ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ครบสิบเจ็ด*Rewrite*
"ลูกขอตัวไปพักก่อนนะครับท่านพ่อ"
คารอสผลักประตูห้องนอนของตนออกเบาๆตามกำลังที่มีเหลืออยู่ในร่างกาย คารอสลากสังขารของตนเองเข้ามาในห้องไม่แม้แต่จะเปลื่อนเสื้อผ้าหรือทำภารกิจที่ควรทำคารอส สิ่งเดียวที่เขาต้องการมากที่สุดคือเตียงโครงไม้ที่มีเบาะนิ่มนอนสบายพร้อมผ้าห่ม เขาทิ้งตัวลงกับที่นอนแล้วเมื่อหัวเขาเตะหมอนสิ่งเดียวที่เขาจำได้คือเพดานของห้องนอนของตัวเอง
กว่าคารอสจะตื่นก็เกือบเที่ยงตรงของวันถัดไปแล้ว คารอสลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงไปหาท่านพ่อที่นั่งอยู่ที่ห้องอาหารกำลังทานมื้อเทื่ยงของวัน โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บสีข้างที่โดนตีมาเมื่อวานอีกแล้ว
เมื่ออาโรนเห็นลูกชายของตนเดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมเสียงท้องร้องที่ดังลั่นบ้านเขาก็ส่งชามข้าวต้มใส่นมและผลไม้หั่นชิ้นให้ลูกชายพร้อมชาร้อนๆ และก็เริ่มบทสนทนาทันทีเมื่อเจ้าตัวนั่งลงและมือเริ่มขยับตักข้าวเข้าปากไม่หยุด
"เมื่อเช้านี้ทางราชวังส่งเงินที่เป็นทุนหลวงมาให้แล้ว วันนี้บ่ายๆพวกเราจะได้ออกไปซื้อของที่ต้องใช้กันเลย"
"แล้วรายการของที่ต้องซื้อ?"
"แกฟังที่พ่อพูดอย่างเดียวก็พอกินข้าวเข้าไปก่อนไม่ต้องพูดอะไร พ่อไม่อยากเป็นข่าวนินทาว่าทำให้ลูกตายระหว่างกินข้าว"
คารอสผงักหน้าเบาๆตอบรับแล้วหันมาสนใจกับชามข้าวของตนเองอีกรอบ ปล่อยให้ท่านพ่อพูดต่อไป
"ทางโรงเรียนเขาส่งจดหมายมาบอกว่าพวกหนังสือให้ไปซื้อที่หมู่บ้านเดินทางที่ต้องนักเรียนที่ผ่านตอนเดินทางส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็มีถุงมือผงเกล็ดมังกรสำหรับวิชาฝึกสัตว์วิเศษหรืออะไรที่มีคุณสมบัติใกล้เคือง กล่องไม้ขนาดกลางอันนี้ไม่ได้บอกว่าใช้ทำอะไรแต่อันนี้เดียวพ่อทำให้ ดาบหรืออาวุธที่นักเรียนถนัดมากที่สุด ไม่อนุญาติให้ปีหนึ่งมีสัตว์เลี้ยงนอกจากจะเรียนสายเวทย์และการต่อสู้เท่านั้น(ยกเว้นม้าสำหรับเดินทางและคารอส เดฟีโดนักเรียนทุนหลวง) มีดสั้นประจำตัวหนึ่งเล่ม สมุดมนตราหนึ่งเล่มแบบใดก็ได้ เครื่องแบบมาตรฐานของโรงเรียนจำนวนสี่ตัว วิชาต่อสู้กับสัตว์วิเศษหนึ่งตัว เสื้อลำลองเท่าไรก็ได้ตามที่นักเรียนหอบไว้ ให้เตรียมวัตถุแห่งการจารึกมาหนึ่งชนิดอะไรก็ได้ รายการหมดแค่นี้"
"ครับ"
"แต่เดี้ยวนะ มีส่วนท้ายอีกหน่อย สำหรับลูกโดยเฉพาะเครื่องมือทำแผลขนาดพกพามาด้วย จบแล้ว"
แค่ก! แค่ก! แค่ก! คารอสที่ยังคงก้มหน้าทานข้าวและดื่มชาอยู่ตอนที่พ่อของเขาอ่านรายการของที่ต้องใช้จนถึงวัตถุแห่งการจารึกแต่ว่าเมื่อถึงเครื่องมือทำแผลนี่สิที่ทำให้เขาสำลักน้ำชาที่กำลังจะยกขึ้นดื่ม
แค่ก! แค่ก! แค่ก! คารอสที่ยังคงก้มหน้าทานข้าวและดื่มชาอยู่ตอนที่พ่อของเขาอ่านรายการของที่ต้องใช้จนถึงวัตถุแห่งการจารึกแต่ว่าเมื่อถึงเครื่องมือทำแผลนี่สิที่ทำให้เขาสำลักน้ำชาที่กำลังจะยกขึ้นดื่ม
"ท่านพ่อคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"
"พ่อไม่ได้ล้อเล่น ลูกดูเอาเองก็ได้ นี่รายการของที่ต้องใช้"
ว่าแล้วอาโรนก็ส่งม้วนรายการของที่ต้องเตรียมให้ลูกชาย คารอสรับม้วนกระดาษนั้นมาคลี่ออกเขาไล่สายตาลงมาอย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่น่าสงสัยของม้วนกระดาษมองได้สักเป็บก็ถอนหายใจ ม้วนเก็บแล้วส่งม้วนกระดาษคืนให้ท่านพ่อ คว้าชามกับถ้วยชาไว้ในมือแล้วเอาไปวางที่อ่างล้างจานแล้วกลับมานั่งที่เดิมอีกครั้ง
"ถ้ากินเสร็จก็ไปกันได้แล้ว รีบซื้อซะตั้งแต่อาทิตย์นี้เผื่อเวลาสำหรับสั่งตัดเสื้อ พ่อได้ยินมาพวกเด็กในหมู่บ้านที่จะไปเรียนแอเมทิตส์ก็ซื้อกันอาทิตย์นี้กันทั้งนั้น"
"ครับท่านพ่อ"
"ถ้ากินเสร็จก็ไปกันได้แล้ว รีบซื้อซะตั้งแต่อาทิตย์นี้เผื่อเวลาสำหรับสั่งตัดเสื้อ พ่อได้ยินมาพวกเด็กในหมู่บ้านที่จะไปเรียนแอเมทิตส์ก็ซื้อกันอาทิตย์นี้กันทั้งนั้น"
"ครับท่านพ่อ"
คารอสเดินตามท่านพ่อของตนออกจากห้องครัว ท่านพ่อของเขาแวะเข้าไปหยิบถุงเงินที่อยู่ในห้องทำงานออกมาถือแล้วใส่เข้ากระเป๋ากางเกงของตน แถมหันมายิงมุมที่เขาขำไม่ออก
"เก็บเงินไว้กับข้าปลอดภัยกว่า ถ้าไว้กับลูกเดียวพวกสาวๆจะฉกไปหมด"
"ลูกไม่ขำกับท่านพ่อหรอกนะ"
"พ่อล้อเล่นไปกันเถอะ" เมื่ออาโรนเห็นลูกชายทำหน้าเบื่อโลกจากมุมของตนก็เดินมาตบไหล่ลูกชายเบาๆแล้วเดินออกจากบ้านซึ่งเจ้าตัวก็เดินตามมาติดๆ
สาวๆที่อยู่หน้าบ้านเมื่อเห็นท่านอาโรนเดินนำออกมาก่อนก็พยายามชะเง้อมองหาเขา ท่านพ่อหันมาไล่สายตามองพวกเธอด้วยสายตาเฉียบคมก็ทำให้พวกเธอแตกพ่ายหายไปจากหน้าบ้านทันที
คารอสมองพ่อของตนเองอย่างชื่นชมแค่มองเฉยๆก็ทำให้การชุมนุนขนาดย่อมๆหายจากหน้าบ้านไปทันที แต่กระนั้นท่านพ่อที่อยู่ตรงหน้าก็ได้สอนไว้อย่างดีว่าห้ามทำร้ายผู้หญิงหรือเพศแม่ ยกเว้นผู้หญิงคนนั้นหมายจะเอาชีวิตของเขา ในสนามต่อสู้หรือต้องต่อสู้กับผู้หญิงก็ห้ามทำร้ายจนอันตรายถึงชีวิต สิ่งนี้เป็นคำสอนแรกๆที่จำเขาได้ขึ้นใจ เขาจึงไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรเมื่อออกมาเจอกับกลุ่มคนที่ชอบเขาเป็นพิเศษ
ท่านพ่อของเขาก้าวเท้าต่อทันทีที่สลายการชุมนุมที่หน้าบ้านได้ ท่านพ่อพาเขาไปที่ร้านเสื้อผ้าซึ่งเป็นร้านที่คารอสเข้าใช้บริการบ่อยๆเพราะโรสมักลากเขาตามมาที่ร้านเวลาเธอจะมาซื้อเสื้อผ้าจนเขาและเจ้าของร้านสนิทกันไปแล้วช่วงเวลานี้ของปีคารอสจำได้ว่าเจ้าของร้านมักจะยุ่งมากที่สุดเพราะต้องตัดชุดสำเร็จรูปไว้หลายร้อยชุดและหลายขนาดเพราะในคาร์เนเลียนมีอยู่แค่สองร้านเท่านั้นที่ได้รับอนุญาติจากโรงเรียนแอเมทิตส์ ร้านหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านหน้าวัง ส่วนอีกร้านก็อยู่ที่นี่
เขาไม่กล้าถามว่าทำไมต้องสั่งตัดใหม่ด้วยเพราะเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้วก็ตั้งโชว์อยู่ที่หน้าร้านพร้อมขาย แต่ว่าท่านพ่อบอกว่าต้องสั่งตัดใหม่เพราะว่าเขาครบสิบเจ็ดแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วตามธรรมเนียมของหมู่บ้าน
ท่านพ่อของเขาเดินเข้าร้านไปทักทายเจ้าของร้านแจ้งจุดประสงค์ที่มาและเจ้าของร้านก็ทักทายกลับอย่างสุภาพเมื่อเห็นคารอสเดินเข้ามาในร้านเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปทักทายเขาอย่างสนิทสนมทันที
"เก็บเงินไว้กับข้าปลอดภัยกว่า ถ้าไว้กับลูกเดียวพวกสาวๆจะฉกไปหมด"
"ลูกไม่ขำกับท่านพ่อหรอกนะ"
"พ่อล้อเล่นไปกันเถอะ" เมื่ออาโรนเห็นลูกชายทำหน้าเบื่อโลกจากมุมของตนก็เดินมาตบไหล่ลูกชายเบาๆแล้วเดินออกจากบ้านซึ่งเจ้าตัวก็เดินตามมาติดๆ
สาวๆที่อยู่หน้าบ้านเมื่อเห็นท่านอาโรนเดินนำออกมาก่อนก็พยายามชะเง้อมองหาเขา ท่านพ่อหันมาไล่สายตามองพวกเธอด้วยสายตาเฉียบคมก็ทำให้พวกเธอแตกพ่ายหายไปจากหน้าบ้านทันที
คารอสมองพ่อของตนเองอย่างชื่นชมแค่มองเฉยๆก็ทำให้การชุมนุนขนาดย่อมๆหายจากหน้าบ้านไปทันที แต่กระนั้นท่านพ่อที่อยู่ตรงหน้าก็ได้สอนไว้อย่างดีว่าห้ามทำร้ายผู้หญิงหรือเพศแม่ ยกเว้นผู้หญิงคนนั้นหมายจะเอาชีวิตของเขา ในสนามต่อสู้หรือต้องต่อสู้กับผู้หญิงก็ห้ามทำร้ายจนอันตรายถึงชีวิต สิ่งนี้เป็นคำสอนแรกๆที่จำเขาได้ขึ้นใจ เขาจึงไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไรเมื่อออกมาเจอกับกลุ่มคนที่ชอบเขาเป็นพิเศษ
ท่านพ่อของเขาก้าวเท้าต่อทันทีที่สลายการชุมนุมที่หน้าบ้านได้ ท่านพ่อพาเขาไปที่ร้านเสื้อผ้าซึ่งเป็นร้านที่คารอสเข้าใช้บริการบ่อยๆเพราะโรสมักลากเขาตามมาที่ร้านเวลาเธอจะมาซื้อเสื้อผ้าจนเขาและเจ้าของร้านสนิทกันไปแล้วช่วงเวลานี้ของปีคารอสจำได้ว่าเจ้าของร้านมักจะยุ่งมากที่สุดเพราะต้องตัดชุดสำเร็จรูปไว้หลายร้อยชุดและหลายขนาดเพราะในคาร์เนเลียนมีอยู่แค่สองร้านเท่านั้นที่ได้รับอนุญาติจากโรงเรียนแอเมทิตส์ ร้านหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านหน้าวัง ส่วนอีกร้านก็อยู่ที่นี่
เขาไม่กล้าถามว่าทำไมต้องสั่งตัดใหม่ด้วยเพราะเสื้อผ้าที่ตัดเสร็จแล้วก็ตั้งโชว์อยู่ที่หน้าร้านพร้อมขาย แต่ว่าท่านพ่อบอกว่าต้องสั่งตัดใหม่เพราะว่าเขาครบสิบเจ็ดแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วตามธรรมเนียมของหมู่บ้าน
ท่านพ่อของเขาเดินเข้าร้านไปทักทายเจ้าของร้านแจ้งจุดประสงค์ที่มาและเจ้าของร้านก็ทักทายกลับอย่างสุภาพเมื่อเห็นคารอสเดินเข้ามาในร้านเจ้าของร้านก็เดินเข้าไปทักทายเขาอย่างสนิทสนมทันที
"เป็นไงมั้งคารอสหมู่นี้ฉันไม่ค่อยเห็นเธอเลย"
"สวัสดีครับพี่ ช่วงนี้ผมไม่ว่างช่วยท่านพ่อทำงานไม้ต่อโต๊ะต่อเก้าอี้"
"ท่านอาโรน ท่านทรมานลูกหรอ?"
"บ้า ฉันรักลูกชายฉันจะตายไปเธอไม่ต้องห่วง แรนม่า"
"คารอสไม่ได้โดนท่านพ่อแกล้งใช่ไหม?"
"ไม่ได้โดนแกล้งครับ ถ้าท่านพ่อแกล้ง ผมจะมาบอกแรนม่าคนแรกเลยดีไหม?"
"ดี แล้วฉันจะช่วยเธอเอง ว่าแต่ท่านอาโรนมาด้วยวันนี้คงจะแยากเจอหน้าฉันใช่ไหมล่ะ?"
"ฉันพาคารอสมาตัดชุดเครื่องแบบแอเมทิตส์ ไม่ได้มีเหตุอื่นๆ"
"คารอสเข้าเรียนที่แอเมทิตส์ด้วย?!"
"อืม เธอว่างตัดทำชุดใหม่ให้ไหม? โอกาสพิเศษทั้งที"
"ว่างอยู่แล้ว คารอสเป็นน้องชายฉันทำให้น้องชายได้อยู่แล้วอีกอย่างคารอสจะเข้าเรียนที่แอเมทิตส์เชียวนะ มานี่มาคารอสไปวัดตัวสำหรับตัดชุดกันใหม่ดีกว่า"
แรนม่า เจ้าของร้านเสื้อผ้าสาววัยยี่สิบปลายว่าอย่างร่าเริง ร่างผอมบางตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ สวมแว่นตาเวลาทำงานตัดผ้าที่ข้อมือมีหมอนปักเข็ม ที่คอก็ห้อยสายวัด ผมสีดำถูกมัดรวบขึ้นเป็นมวยมีปอยผมหลุดออกมาเล็กน้อย นัยย์ตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งปากบางได้รูป ใบหน้ากลมมน เป็นที่ต้องตาของหนุ่มมากมายในหมู่บ้านแต่เธอก็ไม่สนใจใครเลย โดยใช้ข้ออ้างไปต่างๆว่าตนงานเยอะและงานล้นมือตลอดปี
แต่คารอสรู้ว่าคนที่เดินเข้าร้านมาพร้อมเขานั้นเป็นคนแรนม่าแอบชื่นชมมาเป็นแรมปีแล้วแต่ก็เขินอายเกินกว่าจะพูดออกมาตรงๆเลยเฝ้ามองอยู่ห่างๆตลอด คารอสจะหว่านล้อมยังไงก็ไม่ยอม ส่วนอีกด้านที่แรนม่าไม่รู้ก็คือชายคนนั้นก็แอบมีใจให้เหมือนกันแต่ก็ปากแข็งเสียจนคารอสหมดปัญญาจะช่วย
คารอสมองทั้งสองคนสลับไปมาเบื่อกับความปากแข็งของทั้งคู่เลยปล่อยไปและคอยกั้นพวกคนที่คิดจะมาจีบแรนม่าออกไปแทน
แรนม่าพาคารอสไปวัดตัวหลังผ้าม่านเมื่อเสร็จแล้วแรนม่าก็เปิดม่านพาคารอสออกมา คารอสเดินไปสมทบกับท่านพ่อที่นั่งรออยู่ ส่วนแรนม่าก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์จดบันทึกอะไรเล็กน้อยพร้อมเอ่ยอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมาถามคารอสที่นั่งมองแรนม่า
คารอสมองทั้งสองคนสลับไปมาเบื่อกับความปากแข็งของทั้งคู่เลยปล่อยไปและคอยกั้นพวกคนที่คิดจะมาจีบแรนม่าออกไปแทน
แรนม่าพาคารอสไปวัดตัวหลังผ้าม่านเมื่อเสร็จแล้วแรนม่าก็เปิดม่านพาคารอสออกมา คารอสเดินไปสมทบกับท่านพ่อที่นั่งรออยู่ ส่วนแรนม่าก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์จดบันทึกอะไรเล็กน้อยพร้อมเอ่ยอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมาถามคารอสที่นั่งมองแรนม่า
"จะเอาแบบมาตรฐานกี่ตัว?" แรนม่าเงยหน้าจากสมุดได้นิดนึงก็ก้มลงไปใหม่รอจดคำตอบจากคารอส
"มาตรฐานสี่ พิเศษหนึ่งครับแรนม่า"
"โอเค ทั้งหมดห้าตัว ค่าใช้ทั้งหมดก็สองพันอาร์ม มารับได้เย็นวันศุกร์นะ"
"ท่านพ่อจ่ายเงินสิครับ" คารอสหันไปกระเซ้าท่านพ่อของตน อาโรนที่นั่งทำท่าเบื่อๆก็ควักเงินออกจากกระเป๋าสองพันอาร์มเดินไปส่งให้ที่เคาน์เตอร์
"สองพันอาร์มเลยเนื่ยมันไม่แพงไปหน่อยหรอ แรนม่า"
"ก็ถ้าท่านซื้อแบบสำเร็จที่ตัดและเย็บแล้วเรียบร้อยก็จะถูกกว่าห้าร้อยอาร์มคงพอเข้าใจนะท่านอาโรน"
"โอเค ฉันเข้าใจก็ได้แล้วได้ของทั้งหมดเย็นวันศุกร์สินะ"
"ใช่"
"คารอสไปซื้อของกันต่อได้แล้ว"
"ครับท่านพ่อ ผมไปนะแรนม่า"
"จ้ะคารอส"
คารอสพุ่งตัวตามท่านพ่อออกนอกร้านเสื้อผ้าไปที่ร้านอุปกรณ์การเดินทางสำหรับผู้เดินทาง อาโรนเข้าไปในร้านซื้อหมวกเดินทางและเสื้อคลุมเดินทางที่เข้าชุดกันให้คารอสแล้วความแปลกใจก็เพิ่มมากขึ้น
เมื่อพ่อของเขาเลือกเสื้อคลุมแบบที่ป้องกันพลังเวทย์ได้และมีหินวิเศษที่ถ้าเสื้อคลุมจะขาดซะอีกครั้งแต่ว่าถ้าหินยังติดอยู่เสื้อคลุมก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม หมวกก็เหมือนกันสีดำเข้มแลดูตัวนั้นหนักทว่าตัวผืนผ้านั้นเบาราวขนนก ส่วนราคาก็แพงจนน่ากลัวในความคิดของคารอสซึ่งดูเหมือนท่านพ่อจะไม่สะทกสะท้านบอกแค่ว่าไม่ใช่เงินของเขาใช้ไปเถอะ แม้เขาจะค้านแล้วว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดที่ต้องของแพงขนาดนี้
เขาและท่านพ่อออกมาที่ถนนอีกครั้งหลังจากได้เสื้อคลุม หมวก ถุงมือเดินทางแล้วท่านพ่อก็พาไปซื้อถุงมือผงเกล็ดมังกรที่ร้านอุปกรณ์เพื่อสัตว์วิเศษ
เมื่ออกมาจากร้านอุปกรณ์เพื่อสัตว์วิเศษแล้วอาโรนก็พาคารอสไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชื่อดังประจำหมู่บ้านเมื่อทานเสร็จก็กลับบ้านกันที เพียงแค่ถึงบ้านตรวจสิ่งของที่ซื้อมากับรายการของทั้งหมด
"ท่านพ่อยังมีของอีกนะที่ยังไม่ได้ซื้อ"
"มีอะไรมั้ง"
"กล่องไม้"
"เดียวพ่อทำให้"
"อาวุธที่ถนัดที่สุดกับมีดสั้น"
เมื่ออกมาจากร้านอุปกรณ์เพื่อสัตว์วิเศษแล้วอาโรนก็พาคารอสไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารชื่อดังประจำหมู่บ้านเมื่อทานเสร็จก็กลับบ้านกันที เพียงแค่ถึงบ้านตรวจสิ่งของที่ซื้อมากับรายการของทั้งหมด
"ท่านพ่อยังมีของอีกนะที่ยังไม่ได้ซื้อ"
"มีอะไรมั้ง"
"กล่องไม้"
"เดียวพ่อทำให้"
"อาวุธที่ถนัดที่สุดกับมีดสั้น"
"ไม่ต้องห่วง ฉันมีให้"
"วัตถุแห่งการจารึกกับสมุดมนตรา"
"มีให้ทั้งสองอย่าง"
"งั้นก็ครบสินะ ท่านพ่อมีชิ้นงานอะไรให้ผมช่วยทำไหม?"
"ไม่มี"
"ถ้างั้นผมขึ้นไปบนห้องเลยนะครับ ราตรีสวัสครับ"
ช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วคารอสไปรับเสื้อที่สั่งตัดของตนในเวลาเย็นของวันศุกร์ วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่เหลือคารอสก็เริ่มเตรียมของที่จะติดไปด้วยทันที แล้วก็เหลืออีกเพียงอาทิตย์เดียวเขาก็ครบสิบเจ็ดและก็ใกล้เปิดเรียนแล้ว อาทิตย์สุดท้ายที่ลาเรียนั้นคึกคักมากซึ่งเป็นช่วงก่อนจะเดินทางในวันศุกร์ที่เป็นวันเกิดของคารอสพอดี
ในอาทิตย์นั้นคารอสออกจากบ้านไปพบโรสและเพื่อนในหมู่บ้านที่จะไปเรียนที่แอเมทิตส์เหมือนกันที่ร้านอาหารของหมู่บ้านพร้อมนัดแนะการเดินทางว่าจะเดินทางไปพร้อมกันและจะออกเดินทางตอนเวลากี่โมง
คารอสใช้เวลาสี่วันให้ประโยช์นมากที่สุดโดยการคอยเฝ้าทำงานไม้ให้ได้มากที่สุดในช่วงเช้าและก่อนไปนอกบ้านช่วงเย็น เขาตกลงกับท่านพ่อว่าจะเอามารีนม้าตัวโปรดติดตัวไปด้วย
ในคืนสุดท้ายก่อนออกเดินทางท่านพ่อของเขาถือกล่องใบใหญ่เดินลงมาที่โต๊ะอาหารในห้องครัวขัดการทานซุปหมูของคารอส
"คารอสของสี่อย่างที่ลูกยังไม่ได้อยู่นี่" ว่าแล้วอาโรนก็ดันกล่องไม้ขนาดใหญ่มาให้คารอสที่ยกถ้วยซุปหลบแทบไม่ทัน คารอสเปิดกล่องไม้ก็พบของสี่อย่างอยู่ในนั้น กล่องไม้ขนาดกลางที่มีผ้าห่อไว้ มีดสั้นพร้อมฟักไม้ที่ลงลายสลักอย่างสวยงามแต่แข็งแกร่งซึ่งลงเหมือนด้ามของมีดสั้น สมุดมนตราที่มีปกเป็นไม้และมีลายไม้เลื้อยเต็มสมุด และอันสุดท้ายก็คือแหวนสองวงที่เกื่ยวกันไว้แล้วสายสร้อยคล้องติดที่แต่ละด้านของแต่ละวงของแหวน แต่ที่ขาดไปคืออาวุธ
"ท่านพ่อ แล้วอาวุธที่ท่านพ่อบอกว่าจะให้ล่ะครับ"
"รอพรุ่งนี้ หยิบของออกจากกล่องได้แล้วเอาไปจัดใส่กระเป๋าซะไป พรุ่งนี้พวกเธอจะออกเดินทางกันกี่โมง"
"รุ่งสางครับท่านพ่อ"
"พ่อเข้าใจแล้ว ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เดินทางเช้า"
"ครับ" คารอสหยิบของทั้งสี่อย่างออกมาจากกล่องไม้ขนาดมหึมาแล้วเอามาไว้ในวงแขนยาวของตนแล้วเดินขึ้นห้องนอนทันที
"คารอสของสี่อย่างที่ลูกยังไม่ได้อยู่นี่" ว่าแล้วอาโรนก็ดันกล่องไม้ขนาดใหญ่มาให้คารอสที่ยกถ้วยซุปหลบแทบไม่ทัน คารอสเปิดกล่องไม้ก็พบของสี่อย่างอยู่ในนั้น กล่องไม้ขนาดกลางที่มีผ้าห่อไว้ มีดสั้นพร้อมฟักไม้ที่ลงลายสลักอย่างสวยงามแต่แข็งแกร่งซึ่งลงเหมือนด้ามของมีดสั้น สมุดมนตราที่มีปกเป็นไม้และมีลายไม้เลื้อยเต็มสมุด และอันสุดท้ายก็คือแหวนสองวงที่เกื่ยวกันไว้แล้วสายสร้อยคล้องติดที่แต่ละด้านของแต่ละวงของแหวน แต่ที่ขาดไปคืออาวุธ
"ท่านพ่อ แล้วอาวุธที่ท่านพ่อบอกว่าจะให้ล่ะครับ"
"รอพรุ่งนี้ หยิบของออกจากกล่องได้แล้วเอาไปจัดใส่กระเป๋าซะไป พรุ่งนี้พวกเธอจะออกเดินทางกันกี่โมง"
"รุ่งสางครับท่านพ่อ"
"พ่อเข้าใจแล้ว ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้เดินทางเช้า"
"ครับ" คารอสหยิบของทั้งสี่อย่างออกมาจากกล่องไม้ขนาดมหึมาแล้วเอามาไว้ในวงแขนยาวของตนแล้วเดินขึ้นห้องนอนทันที
คารอสแอบคิดในใจว่าปีนี้วันเกิดของเขาเป็นปีที่แปลกที่สุดตั้งแต่เขาจำความได้ ทั้งได้รู้ว่าองค์ราชาเป็นเพื่อนเก่าของท่านพ่อ ทุนการศึกษาจากองค์ราชา เข้าเรียนที่แอเมทิตส์โรงเรียนที่เขาใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้เข้าเรียน ของขวัญวันเกิดมากมายที่เขาแทบจะไม่คาดฝันมาก่อน
เขารู้ว่านักเรียนใหม่ของแอเมทิตส์จะต้องใช้อะไรบ้าง แต่เขาไม่คิดว่าตนเองจะได้ใช้ของพวกนี้เร็วเขานึกว่าจะได้อยู่ช่วยงานที่บ้าน ณ ช่วงหนึ่งเขาจึงเลิกหวังไปนานแล้วที่จะไปเรียนที่แอเมทิตส์เพราะเป็นห่วงท่านพ่อที่ต้องอยู่คนเดียว
"เฮ้อ!" อาโรนถอนหายใจออกมาเมื่อลูกชายเดินขึ้นไปแล้ว คว้ายาสูบขึ้นมาสูบเพื่อใช้ความคิด
"เฮ้อ!" อาโรนถอนหายใจออกมาเมื่อลูกชายเดินขึ้นไปแล้ว คว้ายาสูบขึ้นมาสูบเพื่อใช้ความคิด
"เราหยุดเวลาไม่ได้จริงๆสินะ"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น