ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic exo] MEMORIZE - baekdo ft. chanyeol

    ลำดับตอนที่ #1 : MMR CH 1 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.95K
      51
      1 ก.ค. 62

    MEMORIZE CH 1


     

    ในค่ำคืนที่แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องสีขาวกระทบภาพถ่ายภาพหนึ่งที่ถูกแปะไว้กับผนังด้วยเทปใสที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนตามกาลเวลาที่ผ่านเลยไป 

     ชายร่างสูงวัย22ปียกมือหยาบจับที่รูปถ่ายด้วยความคิดถึง ฉับพลันที่ความร้อนรื้นขึ้นบริเวณดวงตา ก่อนที่ภาพที่เห็นจะเลือนลางลงไป แต่ก็แค่ในสายตาเท่านั้น

         ภาพนิ่งที่เบลอเพราะม่านน้ำตากลับเด่นชัด แปรปลี่ยนเป็นภาพเคลื่อนไหว เมื่อเปลือกตาคมหลับตาลงพร้อมกับหยาดน้ำใสที่ไหลลงมา

     

        ' ชานยอลอา แบคฮยอนนา มานี่เร็ว ถ่ายรูปกัน '

    เด็กหนุ่มตัวเล็กสุดในกลุ่มเอ่ยปากขึ้นพลางกวักมือเรียกเพื่อนทั้งสอง

    ตากลมก็จ้องไปที่ทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีคราม
    และลมเย็นๆชวนให้คนตัวเล็กยิ้มร่า เขาสูดหายใจลึกๆเต็มปอด 

    กางแขนรับลม  ปลดปล่อยภาระหน้าที่ทุกอย่างทิ้งไว้ที่กรุงโซล งานพรีเซ้น การบ้านที่ค้างต่างๆทิ้งไว้ที่มหาลัย วันนี้เขามาเพื่อพักผ่อน คยองซูชอบเวลาที่ตัวเองไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เหมือนอย่างวันนี้

    ดื่มด่ำกับบรรยากาศไม่ทันไร ดวงตากลมโตก็สะดุดไปที่เพื่อนตัวดีที่เอาแต่แลบลิ้นปลิ้นตา ทำท่ากวักมือล้อเลียนเขา น่าหมั่นไส้จนต้องตีแรงๆสักที แต่เหมือนว่าคนโดนตี จะไม่ได้สำนึกอะไรเลย แถมยังหัวเราชอบใจราวกับคนบ้า แบคฮยอนก็แบบนี้ ไม่เคยปล่อยให้เขาอยู่อย่าสงบสุข แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลย ว่าถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ เขาจะหัวเราะกับอะไรในแต่ละวัน 

    'อ่ะ คยองซู' เสียงทุ้มดังขึ้น ดึงความสนใจให้เขาเลิกทุบตีเพื่อนขี้แกล้ง หันมามองขวดแป๊ปซี่ที่ถูกยื่นมาให้ คยองซูรับมันไว้ ส่งยิ้มและพยักหน้าแทนคำขอบคุณก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม ชานยอลก็คือชานยอล คอยดูแลเขาอย่างดีเสมอมาตั้งแต่รู้จักกัน ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ก็เข้าใจกันทุกเรื่อง เขานึกสงสัยเหลือเกิน ว่าที่บ้านของชานยอลเลี้ยงดูลูกยังไง ให้เอาใจใส่คนเก่งขนาดนี้


    'ไหนน้ำกูอ่ะ แหมๆ เลือกปฎิบัติจางงง แล้วจะถ่ายไหมรูปอ่ะ เอากล้องมึงมาเลย เดี๋ยวกูถ่ายให้'

    แบคฮยอนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปพูดกับคนตัวใหญ่ที่สุด ที่ในมือถือกล้องโพลารอยด์ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมา

          ' เอ้า แล้วมึงไม่ถ่ายหรอ'

         ' เออน่า ' แบคฮยอนพูดปัด ก่อนจะกระซิบแนบหูเพื่อนตัวสูง  ' ไม่อยากเป็นก้างขวางคอใครว่ะ '

    เด็กหนุ่มตัวสูงราว180กว่าๆหันมาอมยิ้มให้กับคำแซวของเพื่อน ก่อนจะยื่นกล้องให้ พร้อมๆกับดึงคนตัวเล็กสุดให้เข้าเฟรม

         'เอ้า ถ่ายด้วยกันสิ สามคนไง ' แต่เป็นคยองซูที่ท้วงขึ้นมา คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ก่อนจะพยายามดึงแขนเพื่อนที่ตัวพอๆกัน
         'เออๆ เดี๋ยวถ่าย ลองกล้องแปป ' แบคฮยอนว่าก่อนจะดันคนตัวเล็กออก ' มึงไปถ่ายก่อนไป ชิดๆกันหน่อย รีบๆดิ้ ร้อนนน'  พร้อมกับยกกล้องขึ้นมาถ่าย       เพื่อนรักทั้งสองคน

          สาม สอง หนึ่ง

           แชะ แชะ แชะ

         'พอแล้ว รัวอะไรขนาดนั้น เปลืองฟิล์ม '  เป็นชานยอลที่เอ่ยท้วง      ' ทีนี้สามคนๆ'  

         'เซลฟี่ๆ สามคนๆ'  คยองซูเอ่ย ก่อนจะดึงแบคฮยอนมาคล้องคอเอาไว้อีกข้าง
         ' แล้วทำไมกูต้องเป็นคนถืออ่ะ ' แบคฮยอนบ่นออด 
       
      ' หน้ามึงเล็ก ก็ถือกล้องนั่นแหละ '  ชานยอลเสริม

         ' เออๆ โวะ เอ้า หนึ่ง สอง ชีสส ' 


         แชะ


     

            ชานยอลลืมตาขึ้นมาอยู่กับปัจจุบันสายตาก็ยังคงจับจ้องเด็กหนุ่มวัยสามคนไนวัย18ปีอยู่อย่างนั้น หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกขึ้นถึงความลำบากที่กว่าจะได้รูปนี้มาก็ต้องถ่ายกันตั้งนานเพื่อให้ไม่มีใครหลุดกรอบ

     อีกทั้งมันก็ยากที่จะกดชัตเตอร์ในเมื่อต้องยืดสุดแขน แถมภาพที่ออกมายังแทบมองไม่ออกว่าพวกเขาถ่ายกันที่ไหน  เมื่อใบหน้าของทั้งสามคนที่ฉีกยิ้มหวานก็อัดเต็มพื้นที่แล้ว

     

           ดวงตาคมค่อยๆไล่สายตาไปที่ภาพถ่ายที่ติดอยู่ข้างๆ   ปรากฎเป็นรูปถ่ายของพวกเขาอีกใบ ในนั้นมีตัวเขาที่ชูสองนิ้วฉีกยิ้มอยู่ซ้ายสุด ขณะที่อีกสองคนข้างๆกำลังกอดคอกันโดยที่คนนึงกำลังฉีกยิ้มให้กล้อง ดวงตากลมโตฉายแววให้เห็นถึงความสดใส ฉีกยิ้มเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว ขณะที่ดวงตาเรียวของอีกคนไม่ได้สนใจที่จะมองกล้องแต่อย่างใด

    แต่กลับหันข้างไปจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานเจ้าของริมฝีปากรูปหัวใจของคนที่กอดคออยู่ด้วยสายตาที่อธิบายยาก

         

     แต่มันมันก็ไม่ได้ยากเกินไป  ที่จะเข้าใจ……….ว่า แบคฮยอน คนในรูปนี้กำลังคิดอะไรกับคยองซู

     

     

          "มาแล้วหรอชานยอล..."

           จู่ๆเสียงงัวเงียของคนที่เพิ่งตื่นจากนิทราได้เรียกสติของเขาให้กลับมา ชานยอลรีบเช็ดน้ำตาออกอย่างเร่งรีบก่อนจะสาวเท้าไปพยุงคยองซูให้ลุกขึ้นนั่ง
    ก่อนจะเอ่ยปากเชิงตำหนิเมื่อเห็นถ้วยข้าวต้มแทบไม่พร่องลงไปเลย

         "นี่กินหรือดม"

         "ก็มันไม่หิวนี่วะ"

         "แล้วกินยารึยัง"

         "กินแล้วดิ...นี่ไง " 
              
         คยองซูหยิบแก้วใส่ยาที่ว่างเปล่าชูให้ชานยอลดู พร้อมยิ้มตาหยีให้  ส่งผลให้คนมองอดยิ้มตามให้กับความน่ารักของเพื่อนตัวเล็กไม่ได้

         "แล้วแบคฮยอนล่ะ ไม่มาด้วยหรอ"  

          ชานยอลหุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินชื่อนี้อีกครั้ง ดวงตาสีกาแฟหม่นลงโดยที่อีกคนไม่สังเกตเห็น ชานยอบกระพริบตาถี่ ก่อนจะจ้องมองอีกคนอย่างไม่ชอบใจนัก ไม่รู้ว่าควรจะโมโห หรือเสียใจมากกว่ากัน เขายื่นไปจับมือคนตัวเล็ก กอบกุมมันไว้ ก่อนที่คยองซูจะดึงมือออก แล้วเปลี่ยนไปสนใจสิ่งอื่น

         "กูอยู่นี่.." แบคฮยอนเปิดประตูเข้ามาอีกทั้งส่งยิ้มให้คนตัวเล็กที่นั่งพิงพนักเตียงอยู่
    การปรากฎตัวของแบคฮยอนทำให้คยองซูฉีกยิ้มจนแก้มปริ อีกทั้งยังกวักมือให้เข้ามาใกล้ๆโดยเร็ว


         "คิดถึงกูมากเลยรึไง"

         "ใครจะไปคิดถึงอ่ะ" คยองซูบ่นอุบ

         "จริงป้าว งั้นกลับละ" 

         "ไม่ได้ ไม่ให้กลับ" 


         คยองซูตอบหน้าเครียด ก่อนจะตีแขนคนมาใหม่อย่างแรงที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เขา      "แน่ะๆ คิดถึงก็บอกว่าคิดถึงดิวะ"  แบคฮยอนยกยิ้ม ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปใกล้ ชั่วนาที ที่ปากอิ่มกับปากบางจะสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา  ไม่วาบหวาม ไม่ได้ร้อนแรง แต่เป็นสัมผัสที่อ่อนโยนแต่ฉับไว

         "รางวัลสำหรับคนพูดถูกใจ"

          คยองซูหลบตาคนสูงกว่าด้วยความเคอะเขิน ก่อนจะตีแรงๆไปหลายที โดยที่คนถูกตีก็หัวเราะชอบใจ เหมือนเคย


    ทั้งๆที่อยู่แต่ในห้องเป็นอาทิตย์แล้วแต่เขาไม่เคยเบื่อเลย ในเมื่อทุกๆวัน แบคฮยอนจะเข้ามาเยี่ยม และเปลี่ยนให้ห้องสีขาวที่แสนจะจืดชืดกกลับลายเป็นห้องสีสีสดใสขึ้นทันตา


                   'ปัง!!!!'

    คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกันกับที่ชานยอลหุนหันเดินออกไป  ก่อนที่ความรู้สึกผิดจะถาโถมเข้าใส่ ตากลมก็จ้องไปที่ประตูที่เพิ่งปิดลง


     คยองซูลืมไปเลย...ว่ายังมีชานยอลอยู่อีกคน

     

    ***MEMORIZE***

     

           'รูปนี้หมายความว่าไง...'  
                   
            ชานยอลยื่นรูปโพลารอยด์ให้เพื่อนตัวเล็กกว่า ดวงตาคมก็จ้องมองออกไปที่ทะเลสีดำ คลื่นเล็กๆซัดเข้ามาเกยหาดทรายขาว แต่ถึงกระนั้นก็ยังพ้นระยะจากที่นั่งของเพื่อนรักทั้งสองอยู่โข 


           'ไม่เห็นมีไรเลย' แบคฮยอนรับรูปจากเพื่อนไปดูก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่ท่าทีของเพื่อนตัวสูงยังไม่คลายความตึงลง จึงพูดอีกครั้ง

           'มึงมาหึงอะไรกับอิแค่รูปเนี่ย ชานยอล'  มือเรียวอีกข้างที่ไม่ได้ค้ำการทรงตัวอยู่ก็ยื่นไปหยิบกระป๋องเบียร์ยกขึ้นดื่ม กระดกรวดเดียวจนหมด
           ก่อนจะพูดอีกครั้ง

           'หมดแล้วว่ะ...เดี๋ยวกูไปหยิ......'


           หมับ!

    จู่ๆมือเรียวก็ถูกคว้าเข้าพร้อมกับแรงฉุดให้นั่งลงกับที่ พร้อมกับที่ชานยอลพูดเสียงเรียบออกมา

                              
           'นั่งลง แล้วฟังกู' ชานยอลพูดเสียงนิ่ง แต่แบคฮยอนรู้ ว่านี่ไม่ใช่เสียงโทนปกติสักนิด 'กูไม่ได้โง่นะแบค กูแค่ไม่ได้พูดมันออกมา'

           'อะไรวะ...เมาละ พูดไม่รู้เรื่องสัสทั้งๆที่รู้ว่าชานยอลต้องการสื่ออะไร แบคฮยอนก็จงใจตอบเฉไฉ

           ก่อนจะชันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเพื่อนตัวสูงพูดขึ้นมาอีกครั้ง


           'กูก็สงสัยตั้งนานละ แต่ก็เพิ่งแน่ใจวันนี้..'  ชานยอลยิ้มอย่างขมขื่นตาก็จ้องมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า

           'แล้วไงวะ..มึงคิดว่ากูจะแย่งคนรักของเพื่อนได้ลงหรอ!!' แบคฮยอนตะคอกอย่างเหลืออด

           'แล้วถ้าคยองซูชอบมึงล่ะ!!!!'        ชานยอลกระแทกเสียงกลับ

           '.......'

           'กูเคยขอคยองซูคบตั้งหลายรอบแล้วแต่กูก็โดนปฎิเสธทุกครั้ง จนถึงวันที่มึงประกาศคบกับพี่อึนจอง คยองซูกลับเป็นคนที่มาขอกูคบทันที ..... ตอนนั้นกูก็ดีใจนะ แต่มันเหมือนมันไม่สุดว่ะ กูไม่รู้ว่าที่คยองซูขอคบกูเป็นเพราะกูหรือเป็นเพราะมึง '

     

    พูดจบชานยอลก็ยกขาขึ้นชันเข่าแขนยาวโอบกอดขาเอาไว้พร้อมกับก้มหน้าซบลง

    ส่วนแบคฮยอนพอฟังเสร็จก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับความรู้สึกหลากหลายที่ตีกันอยู่ภายในใจ

    เขาคิดมาเสมอว่าคยองซูชอบชานยอล รักชานยอล จนมาถึงวันนี้ พอฟังเรื่องที่ชานยอลพูด แบคฮยอนก็เริ่มไม่แน่ใจ และอยากที่จะคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมา


    ขาเรียวเดินไปหยิบเบียร์ในลังมาสองกระป๋อง ก่อนจะกลับมานั่งข้างเพื่อนตัวสูงที่เดิม พร้อมยื่นกระป๋องนึงให้กับชานยอล ซึ่งอีกคนก็รับมาแต่โดยดี

          'ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดหรอก คยองซูอยู่กับมึงก็ดูมีความสุขดี..พวกมึงคบกันอ่ะ ดีที่สุดแล้วพูดจบก็กระดกเบียร์เข้าปากอีกหน.

    แบคฮยอนก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำตัวเอง  

           แต่ถ้าคนที่ดูแลคยองซู จะเป็นชานยอล มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง

     

     เพื่อนรักทั้งสองนั่งมองท้องฟ้าสีดำที่ถูกประดับประดาไปด้วยดวงดาวเล็กๆระยิบระยับมากมาย   เป็นภาพที่หาดูได้ยากที่ถ้าหากมองจากในเมืองก็คงเห็นเพียงดาวไม่กี่ดวง

    แบคฮยอนสูดอากาศบริสุทธิเข้าปอดพร้อมเอนตัวลงนอนกับพื้นทรายละเอียด


    ชานยอลกำลังจะล้มตัวลงนอน ตาคมหันไปมองคยองซูที่นอนหลับอยู่บนเปลที่ห่างออกไป แบคฮยอนมองตาม ก่อนจะพูดขึ้นทำลายความเงียบ

          'กูว่ามึงพาคยองขึ้นบ้านเหอะวะ นอนนั่นแม่งยุงหามกันพอดี'  

          'แล้วมึงล่ะ'  ชานยอลถาม พร้อมกับยันตัวลุกขึ้น

            'มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูเก็บของตรงนี้ก่อน'

     

     

          ชานยอลลุกขึ้นตามคำบอกของเพื่อนสนิท เดินไปหาร่างเล็ก ก่อนจะอุ้มคยองซูไว้ในท่าเจ้าสาว พร้อมก้มมองใบหน้าของคนที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมแขน
    ปากอิ่มสีชมพูเข้ากันได้ดีกับจมูกเล็กแต่กลับโด่งเข้ารูป ไหนจะดวงตากลมโตที่ตอนนี้ปิดสนิท ยิ่งมอง ก็ยิ่งหวงแหน เขาไม่อยากเสียคยองซูไปให้ใครทั้งนั้น

          ขายาวก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างระมัดระวัง พยายามทำทุกอย่างให้เบา    
    ให้คนในอ้อมแขนอยู่ในท่าที่สบายที่สุด และไม่ตื่นขึ้นมากลางคัน 
    เมื่อถึงห้องนอนก็ค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงนุ่ม มือหยาบเอื้อมมือไปหยิบรีโมทแอร์พร้อมปรับอุณหภูมิเพื่อให้คนตัวเล็กได้นอนสบายๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป


    ชำระความเหนื่อยล้าที่เล่นซนมาทั้งวัน ล้างเศษทรายที่คนตัวเล็กแกล้งโกยมาโบกบนตัวเขา นึดถึงเสียงหัวเราะอย่างสะใจที่ยังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะโกรธ

    มือแกร่งเสยผมที่เปียกชื้นขึ้น หัวเราะเบาๆให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเอง ที่พอนึกถึงคยองซูทีไร ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เลย .......  

     

    แบคฮยอนเก็บกวาดเศษขยะเสร็จก็เดินปัดป่ายเตะขาไปมาจนเดินขึ้นมาถึงบ้านพักตากอากาศของชานยอล แม้จะแยกห้องนอนกันเป็น3ห้อง แต่แบคฮยอนก็จงใจเข้าไปในห้องของคยองซูก่อนเป็นอันดับแรก

     ทิ้งน้ำหนักตัวลงจนเตียงนุ่มยวบไปตามแรงกด คยองซูยังคงหลับสนิทอยู่อย่างนั้น มือเรียวถือวิสาสะยกขึ้นเกลี่ยผมบนใบหน้าหวานเผยให้เห็นหน้าผากมน และที่ปลายคิ้วมีรอยแผลเป็นเล็กๆอยู่

     

           'อย่าร้องนะ เดี๋ยวเค้าพาคยองซูไปโรงพยาบาลเอง

           เด็กตัวอ้วนๆในวัย7ขวบพูดปลอบเพื่อนตัวเล็กที่งอแงอยู่บนหลัง โดยแขนเล็กเกาะคล้องคอเด็กตัวอ้วนไว้มั่น

    ที่หางคิ้วของเด็กขี้แยมีเลือดไหลเป็นทางยาวจากการเล่นซนจนสะดุดล้มหัวไปชนกับคานไม้กระดก แบคฮยอนตัวน้อยตกใจมาก ถึงขั้นเกือบจะร้องไห้ตามคนเจ็บ

    แต่ในเมื่อแถวนั้นไม่มีผู้ใหญ่หรือใครที่โตกว่าเลย จึงได้กัดฟันปลอบเพื่อนแม้ว่าตัวเองก็กลัวมากไม้แพ้กัน

     

           แบคฮยอนยิ้มให้กับความทรงจำในวัยเด็ก คยองซูยังคงเหมือนเดิมทั้งขี้แย และ ขี้โรค แม้คนตัวเล็กจะชอบตีเขาและใครต่อใครมองว่ามือหนักแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆนี้จะแข็งแรงอะไร

    ทุกครั้งที่โดนตี โดนล็อคคอ เขาก็จะทำเหมือนว่าเจ็บมากๆ ทั้งที่จริงแล้วคยองซูก็เหมือนลูกแมวที่พยายามตะปปมือเจ้าของ ทั้งๆที่เล็บยังทู่และมือเล็กนั่นก็แสนจะนุ่มนิ่มไม่มีพิษสง

                                 
         นอกจากนี้คยองซูก็ยังเป็นคนหัวรั้น รู้ว่าตัวเองป่วยงง่ายแต่ชอบเล่นน้ำฝน รู้ว่าตัวเองชอบหน้ามืดก็ยังชอบเล่นในที่แจ้ง รู้ว่ามาทะเลช่วงนี้แล้วจะหนาว ก็ยังคะยั้นคยอชวนมาจนได้   และก็เล่นจนหมดแรงหลับไปแบบนี้

     

          'แค่กๆ'        ไม่ทันไร เสียงไอก็ดังออกมาจากคนตัวเล็กที่ขยับเปลี่ยนท่านอนจนคุดคู้เหมือนกุ้ง     ราวกับเป็นการตอกย้ำความคิดของเขา      ว่าคนตัวเล็กคนนี้ช่างอ่อนแอเหลือเกิน

    แบคฮยอนรีบกระชับผ้าห่มให้คนตัวเล็กพร้อมเบาแอร์ไม่ให้มันเย็นจนเกินไป คิ้วเรียวขมวดขึ้นเป็นปมหลังจากยื่นมือไปแตะหน้าผากคนตัวเล็กสลับกับจับที่หน้าผากตัวเอง

           'ต้องเช็ดตัวๆ

         แบคฮยอนพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้องและกลับเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัวและกะละมังใส่น้ำอุ่นอีก1ใบ
    มือเรียวบรรจงถอดกระดุมเสื้อของคนที่ไข้ขึ้นออกเผยให้เห็นร่างกายผอมบางของร่างเล็ก ผิวขาวละเอียดนั้นทำให้นึกอิจฉา แล้วก็ดึงดูดด้วย


         มือเรียวบิดผ้าที่ชุบน้ำพอหมาดๆ และเริ่มเช็ดตัวให้คนตัวเล็กด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ลากผ้าขาวเช็ดเบาๆที่ใบหน้าหวานของคนตัวเล็ก
    ปากอิ่มสีแดงระเรื่อบวกกับลมหายใจร้อนของคนตรงหน้าเป็นสิ่งที่อันตรายมากที่สุดแล้วในตอนนี้

            

            แบคฮยอนสบัดหัวไปมาไล่ความคิดฟุ้งซ่าน พลางย้ำพูดกับตัวเองอีกครั้ง

     

         'เช็ดตัวให้แฟนเพื่อนๆ'             พูดมันออกมาเบาๆ ก่อนจะเป่าลมออกจากปากเรียกสติให้กลับคืนมา

    นิ้วเรียวบรรจงลากผ้าขาวลงต่ำเช็ดบริเวณซอกคอ ลากผ่านไหปลาร้าผ่านแผงอกเล็กที่แทบไม่มีกล้ามเนื้อเลย ก่อนจะลงเรื่อยถึงสะดือแล้วหยุดไว้แค่นั้น..

     

           'ต่อไป..ต้องเช็ดหลัง'

           แบคฮยอนพึมพำกับตัวเองอีกครั้งราวกับคนย้ำคิดย้ำทำ พยายามดึงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก
    ประคองอีกคนให้อยู่ในอ้อมกอด โดยให้คางของคนตัวเล็กเกยคางที่ไหล่ของตนเอาไว้ ทั้งสองแนบชิดกันจนแทบไม่มีที่ว่างให้อากาศผ่าน

    ผิวขาวของร่างเล็กที่เปลื่อยเปล่ากำลังแนบชิดติดกับตัวของเขา จนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันยากไปเสียหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งการกลืนน้ำลาย  และมันน่าอายที่เขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองชัดเหลือเกิน

     

    เมื่อเช็ดตัวให้คยองซูเสร็จก็ค่อยๆให้อีกคนนอนราบลง คยองซูยังคงหลับไม่รู้เรื่องเช่นเคย มือเรียวก็ติดกระดุมให้คยองซูอย่างระมัดระวัง
    ก่อนจะนั่งมองวงหน้าของเพื่อนสนิทอยู่นาน มือเรียวยื่นไปจะจับใบหน้าของคนตัวเล็กอีกครั้ง ก่อนจะชักมือออกอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงประตูดังขึ้น
     ชานยอลที่เปิดประตูเข้ามามองหน้าแบคฮยอนนิ่ง หัวคิ้วที่ชิดกันเป็นปมรีบทำให้แบคฮยอนโบกมือไปมาพร้อมพูดโพล่งออกไป


          'ค..คยองซูตัวร้อน...ฉันก็แค่จะเช็ดตัวให้'


    ได้ยินดังนั้นคนตัวสูงก็รีบพรวดเข้ามา ใช้มืออุ่นจับหน้าผากและคอของคนรัก แบคฮยอนที่นั่งที่ขอบเตียงก็ลุกเขยิบหนีออกมาให้อีกคนนั่งแทนที่


          'กูเช็ดตัวให้แล้ว ตัวเย็นขึ้นละล่ะ'      แบคฮยอนพูดยิ้มๆ

         'ขอบคุณ... ' ชานยอลพูดเสียงเรียบ 'แต่วันหลัง.........ให้กูทำเถอะ

         ชานยอลพูดพลางยื่นมือไปลูบหัวคนรักอย่างห่วงใยโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าแบคฮยอนที่สีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอีกคนก็สวนกลับไปอย่างเหลืออด

                       
          'มึงจะอะไรนักหนาวะ คยองซูก็เพื่อนกูนะ!..มึงอย่าหึงไม่เข้าเรื่องเลยว่ะ!'

          พูดจบก็เดินหนีออกไป      ทิ้งให้ชานยอลต้องก้มตาลงต่ำ ทบทวนสิ่งที่แบคฮยอนพูด

                          
     มันก็จริง....คยองซูก็เป็นเพื่อนแบคฮยอน....เพื่อนตั้งแต่เด็กๆ


    แต่ในเมื่อตอนนี้..แบคฮยอนไม่ได้คบกับพี่อึนจองแล้ว และสายตาที่แบคฮยอนมองคยองซู มันก็ยากที่จะสนิทใจ...ยากที่จะเชื่อ ว่าอีกคนไม่ได้ชอบคยองซูเลย ถ้าอย่างนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะหวงคยองซูรึป่าว

     

     

    TBC

     

     

    [TALK]

    เปิดฟิคเรื่องใหม่ เย้ๆ 5555 เค้าบรรยายงงไหมอ้ะ  เรื่องนี้จะเล่าย้อนเหตุการณ์สลับกับปัจจุบัน เรื่องนี้ก็หลุดไม่พ้น3พี แต่เป็นแบคโด้เนอะ อารมณ์หน่วงๆ อึมครึม เช่นเคย แต่เพิ่มความเศร้าเป็นทวีคูณจากโด้สับสน 555

    ฝากแทก  #ฟิคคิดถึงแบค   ไปเล่นแท็กกันเยอะๆนะคะ ^^

     

    ...กลับมารีไรท์ 

    ขอบคุณที่อ่านค่า    #ฟิคคิดถึงแบค

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×