ปากัลกึลม้าอิอิอิอิอิกุกุกาก้าาาาาาาา - นิยาย ปากัลกึลม้าอิอิอิอิอิกุกุกาก้าาาาาาาา : Dek-D.com - Writer
×

    ปากัลกึลม้าอิอิอิอิอิกุกุกาก้าาาาาาาา

    ผู้เข้าชมรวม

    38

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    38

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 61 / 07:35 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยาย {END} ( EXO ) - NECESSARY MAMA { KAIDO CHANBAEK TAOHUN } > ตอนที่ 1 : ❀ necessary mama : intro : Dek-D.com - Writer MY LIFE WHEN I HAVE NOT MET YOU , IT WAS SO EMPTY. “มึงพูดว่ายังไงนะ? ไอ้จงอิน” ภายในผับหรูแห่งหนึ่งในย่านกังนัม ในห้องวีไอพีสุดหรูสำหรับแขกนักเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวห้องหนึ่ง ... ชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งสามคนต่างนั่งเอกเขนกกันอยู่บนโซฟาสีครีมขาวตัดกับพื้นพรมสีแดงเข้มในห้องด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่เมื่อหนึ่งในสามได้เอ่ยบางสิ่งบางอย่างออกมา ก็ทำให้อีกสองคนที่เหลือต้องส่งเสียงดังขึ้นมาด้วยท่าทางตกใจไปพร้อมๆกันทันที “มึงว่า ... มึง ... มึงจะแต่งงานงั้นเหรอ?” ปาร์คชานยอล ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเจ้าของดวงตากลมโตมีสเน่ห์และใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่เสมอ แทบจะกระเด้งตัวเองให้ลุกขึ้นยืนจากโซฟาเพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน ถึงกับต้องทวนคำพูดของเพื่อนซี้ที่พึ่งพูดไปเมื่อครู่อย่างตะกุกตะกัก ชายหนุ่มผิวเข้มหน้าตาหล่อค่อนไปทางหล่อมาก การแต่งเนื้อแต่งตัวบ่งบอกว่าทางบ้านมีฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐีเพราะอุดมไปด้วยแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่ถ้าพูดกันตามหลักความเป็นจริงแล้ว เจ้าตัวน่าจะเกิดอาการเดือดร้อนบ้างไม่มากก็มากที่สุด “เออ ... กูจะแต่งงานแล้ว เดือนหน้านี่แหละ” คิมจงอิน หนุ่มหล่อผิวสีเข้มสุดเซ็กซี่ที่รู้กันในวงเพื่อนๆว่าเป็น ‘คาสโนว่าตัวร้าย’ เนื่องจากกวาดทั้งผู้หญิงและผู้ชายเข้าสต๊อกของตัวเองเรียบมาประมาณครึ่งกรุงโซลแล้วเห็นจะได้ และเป็นความจริงที่ว่าไม่มีใครสามารถปฏิเสธคิมจงอินคนนี้ได้ลง ถึงมี คิมจงอินก็จะใช้มารยาเฉพาะตัวไปตามตื๊อจนกว่าจะได้เขามาอยู่ดีนั่นแหละ แต่นั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่น้อยครั้งนักจะเกิดขึ้นจริงๆสักที “ถุย! มึงคิดว่ามุกตลกปลาเค็มของมึงจะหลอกพวกกูได้เหรอ? ควาย!” เสียงสบถดูถูกดูแคลนดังออกมาจากปากของ ฮวางจื่อเทา ชายหนุ่มที่ตัวสูงที่สุดในกลุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มมีสเน่ห์ที่ดวงตาคมมีรอยคล้ำรอบๆราวกับหมีแพนด้า แต่ถ้าเป็นหมีแพนด้าก็คงจะเป็นหมีแพนด้าที่เท่ห์ที่สุดในโลก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเป็นตัวเขานั้น รวมๆกันแล้วคือมันเพอร์เฟ็คท์มากเลยทีเดียว “มุกห่าอะไรล่ะ! หน้ากูมันบอกว่ากูล้อเล่นหรือไง? กาก!” คิมจงอินแย้งจื่อเทาที่เอาแต่คิดว่าเขาจะต้องพูดเล่นเป็นอย่างเดียว พลางรินเหล้าใส่ลงในแก้วของตนเองที่พึ่งดื่มหมดไปเมื่อครู่ ไม่ยี่หระต่อสายตาของเพื่อนซี้ทั้งสองที่พากันมองเขาอย่างแปลกๆ ... ก็พูดความจริงนี่หว่า บอกว่าตัวเองจะแต่งงานนี่มันแปลกตรงไหน? ถ้าบอกว่าจะไปตายแล้วเกิดใหม่นี่สิว่าไปอย่าง “ไอ้ดำเอาจริงๆ กูถามมึงจริงจัง มึงตอบกูจริงจังนะ ... มึง-จะ-แต่ง-งาน-จริง-เหรอ?” ปาร์คชานยอลที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อ ต้องทวนคำถามของตนเองขึ้นมาอีกครั้ง และค่อยๆพูด ช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ เผื่อว่าคิมจงอินอาจจะได้สติขึ้นมาบ้าง เพราะเท่าที่เห็น คิมจงอินก็ดื่มไปหลายแก้วอยู่เหมือนกัน ฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ในเส้นเลือดอาจจะทำให้คิมจงอินมึนๆไปบ้างจนเผลอพูดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องขึ้นมา “เออ” แต่คิมจงอินก็ยังยืนยันคำตอบเดิมด้วยอาการที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบทุกประการ “เชี่ย! คาสโนว่าคิมจงอินจะถอดเขี้ยวเล็บแล้วเว้ยเฮ้ย! แบบนี้มึงต้องเลี้ยงพวกกูชุดใหญ่ เป็นการฉลองการสละโสดของมึงเลยนะไอ้จงอิน ฮ่าๆ เพื่อนกูจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วโว้ย!” เมื่อผลปรากฎว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นปาร์คชานยอล ที่ถึงกับลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งแล้วกระโดดโลดเต้นตบมือตบไม้ ราวกับว่าตัวเองคือคนที่จะได้แต่งงานเอง ... คิมจงอินมองพฤติกรรมบ้าๆบอๆของเพื่อนซี้แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้ใครกันแน่ที่จะได้แต่งงานระหว่างเขาหรือไอ้ชานยอล “เฮ้ย ... แล้วมึงคิดยังไงถึงอยากจะแต่งงานวะ?” จื่อเทาไม่สนใจชานยอลที่ทำท่าทางบ้าบออยู่ข้างๆ เขาหันมาถามความรู้สึกของคิมจงอินอย่างอยากรู้ ดูเหมือนว่าเรื่องที่คิมจงอินจะแต่งงานนั้น จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับเพื่อนๆพอควร “ทำไมวะ? คนอย่างกูจะแต่งงานมันดูน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?” คิมจงอินขมวดคิ้วพลางย้อนถามจื่อเทาอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่นัก “ก็น่าตกใจน่ะสิวะ ที่ผ่านมากูก็เห็นมึงสนุกกับชีวิตโสดของมึง ควงคนนั้นคนนี้ไม่ซ้ำหน้า ล่าเวอร์จิ้นชาวบ้านไปทั่ว แล้วมึงก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องที่อยากจะมีครอบครัวหรืออยากจะแต่งงานให้พวกกูได้ยินเลยสักครั้ง ... อยู่ๆมึงมาบอกว่าจะแต่งงาน พวกกูก็เลยต้องตกใจน่ะสิ” เรื่องที่จื่อเทาพูดมานั้นเป็นความจริงทุกอย่าง คิมจงอินคือคาสโนว่าตัวร้ายที่สนุกสนานกับชีวิตหนุ่มโสด และมีความสุขกับการมีคู่นอนที่ไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน ความสัมพันธ์แบบ one night stand คือคำนิยามที่คิมจงอินนิยามให้กับคู่นอนของเขาทุกๆคน ... การที่เขาจะละทิ้งความสุขของชีวิตหนุ่มโสดไปมีครอบครัวอย่างกะทันหันเช่นนี้ จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับเพื่อนซี้ทั้งสองที่รู้จักเขาดีอยู่พอสมควร “แม่กูบังคับ” คิมจงอินกล่าวถึงเหตุผลที่ตนเองจะต้องบอกลาชีวิตหนุ่มโสดด้วยน้ำเสียงเรียบ เหตุผลของคิมจงอินนั้นทำให้เพื่อนซี้ทั้งสองถึงกับตาโตด้วยความตกใจเป็นรอบที่สอง แต่สำหรับตัวเขาเองนั้นกลับนั่งดื่มเหล้าด้วยท่าทางชิวๆ ดูไม่เดือดร้อนอะไรเลยกับเรื่องที่ตัวเองได้กล่าวออกไปเมื่อครู่ “ไอ้ห่า! ที่มึงต้องแต่งงานเพราะแม่มึงบังคับเนี่ยนะ? นี่ ... มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอวะ? การแต่งงานน่ะมันไม่ได้หมายความว่ามึงต้องไปใส่ชุดเจ้าบ่าวยืนสวมแหวนให้เจ้าสาวเท่านั้นนะโว้ย! มันหมายถึงชีวิตครอบครัวของมึงด้วย มึงจะมาให้คนอื่นตัดสินเรื่องชีวิตครอบครัวของมึงได้ยังไง?” จื่อเทากล่าวถึงเรื่องที่ตนเองเป็นกังวลอย่างยืดยาวให้คิมจงอินฟัง รู้สึกเป็นห่วงชีวิตครอบครัวของไอ้เพื่อนคาสโนว่าคนนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันที่เห็นไอ้คิมจงอินยอมทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่อย่างง่ายดายแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยอมทิ้งชีวิตหนุ่มโสดเพียงเพราะคำสั่งไม่กี่คำของผู้เป็นแม่ “เออนั่นดิ! กูเองก็สงสัยเหมือนกันว่ะ ปกติกูไม่เคยเห็นมึงเชื่อฟังแม่มึงเลยนี่หว่า อยู่ดีๆทำไมถึงได้ทำตัวเป็นเด็กดียอมเชื่อฟังแม่มึงขึ้นมาได้วะ? แม่มึงเล่นของอะไรใส่มึงหรือเปล่าเนี่ย?” ปาร์คชานยอลทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคิมจงอินตามเดิมพลางนึกสงสัยในประเด็นเดียวกันกับจื่อเทา คนอย่างคิมจงอินเนี่ยนะ ยอมเชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นแม่? ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่ามันจะยอมเชื่อฟังแม่มันสักเท่าไหร่เลย ขนาดเรื่องกิจการบริษัทของทางบ้านมัน ตอนที่พ่อมันสละตำแหน่งเพื่อไปรักษาตำแหน่งประธานบริษัทที่สาขาต่างประเทศ แม่มันบังคับขู่เข็ญให้มารับช่วงต่อจะเป็นจะตาย มันก็ยังไม่สนใจ จนแม่มันถึงกับหมดความอดทนต้องดำรงตำแหน่งประธานบริษัทซะเอง “แม่กูไม่ใช่หมอผีนะเว้ยไอ้ชานยอล! กวนส้นตีน ... ก็แม่กูเห็นว่ากูอายุก็มากขึ้นทุกวัน แล้วก็ยังไม่มีเมีย ไม่มีครอบครัวสักที ก็เลยจะจับกูแต่งงานกับลูกเพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่สมัยไปเรียนเมืองนอกด้วยกันนั่นแหละ” “หา! นี่ ... แม่มึงเลือกเมียให้มึงด้วยงั้นเหรอ? แล้วมึงเคยคุยกับเค้าหรือยังวะ?” จื่อเทาแย้งถามขึ้นมาอย่างขัดใจ เมื่อรู้ว่าแม่ของคิมจงอินไม่ได้บังคับลูกให้แต่งงานอย่างเดียว ยังอุตส่าห์เลือกว่าที่ภรรยาให้ลูกตัวเองอีกต่างหาก แต่คำตอบที่คิมจงอินกำลังจะตอบกลับมา ก็ทำให้จื่อเทาแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้กันเลยทีเดียว “หึ! กูจะไปเคยคุยกับเค้าได้ยังไง หน้าเค้ากูยังไม่เคยเห็นเลย” “ส้นตีน! มึงบ้าหรือเปล่าเนี่ยไอ้กัมจง มึงดูละครมากไปเปล่าวะ? คนไม่เคยเห็นหน้ากันไม่เคยคุยกันไม่เคยรู้จักกัน อยู่ๆจะมาแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน ... มึงประสาทแดกแล้วล่ะกูว่า ว่างๆมึงควรไปเช็คสมองมั่งนะ หรือไม่มึงก็พาแม่มึงไปด้วย ไปเช็คด้วยกันเลย โอย ... กูล่ะเพลียกับครอบครัวมึง ไม่ไหวๆ” จื่อเทาส่ายหน้าพลางบ่นยืดยาวอย่างเอือมระอาในความไม่ปกติของครอบครัวของเพื่อนซี้เขาคนนี้ เคยเห็นแต่ในละครที่พระเอกกับนางเอกจะถูกจับแต่งงานกันทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แล้วก็เกิดรักกันขึ้นมาในตอนหลัง แต่นั่นมันก็แค่ในละครที่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ในชีวิตจริงที่อะไรๆก็ดูยากลำบากแบบนี้ “แล้วมึงยอมแม่มึงได้ไงวะ?” จื่อเทาเงียบไปแล้วแต่ชานยอลยังมีคำถามให้คิมจงอินตอบต่อ “ก็กูอยากแต่งงาน” “อยากแต่งงาน? มึงอยากจะแต่งงานกับคนที่มึงไม่เคยเห็นหน้าเหรอวะ?” “จะเคยเห็นหน้าหรือไม่เคยเห็นหน้ากูไม่สนหรอกเว้ย กูแต่งได้ทั้งนั้นนั่นแหละ ขอแค่คนที่กูแต่งงานด้วยสามารถมีเบบี๋ตัวน้อยให้กูได้ กูก็พอใจแล้ว” “นี่มึงกำลังจะสื่อว่ามึงอยากมีลูก?” “ก็เออดิ กูรักเด็กจะตายห่า แล้วทำไมกูถึงจะไม่อยากมีลูกล่ะวะ” ปาร์คชานยอลแทบจะหงายหลังตามจื่อเทาไปอีกคน เมื่อรับรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้คิมจงอินยอมแต่งงานตามความต้องการของผู้เป็นแม่ นี่มันคิดว่าเรื่องการแต่งงาน การมีครอบครัวมันเป็นเรื่องง่ายๆเหมือนในเกมส์เดอะซิมส์หรือยังไงกันเนี่ย? แล้วมันคิดว่าการมีลูกสักคนกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักเนี่ย ... มันน่ามีความสุขมากขนาดนั้นเลยเหรอ? “แต่ ... แต่คนที่มึงอยากจะมีลูกด้วย มึงแน่ใจแล้วเหรอวะว่ามึงไว้ใจจะให้เขาเป็นแม่ของลูกในอนาคตของมึงแล้วจริง มึงจะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนดีและพร้อมจะดูแลลูกของมึงได้?” “มึงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ถ้าไม่ดีจริงแม่กูไม่เลือกมาให้แต่งงานกับกูแน่นอน ส่วนเรื่องลูกถ้าเค้าจะไม่ดูแล เดี๋ยวกูดูแลของกูเองก็ได้ กูยิ่งชอบเด็กอยู่ด้วย เลี้ยงลูกตัวเองแค่นี้สบายจะตายห่า ว่างๆกูอาจจะอุ้มลูกมานั่งแดกเหล้ากับพวกมึงด้วยก็ได้นะ” “ไอ้ห่านี่แม่ง ... กูล่ะสงสารลูกของมึงในอนาคตจังว่ะที่ต้องมีพ่อแบบนี้” คิมจงอินหัวเราะเมื่อเห็นจื่อเทาที่เงียบไปนานแล้วบ่นเขาอุบอิบพลางส่ายหน้า เขาต้องยกเท้าของตัวเองขึ้นไปเตะหน้าขาของมันที่วางพาดอยู่บนโต๊ะอย่างหมั่นไส้ “เออน่า ... กูมั่นใจว่ากูเองก็ต้องเป็นพ่อที่ดีได้เหมือนกัน พวกมึงไม่ต้องมาซีเรียสกับกูหรอก โดยเฉพาะมึงไอ้จื่อ เอาเรื่องของมึงกับเซฮุนให้รอดก่อนเหอะ ได้ข่าวว่าเขารอให้มึงไปขอแต่งงานอยู่ไม่ใช่หรือไง?” “มันก็เรื่องของกู” “เออนั่นแหละ เรื่องแต่งงานมันก็เรื่องของกูเหมือนกัน พวกมึงน่ะมีหน้าที่แค่ไปเดินหาชุดหล่อๆใส่มางานแต่งของกูก็เท่านั้นเอง แต่วันนี้ ... ต้องกินกันยันเช้านะโว้ย ฉลองสละโสดให้กูหน่อย ถ้าพระอาทิตย์ไม่ขึ้นก็ไม่ต้องเลิกกิน เอ้าชน!” เคร้ง! สามหนุ่มยกแก้วเหล้าขึ้นชนกันและกระดกดื่มเป็นการฉลองให้กับคิมจงอิน เสือร้ายของกลุ่มที่กำลังจะสละโสดและเริ่มต้นจะใช้ชีวิตครอบครัวในเดือนหน้า โดยที่ในใจของชานยอลและจื่อเทาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าชีวิตครอบครัวของคิมจงอินจะไปรอด ใครๆก็รู้ว่าไอ้นี่มันเสือร้าย คาสโนว่าตัวพ่อ เจ้าชู้ประตูดินและเปลี่ยนคู่นอนบ่อยยิ่งกว่าผู้หญิงเปลี่ยนผ้าอนามัย นับว่าคนที่จะมาแต่งงานกับมันนี่ค่อนข้างน่าสงสารมากที่ต้องมามีสามีที่ทำตัวไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายแบบนี้ แต่ในเมื่อมันก็พูดเองว่ามันอยากมีครอบครัวและอยากแต่งงาน ... มันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกมั้ง มันก็อาจจะกลับตัวกลับใจและทำตัวเป็นสามีและพ่อที่ดีให้กับภรรยาและลูกในอนาคตของมันจนได้ ... ใครจะไปรู้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น