คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : EP 20 100%
20 “เขาว่ากันว่า...เวลาแห่งความสุขมักจะสั้นเสมอ...” ในเวลากลางคืนที่สมควรจะนอนหลับแต่ร่างบางกลับนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เตียงที่มีคนรักทั้งสองนอนหลับอย่างสบายใจ ดวงตาใสเป็นประกายกังวลเล็กๆ ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ดวงตาใสเหม่อลอย จริงอยู่... ที่ช่วงหลังๆ มานี่ หลังจากตอนที่ชายหน้าหวานปริศนาคนนั้นจากไปเขาก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนลางร้ายกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แปลกที่ความรู้สึกนั้นมันอาจจะปนไปด้วยความรู้สึกยินดี... ถึงแม้จะเพียงนิดเดียวก็เถอะ “เฮ้อ...” ร่างบางถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิกแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ “เอาน่า... อีกตั้งนานกว่าจะหมดโทษ คงจะไม่โดนแยกจากทั้งสองท่านตอนนี้หรอก” “ชิพ...” เสียงอะไรบางอย่างดังฝ่ามาจากความมืด คิ้วของชิพขมวดแน่น แน่ใจว่าไม่ใช่เสียงของฟอกซ์หรือไลน์แน่นอน แต่ก็รู้สึกคุ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนจะเคยได้ยิน “ใครน่ะ...” เสียงหวานดังขึ้นแผ่วๆ เกรงใจคนกำลังหลับ (โดยเฉพาะไลน์ที่ไม่ชอบให้กวนตอนหลับ) “มานี่หน่อยสิ...” ดังขึ้นมาอีกครั้งเบาๆ จากทางประตูห้อง ร่างบางค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนจะก้าวไปทางประตูช้าๆ ดวงตาใสเริ่มหวาดระแวงเล็กน้อย หลังจากประสบการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เมื่อตอนที่โดนโมสาร์ทจับตัวไป มือบางเปิดประตูเบาๆ ก่อนจะก้าวออกไป ใบหน้าหวานส่ายมองหาต้นกำเนิดเสียง “มาตรงนี้...” ดังขึ้นอีกครั้ง... ที่ปากเข้าถ้ำ ขาเล็กก้าวไปหาตามเสียงเรียก ดวงตาใสที่ไม่เคยชินกับความมืดแม้จะผ่านไปนานสักเท่าไหร่มองไปรอบๆ กาย “อุ๊บ!” “ภารกิจสำเร็จ! จับเป้าหมายได้แล้ว! กลับ!” “อ็อก! ไอน์! (ฟอกซ์! ไลน์!)” เกือบรุ่งเช้าที่บ้านของโมสาร์ท ร่างสูงที่กำลังนั่งเล่นป็อกเด้งกับทีน่าอย่างสนุกสนานและไม่ยอมนอนหลับสักที ทั้งสองค่อยๆ สัปหงกเป็นพักๆ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ดวงตาของทั้งสองคนค่อยๆ ปรือลงช้าๆ แต่ก่อนที่จะได้ปิดสนิทเสียงทุบประตูก็ดังขึ้น “ตื่นโว้ยยยยย!!!” เสียงตะโกนดังขึ้นจากหน้าประตูตามด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายของทั้งทหารและแขกผู้มาเยือนตอนเกือบเช้า “โมสาร์ท! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ!” เสียงดังขึ้นด้วยความเกรียวกราดอีกครั้ง แอด... ประตูหน้าบ้านเปิดขึ้นอย่างรำคาญ โมสาร์ทมองหน้าผู้บุกรุกอย่างสงสัยหนัก “อะไรเนี้ย? ไลน์ ฟอกซ์ พวกเจ้ามานี่ทำไม?” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นนิดๆ ดวงตาก็ใกล้จะปิดแล้วแต่ก่อนจะได้ทำอะไรปีศาจจิ้งจอกหนุ่มก็พุ่งเข้าหาแล้วกระชากคอเสื้ออย่างรุนแรง “เจ้าใช่มั้ย! เป็นเจ้าอีกแล้ว! เอาชิพคืนมานะ!” ฟอกซ์โวยวายทำท่าจะต่อยอีกฝ่ายให้ได้ถ้าไม่ติดว่าร่างสูงคอยถลึงตามองอยู่ข้างหลัง “พอได้แล้วน่า ฟอกซ์ โมสาร์ทไม่ได้ทำหรอก ที่นี่ไม่มีกลิ่นชิพเจ้าก็รู้” ไลน์พูดเสียงเรียบแต่แววตากลับหงุดหงิด โมโห งุ่นง่าน ทำให้โมสาร์ทที่มองอยู่พาทั้งสองคนไปที่ห้องก่อนจะได้สงบอารมณ์ “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” ทีน่าถามเสียงงัวเงียดวงตาปรือลงแทบจะปิดก่อนจะปิดปากหาวแบบไม่อายสายตาใคร “มากันตอนนี้เนี้ย?” “ชิพหายไป” ไลน์พูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง แต่ฟอกซ์ที่คบกันมานานก็รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังร้อนใจมากแค่ไหน เขาจึงได้แค่นั่งสงบๆ คิดถึงชิพอย่างเดียว ตรงนี้ไลน์จะเป็นคนจัดการเอง ถ้าขืนสอดมือเข้าไปยุ่ง... ไม่แน่ว่าเขาอาจจะโดนเชือดก็ได้ “อะไรนะ!?” ทั้งทีน่าและโมสาร์ทตะโกนอย่างตกใจจนกลายเป็นเสียงเดียวกัน ไลน์ถอนหายใจเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?!” “ก็...” ไลน์เลียริมฝีปากเล็กน้อยเมื่อมันแห้งผาดเพราะความร้อนภายใจหัวใจ “ตอนข้าตื่นขึ้นมา ข้าไปตามหาชิพใช่มั้ยล่ะ ข้าเห็นชิพเดินไปที่ปากถ้ำก่อนจะหายไป... แบบ... หายไปเลยน่ะ ไม่ใช่ว่าเดินหายไปหรืออะไรนะ หายไปเลย... มองไม่เห็นเลย... จับสัมผัสไม่ได้เลย... ไม่ได้กลิ่นเลย... ข้าไม่รู้จะทำยังไงก็เลยปลุกฟอกซ์ให้ตื่นขึ้นมาช่วยกันหา...” ดวงตาสองคู่กำลังจับจ้องอย่างตื่นเต้นราวกับกำลังดูหนังเรื่องโปรด... เออ... คงไม่ใช่หรอก “แต่ว่า... ภายในถ้ำไม่มี นอกถ้ำก็ไม่มี ข้าหาทั่วแล้วนะ ชิพไม่เคยหายไปนานขนาดนี้เลย” “หายไปนานงั้นเหรอ?” ทีน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย “นานเท่าไหร่แล้ว?” “ประมาณ...” ฟอกซ์ตอบแทนเมื่อเห็นว่าไลน์นิ่งไป “สิบนาที” “สิบนาที!” “ใช่ ชิพไม่เคยหายไปนานขนาดนี้มาก่อน เพราะปกติแล้วพวกเราจะอยู่ด้วยกันเสมอ ไม่ได้ห่างกันไปไหนเลย” ไลน์ถอนหายใจยาว “ข้า... เป็นห่วงชิพ” “เดี๋ยวข้าทำพิธีให้ล่ะกัน” “ไม่เป็นไรหรอก” ฟอกซ์แยกเขี้ยว (ดูเหมือนว่าตั้งใจจะยิ้มแต่อารมณ์ไม่ดีเลยกลายเป็นแยกเขี้ยวแทน) “แค่บอกเรื่องบางอย่างกับพวกเราเท่านั้นเอง” “เรื่อง??” โมสาร์ทมองทั้งสองคน คิ้วข้างขวากระตุกแปลกๆ “บอกวิธีกลับโลกปีศาจที!” “เจ้า... รู้เหรอ... ว่าพวกข้าเป็นปีศาจ...” โมสาร์ทพูดเสียงสั่น มองใบหน้าทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่ “ใช่สิ พวกข้ารู้” ฟอกซ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “ว่าพวกเจ้าเป็นเพียงแค่ปีศาจฟินิกส์เพลิงเท่านั้นเอง” “ทำ... ทำไม?” เสียงหวานดังขึ้นอย่างน่าใจหาย ทีน่าได้แต่มองอย่างสับสน “ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ ข้าฟอกซ์ เนลอน (อ่านว่า ฟอกซ์ เน-ลอน) องค์รักษ์ของเจ้าชายแห่งเมืองใต้แห่งโลกปีศาจ” ว่าแล้วก็ผายมือไปทางไลน์ “ไลน์ นิเลอร์ดรีม” “จะ... เจ้าชาย...” ใบหน้าของทั้งสองซีดเผือด “โลกปีศาจจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ คือเมืองทางเหนือ เป็นเมืองของแวมไพร์มีเจ้าแห่งความมืดปกครอง และเจ้าชายมีนามว่าเพียส โพอีสเฮลล์ เมืองตะวันออกกับตะวันตกเก็บไว้ให้คนแต่งแต่งเรื่องต่อไป ไม่ขอเอ่ย และเมืองทางใต้คือเมืองแห่งแวร์วูฟอย่างพวกข้า หวังว่าคงได้เรียนประวัติศาสตร์นะ” “จริงเหรอเนี้ย?!” โมสาร์ทหายใจติดๆ ขัดๆ กับเรื่องพวกนี้ มันกะทันหันจนน่าตกใจ “พอดีว่าพวกข้ามาที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกใคร แล้วมาเกิดในฐานะสัตว์ปีศาจ ไม่ได้มาแล้วยัดความทรงจำใส่คนอื่นอย่างพวกเจ้า เลยไม่รู้ว่าต้องกลับยังไง พอดีลืมศึกษามา ขอโทษด้วย” ฟอกซ์ดูด้วยประโยคที่เหมือนจะเล่นแต่น้ำเสียงกลับจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “วิธีกลับงั้นเหรอ...” ทีน่าที่คุมสติได้ก่อนโมสาร์ทที่แทบจะช็อคไปแล้วผ่อนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันมาคุยกับฟอกซ์และไลน์ “พวกข้าพอจะรู้วิธี... แต่... พวกท่านคงไม่ได้ต้องการชีวิตฟินิกส์ของพวกข้าใช่มั้ย?” “อ่า... จริงสิ ข้าได้ข่าวมาว่าช่วงนี้เผ่าพวกเจ้ากำลังโดนตามล่าอยู่นี่นะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก พวกข้าไม่ต้องการของพรรค์นั้นหรอก ข้าต้องการเพียงแค่กลับโลกปีศาจแล้วไปหาเพื่อนรักอีกตนของข้าเท่านั้นเอง” “วิธีกลับง่ายมากเลยล่ะ” โมสาร์ทพูดขึ้นอย่างสุภาพหลังจากสภาพจิตใจเป็นปกติ ให้ตายสิ... เช้านี้ก็ต้องตกใจอีกแล้วแฮะ ช่วงนี้มันอะไรกันนักนะ? “แค่ลงไปในบ่อน้ำของทีน่าแค่นั้นเอง” โมสาร์ทพูดก่อนจะมองใบหน้าที่ค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อยของอีกฝ่าย “แต่ต้องใช้เลือดของแวมไพร์... นี่แหละปัญหาใหญ่” “เลือดแวมไพร์งั้นเหรอ?” “ใช่ นั้นแหละ” ทีน่าเดินเข้าหาฟอกซ์ จมูกของหญิงสาวสูดกลิ่นจากเส้นผมของร่างโปร่ง ก่อนจะหันไปทำแบบเดียวกันกับไลน์ “เป็นไงบ้าง?” โมสาร์ทถามหญิงสาวที่กลับมายืนเป็นปกติอีกครั้ง “ก็นะ... จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ?” คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าเล็กน้อยทำให้โมสาร์ทยกมือขึ้นแล้วลูบหัวหญิงสาวเบาๆ “ว่าไง?” เสียงชายหนุ่มถามขึ้นก่อนจะยกมือเป็นเชิงให้หยุดเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง “มีคนกำลังเข้ามา...” “เอ๋?” ทีน่าหันไปมองรอบๆ อย่างระแวงแต่กลับไม่พบใครอะไรเลย “ไหนล่ะ?” “ตรงหน้าเธอไง” ไลน์พูดโดยที่ไม่สนว่าหญิงสาวจะแสดงสีหน้างงงวยแค่ไหน เพราะตรงหน้าของทีน่าคือฟอกซ์และไลน์ แต่ถ้าก่อนหรือหลังสองตนนี้แล้วก็มีแต่อากาศ “ไง ภูติแห่งป่า มาเที่ยวเหรอ?” โมสาร์ทพูดกับพื้นที่ว่างทำให้หญิงสาวชักเริ่มมีอาการฉุนขึ้นมาเพราะไม่มีใครสนตนเลย “ไม่ได้มาเที่ยวหรอก แค่มาบอกข่าวเท่านั้นแหละ พอดีเมื่อกี้นี้เห็นว่าพวกท่านเข้ามาด้วยแหละ ถึงได้มาบอก” ภูติตนเดียวกับที่คุยกับชิพในคุกหันมามองร่างสูงและร่างโปร่งก่อนจะถอนหายใจน้อยๆ “ไม่รู้มันเป็นไปได้ยังไง แต่ชิพ... โดนจับตัวไป ข้าเห็น” “จริงเหรอ?!” ฟอกซ์ถามลั่น ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายตัวเล็กและรูปร่างบอบบางอย่างน่ากลัวว่าแค่แตะจะหักเป็นสองท่อนเขาคงไม่เกรงใจ “อืม บุตรแห่งพระเจ้า... ท่านผู้นี้แหละ เป็นคนจับท่านชิพไป” “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่นะ?” โมสาร์ททรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้โซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน ง่วงก็ง่วง เพลียก็เพลีย ปัญหาก็เยอะ อยากนอนจังโว้ย! “ตอนนั้นฉันคิดจะเอาน้ำผึ้งนี้ไปให้ชิพ” ว่าแล้วก็หยิบเอาขวดแก้วเล็กๆ ขนาดเท่าตัวของตัวเอง ก่อนจะเก็บเข้าห้วงมิติ “ระหว่างทางข้าเห็นชิพเดินมาที่ปากถ้ำ ข้าเห็นบุตรแห่งพระเจ้าใช้เวทย์หลับใหลและลักพากับชิพ หลังจากนั้นชิพก็หายไป ข้ารู้ว่าข้าเข้าไปในถ้ำไม่ได้แน่ เพราะเขตอาคมแข็งแกร่งขนาดนั้น แม้แต่บุตรแห่งพระเจ้ายังต้องหาวิธีล่อให้ชิพออกมาเองเลย ข้าเลยคิดจะมาบอกให้โมสาร์ทได้รู้ แต่ระหว่างทาง... ไม่รู้ว่าบุตรแห่งพระเจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าเห็น แต่ข้าโดนพวกนักฆ่าที่บุตรแห่งพระเจ้าจ้างวานมาทำร้ายมาตลอดทาง” ภูติน้อยร่ายยาวพอพูดจบก็ถอนหายใจยาวๆ เพื่อหายใจอีกครั้ง ภูติน้อยบินไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะนอนแผ่อย่างไม่สมศักดิ์ศรีภูติ “หมายความว่าคนพาไปคือบุตรแห่งพระเจ้า” ฟอกซ์นึกถึงใบหน้าที่แม้จะหล่อแค่ไหนแต่ดูเหมือนจะติดออกหวานแบบคมๆ ไปด้วยซ้ำ “แล้วพวกท่านจะไปพบกับใครที่โลกปีศาจงั้นเหรอ? ข้าจะได้กำหนดสถานที่ได้ถูก” ทีน่าถามไลน์ “เพียส โพอีสเฮลล์!”
ความคิดเห็น