่มที่เดินตามมาอยู่ด้านหลังซึ่งกำลังเดินทำหน้าเหงาหงอยอยู่คนเดียว

    “ร้านมันก็ธรรมดาน่ะส่วนใหญ่หนักไปทางอาหารพื้นบ้านของไทยอยู่แล้ว

    ซึ่งเคนก็คงชิน” เมื่อถูกกล่าวถามเขาก็เร่งฝีเท้าขึ้นมาตอบแบบกลางๆ

    “งั้น...เจอร้านไหนก็กินมันทุกอย่าง อย่างละนิดละหน่อยแล้วกัน” คันธารัตน์จึงตัดสิ่งใจแทนว่าจะกินทุกอย่างที่ผ่านหน้าให้สมกับที่ได้มาเยือน

    “คะ” หญิงสาวเห็นด้วยสุดใจ สาวเท้ารีบเร่งเข้าไปยังร้านแรกที่เห็นแล้วซื้อมาสองถุงโดยแบ่งกันกินจะได้ไม่อิ่มเร็วเธอป้อนพี่ชายพี่แสนดีขณะที่เขาถือน้ำคอยป้อนเธอ

    “เลอะปากแล้วกินเหมือนเด็กไปได้” เคนหยิบกระดาษในมือไปเช็ดปากให้กับหญิงสาวมองใบหน้างามที่ตอนนี้ดูสดใสหากย้อนเวลากลับไปคงไม่มีใบหน้าแบบนี้ให้เขาเห็นอย่างแน่นอน

    “ก็มีพี่เคนอยู่ทั้งคนดูแลแอลได้อยู่แล้วล่ะ” รสินทราเองก็ตอบอย่างเอาใจชายหนุ่มหยอดคำหวานและหน้าตาขี้อ้อนให้เขารู้สึกหัวใจพองโต

    “อันนี้น่าอร่อยนะ” พี่ชายที่แสนดีชี้ไปทางอีกร้านปรี่เข้าไปดูลาดราวในทันทีดูเหมือนตอนนี้จะเวลาที่เขามีความสุขและสนุกที่สุดเลย

    “จริงด้วย ลุคเอาไหม” หญิงสาวพยักหน้ามองดูหน้าตาอาหารตรงหน้าด้วยความสนใจ พลางไม่ลืมหันไปถามชายที่เดินตามมารั้งท้าย

    “ไม่ล่ะ ผมกินอยู่คนเดียวไม่มีใครช่วยกินสักหน่อยอิ่มจะตายอยู่แล้ว” ลูคัสส่ายหน้าพร้อมยกอาหารที่ซื้อกินกันมากมายจนเขากินไม่หมดหาถังขยะทิ้งอยู่

    “งั้นอันนี้สั่งพิเศษมากินกันสามคนแล้วกัน เดี๋ยวแอลป้อนเอง” หญิงสาวจึงตัดสินใจให้อย่างกลางเพราะอยากจะให้ทุกคนได้กินเหมือนกัน

    เมื่อได้ของตามที่สั่งรสินทราก็จัดการตักเข้าปากพี่ชายคนแรกเพราะอายุมากสุด ตามด้วยปากตัวเองแล้วตบท้ายด้วยลูคัสซึ่งไม่ค่อยเต็มใจจะกินสักเท่าไรเพราะกำลังน้อยใจว่าตนถูกป้อนคนสุดท้าย

    “สนุกจังเลยคะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับควงขนพี่ชายพี่ตนแอบรักหลังจากที่ป้อนสิ่งที่ซื้อมาเข้าไปในป้อนของทุกคนจนหมดแล้วตอนนี้ทุกก็เห็นพ้องต้องกันว่าต้องหยุดซื้อของกินเพราะไม่ไหวจะกินกันต่อ

    “มีร้านคอกเทลด้วยดื่มไหมแอล” ตามนิสัยของชาวต่างชาติลูคัสเห็นร้านขายเครื่องดื่มเล็กๆก็หันไปถามหญิงสาวเพราะรู้ดีว่าหล่อนชอบดื่มแค่ไหน

    “อือ” รสินทราไม่เคยปฏิเสธเหมือนเคยไม่เพียงแต่พยักหน้าแต่ควงกึ่งลากพี่ชายไปยังร้านด้วยตามลูคัสไปด้วยท่าทางกระตือรือร้น

    “ดื่มได้เหรอแอล” พี่ชายที่แสนดียังไม่ลืมภาพเก่าๆของน้องสาวไปจากสมองยังคิดติดอยู่ว่าเธอไม่น่าจะดื่มแอลกอฮอล์

    “ได้สิคะพี่เคน แอลหายแล้วนะ ตอนนี้กินได้หมดทุกอย่าง” หญิงสาวกลายเด็กดื้อรั้นหรือแค่อยากจะให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ขี้โรคอีกต่อไปแสดงตัวเองให้เหมือนปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “แต่ระวังเอาไว้บ้างก็ดีนะ” คันธารัตน์ขมวดคิ้วหน้าเครียดยังไม่วางใจเพราะยังไงซะแอลกอฮอล์ก็ไม่ใช่เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคน

    “ไม่ต้องห่วงหรอกคะ แอลดื่มจนชินแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะคออ่อนหรอก อยู่เมืองนอกอากาศเย็นมากไม่กินมีหวังหนาวตาย อีกอย่างนี่มีแอลกอฮอล์นิดเดียวเองไม่ไรหรอก” แอลรับแก้วจากมือของลูคัสมาดื่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางส่งไปให้พี่ชายดูว่าส่วนผสมไม่ได้รุนแรงจนต้องกลัวเกินกว่าเหตุ

    คันธารัตน์เคนไม่กล่าวอะไรต่อไม่อยากจะขัดให้เสียบรรยากาศเพราะก็จริงตามที่เธอว่าเครื่องดื่มดังกล่าวมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยกว่าเหล้าผสมซะอีก จึงปล่อยเลยตามเลยแล้วหันไปสนุกสนานกับการเดินกินเดินเที่ยวที่ตลาดโต้รุ่งชื่อดังของหัวหินต่อไป

    เช้าวันต่อมาคันธารัตน์ลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาเกือบสิบโมงเขาไม่ได้ตื่นสายแบบนี้มานานเกือบสองปีเพราะตั้งแต่กลับมาทำงานที่บ้านก็มุ่งมั่นเอาแต่ทำงาน ในวันนี้ร่างกายของเขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากอย่างบอกไม่ถูกไม่คิดเลยว่าเขาจะใช้ร่างกายมาจนหนักพอพักทีแล้วยังรู้สึกไม่อยากกลับไปทำงานเลย

    ชายหนุ่มลุกขึ้นตั้งใจจะอาบน้ำสิ่งที่เห็นวางอยู่ปลายเตียงนอนของเขาคือรถเข็นของรูมเซอร์วิสไม่รู้เอาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรดูเหมือนตนเองจะหลับตายไม่รู้เรื่องอะไรเลย หากใครเข้ามาทำร้ายคงไม่รู้เรื่องตายเอาไม่รู้ตัว คิดแล้วชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะขำตัวเอง

    พอตัวเองจะเปิดดูอาหารตรงหน้าก็พบโน๊ตที่จ่าหน้าซองถึงตนเองลายมือของผู้เขียนดูไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไรเมื่อเปิดอ่านก็รู้ว่าใครผู้หวังดีส่งมาให้กับตน

    เกรงว่าพี่เคนจะตื่นลงไปกินอาหารเช้าไม่ทัน เลยจัดเตรียมขึ้นมาให้ทานให้อร่อยนะคะ แอลทำเองกับมือ ...แอล...

    ชายหนุ่มเปิดฝาที่คลุมอาหารเอาไว้ มันคือข้าวต้มกุ้งกลิ่นหอมกรุ่นใส่ไว้ในหม้อเล็กๆ ที่มีแอลกอฮอล์เล็กๆจุดเอาไว้อุ่นให้ร้อนอยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของผู้ที่นำมาให้ เคนเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

    นั่งลงที่ปลายเตียงขยับรถเข็นเข้ามาใกล้ตักข้าวต้มใส่ถ้วยเล็กๆที่เตรียมมาพร้อมกันแล้วเริ่มจัดแจงลงมือทานโดยไม่คิดจะไปล้างหน้าล้างตาเพราะตอนนี้ห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วอยากจะกินอาหารฝีมือหญิงสาวใจจะขาด ข้าวต้มร้อนๆเข้าไปในปาก อุ่นกำลังดีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น

    เพราะมันเต็มไปด้วยความรักปรุงด้วยความห่วงใยรสชาติเต็มไปด้วยความห่วงหามันหวานหอมและอร่อยโดยที่ไม่ต้องปรุงอะไรเลย ไม่นานอาหารที่รสินทราจัดการมาให้จนหมดเคนก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปหาน้องสาวคนดีเพราะเห็นว่าสายมากเกินไปแล้วถ้าภาษาชาวบ้านก็เรียกตื่นสายจนตะวันส่งก้น

    เขาเดินลงไปมองหารสินทราตั้งใจจะไปเอ่ยชมอาหารฝีมือเธอแต่เห็นร่างสมส่วนของแอลกำลังยืนสั่งงานลูกน้องอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้รับแขกมองดูน้องสาวของเขาในชุดสูทสำหรับทำงานดูทะมัดทะแมงและผู้ใหญ่ผิดจากเด็กสาวคนเดิมจริงๆ

    แววตาของพี่ชายที่กำลังจับจ้องอยู่ในสายตาของรสินทรามาตลอดเพราะหล่อนลอบสังเกตเขาตั้งแต่ออกมาจากลิฟต์ไม่มีทางหรอกที่เธอจะไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา เมื่อสั่งงานเสร็จก็เดินมาหาพี่ชายที่แสนดีซึ่งกำลังนั่งอยู่ “มองอะไรคะพี่

    เคน

    “น้องสาวพี่สั่งงานได้เฉียบขาดมาก หรือพี่อาจจะไม่เคยเห็นแอลทำงานมาก่อน พอมาเห็นแล้วก็เลยรู้สึกแปลกๆไม่ค่อยชินตาเวลาเห็นแอลแบบนี้” ชายหนุ่มกล่าวออกไปจากใจน้องสาวของเขาทั้งบุคลิกการวางตัวก็เปลี่ยนไปมากจนแทบคนละคนเลยทีเดียว

    “แอลเก่งไหมคะ” หญิงสาวอดไม่ได้ว่าทำให้พี่ชายของตนภาคภูมิใจได้บ้างรึเปล่า เพราะไม่ว่าคำชมจากปากใครก็ไม่เทียบเท่าคำชมจากปากของเขาคนเดียว

    “จ๊ะ เก่งมาก” คันธารัตน์พยักหน้ามองสบสายตาหวานซึ่งให้กับเธอโดยไม่รู้ตัว เมื่อคิดไปถึงอาหารเช้าสุดอร่อยรสชาติมันหอมหวานเหมือนจูบครั้งนั้นที่เธอมอบให้เลยทีเดียว

    “เมื่อเช้าขอบใจมากนะ”

    “อร่อยไหมคะ” เมื่อรู้ว่าอาหารของเธอไม่ถูกเมินเฉยก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นรสชาติในเมื่อทำให้เขากินครั้งแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกปากเขารึเปล่า

    “อร่อยมากเลยล่ะ พี่กินซะเกลี้ยงเลย” พี่ชายพยักหน้าพลางเอามือลูบหน้าท้องของตนแถมยังทำหน้าตาอิ่มจนจุกขึ้นมาถึงคอ

    “ดีใจจังที่พี่เคนชอบ” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะขำกับท่าทางของเคน ทั้งหัวเราะทั้งดีใจมีความสุขปะปนกันไปหมดไม่คิดเลยว่าเวลาเดียวกันตนจะมีอารมณ์ได้มากมายขนาดนี้คงมีเขาคนเดียวที่ทำให้เธอแบบนี้ได้

    “แล้วลุคล่ะ หายไปไหนแล้วปกติต้องมาด้วยกัน” ชายหนุ่มสังเกตเห็นน้องสาวตั้งหน้าตั้งตาสั่งงานอยู่คนเดียวก็มองหาชายอีกคนที่มักจะเงาตามตัวเธอ

    “วันนี้ลุคมีประชุมงานคะ เข้าห้องไปตั้งแต่เช้าแล้ว” รสินทราชี้แจงพลางยกข้อมือดูนาฬิกาซึ่งกำลังบอกเวลาเกือบเที่ยงวันแต่ชายหนุ่มคนที่กล่าวถึงยังไม่ออกจากห้องประชุมมาพักบ้างเลยสงสัยจะประชุมติดพันหรือไม่ก็เสิร์ฟอาหารให้กินในห้องประชุม

    “จริงสิ มาที่นี่เพราะเรื่องงานด้วย แล้วแอลไม่ประชุมเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้าจะว่าไปทั้งลูคัสและแอลก็เก่งกันทั้งคู่อายุแค่ยี่สิบกว่าๆสามารถคุมกิจการระดับโลกได้โดยไม่ต้องไปทำงานข้างนอกบ้านเหมือนตนและน้องสาวที่กว่าจะเข้ามาบริหารบริษัทพ่อแม่ได้ตั้งหาประสบการณ์ทำงานนอกบ้านเพิ่มเติมก่อน

    “ไม่หรอกคะ แอลจะสั่งงาน” หญิงสาวส่ายหน้าเพราะการประชุมงานในครั้งนี้ของลูคัสไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิดที่มาด้วยเพราะต้องมาดูงานโรงแรมของตัวเอง ดูแลการต้อนรับแขกต่างชาติซึ่งเหล่าผู้บริหารทั้งนั้นทำให้ต้องใส่ใจพิเศษ

    “งั้น...พี่ว่าพี่ไปหาอะไรทำดีกว่ามาตามแอลทำงาน” เมื่อเห็นน้องสาวออกปากมากว่าจะทำงานชายหนุ่มจึงไม่อยู่ขัดให้เธอต้องกังวลเพราะเข้าใจดีกว่ามาทำงานกันเดี๋ยวว่างๆ ค่อยเจอกันก็ได้

    “ไม่คะ...แอลเสร็จพอดีเลย” รสินทรารีบออกตัวเก็บเอกสารเข้าแฟ้มทำท่าทางเตรียมพร้อมต้อนรับดูแลเขาไม่อยากจะปล่อยให้เหงาและอีกใจโอกาสแบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆที่จะได้อยู่กับเขาตามลำพังถือโอกาสนี้รีบทำคะแนนให้เขาเห็นหัวใจของเธอ

    “เราไปเดินชายหาดกันไหมคะ”

    “ก็ดีนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่มีอะไรทำแล้วก็ดีเหมือนกันเพราะเขามีเรื่องมากมายที่อยากจะพูดคุยกับเธอตั้งแต่จากไปมีหลายอย่างที่อยากจะถามเธอ

    “ขอแอลไปเปลี่ยนชุดก่อน” หญิงสาวยิ้มหวานลุกขึ้นเอาแฟ้มงานไปส่งฝากให้พนักงานต้อนรับเก็บแล้วตัวเองก็รีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดทันที

    ไม่นานร่างสมส่วนก็ลงมาขณะที่คันธารันต์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอยู่ หล่อนก็เดินมากระซิบเรียกหาเขาที่ริมหูทำเอาชายหนุ่มรู้สึกขนกายลุกชันไปทั้งตัวกับน้ำเสียงเย้ายวนใจของเธอ

    “พร้อมแล้วค่ะ” เสียงหวานตั้งใจจะทำให้ชายหนุ่มรู้สึกวาบหวามเมื่อเขาหันกลับมาใบหน้างามก็ยิ้มหวานสบสายตากับเขา

    “สวยทุกเวลาเลยน้องพี่” เขาออกปากมาทันทีเมื่อเห็นร่างบาง ชุดคล้องคอที่เธอสวมอยู่ชุดยาวทั้งตัวผ้าบางเบาพลิ้วไหวไปตามลมสีส้มลายเปลือกหอยดูเหมือนภายในจะสวมด้วยบิกินี่ตัวจิ๋วเหมือนเคยสีดำสนิทตัดกับสีผิดและสีชุดข้างนอกที่เธอใส่

    “ไปกันเถอะคะ” เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นเธอก็คล้องแขนเขาทันทีอย่างไม่อายสายตาของเหล่าพนักงานที่ดูเหมือนกำลังสับสันว่าตกลงแล้วเจ้านายจะคบกับใครกันแน่ตอนมามากับคนหนึ่ง พออีกคนมาถึงก็ฉวยโอกาสตอนที่คนแรกทำงานไปอยู่กับอีกคน แต่บางทีทั้งสามคนก็อยู่ด้วยกันทำให้ไม่รู้ว่าใครตัวจริง

    ชายหาดยามบ่ายวันนี้ดูเหมือนท้องฟ้าจะใจเพราะแสงแดดที่เคยจัดจ้านกลับถูกเมฆหาปกคลุมทำให้ไม่ต้องหวาดหวั่นแสงแดดจะแผดเผาลมทะเลพัดเข้าฝั่งคล้ายลมฝนที่ตกจากพื้นที่ห่างไกลทำให้ลมเย็นเหมาะกับการเดินชายหาดจะหาบรรยากาศแบบนี้ค่อนข้างยากเพราะปกติประเทศไทยถ้าไม่ฝนตกก็จะร้อนจัด

    ทั้งสองเดินพูดคุยเคียงคู่กันประหนึ่งคู่รัก หญิงสาวเดินคลอเคลียคล้องแขนเขาด้วยความหลงใหลและลืมตัว ชายหนุ่มเองก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เดินเคียงคู่กับหญิงสาวดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าทั้งสองอยู่ในฐานะอะไรกันจากพี่ชายและน้องสาวท่าทางหัวใจของเขาจะพัฒนาไปมากกว่านั้นโดยไม่รู้ตัว

    “วันนี้แอลอยากทำอะไรนอกจากเดินชายหาด” เมื่อเดินเรียบไปตามชายหาดจนเดินกลับมายังโรงแรมของหล่อนก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าชายหนุ่มก็เอ่ยถามอยากจะรู้จุดหมายอื่นของเธอบ้างเพราะตอนนี้หากไม่เข้าไปในโรงแรมจะเดินต่อก็คงต้องเดินกลับไปที่เดิม

    “แอลไม่อยากทำอะไรแล้วคะเพราะสิ่งที่แอลอยากทำแอลกำลังทำอยู่” รสินทรากุมมือชายหนุ่มแน่นหันกลับมาหาเขามองด้วยแววตาหวานเยิ้มเหมือนเคยคล้ายคนกำลังติดสิ่งเสพติดมอมเมาอยู่กับความรักที่ยังไม่เกิดขึ้น

    “ทำอะไร เราก็เดินเล่นกันเฉยๆ” คนยังไม่เข้าใจทำหน้าขำขันอารมณ์ของหญิงสาวพร้อมมองดูรอบๆกายสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือเพิ่มความเมื่อยให้กับขาตัวเอง

    “ได้อยู่กับพี่เคนไงคะคือสิ่งที่แอลอยากจะทำ” หล่อนก้าวเข้าประชิดตัวชายหนุ่มจนเรือนร่างของทั้งคู่แทบจะแนบชิดกันแล้วกล่าวตรงประเด็นตรงใจของตนเอง

    “นี่...ถ้าแอลผู้ชายแล้วพี่ผู้หญิง พี่คงคิดว่าแอลกำลังจีบพี่นะ” ชายหนุ่มใจเต้นแรงรู้สึกร้อนวูบวาบจนต้องยิ้มกึ่งหัวเราะออกมาเพื่อกลบเกลือนความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของตนเอง

    “เหรอคะ” คนมีเชิงทำยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่อยากจะให้เขาไหวตัวทันใจจริงอยากจะหยอดคำหวานจนทำให้เขาหลงรักแล้วบอกรักเธอมากกว่าที่เธอบอกรักเขาก่อน จึงหันไปเปลี่ยนเรื่องพูดพลางเดินจูงมือไปยังเก้าอี้นอนพร้อมนั่งลงด้วยความรู้สึกเมื่อยล้า

    “แอลอยากอาบแดดจัง ผิวแอลซีดไปหมด”

    “พี่ว่าก็...สวยดีออก” ชายหนุ่มมองแผ่นหลังเนียนสวยของหญิงสาวแล้วกลืนน้ำลายลงคอดูเหมือนพักหลังเขาจะมีความรู้สึกวูบวาบเกิดขึ้นบ่อยครั้งเวลาอยู่ใกล้แอล

    “ไม่คะ แอลอยากคล้ำกว่านี้สักหน่อย พี่เคนว่าดีไหมคะ” หญิงสาวมองดู

    แขนของตนเองรู้สึกยังติดตากับภาพลักษณ์ของตนเองที่มีผิวซีดไม่สวยใจจริงอยากมีผิวสีเดียวกับเจนพี่สาวต่างสายเลือดเพราะดูมีสีสันดีกว่าตนเอง

    “แล้วแต่แอลเลยจ๊ะ” คนช่างตามใจไม่ขัดข้องเพราะสำหรับเขาไม่ว่าเธอจะผิวสีอะไรตอนนี้ก็ดูสวยไปหมดโดยไม่รู้เหตุผลตอบหัวใจตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน

    “งั้นทาครีมกันแดดให้แอลหน่อยได้ไหมคะ” เมื่อได้โอกาสหญิงสาวก็หยิบครีมกันแดดที่พกติดตัวมากับกระเป๋าใบเล็กซึ่งชายหนุ่มอาสาถือให้ตั้งแต่ออกจากโรงแรมส่งให้กับชายหนุ่มแล้วค่อยปลดชุดคล้องคอซึ่งดูเหมือนแท้จริงแล้วจะชุดคลุมที่เก๋ไก๋สำหรับเธอ

    “ดะ...ได้สิ” เคนตอบตกลงเหมือนคนต้องมนต์อีกครั้งเมื่อร่างเย้ายวนทอดกายลงที่เก้าอี้นอนชายหนุ่มก็นั่งข้างๆค่อยๆบีบครีมลงไปที่ผิวขาวเนียนแล้วลูบไล้ขึ้นลงแผ่วเบาขณะทำไปภายในใจก็พยายามนับหนึ่งถึงสิบ เมื่อได้สัมผัสผิวเนียนนุ่มของหญิงสาวผู้ชายอย่างเขาหรือจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร

    เมื่อทางแผ่นหลังจนทั่วถึงหญิงสาวก็พลิกกายกลับมาให้ชายหนุ่มทาให้ลำคอแห้งผากต้องกลืนน้ำลายลงไปอีกครั้งกับภาพบาดใจเย้าอารมณ์ กล้าๆกลัวๆที่จะสัมผัสครีมที่เขาบีบลงไปดูเหมือนเจ้าตัวจะพอรู้ว่าเขาคงไม่กล้าลงมือทางให้

    ด้านหน้าหล่อนจึงผู้ลงมือทาเอง

    แต่ทว่า...ภาพที่เธทาตัวเองนั้นมันก็ชวนทำให้อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงไม่แพ้กัน เมื่อยามที่ปลายนิ้วลูบไล้ลงตามเนื้อตัวใจคิดอยากจะคนลูบหรือไม่ก็ปลายนิ้วของเธอก็ยังดี จนกระทั่งทาจนทั่วชายหนุ่มก็อดกลั้นความรู้สึกร้อนผ่าวไว้ไม่ไหวทนอยู่ไม่ได้หาข้ออ้างปลีตัวออกมาจากภาพยั่วยวนชวนปลุกอารมณ์

    “พี่คอแห้งจัง”

    “งั้นเอามาเผื่อแอลด้วยนะคะ” หญิงสาวที่กำลังอยู่สภาพที่สบายกายอย่างที่สุดกล่าวพึมพำพลางหลับตานอนหงายรับแสงแดดอ่อนๆเพื่อปรับสภาพสีผิว

    “ได้จ๊ะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารีบลุกขึ้นไปเดินแข้งขาไร้แรงเพราะกำลังใช้แรงทั้งหมดที่มีไปกับการข่มอารมณ์ที่ทะยานพุ่งสูงขึ้นทุกทีของตนเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×