ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic]All of Couple B.A.P EXO SJ

    ลำดับตอนที่ #6 : [BangDae] BAP ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ The End

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 55


     ( คูลิโอ้' ) 。


    B.A.P ร้านหนังสือสื่อรัก นิยายรักสื่อหัวใจ








    ย้อนไปสมัยยงกุกและแดฮยอนเด็กๆ 2

     

     

    “นี่แดฮยอนชอบอ่านนิยายสินะเนี่ย เท่าที่ดูมีแต่นิยาย ไม่ค่อยมีหนังสืออย่างอื่นเลย”

     

     

    ยงกุกไล่เดินไปดูหนังสือของแต่ละชั้นจนครบ ก่อนจะพูดขึ้นมา ตอนแรกยงกุกนั้นคิดว่าแดฮยอนน่าจะสะสมพวกหนังสือเรียน หนังสือความรู้ทั่วไปเสียอีก แต่กลับผิดคาด ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะเจอแต่นิยายเสียส่วนใหญ่ที่วางเต็มไปเสียทุกชั้นทุกมุมก็ล้วนแต่เป็นนิยายทั้งสิ้น

     

     

    “ครับ พอได้อ่านแล้วผมอยากเป็นนางเอกในเรื่องจังเลย มีพระเอกคอยอยู่เคียงข้าง คอยปลอบยามร้องไห้ คอยอยู่ใกล้เวลาที่เหงา คอยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้กันและกัน ผมอ่านแล้วอิจฉานางเอกมากเลย ผมอยากให้มีพระเอกอย่างในนิยายนี่มีจริงจังเลย

     

     

    “พี่นี่แหล่ะ จะเป็นพระเอกให้แดฮยอนเอง เริ่มจากวันนี้เลยเป็นไง พี่จะเติมเต็มส่วนที่ว่างของเตียงนอนให้แดฮยอนเอง^^

     

     

    “จริงหรือเปล่าครับ”

     

     

    แดฮยอนพูดขึ้นมาด้วยความดีใจที่ได้ยินยงกุกบอกจะเป็นพระเอกให้เขา ยงกุกไม่ตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มหวานไปให้แดฮยอน ซึ่งก็สื่อออกมาว่า สิ่งที่ยงกุกได้พูดนั้นเป็นความจริง

     

     

    “งั้นพี่ยงกุกนอนริมตรงนี้นะ ผมกลัวว่าถ้าเกิดผมนอนริมด้านนอก พี่จะถีบผมตกเตียงซะก่อน ฮ่าๆๆ”

     

     

    “พี่ไม่ถีบแดฮยอนหรอกน่า มีแต่จะกอดแดฮยอนไว้ ไม่ปล่อยเลย”

     

     

    หลังจากที่เคลียร์เรื่องที่นอนกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอนตามที่ตกลงกันไว้ทันที โดยที่ยงกุกก็ไม่ลืมที่จะกอดร่างเล็กของแดฮยอนไว้

     

     

    เช้าวันต่อมา

     

    “ยงกุก อยู่ไหนโว๊ยยยย!!

     

     

                    และด้วยเสียงเรียกของแม่ที่ดังมาจากห้องของยงกุก ก็ได้ทำให้ยงกุกที่นอนอย่างมีความสุขโดยที่แขนทั้งสองข้างที่กอดแดฮยอนไว้ก่อนนอน ก็ไม่เคยที่จะละออกจากร่างบางเลย แต่ยงกุกก็ต้องมาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกของแม่เสียก่อน เพราะเขาไม่ได้บอกแม่ก่อนที่จะมานอนกับแดฮยอนก่อนซะด้วย

     

     

                    “แดฮยอน ตื่นก่อนแม่พี่เรียกน่ะ”

     

     

                    “อ่ะ อืม”

     

     

    เมื่อแดฮยอนเริ่มรู้สึกตัวแดฮยอนก็ลุกขึ้นจากแขนของยงกุกที่กอดเขาไว้ เพื่อที่จะได้ให้ยงกุกได้ลุกไปหาแม่ และด้วยใบหน้ายามตื่นที่ยังคงงัวเงียของแดฮยอน ก็ได้ทำให้ใบหน้าของยงกุกแดงและหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง แต่เขาจะมามัวเป็นแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเขาคงได้โดนแม่ฆ่าตายแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นยงกุกก็รีบลุกจากที่นอน แล้วเดินไปหาที่ระเบียงทันที

     

     

    “ครับแม่”

     

     

    “ไอ้ยงกุก แกไปอยู่ที่ห้องน้องเขาได้ไง กลับมาเดี๋ยวนี้นะ คิดจะทำอะไรย้องเขาห๊ะ!!

     

     

    พอแม่ยงกุกได้เห็นยงกุกยืนอยู่ที่ห้องของแดฮยอน ก็รีบเรียกลูกชายของตนให้กลับมาที่ห้องของตัวเอง หลังจากที่ยงกุกปีนระเบียงกลับมาฝั่งห้องของตนแล้ว แม่ของยงกุกก็ตียงกุกทันที

     

     

    “แม่ผมเจ็บนะ แม่!

     

     

    ยงกุกได้แต่ร้องขอให้แม่ของตัวเองหยุดตีเขา แต่แม่เขาก็ไม่ยอมฟังยงกุกเลย ได้แต่ตียงกุกอยู่อย่างนั้น จนแดฮยอนได้ยินเสียงโวยวาย จึงรีบวิ่งออกมาดู ก็พบว่ายงกุกกำลังโดนแม่ตัวเองตีอยู่ที่ห้องของยงกุกเอง แดฮยอนรู้สึกได้เลยว่ามันเจ็บแค่ไหน จากน้ำตาที่ไหลลงมาของยงกุก

     

     

    “ไม่นะครับคุณป้าพี่ยงกุกไม่ได้ทำอะไรผม อย่าตีเขานะครับ อย่าตีพี่ยงกุกนะ!!

     

     

    แดฮยอนไม่พูดเปล่า แต่กลับพยายามปีนระเบียงเพื่อที่จะข้ามไปหายงกุก แต่พอแดฮยอนเหลือบไปมองข้างล่าง และระเบียงของยงกุก เขาก็เริ่มกลัว เพราะขาของตนเองนั้นสั้นกว่ายงกุกมาก ถ้าเขาก้าวไปไม่ถึงก็อาจตกลงไปตายได้ แต่พอได้เห็นน้ำตานั้นของยงกุก แดฮยอนก็ไม่คิดที่จะลังเลอีก ก่อนที่จะกระโดนไปที่ระเบียงของยงกุกทันที

     

     

    “ไม่!! แดฮยอนอย่ากระโดนมานะ!!

     

     

    ยงกุกพยายามห้าม แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแดฮยอนได้กระโดดออกมาแล้ว และก็เป็นอย่างที่แดฮยอนกลัว เขากระโดดไปไม่ถึงระเบียงห้องของยงกุกจริงๆ และในขณะที่เขากำลังจะล่วงลงไปนั้น ยงกุกก็เอื้อมมือมาจับมือของแดฮยอนไว้ไม่ให้ล่วงลงไป ก่อนที่จะพยายามดึงแดฮยอนขึ้นมา แต่เนื่องจากตอนนี้เขาตัวไม่ได้ใหญ่มากกว่าแดฮยอนมากเท่าไหร่ จึงทำให้เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถดึงแดฮยอนขึ้นมาได้

     

     

    “ว๊าย!! ลูกแม่”

     

     

    แม่ของยงกุกตกใจเป็นอย่างมาก ที่เกิดอุบัติเหตุแบบนั้นขึ้น เขาจึงไม่รีรอที่จะช่วยลูกของเขาดึงแดฮยอนขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของแดฮยอนก็เดินมาเห็น

     

     

    “แดฮยอนลูกแม่! / แดฮยอนลูกพ่อ!

     

     

    พอแม่ของแดฮยอนอุทานขึ้นมาอย่างใจหาย และก็ล่งในในนาทีเดียวกันตอนที่ยงกุกดึงแดฮยอนขึ้นไปได้อย่างปลอดภัย

     

     

    “อย่าตีพี่ยงกุกนะครับคุณป้า ฮึกฮือ”

     

     

    หลังจากที่พ้นอันตรายแล้ว แดฮยอนก็รีบอ้อนวอนแม่ของยงกุกทันที ราวกับแดฮยอนนั้นไม่ได้สนเหตุการณ์เมื่อกี้นี้สักนิดเดียว แม่ของยงกุกก็รู้สึกใจอ่อนจนไม่กล้าตีลูกของตัวเองอีก

     

     

    หลังจากที่ทุกคนปลอดภัยหมดแล้ว พ่อแม่ของแดฮยอน และแม่ของยงกุกก็ยอมเปิดใจ และไม่กีดขวางทั้งคู่อีก เพราะเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ ก็เท่ากับพิสูจน์แล้วว่าทั้งคู่นั้นต่างรักกันอย่างบริสุทธิ์ใจและจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้ จึงไม่คิดที่จะห้ามทั้งคู่ไม่ให้เล่นด้วยกันอีก

     

     

    กลับมาช่วงเวลาปัจจุบัน

     

     

    “และหลังจากนั้นที่เราเล่นด้วยกันและรู้จักกันมาได้ 5 ปี ก็เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บ้านของแดฮยอน แม่ของแดฮยอนโดนไฟครอกจึงต้องไปรักษาตัวที่โรงบาลใหญ่ในกรุงโซล แดฮยอนและพ่อก็ต้องย้ายบ้านไปด้วย เพื่อเฝ้าดูแลแม่ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันเลยตลอดระยะเวลา 9 ปี พี่ก็เลยสัญญากับตัวเองว่าพี่จะรอและทำฝันของแดฮยอนให้ได้ และมาเปิดร้านนี้ที่โซล เผื่อจะได้เจอแดฮยอนอีกครั้ง และหลังจากที่พี่เปิดร้านมาได้ 2 ปี ในที่สุดพี่ก็ได้มาเจอแดฮยอนอีกครั้ง ที่นี่ เหมือนพรหมลิขิตที่ทำให้เราได้เจอกันอีก และพี่จะไม่ปล่อยแดฮยอนไปอีกแล้ว

     

     

    “แล้วรูปนี้?”

     

     

    แดฮยอนถามพร้อมกับมองไปที่รูปของเด็กชายสองคนที่ยืนกอดกันอยู่

     

     

    “รูปนั้นเราถ่ายด้วยกันตอนที่ไปเที่ยวสวนสนุก ที่แดฮยอนเล่นม้ามุนแล้วมึนหัวจนสลบไง”

     

     

    แดฮยอนแอบหัวเราะตัวเองในวัยเด็กเล็กน้อย ที่ได้ทำอะไรเปิ่นๆต่อหน้าผู้ชายคนนี้ คนที่เขาเคยรู้จักมาก่อนในวัยเด็ก หรือเรียกอีกอย่างก็คือ รักแรกของเขาในวัยเด็กก็ว่าได้

     

     

    “ขนาดผมเป็นแบบนั้น พี่ก็ยังเล่นกับผมได้นะ ฮ่าๆๆ”

     

     

    “ก็พี่สัญญาแล้วไง ว่าพี่จะมาเล่นกับแดฮยอนทุกวัน แต่พี่เสียใจนะ พี่อุตส่าห์เฝ้ารอแดฮยอนมาตลอด 9 ปี แต่กลับถูกคนที่พี่เฝ้ารอ ลืมไปซะได้ น่าน้อยใจจัง”

     

     

    “โอ๋ๆๆ ผมขอโทษครับ ต่อจากนี้ผมจะไม่ลืมพี่อีกแล้ว ผมรักพี่นะ^^

     

     

    “พี่ก็รักแดฮยอนนะ รักมาตลอด

     

     

    พูดจบ ทั้งคู่ก็กอดกันด้วยความคิดถึง และเพื่อเติมเต็มความอบอุ่นที่เขาไม่ได้เจอกันมานานถึง 9 ปี

     

     

    “ผมไม่คิดเลย ว่าพี่ยงกุกจะมีเรื่องที่แสนเศร้าและโรแมนติกแบบนี้ในวัยเด็ก รักไม่มีวันตายจริงๆ ฮือๆๆๆ”

     

     

    จงออบร้องไห้ออกมา เนื่องจากเกิดอาการเศร้าและสงสารยงกุก ที่เฝ้ารอแดฮยอนมาตลอด แต่กลับถูกแดฮยอนลืม และรู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพของทั้งคู่ในวัยเด็ก

     

     

    “ถึงว่า ทำไมพี่ยงกุกถึงได้สร้างร้านที่แสนโรแมนติกแบบนี้ขึ้นมาได้ ที่แท้ก็ความคิดแดฮยอนนี่เอง ฉันล่ะคิดอยู่แล้ว ว่าคนอย่างพี่ยงกุกไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้ได้หรอก”

     

     

    ฮึ่ม!!

     

     

    เสียงยงกุกหันไปคำรามใส่ยองแจ ที่แอบนินทาเขาอยู่ที่เคาเตอร์ร้านกาแฟ จนยองแจถึงกับสะดุ้ง ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะได้ฆ่าตัวเองทางอ้อมด้วยคำพูด

     

     

    “แต่พี่ยงกุกนี่แผนสูงนะครับ แอบจุ๊บปากแดฮยอนนี่มาตั้งแต่เด็กๆเลย กลัวไม่ได้เป็นจูบแรกของแดฮยอนนี่สินะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ”

     

     

    “เอ่อ จูบนั่นไม่ใช่ครั้งแรกของผมสักหน่อยนะ”

     

     

    “เอ๋!!

     

     

    ทุกคนต่างตกตะลึงและหันมามองแดฮยอนกันเป็นตาเดียว

     

     

    “หมายความว่าไง ที่บอกว่าครั้งนั้นไม่ใช่จูบแรกของแดฮยอนน่ะ?!

     

     

    ยงกุกหันมาถามแดฮยอนด้วยอาการตกใจสุดขีด เพราะเขาคิดว่าตอนนั้นแดฮยอนก็เด็กมากแล้วนะที่เขาจูบ ขนาดยงกุกเองนั่นก็ยังเป็นจูบแรกที่มีตอน 9 ขวบ ที่ได้จูบกับแดฮยอน ที่อายุ 6 ขวบ อย่าบอกนะว่า แดฮยอนมีจูบแรกเด็กกว่านั้นอีก!!!

     

     

    “ก็หมายความว่าจูบแรกของพี่แดฮยอนมันตกเป็นของผมตั้งแต่ 3 ขวบแล้วน่ะสิครับ”

     

     

    อยู่ๆก็มีเสียงสนทนาเพิ่มขึ้นมาอีก ทั้ง 4 ต่างก็หันไปมองผู้มาใหม่อย่างสงใส

     

     

    “นายเป็นใคร?” เสียงของทั้ง 3 คน ยงกุก ยองแจ จงออบ

     

     

    “อ้าว เจลโล่”

     

     

    “สบายดีนะครับพี่แดฮยอน ผมดีใจนะ ที่ได้เป็นจูบแรกของพี่แดฮยอน^^

     

     

    “อ่ะ เอ่อ คือ….

     

     

    แดฮยอนได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ ไม่รู้จะพูดออกไปว่าอะไรดี แต่ในขณะเดียวกัน ทั้ง 3 คนไม่รู้เรื่องอะไร กำลังงงและสงสัยกันเป็นอย่างมาก แต่คนที่หนักกว่าใครเลย คงไม่พ้น บัง ยงกุก

     

     

    “มันหมายความว่ายังไง จอง แดฮยอนนนนนนนนนนนน!!!!!!!

     

     

                    “ผมขอจบแค่ตรงนี้ละกันนะครับ ฮ่าๆๆๆ”

     

     

                    “ปล่อยให้ 3 หน่อนั้นเคลียกันเอาเอง ส่วนเราก็ไปสวีทกันบ้างดีกว่านะ จงออบ^^

     

                    “พี่ยองแจ ผมก็เขินเป็นนะ><!

     

     

                    แล้วยองแจกับจงออบก็เดินจับมือกันออกไปจากร้าน ปล่อยให้ทั้ง 3 คนนั้นเคลียกันเอาเอง เท่าที่ดู ก็คงอีกยาวไกลกว่าเรื่องจะจบ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้ได้รู้แล้วว่า คำว่า รัก นั้นไม่ได้พูดได้กับทุกคน แต่คนที่เราจะพูดคำว่า รักได้นั้น เราต้องถามตัวเองก่อนว่า รัก เขาจริงหรือเปล่าก่อนที่จะพูดออกไป แต่ถ้าวันหนึ่งเราและเขาต้องแยกจากกันไป.. เพราะคำว่ารัก เราจะสามารถ รออีกคนได้ไหม? ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ถ้าไม่ก็แปลว่าไม่ได้รัก แต่ถ้าเราพร้อมที่จะ รอ การที่จะได้พบเขาอีกครั้ง นั้นถือเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีวันตายไปจริงๆ….

     

     

    The End.

     

     

     

    จบกันไปอย่างงงๆ 555

    ขอบคุณที่ทุกคนเข้ามาอ่านและติดตามกันนะคะ

    และอย่าลืมติดตามแฟนฟิคเรื่องใหม่ของมายด์ด้วยนะคะ

    คงอีกไม่นานมากคงได้เปิด ฝากให้ทุกคนช่วยติดตามด้วยนะคะ^^

    และคู่ต่อไปก็เอาใจสาวก บังแด้ฮิม เหมือนเดิม อิอิ

    ขอฝากกลุ่ม BangDaeHim Finland ด้วยนะคะ เพิ่งเปิดใหม่

    >จิ้ม<



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×