ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TWIN .... What i can Do !?

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 51


    เสียงพระสงฆ์สวดในงานศพ ยังคงดังเรื่อยๆเข้าไปในหูฉันทุกอณู กลิ่นธูปหอมลอยคละคลุ้งกับอากาศเบื้องบน ทุกคำสวดยังคงดังยาวราวกับเพลงเศร้า ที่ไว้อาลัยให้กับผู้ตาย เป็นครั้งสุดท้าย หากแต่เพลงที่บรรเลงนั้นมันสำหรับพ่อ ของฉัน

     

     

    แม่ยังคงทำใจไม่ได้กับการจากไปกระทันหันของพ่อ ส่วนฉันน่ะหรอ ?  จะบอกไม่เสียใจเลยก็ไม่ได้ แต่คงเป็นเพราะเมื่อวานก่อนพ่อเสียฉันทะเลาะ และแช่งท่านในใจละมั้ง เลยทำให้ ใจฉันมันวาบๆ แล้ว ค่อยกลับมานิ่งแบบเดิม

     

     




    ไม่น่าจากไปเร็วแบบนี้เลย ลูกชายกำลังจะENT แล้วแท้ๆ ลูกสาวก็เตรียมจะสอบเข้าม.ปลาย เฮ้อ น่าจะอยู่แสดงความยินดีกับพวกๆลูกหน่อยก็ยังดีญาติทางฝ่ายพ่อ ที่เป็นผู้หญิงแก่ๆวัยราว 50กว่าๆ จากจังหวัดอยุธยา บอกกล่าวใช้ผ้าเช็ดหน้าลูกไม้สีดำซับบริเวณตา แล้วเบือนหน้าหนีไปอย่างเวทนา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะแสดงออกมาว่าเสียใจ

     


     

    น่าจะอยู่แสดงความยินดี อย่างนั้นหรอ?เหอะ ถ้าอยู่แสดงความยินดีแบบนี้ เป็นฉัน ฉันยอมไปนอนในโรงดีกว่า

     

     



     

    ฉันคิดในใจ ก่อนจะเถียงทุกคำพูดที่แขกมาพูดกรอกใส่หูฉันอยู่ในใจ

     

     

     

    ถึงหน้าตาพี่ฉันจะดี ดูเป็นเด็กเรียน แต่ภายในนั้น กลับเอาแต่หมกตัวเล่นแต่คอมฯ โหลดโปรแกรมบ้าบอ ทุกคืนจนค่าไฟในบ้านฉันต้องเด้งไปเลขหลัก หมื่นทุกเดือน เรียนก็ต้องเรียกผู้ปกครองไปพบทุกครั้ง เพราะเกรดที่ได้แต่ละครั้ง แถบทำเอาคนที่ได้รับสมุดพก ถอนหายใจไปตามกัน

     

     

    ส่วนฉัน ถึงแม้จะไม่โง่เท่าพี่ แต่เรียนก็แถบหัวซุกหัวซุนอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าด้านดนตรีกับศิลปะละก็ คงได้รางวัลไปหลายอันจนนับไม่หมดแล้วล่ะ

     



    อ้อ !! ใช่ว่าพี่ฉันจะห่วยเสมอไป มันเก่งภาษา อยู่ แต่มันดันอยากรียนหมอซะงั้น ทั้งๆที่วิทย์กับเลขมัน แถบจะกินไข่ทุกเทอม

     


     

    ไลส์ ไปเผากระดาษเงินกับกระดาษทองกับพี่ไป ลูก ป้าฉันทัก


     

    คะ ฉันตอบรับรีบลุกขึ้น พี่เลย์ไม่คิดจะเดินเข้าไปในวัด คงเพราะถ้าเดินไปใกล้กว่านี้สักมิลเดียว มีหวังคงร้องไห้ไม่หยุดเหมือนแม่อีกแน่

     



     

    อ่ะ เอากระดาษเผาให้ป๊า ป๊าจะได้อยู่สบายๆ ฉันพูดมองหน้าพี่เลย์ ที่นิ่งเงียบอย่างไร้อารมณ์

     

     



     

    เปลวไฟสีเหลืองทองแผดเผากระดาษจนอุณหภูมิข้างๆ นั่นร้อนไปหมด  ดวงตาสีเทาของฉันจ้องมองลงไปข้างในอย่างว่างเปล่า ถ้าฉันตาย ก็คงต้องถูกเผาแบบนี้ใช่มั้ย? ฉันขอตัวเดินเล่นรอบๆบริเวณวัด เพื่อสูดอากาศหายใจ อย่างน้อยก็ขอพักสมองเรื่องที่ต้อง ไปโรงเรียนแล้วต้องเจอเพื่อนๆถามอย่างเป็นห่วง หน่อยละกัน

     

     

     


     

    ทำไม ไม่เข้าไปในงาน เสียงแหบพร่าถามฉันตามสายลมที่พัดมาอย่างเอื่อยๆ

     


    ใครน่ะ ฉันรีบหันกลับไปมองรอบตัว ไม่มีคนหนิ


     

    ทำไมไม่กลับเข้าไปในงาน!!!!!”

     



     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!”

     

     



    ไลส์ ไลส์เป็นอะไรไปลูก แม่รีบวิ่งมาหาฉันแถบจะทันที ที่ฉันทรุดฮวบลงไปกับพื้น ตะกี๊ ฉันตาไม่ฟาดใช่มั้ย ไม่ฟาดไปใช่มั้ย ตัวฉันสั่นจนแถบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่

     

     



     

    ไม่เป็นอะไรคะ กลับเข้าไปในงานเถอะ ปากที่สั่นระริก พูดแต่ละคำอย่างอยากลำบาก



     

     ระหว่างที่ฉันพยายามฝืนต่ออาการเข่าอ่อนอยู่ ภาพหน้าเด็กผู้หญิงผิวขาวซีด ที่มีเลือดชโลมไปทั่วหน้ายังคงติดตาฉันไปตลอดทางเดิน อย่างไม่ลบเลือน ลูกตาของเธอ แถบจะกระเด็นมาโดนหน้าฉันทันทีที่เธอพุ่งตัวเข้ามา มันสมองสีขาวขุ่นยังคงติดตาฉันอย่างไม่มีวันหาย

     





     

     เสียงที่แหบพร่าราวกับคอที่ไร้เส้นเสียง มันยังคงดัง กังวาล เสียดแทงแก้วหูฉัน จนแถบจะเสียดแทงไปถึงขั้วหายใจของฉันไปด้วย

    ผมสีดำยาว ที่แถบจะกลืนไปกับความมืดในยามรัตติกาล เช่นนี้ มันยิ่งทำให้ฉันใจแถบสั่น ไปอีก

     

     

     






     

    ทำไม เธอต้องมาให้ฉันเห็นด้วย.........

     

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×