ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SJ] Shortfic Haeeun

    ลำดับตอนที่ #1 : [haeeun] Change ? ft.wonhyuk (1)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 57


    ความรัก .. ?

    มันคืออะไร .. ?

    สิ่งสวยงามงั้นหรอ .. ?

    ความมั่นคงงั้นหรอ .. ?

    ความหวังงั้นหรอ .. ?

    ความเชื่อใจงั้นหรอ .. ?

    การให้ อย่างงั้นหรอ .. ?

    งั้นหรอ ........ ?

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ผิดแล้วล่ะ

    .

    .

    ความรัก  ก็แค่เกมของโชคชะตา

    คนชนะ  ก็สะใจ  คนแพ้  ก็เจ็บไป

    แค่นั้นเอง

     

    .

     

    .

     

    .

                      แต่ไม่เข้าใจเลย

    ทั้งๆที่มันเป็นเกม .. แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกสนุกไปกับมันล่ะ ?

    ก็คงจะเป็นเพราะ ..

    ..ผมกำลังจะเป็นคนแพ้ในเกมนี้ล่ะมั้งครับ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ซีวอนเสียงหวานเปล่งออกมาแผ่วเบาบนรถยนต์คันหรูระหว่างที่รถยนต์บนถนนไม่สามารถขยับไปไหนได้เลยมากว่าสิบนาทีแล้ว  คาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น   ใบหน้าสวยหันไปหาคนที่เป็นทั้งเจ้าของรถและสารถีสุดหล่อด้วยรอยยิ้มหวาน

    อะไร  อีกคนตอบกลับมาห้วนๆติดรำคาญ

    ซีวอนจำม้านั่งตัวนั้นได้มั้ยเจ้าของร่างบางคลี่ยิ้มหวานให้ซีวอนพลางชี้ไปที่ม้านั่งหน้าร้านดอกไม้ที่อยู่ติดกับทางคนเดินข้างๆอย่างร่าเริง

    จำได้ดิ  ก็ขับรถผ่านอยู่ทุกวันจะจำไม่ได้ได้ไงซีวอนตอบอย่าไม่ใส่ใจพลางเบือนหน้าไปมองท้ายรถคันหน้าที่ไม่รู้ว่ามีอะไรน่าสนใจนักหนา  ร่างบางมองหน้าหล่อด้วยแววตาไหววูบเพียงชั่วครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานอีกครั้งอย่างพยายามไม่ใส่ใจกับอากัปกิริยาที่แปลกไปมากขึ้นทุกทีๆของอีกคน

    แล้วจำได้รึเปล่าว่าซีวอนขอฉันเป็นแฟนตรงนั้นน่ะเอ่ยเสียงหวานพลางเอนหัวทุยซบไหล่หนาของอีกคนอย่างน่ารัก

    ฮยอกแจยังจำได้ดี  วันนั้นซีวอนนัดให้เขามาเจอกันที่หน้าร้านดอกไม้  ซีวอนเขินหน้าแดงดูตลกมากๆ  ซีวอนหอบดอกไม้ช่อใหญ่กับตุ๊กตาหมีสีขาวผูกโบว์สีชมพูมาด้วย  อา .. นึกถึงแล้วฮยอกแจยังรู้สึกเขินๆอยู่เลย

     “จะไปจำได้ได้ยังไง  มันสองปีมาแล้วนะฮยอกแจร่างสูงพูดพลางขมวดคิ้วอย่าหงุดหงิด  สายตาที่มองร่างบางนั้นเต็มไปด้วยความรำคาญที่ปิดไม่มิด  ไหล่หนาที่มีหัวกลมๆซบอยู่สะบัดเบาๆเพราะไม่ต้องการให้อีกคนมาซบแบบนี้

    ..ทำไม?

    คำถามที่ฮยอกแจทำได้แค่ถามในใจ  ทั้งๆที่แต่ก่อนซีวอนก็ชอบให้เขาทำแบบนี้  ทั้งๆที่แต่ก่อนเวลาที่เขาทำแบบนี้  ซีวอนก็มักจะยิ้มอ่อนโยนให้เขาพลางลูบศีรษะเล็กอย่างรักใคร่  แต่ทำไมวันนี้กลับไม่ใช่ .. ทำไมถึงไม่เหมือนเดิม

    ฮยอกแจค่อยๆยกหัวทุยออกจากไหล่หนาช้าๆ  แต่บนหน้าหวานก็ยังคงมีรอยยิ้มบางประดับอยู่เช่นเดิม  เขาพยายามจะไม่คิดมากกับกิริยาที่ซีวอนมีต่อเขามาตลอดหลายวันมานี้  ซีวอนอาจจะแค่เหนื่อย  อาจจะแค่มีงานเยอะ  อาจจะแค่อารมณ์ไม่ดีก็เท่านั้น ..

    แล้วซีวอนจำได้รึเปล่าว่าวันนี้เป็นวันครบรอบสองปีของเราน่ะฮยอกแจพูดพลางฉีกยิ้มให้กว้างกว่าเดิม

    ฉันจำอะไรไร้สาระๆแบบนั้นไม่ได้หรอกฮยอกแจ  นายช่วยหยุดถามสักทีได้มั้ยมันน่ารำคาญซีวอนพูดเสียงหงุดหงิด  หน้าหล่อดูอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด  จนฮยอกแจที่มองอยู่ถึงกับหุบยิ้ม

    นายบอกว่าวันครบรอบของเรามันไร้สาระงั้นหรอ..?” ฮยอกแจทวนคำถามแผ่วเบา  เสียงหวานพึมพำกับตัวเองแต่ก็ดังพอที่อีกคนจะได้ยิน  แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดตัดพ้อของร่างเล็ก  ร่างสูงส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา

    ฮยอกแจมองซีกหน้าหล่อของซีวอนนิ่ง  ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้แสดงความอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็น   ปากหยักไร้วี่แววของรอยยิ้มอบอุ่นที่ฮยอกแจเคยได้รับเสมอมา  ดวงตาคมเต็มไปด้วยแววตาขุ่นเคือง  ท่าทางแข็งกร้าวที่ฮยอกแจไม่เคยได้เห็นแต่หลายวันมานี้เขากลับเห็นมันไม่ต่ำกว่าสิบครั้งต่อนาทีที่เขาอยู่กับซีวอน ..

    Rrrrrrrrr

    เสียงเรียกเข้าพื้นฐานของโทรศัพท์แบรนด์แอปเปิ้ลดังขึ้น  ซีวอนมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูที่โชว์ชื่อของใครคนหนึ่งบนหน้าจอด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว  การกระทำของร่างสูงที่อยู่ในสายตาของฮยอกแจนั้นสร้างความรู้สึกเจ็บหน่วงๆขึ้นมาในหัวใจดวงน้อยๆของร่างบางได้เป็นอย่างดี

    หืม? ..... ได้ครับ  ....... รออยู่ตรงนั้นนะครับ  เดี๋ยวพี่จะรีบไป”  พูดจบร่างสูงก็วางสายก่อนจะหันมาพูดกับคนข้างกายด้วยคำพูดที่ฮยอกแจได้ยินมันมาสามวันติดกันแล้ว ..

    ฮยอกแจ  วันนี้กลับแท็กซี่ไปก่อนนะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปส่ง  วันนี้ฉันมีธุระจริงๆ

    ฮยอกแจทอดมองใบหน้าหล่อของคนรักด้วยสายตาว่างเปล่า  ฟังคำของร่างสูงจบฮยอกแจก็จำต้องพยักหน้าตกลงอย่างช่วยไม่ได้  ซีวอนที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มร่า  ก่อนจะเอี้ยวตัวไปคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็กของร่างบางมาส่งให้เจ้าของอย่างอารมณ์ดี  ฮยอกแจก็รับมันมาอย่างจำใจ  ร่างบางบอกลาคนรักพอเป็นพิธีก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินลงไปอย่างรวดเร็ว

    .. ฮยอกแจไม่อยากให้ซีวอนเห็นว่าเขากำลังเจ็บปวดมากแค่ไหน ..

    .. ฮยอกแจกลัว  กลัวว่าซีวอนจะเป็นกังวล ..

    ราวกับโชคชะตาทำร้าย  ทันทีที่ฮยอกแจเดินออกมาได้ไม่ไกลนัก  การจราจรที่ตอนแรกติดขัดไม่ขยับก็กลายเป็นสามารถขับเคลื่อนได้อย่างสบายๆ  ฮยอกแจมองตามรถคันหรูที่เขาพึ่งลงมาวิ่งห่างออกไปจนลับตา  ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซีวอนทิ้งให้เขากลับบ้านคนเดียวแบบนี้  แต่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ซีวอนเลี่ยงที่จะไม่ไปส่งเขาแต่กลับไปหาใครอีกคนที่อ้างว่าเป็นรุ่นน้องคนสนิทแทน  ซีวอนกำลังเห็นว่าคนอื่นสำคัญกว่าเขาสินะ ...

    ไปหาคนอื่น .. ?

    ทิ้งให้ฉันกลับบ้านคนเดียว .. ?

    ในวันครบรอบสองปีของเราเนี่ยนะซีวอน .. ?

    ..

    ....

    .........

     “ไปฉลองคนเดียวก็ได้นี่  ฮยอกแจร่างบางแค่นยิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพศพลางพึมพำด้วยความรู้สึกน้อยใจที่จู่โจมเข้ามาอย่างไม่สงสารหัวใจที่บอบบางของเขาเลยสักนิดเดียว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สุขสันต์วันครบรอบสองปีของนายกะซีวอนนะฮยอกแจร่างบางยิ้มหวานให้กับกระจกบานใหญ่ที่อยู่ติดกับอ่างล้างหน้า

    สองปีแล้วนะ  นายคงจะมีความสุขมากๆเลยใช่มั้ยล่ะฮยอกแจยิ้มกว้างให้กับเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกจนเห็นเหงือกสีชมพูอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

    รู้มั้ยว่าฉันน่ะรอวันนี้มานานแค่ไหน  นับถอยหลังทุกวันมาเป็นเดือนเลยล่ะ

    พูดจบก็รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหวานก็ค่อยๆจางลงไป  ดวงตาคู่สวยทั้งสองข้างจ้องลึกลงไปในเงาสะท้อนดวงตาของตัวเองในกระจกเงียบๆ   เหลือไว้เพียงเสียงหายใจเข้าออกอย่างไม่ค่อยเป็นจังหวะเท่าไรจนทำให้รู้สึกอึดอัด  แต่ไม่นานริมฝีปากบางก็แย้มยิ้มบางอีกครั้งอย่างฝืนทน

    นายเจ็บมั้ย  เจ็บหรอเหมือนฉันเลย ..

    รักเขามากงั้นหรอ  อืม  ฉันก็เหมือนกัน ..

    ไม่มีอะไรหรอกน่า  เขาก็คงจะติดธุระจริงๆนั่นแหละ ..

    วันครบรอบอะไร  ไร้สาระน่าฮยอกแจ ..

    อย่างี่เง่าเป็นเด็กๆจะได้มั้ย ..

    “.........”

    จะร้องไห้ทำไม  ฮึก .. ไม่มีอะไรหรอกน่า ..

    ฮึก .. ไม่เป็นไร  ไม่เป็น ..ฮึก .. ไม่เป็นไรเสียงหวานที่ขาดห้วงไปพร้อมกับเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสาร  ดวงตาคู่สวยในตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวด  น้ำตาไหลอาบแก้มใสเป็นสายโดยที่เจ้าตัวไม่คิดจะปาดมันออก  ฮยอกแจแค่กำลังเจ็บปวด  ฮยอกแจแค่อยากให้น้ำตาพวกนี้ช่วยเยียวยาบาดแผลเล็กๆในหัวใจให้ก็เท่านั้น ..

     

     

     

     

     

     

     

    ซีวอนร่างเล็กที่เห็นร่างสูงเจ้าของตำแหน่งคนรักของเขากำลังจะเดินเข้าตึกคณะพร้อมๆกับเพื่อนหน้าหล่อร่างเตี้ยตันนามอีทงเฮ  ก็รีบวิ่งเข้าไปทักทันทีด้วยความโหยหา

    เสียงดังทำไมฮยอกแจซีวอนพูดอย่างหงุดหงิด  ตอนแรกฮยอกแจยังเห็นว่าซีวอนเดินคุยกับทงเฮอย่างอารมณ์ดีอยู่เลย  แต่พอเขาเข้ามาทักเท่านั้นแหละ  ซีวอนก็ดูท่าทางเปลี่ยนไปทันทีเลย ..

    ทำไมล่ะซีวอน..ฮยอกแจก้มหน้างุดอย่างน้อยใจที่ถูกซีวอนทำท่าทางหงุดหงิดใส่อีกแล้ว  จนซีวอนที่นึกรำคาญร่างเล็กถอนหายใจเบาๆ

    มันน่ารำคาญน่ะฮยอกแจ

    ไอ้วอน!ทงเฮเรียกชื่อเพื่อนอย่างตำหนิที่เห็นว่าเพื่อนพูดจาไม่เหมาะสมกับคนรัก  แต่ซีวอนก็ไม่ได้สนใจทงเฮเลยสักนิด

    ไม่เป็นไรหรอกทงเฮฮยอกแจออกตัวแทนคนรักด้วยรอยยิ้มบางๆบ่งบอกว่าไม่เป็นอะไร

    งั้นไปก่อนนะฮยอกแจ  เดี๋ยวฉันเข้าเรียนสาย  เจอกันตอนเย็น  ไม่ต้องโทรมานะ  ขี้เกียจรับร่างสูงพูดจบก็ดึงแขนทงเฮแล้วเดินจากไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกของฮยอกแจที่ดังตามมาข้างหลังเลยสักนิด

    ..

    เอาอีกแล้ว

    ..

    ซีวอนทิ้งฮยอกแจอีกแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไอ้วอน ..จริงๆกูก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องของพวกมึงนักหรอกนะ  แต่มันอดไม่ได้ว่ะทงเฮที่เห็นว่าเดินออกมาไกลพอที่จะไม่ให้อีกคนได้ยินบทสนทนาของพวกเขาแล้วก็พูดออกมาอย่างอึดอัด

    อะไร

    กูสงสารฮยอกแจทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    แล้วยังไง

    เค้าเป็นแฟนมึง  แต่ทำไมมึงทำกับเค้าแบบนั้น ... มึงหุบปากไป  กูรู้ว่ามึงไม่ได้รักเค้าแล้ว  แต่ยังไงคนที่เป็นแฟนมึงก็คือฮยอกแจ  เขารักมึง  มึงก็ควรจะถนอมน้ำใจเขาบ้าง

    ซีวอนเหลือบมองทงเฮแวบหนึ่ง  ดวงตาฉายแววเบื่อหน่ายเล็กๆก่อนจะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป

    กูมีคนใหม่แล้ว  กูเบื่อฮยอกแจแล้ว  มึงก็รู้  แล้วมึงจะให้กูฝืนทำดีกะฮยอกแจเหมือนเดิมกูก็ทำไม่ได้หรอกทงเฮ  อีกอย่างทำแบบนี้จะได้บอกเลิกง่ายๆ  เขาจะได้เลิกๆกะกูไปซะ

    มึงลองคิดกลับกันดูนะ  ถ้ามึงเป็นเขาบ้าง  มึงจะรู้สึกยังไงทงเฮที่สงสารฮยอกแจจับใจพยายามพูดไกล่เกลี่ยเพื่อนรัก

    ถ้ากูเห็นว่าแฟนกูมันไม่ได้รักกูแล้วกูก็จะเดินจากไปเงียบๆซีวอนพูดพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

    ทงเฮถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับเพื่อนคนนี้

    มึงมันคนใจร้าย  มึงคบกับฮยอกแจมาตั้งสองปีมึงมองไม่ออกหรือไงว่าเค้ารักมึงมากแค่ไหน  เค้าบอบบางมากขนาดไหน  มึงอย่าทำร้ายคนน่าสงสารแบบนั้นเลยได้มั้ย  ถือว่ากูขอทงเฮพูดด้วยสีหน้าจริงจัง  แต่ซีวอนก็ยังเป็นซีวอน ..

    ชอโทษนะทงเฮ  กูไม่อยากเป็นคนเสแสร้งว่ะซีวอนพูดพลางส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินนำทงเฮไปอย่างไม่อยากสนทนาต่อ

    ... ซีวอน  มึงจะทำหน้าที่ปกป้องเขาแทนกูไม่ได้เลยหรอวะ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างบางที่ยืนรอให้ซีวอนมารับกลับบ้านดังเช่นทุกวันอยู่ที่เดิม  แต่วันนี้กลับไม่เหมือนเดิม  ฮยอกแจยืนรอซีวอนจนปวดขามาไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว  โทรหาซีวอนก็ไม่รับ  ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบกลับ  ติดต่อทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คไม่ได้รับการตอบกลับเลยสักทาง  จนคนรอเริ่มกระสับกระส่ายไม่อยู่กับที่  สมองเล็กก็นิดกลัวไปต่างๆนาๆ  ใบหน้าหวานฉายแวววิตกกังวลอย่างปิดไม่มิด

    ซีวอนกำลังจะทิ้งฮยอกแจจริงๆใช่มั้ย ..

    ฮยอกแจกลัว ..

    ฮยอกแจไม่อยากเสียซีวอนไป ..

    ฮยอกแจกลัวเหลือเกิน ..

    Rrrrrrrrrrr

    ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของฮยอกแจก็ดังขึ้น  ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูทำให้ฮยอกแจทั้งรู้สึกดีใจและรู้สึกกลัวขึ้นมาพร้อมๆกัน  แต่ถึงจะรู้สึกกลัวอยู่บ้าง  แต่ฮยอกแจก็รีบกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

    ซีวอน  นายอยู่ไหน  ฉันยืนรอนายมานานแล้วนะ~” ทันทีที่กดรับโทรศัพท์ก็กรอกเสียงหวานอย่างออดอ้อนอีกฝ่ายอย่างน่ารัก

    (วันนี้นายกลับบ้านเองนะ  คืนนี้ก็ไม่ต้องโทรมานะ  มีธุระอะไรเมนชั่นทิ้งไว้ในทวิตละกัน)

    ตู๊ดดด ตู๊ดดด ..

    ทันทีที่พูดจบก็ตัดสายไปไม่รอให้ฮยอกแจได้ค้านเลยสักนิดเดียว

    มือเล็กที่ถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ก็ยิ้มค้างเพียงเท่านั้น  ก่อนจะค่อยๆลดโทรศัพท์ลงมาอย่างหมดเรี่ยวแรง  ตาคู่สวยมองหน้าจอโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายตัดสายไปสักพักแล้วด้วยสายตาอ่านไม่ออก  ไม่นานฮยอกแจก็หายใจเข้าลึกๆแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง  สะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กเดินไปตามทางกลับบ้านที่คุ้นเคย

    ฮยอกแจ!เดินออกจากมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน  ก็มีเสียงคุ้นหูตะโกนเรียกเสียงดังลั่น

    ร่างบางหันไปตามเสียงเรียกก็ต้องเผยรอยยิ้มบางอย่างเป็นมิตรให้อีกคน  เจ้าของเสียงที่เรียกเขาคืออีทงเฮเพื่อนสนิทของคนรักฮยอกแจ  ร่างบางมองคนหล่อใช้ขาสั้นๆวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างนึกขำ

    มีอะไรหรอทงเฮฮยอกแจถามเมื่ออีกคนมายืนอยู่เคียงข้างเขาแล้ว

    ซีวอนล่ะฮยอกแจ  นายอยู่คนเดียวหรอ?” ทงเฮมองหาเพื่อนร่างสูงอย่างงุนงง  ปกติซีวอนต้องมารับฮยอกแจทุกวันนี่  แต่นี่มันหายไปไหนซะแล้วล่ะ

    ทันทีที่ทงเฮถามจบ  รอยยิ้มบางก็ค่อยๆจางลงทันที  เหลือไว้แต่ใบหน้าหวานที่ฉายแววเศร้าหมองอย่างไม่คิดจะปิดบัง  ทงเฮที่เห็นดังนั้นก็แทบอยากจะตบปากตัวเองแรงๆให้แตกเลือดกลบปากไปสักทีสองที  ร่างหนารีบพูดปลอบประโลมคนสวยทันที

    อ่า .. ไม่เป็นไรนะฮยอกแจ  ซีวอนมันคงมีธุระแหละมั้งทงเฮยิ้มเจื่อนๆพลางปลอบข้างๆคูๆ

    อืม  ฉันไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่ทงเฮเรียกฉันมีอะไรหรือเปล่าฮยอกแจฝืนยิ้มบางให้ทงเฮอีกครั้งเพื่อให้อีกคนไม่กังวล

    อ่อ  เปล่าหรอก  แค่จะเข้ามาทักเฉยๆน่ะ  ไหนๆซีวอนมันก็มีธุระแล้ว  งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งนายที่บ้านเองละกันทงเฮพูดพลางเดินนำไปทางลานจอดรถโดยไม่ลืมดึงแขนฮยอกแจที่ยังยืนนิ่งอย่างงุนงงให้เดินไปด้วยกัน

    ขอบคุณนะทงเฮฮยอกแจพูดก่อนจะยิ้มกว้างอย่างจริงใจ

    อืมทงเฮเหลือบมองแค่แวบหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจทางข้างหน้าอย่างพยายามจะไม่สนใจรอยยิ้มน่ารักที่อีกคนมอบให้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทงเฮยืนมองฮยอกแจที่เดินเข้าบ้านไปยันวางใจว่าฮยอกแจถึงบ้านอย่างปลอดภัยหายห่วงแล้ว  เขาก็คว้าโทรศัพท์เครื่องหรูโทรออกหาเพื่อนรักร่างสูงทันทีก่อนจะออกรถตรงดิ่งกลับบ้าน

    รอไม่นานนักก็ได้รับการตอบรับจากปลายสาย

    (มีอะไร)

    ซีวอน  ทำไมมึงทิ้งให้ฮยอกแจกลับบ้านคนเดียวทงเฮพูดเสียงเรียบนิ่ง

    (ก็กูอยู่กับคยูฮยอน)

    มึงอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงปล่อยให้เขายืนรอมึงเป็นชั่วโมงน่ะ

    (แล้วยังไง?)

    มึงอย่ามากวนตีน

    (ถ้ามึงไม่มีอะไรงั้นแค่นี้นะ  รบกวนเวลาความสุขกูว่ะบอกตรงๆ)

    ซีวอน

    (.....)

    มึงไม่สงสารฮยอกแจบ้างเลยหรอ

    (......... มึงช่วยเลิกพูดเรื่องนี้สักทีทงเฮ) พูดจบก็ตัดสายไปทันที

    ทงเฮถอนหายใจออกมาพลางโยนโทรศัพท์ไปที่เบาะข้างคนขับอย่างหงุดหงิด  หากซีวอนไม่ใช่เพื่อนของเขาบางทีเขาอาจจะเข้าไปต่อยหน้าซีวอนให้ปากแตกสักทีสองทีแล้วก็ได้  แต่เพราะซีวอนเป็นเพื่อนของเขา  และ .. เป็นคนที่คนที่เขารักสุดหัวใจรัก...

    ใช่แล้ว .. อีทงเฮรักอีฮยอกแจ

    รักมานาน .. รักมาก่อนที่ฮยอกแจจะคบกับซีวอนด้วยซ้ำ

    มันอาจจะดูผิดมากใช่มั้ยที่เขาไปรักแฟนของเพื่อนแบบนี้  เขาคงจะดูเลวมากใช่มั้ย .. แต่ไม่หรอก  เขาไม่ได้เลวอะไรขนาดนั้น  อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยคิดจะแย่งคนรักของเพื่อนมาเป็นของตัวเอง  เพราะเขารู้ดีว่าคนที่ฮยอกแจรักคือซีวอน  คนที่จะทำให้ฮยอกแจมีความสุขได้คือซีวอน  ทงเฮแค่อยากเห็นคนที่รักมีความสุขก็แค่นั้น  ไม่ได้อยากครอบครอง..

    ที่ผ่านมาซีวอนทำให้เขาเห็นว่าซีวอนปกป้องดูแลฮยอกแจได้จริงๆ  ซีวอนทำให้เขาวางใจว่าซีวอนรักฮยอกแจไม่น้อยไปกว่าที่เขารัก  แต่อยู่มาวันนึงซีวอนก็ทำตัวห่างเหินกับฮยอกแจ  แล้วทงเฮก็เห็นซีวอนไปจีบรุ่นน้องที่ชื่อคยูฮยอน  ตอนนั้นทงเฮก็ทำได้แค่มอง .. มองเพื่อนของเขา  ที่กำลังจะทำให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด  โดยที่ทงเฮทำอะไรไม่ได้เลย

    .. ทงเฮคิดผิดจริงๆที่ไว้ใจให้ซีวอนดูแลฮยอกแจแทนเขา ..

    สิ่งที่ทงเฮทำได้ตอนนี้ก็มีเพียงแค่พยายามให้ซีวอนกลับมารักฮยอกแจเหมือนเดิม .. เขาไม่อยากเห็นฮยอกแจต้องเจ็บปวด  เขาไม่อยากให้ฮยอกแจต้องร้องไห้  แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขากำลังพยายามจะทำมันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจกลับถึงบ้านก็กระโดดขึ้นเตียงนอนเล่นโทรศัพท์เปิดแอปพลิเคชั่น ทวิตเตอร์ที่ฮยอกแจใช้เป็นประจำอย่างคุ้นชิน  พิมพ์ๆยิกๆบนมือถืออย่างรวดเร็วก่อนจะกดโพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์อย่างชำนาญ

    ฮยอกแจคนน่ารัก @AllRiseSilver                                                                          now

    กลัวจังเลย ...

    กดทวีตเสร็จก็ซุกหน้าลงกับหมอนอย่างอึดอัด  ฮยอกแจรู้สึกได้ว่าเขากำลังจะถูกทิ้ง  ฮยอกแจกลัว  ฮยอกแจกลัวว่าจะเสียคนที่รักไป  ฮยอกแจกลัวว่าวันที่ซีวอนเดินมาบอกเลิกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ..

    ไม่นานนักโทรศัพท์ของฮยอกแจก็สั่นเบาๆเป็นสัญญาณว่ามีคนเมนชั่นเข้ามาหาฮยอกแจ  ฮยอกแจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอย่างเอื่อยเฉื่อย  ในใจก็ภาวนาขอให้เป็นซีวอนที่มาเมนชั่นหาเขา ..

    แต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้เขาผิดหวังอีกเช่นเคย  คนที่เมนชั่นมาคืออีซองมินเพื่อนที่สนิทกันผ่านทวิตเตอร์ของเขา  แต่ข้อความที่ได้รับจากเพื่อนร่างอวบคนนี้ก็ทำให้ฮยอกแจเผยยิ้มออกมาบางเบา

    กระต่ายตัวน้อย  @imSMl                                                                                 35s

    @AllRiseSilver  นายก็มีฉันอยู่ข้างๆนี่ไง  จะกลัวอะไร

    ฮยอกแจพิมพ์ตอบกลับซองมินก่อนจะกดทวีตอย่างรวดเร็วไม่ให้อีกคนรอนาน

    ฮยอกแจคนน่ารัก @AllRiseSilver                                                     now

    @imSMl  กลัวโดนทิ้ง ..

    ตอบเสร็จก็เลื่อนดูไทม์ไลน์ไปเรื่อยๆ  เผยรอยยิ้มบางเบาบ้างเมื่อเห็นอะไรน่ารักๆในไทม์ไลน์  เลื่อนไปเลื่อนก็มาเห็นเมนชั่นของใครอีกคนที่แอพทวิตเตอร์คงจะทำงานผิดพลาดไม่ยอมขึ้นแจ้งเตือนเหมือนที่เคย .. มันคือข้อความจากคนที่มาส่งเขาที่บ้านในวันนี้

    สุดหล่ออีทงเฮ @donghae861015                                                                   3m

    @AllRiseSilver  มีปัญหาอะไรครับฮยอกแจคนน่ารัก  บอกสุดหล่อทงเฮได้นะ                                                                                   

    รอยยิ้มกว้างถูกแต่งแต้มบนใบหน้าหวานอย่างไม่รู้ตัว  คนน่ารักไม่รอช้าพิมพ์ตอบกลับทันที

    ฮยอกแจคนน่ารัก @AllRiseSilver                                                      now

    @donghae861015 ทงเฮอยากรู้ก็บอกมาตรงๆ  คึคึ

    เพียงแค่กดส่งข้อความไปไม่ถึงยี่สิบวินาที  อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วปานติดจรวดจนฮยอกแจยังตกใจ  ร่างบางรีบเปิดดูข้อความจากอีกคนอย่างรวดเร็ว

    สุดหล่ออีทงเฮ @donghae861015                                                                     1s

    @AllRiseSilver  เบื่อคนรู้ทัน  ;P

    ฮยอกแจหัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้าน้อยๆกับความขี้เล่นของเพื่อนของ .. คนรัก

     .. คนรัก?  ..

    งั้นหรอ......?

    ..................เขาจะได้ใช้คำนี้กับซีวอนไปอีกนานแค่ไหนนะ  ใกล้แล้วหรือเปล่าที่เขาต้องเปลี่ยน .. เปลี่ยนสถานะระหว่างเขากับซีวอนจาก คนรักเป็น อดีตคนรัก’ ..

    การกระทำที่เปลี่ยนไปของซีวอนเป็นเครื่องบอกระยะเวลาที่เหลืออยู่ของสถานะคนรักระหว่างซีวอนกับฮยอกแจได้เป็นอย่างดี .. เขารู้ ........... ฮยอกแจรู้  แต่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้  หลอกตัวเองว่าเขายังรัก  หลอกตัวเองว่าเขาแค่เหนื่อย  หลอกตัวเองว่าเขาแค่อารมณ์ไม่ดี  หลอกตัวเองว่า .. เขากับซีวอนจะรักกันตลอดไป  ดังคำสัญญาที่ทั้งซีวอนทั้งฮยอกแจมอบให้กันในวันครบรอบหนึ่งปี ..

    ร่างเล็กถอนหายใจออกมายาวๆอย่างคนกลัดกลุ้ม  ก่อนจะซุกใบหน้าหวานลงกับหมอนใบโตอย่างเหนื่อยอ่อน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Rrrrrrrrrr

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร  แต่ก็นานพอที่ฮยอกแจได้หลับไปโดยไม่รู้ตัว  เสียงโทรศัพท์ที่ถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีก็ดังขึ้นมาปลุกให้คนตัวเล็กตื่นขึ้นมา

    ฮยอกแจพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างยากลำบาก  มือเล็กควานหาโทรศัพท์เครื่องหรูที่น่าจะถูกทิ้งอยู่ใกล้ๆตัวอย่าสะเปะสะปะ  เมื่อเจอหาแล้วก็จึงตัดสินใจรับโทรศัพท์โดยไม่มองชื่อเจ้าของเบอร์ที่โทรมา

    ยอโบเซโย

    (..ฮยอกแจ?) เสียงปลายสายที่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าที่ควรเอ่ยชื่อร่างบางออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังรู้สึกลังเล

    อื้อ  นั่นใครอ่ะ?” ฮยอกแจถาม

    (ฉันเอง  ทงเฮ)

    อ๋อ  ทงเฮมีอะไรหรือเปล่าเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใครฮยอกแจก็คลี่ยิ้มบางออกมาทันที  จะบอกว่าเพราะเป็นมารยาทหรือสิ่งที่ควรทำก็คงจะไม่ใช่  เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ไม่สามารถมองเห็นเขาได้อยู่แล้ว  ต่อให้เขาจะยิ้มหรือไม่ยิ้มก็มีค่าเท่ากัน  แต่เพราะอะไรฮยอกแจถึงได้คลี่ยิ้มออกมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเหนื่อยจนอยากจะร้องไห้ด้วยซ้ำไป ..

    (........)

    .

    .

    .

    เมื่อเห็นปลายสายเงียบ  ฮยอกแจจึงส่งเสียงเรียกอีกคนอย่างไม่เข้าใจ  ทั้งๆที่สายโทรศัพท์ก็ยังไม่ถูกตัดไป  แต่ทำไมถึงทงเฮถึงไม่พูดอะไรล่ะ

    ทงเฮ

    (.. ห๊ะ?)

    อะไรของทงเฮเนี่ย  ฉันถามว่าทงเฮโทรมามีอะไรหรือเปล่า  ฮ่าๆๆฮยอกแจพูดกลั้วหัวเราะที่อีกฝ่ายทำตัวแปลกๆราวกับคนเพี้ยนก็ไม่ปาน

    (อ่อ  ฉันจะถามว่าฮยอกแจมีเสื้อมั้ย .. อ่า ไม่ๆ คือที่นายใส่.. ฉันหมายถึงฉันจะขอตัวฮยอกแจ  เห้ย  ไม่ใช่ละ  แบบเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วอ่ะ  ฉันยืม .. โอ๊ย  ฉันว่ามัน..) เสียงปลายสายพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักพูดผิดนู่นนี่จนฟังไม่รู้เรื่อง  ดูน่าตลกจนฮยอกแจขำพรืด

    ทงเฮใจเย็นๆนะ  ค่อยๆพูดก็ได้  ฉันไม่รีบ  ฮ่าๆๆๆๆฮยอกแจพูดพลางหัวเราะเสียงดัง

    (.. ฉันจะขอยืมเสื้อสีน้ำตาลที่นายเคยใส่เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วหน่อยได้มั้ย) ทงเฮที่ดูจะใจเย็นขึ้นมาบ้างพูดออกมารวดเดียวราวกับกลัวจะถูกใครแย่งพูด  นั่นก็สร้างความขบขันให้ฮยอกแจได้อีกระรอก

    ได้ดิๆ  คิกคิก  แค่นี้เอง  ทงเฮจะเอาวันไหนล่ะ

    (เดี๋ยววันศุกร์นี้ฉันไปเอานะ)

    นายจะมาเอาที่ไหนอ่ะ

    (ที่ที่ฮยอกแจเจอกะฉันวันนี้ก็ได้)

    อ่อ  ได้เลย

    (ขอบคุณมากนะฮยอกแจ  บ้ายบาย)

    อื้อ  บ้ายบาย

    เมื่อพูดจบ  ปลายสายก็ดูอึกอักๆเหมือนกับจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูดสักที  ร่างบางนึกสงสัยพลางรอฟังสิ่งที่ร่างหนาจะพูดโดยไม่นึกรำคาญ

    . . . . . .

    (ฝันดีนะ)

    ... เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำนี้จากทงเฮ  ฮยอกแจจึงอึ้งไปเล็กน้อย  ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานตอบกลับไป

    ทงเฮก็เหมือนกันนะพูดจบก็รอจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่พูดอะไรต่อแล้วก็กดวางสายไปพร้อมรอยยิ้มหวาน

    .. ฮยอกแจมองหน้าจอโทรศัพท์ที่โชว์เบอร์ที่ไม่คุ้นตาและไม่ได้เมมชื่อเอาไว้สักพัก  คิ้วบางขมวดน้อยๆอย่างใช้ความคิดก่อนจะตัดสินใจโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียงแล้วไปอาบน้ำโดยที่ไม่ได้เมมเบอร์อีกคนเอาไว้  เพราะคิดว่าเขากับทงเฮไม่ได้สนิทกันมากไม่จำเป็นต้องเมมเอาไว้ก็ได้..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มือหนาบรรจงเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ทัชสกรีนแผ่วเบา   หน้าหล่อฉายแววกังวลน้อยๆให้เห็น  ตาคมไล่อ่านไทม์ไลน์ทวิตเตอร์บนจอมือถือซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เลื่อนขึ้นเลื่อนลงซ้ำไปซ้ำมาราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง

    หลังจากที่เขาส่งข้อความหยอกล้อฮยอกแจเพื่อหวังจะให้อีกคนรู้สึกดีขึ้น  เขารออยู่มามากกว่าสามสิบนาที  แต่ฮยอกแจก็ดันไม่ตอบกลับมาเสียที  จะบอกว่าเว้นไม่ตอบเมนชั่นของเขาคนเดียวก็ไม่น่าใช่  เพราะฮยอกแจไม่ได้ทวิตอะไรต่อจากนั้นอีกเลย

    ทงเฮรู้ว่าฮยอกแจกำลังไม่สบายใจ  ทงเฮรู้ว่าฮยอกแจเจ็บแค่ไหน  ทงเฮรู้ว่าอะไรที่ทำให้ฮยอกแจเป็นแบบนี้ .. แต่ทงเฮก็เลือกจะทำเป็นไม่รู้  แล้วคอยมองดูฮยอกแจอยู่ห่างๆด้วยความรู้สึกเป็นห่วงที่แทบจะล้นออกมานอกอก  คอยพูดคุยหยอกล้อให้ฮยอกแจได้อารมณ์ดีขึ้น  พยายามช่วยปรับความเข้าใจระหว่างคนสองคน .. ทั้งๆที่อยากจะทำมากกว่านี้  ทั้งๆที่อยากจะเข้าไปกอดร่างบางๆนั่นตอนที่ฮยอกแจกำลังรู้สึกเสียใจ  โดดเดี่ยว  หรือท้อแท้  ทั้งๆที่อยากจะเข้าไปบอกฮยอกแจใจจะขาดว่าเขารักฮยอกแจมากแค่ไหน  ทั้งๆที่อยากจะเป็นคนดูแลหัวใจบอบบางดวงนั้นด้วยตัวของเขาเอง .. แต่คนที่อยู่ในสถานะเพื่อนของแฟนฮยอกแจอย่างเขา .. มีสิทธิทำได้แค่นี้ไม่ใช่หรอ..?

    อาการร้อนรนที่ทงเฮเป็นอยู่ตอนนี้บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าเขากำลังเป็นห่วง .. ห่วงว่าร่างบางของเขาจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้  เขาไม่อยากให้ฮยอกแจร้องไห้  เขาไม่อยากให้ฮยอกแจต้องเสียใจ

    ยิ่งตอนที่ทงเฮเปิดแอพพลิเคชั่นที่ชื่อทวิตเตอร์ขึ้นมา  เขาก็เห็นคนที่รักทวิตว่ากลัว  ทงเฮไม่รอช้ารีบถามไถ่ทันทีด้วยความเป็นห่วง  ต่อมาก็เห็นว่าฮยอกแจตอบเมนชั่นเพื่อนสนิทว่ากลัวถูกทิ้ง  ประโยคสั้นๆที่ดูเหมือนไม่มีอะไร  แต่มันทำให้ทงเฮเจ็บไปทั้งหัวใจ  ความเป็นห่วงที่มีมากอยู่แล้วก็ยิ่งมีมากขึ้นไปอีกจนทงเฮอยากจะขับรถบึ่งไปหาร่างบางเสียเดี๋ยวนั้น

    จริงๆแล้วทวิตเตอร์เป็นแอพพลิเคชั่นที่เขาไม่เคยนึกอยากจะเล่นเลยสักครั้ง  แต่ที่เขาต้องเข้ามาเล่นนั่นก็เป็นเพราะฮยอกแจ  เขารู้มาว่าฮยอกแจติดแอพนี้มากๆ  จนในที่สุดเขาก็เข้ามาเล่น  แล้วก็ถูกเสน่ของทวิตเตอร์ดึงดูดซะติดจนขาดไม่ได้  ทงเฮเข้าใจดีเลยล่ะว่าทำไมฮยอกแจถึงได้ติดนักหนา

    ร่างหนาเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาว่าผ่านมาสี่สิบนาทีแล้วนับจากที่ฮยอกแจหายไปจากทวิตเตอร์  คิ้วหนาขมวดแน่นก่อนที่จะควบคุมนิ้วมือของตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป  นิ้วยาวกดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจก่อนจะกดโทรออกทันทีอย่างไม่ลังเล  รอสายอยู่นานจนตัดไปหลายครั้งแต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม  ทงเฮยังคงโทรหาเจ้าของเบอร์คนเดิมซ้ำๆด้วยความรู้สึกร้อนรนมากยิ่งขึ้น

    (ยอโบเซโย) ในที่สุดปลายสายก็ตอบรับ  หน้าคมฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ

    “..ฮยอกแจ?” ทงเฮถามอย่างไม่แน่ใจว่านั่นใช่เสียงฮยอกแจหรือเปล่า  เพราะเสียงจากปลายสายดูจะงัวเงียแปลกๆ

    (อื้อ  นั่นใครอ่ะ?)  อ่า .. ตกลงว่าใช่สินะ

    ตะกี้ที่หายไปคือฮยอกแจนอนหลับงั้นหรอแต่ทงเฮก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี

    ฉันเอง  ทงเฮ

    (อ๋อ  ทงเฮมีอะไรหรือเปล่า)

    ...... นั่นสิ  มีอะไรหรือเปล่า

     “........” ฮยอกแจ  ทำไมถึงอยู่ๆก็หายไป  รู้มั้ยว่าเป็นห่วง  .. ประโยคที่ทำได้แค่คิดแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป  เขามีสิทธิจะพูดคำนั้นออกไปด้วยอย่างงั้นหรอคำที่เขาไม่มีสิทธิจะพูดมันออกไปลอยว่อนอยู่เต็มสมอง  ทงเฮพยายามจะเอาคำพูดเหล่านั้นออกไปจากหัวให้หมดก่อนที่จะเผลอพูดมันออกไปจริงๆ  พยายามคิดดูดีๆ  คิดแล้วคิดอีกแต่ก็ค้นไม่เจอคำพูดที่เขาพอจะพูดออกไปได้เลยสักประโยค แล้วถ้าไม่มีอะไรจะพูดจริงๆแล้วเขาจะโทรหาฮยอกแจทำไมกันล่ะเพราะความเป็นห่วงที่มีอยู่ล้นอกแท้ๆเชียว.. ทงเฮขมวดคิ้วแน่นเพราะกำลังใช้ความคิดหาเหตุผลมาอ้าง   เพราะเป็นห่วงใจจะขาดก็จึงโทรมาโดยไม่ได้คิดเหตุผลมาก่อน

     (ทงเฮ)  เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเห็นว่าทงเฮเงียบไป  ฮยอกแจก็จึงเอ่ยเรียก

    “.. ห๊ะ?” แม้เสียงหวานจะไม่ได้เอ่ยเสียงดัง  แต่ก็ทำให้คนที่กำลังใช้ความคิดสะดุ้งน้อยๆได้

    (อะไรของทงเฮเนี่ย  ฉันถามว่าทงเฮโทรมามีอะไรหรือเปล่า  ฮ่าๆๆ)

    ปลายสายหัวเราะคิกคักท่าทางดูมีความสุข  ทงเฮยิ้มกว้างจนแทบจะฉีกไปถึงรูหู  อย่างน้อยเขาก็ทำให้ฮยอกแจหัวเราะได้ล่ะนะ

    อ่า.. ทงเฮมองไปรอบๆตัวอย่างหาตัวช่วย  แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากห้องนอนที่จัดอย่างเป็นระเบียบด้วยฝีมือของแม่บ้านที่บ้านทงเฮจ้างมา

    อ่อ  ฉันจะถามว่าฮยอกแจมีเสื้อมั้ย .. อ่า ไม่ๆ คือที่นายใส่.. ฉันหมายถึงฉันจะขอตัวฮยอกแจ  เห้ย  ไม่ใช่ละ  แบบเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วอ่ะ  ฉันยืม .. โอ๊ย  ฉันว่ามัน..ทงเฮหันไปสะดุดตากับเสื้อยืดตัวเก่งที่ถูกถอดทิ้งไว้ในตะกร้าผ้าสีน้ำตาลอ่อนบนพื้นพอดี  จึงคิดว่าถ้าจะอ้างว่าจะขอยืมเสื้อฮยอกแจน่าจะเป็นความคิดที่ดี  แต่เพราะตื่นเต้นเกินไปจึงพูดตะกุกตะกัก  พูดผิดพูดถูกจนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง  แถมยังมีบางประโยคฟังดูน่าอายอีกต่างหาก!

    (ทงเฮใจเย็นๆนะ  ค่อยๆพูดก็ได้  ฉันไม่รีบ  ฮ่าๆๆๆๆ) ปลายสายหัวเราะเสียงดังอย่างไม่นึกอาย  อา .. ฮยอกแจโคตรน่ารักเลย  แต่ให้ตายเถอะ!  ทงเฮทำเรื่องน่าอายโคตรพ่อโคตรแม่ให้ฮยอกแจเห็นอีกแล้ว

    มือใหญ่กุมขมับตัวเองอย่างกลุ้มใจที่ตัวเองไม่สามารถตั้งสติให้พูดจาพอฟังรู้เรื่องได้เลย  ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างพยายามรวบรวมสติที่พอจะมีอยู่บ้าง  แล้วพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการจะสื่อ

    “.. ฉันจะขอยืมเสื้อสีน้ำตาลที่นายเคยใส่เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วหน่อยได้มั้ยทงเฮพูดพลางระบุระยะเวลามั่วๆให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นมาหน่อย  ที่จริงก็ไม่รู้หรอกว่าสองอาทิตย์ที่แล้วฮยอกแจใส่เสื้ออะไร  ......... เอาละ  กูนี่ชักจะบ้า  มั่ววันแล้วก็เสือกระบุสีไปด้วยให้มันเสียงต่อการที่จะถูกจับได้ว่าตัวเองพูดมั่วๆทำไมวะ  หวังว่าฮยอกแจจะไม่สงสัยอะไรนะ  ถ้าจะให้ดีก็ขอให้เขาเดาถูกทั้งสีทั้งวันด้วยเถอะ!

    .. แต่เอาจริงๆฮยอกแจตัวแบบโคตรบาง  ตัวเล็กนิดเดียว  อ้างว่าขอยืมเสื้อนี่โคตรบ้า  คิดว่าเอามาแล้วคนตัวตันอย่างทงเฮจะใส่ได้หรอ ..

    (ได้ดิๆ  คิกคิก  แค่นี้เอง  ทงเฮจะเอาวันไหนล่ะ) ฮยอกแจตอบกลับมาอย่างเต็มใจ

    เดี๋ยววันศุกร์นี้ฉันไปเอานะ

    (นายจะมาเอาที่ไหนอ่ะ)

    ที่ที่ฮยอกแจเจอกะฉันวันนี้ก็ได้

    (อ่อ  ได้เลย)

    ขอบคุณมากนะฮยอกแจ  บ้ายบาย

    (อื้อ  บ้ายบาย)

    หลังจากเสียงหวานพูดจบ  ทงเฮก็อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หุบมันลงเหมือนเดิมราวกับกำลังลังเลอะไรบางอย่าง  เป็นแบบนี้อยู่สักพัก  แต่สุดท้ายปากเจ้ากรรมก็ดันโพล่งคำที่ทงเฮอยากจะบอกกับร่างบางนักหนาออกไปอย่างไม่สงสารเจ้าของที่ทันทีที่พูดจบก็แทบอยากจะกระโดดเอาหัวโขกผักชีให้ตายกันไปข้าง

    ฝันดีนะ

    ......................... ชั่วอึดใจที่ทงเฮกลั้นหายใจรอคอยการตอบรับจากคนปลายสาย  เหงื่อเย็นๆไหลซึมออกมาจากมือข้างที่ถือโทรศัพท์แบรนด์แอปเปิ้ลอย่างลุ้นๆ  มือหนาบีบโทรศัพท์แน่นจนน่าเป็นห่วงว่ามือถือเครื่องบางจะถูกร่างหนาบีบจนแตกละเอียดไปเสียก่อน  แต่ก่อนที่ทงเฮจะขาดใจตาย  เสียงหวานก็ตอบกลับมาอย่างน่ารักว่า

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . . . . .

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . .

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . .

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . .

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . .

    ทงเฮก็เหมือนกันนะ

    . . .

    เสียงหวานของฮยอกแจดังก้องอยู่ในหัวทงเฮแม้ว่าจะถูกตัดสายไปแล้ว  ดังซ้ำไปซ้ำมาราวกับกดรีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำอีก

     

    ฟอหอกอดอเอกอาสอวอ!!!!!!!!!!!

    อีทงเฮอยากจะกรี๊ด!

    คืนนี้ทงเฮจะรีบๆอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบๆมานอนตั้งแต่หัวค่ำจะได้รีบๆฝันดีอย่างที่ฮยอกแจบอก!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันศุกร์ที่แสนสดใส  ร่างบอบบางยืนรอทั้งคนรักและเพื่อนของคนรักที่นัดกันไว้  มือเล็กถือถุงผ้าบางๆที่คาดว่าด้านในก็คงจะเป็นเสื้อตัวที่ทงเฮบอกว่าจะขอยืมนั่นแหละ  มือเล็กแกว่งถุงผ้าในมือไปมาเพลินๆ  วันนี้อยู่ๆเขาก็รู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก  อาจจะเป็นเพราะเมื่อวานซีวอนขับรถไปส่งเขาที่บ้านเหมือนเดิมหลังจากที่ไม่ได้ไปส่งเขามาติดกันหลายวันล่ะมั้ง

    ฮยอกแจเสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของซีวอนที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับชายหนุ่มร่างโปร่งข้างกาย

    “..ซีวอนมาแล้วหรอฮยอกแจยิ้มรับหน้าบาน

    อืมซีวอนตอบรับในลำคอพลางพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ

    ฮยอกแจเลื่อนสายตาจากไปหน้าคมไปหยุดอยู่ที่ร่างโปร่งแปลกหน้าที่สูงกว่าฮยอกแจเกือบคืบ  คนตัวเล็กเอียงคอมองอย่างสงสัย  คนๆนี้เป็นใคร  เพื่อนคนไหนของซีวอน  ทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นหน้า

    เขาคนนั้นคลี่ยิ้มบางให้ฮยอกแจอย่างเป็นมิตร  แต่ดูน่าแปลกที่รอยยิ้มนั้นของร่างโปร่งทำให้ฮยอกแจใจสั่นระรัว  ไม่ใช่เพราะตกหลุมรักหรืออะไรทั้งนั้น  แต่มัน .. ให้ความรู้สึกไม่ดีอย่างประหลาด

    คนนี้ใครหรอซีวอนฮยอกแจหันไปถามซีวอนด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก  ซีวอนหันไปสบตากับคนข้างกายชั่วครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มหล่อให้ฮยอกแจ

    ซีวอนก้าวเข้ามาประชิดตัวฮยอกแจอย่างกระทันหันจนคนตัวเล็กตกใจแทบจะเซล้มไปข้างหลังแต่ก็โชคดีที่แขนแกร่งคว้าเอวบอบบางไว้ได้ทัน

    อ่ะ..เอ่อ.. ซีวอนฮยอกแจที่ตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งออกแรงดันอกอีกคนเบาๆ  ใบหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย  นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้ใกล้ชิดคนรักแบบนี้

    หืม?” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างนุ่มละมุนจนฮยอกแจหน้าแดงหนักกว่าเก่า  ดวงหน้าหวานซุกลงกับอกแกร่งซ่อนความเขินอายอย่างน่ารัก

    ฮยอกแจ .. วันนี้ฉันเอาของขวัญย้อนหลังวันครบรอบของเรามาให้นายด้วยนะซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นซึ่งฮยอกแจไม่ได้ยินมานานพอสมควร  มือหนาจับใบหน้าหวานให้ขึ้นมาสบตากับตัวเอง  นิ้วแกร่งลูบแก้มใสแผ่วเบา

    จริงหรอซีวอนฮยอกแจยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกสีชมพูน่าเอ็นดู  เมื่อร่างสูงฟังคำของคนตัวเล็กจบก็พยักหน้าเบาๆพร้อมรอยยิ้มเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง

    ซีวอนหันไปสบตากับร่างโปร่งที่ยืนอยู่ด้านหลังอีกครั้ง  ส่งยิ้มให้กันและกันก่อนจะหันมาหาร่างบอบบางในอ้อมกอด

    สิ่งที่ฉันจะให้ ..

    ฮยอกแจมองใบหน้าหล่อของร่างสูงด้วยความตื่นเต้นที่ปิดไม่มิด  ใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก  ปากบางคลี่ยิ้มหวานอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

    ก็คือ..พูดพลางยกมือแกร่งขึ้นลูบหัวทุยของคนตัวเล็กแผ่วเบา  มือเล็กก็เขย่าแขนแกร่งของอีกคนอย่างเร่งเร้าให้รีบๆให้เขามาเสียที

    ซีวอนใช้มือแกร่งจับข้อมือบางเอาไว้หลวมๆ  แต่ก็มากพอที่จะทำให้ร่างบางหยุดการกระทำลงได้  คนตัวเล็กได้แต่แสดงสีหน้างุนงงอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ซีวอนกำลังทำอยู่

    ช่วงนี้นายเสียใจเพราะฉันอยู่บ่อยๆใช่มั้ยร่างสูงถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ  แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไม่ทำให้ร่างบางรู้สึกดีได้เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป  ร่างบางขมวดคิ้วน้อยๆแต่ไม่ได้ตอบคำถามร่างสูง

    นายกำลังกังวลเพราะฉันใช่มั้ย

    นายกำลังอึดอัดเพราะฉันใช่มั้ย

    ฮยอกแจที่รู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่าง  ตาคู่สวยจ้องมองใบหน้าหล่อนิ่ง  มือเล็กกำเสื้อของร่างสูงแน่นจนยับยู่ยี่  ตาคู่สวยไหววูบด้วยความรู้สึกกลัว .. กลัวว่าสิ่งที่เขาคิดกำลังจะเกิดขึ้น  กลัวว่าสิ่งที่เขากังวลมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น  กลัวว่าเขาจะเสียคนที่รักไป  กลัวจนมือทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง  ถุงผ้าที่ถืออยู่ในตอนแรกถูกปล่อยให้ตกลงตามแรงโน้มถ่วงกระแทกพื้นจนเสื้อสีน้ำตาลที่อยู่ด้านในหลุดออกมา

    นายกำลังเจ็บเพราะฉันใช่มั้ยซีวอนเอ่ยขึ้นพลางลูบใบหน้าหวานอย่างปลอบประโลม

    เพราะฉะนั้น ...

    ไม่!  อย่าพูดนะ!ฮยอกแจตะโกนลั่นแทรกเสียงทุ้มอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้  หัวใจดวงน้อยสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัวที่แล่นขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว

    ถ้าในเมื่อฉันเป็นคนทำให้นายเจ็บ..ซีวอนยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจร่างบางที่กำลังกัดฟันแน่นพลางจิกเสื้อเชิ้ตของเขาจนยับยู่ยี่หนักกว่าเก่า

    ไม่ซีวอน  ฉันไม่ได้เจ็บ  หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!ฮยอกแจเอื้อมมือหมายจะปิดปากของร่างสูง  แต่มือแกร่งก็ไวกว่าคว้าหมับไว้ได้ทันก่อนจะเร่งพูดคำที่ร่างเล็กไม่อยากได้ยินมาที่สุดออกมา

    ฉันก็จะไปจากนาย

    ก็บอกว่าไม่ไงเล่า!ฮยอกแจตวาดลั่นพลางเขย่าร่างสูงอย่างแรง

    ให้นายไปเจอชีวิตที่ดีกว่าตอนที่อยู่กับฉัน  เจอคนที่ดีกว่าฉัน

    ไม่!  ไม่!  ไม่!  นายได้ยินมั้ยซีวอน!  ฉันบอกว่าไม่!ฮยอกแจตะโกนเสียงดังลั่น  ขอบตาสวยแดงระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่  มือเล็กทุบตีร่างสูงไม่หยุดอย่างที่ไม่เคยเป็น

    ฮยอกแจกัดฟันแน่นอย่างหักห้ามตัวเอง  เขาไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าคนที่เขารัก  เขากลัว .. กลัวว่าซีวอนจะเป็นกังวลเพราะเขา  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  น้ำตาที่รื้นอยู่ที่ขอบตาก็ดูจะไม่ค่อยเชื่อฟังหัวใจร่างเล็กเท่าไร  น้ำใสๆรื้นขึ้นมาบดบังการมองเห็นของฮยอกแจจนภาพตรงหน้าเบลอไปหมด  ฮยอกแจมองซีวอนผ่านม่านน้ำตาอย่างเจ็บช้ำ  ภาพของใบหน้าคมที่เขาเคยมองเห็นได้ชัดเจนถูกความเจ็บปวดบดบังจนมองแทบไม่เห็น  ฮยอกแจเอื้อมมือออกไปหวังจะสัมผัสใบหน้าหล่อแต่ก็ไม่สามารถสัมผัสได้สมใจ  มือเล็กสัมผัสได้เพียงอากาศที่ว่างเปล่า  รู้สึกราวกับกำลังถูกบีบหัวใจแน่น  โดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมากก่อน  หัวใจดวงน้อยที่เคยสั่นระรัวหวั่นไหวเพราะความรักที่กำลังเริ่มต้นและกำลังดำเนิน  กลับกลายมาเป็นสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะเพราะความรักที่ต้องจบลงไปอย่างไร้เยื่อใย  เจ็บปวดเกินกว่าคนตัวเล็กๆจะทนไหว

    นี่น่ะหรอของขวัญของนาย!นี่น่ะหรอของขวัญวันครบรอบของนาย!?” น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลรินจากตาคู่สวยเป็นสาย  เสียงหวานตวาดลั่นราวกับคนไร้สติ  ภาพเก่าๆที่ผ่านมาของทั้งเขาและซีวอนย้อนกลับเข้ามาในสมองเล็กเหมือนกับมีใครกดรีเพลย์   ตั้งแต่วันแรกที่เขาเจอซีวอน  ตั้งแต่วันแรกที่ซีวอนเข้ามาจีบเขา  ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มรักซีวอน  ตั้งแต่วันแรกที่ซีวอนขอเขาคบ  ตั้งแต่เดทครั้งแรกระหว่างเรา  หรือแม้กระทั่งตั้งแต่วันที่ซีวอนจูบเขาครั้งแรก  ทุกๆความทรงจำดีๆหวนเข้ามาในความทรงจำราวกับต้องการจะทำลายหัวใจที่บอบบางของฮยอกแจให้สิ้นซาก

    รัก .. มากเกินไป  รัก .. จนไม่ได้เผื่อใจเอาไว้เจ็บ

    นายไม่ชอบหรอฮยอกแจ  แบบนี้ฉันก็เสียใจแย่สิซีวอนพูดพลางยิ้มบางๆ  รอยยิ้มที่สร้างแผลลึกในใจฮยอกแจมากขึ้นไปอีก  ซีวอนคงไม่ได้กำลัง .. ยิ้มหยันเขาใช่มั้ยฮยอกแจเข้าสวมกอดร่างแกร่งทันที   เสียงหวานพร่ำพูดขอร้องซีวอนอย่างน่าสงสาร

    ซีวอน  ได้โปรด.. ฮึก

    ฮยอกแจ  ฉันขอโทษซีวอนพูดพลางค่อยๆดันร่างบอบบางออก  แต่ฮยอกแจก็ยังคงฝืนแรงของซีวอนเอาไว้

    คำขอโทษของซีวอนไม่ได้ทำให้ร่างบางรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย  เขารู้สึกราวกับคำขอโทษจากร่างสูงเป็นยาพิษที่ช่วยทำให้เขาตายเร็วขึ้นได้เป็นอย่างดี

    ขอร้องล่ะซีวอน  นายก็รู้ว่าฉันรักนายมาก  ได้โปรดอย่าไป..ฮยอกแจซุกหน้าลงกับอกแกร่ง  สัมผัสเปียกชื้นเป็นวงกว้างบนเสื้อของร่างสูงบ่งบอกได้ดีว่าคนตัวเล็กร้องไห้หนักแค่ไหน

     

    แม้ว่าฉันจะไม่ได้รักนายแล้วน่ะหรอฮยอกแจ..ถ้านายรักฉันก็ปล่อยฉันไปเถอะ  ฉันมีคนใหม่แล้วนายก็เห็นซีวอนพูดพลางสะบัดร่างเล็กๆอย่างแรงจนฮยอกแจล้มลงไปกับพื้น

    ร่างสูงเดินเข้าไปโอบเอวร่างโปร่งที่มาด้วยกันราวกับจะเย้ยหยันร่างบาง  ตาคมก้มลงมองคนที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้นด้วยสายตาว่างเปล่า  ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงก่อนจะพาร่างบอบบางของตัวเองเข้าไปกอดขาแกร่งอย่างขอร้อง

    ฮึก  ซีวอน  ฉันรักนายนะ.. ฮึก.. รักนายจริงๆร่างเล็กพูดพลางสะอื้นไห้  แขนเล็กกอดขาแกร่งแน่นไม่ยอมปล่อย  เขาจะไม่มีทางปล่อยคนที่รักไป  ไม่มีทาง..

     

    ฮยอกแจ  พอได้แล้ว  อย่าทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้เลยคำพูดรุนแรงหลุดออกมาจากปากของร่างสูงที่เคยอบอุ่นและอ่อนโยน  ฮยอกแจส่ายหน้ารัวๆจนผมนุ่มยุ่งเหยิงไปหมด  น้ำตาที่เปรอะเปื้อนไปทั่วดวงหน้าหวานทำให้ร่างบางดูน่าสงสารมากขึ้นไปอีก

    “ฮึก  นายบอกฉันสิว่านายแค่ล้อเล่น  ซีวอน..”

    แขนเล็กกอดขาแกร่งแน่นพลางแนบใบหน้าหวานเข้ากับกางเกงแสลคสีดำของร่างสูง  ซีวอนเหลือกตาขึ้นด้านบนอย่างหมดความอดทนพลางสะบัดขาอย่างแรงจนร่างเล็กๆกระเด็นออกไปตามแรง  ฮยอกแจร้องไห้อย่างรุนแรงดูน่าสงสารแต่นั่นไม่ใช่สำหรับซีวอน  ร่างสูงมองคนตัวเล็กที่อยู่บนพื้นด้วยสายตาสมเพศปนเวทนา  ฮยอกแจที่เงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับร่างสูงพอดิบพอดีถึงกับนิ่งค้าง  เขาพึ่งจะเคยเห็นสายตาแบบนี้จากซีวอนก็วันนี้แหละ ..

    สายตาสมเพศของร่างสูงใช้มองฮยอกแจเปรียบดังเครื่องมือทรมานร่างบางที่กำลังกรีดหัวใจดวงน้อยจนเป็นแผลเหวอะหวะ  ตอนนี้ฮยอกแจรู้สึกราวกับกำลังถูกคนที่เขารักบีบหัวใจให้แหลกสลายไป  ความจุกแน่นอยู่ในอกสร้างความทรมานอย่างถึงที่สุดให้กับร่างบาง  หยาดน้ำตาที่ไหลลงมาราวกับสายธารไม่ได้ชโลมให้หัวใจบอบบางรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

    หัวใจที่ซีวอนเคยให้สัญญาไว้ว่าจะดูแลมันอย่างดี  .. แต่ตอนนี้กลับถูกซีวอนเป็นคนทำลายมันเองกับมือ..

     

    ฮยอกแจจะมอบหัวใจให้ฉันเป็นคนดูแลได้มั้ย..

    ซีวอนจะดูแลหัวใจฉันได้จริงๆหรอ

    แน่นอนสิ  จะดูแลอย่างดี  ไม่ให้เจ็บไม่ให้เสียใจ  เราจะปกป้องหัวใจของนายด้วยหัวใจของเราเอง..

    อ่า...อื้อ  ตกลง  ซีวอนดูแลหัวใจเราดีๆนะ  ห้ามทิ้งนะ  สัญญาด้วย

    ผมชเวซีวอนขอสัญญาว่าจะไม่ทิ้งฮยอกแจ  จะรักฮยอกแจตลอดไป..

     

    ยิ่งหวนนึกถึงวันวานน้ำตาก็ยิ่งไหลมากขึ้น  เสียงทุ้มนุ่มยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจดวงน้อยราวกับจะกลั่นแกล้ง  ทั้งๆที่ในหัวใจของเขายังมีเสียงคำมั่นสัญญาของซีวอนดังอยู่ไม่ขาดสาย  แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้ากลับเป็นภาพที่ซีวอนเดินจากไปกับใครอีกคนอย่างไม่ใยดีเขาเลยสักนิด

     

    วันนี้ฮยอกแจอ่านนิยายเรื่องนึงมา..

    หืม?”

    พระเอกเรื่องนี้ใจร้ายมากๆเลยอ่ะ  คบกับนางเอกมาตั้งนาน  ตอนแรกๆก็รักกันมากเลยนะ  แต่อยู่ๆก็ทิ้งนางเอกไปเฉยเลย  นางเอกน่าสงสารมากๆเลยล่ะ!

    นั่นสิ  ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนั้นนะ

    ซีวอนคงจะไม่ทำแบบนั้นกับฉันใช่มั้ย..

    แน่นอน

    ฉันรักนายที่สุดเลยยยย

    ฉันก็รักนาย  ฮยอกแจ..

     

    แต่สำหรับวันนี้ .. ซีวอนกลับกลายมาเป็นคนใจร้ายคนนั้น  คนใจร้ายที่ไม่เห็นความหมายของอดีตเลยสักนิด  .. คนใจร้ายที่เดินจากไปทั้งๆที่เขากำลังร้องไห้จะเป็นจะตายราวกับจะขาดใจอยู่ตรงนี้..

    ตั้งแต่เกิดมาฮยอกแจก็พึ่งเคยรับรู้ความรู้สึกของคนที่ถูกทิ้ง  ความรู้สึกของคนที่ต้องโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว  รู้สึกโหวงๆแปลกๆอย่างไม่คุ้นชิน  การที่ต้องมองคนที่รักและคนที่เขาเคยเป็นเจ้าของหัวใจเดินจากไปกับใครอีกคนที่เขาเกลียดจับใจแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของคนๆนั้นก็ตาม  คนที่เคยให้คำมั่นสัญญากับเขาอย่างดีว่าจะไม่ทำให้เขาเจ็บปวด  แต่วันนี้กลับเป็นคนทำลายมันลงด้วยมือของตัวเอง  คนที่เคยเป็นคนคอยซับน้ำตาให้เขาอย่างอ่อนโยน  แต่วันนี้เขาคนนั้นกลับเดินจากไปอย่างไม่เหลียวแลร่างบอบบางที่ถูกทิ้งให้ร้องไห้สะอึกสะอื้นจะเป็นจะตายอยู่เบื้องหลัง

    ฮยอกแจกำลังมองผู้ชายที่ได้รับหัวใจของเขาไปแล้วทั้งดวงเดินจากไปด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์  จะไม่มีอีกแล้วงั้นหรอคนที่จะคอยอยู่ข้างๆเขา  จะไม่มีอีกแล้วงั้นหรอคนที่จะคอยปลอบประโลมเขา  พร่ำบอกคำรักหวานให้เขาฟัง  จะไม่มีอีกแล้วงั้นหรอชเวซีวอนที่รักฮยอกแจสุดหัวใจดังเช่นในอดีต..

    ร่างบอบบางไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะพยุงกายลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งตามคนที่เขารักได้อย่างที่ใจต้องการ  ฮยอกแจฝืนลุกขึ้นมาแต่ก็ทรุดลงไปกับพื้นอีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมายิ่งกว่าเดิม  นี่คือเรื่องจริงอย่างงั้นหรอใครก็ได้ช่วยปลุกเขาทีได้มั้ย  ปลุกเขา .. แล้วบอกกับเขาว่านี่ก็แค่ฝันร้าย  ในโลกแห่งความจริงซีวอนยังคงอยู่ข้างกายเขา  ซีวอนจะต้องกอดปลอบเขาแล้วพร่ำพูดประโลมเขาว่าซีวอนจะไม่มีทางทิ้งฮยอกแจไป ..

    ฮยอกแจ!เสียงทุ้มเรียกชื่อร่างบางที่ทรุดกายอยู่กับพื้นสะอื้นไห้อย่างหนักด้วยเสียงดังด้วยความตกใจ  ร่างหนารีบวิ่งเข้ามาหาร่างบอบบางด้วยความเป็นห่วง  ร่างหนาทรุดกายลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกับคนตัวเล็ก

    “ฮึกกก ซะ..ซีวอน  ซีวอน.. ฮึก  นายกะ..กลับมาหาฉันแล้วใช่มั้ย  ฮึก” เสียงหวานพูดออกมาโดยไม่มองหน้าอีกคน  แขนเล็กเข้าสวมกอดร่างหนาทันทีอย่างโหยหาคนรัก  ร่างบางซุกใบหน้าหวานลงกับอกแกร่งหวังให้แผ่นอกหนาจะเป็น

    “ฮยอกแจ  นี่ฉันเอง  ทงเฮ” ทงเฮพูดพลางลูบหลังคนน่ารักอย่างปลอบประโลม  เขาไม่รู้ว่าฮยอกแจเจออะไรมา  เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ฮยอกแจเป็นแบบนี้  เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรจะต้องทำอย่างไร  เขารู้แต่เพียงว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังจะแตกสลายไปเพียงเพราะเห็นสภาพที่ดูแทบไม่ได้ของคนที่เขารักแบบนี้

    ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่เขากำลังสวมกอดอยู่ให้ชัดๆ  ใบหน้าหล่อของอีทงเฮเพื่อนสนิทของ อดีตคนรัก ของเขาที่ปรากฏแก่สายตาสร้างความผิดหวังให้ร่างบางเป็นอย่างมาก  ฮยอกแจเขย่าแขนทงเฮอย่างแรงด้วยความต้องการจะระบายความทุกข์ความเจ็บปวดที่เขาได้รับ

    “ฮึกกกก  ไม่ใช่ซีวอน .. ซีวอนไปแล้ว  ฮึกกกก  ทงเฮ..ทงเฮช่วยฉัน..ฮึก..ได้มั้ย”

    ฮยอกแจหมายความว่ายังไง?

    ทงเฮเบิกตากว้างอย่างตกใจ  ร่างหนากำลังตีความคำพูดของฮยอกแจไปต่างๆนาๆ  คำพูดที่ไม่ได้บอกรายละเอียดของฮยอกแจสร้างความกังวลให้ทงเฮมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว  เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นบนใบหน้าคมอย่างห้ามไม่อยู่

    “หมายความว่าไงฮยอกแจ  ซีวอนเป็นอะไร!?” ทงเฮถามร่างบางด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน 

    ฮยอกแจส่ายหน้าช้าๆ  ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเจ็บปวด

    “ซีวอนไม่ได้เป็นอะไร  ฮึก  ฉะ..ฉันต่างหากที่เป็น  ฮึกกกก  ซีวอนเขามีความสุขดี..  เขาดูจะมีความสุขมากเกินไปซะด้วยซ้ำ  ฮึก ..”

    ราวกับต้องการจะย้ำเตือนตัวเองถึงความเจ็บปวดที่เขากำลังเผชิญอยู่  ราวกับจะย้ำเตือนให้ตัวเองรู้ว่าซีวอนเขาได้จากไปแล้ว  เขาเสียคนที่เขารักที่สุดไปแล้ว  เสียไปให้กับคนอื่น .. คนรักของเขากลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว  ต่อไปนี้ซีวอนจะไม่ใช่คนรักของเขาอีกต่อไป

    ทงเฮขมวดคิ้วแน่น  เขาพอจะเดาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขายังไม่มาได้แล้ว  สิ่งที่เขาเองนึกกังวลในที่สุดมันก็มาถึง  .. เขานี่มันแย่จริงๆ  แค่จะช่วยให้คนที่เขารักมีความสุขเขายังทำไม่ได้ ..

    “ฮยอกแจ .. ไม่เป็นไรนะ  ไม่เป็นไร” ทงเฮยิ้มบางๆให้ฮยอกแจ  หวังจะให้รอยยิ้มที่เขามอบให้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ฮยอกแจได้รับได้  เขาเข้าใจดีว่าการถูกคนที่รักที่สุดทอดทิ้งมันเป็นยังไง  เขารู้ดีว่ามันเจ็บแค่ไหน  และเขา..ก็พร้อมที่จะได้รับเจ็บปวดนั้นแทนฮยอกแจ  ถ้าเป็นไปได้เขาจะยอมเจ็บแทนร่างบอบบางตรงหน้านี่เลยด้วยซ้ำ  หรืออย่างน้อยก็ขอให้เขาได้ช่วยบรรเทาความทรมานนั้นก็ได้..สักนิดก็ยังดี

    “ฮึกกก ทงเฮ  ฉันเจ็บ .. เหมือนจะตายเลย ฮึก..ทงเฮ” ร่างบางพร่ำบอกพลางจิกแขนแกร่งแน่นอย่างต้องการจะระบายความเจ็บปวด  แต่สิ่งที่ร่างบางทำอยู่นั้นก็ไม่ได้ช่วยทำให้ความเจ็บทรมานที่หัวใจบอบบางลดน้อยลงไปเลยสักนิด

    ทงเฮใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงมาจากตาคู่สวยช้าๆ  แต่ไม่ว่าจะเกลี่ยเท่าไรน้ำตาก็ยังทงไหลทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสาย

    “ฉันรู้ .. ฮยอกแจ  ฉันเข้าใจนาย”

    ทำไมทงเฮจะไม่เข้าใจล่ะ .. ตอนนี้ทงเฮก็เจ็บ  เจ็บกว่าฮยอกแจเป็นร้อยเท่า  เห็นฮยอกแจเจ็บ  ทงเฮก็เจ็บ .. แต่ที่เจ็บมากกว่า  ก็คงจะเป็นเพราะน้ำตาที่ไหลเป็นสายนั่น  ของเหลวสีใสจากตาคู่สวยเปรียบดังยาพิษที่สร้างบาดแผลไปทั่วหัวใจแกร่ง  และก็คงจะเป็นเพราะ .. ผิดหวังในตัวเพื่อนรักของเขาด้วยล่ะมั้ง

    “ทงเฮ..ฮึก.. ซีวอนเขาไป..กับ..คนอื่นแล้ว  ฮึกกกก เขามีคนใหม่.. ทงเฮ.. ไม่มีซีวอนแล้วฉันจะอยู่ได้ยังไง!?” ปลายประโยคฮยอกแจพูดเสียงดังอย่างระบายอารมณ์  มือเล็กทุบตีร่างกายบอบบางของตัวเองอย่างบ้าคลั่งราวกับคนไม่มีสติ

    ทงเฮที่ตกใจกับการกระทำราวกับคนไร้สติของฮยอกแจรีบจับข้อมือบางไม่ให้ทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้  แม้ฮยอกแจจะพยายามดิ้นอย่างแรงให้หลุดจากการเกาะกุมแต่แรงที่มีอยู่น้อยนิดจึงไม่สามารถดิ้นหลุดได้

    “ฮยอกแจ  ใจเย็นๆ  อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้”  ทงเฮพูดเสียงนุ่มพลางลูบใบหน้าหวานเบาๆอย่างเรียกสติอีกคน  แต่ฮยอกแจที่อยู่ในสภาพอารมณ์ที่สามารถควบคุมได้ยากก็ผลักทงเฮออกอย่างแรงแต่ร่างหนาก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด

    “ไม่! ไม่! ไม่!” เสียงหวานตะโกนลั่น  มือเล็กยกขึ้นทึ้งผมตัวเองอย่างแรงจนผมที่ยุ่งเหยิงอยู่แล้วดูกระเซอะกระเซิงราวกับคนบ้า  ทงเฮรีบจับมือเล็กเอาไว้แน่น  ตาคมจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้หลับตาปี๋ด้วยความที่ไม่อยากรับรู้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

    “ฮยอกแจ  นายต้องตั้งสติดีๆนะ” ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นน้อยๆ  การที่ให้เขาต้องทนมองร่างบางมีสภาพแบบนี้โดยที่เขาทำอะไรที่จะสามารถช่วยให้ร่างบางสงบสติอารมณ์ลงได้มันให้ความรู้สึกทั้งอึดอัดทั้งทรมานไปในคราเดียวกัน  ทำไมทงเฮถึงได้แย่ถึงขนาดนี้นะ .. ทำไมทงเฮถึงทำอะไรไม่ได้เลย..

    “ทำไม!?  ทำไม!?  ทำไมนายต้องทิ้งฉันไป!?  ซีวอนนนน” ท้ายประโยคเสียงหวานตะโกนลั่นจนแทบจะกลายเป็นกรีดร้อง  มือเล็กยังคงพยายามจิกข่วนแขนตัวเองอยู่หลายครั้ง  ซึ่งส่วนมากก็ไปโดนแขนทงเฮที่พยายามใช้แขนแกร่งของตัวเองเข้ามาปกป้องไม่ให้แขนบอบบางมีรอยข่วน

    “ฮึกกกก ฉัน.. ฉันไม่มีใครอีกแล้ว .. ฮึก  ฉันอยู่ไม่ได้..จริงๆนะซีวอน.. ฮึกกกก” เสียงหวานพร่ำบอกปนเสียงสะอื้นไห้แผ่วเบาราวกับเจ้าของชื่อที่ร่างบางพูดถึงกำลังยืนอยู่ตรงหน้า

    “ฮยอกแจ  ขอร้องล่ะ  สงบสติอารมณ์แล้วลืมตาขึ้นมามองฉัน  ฮยอกแจอย่าทำร้ายตัวเองเลยนะ” ทงเฮลูบใบหน้าหวานแผ่วเบาหวังจะให้มือหนาช่วยถ่ายทอดความอ่อนโยนไปสู่ร่างบางได้บ้าง

    ฮยอกแจค่อยๆสงบลง  มือเล็กเปลี่ยนจากจิกตีตัวเองมาเป็นกำเสื้อเชิ้ตสีขาวของอีกคนแน่น  เสียงสะอื้นไห้และน้ำตาเม็ดใสยังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง  ทงเฮค่อยๆเกลี่ยน้ำตาบนแก้มใสอย่างนุ่มนวล

    “ทีนี้ก็ลืมตาขึ้นมานะฮยอกแจ”

    ทันทีที่ทงเฮพูดจบ  ฮยอกแจก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาบางขึ้นมาอย่างช้าๆ  ตากลมจ้องมองใบหน้าหล่อตรงหน้าที่อยู่ในระยะประชิดเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ทำให้ฮยอกแจเผลอถอยหน้าหนีเล็กน้อย

    “ไหนนายบอกฉันซิว่าตอนนี้นายกำลังมองเห็นใคร” ทงเฮถามพลางคลี่ยิ้มบางอย่างอบอุ่น  มือใหญ่ลูบผมนุ่มเบาๆเพื่อปลอบประโลมคนตัวเล็ก

    “ทะ..ทงเฮ” ปากเล็กเอื้อนเอ่ยออกมาแผ่วเบา  คิ้วบางขมวดเล็กน้อยด้วยความสงสัยว่าทงเฮต้องการจะสื่ออะไร

    “แล้วทำไมตะกี้ถึงได้บอกว่านายไม่มีใครล่ะ” ร่างหนาเผยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหยุดร้องไห้แล้ว  เหลือเอาไว้เพียงขอบตาที่บวมแดงเพราะร้องไห้อย่างหนักกับคราบหน้าตาที่เปรอะเปื้อนทั่วใบหน้าหวาน  คนตัวเล็กมองคนพูดตาแป๋วราวกับเด็กน้อย

    “ฉันยังอยู่ตรงนี้  ยังอยู่กับนาย  ไม่ได้ทิ้งนายไปไหน  เข้าใจมั้ย”

    ทันทีที่ทงเฮพูดจบ  ฮยอกแจก็ยู่หน้าอย่างขัดใจ  คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมาเบาๆก่อนจะพูดตัดพ้อออกมา

    “ฉันหมายถึงไม่มีคนที่รักฉันแล้วต่างหากล่ะ!

    ร่างหนาถอนหายใจกับคำพูดจากร่างบางเบาๆ  ก่อนจะยันกายลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆดึงให้อีกคนลุกขึ้นมาด้วยกัน  ส่วนฮยอกแจก็ลุกตามขึ้นมาอย่างว่าง่าย

    “แล้วฮยอกแจเอาอะไรมาตัดสินว่าฉันไม่ได้รักฮยอกแจ” ทงเฮถามยิ้มๆพลางดึงมือคนตัวเล็กให้เดินตาม

    “. . . . .” ความเงียบถูกส่งมาเป็นคำตอบ  ทงเฮใจเสียไปนิดหนึ่งที่อีกคนไม่ตอบอะไรกลับมาแต่ก็ไม่ใจกล้าพอที่จะหันไปมองดวงหน้าหวานของคนที่อยู่ข้างหลังเขา

    .. แต่ถ้าทงเฮหันมามองสักนิด  ก็จะเห็นว่าแก้มใสของฮยอกแจขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก  ใบหน้าหวานก้มหน้างุดอย่างเขินอายโดยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผลที่ทำให้เขาเขินแบบนี้

     

    ทำไมกันนะ?

    ฮยอกแจถึงไม่เคยสังเกตเลยว่าทุกครั้งที่เขาอยู่กับทงเฮ  ทงเฮเป็นคนที่ทำให้เขายิ้มได้เสมอ  ไม่ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะเสียใจมามากแค่ไหนก็ตาม..

     

     

     
     

     

    “ฉันยังอยู่ตรงนี้  ยังอยู่กับนาย  ไม่ได้ทิ้งนายไปไหน  เข้าใจมั้ย”

    คำพูดประโยคนี้ .. ถ้าซีวอนเป็นคนมาพูดกับเขา  ก็คงจะดีสินะ..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×