ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายแห่งคาร์เนเลียน

    ลำดับตอนที่ #4 : ครบสิบเจ็ด*Rewrite*

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      14
      14 พ.ค. 63

    "ลูกขอตัวไปพักก่อนนะครับท่านพ่อ"

              คารอสก็เดินแบบคนไร้วิญญาณตั้งแต่ลงจากหลังม้าเดินเข้าบ้านและขึ้นห้องนอน      พลังงานทั้งหมดถูกดูดไประหว่างการต่อสู้ทั้งหมดที่เผชิญมาในวันนี้          เขารู้สึกปวดระบมตรงบริเวณที่โดนกระบองกระแทกมากที่สุด     เขานวดคลึงตลอดเวลาที่เดินทางกลับบ้านทำให้ไม่อาจควบม้าให้มีความเร็วอย่างที่ต้องการได้กว่าจะถึงบ้านก็ล่าช้าออกไปมาก

              คารอสผลักประตูห้องนอนของตนออกเบาๆตามกำลังที่มีเหลืออยู่ในร่างกาย      คารอสลากสังขารของตนเองเข้ามาในห้องไม่แม้แต่จะเปลื่อนเสื้อผ้าหรือทำภารกิจที่ควรทำคารอส     สิ่งเดียวที่เขาต้องการมากที่สุดคือเตียงโครงไม้ที่มีเบาะนิ่มนอนสบายพร้อมผ้าห่ม      เขาทิ้งตัวลงกับที่นอนแล้วเมื่อหัวเขาเตะหมอนสิ่งเดียวที่เขาจำได้คือเพดานของห้องนอนของตัวเอง

            กว่าคารอสจะตื่นก็เกือบเที่ยงตรงของวันถัดไปแล้ว  คารอสลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงไปหาท่านพ่อที่นั่งอยู่ที่ห้องอาหารกำลังทานมื้อเทื่ยงของวัน โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บสีข้างที่โดนตีมาเมื่อวานอีกแล้ว

           เมื่ออาโรนเห็นลูกชายของตนเดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมเสียงท้องร้องที่ดังลั่นบ้านเขาก็ส่งชามข้าวต้มใส่นมและผลไม้หั่นชิ้นให้ลูกชายพร้อมชาร้อนๆ และก็เริ่มบทสนทนาทันทีเมื่อเจ้าตัวนั่งลงและมือเริ่มขยับตักข้าวเข้าปากไม่หยุด

    "เมื่อเช้านี้ทางราชวังส่งเงินที่เป็นทุนหลวงมาให้แล้ว  วันนี้บ่ายๆพวกเราจะได้ออกไปซื้อของที่ต้องใช้กันเลย"

    "แล้วรายการของที่ต้องซื้อ?"

    "แกฟังที่พ่อพูดอย่างเดียวก็พอกินข้าวเข้าไปก่อนไม่ต้องพูดอะไร   พ่อไม่อยากเป็นข่าวนินทาว่าทำให้ลูกตายระหว่างกินข้าว"

              คารอสผงักหน้าเบาๆตอบรับแล้วหันมาสนใจกับชามข้าวของตนเองอีกรอบ ปล่อยให้ท่านพ่อพูดต่อไป

    "ทางโรงเรียนเขาส่งจดหมายมาบอกว่าพวกหนังสือให้ไปซื้อที่หมู่บ้านเดินทางที่ต้องนักเรียนที่ผ่านตอนเดินทางส่วนอุปกรณ์อื่นๆ     ก็มีถุงมือผงเกล็ดมังกรสำหรับวิชาฝึกสัตว์วิเศษหรืออะไรที่มีคุณสมบัติใกล้เคือง      กล่องไม้ขนาดกลางอันนี้ไม่ได้บอกว่าใช้ทำอะไรแต่อันนี้เดียวพ่อทำให้  ดาบหรืออาวุธที่นักเรียนถนัดมากที่สุด      ไม่อนุญาติให้ปีหนึ่งมีสัตว์เลี้ยงนอกจากจะเรียนสายเวทย์และการต่อสู้เท่านั้น(ยกเว้นม้าสำหรับเดินทางและคารอส เดฟีโดนักเรียนทุนหลวง)    มีดสั้นประจำตัวหนึ่งเล่ม สมุดมนตราหนึ่งเล่มแบบใดก็ได้  เครื่องแบบมาตรฐานของโรงเรียนจำนวนสี่ตัว วิชาต่อสู้กับสัตว์วิเศษหนึ่งตัว เสื้อลำลองเท่าไรก็ได้ตามที่นักเรียนหอบไว้ ให้เตรียมวัตถุแห่งการจารึกมาหนึ่งชนิดอะไรก็ได้     รายการหมดแค่นี้"

    "ครับ"

    "แต่เดี้ยวนะ  มีส่วนท้ายอีกหน่อย     สำหรับลูกโดยเฉพาะเครื่องมือทำแผลขนาดพกพามาด้วย จบแล้ว"

      แค่ก! แค่ก! แค่ก!  คารอสที่ยังคงก้มหน้าทานข้าวและดื่มชาอยู่ตอนที่พ่อของเขาอ่านรายการของที่ต้องใช้จนถึงวัตถุแห่งการจารึกแต่ว่าเมื่อถึงเครื่องมือทำแผลนี่สิที่ทำให้เขาสำลักน้ำชาที่กำลังจะยกขึ้นดื่ม  

    "ท่านพ่อคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"

    "พ่อไม่ได้ล้อเล่น  ลูกดูเอาเองก็ได้ นี่รายการของที่ต้องใช้"

              ว่าแล้วอาโรนก็ส่งม้วนรายการของที่ต้องเตรียมให้ลูกชาย     คารอสรับม้วนกระดาษนั้นมาคลี่ออกเขาไล่สายตาลงมาอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่น่าสงสัยของม้วนกระดาษมองได้สักเป็บก็ถอนหายใจ      ม้วนเก็บแล้วส่งม้วนกระดาษคืนให้ท่านพ่อ      คว้าชามกับถ้วยชาไว้ในมือแล้วเอาไปวางที่อ่างล้างจานแล้วกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง

    "ถ้ากินเสร็จก็ไปกันได้แล้ว  รีบซื้อซะตั้งแต่อาทิตย์นี้เผื่อเวลาสำหรับสั่งตัดเสื้อ      พ่อได้ยินมาพวกเด็กในหมู่บ้านที่จะไปเรียนแอเมทิตส์ก็ซื้อกันอาทิตย์นี้กันทั้งนั้น"

    "ครับท่านพ่อ"

              คารอสเดินตามท่านพ่อของตนออกจากห้องครัว      ท่านพ่อของเขาแวะเข้าไปหยิบถุงเงินที่อยู่ในห้องทำงานออกมาถือแล้วใส่เข้ากระเป๋ากางเกงของตน  แถมหันมายิงมุมที่เขาขำไม่ออก

    "เก็บเงินไว้กับข้าปลอดภัยกว่า  ถ้าไว้กับลูกเดียวพวกสาวๆจะฉกไปหมด"

    "ลูกไม่ขำกับท่านพ่อหรอกนะ"

    "พ่อล้อเล่นไปกันเถอะ"            เมื่ออาโรนเห็นลูกชายทำหน้าเบื่อโลกจากมุมของตนก็เดินมาตบไหล่ลูกชายเบาๆแล้วเดินออกจากบ้านซึ่งเจ้าตัวก็เดินตามมาติดๆ

            สาวๆที่อยู่หน้าบ้านเมื่อเห็นท่านอาโรนเดินนำออกมาก่อนก็พยายามชะเง้อมองหาเขา   ท่านพ่อหันมาไล่สายตามองพวกเธอด้วยสายตาเฉียบคมก็ทำให้พวกเธอแตกพ่ายหายไปจากหน้าบ้านทันที

              คารอสมองพ่อของตนเองอย่างชื่นชมแค่มองเฉยๆก็ทำให้การชุมนุนขนาดย่อมๆหายจากหน้าบ้านไปทันที       แต่กระนั้นท่านพ่อที่อยู่ตรงหน้าก็ได้สอนไว้อย่างดีว่าห้ามทำร้ายผู้หญิงหรือเพศแม่  ยกเว้นผู้หญิงคนนั้นหมายจะเอาชีวิตของเขา  ในสนามต่อสู้หรือต้องต่อสู้กับผู้หญิงก็ห้ามทำร้ายจนอันตรายถึงชีวิต สิ่งนี้เป็นคำสอนแรกๆที่จำเขาได้ขึ้นใจ  เขาจึงไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรเมื่อออกมาเจอกับกลุ่มคนที่ชอบเขาเป็นพิเศษ

              ท่านพ่อของเขาก้าวเท้าต่อทันทีที่สลายการชุมนุมที่หน้าบ้านได้       ท่านพ่อพาเขาไปที่ร้านเสื้อผ้าซึ่งเป็นร้านที่คารอสเข้าใช้บริการบ่อยๆเพราะโรสมักลากเขาตามมาที่ร้านเวลาเธอจะมาซื้อเสื้อผ้าจนเขาและเจ้าของร้านสนิทกันไปแล้วช่วงเวลานี้ของปีคารอสจำได้ว่าเจ้าของร้านมักจะยุ่งมากที่สุดเพราะต้องตัดชุดสำเร็จรูปไว้หลายร้อยชุดและหลายขนาดเพราะในคาร์เนเลียนมีอยู่แค่สองร้านเท่านั้นที่ได้รับอนุญาติจากโรงเรียนแอเมทิตส์      ร้านหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านหน้าวัง ส่วนอีกร้านก็อยู่ที่นี่  

              เขาไม่กล้าถามว่าทำไมต้องสั่งตัดใหม่ด้วยเพราะเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้วก็ตั้งโชว์อยู่ที่หน้าร้านพร้อมขาย     แต่ว่าท่านพ่อบอกว่าต้องสั่งตัดใหม่เพราะว่าเขาครบสิบเจ็ดแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วตามธรรมเนียมของหมู่บ้าน

              ท่านพ่อของเขาเดินเข้าร้านไปทักทายเจ้าของร้านแจ้งจุดประสงค์ที่มาและเจ้าของร้านก็ทักทายกลับอย่างสุภาพเมื่อเห็นคารอสเดินเข้ามาในร้านเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปทักทายเขาอย่างสนิทสนมทันที

    "เป็นไงมั้งคารอสหมู่นี้ฉันไม่ค่อยเห็นเธอเลย"

    "สวัสดีครับพี่ ช่วงนี้ผมไม่ว่างช่วยท่านพ่อทำงานไม้ต่อโต๊ะต่อเก้าอี้"

    "ท่านอาโรน  ท่านทรมานลูกหรอ?"

    "บ้า  ฉันรักลูกชายฉันจะตายไปเธอไม่ต้องห่วง แรนม่า"

    "คารอสไม่ได้โดนท่านพ่อแกล้งใช่ไหม?"

    "ไม่ได้โดนแกล้งครับ ถ้าท่านพ่อแกล้ง ผมจะมาบอกแรนม่าคนแรกเลยดีไหม?"

    "ดี แล้วฉันจะช่วยเธอเอง  ว่าแต่ท่านอาโรนมาด้วยวันนี้คงจะแยากเจอหน้าฉันใช่ไหมล่ะ?"

    "ฉันพาคารอสมาตัดชุดเครื่องแบบแอเมทิตส์ ไม่ได้มีเหตุอื่นๆ"

    "คารอสเข้าเรียนที่แอเมทิตส์ด้วย?!"

    "อืม  เธอว่างตัดทำชุดใหม่ให้ไหม? โอกาสพิเศษทั้งที"

    "ว่างอยู่แล้ว  คารอสเป็นน้องชายฉันทำให้น้องชายได้อยู่แล้วอีกอย่างคารอสจะเข้าเรียนที่แอเมทิตส์เชียวนะ  มานี่มาคารอสไปวัดตัวสำหรับตัดชุดกันใหม่ดีกว่า"

              แรนม่า เจ้าของร้านเสื้อผ้าสาววัยยี่สิบปลายว่าอย่างร่าเริง      ร่างผอมบางตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ สวมแว่นตาเวลาทำงานตัดผ้าที่ข้อมือมีหมอนปักเข็ม ที่คอก็ห้อยสายวัด ผมสีดำถูกมัดรวบขึ้นเป็นมวยมีปอยผมหลุดออกมาเล็กน้อย นัยย์ตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งปากบางได้รูป ใบหน้ากลมมน เป็นที่ต้องตาของหนุ่มมากมายในหมู่บ้านแต่เธอก็ไม่สนใจใครเลย   โดยใช้ข้ออ้างไปต่างๆว่าตนงานเยอะและงานล้นมือตลอดปี

              แต่คารอสรู้ว่าคนที่เดินเข้าร้านมาพร้อมเขานั้นเป็นคนแรนม่าแอบชื่นชมมาเป็นแรมปีแล้วแต่ก็เขินอายเกินกว่าจะพูดออกมาตรงๆเลยเฝ้ามองอยู่ห่างๆตลอด  คารอสจะหว่านล้อมยังไงก็ไม่ยอม  ส่วนอีกด้านที่แรนม่าไม่รู้ก็คือชายคนนั้นก็แอบมีใจให้เหมือนกันแต่ก็ปากแข็งเสียจนคารอสหมดปัญญาจะช่วย
       
              คารอสมองทั้งสองคนสลับไปมาเบื่อกับความปากแข็งของทั้งคู่เลยปล่อยไปและคอยกั้นพวกคนที่คิดจะมาจีบแรนม่าออกไปแทน
       
              แรนม่าพาคารอสไปวัดตัวหลังผ้าม่านเมื่อเสร็จแล้วแรนม่าก็เปิดม่านพาคารอสออกมา   คารอสเดินไปสมทบกับท่านพ่อที่นั่งรออยู่     ส่วนแรนม่าก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์จดบันทึกอะไรเล็กน้อยพร้อมเอ่ยอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมาถามคารอสที่นั่งมองแรนม่า

    "จะเอาแบบมาตรฐานกี่ตัว?"           แรนม่าเงยหน้าจากสมุดได้นิดนึงก็ก้มลงไปใหม่รอจดคำตอบจากคารอส

    "มาตรฐานสี่ พิเศษหนึ่งครับแรนม่า"

    "โอเค  ทั้งหมดห้าตัว  ค่าใช้ทั้งหมดก็สองพันอาร์ม  มารับได้เย็นวันศุกร์นะ"

    "ท่านพ่อจ่ายเงินสิครับ"       คารอสหันไปกระเซ้าท่านพ่อของตน      อาโรนที่นั่งทำท่าเบื่อๆก็ควักเงินออกจากกระเป๋าสองพันอาร์มเดินไปส่งให้ที่เคาน์เตอร์

    "สองพันอาร์มเลยเนื่ยมันไม่แพงไปหน่อยหรอ แรนม่า"

    "ก็ถ้าท่านซื้อแบบสำเร็จที่ตัดและเย็บแล้วเรียบร้อยก็จะถูกกว่าห้าร้อยอาร์มคงพอเข้าใจนะท่านอาโรน"

    "โอเค  ฉันเข้าใจก็ได้แล้วได้ของทั้งหมดเย็นวันศุกร์สินะ"

    "ใช่"

    "คารอสไปซื้อของกันต่อได้แล้ว"

    "ครับท่านพ่อ  ผมไปนะแรนม่า"

    "จ้ะคารอส"

            คารอสพุ่งตัวตามท่านพ่อออกนอกร้านเสื้อผ้าไปที่ร้านอุปกรณ์การเดินทางสำหรับผู้เดินทาง  อาโรนเข้าไปในร้านซื้อหมวกเดินทางและเสื้อคลุมเดินทางที่เข้าชุดกันให้คารอสแล้วความแปลกใจก็เพิ่มมากขึ้น

              เมื่อพ่อของเขาเลือกเสื้อคลุมแบบที่ป้องกันพลังเวทย์ได้และมีหินวิเศษที่ถ้าเสื้อคลุมจะขาดซะอีกครั้งแต่ว่าถ้าหินยังติดอยู่เสื้อคลุมก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม หมวกก็เหมือนกันสีดำเข้มแลดูตัวนั้นหนักทว่าตัวผืนผ้านั้นเบาราวขนนก      ส่วนราคาก็แพงจนน่ากลัวในความคิดของคารอสซึ่งดูเหมือนท่านพ่อจะไม่สะทกสะท้านบอกแค่ว่าไม่ใช่เงินของเขาใช้ไปเถอะ  แม้เขาจะค้านแล้วว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดที่ต้องของแพงขนาดนี้

              เขาและท่านพ่อออกมาที่ถนนอีกครั้งหลังจากได้เสื้อคลุม หมวก ถุงมือเดินทางแล้วท่านพ่อก็พาไปซื้อถุงมือผงเกล็ดมังกรที่ร้านอุปกรณ์เพื่อสัตว์วิเศษ

      เมื่ออกมาจากร้านอุปกรณ์เพื่อสัตว์วิเศษแล้วอาโรนก็พาคารอสไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชื่อดังประจำหมู่บ้านเมื่อทานเสร็จก็กลับบ้านกันที  เพียงแค่ถึงบ้านตรวจสิ่งของที่ซื้อมากับรายการของทั้งหมด

    "ท่านพ่อยังมีของอีกนะที่ยังไม่ได้ซื้อ"

    "มีอะไรมั้ง"

    "กล่องไม้"

    "เดียวพ่อทำให้"

    "อาวุธที่ถนัดที่สุดกับมีดสั้น"

    "ไม่ต้องห่วง ฉันมีให้"

    "วัตถุแห่งการจารึกกับสมุดมนตรา"

    "มีให้ทั้งสองอย่าง"

    "งั้นก็ครบสินะ  ท่านพ่อมีชิ้นงานอะไรให้ผมช่วยทำไหม?"

    "ไม่มี"

    "ถ้างั้นผมขึ้นไปบนห้องเลยนะครับ ราตรีสวัสครับ"

              ช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วคารอสไปรับเสื้อที่สั่งตัดของตนในเวลาเย็นของวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่เหลือคารอสก็เริ่มเตรียมของที่จะติดไปด้วยทันที  แล้วก็เหลืออีกเพียงอาทิตย์เดียวเขาก็ครบสิบเจ็ดและก็ใกล้เปิดเรียนแล้ว  อาทิตย์สุดท้ายที่ลาเรียนั้นคึกคักมากซึ่งเป็นช่วงก่อนจะเดินทางในวันศุกร์ที่เป็นวันเกิดของคารอสพอดี

            ในอาทิตย์นั้นคารอสออกจากบ้านไปพบโรสและเพื่อนในหมู่บ้านที่จะไปเรียนที่แอเมทิตส์เหมือนกันที่ร้านอาหารของหมู่บ้านพร้อมนัดแนะการเดินทางว่าจะเดินทางไปพร้อมกันและจะออกเดินทางตอนเวลากี่โมง  

              คารอสใช้เวลาสี่วันให้ประโยช์นมากที่สุดโดยการคอยเฝ้าทำงานไม้ให้ได้มากที่สุดในช่วงเช้าและก่อนไปนอกบ้านช่วงเย็น       เขาตกลงกับท่านพ่อว่าจะเอามารีนม้าตัวโปรดติดตัวไปด้วย

              ในคืนสุดท้ายก่อนออกเดินทางท่านพ่อของเขาถือกล่องใบใหญ่เดินลงมาที่โต๊ะอาหารในห้องครัวขัดการทานซุปหมูของคารอส

    "คารอสของสี่อย่างที่ลูกยังไม่ได้อยู่นี่"           ว่าแล้วอาโรนก็ดันกล่องไม้ขนาดใหญ่มาให้คารอสที่ยกถ้วยซุปหลบแทบไม่ทัน       คารอสเปิดกล่องไม้ก็พบของสี่อย่างอยู่ในนั้น  กล่องไม้ขนาดกลางที่มีผ้าห่อไว้ มีดสั้นพร้อมฟักไม้ที่ลงลายสลักอย่างสวยงามแต่แข็งแกร่งซึ่งลงเหมือนด้ามของมีดสั้น       สมุดมนตราที่มีปกเป็นไม้และมีลายไม้เลื้อยเต็มสมุด  และอันสุดท้ายก็คือแหวนสองวงที่เกื่ยวกันไว้แล้วสายสร้อยคล้องติดที่แต่ละด้านของแต่ละวงของแหวน แต่ที่ขาดไปคืออาวุธ

    "ท่านพ่อ แล้วอาวุธที่ท่านพ่อบอกว่าจะให้ล่ะครับ"

    "รอพรุ่งนี้  หยิบของออกจากกล่องได้แล้วเอาไปจัดใส่กระเป๋าซะไป  พรุ่งนี้พวกเธอจะออกเดินทางกันกี่โมง"

    "รุ่งสางครับท่านพ่อ"

    "พ่อเข้าใจแล้ว  ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เดินทางเช้า"

    "ครับ"     คารอสหยิบของทั้งสี่อย่างออกมาจากกล่องไม้ขนาดมหึมาแล้วเอามาไว้ในวงแขนยาวของตนแล้วเดินขึ้นห้องนอนทันที 

              คารอสแอบคิดในใจว่าปีนี้วันเกิดของเขาเป็นปีที่แปลกที่สุดตั้งแต่เขาจำความได้  ทั้งได้รู้ว่าองค์ราชาเป็นเพื่อนเก่าของท่านพ่อ  ทุนการศึกษาจากองค์ราชา  เข้าเรียนที่แอเมทิตส์โรงเรียนที่เขาใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้เข้าเรียน ของขวัญวันเกิดมากมายที่เขาแทบจะไม่คาดฝันมาก่อน 

              เขารู้ว่านักเรียนใหม่ของแอเมทิตส์จะต้องใช้อะไรบ้าง      แต่เขาไม่คิดว่าตนเองจะได้ใช้ของพวกนี้เร็วเขานึกว่าจะได้อยู่ช่วยงานที่บ้าน     ณ     ช่วงหนึ่งเขาจึงเลิกหวังไปนานแล้วที่จะไปเรียนที่แอเมทิตส์เพราะเป็นห่วงท่านพ่อที่ต้องอยู่คนเดียว

    "เฮ้อ!"     อาโรนถอนหายใจออกมาเมื่อลูกชายเดินขึ้นไปแล้ว  คว้ายาสูบขึ้นมาสูบเพื่อใช้ความคิด

    "เราหยุดเวลาไม่ได้จริงๆสินะ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×