ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    13 Hunted : เกมล่าวิญญาณ

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 >>> Start Game

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 48


                    13 Hunted : เกมล่าวิญญาณ

                    Chapter 2 >>> สตาร์ทเกม



        เกมเริ่มเวลา  01.09 นาที



        เมื่อเฮลิคอปเตอร์ทั้งสิบสามลำบินหายลับตาไป  ผืนป่าก็กลับสู่ห้วงความมืดอีกครั้ง    ไคที่กำลังมึนๆเพราะลมจะใส่หลังจากฟังกติกา   เขาอยากจะเดินไปถามแต่ละคนว่า..

    “ไอ้ภารกิจที่ว่า...มันคืออะไร”

    แต่ทุกคนกลับกระจายตัว   และเดินกันไปคนละทิศคนละทาง



        “คุณครับๆ  ไม่ทราบว่าจะไปไหน”



        แม้จะมืดมิดสักเท่าไหร่  แต่ไคก็เริ่มชินกับมันและพยามยามเพ่งมองจนเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้รางๆ

    ผมเธอยาวสลวยปลิวไปตามแรงลมจากป่ายามค่ำคืน   หญิงสาวยิ้มที่มุมปากหลังจากเงียบไปนาน    ทำให้ไคมีความหวังมากขึ้นว่าจะได้คุยกับเธอ



        “ออกไปให้พ้นทาง   ฉันยังไม่อยากกระทุ้งไส้นายออกมาตอนนี้”

        คำพูดดุดันของเธอเล่นเอาไคขนลุกขึ้นมาทันที   ชายหนุ่มจึงหลบทางให้และเธอก็เดินจากไป



        “หญิงอะไรวะร้ายชิบ...จะชวนนอนด้วยกันซะหน่อย   อดเลยตู”

        ( โธ่เอ้ย...ที่แท้ตาไคก็คิดลามกนี่เอง....ถึงว่า >.< )



        “มืดๆแบบนี้ไม่รู้จะเดินไปไหน  นอนมันใกล้ๆนี่แหละวะ”

        ไคเดินสำรวจรอบๆบริเวณ  เขาพบกับพื้นหญ้าที่มีที่กว้างพอสำหรับแมวดิ้นตายได้หนึ่งตัว   ไคเปิดเป้ของเขาเอาถุงนอนออกมา  เขาจะนอนตรงนี้แหละ



        “ว้าว....ใช้ได้แหะ”

        ไคค้นสิ่งต่างๆที่ถูกจัดใหม่ในเป้เขาพบ  ปาล์ม   ไฟฉาย   อาหารกึ่งสำเร็จรูป  น้ำดื่ม  และอาวุธปืน



        ไคหยิบปืนสั้นขึ้นมาพิจารณา   มันเป็นปืนสั้นขนาดพกพาบรรจุกระสุนได้ครั้งละ 15  นัด  แถมยังมีลูกกระสุนสำรองให้อีกหนึ่งกล่อง   และไคหยิบอีกสิ่งหนึ่งขึ้นมาซึ่งเขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร

        

        “อะไรวะเนี่ย....เหมือนรอยตีนหมาตอนเหยียบปูนไม่แห้งเลย”

        หลังจากพิจารณาไอ้เจ้าสิ่งนั้นอยู่นาน  ไคก็เพิ่งจะรู้ว่ามันสามารถสวมนิ้วมือทั้งห้าเข้าไปได้อย่างพอดิบพอดี   ซึ่งมันก็บอกให้เขารู้ทันทีว่ามันคือ...  



    “สนับมือ”



    ไคเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างรวมถึงอาวุธเข้าในเป้และเขาก็เผลอหลับไปจนรุ่งเช้า



    “ ติ๊ด.........ติ๊ด..........ติ๊ด ”  

    เสียงสัญญาณจากปาล์มดังขึ้น   มันปลุกให้ไคตื่นขึ้น   เขาลุกนั่งอย่างงัวเงียก่อนจะขยี้ตาและเปิดเป้เพื่อหยิบปาล์มขึ้นมาดู



    หน้าจอหลักตอนนี้คือแผนที่   แสดงตำแหน่งที่ไคอยู่ที่พิกัด ( 132 , 75 )  มีสัญญาณเตือนข้อความเข้ามา   ไคกดรับและข้อมูลก็ปรากฏขึ้น....



    “ภารกิจแรกของวันที่หนึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วมีชื่อภารกิจว่า....ตามล่าแอปเปิ้ลเขียว”



    “มีเวลาจำกัดหลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง   ปาล์มของคุณจะแสดงตำแหน่งของแอปเปิ้ลเขียวทั้ง 12 ลูกพร้อมทั้งพิกัด   รีบๆไปให้ทันก่อนจะหมดนะ   ขืนช้าคุณอาจจะเป็นผู้แพ้ได้”



    หลังจากอ่านข้อความเสร็จ  ตัวเลขสีแดงกะพริบก็ปรากฏที่หน้าจอปาล์มทันที   มันคือเลขบอกเวลา



    0 : 59 : 59



    มันกำลังนับถอยหลัง  



    ไคตบหน้าตบเองสองสามทีเพื่อที่จะให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน   เขารีบเก็บถุงนอนและอุปกรณ์ต่างๆ   มีเพียงสองอย่างเท่านั้นที่เอาออกมาจากเป้  คือ   ปาล์มและปืนพก



    ไคพิจารณาหน้าจอปาล์มพร้อมเสียงเตือนถี่ๆที่ดังขึ้นตลอดเวลา   ไคกดเข้าไปที่หน้าแผนที่หลัก   จุดแดงกะพริบทั้งสิบสองจุดกำลังมีบางจุดหายไป  นั่นแสดงว่า   ใครบางคนได้เก็บเอาแอปเปิ้ลเขียวไปแล้ว  



       เมื่อดูที่แผนที่พบว่าจุดแดงแต่ละแห่งห่างจากจุดที่ไคยืนไม่ต่ำกว่าสิบกิโลเมตรทั้งนั้น    จะมีเพียงสองจุดที่อยู่ติดกันและใกล้เขามากที่สุด   คือระยะทางเกือบเจ็ดกิโลเมตร   ที่ป่าสนริมลำธาร   พิกัดห่างจากไคไปทางทิศตะวันออกหกจุดแปดกิโลเมตร



    ไม่รีรอไครีบออกวิ่งไปในทันที



    ไม่ต่างอะไรจากการแข่งวิ่งมาราธอนในโอลิมปิกเกมเลย  เหลือระยะทางอีกเพียงห้าร้อยเมตรไคก็จะถึงที่หมายแล้ว   ในขณะที่เวลากระชั้นเข้ามาทุกที



    0 : 10 : 25





    “ ซวยแล้วตู  แฮ่กๆๆๆๆ ” ไม่มีเวลาแล้ว  ไม่มีแม้กระทั่งเวลาหยุดหอบ   ไควิ่งลัดเลาะตัดผ่านสุมทุมพุ่มไม้ไปในทันที  



    และแล้วเขาก้มาถึงที่หมายจนได้  กับเวลาที่เหลืออยู่อีกแค่ห้านาที



    “ แฮ่กๆๆๆๆ ” ไคยืนหอบอยู่ข้างลำธาร  เบื่องหน้าเขาคือน้ำตกเล็กๆ  ฝั่งตรงข้ามกับที่เขายืนคือป่าสนล้านปี   ซึ่งต้นสนแต่ละต้นสูงชะลูดเทียมฟ้า  ไม่รอช้าไควิ่งฝ่ากระแสน้ำเอื่อยๆและตื้นเขินในลำธารไปยังอีกฝากทันที



    “ แอปเปิ้ลเขียวรอก่อน....ผมมาแล้ว”



    เมื่อข้ามมาอีกฝาก  ไคก็อยู่ในบริเวณป่าสนโดยสมบูรณ์   มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นสนสูงลิบไปหมด     แต่มันไม่มีร่องรอยแอปเปิ้ลเขียวเลย



      ไคหยิบปาล์มขึ้นมาดูอีกครั้ง   จุดแดงยังอยู่และพิกัดของมันคือรัศมีรอบตัวเขาไม่เกินร้อยเมตร   ไคพยายามเพ่งมองหาให้ทั่ว   เขาหมุนตัวหนึ่งรอบอย่างช้าๆและในที่สุดก็พบสิ่งที่เขาต้องการ



    ไม้ยืนต้นสูงราวไม่เกินสามเมตรมีใบปกคลุมหนาแน่น   ต่างจากต้นสนโดยรอบอย่างเห็นได้ชัด   วินาทีนั้นสายตาของไคก็พบกับผลสีเขียวของต้นไม้นี้    ใช่แล้ว....มันคือแอปเปิ้ลเขียวนั่นเอง



    ไควิ่งเข้าหาต้นไม้นั้นทันที   เขาวิ่งใกล้เข้าไปเรื่อยๆ  เรื่อยๆ .........



    บัดนี้ลูกแอปเปิ้ลเขียมอยู่ห่างจากเขาเพียงเอื้อมมือเท่านั้น   ไคย่อตัวลงเขาสะสมแรงไว้ที่ข้อเท้าเพื่อสปริงตัวขึ้นไปหยิบแอบเปิ้ลเขียวนั้น    และวินาทีที่มือของเขาอยู่กลางอากาศนั่นเอง...



    “ ฟับ บ บ บ บ ......... ”



    ดาบซามูไรสีเงินตัดผ่านอากาศ   เฉียดมือไคไปไม่ถึงหนึ่งเซน    พร้อมกับลูกแอปเปิ้ลที่หายวับไป...



    “ ไง....สงสัยนายจะช้าไปแล้วล่ะ ”



    น้ำเสียงนี้บอกให้ไครู้ทันทีว่าเธอคือสาวน้อยที่เขาได้คุยเมื่อคืนนั่นเอง...



    ไคพิจารณาเธอตั้งแต่หน้าตาและรูปร่าง...  เธอเป็นคนผิวขาวใส  ปากสีชมพู  สวยใช้ได้ในความคิดของเขา   แถมยังหุ่นดีเหมือนนางแบบอีกต่างหาก   เธอสวมแจ๊คเก็ตยีนทับสายเดี่ยวข้างใน   ใส่กระโปรงผ้าสีขาว   และสวมรองเท้าบู๊ตครึ่งเข่าสีน้ำตาล   หญิงสาวยืนโชว์หุ่นเซ็กซี่ของเธอใกล้แค่เอื้อม    มือขวาเธอยังถือดาบซามูไร  ส่วนมือซ้ายถือแอปเปิ้ลเขียว





    ไคน้ำลายยืดโดยไม่รู้ตัว  นั่นเป็นเพราะเขากำลังจินตนาการถึงเธอผู้นี้อยู่...  ไคตาค้างอยู่นาน   จนเธอทนไม่ไหวเอ่ยปากขึ้นในที่สุด



    “ นี่นาย....จะจ้องฉันอีกนานมั๊ย”



    “เดี๋ยวแอปเปิ้ลเขียวอีกลูกที่เหลือก็ชวดหรอก”



    น้ำเสียงหญิงสาวยังดุดันเช่นเคย   มันเรียกสติไคคืนมา    เขาละสายตาจากเธอ(แม้ว่าไม่อยากทำ)ไปยังแอปเปิ้ลเขียวอีกลูกซึ่งอยู่ใกล้ๆกับตำแหน่งเดิม



    ไคย่อตัวลงอีกครั้ง  เขากำลังจะทำแบบเดิม   แรงสปริงจากเท้า   วินาทีที่ไคกระโดดขึ้นฟ้า   และ...



    “ ระวัง.............”



    “ ผลั๊กกกกกกกกกกกกก”



    หญิงสาวกระโดดกระแทกร่างไคอย่างแรงจนทั้งคู่กระเด็นไปหลังต้นไม้



    “ ปัง    ปัง   ปัง    ปัง   ปัง   ปัง    ปัง   ปัง    ปัง   ปัง”



    เสียงปืนถี่รัว   ลูกกระสุนนับสิบวิ่งผ่านจุดที่ไคและเธอยืนอยู่เมื่อครู่นี้



    “เธอ...........”



    ไคกำลังจะพูดต่อ   แต่หญิงสาวผลักหน้าเขาให้หันไปมองอีกทาง   สิ่งที่ไคเห็นทำให้เขาต้องตกตะลึง   เพราะคนที่กราดยิงใส่เขาเมื่อครู่คือชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำผิวคล้ำ    เขาสวมชุดสีขาวของนักเทควันโด้ที่เอวคาดสายสีดำ     ที่สำคัญในมือเขามีปืนกลอยู่ด้วย



    ไม่ได้การแล้ว   ไคพิจารณาปืนสันในมือเขา   มันไม่มีทางเทียบได้กับปืนกลชั้นดีกว่า  อย่างมากก็ทำได้แค่ยิงตอบโต้   เพื่อให้เขาอยู่ระยะไกล   เพราะถ้าให้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้   มีหวังไม่รอดแน่..........











      1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  1  3  







                                          2   l3 E    C o n t i N u E  



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×