คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 ผู้แฝงตัวอยู่ในเงามืด (Re.1)
Up lode : 01/05/2016
Re Write No.1 : 16/05/2016
บทที่ 8
ผู้แฝงตัวอยู่ในเงามืด
เธอรู้อะไรไหมฟริคส์?
ถึงแม้ว่าเธอจะทำดีแค่ไหมันก็ไม่อาจลบสิ่งที่เธอเคยทำเอาไว้ได้หรอก!
หึ... เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าฉันเป็นใคร
เธอก็แค่พยายามจะลืมเท่านั้นแหละ ยัยโง่!!!
เฮือก!
รู้สึกว่าช่วงนี้ฉันจะสะดุ้งบ่อยเกินไปแล้ว... ให้ตายเถอะ ความฝันนั่นมันอะไรกัน? นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันฝันถึงเจ้าของเสียงคนนี้ ภาพในความฝันมักจะมีเพียงความมืดมิดเเละเด็กสาวสวมเสื้อสีเขียวลายทางยืนหันหลังให้ฉันอยู่เสมอ คำถามก็คือ...
หนึ่ง... เธอคนนั้นเป็นใคร? แล้วทำไมถึงอยู่ในความฝันของฉัน?
สอง... ทำไมต้องบอกว่าสิ่งที่ฉันกำลังทำไม่อาจลบสิ่งที่เคยทำ?
ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังต้องการจะบอกฉันเลย...
“ขอบคุณที่มาใช้บริการนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่า”
ฉันยิ้มรับคุณกระต่ายเจ้าของโรงแรมที่เช็คอินเข้ามานอนพักเมื่อวานนี้โดยสมองก็ยังคงคิดทบทวนเรื่องในความฝันนั้นอย่างหงุดหงิด ทั้งเมื่อวานหลังจากออกมาจากร้านกริลบี้ฉันก็หงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมานึกว่าสิ่งที่แซนส์เคยทำอาจจะเพื่อน้องชายเขาแถมมาบวกกันความฝันนี่ก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
ถึงแม้ว่าความจริงฉันไม่ควรเอาเข้ามารวมกันก็เถอะ!
ฉันเดินออกจากโรงแรมที่พักผ่านตัวเมืองออกไปเรื่อยๆ
จนผ่านหน้าบ้านของใครบางคนที่มีตู้ไปรษณีย์สองตู้ตั้งอยู่หน้าบ้าน -_-’ ฉันมองความแตกต่างของทั้งสองตู้นั้นแล้วก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าบ้านสองชั้นหน้าตาน่ารักนี่เป็นบ้านของใคร...
ฉันยืนนิ่งมองบ้านหลังนั้นอยู่สักพัก บรรยากาศรอบตัวบ้านรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ฉันเคยเดินเข้าเดินออกอยู่บ่อยๆ เป็นบ้านที่ชวนให้คิดถึงความหลัง...
บ้าน่า! มันจะเป็นไปได้ยังไง
ฉันยังไม่เคยเข้าไปในบ้านนั่นด้วยซ้ำไป
ฉันสะบัดหัวไล่ความรู้สึกชวนคิดถึงนั่นให้ออกไปก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นเพื่อเดินทางกลับบ้านที่จากมาต่อไป ฉันเดินออกมาไกลจากหมู่บ้านเรื่อยๆ โดยไม่ได้บอกลาใครสักคน
แม้กระทั่งกับแซนส์ก็ตาม
“มนุษย์...”
เดินคิดอะไรมาเรื่อยเปื่อย
สักพักฉันก็รู้สึกตัวว่าเดินหลงเข้ามาท่ามกลางกลุ่มหมอกหนาที่ปกคลุมเส้นทางเอาไว้จนมองแทบไม่เห็น
เสียงเรียกของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางหมอกนั่นและฉันค่อนข้างมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงของคนที่ฉันรู้จักอย่างแน่นอน...
“ขอให้ฉันพูดถึงเรื่องความรู้สึกที่ซับซ้อนนี่สักหน่อยเถอะนะ”
ฉันเงียบและรอฟังเจ้าของเสียงพูดต่อ
“ความรู้สึกแบบว่า...”
“...”
“ความรู้สึกที่ได้เจอกับคนที่ชอบสปาเก็ตตี้เหมือนกัน ความรู้สึกชื่นชมในความสามารถในการแก้ปริศนา ความต้องการที่อยากจะทำให้คนๆ นั้นรู้ว่าเขาน่ะเจ๋งมากแค่ไหน”
“...”
“ความรู้สึกแบบนี้มันต้องเป็นความรู้สึกที่แกรู้สึกอยู่แน่นอน ฉันน่ะไม่รู้ว่าเวลารู้สึกแบบนั้นมันจะเป็นยังไง! ก็เพราะว่าฉันน่ะ..."
"..."
"ยิ่งใหญ่"
ถึงตรงนี้ฉันก็คงไม่ต้องอธิบายแล้วใช่ไหมว่าคนที่กำลังพูดอยู่นั่นคือใคร...
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการไม่มีเพื่อนมันจะรู้สึกแย่แค่ไหน ฉันน่ะสารแกนะ เจ้ามนุษย์ผู้แสนโดดเดี่ยว”
“...”
“แต่ไม่ต้องกังวลไป แกจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว! เพราะฉัน
ท่านพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่ จะเป็น...”
พาไพรัสชะงักไปราวกับกำลังใช้ความคิด... ฉันมองเงาร่างของเขาที่ยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นักด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสับสน ทำไมเขาต้องมาขวางฉันตอนนี้ด้วย? ในขณะที่อีกใจหนึ่งของฉันมันกำลังบอกกับฉันว่าการเจอเขาตรงนี้อาจจะเป็นอะไรที่ดีก็ได้...
แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่ดี?
“ไม่!”
“...”
“ไม่ๆ นี่มันผิดไปหมด... ฉัน
ฉันเป็นเพื่อนกับแกไม่ได้! แกเป็นมนุษย์!!”
“...”
“ฉันจะต้องจับแก! และฉันก็จะกลายเป็นราชองครักษ์!!”
ดูเหมือนว่าพาไพรัสจะได้คำตอบสำหรับตัวเองแล้วในตอนนี้ ฉันเดินฝ่ากลุ่มหมอกออกไปเผชิญหน้ากับพาไพรัสที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน ร่างสูงยืนเท้าเอวและมีแววตามุ่งมั่น สร้อยรูปหัวใจที่ห้อยอยู่เปล่งแสงสีทองสว่างวาบออกมาก่อนที่มันจะเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง
เราทั้งสองคนยืนมองหน้ากันได้ชั่วครู่ ฉันตัดสินใจที่จะหยุดเขาด้วยคำพูดตามที่คุณแม่โทเรียลได้สอนเอาไว้ เพราะไม่ว่ายังไง ฉันก็จะไม่ยอมฆ่าใครอีก!
“ฮะ ฮะๆ”
“พาไพรัส...”
“เงียบนะ!”
ปิศาจตรงหน้าตวาดเสียงดังก่อนที่เขาจะร่ายเวทมตร์การโจมตีที่เป็นรูปร่างของกระดูกใส่ฉันด้วยความเร็วที่ยิ่งกว่าความเร็วของฟลาววี่ ฉันกระโดดเบี่ยงตัวหลบไปอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างหวุดหวิดพร้อมกับพยายามคิดหาวิธีที่ดีที่สุดในการพูดคุยกับเขา จนกระทั่งคำพูดชวนโมโหของแซนส์โผล่เข้ามาในสมอง...
‘ฉันหวังว่าเธอจะชอบเขานะ’
‘หา?’
‘ก็... ฉันคิดว่าหมอนั่นน่ะชอบเธอ’
คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาที่สามารถทำให้ฉันอารมณ์เสียได้ในตอนนั้นกำลังทำประโยชน์ให้ฉันได้ในตอนนี้ และถ้าพาไพรัสกำลังชอบฉันจริงๆ ล่ะก็...
“พาไพรัส! นายอยากไปเดทกับฉันไหม?”
ฉันจะ... ฉันจะต้อง!
“หา ว่าไงนะ!? นี่ฉันกำลังจะจับแกนะมนุษย์!”
“กะ ก็! ฉันชอบนาย!!”
"นี่มัน... จะ จีบงั้นเหรอ!?"
พาไพรัสหยุดการโจมตีพลางเอามือขึ้นมาป้องปากทำท่าแปลกใจ และนั่นทำให้ฉันมีโอกาสได้หยุดพักหายใจขึ้นมานิดหน่อย เฮ้ออออ! เกือบไป -_-;
“แกรู้ไหมว่าสเป็คฉันสูงมากเลยนะ!!”
“กะ ก็...”
“...”
“ก็ฉันทำสปาเก็ตตี้เป็น!”
ใช่ๆ ฉันทำสปาเก็ตตี้เป็น มันก็แค่ต้มน้ำ
ใส่เส้นลงไปแล้วรอ... แล้วอะไรต่อนะ?
“หา! จริงเหรออ
แกตรงสเป็คที่ฉันตั้งเอาไว้เป๊ะเลยนะ!!”
“ใช่น่ะสิ! ฉันน่ะทำอร่อยมากเลยนะจะบอกให้”
“หู้ววว งั้นแสดงว่าฉันคงต้องลองไปเดทกับแกสักครั้งแล้วสิ!!”
พาไพรัสพูดแล้วส่งสายตาปิ๊งปั๊งมาให้ฉัน
แต่แล้วไม่นานเขาก็เปลี่ยนสีหน้าก่อนจะกลับมาโจมตีใส่ฉันอีกรอบ... กรี๊ดดดด!
ไหนนายบอกตรงสเป็คไงล่ะ!
แถมเมื่อกี้ยังชวนไปเดทอีกต่างหาก!
“ไม่! เรื่องเดทเอาไว้ที่หลัง
ฉันต้องจับแกก่อน!!”
ว่าแล้วเขาก็ส่งการโจมตีสีฟ้ามาใส่ฉัน
ฉันหลับตาปี๋แล้วพยายามคิดหาทางออกอีกครั้งและนั่นทำให้ใบหน้ายิ้มอันแสนกวนประสาทของใครบางคนโผล่เข้ามาในสมอง...
‘คิดถึงป้ายหยุดสีฟ้า
แล้วเธอก็จะหยุดเอง’
‘ฉันจะดูแลเธอเองนะ... เด็กน้อย’
วูบ...
กระดูกสีฟ้าลอยผ่านทะลุร่างของฉันไปโดยไม่ได้สร้างแผลเอาไว้ให้เลยแม้แต่นิดเดียว
ถ้าเจ้าของรอยยิ้มงี่เง่านั่นมายืนอยู่แถวนี้
ฉันคิดว่าเขาคงจะยักไหล่ใส่ฉันเพื่อบอกว่า ‘ฉันบอกเธอแล้ว’ อย่างแน่นอน โอเค... แซนส์ดูแลฉันแม้กระทั่งตอนที่เขาไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ ที่จริงฉันควรจะเอ่ยขอบคุณเขานะ
แต่ว่า...
พลั่ก!
“โอ๊ะ! นี่อะไรกัน”
หัวใจตรงหน้าอกฉันกลายเป็นสีฟ้า! และมันทำให้ร่างกายของฉันหนักอึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกจนกระดูกที่เขาส่งมาเป็นอันสุดท้ายกระแทกเข้าที่หลังของฉันเต็มๆ!
โอ๊ย นี่มันอะไรกันเนี่ย
“แกกลายเป็นสีฟ้า... นั่นแหละการโจมตีของฉัน!”
"ชิ! แค่นี้อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้เลย!!"
ฉันว่าแล้วกระโดดหลบกระดูกที่พาไพรัสส่งมันมาด้วยความเร็ว พลางมองหาหนทางที่จะรอดได้อีกครั้ง... แต่ดูเหมือนว่านอกจากหลบต่อไปแล้ว คงไม่มีทางอื่นให้เลือกอีก!
“แกรู้มั้ย ว่าคนจริงใจแบบแกนี่หายากมากเลยนะ!”
"ฉันก็คิดว่าโครงกระดูกประหลาดอย่างนายก็หายากเหมือนกัน!"
"แกว่าไงนะ!!"
ตามนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ พาไพรัสทำหน้าเบ้ (ในแบบฉบับของโครงกระดูก -_-) ก่อนจะส่งการโจมตีสีฟ้ามาใส่ฉันอีกรอบซึ่งฉันคงจะไม่ขยับตัวถ้าไม่ติดว่ามีการโจมตีแบบธรรมดาพุ่งตามหลังมันมาด้วย!!
แย่ล่ะ!
ผั่ว!
กระดูกขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่ไหล่ของฉันจนฉันรู้สึกระบมไปหมด อ่า... ฉันจะทำยังไงดีนะ! ฉันใช้สมองคิดทบทวนหาคำพูดที่ดีที่สุดในการพูดกับเขาอีกครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนพาไพรัสจะไม่ได้สนใจเรื่องการจีบหรือการเดทอีกต่อไปลแ้ว ดังนั้นฉันคิดว่าฉันคงต้องใช้วิธีที่เสี่ยงนิดหน่อยล่ะนะ...
“ฉันเริ่มไม่อยากส่งแกไปให้อันไดน์ซะแล้วสิ!”
ในขณะที่เขากำลังหยุดพักการโจมตีเพื่อพูด ฉันก็ได้ทีก้มลงไปหยิบหิมะบนพื้นขึ้นมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ในมือก่อนที่จะ... เขวี้ยงใส่หน้าแม่ม!!
“โอ๊ะ! นี่แกเอาจริงงั้นเหรอ!?”
“เอาจริงสิ! นายจะมีปัญหารึไง!?"
พาไพรัสหยุดนิ่งไปสักครู่แล้วอยู่ๆ เขาก็ยิ้มขึ้นมา มือที่ถูกสวมเอาไว้ด้วยถุงมือผ้าเอื้อมลงไปหยิบก้อนหิมะบนพื้นขึ้นมาปั้นเป็นก้อนก่อนที่เขาจะเขวี้ยงมาทางฉันอย่างรวดเร็ว...
แต่ฉันหลบได้! อุวะฮ่าๆ
"หนอยแน่ะ เจ้ามนุษย์!!"
"นายน่ะมันไม่ได้เรื่อง พาไพรัส!"
"แกว่าใครกันหา! แค่ปาหิมะแค่นี้ ท่านพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีวันแพ้แกอยู่แล้ว!!"
"แน่จริงก็ชนะฉันให้ได้เส้!"
ฉันว่าแล้วคว้าหิมะขึ้นมาปั้นๆ แล้วเขวี้ยงใส่พาไพรัสรัวๆ เขายกมือขึ้นมาป้องกัน แต่ยังไงฉันก็เขวี้ยงโดนเขาตลอดทุกเม็ดอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ
ต้องขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้การเสี่ยงในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดีล่ะนะ...
ขณะเดียวกัน...
"พาไพรัส นายนี่เจ๋งไม่จริงนี่นา! ฮ่าๆ"
"เงียบนะมนุษย์!!"
เสียงหัวเราะและรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวเป็นสิ่งที่บ่องบอกได้ดีเลยว่าเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะผ่านไปด้วยดี เจ้าของเงาที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใกล้ๆ กับทั้งสองแอบลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะเอนหลังพิงกับต้นไม้อย่างผ่อนคลาย...
"ฮู่วว เหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดแฮะ"
แซนส์ยิ้มแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น พลางคิดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อจากนั้นซึ่งมันจะทำให้เขาต้องลำบาก... และลำบาก... และลำบากมากขึ้นไปอีก!!
"เฮ้อออ! ทำไมมันต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาด้วยนะ"
ร่างสูงพึมพำกับตัวเองเมื่อเดินมาถึงหมู่บ้าน ดวงตาเหลือบไปเห็นเงาร่างของใครบางคนเดินอยู่ปะปนกับเหล่าปิศาจที่กำลังเริงร่ากับงานเทศกาล เสื้อสีเขียวลายทางนั่นช่างดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน...
"คลาร่า..."
มือทั้งสองข้างที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อฮู้ดกำแน่น ดวงตาซ้ายเกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีเมื่อเขานึกถึงเรื่องที่เคยผ่านมา... มันถูกลบล้างและหายไป! เพราะวิญญาณของคนๆ เดียว!
"ฉันจะไม่มีวันให้เธอทำอะไรยัยนั่นได้อีก!"
"..."
"เราเจ็บปวดมาพอแล้ว!!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น