ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ท่าเรือแอเมทิตส์*Rewrite*
รุ่งสางของเช้าวันรุ่งขึ้น คารอสตื่นก่อนกลุ่มเพื่อนที่เดินทางร่วมกันมา จึงเริ่มไปเดินปลุกเพื่อนๆที่ห้องพักก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวเดินทาง
แมนทิสที่ตื่นตามมาก็เดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระต่อ คารอสหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมแล้วจึงหยิบดาบมาผูกไว้ข้างเอวส่วนของเสื้อคลุมเดินทางก็จับผาดไว้กับแขน คารอสที่เตรียมตัวเสร็จแล้วก็เดินลงไปที่ห้องอาหารของที่พักโดยมีเจ้าของที่พักอย่างคุณเบล็คนั่งจิบเครื่องดื่มที่มีควันหอมกรุ่นกำจายไปทั่วห้อง
คุณเบล็คที่เห็นคารอสเดินเข้าในห้องอาหาร เขาก็ส่งยิ้มบางๆเป็นการต้อนรับให้คารอสทันทีแล้วเขาก็หันไปบอกสาวใช้ของที่พักซึ่งกำลังเอาเก้าอี้ลงตามโต๊ะให้ไปเอาเตรียมชุดอาหารเช้าให้กับคณะเดินทางของคารอสโดยเฉพาะ คุณเบล็คเรียกกึ่งเชิญคารอสให้มานั่งโต๊ะเดียวกันกับเขาเพื่อรอเพื่อนๆลงมาทานอาหารเช้า
คารอสนั่งลง คุณเบล็คเริ่มบทสนทนาเล็กน้อยกับเขาจนเพื่อนๆของเขาเดินลงมาจากห้องพักผู้มาใหม่ทั้งห้าที่มาถึงพร้อมกับที่อาหารเช้าเสร็จและถูกยกออกมาเสริฟ์พอดี
ผู้มาใหม่ทั้งห้านั่งลงตามจานอาหารเช้า คุณเบล็คจึงแยกตัวออกไปจากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังเดินทางต่อไปหลังทานอาหารเช้าเสร็จสิ้น พวกเขาทั้งหกคนไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลยเพื่อเร่งให้ทานเสร็จเร็วจะได้ออกเดินทางกันให้เร็วกว่ากำหนดเวลาที่วางไว้
พวกเขาออกเดินทาง โดยผ่านตัวหมู่บ้านพักคนเดินทางไปทางหมู่บ้านท่าเรือที่ซึ่งพวกเขาจะต้องต่อเรือข้ามฝั่งไปแอเมทิตส์ เวลายังไม่เลยเทื่ยงพวกเขาก็เดินทางถึงหมู่บ้านท่าเรือทั้งคณะจึงผ่อนฝีเท้าของม้าจากวิ่งมาเป็นเดินหย่องๆแทนพอ
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมงผู้คนที่เดินทางไปแอเมทิสต์ก็ขึ้นมาเต็มเรือรอบแรกแล้วเรือจึงเริ่มออกเดินทางข้ามทะเลไปที่เกาะแอเมทิตส์หรือโรงเรียนนั้นเอง เมื่อเรือออกเดินทางออกจากท่าเรือ
บนเรือก็เต็มไปด้วยนักเรียนของแอเมทิตส์ทั้งเก่าและใหม่ นักเรียนของส่วนใหญ่จะมาพักผ่อนจากการเดินทางที่ติดต่อกันหลายชั่วโมง เมื่อเวลาผ่านไปถึงสิบชั่วโมงจากฝั่งที่เกาะใหญ่ก็เริ่มเห็นเกาะแอเมทิตส์ชัดมากขึ้น ณ ตอนนั้นก็เป็นเวลาของเช้าวันใหม่แล้ว
คารอสที่ตื่นตั้งแต่รุ่งสางจนเป็นนิสัยตื่นขึ้นมาทันตอนที่ทางเรือเริ่มประกาศว่าจะถึงตัวเกาะแอเมทิตส์ในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี่ เมื่อได้ยินเช่นนั้นคารอสก็เริ่มเดินไปปลุกเพื่อนของเขาทันที
คารอสที่ตื่นแล้วก็เริ่มจับของส่วนตัวที่หยิบออกมาระหว่างอยู่บนเรือแล้วมือเขาจับเข้ากับดาบยาวที่อยู่ในฟักหนังสีดำ เขาหยิบดาบขึ้นมาลูบครั้งสองครั้งแล้ววางไว้ข้างตัวอย่างเบามือเป็นที่สุด
เรือลำยักษ์จอดเทียบท่าเรือตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างลงตัว เมื่อลงเรือแล้วเด็กปีหนึ่งที่สามารถแยกออกได้ง่ายๆก็ถูกต้อนไปร่วมกันที่ด้านหนึ่งของลานกว้างของท่าเรือ แทบทุกคนยังสะลึมสะลือกันอยู่บนหลังม้า คนที่ตื่นแบบเต็มตัวแล้วก็พากันประคองเพื่อนของตนไม่ให้ตกหลังม้าระหว่างที่ถูกต้อนไปรวมกันที่อีกด้านของลานกว้าง คณะของคารอสที่อยู่หลังสุดเพราะลงจากเรือเป็นกลุ่มนั้นก็ไหลไปตามฝูงชน
พวกเขาไปรวมกลุ่มกับนักเรียนที่ลงจากเรือเป็นกลุ่มแรกๆ คารอสที่พยายามหาที่ว่างให้พวกเขาได้ยืนรอกำหนดการต่อไปก็กวาดตามองไปในกลุ่มคนที่ยืนร่วมกันอยู่ก็เห็นหน้าคนที่เขารู้จัก เขาไม่รอช้าบังคับทิศทางให้ม้าตรงไปหาหน้าคนคุ้นตาที่รอบๆไม่มีใครอยู่ใกล้เลย
เมื่อเพื่อนๆของคารอสเห็นเขากระตุ้กม้าไปทางโซนด้านหน้าเล็กน้อย พวกเขาไม่แย้งอะไรเพราะไม่อยากให้สองสาวที่หลับกันอยู่บนหลังตื่นจึงได้แต่บังคับม้าให้เดินเงียบๆตามคารอสไป
กันเรย์ที่เดินทางมาเส้นทางเดียวกันกับคารอสนั้นมีสภาพไม่ต่างจากนักเรียนใหม่เท่าไร เขานั่งอยู่บนหลังม้าสีดำน้ำตาลกำลังอ่านจดหมายอธิบายเรื่องหน้าที่ใหม่ของเขาเนื้อความที่ว่าโดยสรุปแล้ว องค์ราชาบอกเขาว่าพระองค์ได้จัดการเรื่องที่พักและรายละเอียดเกื่ยวกับเรื่องที่เขาต้องทำไว้ให้แล้วในจดหมาย พระองค์บอกว่าได้เขาจะได้สอนวิชาการต่อสู้ภาคสนนามและวิชาอาวุธศาสตร์
"เ่อ่อ........ขอบคุณขอรับ..."
"เอาเถอะ เดี้ยวก็รู้เองว่าทำไม"
"ครับ"
แล้วคารอสก็เงียบไป นักเรียนปีหนึ่งที่ลงจากเรือรอบที่สองเริ่มทยอยมาที่จุดรวมตัวมากขึ้นจากที่คารอสและเพื่อนๆอยู่หน้าสุดกลายเป็นว่าอยู่แทบจะหลังสุดเลย เมื่อเวลาผ่านไปคารอสก็จมอยู่กับความคิดของตนเองหนักขึ้นพยายามหาความหมายของคำพูดของกันเรย์ที่ทำให้เขากระวัลใจอย่างบอกไม่ถูก
ที่หน้ากลุ่มนักเรียนปีหนึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ๆก็มีดินยกขึ้นมาสูงจนกลายเป็นเนินสูงแต่ราบแบนเสมือนเป็นเวทียกสูงขึ้นมา และเสียงที่ตอนแรกดังแบบควบคุมไม่ได้ก็เงียบลงฉับพลันเมื่อมีชายวัยกลางคนก้าวขึ้นมาบนเวทีนั่น
"ยินดีต้อนรับนักเรียนปีหนึ่ง น้องใหม่ของเรา ขั้นตอนการเข้ารายงานตัวง่ายมากพวกเธอแค่ยื่นจดหมายที่ได้รับในช่วงก่อนเปิดเทอมนั้นมายื่นแล้วพวกเธอคงเลือกวิชาที่ตัวเองอยากเรียนมาแล้วใช่ไหม เมื่อมารายงานตัวพวกเธอต้องแจ้งว่าเรียนวิชาอะไรเป็นเอก เพื่อสะดวกกับการเดินทางไปที่หอของแต่ละสายนั้นๆ แล้วอีกเรื่องนักเรียนทุนหลวง คารอส เดฟีโด อยู่ที่ไหนกรุณาออกมาที่หน้าแถวด้วย"
ฟึบ!
"คารอสนี่นายเป็นนักเรียนทุนหลวงหรอเนื่ย"
แมนทิสที่ตื่นตามมาก็เดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระต่อ คารอสหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมแล้วจึงหยิบดาบมาผูกไว้ข้างเอวส่วนของเสื้อคลุมเดินทางก็จับผาดไว้กับแขน คารอสที่เตรียมตัวเสร็จแล้วก็เดินลงไปที่ห้องอาหารของที่พักโดยมีเจ้าของที่พักอย่างคุณเบล็คนั่งจิบเครื่องดื่มที่มีควันหอมกรุ่นกำจายไปทั่วห้อง
คุณเบล็คที่เห็นคารอสเดินเข้าในห้องอาหาร เขาก็ส่งยิ้มบางๆเป็นการต้อนรับให้คารอสทันทีแล้วเขาก็หันไปบอกสาวใช้ของที่พักซึ่งกำลังเอาเก้าอี้ลงตามโต๊ะให้ไปเอาเตรียมชุดอาหารเช้าให้กับคณะเดินทางของคารอสโดยเฉพาะ คุณเบล็คเรียกกึ่งเชิญคารอสให้มานั่งโต๊ะเดียวกันกับเขาเพื่อรอเพื่อนๆลงมาทานอาหารเช้า
คารอสนั่งลง คุณเบล็คเริ่มบทสนทนาเล็กน้อยกับเขาจนเพื่อนๆของเขาเดินลงมาจากห้องพักผู้มาใหม่ทั้งห้าที่มาถึงพร้อมกับที่อาหารเช้าเสร็จและถูกยกออกมาเสริฟ์พอดี
ผู้มาใหม่ทั้งห้านั่งลงตามจานอาหารเช้า คุณเบล็คจึงแยกตัวออกไปจากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังเดินทางต่อไปหลังทานอาหารเช้าเสร็จสิ้น พวกเขาทั้งหกคนไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลยเพื่อเร่งให้ทานเสร็จเร็วจะได้ออกเดินทางกันให้เร็วกว่ากำหนดเวลาที่วางไว้
พวกเขาออกเดินทาง โดยผ่านตัวหมู่บ้านพักคนเดินทางไปทางหมู่บ้านท่าเรือที่ซึ่งพวกเขาจะต้องต่อเรือข้ามฝั่งไปแอเมทิตส์ เวลายังไม่เลยเทื่ยงพวกเขาก็เดินทางถึงหมู่บ้านท่าเรือทั้งคณะจึงผ่อนฝีเท้าของม้าจากวิ่งมาเป็นเดินหย่องๆแทนพอ
พวกเขามาถึงหาดซึ่งมีท่าเรือใหญ่สำหรับข้ามไปที่เกาะและตัวโรงเรียนแอเมทิตส์ได้ความดีใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขาก่อนจะทันได้เอ่ยอะไรออกมาเสียงท้องร้องของทุกคนก็ดังขึ้นมาพร้อมกันสร้างเสียงหัวเราะออกมาได้เล็กน้อยจึงตัดสินใจหาที่นั่งพักทานอาหาร
คารอสบอกกับเพื่อนๆของระหว่างการทานอาหารว่าเรือจะออกตอนเวลาทุ่มตรงกับสองทุ่มตรงเท่านั้นเรือรับส่งจะมีสองรอบดังนั้นจะมีเวลาเหลืออีกประมาณหลายชั่วโมงแต่บนเรือรับส่งจะมีห้องให้และพวกเราสามารถขึ้นไปนอนพักผ่อนบนเรือได้แต่ต้องขึ้นเรือเร็วกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว
พอคารอสพูดจบโรสเสนอให้รีบขึ้นเรือโดยมีดาเรียนเป็นเสียงที่สองทำให้ชายหนุ่มอีกสามคนต้องตกลงขึ้นเรือเร็วกว่าคนอื่นเช่นกัน
พอเวลาห้าโมงเย็นมาถึงก็เริ่มมีผู้คนมากมายมาที่ชายหาด คารอสจ้องมองนาฬิกาพกที่พกติดตัวมาตลอดแล้วก็มีเสียงประกาศจากทางท่าเรือส่งสัญาญาญให้เริ่มขึ้นเรือได้แล้ว
เมื่อฝูงชนที่แออัดยัดเยียดกันอยู่ที่ชายหาดได้ยินเสียงประกาศที่ท่าเรือก็เริ่มทยอยเก็บข้าวของแล้วเตรียมขึ้นเรือ คารอสและเพื่อนๆของเขาที่เตรียมของรออยู่แล้วก็เดินขึ้นเรือไปเป็นพวกแรกจึงได้ที่พักระหว่างการข้ามฝั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือที่วิวสวยที่สุดในเรือทำให้สองสาวในคณะเดินทางร่าเริงพอสมควร
คารอสบอกกับเพื่อนๆของระหว่างการทานอาหารว่าเรือจะออกตอนเวลาทุ่มตรงกับสองทุ่มตรงเท่านั้นเรือรับส่งจะมีสองรอบดังนั้นจะมีเวลาเหลืออีกประมาณหลายชั่วโมงแต่บนเรือรับส่งจะมีห้องให้และพวกเราสามารถขึ้นไปนอนพักผ่อนบนเรือได้แต่ต้องขึ้นเรือเร็วกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว
พอคารอสพูดจบโรสเสนอให้รีบขึ้นเรือโดยมีดาเรียนเป็นเสียงที่สองทำให้ชายหนุ่มอีกสามคนต้องตกลงขึ้นเรือเร็วกว่าคนอื่นเช่นกัน
พอเวลาห้าโมงเย็นมาถึงก็เริ่มมีผู้คนมากมายมาที่ชายหาด คารอสจ้องมองนาฬิกาพกที่พกติดตัวมาตลอดแล้วก็มีเสียงประกาศจากทางท่าเรือส่งสัญาญาญให้เริ่มขึ้นเรือได้แล้ว
เมื่อฝูงชนที่แออัดยัดเยียดกันอยู่ที่ชายหาดได้ยินเสียงประกาศที่ท่าเรือก็เริ่มทยอยเก็บข้าวของแล้วเตรียมขึ้นเรือ คารอสและเพื่อนๆของเขาที่เตรียมของรออยู่แล้วก็เดินขึ้นเรือไปเป็นพวกแรกจึงได้ที่พักระหว่างการข้ามฝั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือที่วิวสวยที่สุดในเรือทำให้สองสาวในคณะเดินทางร่าเริงพอสมควร
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมงผู้คนที่เดินทางไปแอเมทิสต์ก็ขึ้นมาเต็มเรือรอบแรกแล้วเรือจึงเริ่มออกเดินทางข้ามทะเลไปที่เกาะแอเมทิตส์หรือโรงเรียนนั้นเอง เมื่อเรือออกเดินทางออกจากท่าเรือ
บนเรือก็เต็มไปด้วยนักเรียนของแอเมทิตส์ทั้งเก่าและใหม่ นักเรียนของส่วนใหญ่จะมาพักผ่อนจากการเดินทางที่ติดต่อกันหลายชั่วโมง เมื่อเวลาผ่านไปถึงสิบชั่วโมงจากฝั่งที่เกาะใหญ่ก็เริ่มเห็นเกาะแอเมทิตส์ชัดมากขึ้น ณ ตอนนั้นก็เป็นเวลาของเช้าวันใหม่แล้ว
คารอสที่ตื่นตั้งแต่รุ่งสางจนเป็นนิสัยตื่นขึ้นมาทันตอนที่ทางเรือเริ่มประกาศว่าจะถึงตัวเกาะแอเมทิตส์ในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี่ เมื่อได้ยินเช่นนั้นคารอสก็เริ่มเดินไปปลุกเพื่อนของเขาทันที
คารอสที่ตื่นแล้วก็เริ่มจับของส่วนตัวที่หยิบออกมาระหว่างอยู่บนเรือแล้วมือเขาจับเข้ากับดาบยาวที่อยู่ในฟักหนังสีดำ เขาหยิบดาบขึ้นมาลูบครั้งสองครั้งแล้ววางไว้ข้างตัวอย่างเบามือเป็นที่สุด
เรือลำยักษ์จอดเทียบท่าเรือตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างลงตัว เมื่อลงเรือแล้วเด็กปีหนึ่งที่สามารถแยกออกได้ง่ายๆก็ถูกต้อนไปร่วมกันที่ด้านหนึ่งของลานกว้างของท่าเรือ แทบทุกคนยังสะลึมสะลือกันอยู่บนหลังม้า คนที่ตื่นแบบเต็มตัวแล้วก็พากันประคองเพื่อนของตนไม่ให้ตกหลังม้าระหว่างที่ถูกต้อนไปรวมกันที่อีกด้านของลานกว้าง คณะของคารอสที่อยู่หลังสุดเพราะลงจากเรือเป็นกลุ่มนั้นก็ไหลไปตามฝูงชน
พวกเขาไปรวมกลุ่มกับนักเรียนที่ลงจากเรือเป็นกลุ่มแรกๆ คารอสที่พยายามหาที่ว่างให้พวกเขาได้ยืนรอกำหนดการต่อไปก็กวาดตามองไปในกลุ่มคนที่ยืนร่วมกันอยู่ก็เห็นหน้าคนที่เขารู้จัก เขาไม่รอช้าบังคับทิศทางให้ม้าตรงไปหาหน้าคนคุ้นตาที่รอบๆไม่มีใครอยู่ใกล้เลย
เมื่อเพื่อนๆของคารอสเห็นเขากระตุ้กม้าไปทางโซนด้านหน้าเล็กน้อย พวกเขาไม่แย้งอะไรเพราะไม่อยากให้สองสาวที่หลับกันอยู่บนหลังตื่นจึงได้แต่บังคับม้าให้เดินเงียบๆตามคารอสไป
กันเรย์ที่เดินทางมาเส้นทางเดียวกันกับคารอสนั้นมีสภาพไม่ต่างจากนักเรียนใหม่เท่าไร เขานั่งอยู่บนหลังม้าสีดำน้ำตาลกำลังอ่านจดหมายอธิบายเรื่องหน้าที่ใหม่ของเขาเนื้อความที่ว่าโดยสรุปแล้ว องค์ราชาบอกเขาว่าพระองค์ได้จัดการเรื่องที่พักและรายละเอียดเกื่ยวกับเรื่องที่เขาต้องทำไว้ให้แล้วในจดหมาย พระองค์บอกว่าได้เขาจะได้สอนวิชาการต่อสู้ภาคสนนามและวิชาอาวุธศาสตร์
หน้าที่หลักๆที่เขาได้รับมอบหมายนั้นก็คือคอยรายงานความเป็นอยู่ของเจ้าหนูคารอสหรือเจ้าชายคาเทียรอสพระโอรสพระองค์เดียวขององค์ราชาแล้วในจดหมายที่เขาได้รับมายังบอกอีกว่าเขาถูกจัดให้เป็นอาจารย์เป็นประจำหอที่เจ้าชายอยู่อีกซะด้วย
กันเรย์เงยหน้าขึ้นมาจากจดหมายหลังจากรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ก็ต้องตกใจจนเกือบตกจากหลังม้าเพราะเจ้าหนุ่มที่เขาต้องคอยดูแลอยู่เงียบไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัวอยู่ๆก็มาอยู่หน้าเขาแล้ว
คารอสที่เห็นท่าทางตกใจของกันเรย์ก็ตกใจพอๆกันเพราะกันเรย์เกือบตกจากหลังม้า ท่าทางเหมือนคนเห็นผีก็ไม่ปาน
"เจ้าหนูคารอส"
"ใช่ขอรับ ข้าเองคารอส แล้วท่านกันเรย์มาทำอะไรที่นี่?" ทั้งนี้คารอสได้มาทราบชื่อของผู้ที่มาทดสอบฝีมือของเขาจากท่านพ่อในเช้าวันถัดมา
"ฉันได้รับหน้าที่ใหม่ให้มาเป็นอาจารย์ของแอเมทิตส์"
"แสดงว่าพวกผมคงได้พบอาจารย์กันเรย์ ในชั้นเรียน"
กันเรย์เงยหน้าขึ้นมาจากจดหมายหลังจากรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ก็ต้องตกใจจนเกือบตกจากหลังม้าเพราะเจ้าหนุ่มที่เขาต้องคอยดูแลอยู่เงียบไม่ให้เจ้าตัวรู้ตัวอยู่ๆก็มาอยู่หน้าเขาแล้ว
คารอสที่เห็นท่าทางตกใจของกันเรย์ก็ตกใจพอๆกันเพราะกันเรย์เกือบตกจากหลังม้า ท่าทางเหมือนคนเห็นผีก็ไม่ปาน
"เจ้าหนูคารอส"
"ใช่ขอรับ ข้าเองคารอส แล้วท่านกันเรย์มาทำอะไรที่นี่?" ทั้งนี้คารอสได้มาทราบชื่อของผู้ที่มาทดสอบฝีมือของเขาจากท่านพ่อในเช้าวันถัดมา
"ฉันได้รับหน้าที่ใหม่ให้มาเป็นอาจารย์ของแอเมทิตส์"
"แสดงว่าพวกผมคงได้พบอาจารย์กันเรย์ ในชั้นเรียน"
กันเรย์หัวเราะเล็กน้อยเมื่อคารอสก้มหัวคารวะอย่างตลกขบขัน ทำให้กันเรย์เห็นว่าด้านหลังไปหน่อยของคารอสมีกลุ่มเด็กนักเรียนที่มองเพียงครั้งก็รู้ว่าน่าจะเดินทางมาพร้อมกัน
"แล้วนี่... ใครกัน?"
"เพื่อนจากหมู่บ้านเดียวกันขอรับ ท่านอาจารย์"
"อย่าเพิ่งเรียกฉันว่าอาจารย์ก็ได้"
"ขอรับ ว่าแต่..."
"คารอส ท่านผู้นี่เป็นใครกันเหรอ"
อเล็กที่ตอนนี้ตัวไม่ได้ผิดชอบประคองสองสาวของคณะเดินทางก็ถามขึ้นมาหลังจากที่นั่งบนหลังม้าดูบทสนทนาของทั้งสองมานาน
"ท่านผู้นี่เป็นเพื่อนเก่าของท่านพ่อน่ะ และก็เป็นอาจารย์พวกเราด้วย"
"สวัสดีครับ"
"เช่นกัน"
พอสาวๆตื่นที่เหลือก็ทะยอยมาแนะนำตัวกับกันเรย์ทีละคนเรียงจาก พอได้แนะนำตัวกันครบหมดเรียบร้อยสองสาวที่เพิ่งตื่นก็เร่งจัดแต่งทรงผมของตนเองทันทีโดยมีมอร์ไนต์และแมนทิสคอยช่วยเหลือแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก ก่อนจะมีเสียงประกาศที่ดังขึ้นมาแบบไม่ตั้งตัวทำให้ม้าที่รวมตัวกันมีความแตกตื่นเกิดทันทีทำให้แต่ละคนต้องปลอบขวัญม้าที่ใช้เป็นพาหนะของตัวให้สงบก่อนจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ
'ตอนนี้เรือขนส่งรอบที่สองมาถึงแล้ว นักเรียนปีสองขึ้นไปจนถึงปีเจ็ดกรุณาไปรายงานตัวทันทีที่มาถึง ส่วนปีหนึ่งที่มาถึงแล้วและเพิ่งมาถึงกรุณารออยู่ที่จุดรวมตัวแล้วทางโรงเรียนจะไปแจ้งขั้นตอนต่อไปให้ขอบคุณ'
"ได้เวลาซะที เธอจะกลายเป็นคนดังในชั่วพริบตา" กันเรย์กระซิบกับคารอสด้วยเสียงที่มีแต่คารอสคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ยิน
คารอสหันไปมองกันเรย์ที่ยิ้มด้วยนัยต์เจ้าเล่ห์ส่งมา เขาไม่ได้ถามกันเรย์ว่าหมายความว่าอย่างไรแต่เป็นประโยคที่ทำให้เขาเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
"หมายความว่าไง คนดังในชั่วพริบตา คงไม่ใช่เพราะทุนจากองค์ราชาหรอกนะ" คารอสเอ่ยเสียงราวกับกระซิบ
"ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะคอยช่วย"
"แล้วนี่... ใครกัน?"
"เพื่อนจากหมู่บ้านเดียวกันขอรับ ท่านอาจารย์"
"อย่าเพิ่งเรียกฉันว่าอาจารย์ก็ได้"
"ขอรับ ว่าแต่..."
"คารอส ท่านผู้นี่เป็นใครกันเหรอ"
อเล็กที่ตอนนี้ตัวไม่ได้ผิดชอบประคองสองสาวของคณะเดินทางก็ถามขึ้นมาหลังจากที่นั่งบนหลังม้าดูบทสนทนาของทั้งสองมานาน
"ท่านผู้นี่เป็นเพื่อนเก่าของท่านพ่อน่ะ และก็เป็นอาจารย์พวกเราด้วย"
"สวัสดีครับ"
"เช่นกัน"
พอสาวๆตื่นที่เหลือก็ทะยอยมาแนะนำตัวกับกันเรย์ทีละคนเรียงจาก พอได้แนะนำตัวกันครบหมดเรียบร้อยสองสาวที่เพิ่งตื่นก็เร่งจัดแต่งทรงผมของตนเองทันทีโดยมีมอร์ไนต์และแมนทิสคอยช่วยเหลือแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก ก่อนจะมีเสียงประกาศที่ดังขึ้นมาแบบไม่ตั้งตัวทำให้ม้าที่รวมตัวกันมีความแตกตื่นเกิดทันทีทำให้แต่ละคนต้องปลอบขวัญม้าที่ใช้เป็นพาหนะของตัวให้สงบก่อนจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ
'ตอนนี้เรือขนส่งรอบที่สองมาถึงแล้ว นักเรียนปีสองขึ้นไปจนถึงปีเจ็ดกรุณาไปรายงานตัวทันทีที่มาถึง ส่วนปีหนึ่งที่มาถึงแล้วและเพิ่งมาถึงกรุณารออยู่ที่จุดรวมตัวแล้วทางโรงเรียนจะไปแจ้งขั้นตอนต่อไปให้ขอบคุณ'
"ได้เวลาซะที เธอจะกลายเป็นคนดังในชั่วพริบตา" กันเรย์กระซิบกับคารอสด้วยเสียงที่มีแต่คารอสคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ยิน
คารอสหันไปมองกันเรย์ที่ยิ้มด้วยนัยต์เจ้าเล่ห์ส่งมา เขาไม่ได้ถามกันเรย์ว่าหมายความว่าอย่างไรแต่เป็นประโยคที่ทำให้เขาเสียวสันหลังขึ้นมาทันที
"หมายความว่าไง คนดังในชั่วพริบตา คงไม่ใช่เพราะทุนจากองค์ราชาหรอกนะ" คารอสเอ่ยเสียงราวกับกระซิบ
"ไม่ต้องคิดมาก ฉันจะคอยช่วย"
"เ่อ่อ........ขอบคุณขอรับ..."
"เอาเถอะ เดี้ยวก็รู้เองว่าทำไม"
"ครับ"
แล้วคารอสก็เงียบไป นักเรียนปีหนึ่งที่ลงจากเรือรอบที่สองเริ่มทยอยมาที่จุดรวมตัวมากขึ้นจากที่คารอสและเพื่อนๆอยู่หน้าสุดกลายเป็นว่าอยู่แทบจะหลังสุดเลย เมื่อเวลาผ่านไปคารอสก็จมอยู่กับความคิดของตนเองหนักขึ้นพยายามหาความหมายของคำพูดของกันเรย์ที่ทำให้เขากระวัลใจอย่างบอกไม่ถูก
ที่หน้ากลุ่มนักเรียนปีหนึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ๆก็มีดินยกขึ้นมาสูงจนกลายเป็นเนินสูงแต่ราบแบนเสมือนเป็นเวทียกสูงขึ้นมา และเสียงที่ตอนแรกดังแบบควบคุมไม่ได้ก็เงียบลงฉับพลันเมื่อมีชายวัยกลางคนก้าวขึ้นมาบนเวทีนั่น
"ยินดีต้อนรับนักเรียนปีหนึ่ง น้องใหม่ของเรา ขั้นตอนการเข้ารายงานตัวง่ายมากพวกเธอแค่ยื่นจดหมายที่ได้รับในช่วงก่อนเปิดเทอมนั้นมายื่นแล้วพวกเธอคงเลือกวิชาที่ตัวเองอยากเรียนมาแล้วใช่ไหม เมื่อมารายงานตัวพวกเธอต้องแจ้งว่าเรียนวิชาอะไรเป็นเอก เพื่อสะดวกกับการเดินทางไปที่หอของแต่ละสายนั้นๆ แล้วอีกเรื่องนักเรียนทุนหลวง คารอส เดฟีโด อยู่ที่ไหนกรุณาออกมาที่หน้าแถวด้วย"
ฟึบ!
"คารอสนี่นายเป็นนักเรียนทุนหลวงหรอเนื่ย"
เพื่อนๆของคารอสหันมามองหน้าคารอสที่อยู่หลังพวกเขาทันทีเพราะ คารอสไม่เคยบอกพวกเขาเรื่องทุนหลวงนี้ คารอสตัวแข็งอยู่บนหลังม้าแล้วเรียบร้อยจึงไม่สามารถตอบคำถามของเพื่อนได้แต่กลายเป็นเขาที่ได้คำตอบของคำถามที่มีอยู่ในใจก่อนหน้านี้แทน
'เป็นไปได้ไงไหนเขาบอกว่าทุนหลวงปีหนึ่งยังไม่ได้ไงจะมีแต่ปีสองถึงปีเจ็ดไง'
'ไหนๆ อยากเห็นหน้า'
"เอ้า เค้าเรียกแล้วรีบออกไปเถอะ พวกเธอรออยู่นี้ล่ะ เดียวฉันพาคารอสออกไปหน้าแถวเอง"
"ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ผมคงขอปฏิเสธองค์ราชาไปแล้ว"
"เอาน่า เอาน่า ข้าก็ไปเป็นเพื่อนแล้วไง"
"ขอบคุณขอรับ"
กันเรย์ตบไหล่คารอสเบาๆเพื่อเรียกสติของคารอสคืน ก่อนจะพาคารอสออกไปหน้าแถวทั้งหมดของปีหนึ่ง พอคารอสเดินผ่านคนรอบข้างก็เริ่มหันมามองคารอสทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชื่นชม และอิจฉา
กันเรย์กับคารอสออกไปถึงหน้าแถวพร้อมกัน ตาทุกคู่ก็เริ่มจ้องมองไปที่คารอสมากยิ่งขึ้น
คารอสลงจากม้าแล้วก็เดินขึ้นไปบนเวทีพื้นยกสูงที่เมื่อกี้เขายังอยู่ไกลลิบ แต่ว่าตอนนี้เขากำลังเดินขึ้นไปยืนเพื่ออะไรนั้น เขาเองก็ยังไม่รู้แต่ด้วยเพราะมีกันเรย์เป็นคนดันเขาขึ้นมายืนบนเวที
"อ้า~~~ เธอคือนักเรียนทุนสินะ แล้วนั้นท่านกันเรย์ใช่ไหม?"
"ใช่ขอรับท่านอาจารย์ใหญ่"
"คณะอาจารย์กำลังท่านอยู่เลย"
"ได้โปรดอย่าเรียกว่าท่านเลยครับ ท่านเป็นอาจารย์ของผมนะครับ"
"แหม สมกับเป็นนายจริงๆเลย อยู่ที่โรงเรียนเจ็ดปีจบออกไปไม่รู้กี่ปีแล้วก็ยังเหมือนเดิม"
"อาจารย์ท่านช่วยดูแลข้ามานาน ข้าเองก็อยากตอบแทนบ้าง"
"งั้นปีนี้ก็ฝากดูแลนักเรียนของฉันด้วยแล้วกัน"
"ได้ครับท่านอาจารย์ใหญ่"
'เป็นไปได้ไงไหนเขาบอกว่าทุนหลวงปีหนึ่งยังไม่ได้ไงจะมีแต่ปีสองถึงปีเจ็ดไง'
'ไหนๆ อยากเห็นหน้า'
"เอ้า เค้าเรียกแล้วรีบออกไปเถอะ พวกเธอรออยู่นี้ล่ะ เดียวฉันพาคารอสออกไปหน้าแถวเอง"
"ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ผมคงขอปฏิเสธองค์ราชาไปแล้ว"
"เอาน่า เอาน่า ข้าก็ไปเป็นเพื่อนแล้วไง"
"ขอบคุณขอรับ"
กันเรย์ตบไหล่คารอสเบาๆเพื่อเรียกสติของคารอสคืน ก่อนจะพาคารอสออกไปหน้าแถวทั้งหมดของปีหนึ่ง พอคารอสเดินผ่านคนรอบข้างก็เริ่มหันมามองคารอสทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชื่นชม และอิจฉา
กันเรย์กับคารอสออกไปถึงหน้าแถวพร้อมกัน ตาทุกคู่ก็เริ่มจ้องมองไปที่คารอสมากยิ่งขึ้น
คารอสลงจากม้าแล้วก็เดินขึ้นไปบนเวทีพื้นยกสูงที่เมื่อกี้เขายังอยู่ไกลลิบ แต่ว่าตอนนี้เขากำลังเดินขึ้นไปยืนเพื่ออะไรนั้น เขาเองก็ยังไม่รู้แต่ด้วยเพราะมีกันเรย์เป็นคนดันเขาขึ้นมายืนบนเวที
"อ้า~~~ เธอคือนักเรียนทุนสินะ แล้วนั้นท่านกันเรย์ใช่ไหม?"
"ใช่ขอรับท่านอาจารย์ใหญ่"
"คณะอาจารย์กำลังท่านอยู่เลย"
"ได้โปรดอย่าเรียกว่าท่านเลยครับ ท่านเป็นอาจารย์ของผมนะครับ"
"แหม สมกับเป็นนายจริงๆเลย อยู่ที่โรงเรียนเจ็ดปีจบออกไปไม่รู้กี่ปีแล้วก็ยังเหมือนเดิม"
"อาจารย์ท่านช่วยดูแลข้ามานาน ข้าเองก็อยากตอบแทนบ้าง"
"งั้นปีนี้ก็ฝากดูแลนักเรียนของฉันด้วยแล้วกัน"
"ได้ครับท่านอาจารย์ใหญ่"
กันเรย์ทำความเคารพชายสูงวัยแล้วยื่นมือมาตบไหล่คารอสออกแนวไปข้างหน้า เมื่อคารอสมาอยู่หน้าชายสูงวัยแล้วจึงทำความเคารพชายสูงวัยทันที
"และนี่คือ คารอส เดฟีโด นักเรียนทุนหลวงปีหนึ่งของเรา เขาคนนี้ได้รับเลือกโดยตรงจากองค์ราชาและพระมเหสีทั้งสองพระองค์ ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยในฝีมือ ดังนั้นพวกเธอสามารถแย่งชิงทุนไปจากเขาได้เช่นกัน ตามธรรมเนียมปฏิบัติของเรา แยกย้ายไปลงทะเบียนกันได้แล้ว"
"และนี่คือ คารอส เดฟีโด นักเรียนทุนหลวงปีหนึ่งของเรา เขาคนนี้ได้รับเลือกโดยตรงจากองค์ราชาและพระมเหสีทั้งสองพระองค์ ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยในฝีมือ ดังนั้นพวกเธอสามารถแย่งชิงทุนไปจากเขาได้เช่นกัน ตามธรรมเนียมปฏิบัติของเรา แยกย้ายไปลงทะเบียนกันได้แล้ว"
ชายวัยกลางคนที่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นชายหนุ่มวัยกลางคนและยังเป็นทั้งท่านอาจารย์ใหญ่เมื่อมองใกล้ก็จะทราบได้ทันทีว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเพียงใด ท่านอาจารย์ใหญ่ดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวก็มีเต็นท์ผ้าโผล่ขึ้นมาโดยรอบลานกว้างสำหรับลงทะเบียนให้นักเรียนใหม่ทันที
"เจ้าหนุ่มลงสายอะไรไว้ล่ะ"
"ผมลงสายเวทย์มนต์เพื่อการต่อสู้และการปกครองขอรับ"
"ลงสายเดียวกับท่านพ่อสินะ"
"ใช่ขอรับ"
"ข้าเป็นคนพ่อสอนพ่อของเจ้ามากับมือ น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่ได้ลงไปสอนด้วยตัวเองแล้ว"
"ถ้างั้นท่านก็คือ ท่านอาจารย์เปโตรผู้สอนวิชาการปกครอง"
"ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้เป็นอาจารย์ใหญ่เปโตรแทน ตอนนี้เธอลงไปหาเพื่อนเธอได้แล้วพวกเขามานั่นแล้วอย่าลืมไปลงทะเบียนล่ะถึงเป็นนักเรียนทุนหลวงก็ต้องลงทะเบียน ฉันไปล่ะ"
"ขอรับอาจารย์"
"ท่านอาจารย์ผมต้องรายงานตัวเข้ารับตำแหน่ง"
"มาสิกันเรย์ นานๆทีจะมีศิษย์เก่ามาเยื่ยมและกลับมาทำงาน ไปคุยกันหน่อยก็ดี"
"แล้วเจอกันที่ชั้นเรียนนะคารอส"
"ขอรับอาจารย์ใหญ่ อาจารย์กันเรย์"
"อืม"
คารอสกล่าวคำลากับผู้ใหญ่ทั้งสองที่เดินลงจากเวทีก่อนเขาแล้วเขาค่อยตามลงมาสมทบกับเพื่อนๆของเขาที่ยืนรอกันอยู่ข้างทางลงเวที โรสส่งมารีนให้คารอสขึ้นขี่บนหลัง
"เจ้าหนุ่มลงสายอะไรไว้ล่ะ"
"ผมลงสายเวทย์มนต์เพื่อการต่อสู้และการปกครองขอรับ"
"ลงสายเดียวกับท่านพ่อสินะ"
"ใช่ขอรับ"
"ข้าเป็นคนพ่อสอนพ่อของเจ้ามากับมือ น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่ได้ลงไปสอนด้วยตัวเองแล้ว"
"ถ้างั้นท่านก็คือ ท่านอาจารย์เปโตรผู้สอนวิชาการปกครอง"
"ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้เป็นอาจารย์ใหญ่เปโตรแทน ตอนนี้เธอลงไปหาเพื่อนเธอได้แล้วพวกเขามานั่นแล้วอย่าลืมไปลงทะเบียนล่ะถึงเป็นนักเรียนทุนหลวงก็ต้องลงทะเบียน ฉันไปล่ะ"
"ขอรับอาจารย์"
"ท่านอาจารย์ผมต้องรายงานตัวเข้ารับตำแหน่ง"
"มาสิกันเรย์ นานๆทีจะมีศิษย์เก่ามาเยื่ยมและกลับมาทำงาน ไปคุยกันหน่อยก็ดี"
"แล้วเจอกันที่ชั้นเรียนนะคารอส"
"ขอรับอาจารย์ใหญ่ อาจารย์กันเรย์"
"อืม"
คารอสกล่าวคำลากับผู้ใหญ่ทั้งสองที่เดินลงจากเวทีก่อนเขาแล้วเขาค่อยตามลงมาสมทบกับเพื่อนๆของเขาที่ยืนรอกันอยู่ข้างทางลงเวที โรสส่งมารีนให้คารอสขึ้นขี่บนหลัง
ไม่มีใครพูดอะไรกันทำให้บรรยายกาศในกลุ่มเงียบไปนักเรียนปีหนึ่งหลายคนก็ไม่ได้สนใจคารอสแล้วเพราะส่วนมากตอนนี้หันเข้าไปลงทะเบียนตามจุดของสายแล้ว โรสที่ทนความเงียบไม่ไว้เอ่ยทำลายความเงียบที่น่ารำคาญลง
"คารอสยินดีด้วยนะ"
"ยินดีด้วยนะคารอส"
"ขอบคุณโรส ขอบคุณดาเรียน"
"คารอสทำไมแกไม่บอกพวกเราว่ะ พวกเราจะได้จัดงานเลี้ยงกันจริงไหม?? อเล็ก แมนทิส โรส ดาเรียน"
"ขอโทษที่ไม่ได้บอกกันก่อน เห็นพวกเราตื่นเต้นและต้องเตรียมตัวเรื่องเปิดเรียนเลยไม่ได้บอกใคร"
"ทำเป็นพูดไป!"
"แมนทิสเธอเป็นอะไร?"
"เป็นอะไรไปว่ะ"
"อเล็ก มอร์ไนต์ เงียบไปก่อน พวกเธอด้วยอย่าเพิ่งแทรก ทำไมไม่คิดดูล่ะถ้ามันเห็นพวกเราเป็นเพื่อนจริงมันคงบอกพวกเราแล้ว เรื่องได้ทุนก็คงให้พ่อจัดการให้ ท่านอาโรนเป็นถึงช่างไม้หลวงแถมยังเคยเป็นทหารเก่า"
"แมนทิส! เธอพูดอะไรออกมา คารอสก็ขอโทษพวกเรา"
"ดาเรียนเธอเงียบไปก่อน หรือไม่จริงล่ะวันๆเก็บตัวอยู่บ้านไม่เห็นจะได้ฝึกฝีมือตรงไหน แต่ฉันลงเรียนทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นนักเรียนทุนหลวงตอนปีสอง แต่นายกลับได้มันไปก่อน.... ฉันจะแย่งทุนมาจากนายให้ได้คอยดู"
"แมนทิส นายบ้าไปแล้วเหรอไง?"
"เฮ้ย คารอสแกจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ"
"คารอสยินดีด้วยนะ"
"ยินดีด้วยนะคารอส"
"ขอบคุณโรส ขอบคุณดาเรียน"
"คารอสทำไมแกไม่บอกพวกเราว่ะ พวกเราจะได้จัดงานเลี้ยงกันจริงไหม?? อเล็ก แมนทิส โรส ดาเรียน"
"ขอโทษที่ไม่ได้บอกกันก่อน เห็นพวกเราตื่นเต้นและต้องเตรียมตัวเรื่องเปิดเรียนเลยไม่ได้บอกใคร"
"ทำเป็นพูดไป!"
"แมนทิสเธอเป็นอะไร?"
"เป็นอะไรไปว่ะ"
"อเล็ก มอร์ไนต์ เงียบไปก่อน พวกเธอด้วยอย่าเพิ่งแทรก ทำไมไม่คิดดูล่ะถ้ามันเห็นพวกเราเป็นเพื่อนจริงมันคงบอกพวกเราแล้ว เรื่องได้ทุนก็คงให้พ่อจัดการให้ ท่านอาโรนเป็นถึงช่างไม้หลวงแถมยังเคยเป็นทหารเก่า"
"แมนทิส! เธอพูดอะไรออกมา คารอสก็ขอโทษพวกเรา"
"ดาเรียนเธอเงียบไปก่อน หรือไม่จริงล่ะวันๆเก็บตัวอยู่บ้านไม่เห็นจะได้ฝึกฝีมือตรงไหน แต่ฉันลงเรียนทุกอย่างเพื่อจะได้เป็นนักเรียนทุนหลวงตอนปีสอง แต่นายกลับได้มันไปก่อน.... ฉันจะแย่งทุนมาจากนายให้ได้คอยดู"
"แมนทิส นายบ้าไปแล้วเหรอไง?"
"เฮ้ย คารอสแกจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ"
มอร์ไนต์หันมาพูดกับคารอสที่กำลังยืนนิ่งไม่พูดหรือเอ่ยอะไรเลย โรสที่เห็นว่าเหตุการณ์นี้จะเริ่มเลวร้ายขึ้นถ้าคารอสยังเงียบต่อไปจึงเอื้อมมือไปเขย่ามือคารอส แต่แมนทิสเห็นท่าทางของโรสที่ถึงเนื้อถึงตัวคารอสจึงโมโหมากขึ้นและเริ่มคุมตัวเองไม่ได้
"คารอสนายเลิกให้โรสปกป้องนายได้แล้ว"
"แมนทิสนายต้องการอะไรกันแน่บอกมา"
"นายจะรู้ไปทำไม คารอส?"
"ขอร้องล่ะแมนทิสเธอหยุดว่าคารอสได้ไหม"
"โรสนี่เธอปกป้องมัน....ได้"
"แมนทิส!แมนทิส!"
แมนทิสไม่สนใจเสียงที่เรียกเขาเลยแม้สักเสียงเดียวตัวเขาควบม้าห่างออกไปจากกลุ่มทันที ตัวเขาไม่เคยชอบคารอสเลยตั้งแต่จำความได้ คนที่ดูอ่อนแอ ทำตัวใสซื่อ เห็นผู้หญิงแล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าต้องอย่างไรดี แม้แต่โรสเพื่อนสมัยเด็กของเขาอีกคนคนที่เขาแอบชอบมานานก็ถูกคารอสแย่งไป
ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้คารอสมาแย่งอะไรไปจากเขาอีกแล้วในความคิดของเขา ไม่ยอมเด็ดขาดที่ต้องเสียความต้องการของตนเองอีกครั้ง
"แมนทิสนายต้องการอะไรกันแน่บอกมา"
"นายจะรู้ไปทำไม คารอส?"
"ขอร้องล่ะแมนทิสเธอหยุดว่าคารอสได้ไหม"
"โรสนี่เธอปกป้องมัน....ได้"
"แมนทิส!แมนทิส!"
แมนทิสไม่สนใจเสียงที่เรียกเขาเลยแม้สักเสียงเดียวตัวเขาควบม้าห่างออกไปจากกลุ่มทันที ตัวเขาไม่เคยชอบคารอสเลยตั้งแต่จำความได้ คนที่ดูอ่อนแอ ทำตัวใสซื่อ เห็นผู้หญิงแล้วแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าต้องอย่างไรดี แม้แต่โรสเพื่อนสมัยเด็กของเขาอีกคนคนที่เขาแอบชอบมานานก็ถูกคารอสแย่งไป
ชายหนุ่มจะไม่ยอมให้คารอสมาแย่งอะไรไปจากเขาอีกแล้วในความคิดของเขา ไม่ยอมเด็ดขาดที่ต้องเสียความต้องการของตนเองอีกครั้ง
"แล้วเราจะได้เห็นดีกัน"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น