คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2
ณ โรงแรมรามันเป็นโรงแรมที่ขึ้นชื่อและอยู่ในศูนย์การค้าของย่านนี้โดยเฉพาะพวกนักธุรกิจที่ต้องนัดลูกค้ามาทานข้าวหรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นการเจรจาธุรกิจ ในโรงแรมรามันยังมีร้านอาหารรามันที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารและบรรยากาศ เพราะร้านนี้จัดร้านได้เป็นสัดเป็นส่วนแถมบรรยากาศทำให้ผ่อนคลายไม่ทำให้เครียด ดังนั้นจึงเป็นที่พบปะของพวกนักธุรกิจ ไม่มีแค่ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อแต่ในตัวโรงแรมรามันยังแบ่งเป็นโซนๆ เช่น ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ไนต์คลับ โรงยีม สระว่ายน้ำ ศูนย์ออกกำลังกายครบวงจร ศูนย์ทำสปา และอื่นๆอีกมากมาย
รินลดาชะงักเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตากับหญิงสาวนางหนึ่งกำลังหัวเราะต่อกระซิกกันเดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่หล่อนนั่งเจรจาธุรกิจอยู่กับนทีซึ่งเป็นว่าที่สามีของพัชรีเพื่อนรักของหล่อน นทีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของหล่อนมานานตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่เป็นเพื่อนรักกัน มีช่วงหนึ่งที่บริษัทของคุณพ่อมีปัญหาจนเกือบล้มละลายก็ได้คุณอภินันท์ซึ้งเป็นคุณพ่อของนทีช่วยบริษัทเอาไว้ได้แต่ช่วยคุณพ่อไว้ไม่ได้เพราะท่านป่วยเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ท่านได้ปิดเอาไว้ไม่ให้หล่อนรู้เรื่องนี้เพราะท่านกลัวหล่อนร้องไห้เสียใจไม่เป็นอันทำงานอย่างที่หล่อนตั้งใจไว้ว่าจะช่วยท่านทำงานและบริหารงานแทนท่าน คุณลุงอภินันท์พูดให้หล่อนฟัง หลังจากท่านเสียชีวิต ยังดีที่หล่อนได้เรียนรู้งานมาบ้างจากท่านเลยไม่มีปัญหาอีกอย่างหล่อนยังมีคุณลุงอาจที่เป็นเลขาของคุณพ่อได้ช่วยสอนงานหล่อนได้มากแต่ที่น่าสงสัยคือคุณดารนีซึ้งเป็นคุณน้าแท้ๆ ของหล่อนกลับไม่สนใจใยดีหล่อนเลยทั้งยังพูดจากับหล่อนเหมือนหล่อนเป็นตัวขัดขวางอะไรสักอย่างของเขา แต่หล่อนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะยังไงเสียคุณดารนีก็เป็นน้าแท้ๆ ของหล่อน
หล่อนร้องไห้เสียใจอีกครั้งที่มาเสียคุณพ่อไปหลังจากร้องไห้ให้กับคนรักที่คบกันมาตั้งสี่ปีเห็นฐานะทางการเงินของหล่อนไม่เหมือนเดินมาบอกเลิกกันทั้งๆ ที่ตกลงจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้า
หล่อนรู้ว่าเทวายังรักหล่อนแต่เขารักแม่ของเขามากกว่าเขาเชื่อคำพูดของแม่เขามากกว่าเหตุผล หล่อนรู้ว่าเขาไม่ผิดแต่หล่อนเสียใจที่เขากล่าวหาว่าหล่อนเป็นคนบริหารงานได้ไม่ดีทำให้บริษัทของครอบครัวเสียหายถ้าแต่งงานด้วยแล้วหล่อนอาจจะทำให้บริษัทของเขาเสียหายไปด้วย
“ริน ริน เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงของนทีทำให้ความคิดของหล่อนหยุดลงแล้วหันมายิ้มให้กับเขา
“ปะ...เปล่าค่ะพี่ที รินไม่ได้เป็นอะไร เข้าเรื่องของเราต่อดีกว่าค่ะ” รินลดาพูดเมื่อยังเห็นนทียังจ้องมองหล่อนอยู่
“แน่ใจนะ เพราะพี่เห็นเราเหม่อมองใครอยู่” หล่อนกลืนน้ำลายลงคอเมื่อรู้ว่านทีจับได้ว่าหล่อนไม่ได้สนใจฟังเขาพูด
“รินไม่ได้มองใครหรอกค่ะ รินกำลังคิดตามพี่นทีต่างหาก”
“OK ถ้ารินพูดว่าไม่ได้เหม่อมองหนุ่มคนที่เดินเข้ามาเมื่อกี้มากกว่ามองพี่ พี่ก็ไม่รู้ว่าจะคาดขั้นยังไงล่ะ”
“โถ...พี่ทีก็อย่ามาใส่ร้ายกันนะ ก็รินบอกแล้วไงว่ากำลังคิดตามที่พี่พูดอยู่” หล่อนยังเถียงหัวชนฝา
“จ๊ะๆไม่ได้มองก็ไม่ได้มอง ไอ้เราก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลยทำเป็นขึ้นเสียงใสเราซะได้”
“พี่นที” เสียงหล่อนปรามมา
“จ๊ะ ไม่แกล้งแล้วจ๊ะ พี่ก็แค่พูดให้รินคลายเครียดเท่านั้นเอง” นทีมองหน้าหญิงสาวแล้วก็ยิ้ม
ทำไมน่าผู้หญิงตรงหน้านี้ไม่ใจตรงกับเรา เขารู้ว่าหล่อนรู้ว่าเขาชอบหล่อนมานานแต่หล่อนกลับทำเฉยแล้วไปคว้าไอ้หน้าหม้อนั้นเสีย เขาเคยเตือนหล่อนหลายครั้งแล้วว่าอย่าคบกับนายเทวาให้มากแล้วจะเสียใจเพราะนายคนนี้เป็นคนเห็นแก่ตัวเจ้าชู้และมักจะหลอกล้อผู้หญิงรวยๆ มาปลอกลอกให้แม่ของมันที่ติดการพนันจนตอนนี้แทบไม่เหลืออะไรเลยแต่หล่อนไม่ฟัง
ยังดีที่ยังไม่ถึงกับแต่งงานกันก็มามีเรื่องเกิดขึ้นเสียก่อน หมอนั่นก็เลยบอกเลิกกับรินลดาไปมันคงเป็นบทเรียนให้กับหล่อนได้บ้าง ส่วนเขาก็สงสารหล่อนแต่กลับทำอะไรไม่ได้จะให้เขาไปปลอบใจอย่างแต่ก่อนก็ไม่ได้แล้วเพราะเขาได้เจอคนที่รักอย่างพัชรีซึ้งเป็นเพื่อนรักของรินลดาไปแล้วและตอนนี้เขาก็คิดกับหล่อนเป็นแค่น้องสาวเท่านั้นและก็รักหล่อนห่วงหล่อนอย่างน้องสาวของเขาคนหนึ่งไปแล้วด้วยและเขาหวังว่ารินลดาจะเจอคนที่รักและเหมาะสมกว่าเขาได้
“พี่ทีค่ะแล้วเรื่องของ...”
“รินไม่ต้องห่วง พี่พอจะรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของใคร”
“หมายความว่าไงค่ะ”
นทียิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า
“ตอนนี้พี่ยังบอกรินไม่ได้รอให้พี่แน่ใจกว่านี้ก่อนแล้วพี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง”
ในเมื่อนทียืนกรานที่จะยังไม่พูดหล่อนก็ไม่คิดจะคาดคั้นเอากับเขาเพราะรู้ว่านทีต้องมีเหตุผลที่จะยังไม่บอกอะไรกับหล่อนในตอนนี้
พอหล่อนจะยกน้ำส้มที่อยู่ตรงหน้าขึ้นจิบ สายตาหล่อนก็ไปสบเข้ากับดวงตาคมกริบที่จ้องมองหล่อนไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว
เขานั่งอยู่กับผู้หญิงที่มากับเขาแต่สายตาของเขาทำไมต้องจ้องมองหล่อนด้วยทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นก็กำลังพูดคุยอยู่กับเขาเหมือนเขาไม่ได้สนใจที่ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยเลย
ผู้ชายอะไรเสียมารยาทจริงๆ แฟนตัวเองนั่งอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่สายตากับจ้องมองดูผู้หญิงคนอื่น ทุเรศ ไอ้ผู้ชายหลายใจ ทำไมต้องมาเจอะมาเจอกันอีกนะโลกมันกลมเสียจริงๆ
หรือที่เขามองเราเขาจะจำเราได้ ไม่หลอกมั้งก็ในเมื่อวันนั้นหล่อนแต่งตัวต่างจากวันนี้
วันนี้หล่อนแต่งชุดสูทเข้ารูปกระโปรงเลยเข่ามานิดก็ตรงตรามาตรฐานแถมวันนี้หล่อนยังสวมแว่นตาและผมหล่อนยังรวบเกล้าไว้อย่างดีเหมือนนักธุรกิจทั่วไปที่ต้องทำตัวกระฉับกระเฉง
ผิดจากวันนั้นที่หล่อนสวมชุดแสกรัดรูปยาวกุมเท้าสีทองอาล่ามปล่อยผมลอนสีน้ำตาลยาวสลวยจนเกือบจะถึงเอวปกปิดส่วนที่เว้าของชุดด้านหลังที่เกือบจะมองเห็นผิวขาวอบชมพูอย่างผิวสุขภาพดี
หล่อนเริ่มใจคอไม่ดีเพราะมองเห็นเขามองหล่อนลงไปเลื่อยๆ หล่อนรู้ว่าเขากำลังมองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าและวกขึ้นมามองหน้าอกหล่อน
หญิงสาวรีบเอามือขึ้นกอดอกแล้วส่งสายตาค้อนกลับไปหาเขาเป็นวงใหญ่ เขายิ้มกลับมาให้หล่อนอย่างล้อเรียนจากนั้นเขาก็จ้องมองริมฝีปากหล่อนแล้วยกแก้วเบียร์ที่อยู่ตรงหน้าเขาขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเลียริมฝีปากของเขาที่มีฟองเบียร์ติดอยู่โดยที่ตาของเขายังคงมองริมฝีปากของหล่อน
หล่อนเม้มริมฝีปากเหมือนไม่อยากให้เขามองแล้วขึงตาดุใส่เขาให้เขารู้ว่าหล่อนไม่พอใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาเขากลับหัวเราะใส่หล่อนจนแฟนเขาที่อยู่ตรงหน้าเขาทำหน้างงเต๊ก
“เป็นอะไรรินทำไมถึงต้องกอดอกหนาวเหรอไม่สบายหรือเปล่า”
นทีไม่พูดเปล่าเขายังเอื้อมมือมาแตะตรงหน้าผากอย่างห่วงใย หล่อนรู้ว่าตอนนี้นทีไม่ได้คิดกับหล่อนเหมือนแต่ก่อนแล้วหล่อนก็เลยไม่ปัดป้องเหมือนแต่ก่อน หล่อนกลับรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้รับไออุ่นจากพี่ชาย หล่อนยิ้มให้กับความห่วงใยของนทีที่มีต่อหล่อน
พลันสายตาก็กลับไปมองเขาคนนั้นอีกครั้งจากที่เห็นเขาหัวเราะตอนนี้กลับเห็นเขาทำหน้าทะมึนดูน่ากลัวกลับมาหาหล่อนเขาขมวดคิ้วสายตาดูแข็งกร้าวบอกให้รู้ว่าเขากำลังขุ่นข้องใจอะไรบางอย่าง
เขาเป็นอะไรของเขานะเดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็หัวเราะ และตอนนี้ก็ทำหน้าแค้นเคืองเหมือนกำลังโกรธใครอยู่ ช่างเขาสิเขาจะทำหน้ายังไงมันก็เรื่องของเขาเราไม่สนใจเสียอย่าง
“รินไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ พี่ทีไม่ต้องห่วง” หล่อนยิ้มให้กับนทีอีกครั้ง
“ไม่ห่วงได้ไงล่ะน้องสาวพี่ทั้งคนเดี๋ยวคุณพ่อของรินได้มาเล่นงานพี่ตายเลย”
หล่อนเงียบเมื่อนทีพูดถึงพ่อของหล่อน
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด.....”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ทีรินเข้มแข็งพอแล้วค่ะ”
“เก่งมากน้องรัก”
นทีพูดพร้อมกับเอามือขยี้ผมของหญิงสาวไปมาเหมือนหยอกเล่น
“พี่ทีนะเล่นอะไรไม่รู้ผมรินเสียทรงหมด ไม่เอาแล้วรินไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า”
“อย่าให้สวยมากไปกว่านี้นะพี่ขี้เกียจคอยตามหวง ฮ่าๆๆๆๆๆ”
หล่อนได้ยินเสียงนทีร้องแซวพร้อมหัวเราะตามหลังมาจนหล่อนยิ้มแต่ก็ต้องฮุบลงเมื่อต้องมาเจอกับสายตาคมกริบเข้า หล่อนหลบตาเขาแล้วเดินผ่านไป
หล่อนหลับตาเพราะยังรู้สึกสั่นกับสายตานั้นยังไม่หาย พลางถอนหายใจ หล่อนหวังว่าเขายังคงจะจำหล่อนไม่ได้เพราะถ้าเขาจำหล่อนได้เมื่อไร หล่อนก็ยังไม่รู้เลยว่าหล่อนจะทำยังไง
เอาเรื่องเขา หรือบอกให้เขาทำเป็นลืมๆ ไปซะเหมือนผู้หญิงสมัยใหม่ที่ไม่สนใจกับความสาวที่เสียไปไม่ว่าจะเป็นใครก็ช่าง
หญิงสาวทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เตรียมเดินกลับไปที่โต๊ะ ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมองเห็นร่างสูงที่ทำให้หล่อนใจเต้นแรงจนขยับเท้าไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาพิงผนังพลางเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ไม่ห่างจากทางเข้าห้องน้ำมากนัก ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าคนที่เขาตั้งใจมาดักรอออกมาแล้ว
สองสายตาสบกันแต่คนละความหมาย หล่อนหลบตายกมือขยับแว่นตาที่สวมอยู่ให้ดูไม่เก้อแล้วเดินหน้าจะผ่านเขาไปแต่ร่างสูงกับยืนขวางหล่อนอยู่
หล่อนขยับถอยหลังหนึ่งก้าวเพราะเขาเข้ามาใกล้จนจะชนหล่อนและมันทำให้หล่อนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาทำให้หล่อนนึกถึงคืนนั้น คืนที่หล่อนไม่อาจลืมมันได้จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังจดจำกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้อยู่
“ขอโทษค่ะช่วยหลีกทางหน่อยได้ไหมค่ะ”
ดูเหมือนเขาจะยังเฉย หล่อนก็เลยจะขยับไปทางซ้ายเพื่อที่จะผ่านเขาไปแต่ก็ต้องหยุดเพราะเขาก็ขยับไปทางซ้ายเหมือนกันพอหล่อนขยับไปทางขวาเขาก็ตามมาทางขวา
“นี้คุณ คุณจะขยับไปทางไหนกันแน่.......”
ยังไม่ทันจบคำแว่นตาที่สวมอยู่ก็ถูกเขาขโมยไปถือแล้วหย่อนลงในกระเป๋าของเขาไปเสียแล้ว
“เอ๋ แว่นตาของฉัน เอาคืนมานะ”
หญิงสาวรีบตรงเข้าไปหาเขาโดยหารู้ไม่ว่านั้นเป็นแผนของชายหนุ่ม เขารวบตัวหล่อนเอาไว้แล้วดึงยางที่ลัดผมของหล่อนออกจนทำให้ผมยาวลอนสีน้ำตาลตกลงมากลางหลัง
“นี่จะทำอะไรนะปล่อยนะ”
หล่อนยังคงขัดขืนเขามากขึ้นเมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อหล่อนออกแล้วดึงชายเสื้อหล่อนจนหลุดลุ้ย
“ไม่นะ”
เขาทำอย่างรวดเร็วจนหล่อนไม่มีสติจะร้องเรียกให้คนช่วย และเหมือนสวรรค์จะแกล้งหล่อนที่ไม่มีใครคิดจะมาเข้าห้องน้ำเลย
เขาแหวกชายเสื้อด้านซ้ายของหล่อนจนมองเห็นปานแดงเล็กๆ ที่อยู่เหนือหน้าอกของหล่อน เขาจ้องมองเหมือนให้แน่ใจแล้วพึมพำอะบางอย่างออกมาหล่อนไม่ค่อยได้ยินสักเท่าไหร่เพราะมัวแต่ตกใจจากนั้นเขาก็สวมกอดหล่อนแน่จนจะหายใจไม่ออกถ้าหล่อนไม่ร้องท้วง
ความคิดเห็น