คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : sea
ดวงตาคู่โตสีอะเมทิตส์ที่ได้มาจากผู้เป็นแม่กำลังนั่งจ้องมองวิวที่อยู่ข้างนอกรถจากใจจดใจจ่อและตื่นเต้นที่จะได้ออกไปเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรก
“แม่ค่ะ เมื่อไรเราจะถึงทะเลล่ะค่ะ” นางิสะหันไปถามผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบข้างๆผู้เป็นสามี เพียงแต่มีลูกสาวตัวน้อยคั่นกลางระหว่างเขากับเธอไว้เท่านั้น
“อีกไม่นานหรอกจ๊ะ นางิสะ”มารีน่าวางหนังสือลงข้างๆตัวเธอก่อนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กมานั่งบนตักของเธอพร้อมกับหอมแก้มเบาๆไปทีหนึ่ง
“น้าเซโร่ค่ะ เล่นน้ำทะเลกับหนูได้มั้ยค่ะ” สายตาอ้อนๆจับจ้องไปที่ผู้เป็นพ่อ
“ถามคุณแม่ดูก่อนนะครับ ผมน่ะยังก็ได้อยู่แล้ว” สึซาคุยิ้มบางๆให้ก่อนหันไปมองที่มารีน่า
“แม่ค่ะ ได้รึเปล่าค่ะ”
“เฮ้อ~ ก็ได้จ๊ะ แต่ต้องให้น้าคาเรนกับน้าจีโน่ลงด้วย โอเคมั้ยจ๊ะ”
“ค่ะ แม่” นางิสะยิ้มรับอย่างมีความสุขแล้วลงจากตักของมารีน่าเพื่อจะไปเล่นกับสึซาคุแทน
“จีโน่ บ้านพักของตระกูลนายอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย” มารีน่าถามจีโน่ที่กำลังขับรถหน้าระรื่นเหมือนไปเจอเรื่องดีๆมา
“อีกไม่นานก็ถึงแล้วล่ะนะ” จีโน่ตอบแบบสั้นก่อนที่เสียงมือถือของคาเรนจะดังขึ้น
“ค่ะ คาเรนพูดค่ะ ใกล้จะถึงแล้วค่ะ เอ๋! อย่างงั้นเหรอค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ค่ะๆ เดี๋ยวค่อยเจอกันก็ได้ค่ะ” คาเรนวางสายด้วยสีหน้าเรียบๆก่อนจะหันไปกระซิบที่ข้างหูของจีโน่ พอคุยกันเสร็จจีโน่ก็ชักสีหน้าเซ็งๆเล็กน้อย
“มีอะไรรึเปล่า คาเรน” มารีน่าถามหลังเห็นสีหน้าที่ผิดสังเกตของเพื่อนทั้ง2คน
“ปะ เปล่าหรอก แค่คนที่บ้านโทรมาน่ะ” คาเรนหันมายิ้มแห้งๆให้มารีน่า
45 นาทีต่อมา
“ถึงแล้วล่ะ~” จีโน่ลงจากรถด้วยสีหน้าที่ร่าเริงเหมือนเด็กๆ
“มารีน่า ให้ผมช่วยอุ้มลูกมั้ย” สึซาคุหันไปถามมารีน่าซึ่งกำลังมองลูกน้อยที่กำลังหลับสนิทบนตักของเธอ
“ช่วยหน่อยล่ะกัน ขี้เซาจริงๆเลยลูกคนนี้เหมือนใครก็ไม่รู้สิ” มารีน่าพูดลอยแต่ยังไม่วายที่จะพูดโดนสึซาคุ
“ก็นางิสะเหมือนผมนิน่าจะทำยังไงได้ล่ะ แต่ดีแล้วล่ะที่สวยเหมือนแม่”
“บ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้” มารีน่าเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อจะปกปิดสีหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอาย
“ผมพูดกับเธอคนเดียวเท่านั้นแหละ ฮ่า ฮ่า”
“พะ พอได้แล้ว พานางิสะขึ้นไปบนห้องพักก่อนสิ ลูกเริ่มไม่สบายตัวแล้วเห็นมั้ยล่ะ” มารีน่ารีบตัดบทรีบดันแผ่นหลังของสึซาคุทันที โดยที่ทิ้งให้พวกจีโน่ขนของเข้าบ้านพักกันแค่2คน
“ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ 2คนนั้นน่ะ” จีโน่ถาม
“จะบ้ารึไงกัน 2คนนั้นแค่พานางิสะจังไปนอนเท่านั้นแหละก็รู้อยู่นิว่า 2คนนั้นออกจะรักและเป็นห่วงนางิสะมากๆเลยนิ.............”
“ว่าแต่พวกนั้นจะมาเมื่อไรล่ะ......”
“เห็นว่า จะเป็นตอนเย็นๆน่ะ ยังไงก็มีเวลาอีกเยอะเดี๋ยวช่วยออกไปซื้อพวกกับข้าวมาทำทานก่อนดีกว่า ขอเป็นอาหารทะเลด้วยก็ยิ่งดีนะ”
“นี้เธอเห็นฉันเป็นเพื่อนหรือคนใช้กันแน่เนี่ย”
“อาจจะเป็นทั้ง2อย่างล่ะมั้งนะ” คาเรนพูดนิ่งๆแล้วเดินเข้าบ้านพักโดยที่ทิ้งเจ้าของบ้านไว้ข้างนอก
“เดี๋ยวสิ!! แล้วกระเป๋าพวกนี้ล่ะ”
“ก็ขนเองสิยะ!! ฉันจะไปจัดของ” คาเรนเดินเข้าไปในบ้านพักก็เห็นสึซาคุกำลังพูดคุยอะไรบ้างอย่างกับมารีน่า โดยที่หน้าของเธอกำลังแดงยิ่งกว่าตอนอยู่ข้างนอกซะอีกแถมยังปล่อยให้นางิสะนอนอยู่ที่โซฟาอีกต่างหาก
“ให้ผมนอนกับเธอได้มั้ย มารีน่า” สึซาคุเข้ามากอดมารีน่าจากด้านหลังโดยที่หน้าของเขาซุกที่ซอกคอของมารีน่า กลิ่นอันหอมหวานไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนที่ทำให้เขาหลงใหลในตัวของมารีนา
“สึซาคุ อย่าทำแบบนี้สิฉันอายนะ” มารีน่าพยายามดันหัวของสึซาคุออกไปจากคอของเธอ
“ได้มั้ยล่ะ ขอแค่2-3วันก็พอแล้วล่ะนะ ได้มั้ย มารีน่า” สายตาของสึซาคุจับจ้องไปยังดวงตาคู่สวยของผู้เป็นภรรยาอย่างจริงจัง จนเธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธสายตาสีเขียวมรกตคู่นี้ได้
“ก็ได้ สึซาคุ.....” มารีน่าไม่พูดอะไรต่อเพียงแค่ตอบรับการกอดของสึซาคุไว้เท่านั้น
“มารีน่า สึซาคุ พวกเธอกำลังทำอะไรน่ะ” คาเรนเดินเข้ามาถามทำให้สึซาคุต้องรีบปล่อยมารีน่าไป
“ปะ เปล่าหรอก”
“งั้นเหรอ จริงสิ!! ห้องพักของพวกเธอฉันจัดเรียบร้อยแล้วนะ อยู่ชั้น2ห้องที่3ด้านขวา ว่าแต่พวกเธอจะนอนด้วยกัน3คนเลยรึเปล่า” คาเรนพูดพร้อมกับยื่นกุญแจห้องให้กับมารีน่า
“จ๊ะ คาเรน ขอบคุณนะที่ช่วยจัดการเรื่องห้องพักให้น่ะ”
“ไม่เป็นไรน่าเรื่องแค่นี้เอง แล้วก็ฉันกับจีโน่จะไปซื้อพวกกับข้าวอะไรพวกนั้นเพิ่มจะเอาไรเพิ่มรึเปล่าล่ะ........”
“อือ.....ขอเป็นพวกขนมกับของว่างมาให้นางิสะล่ะกัน แล้วนายล่ะสึซาคุ จะเอาอะไรเพิ่มรึเปล่าล่ะ”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ”
“งั้นก็ตามใจพวกเธอล่ะกัน ว่าแต่จะขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บรึเปล่าล่ะ นางิสะจังเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวอีกรอบแล้วนะ” มารีน่ามองไปที่ลูกสาวที่กำลังพลิกตัวไปมา
“นั้นสินะ สึซาคุช่วยฉันยกกระเป๋าไปเก็บบนห้องทีสิ ส่วนฉันจะขอดูนางิสะก่อน” มารีน่ายื่นกุญแจห้องให้กับสึซาคุก่อนเดินไปอุ้มนางิสะเบาๆพร้อมกับเขย่าตัวเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าตัวเล็กรู้สึกสบายขึ้น
“ได้สิ แต่ขอผมหอมแก้มลูกแปบหนึ่งสิ” มารีน่าไม่พูดอะไรเพียงแต่ยื่นแก้มป่องๆของลูกสาวให้กับสึซาคุ เขาหอมแก้มนางิสะเบาๆก่อนจะนึกสนุกหันไปหอมแก้มคนเป็นแม่ทีหนึ่งก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที
“เฮ้อ~ ไปติดนิสัยแบบนี้จากไหนกันนะ ถ้าเกิดนางิสะเป็นแบบนั้นบ้างจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย......” มารีน่าถอดหายใจเบาๆก่อนจะหันไปมองหน้าคาเรนอย่างเหนื่อยใจอีกที
“สงสัยเธอจะต้องเจองานหนักแน่ๆเลยล่ะนะ มารีน่า” คาเรนเดินมาตบไหล่ของมารีน่าเบาๆ
“นั้นสินะ เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะต้องไปจัดเสื้อผ้าอีกเยอะเลยล่ะ” คาเรนพยักเบาๆแล้วเดินออกไปช่วยจีโน่ขนของอีกรอบ
“สึซาคุ นายช่วยไปปลุกนางิสะให้ไปอาบน้ำทีสิ” มารีน่าพูดขึ้นในขณะที่มือของเธอกำลังวุ่นกับการจัดพวกเสื้อผ้าอยู่
“แต่ลูกกำลังหลับอยู่น่ะ ถ้าไปปลุกตอนนี้เดี๋ยวก็ร้องไห้พอดี”
“ไม่เป็นไรหรอก นางิสะดูจะเริ่มชินกับการที่ถูกฉันปลุกในระหว่างนอนกลางวันแล้วล่ะนะ แล้วก็อีกอย่างฉันไม่อยากให้นางิสะป่วยเพราะ สิ่งสกปรกหรอกนะ”
“ได้ครับ คุณภรรยาเจ้าระเบียบของผม จุ๊บ!!” สึซาคุเดินเข้ามาหอมแก้มมารีน่าอีกรอบก่อนจะเดินไปปลุกลูกสาวตัวน้อย
“น้าเซโร่~ ปลุกหนูทาม~มาย~ค่า~” นางิสะตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่ยังง่วงอยู่
“ขอโทษนะครับ นางิสะจังคุณแม่ให้หนูไปอาบน้ำน่ะ มานี่สิครับเดี๋ยวผมจะอาบน้ำให้นางิสะจังเองนะครับ”
“ค่า~ หาว~” นางิสะใช้แขนเล็กๆโอบคอของสึซาคุไว้แต่เพราะว่า เธอยังง่วงนอนอยู่ทำให้สึซาคุต้องเป็นคนค่อยจับนางิสะเอาไว้
โครม!!! หลังจากที่สึซาคุพานางิสะไปอาบน้ำสักพักจู่ๆก็มีเสียงดังมาจากห้องน้ำ มารีน่าตกใจรีบวิ่งเข้าไปดูก็เห็นว่า สึซาคุนอนหงายอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดโดยที่แขนทั้ง2ข้างของเขาโอบกอดนางิสะไว้เพื่อไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ว่าเพราะ ความตกใจจากเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้นางิสะถึงกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“นางิสะ!! กะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ!”
“มะ แม่ค่ะ..........แง!!!!”
“นะ นาสิงะหนูโอเคใช่มั้ย......โอ๊ย!!”
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะ นางิสะ แม่อยู่นี้แล้วนะ ไม่ต้องกลัวน่า~” มารีน่าพูดปลอบนางิสะอยู่สักพักก็อุ้มลูกสาวออกไปจากห้องน้ำแล้วเดินกลับมาพยุงตัวของสึซาคุ
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย สึซาคุ” มารีน่าถามด้วยความเป็นห่วง
“ผมไม่เป็นไร.......แล้วลูกล่ะ ปลอยภัยดีใช่มั้ย...”
“แค่ตอนนี้น่ะ เพิ่งจะหยุดร้องไห้แล้วหลับก็ไปเมื่อกี้เองแล้วนายล่ะเป็นยังไงบ้าง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นน่ะ”
“ผมแค่ลื่นล้มกับพื้นเท่านั้นเองไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ฉันว่า มันคงจะเจ็บน่าดูเลยนะ ใช้หลังรับแรงกระแทกไปเต็มๆขนาดนั้นให้ฉันดูหลังของนายหน่อยสิ สึซาคุ” มารีน่ายื่นมือไปแตะที่หลังของสึซาคุเบาๆแต่ว่ากลับทำให้ร่างสูงถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“โอย ผมเจ็บนะ มารีน่า”
“ขอโทษนะ สึซาคุ อึก” จู่ๆน้ำตาก็ไหลอาบดวงตาสีม่วงอะเมทิตส์ของมารีน่า ทำให้สึซาคุถึงกับตกใจอย่างมาก
“เป็นอะไรไปน่ะ มารีน่า!!”
“เป็นเพราะ ฉันแท้ๆเลยที่ทำให้นายต้องมาเจ็บตัวเพราะ ฉันตั้งหลายครั้งแบบนี้น่ะ” มือหนาของสึซาคุปาดน้ำใสๆที่อาบแก้มของมารีน่าก่อนจะค่อยๆบรรจงจูบซับน้ำตาของมารีน่าพร้อมกับยิ้มให้กับเธอด้วยความรู้สึกที่อ่อนโยน
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ แล้วก็อีกอย่างคือ ผมไม่เคยโกรธเคืองเธอเรื่องที่ทำให้ผมต้องเจ็บตัวแบบนี้ ยังไงซะอดีตมันก็เคยเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วถึงตอนนี้ก็เหมือนกัน เพราะงั้น อย่าโทษตัวเองอีกต่อไปเลยนะที่ทำให้ผมต้องบาดเจ็บ..........”
“สึซาคุ.............” เพียงแค่เสี้ยวนาทีที่พวกเขาทั้ง2คนได้จ้องมองกันและกัน ริมฝีปากหนาก็ค่อยๆเรื่อยเข้าไปใกล้ริมฝีปากของอีกฝ่าย ร่างบางไม่คิดที่จะขัดขืนรึเบือนหน้าหนีแต่อย่างใดเพียงแต่ค่อยๆหลับตารอรับการจูบเท่านั้น แต่ทุกอย่างต้องหยุดลงด้วยเสียงร้องไห้อีกครั้งของลูกสาวตัวน้อย
“ฉะ ฉันจะช่วยพยุงนายไปที่เตียงล่ะกัน” มารีน่าพยายามหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยความขัดเขินซึ่งไม่ต่างอะไรกับเธอเลย
“นี่ สึซาคุ ขอฉันดูแผลที่หลังนายหน่อยสิ” มารีน่าถามด้วยสีหน้าเขินอาย สึซาคุแอบหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองแล้ววางไว้ข้างๆตัว มารีน่าสำรวจดูก็เห็นเป็นรอยช้ำๆขนาดใหญ่บนแผ่นหลังของสึซาคุ
“ทำไมถึงช้ำมากขนาดนี้ล่ะ เดี๋ยวฉันไปดูในกระเป๋าก่อนว่า ฉันหยิบยาแก้ปวดกับยาทาแก้แผลฟกช้ำมารึเปล่า............” มารีน่าเดินไปหาของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอ
“พกยามาด้วยเหรอ มารีน่า”
“ใช่แล้วล่ะ ฉันเอามาเผื่อว่า นางิสะเป็นอะไรจะได้รักษาทันน่ะ รอแปบนะ สึซาคุ............อ๊ะ!! เจอแล้ว”
“นี่ สึซาคุ.................ฉะ ฉันจะทายาให้นาย ชะ ช่วยอดทนหน่อยได้มั้ย” สึซาคุยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับมารีน่า
“อุ๊บ!!”
“เจ็บเหรอ......สึซาคุ”
“เปล่าหรอก แต่ว่า มือของเธอมันเบาจังนะแถมยังรู้สึกอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย......”
“พะ พูดอะไรของนายน่ะ สึซาคุ พอได้แล้วน่า ฉันทายาให้เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณนะ มารีน่า”
“ไม่เป็นไร สึซาคุ........” สึซาคุพยายามหันหลังไปกอดมารีน่าแต่ถ้าไม่ติดว่า เขาบาดเจ็บที่หลังอยู่เท่านั้น มารีน่าแอบยิ้มบางๆให้กับสึซาคุแล้วเข้าไปกอดสึซาคุเบาๆแทนซึ่งทำให้สึซาคุถึงกับอึ่งไปชั่วขณะ
“ผมไม่นึกเลยว่า เธอจะทำแบบนี้.......” สึซาคุตอบรับการกอดของมารีน่า
“อืม.......ฉันก็เหมือนที่ไม่คิดว่า ตัวเองจะทำแบบนี้กับนาย....เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันกอดนาย” มารีน่าซุกหน้าของเธอลงบนอกแกร่งๆของสึซาคุ ปลายนิ้วแกร่งลูบที่ริมฝีปากบางอย่างเชยชมก่อนจะประทับจูบลงริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน แขนทั้ง2ของมารีน่าโอบกอดคอสึซาคุเอาไว้
“ผมรักเธอ....และยังจะคงรักตลอดไป มารีน่า”
“ฉันก็เหมือนกันแต่ว่า ฉันก็ยังไม่อยากจะกลับไปอยู่กับนายตอนนี้ สึซาคุ”
“ทำไมล่ะ...........”
“ฉันไม่อยากให้นางิสะต้องมาเป็นเหมือนฉันนะสิ นางิสะมีสายเลือดของบริททาเนียครึ่งหนึ่งซึ่งหมายความว่า เด็กคนนั้นก็ต้องเป็นเชื้อพระวงศ์ของบริททาเนียซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่จะกักขังทุกสิ่งทุกอย่างของนางิสะไว้........รวมถึงฉันด้วย”
“ผมจะไม่ให้มันเกิดแบบนั้นแน่ๆ ผมสัญญา”
“ไม่ สึซาคุ ฉันเป็นจักรพพรดินีทรราชที่เสียชีวิตไปแล้วนะ เป็นนางมารที่ตายด้วยน้ำมือของวีรบุรุษนามว่า เซโร่.......”
“มารีน่า ผม...........”
“ไม่ต้องพูดอะไรต่ออีกแล้วล่ะ สึซาคุ ฉันเข้าใจดีแต่ว่า ตอนนี้นายควรพักผ่อนก่อนดีกว่านะ เผื่ออาการเจ็บหลังจะหายไปบ้าง เดี๋ยวฉันจะลงไปดูของข้างล่างหน่อย”
“ถ้าเธอพูดมาแบบนี้ ผมก็จะไม่ปฏิเสธ” สึซาคุค่อยๆล้มตัวลงนอนข้างๆลูกสาวที่กำลังหลับสนิทอยู่แล้วใช้แขนของเขาอ้อมกอดนางิสะไว้อย่างอ่อนโยน มารีน่ามองหน้าทั้งคู่สลับไปมาก่อนบรรจงจูบลงไปที่หน้าฉากของทั้งคู่
“น่ารักจังนะ พ่อลูกคู่นี้” มารีน่าอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่า นางิสะเอาหน้าไปซุกของสึซาคุก่อนจะห่มผ้าให้กับ2พ่อลูกที่หลับสนิทไปแล้ว
มารีน่าเดินลงไปดูของข้างล่างสักพักก่อนจะเข้าไปดูพวกอาหารในครัว เมื่อเห็นว่า มีของพอสมควรก็เลยลงมือทำอาหารกลางวันกับของว่างรอพวกคาเรนกลับมาจากการซื้อของ
ผ่านไปสัก 15 นาที เสียงรถของจีโน่ก็เข้ามาจอดหน้าบ้านพัก มารีน่าจึงเดินออกไปดูแต่ก็แปลกใจที่จู่ๆก็มีกระเป๋าเสื้อผ้าเพิ่มมาด้วยนิดหน่อยแล้วก็ต้องตกใจกับบุคคลที่มาพร้อมกับพวกจีโน่ถึง3คน นั้นก็คือ.....................
“................มารีน่าใช่มั้ย..............” 1ใน3คนเมื่อเห็นมารีน่าก็อึ่งไปสักพักก่อนจะถามเพื่อความมั่นใจ
“ประธาน............รีวัล.........นีน่า ทำไมถึงได้...”
หมับ!!!
“มารีน่า!! คิดถึงจังเลย พวกฉันนึกว่า เธอตายไปแล้วจริงๆซะอีก” รีวัลวิ่งเข้ากอดมารีน่าทันทีจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
“เธอยังไม่ตายจริงๆใช่มั้ย มารีน่า” นีน่าถาม
“จ๊ะ ว่าแต่ทำไมถึงรู้ว่า ฉันมาพักที่นี้ได้ล่ะ” มิเรย์อมยิ้มเล็กน้อยก่อนชี้ไปทางพวกจีโน่
“คาเรนกับจีโน่เป็นคนบอกพวกเราเองแหละนะ ดีใจจังที่เธอยังไม่ตาย” มิเรย์เดินเข้าสวมกอดมารีน่าอีกคน
“ฉันก็คิดถึงทุกคนเหมือนกัน แล้วยินดีด้วยนะค่ะที่ได้แต่งงานกับรีวัลนะค่ะ ประธานมิเรย์”
“แหม....ไม่ต้องเรียกฉันว่า ประธานแล้วก็ได้นะ เดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีดีกว่าเข้าไปเก็บของกันก่อนดีกว่านะจ๊ะ”
“ค่ะ ว่าแต่ลูกๆไม่มาด้วยเหรอค่ะ ประธาน...”
“นอนหลับอยู่ในรถน่ะจ๊ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้รีวัลอุ้มมาก็ได้พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะนะ” มิเรย์ลากมารีน่าเข้าไปในบ้านโดยที่มารีน่าหันไปมองทางคาเรนที่กำลังมองมาที่มารีน่าเช่นกัน
“เซอร์ไพรใช่มั้ยล่ะ มารีน่า” นี้คือ สิ่งที่มารีน่ารับรู้ได้จากสายตาที่คาเรนมองเธอ มารีน่ายิ้มบางๆก่อนจะพูดโดยไม่มีเสียง
“ขอบคุณนะ คาเรน จีโน่................”
Music Playlist at MixPod.com
คุยกับนามามิวันล่ะนิด
หวัดดีค่ะ มาพบกันอีกเจอเนอะ 555555+
วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ช่วงนี้อาจจะอัพช้าเพราะ ต้องไปเที่ยวบ้านตา
แต่ยังไงก็ขอให้ทุกคนมีความสุขมากนะค่ะ บายๆๆๆ
วันนี้ขอทักทายสั้นๆพอดีกว่า อิ อิ
ให้ค่ะ 5555+
ความคิดเห็น