ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลงแห่งความหวัง หนทางแห่งความรอด!

    ลำดับตอนที่ #7 : คำพยานจากผู้เขียน!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 73
      0
      29 ม.ค. 55


     


    ชื่อเล่น จ๋า

    การบ้านในบทที่ 2 การเล่าประสบการณ์ชีวิตและสื่อสารพระกิตติคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

     

                    คริสต์เตียนทุกคนย่อมมีประสบการณ์และมีการตัดสินใจเชื่อ ผลนั้นก็คือชีวิตที่ได้รับผลสำเร็จ มีความหวังและมีสันติสุข คุณอาจจะเคยได้ยินการประกาศทำนองนี้มาหลายครั้ง แต่คุณอาจจะหาได้ไม่บ่อยที่จะเจอกับคริสต์เตียนที่ทีความเชื่อตั้งแต่เกิด หรือบางคนอาจจะได่มีโอกาสเจอมาบ้างแล้ว

                    และหนูก็เป็นหนึ่งในนั้นคนที่เชื่อในพระเยซูตั้งแต่เกิด ตามจริงๆเลยตอนเด็กๆหนูเป็นคริสต์เตียนก็จริง แต่จะเรียกว่าคริสตามจะดีกว่าค่ะ เพราะไม่ต่างจากเด็กที่เชื่อตามบรรพบุรุษมา คุณอาจจะเคยได้ยินมาว่าผู้ที่ตัดสินใจเชื่อจะได้รับความเจริญมากมายในชีวิต นั่นก็จริงค่ะ ในตอนเด็กหนูมีพรสวรรค์ในการวาดรูปในหมู่เพื่อนๆ ด้วยความสามารถที่พระเจ้าประทานให้ แต่อย่าให้บอกเกรดเฉลี่ยเลยค่ะ ไม่มีทางจะสูงกว่าสามได้เลย แต่มันก็ยังถือว่าสูงสำหรับทุกคนในห้อง แต่มันไม่สูงเลยในสายตาคนในครอบครัวของหนู

                    ช่วงนั้นแหละค่ะ ที่หนูติดเริ่มติดสนิทกับคำว่า พระเจ้าทั้งๆที่เชื่อตั้งแต่เด็กๆ อธิษฐาน ท่องข้อพระคัมภีร์ ร้องเพลงตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำด้วยจิตสำนึกเลย มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ในตอนที่หนูตัดสินใจติดสนิทกับพระเจ้าจริงๆก็ปาเข้าไปม.ต้นแล้วค่ะ แรกๆก็หวั่นนะคะว่า เอ..พระเจ้าที่คุณยายพูดหรือที่หนูเชื่อมา ได้ยินคำพยานมามากมาย มีจริงหรอ ไม่ใช่ว่าเขามาเป็นพยานเพราะบังเอิญหรอกหรอ แต่! ในพระเจ้าไม่มีความบังเอิญค่ะ ทุกสิ่งล้วนอยู่ในแผนการของพระเจ้าทั้งนั้นค่ะ ลองนึกถึงการสร้างโลกของพระเจ้าสิคะ หลายคนเชื่อว่ามันแค่ความบังเอิญ มันช่างเป็นความคิดที่สุดยอดจริงๆ คิดได้ไง อยู่ดีๆโลกจะเกิดเองงั้นหรอ นี่เป็นสิ่งที่หนูได้ยินบ่อยมาก ปัจจุบันก็ยังคงได้ยินคำสอนทำนองนี้อยู่เสมอ

                    ด้วยความสงสัยและอยากพิสูจน์ ก็เลยลองอธิษฐานกับพระเจ้าดู ลองไปโบสถ์อย่างเอาจริงเอาจัง เชื่อพระเยซูอย่างเอาจริงเอาจัง ช่วงนั้นโดนคุณพ่อคุณแม่ต่อต้านมากๆ หาว่าเราทำเกินไป อะไรประมาณนี้ แต่คุณยายก็คอยช่วยเสมอค่ะ

                    ครั้งนี้หนูอธิษฐานอย่างจริงจังโดยผ่านความเชื่อ คุณยายบอกว่าหากเราอธิษฐานแล้วไม่ทำส่วนของเราให้เต็มที่ การเทพระพรก็มาไม่ถึงเราหรอก แถมยังบอกด้วยว่าอ่านหนังสือไปเถอะ อ่านได้แค่ไหนก็แค่นั้นที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเจ้า หนูก็เลยคิดว่า เอาวะ! ไหนๆก็ไหนแล้วอะ

                    ผลตามมาไม่น่าเชื่อสุดๆ เกรดหนูขึ้นสูงเลยค่ะ ถึงจะไม่พอใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ แต่เพื่อนในห้อง ตัวหนูเองต่างตกใจไม่แพ้กัน ถึงพ่อแม่จะไม่ดีใจ แต่ตอนนั้นหนูดีใจสุดๆเลยล่ะ ไม่นึกว่าจะทำให้เกรดมันสูงขึ้นกว่าเดิมได้ อยากบอกว่าหนูไม่ได้อ่านหนังสือมากไปกว่าเก่าสักเท่าไหร่หรอก อ่านพอๆกับเท่าที่เคยได้เกรดน้อย แต่คนที่ทำให้หนูได้เกรดเพิ่มขึ้น คือคนที่ตอบคำอธิษฐานของหนูต่างหากล่ะ ...พระเจ้า!

                    หนูบอกแล้วว่าคริสต์เตียนไม่ได้เชื่อพระเจ้าจริงๆตั้งแต่กำเนิดเสมอไปหรอก ทุกคนก็ต่างต้องผ่านการตัดสินใจเชื่ออย่างจริงๆจังๆมาด้วยกันทั้งนั้น อย่างหนูเพิ่งจะมาเอาจริงเอาจังก็เมื่อไม่นานนี้เอง ประมาณปี 2554 ได้อ่ะค่ะ

                    ปัจจุบันหนูยังคงทำเหมือนเดิม เกรดหนูก็ไม่เคยลดเลย เพิ่มขึ้นตลอด คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มลดความโมโหลงแล้วด้วย จากอดีตทะเลาะกันตลอดด้วยซ้ำ! มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ความบังเอิญที่หนูได้เกรดสูง ทั้งๆที่อ่านหนังสือเท่าเดิม ไม่ใช่ว่าพ่อแม่อยู่ดีๆจะรักกันเหมือนตอนสาวๆ และจะยอมรับความเชื่อที่เขาว่ามากไปของหนูได้ แต่หนูเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้มาจากการอวยพรของพระเจ้าต่างหาก!

    คุณจะว่าฉันงมงายยังไงฉันไม่สน แต่ถ้าฉันงมงายแล้วได้ชีวิตที่ดีอย่างนี้ ฉันก็ยินดีที่จะงมงายพระเจ้า...ตลอดไปจนนิจนิรันดร์






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×