คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ มหาวิหารวิซาร์
“ นี่ เธอน่ะจะมาสมัครงานหรือเปล่าถ้าไม่ก็ออกไป ” เสียงชายอาวุโสคนหนึ่งพูดกับผม
“ อ๊ะ!!! ” ด้วยเสียงนั้นทำให้ตัวผมเรียกสติของตนกลับมาจากใบรับสมัครงานนั้นได้
“ ขอโทษครับ ” ตัวผมกล่าวขอโทษชายคนนั้นก่อนเดินจากไปอย่างสงสัย
...ทำไมต้องรับสมัครด้วยวะ ไอ้งานอย่างนี้เนี่ย...
ผมลืมแนะนำตัวกับทุกคนไปสินะครับ ผมชื่อ เรอัส สทิวเด้นท์ ผมเพิ่งเดินทางมาจากรัฐที่มีชื่อว่า เจเรอัส ซึ่งไกลจากเมืองนี้มาก ผมคงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าผมนะบ้านนอกแค่ไหนแต่จริงๆผมไม่บ้านนอกนะ ผมเคยอาศัยอยู่เมืองนี้ แค่ไปทำงานที่นั่นเฉยๆ เหตุที่ผมต้องเข้ามาที่โครเวอร์แห่งนี้อีกครั้งเพราะ เซบาสเตียน ครูใหญ่แห่งกราเซีย บ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมืองแห่งนี้ตามผมมาพบ ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้เห็นผลที่ต้องมา
“ อื๋อ?!! เซบาสเตียน ” ผมตกใจเมื่อเห็นเขามารอรับที่หน้าประตูบ้านกราเซีย
…นินทาที่ไรต้องโผล่มาทุกที่ซิหน่า...
“ มาแล้วเหรอเรอัส ” เขาถามผม
...แล้วท่านจะถามทำไมฟะ..ก็เห็นอยู่ทนโท่...
“ ครับ ” ผมตอบแถมฉีกยิ้มที่เสแสร้งกับความในใจให้เซบาสเตียนไป
ตอนนี้ผมกำลังเดินตามเซบาสเตียนไปยังห้องรับรองของกราเซียที่ผมเคยเข้าออกบ่อยตอนผมเด็กๆเพราะผมก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด 17 ปี จนผมเติบใหญ่และจากบ้านหลังนี้ไปโดยไม่ฟังคำทักท้วงของเซบาสเตียน ซึ่งตอนนี้มันก็ผ่านไป 1 ปีแล้ว
“ มีงานให้เธอทำน่ะ เรอัส ” เซบาสเตียนบอกแก่ผมพลางลูบเคราสีเงินของตนเองอย่างสบายอารมณ์ซึ่งสีของมันเข้ากับสีเส้นผมของเซบาสเตียนอย่างสมบูรณ์แบบ
“ งานอะไรอีกหล่ะ ไม่รับงาน ล่าค่าหัวใดๆทั้งสิ้นนะ ไม่อยากเข้าคุกอีกครั้ง ” ผมบอกกับเซบาสเตียนเพราะอดีตที่ผมต้องเข้าคุกทั้ง 2 ครั้ง ก็เพราะไอ้งานนี้แหล่ะ
“ ไม่ใช่หรอก งานแทรกซึมน่ะ ” เซบาสเตียนบอกพร้อมส่ายหน้า
“ ที่ไหน ” ผมถามพร้อมกับแคะขี้มูกไปด้วย
“ วิซาร์” เซบาสเตียนบอกโดยไม่คิดจะมองหน้าผม ที่ตาโตเท่าไข่ห่าน
“ จะบ้าหรอ?!! นั่นมันมหาวิหารเลยนะ ผมไม่ทำ ” ผมรีบปฏิเสธงานนี้อย่างรวดเร็วเพราะคราวนี้ถ้าพลาดอีกผมคงจะไม่ได้เห็นโลกภายนอกไปตลอดชีวิตแน่
“ ไม่ได้ !! ฉันสมัครงานให้เธอแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ” เซบาสเตียนพูดอย่างนิ่งเฉยโดยไม่มีท่าทางต่อคำปฏิเสธของผมเลย
“ แล้วงานคืออะไร? ” ผมตอบอย่างจนปัญญา “ แล้วเริ่มวันไหน ” ผมถามตอบ
“ เริ่มวันนี้ส่วนงานคือ... ” เซบาสเตียนตอบจนทำให้ผมเหวอไปอีกรอบแล้วผมก็ต้องอึ้งยกกำลังสองเมื่อเซบาสเตียนบอกกับผมว่าจะมีทีมให้แต่ผมต้องเข้าไปทำงานก่อนเดี๋ยวจะมีคนส่งเข้าไปเพิ่ม
“ ฉันไปแล้วนะ เรอัส ” เซบาสเตียนบอกกับผมก่อนก้าวเดินออกจากห้องรับรองไปปล่อยผมทิ้งไว้ในห้องนี้เพียงผู้เดียว ผมได้แค่มองแผ่นหลังของเซบาสเตียนเอาไว้ ชุดสูทแบบผู้ดีของเขาที่ยังคงติดตราผมมาตลอดตั้งแต่ผมได้ถือกำเนิด
...ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะเซบาสเตียน...
ผมก้าวออกจากห้องรับรอง เดินไปตามทางเดินยาวโล่งปลอดผู้คนซึ่งเคยเป็นสถานที่ๆผมเดินในช่วงวัยเยาว์ ผมหยุดมองเหล่าเด็กน้อยที่มีสภาพชีวิตเฉกเช่นเดียวกับผม เล่นสนุกไปวันๆ กินอิ่มและนอนหลับสบายโดยที่ไม่เคยรับรู้สิ่งได้เลย
...ไปแล้วดีกว่า...
ผมคิดในใจก่อนใช้มือลูบผมสีส้มของตนที่บัดนี้สะท้อนแสงของพระอาทิตย์อย่างสวยงาม ดวงตาสีส้มของผมส่องประกายเมื่อนึกถึงงานที่จำเป็นต้องทำ ก่อนบรรจงหยิบนาฬิกาสีดำสนิทขึ้นมาไว้บนมือ ก่อนพูดคำเพียงไม่กี่คำ ร่างกายของผมก็แปรเปลี่ยนเป็นอณูที่ค่อยๆสลายไปเรื่อยๆจนบัดนี้ผมได้หายไปจากที่แห่งนี้แล้ว
เดอะ แคสเซิล 18.00 น
“ ยินดีต้อนรับนะ เรอัส ที่นี่คือ มหาวิหารวิซาร์ ณ สภานที่แห่งนี้ เธอมีหน้าที่ปกป้องเหล่านักศึกษาของที่นี่เพราะเหล่านักศึกษาเหล่านี้ คือ นักสู้ที่สำคัญต่อโลกเพราะเขาทั้งหมดต่างมีพรสวรรค์ ” ศาสตราจารย์ มาการ์เร็ต บอกกับผม ผมซึ่งแปลกใจกับบุรุษตรงหน้าที่ไร้ซึ่งรอยเหี่ยวย่น ฟันทุกสิ่งยังคงอยู่ครบ สีผมที่ไม่มีการเปลี่ยนสีซึ่งหาได้ยากสำหรับคนวัยสี่สิบแปด
“ เข้าใจแล้วครับ ท่านลอร์ด ” ผมบอก
“ ถามตัวตามสบายคิดซะว่าที่นี่คือบ้านเธอ ทำใจให้สบายหล่ะ ” ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตบอกกับผมก่อนที่จะกล่าวนำพาผมไปยังห้องประชุมของเหล่าองครักษ์
“ ต่อจากนี้ทุกคนจงฟัง เรอัส สทิวเด้นท์ จะมาเป็นหัวหน้าองครักษ์คนใหม่แทนเซบาสเตียน จีนีรัสที่ขอเกษียณไปเมื่อเดือนก่อน ” ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตกล่าวกับองครักษ์ทุกคนหลังจากที่เรียกรวมทุกคนในอีกห้องหนึ่งแล้ว
...นี่งานที่ผมคิดว่าทำไมมันต้องรับสมัครนี่หว่า...
“ เอ่อ ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตขอรับ ” องครักษ์คนหนึ่งกล่าว
“ มีอะไรหรือเปล่า กีกัน ไวท์ ” ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตถามกลับ
“ถ้าเขาจะมาเป็นหัวหน้าองครักษ์ทั้งที ไม่มีการวัดพลังจะดีเหรอครับ หากมีพลังการต่อสู้ไม่พอผมเกรงว่า อึก.. ” จู่ๆกีกันที่กำลังพูดก็สะอึกไป คนทั้งหมดจึงหันไปดู
สิ่งที่เห็นคือสายลมที่พัดผ่านทุกคนไปวูบหนึ่งก่อนจะก่อตัวเป็นรูปลักษณ์ของเรอัสที่กำลังใช้มือบีบคอของกีกันพร้อมกระแทกเขาเข้าที่ผนังปราสาท องครักษ์คนอื่นต่างรีบยกปืนขึ้นมายิงที่ตัวเรอัส
ปัง!!!ปัง!!!ปัง!!!
เสียงยิงกระสุนปืนสามนัดซึ่งคงจะเป็นปืนเวทมนต์ดังขึ้นองครักษ์และศาสตราจารย์มาการ์เร็ตต่างดูตรงจุดที่เรอัสเคยอยู่กับกีกันแต่สื่งที่เห็นมีเพียงชุดสูทสีดำของเรอัสที่มีรูอยู่สามรูลอยอยู่กลางอากาศ ทันใดนั้นเหล่าองครักษ์ก็รู้สึกได้ว่าปืนเวทย์มนต์ที่พวกเขาถือไว้ได้หายไปพร้อมกับร่างของเรอัสและกีกัน เหล่าองครักษ์ต่างทำหน้าเหลอหลาก่อนที่จะหันมาพบเรอัสที่อยู่ในสภาพที่หมวกและแว่นตาดำที่ใส่มาแต่แรกได้หายไปพร้อมกับร่างของกีกันที่ปลายเท้าของศาสตราจารย์มาการ์เร็ตและปืนในกล่องไม้
“ มีอะไรกันคะศาสตราจารย์ ” ศาสตราจารย์จีนัสถาม
ผมซึ่งมองไปที่ต้นเสียงที่ถามกับลอร์ดมาการ์เร็ตก็ต้องพบกับศาสตราจารย์ที่ยังคงมีความเป็นสาวอยู่อย่างสมบูรณ์ ใบหน้าไร้รอยย่นแล้วความคล่องแคล่วว่องไวผิดวัยสี่สิบห้าปีของเธอ
“ ไม่มีอะไรหรอกจีนัส พวกเราแค่วัดความสามารถของหัวหน้าองครักษ์คนใหม่น่ะ ” ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตกล่าวกับจีนัสก่อนที่ศาสตราจารย์จีนัสจะทำหน้าไม่พอใจก่อนเดินกลับไปยังหอพักของตัวเอง
“ ส่วนองครักษ์ทั้งหมดจะไปไหนก็ไป ” ศาสตราจารย์มาการ์เร็ตบอก
ถึงแม้ว่าเวลานี้ผมจะพักผ่อนในห้องของตนเองที่ถูกจัดไว้อย่างเรียบง่าย ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นภายในหอพักที่มีชื่อว่า ลาสวอร์ หนึ่งในหอพักทั้งสามของมหาวิหารวิซาร์อันได้แก่ ลาสวอร์ คีย์เลอร์ เทราร์ด
“ อาจจะเป็นงานที่สนุกก็ได้มั้ง ” ผมพูดกับตัวเอง
ผมลุกขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องเพื่อทำงานต่อไป
ในขณะที่ทุกคนกำลังหลับสบาย องครักษ์กำลังเคร่งเครียดกับการเดินตรวงตราบริเวณรอบๆ วิซาร์ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเงาสีดำที่กำลังคืบคลานมายังวิซาร์ มัน แสยะยิ้มพร้อมพูดออกมาด้วยความสุขแต่มันคือความน่ากลัวสำหรับผู้อื่น
ข้า....เจอ....เจ้า....แล้ว.....มา....การ์....เร็ต!!!
ความคิดเห็น