สงครามเย็น,ความขัดแย้ง,การสานประโยชน์ทางการเมือง

ลำดับตอนที่ #8 : สาเหตุของความขัดแย้ง

สาเหตุของความขัดแย้ง
ความแตกต่างทางด้านสังคมวัฒนธรรม 
ได้แก่ ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ภาษา ศาสนา ความรังเกียจเดียดฉันท์ ความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน การเลือกปฏิบัติกับกลุ่มต่างๆในสังคมอย่างไม่เท่าเทียม การขาดขันติธรรม สิ่งต่างๆเหล่านี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ เช่น ความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ ระหว่าง ชาวผิวดำซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิม กับ ชาวผิวขาวที่อพยพเข้าไปในประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้

ความแตกต่างทางด้านอุดมการณ์
อุดมการณ์ หมายถึงความเชื่อหรือแนวคิดที่ถือว่าเป็นมาตรฐานแห่งความจริงทางใดทางหนึ่งที่มนุษย์ถือว่าเป็นเป้าหมายแห่งชีวิตของตน ความแตกต่างทางด้านอุดมการณ์มีทั้งด้านอุดมการณ์การเมือง และอุดมการณ์เศรษฐกิจซึ่งก็ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้

ประเภทของลัทธิทางการเมือง

ลัทธิการเมือง หมายถึง แนวความคิดอย่างเป็นระบบที่รัฐนำมาใช้เป็นนโยบายสำหรับดำเนินการนโยบายบริหารประเทศ อาจจำแนกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆได้ 2 กลุ่มคือ

1.ลัทธิการเมืองแบบอำนาจนิยม ได้แก่ ลัทธิการเมืองที่เน้นถึงอำนาจของรัฐเป็นสำคัญ และให้ความสำคัญต่อสิทธิเสรีภาพบุคคลน้อย ได้แก่ สังคมนิยม ซึ่งเป็นลัทธิการเมืองของประเทศสหภาพโซเวียต คอมมิวนิสต์ ลัทธิทางการเมืองในประเทศจีน ซึ่งเริ่มโดยเหมา  เจ๋อตง และดำเนินมาถึงปัจจุบัน   ฟาสซิสต์เป็นลัทธิทางการเมืองที่เบนิโต มุโสลินี  นายกรัฐมนตรีของอิตาลีนำมาบิหารประเทศ และนาซีซึ่งอดล์ฟ ฮิตเลอร์นำมาใช้ในระยะก่อนและระหว่างสงครามโลกครั้งที่2

2.ลัทธิทางการเมืองแบบเสรีนิยม คือ ลัทธิทางการเมืองที่เน้นถึงสิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคลในการดำเนินกิจการต่างๆ โดยรัฐมีอำนาจอย่างจำกัด ระบอบปกครองในลัทธิเสรีนิยมได้แก่ ระบอบปกครองแบบเสรีนิยมประชาธิปไตยซึ่งเป็นระบอบการปกครองที่ให้ประชาชนได้ปกครองตัวเองโดยผ่านผู้แทนและสามารถตั้งและควบคุมรัฐบาลได้ นอกจากนี้บางประเทศยังมีระบอบการปกครองแบบสังคมนิยมประชาธิปไตยที่รัฐเข้าไปดำเนินการแทรกแซงวิถีชีวิตและกิจกรรมของประชากรบางด้าน เพื่อกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมในสังคม