ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    So Cool บันทึกรักร้ายนายปีศาจ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : EP 2 120%

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 52


    2

          แสงที่วาบผ่านตาเข้ามาทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาปี๋ทันที และพอจะปรับแสงได้แล้วก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสิ่งที่ต้องเผชิญทันที

          สิ่งแรกที่อยู่ในรัศมีที่สามารถมองเห็นก็คือร่างของชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา แต่แค่มองดูก็รู้ว่าเป็นพวกแวมไพร์ชั้นสูงที่หาได้ยากเต็มที แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจสักนิด เรื่องเล่าของพวกปีศาจที่โลกแห่งเทพก็มีเยอะแยะ ทั้งโหดร้าย รุนแรง เอาแต่ใจ กระหายเลือด และอะไรอีกสารพักจะเล่าไม่หมด

          "เจ้า..." เสียงอีกฝ่ายค้างไปแค่นั้น

          เจ้าชายแวมไพร์แห่งโลกปีศาจมองเด็กหนุ่มอย่างตกใจ แต่ก็มีแววตาที่ดีใจปะปนมาด้วยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก็พอที่จะซ่อนไว้ไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็น อีกความรู้สึกที่แว๊บขึ้นมาในขณะนั้นทันทีคือ แปลกใจที่อีกฝ่ายอยู่ตรงนี้ ที่นี่

          "อะ... อะ..."

          ด้วยความกลัวที่ฉุดไม่อยู่ทำให้ร่างของเด็กหนุ่มสั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้ ตามด้วยใบหน้าที่เริ่มเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่หลั่งออกมาอย่างสุดจะทน เทพอย่างเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยคิดว่าจะได้มาเจอกับปีศาจตัวเป็นๆ เลยด้วยซ้ำ เขาพยายามจะถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัวแต่มันก็เป็นไปไม่ได้เพราะหลังของเขาติดพนังตู้คอนเทนเนอร์แล้ว

          "เจ้า... อย่าร้องไห้สิ โธ่" แวมไพร์หนุ่มพอเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ตัวสั่นก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกทันที

          "เจ้าชาย จะทำอย่างไรกับมนุษย์ที่โดนจับมาล่ะพ่ะย่ะค่ะ" ทหารคนหนึ่งเข้ามาถามทำให้แวมไพร์หนุ่มต้องตอบกลับไป แต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย

          "มนุษย์พวกนั้นปล่อยไป แต่..." เจ้าชายแวมไพร์มองหน้าเด็กหนุ่มอย่างชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้เด็กหนุ่มได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงในหัว "...แต่เจ้าต้องมากับข้า!"

          อยากจะกรี๊ดในใจสักสิบตลบ!

          เด็กหนุ่มมองหน้าแวมไพร์อยากตกใจผ่านม่านน้ำตาที่ดูเหมือนจะทะลักออกมามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มพยายามที่จะตั้งสติให้ได้มากที่สุด แต่มันเป็นไปไม่ได้เลย ปกติเขาจะมีพลังในการอ่านจิตใจคน แต่นี่เขาใช้มันไม่ได้ เขาอ่านคนๆ นี้ไม่ออกเลยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะได้รับพลังเต็มตัวเขาถึงจะได้พลังทั้งหมดมา

          "นี่เจ้า..." เสียงเรียกทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งอย่างหวาดกลัว เขาหันขวับไปมองเจ้าของเสียงอย่างตื่นตระหนกทันที "เจ้าชื่ออะไรหรือ คราวก่อนข้าพบเจ้า ยังไม่รู้ชื่อเจ้าเลย"

          "ฉัน... ฉะ.. ฉัน..." เด็กหนุ่มพูดอะไรออกไปไม่ได้สักคำเดียว เขากลัวเกินไป เขามองเลยไปข้างหลังของแวมไพร์ชั้นสูง ก็ต้องพบกับพวกแวมไพร์ชั้นต่ำที่พบได้ทั่วไป แค่มองตาที่พวกนั้นสบมาความคิด จิตใจของพวกนั้นก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่มทันที "อ้า!! ไม่!! ไม่นะ!!"

          "เดี๋ยวเจ้าเป็นอะไรไป! นี่!" แวมไพร์หนุ่มพยายามจะเรียกแต่ว่าเด็กหนุ่มไม่มีสติพอจะฟังเสียงใครทั้งนั้น เด็กหนุ่มเอามือกุมหัวทรุดร้องไห้อย่างหวาดกลัวทันที

          พวกแวมไพร์ชั้นต่ำมองหน้ากันเลิกลักเหมือนโดนจับได้ว่าทำผิด พวกเขารู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลว่าถูกอ่านจิตใจไปแล้ว และความซวยก็อาจจะมาเยือนพวกเขาในไม่ช้านี้

          "ให้ตายเหอะ ไม่เข้าใจจิตใจคนอย่างเจ้าเลยจริงๆ สิ" แวมไพร์หนุ่มเดินเข้าไปใกล้แต่ก็ไม่ได้รับปฎิกิริยาอะไรตอบกลับมา คงจะกลัวจนถึงจุดสิ้นสุดแล้วล่ะ เขาค่อยๆ อุ้มอีกฝ่ายขึ้นมาซึ่งอีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือโดยการสลบคาอกของเขาทันทีเลย "ให้ตายเถอะ"

          แวมไพร์หนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาใจสุดๆ

          "พวกเจ้าพามนุษย์พวกนี้กลับโลกมนุษย์ซะ ห้ามแอบเอาไปกินล่ะ!" แวมไพร์หนุ่มเน้นคำสุดท้ายอย่างหนักแน่น แล้วร่างของแวมไพร์หนุ่มก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากบริเวณนั้นด้วยเวทย์ที่แวมไพร์ชั้นสูงเท่านั้นที่จะทำได้

     

          ห้องสไตล์ยุโรปแบบเก่าแกเหมือนในหนังแวมไพร์ทั่วไปเป็นที่อยู่ของแวมไพร์หนุ่ม ห้องที่เต็มไปด้วยสีแดง สีดำ และสีทอง แวมไพร์หนุ่มค่อยๆ วางร่างของเด็กหนุ่มอย่างเบามือลงบนเตียงใหญ่ที่นุ่มนอนสบาย แวมไพร์หนุ่มนั่งลงข้างๆ ช้าเหมือนกลัวคนที่กำลังสลบอยู่ตื่นขึ้นมา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงข้างๆ อย่างหมดแรง

          "อืม..." เพียงแค่แวมไพร์หนุ่มหลับไปได้แป๊บเดียว เด็กหนุ่มก็ตื่นขึ้นมาอย่างคนที่ไม่เคยได้นอนสักเท่าไหร่ นอกจากป่วยหนักๆ หรือกลัวเอามากๆ เท่านั้น เป็นครั้งแรกก็ตอนถูกส่งมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อนที่จะเกิดเป็นยูนิคอร์นซะอีก ตอนนั้นครอบครัวของเขาถูกฆ่าหมดแม้แต่น้องชายเขาก็ด้วย ตอนนั้นเขาอายุก็แค่ 6 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้สึกกลัวอะไรจนถึงขั้นสลบไปอีกเลย แต่ครั้งนี้มันหนักหน่อยเพราะเล่นมาเจอปีศาจเป็นฝูง แถมยังเจอแวมไพร์ชั้นสูงอีกต่างหาก

          เด็กหนุ่มนั่งคิดอย่างไม่รู้ตัว เขาเหม่อไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะรู้ตัวว่าเขากำลังนั่งอยู่บนอะไรนุ่มๆ แล้วยังมีอะไรที่มันอุ่นๆ พาดเอวเขาอยู่ พอก้มลงมองเขาก็ต้องช็อค

          ไอ้แวมไพร์บ้านั่นดันมากอดเขาซะอย่างนั้น!! แถมนี่มันห้องประจำตัวของแวมไพร์ผู้สืบทอดชัดๆ!!

          เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากก่อนจะค่อยๆ ดันแขนหนักๆ นั่นออก แต่ว่า... มันกลับทำให้อีกฝ่ายดึงเขาเข้าไปกอดซะอย่างนั้น!

          "ฮึ่ย~ ไอ้แวมไพร์บ้า!" เด็กหนุ่มกัดฟันด่าเบาๆ ก่อนจะพยายามดันอีกฝ่ายออก แต่ว่าอีกฝ่ายกลับแรงเยอะกว่าเขาอย่างเหลือเชื่อ พอเขาดันออกไม่สำเร็จอีกฝ่ายที่กำลังหลับอยู่ก็กอดเขาแน่นขึ้น แถมด้วยการยื่นใบหน้าเขามาใกล้ๆ ให้เขารู้สึกวูบวาบเอาซะเล่นๆ

          เด็กหนุ่มเลิกดันอีกฝ่ายออก ก่อนจะค่อยๆ พิจารณาใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น และพยายามไม่นึกว่าอีกฝ่ายเป็นปีศาจที่เขาแสนจะกลัว เขาลูบไล้ใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ

          โครงหน้าที่หล่อเหลาเป็นทุนเดิม แถมใบหน้ายังถูกแต่งเติมด้วยคิ้วสวยได้รูป จมูกโด่งนำหน้าไปหลายก้าว (ล้อเล่น) ดวงตาคมที่ตอนนี้กำลังหลับพริ้ม ริมฝีปากเรียวยาว ทรงผมสีดำไฮไลน์แดงที่ช่วยขับให้ใบหน้าดูหล่อเหลามากขึ้นไปอีก หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นระรัว เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่อยู่มาก็หลายพันปี ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา แต่มันกลับมาเกิดเอาตอนนี้ ตอนที่เขากำลังอยู่ในอ้อมกอดของแวมไพร์รูปหล่อ

          พรึ่บ

          อยู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ลืมตาขึ้นมองเขาทำเอาสะดุ้งปล่อยมือจากใบหน้าอีกฝ่ายอย่างอัตโนมัติ

          "เจ้าตื่นแล้ว" แวมไพร์หนุ่มถามก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นโดยที่เด็กหนุ่มก็ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป

          "อืม ฉันตื่นแล้ว" เด็กหนุ่มพูดด้วยสรรพนามที่เทพใช้กันเป็นประจำ

          มันคงจะไร้มารยาทเกินไปถ้าหากเขาตอบว่า 'ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตื่นแล้ว ตาไม่ได้บอดไม่ใช่เรอะ' ถึงแม้ว่าเขาอยากจะพูดประโยคนี้มากขนาดไหนก็ตามที

          "เจ้าไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? เมื่อกี้นี้เป็นอะไรไปล่ะ? ข้าทำเจ้ากลัวเหรอ?" แวมไพร์หนุ่มรัวคำถามอย่างเป็นห่วง

          "ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เมื่อกี้นี้แค่กลัวเท่านั้นแหละ กลัวพวกที่อยู่ข้างหลังนายน่ะ แวมไพร์ชั้นต่ำพวกนั้นคิดจะกินฉัน" เด็กหนุ่มตอบกลับไปตรงๆ ตามที่สมองเขารับรู้จากการอ่านจิตใจของแวมไพร์ชั้นต่ำ

          "ว่าไงนะ! เจ้าพวกนั้นบังอาจ...!!" แวมไพร์หนุ่มเค้นเสียงอย่างโกรธแค้น แต่ก็นึกขึ้นมาได้ "เจ้ารู้ได้ยังไงกัน?"

          "สัตว์เทพอย่างยูนิคอร์นอย่างฉันมีพลังที่สามารถอ่านจิตใจคนได้" เด็กหนุ่มถอนหายใจ "แต่ว่ายังไม่คล่องเลย ทำให้อ่านได้กับเฉพาะบางคนที่จิตอ่อนเท่านั้น"

          "หืม? งั้น... เจ้าชื่ออะไรล่ะ ที่ข้าเจอกับเจ้าคราวที่แล้วยังไม่รู้ชื่อของเจ้าเลยนะ" แวมไพร์หนุ่มถามอย่างสงสัย

          คราวที่แล้ว...?? ฉันกับนายคน เอ๊ย ตนนี้เคยเจอกันด้วยเหรอ?

          "ท่านควรจะบอกชื่อของท่านก่อนนะ" เด็กหนุ่มย้อน

          "เรียกข้าว่า 'เพียส' " แวมไพร์หนุ่มบอกชื่อลับให้เด็กหนุ่มรู้ ชื่อลับเป็นชื่อที่จะรู้เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น ถ้าเป็นคนนอกจะเรียกยศแทน

          "ฉันไม่มีชื่อ พวกเราชาวเทพไม่เคยมีชื่อ ฉันรู้จักทุกคนในโลกเทพ และทุกคนก็รู้จักฉัน ไม่มีวันจำกันผิด ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อ เรารู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มายังไง เคยเกิดเป็นอะไร" เด็กหนุ่มตอบยาวเหยียดก่อนจะยื่นหน้าเขาไปให้ใกล้อีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น "แล้วท่านจะเรียกฉันว่าอะไรล่ะ?"

          "อืม... ข้าตั้งชื่อให้เจ้าได้เหรอ? เจ้า... ก็รู้นี่ว่าถ้าหากข้าตั้งชื่อให้เจ้า ตามกฎของโลกแล้วเจ้าต้องอยู่กับข้าเพราะข้าเป็นผู้ให้ชีวิตหรืออะไรนั่น ข้อที่สามพันกว่าๆ น่ะ เจ้าจะ..." แวมไพร์หนุ่มยังไม่ทันพูดจบก็ถูกอีกฝ่ายปิดปากไว้ก่อน

          "กฎข้อที่ 3,256 ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า ฉันน่ะกำลังถูกลงโทษให้มาอยู่โลกมนุษย์กำลังเซ็งได้ที่ ท่านก็โผล่มา ดีเหมือนกัน ช่วยพาฉันเที่ยวโลกปีศาจด้วยนะ" เด็กหนุ่มพูดเองเออเองหมด แล้วยิ้มอย่างดีใจ "ตกลงนะ เย้!"

          "เฮ้ยๆ" แวมไพร์หนุ่มหน้าเหวอทันที "เดี๋ยวๆ ข้ายังไม่ทันได้ตกลงเลยนะ แต่ช่างเถอะ มีเจ้าอยู่ด้วยก็ดีเหมือนกัน"

          เพียสว่าก่อนจะกระชับอ้อมกอดเข้ามา แต่ก็ถูกตีเพียะเข้าที่แขนจนเป็นรอยแดง

          "ไม่อนุญาตให้แตะอั๋งนะ" เด็กหนุ่มว่าใส่

          "อะไรกัน" เพียสทำเสียงงอนๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "อืม... เจ้าชื่อ... 'ยูน' ล่ะกัน เอามั้ย?"

          "ยูนงั้นเหรอ? เอามาจากยูนิคอร์นล่ะสิ เซนต์การตั้งชื่อแย่ชะมัดเลยนะ แต่ก็เอาเหอะ น่ารักดี" เด็กหนุ่มที่เพิ่งได้ชื่อมาหมาดๆ ยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะลุกพรวดจากอ้อมแขนของแวมไพร์หนุ่มอย่างรวดเร็ว "นี่ๆ แล้วเสื้อผ้าล่ะ ฉันต้องมีเสื้อผ้าเปลี่ยนนะ"

          "ดูเจ้าจะไม่เดือนร้อนกับการอยู่ในโลกปีศาจเลยนะ"

          "ก็นะ ไม่รู้เหมือนกันนี่นา แค่อยู่ใกล้ๆ กับเพียสก็รู้สึกปลอดภัยแล้ว ฉันก็ไม่เห็นต้องกลัวเลยนี่นา โลกของมนุษย์ยังอยู่มาแล้ว แค่โลกปีศาจเอง ก็น่าจะอยู่ได้เหมือนกันแหละน่า" ยูนพูดแล้ววิ่งไปค้นๆ ในตูเสื้อผ้า "เอ๋! อะไรกัน มีแต่พวกสูตเหรอ นี่ใส่แบบนี้ทุกวันเลยเหรอ"

          "เปล่า เสื้อผ้าที่ใส่จริงๆ อยู่กับพ่อบ้านน่ะ" เพียสมองคนที่ร่าเริงเป็นพิเศษอย่างหนักใจ ก่อนถอนหายใจอย่างคนทำใจได้แล้ว

          "งั้นเหรอ? แล้วฉันจะใส่เสื้อผ้าไหนล่ะ แต่ความจริงไม่ต้องก็ได้นะ มีร่างที่เป็นยูนิคอร์นอยู่อีกร่างหนึ่ง แล้วยังแถมด้วยร่างผู้หญิงอีกต่างหาก" ยูนพูดอย่างร่าเริง

          "หือ? เจ้ามีกี่ร่างกันแน่" เพียสเริ่มจะงงๆ

          "ถามว่าเพศอะไรจะดีกว่ามั้ย?" ยูนหันไปมองอย่างโกรธๆ "ฉันเป็นผู้ชายนะ แต่ว่าตอนที่ฝึกวิชาอยู่ดีๆ ก็ได้ร่างผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่มีร่างยูนิคอร์นกับร่างผู้ชาย เข้าใจรึยังล่ะ"

          "เออ... ยัง ยังงงๆ อยู่ ตกลงเจ้ามีสามร่างคือ ร่างยูนิคอร์น ร่างผู้ชายที่เป็นอยู่ตอนนี้กับร่างผู้หญิงสินะ"

          "อืม ใช่แล้วล่ะ" ยูนหันกลับไปค้นๆๆๆๆ ตู้เสื้อผ้า และข้าวของในห้องต่อ

          ก๊อกๆๆ

          "ชายามบ่ายครับ คุณชาย" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากหน้าห้อง ยูนเดินไปเปิดประตูให้โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของห้องแม้แต่น้อย ยูนชะงักกึกเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×