ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LaPisTieR ผลึกเวทย์ ต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 : II : Story in My Dream Part เอส

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 56


     

     

                “เอส เอส....”

    นั่นเสียงใครกัน ฟังแล้วดูคุ้นหูจัง

                “เอส ตื่นได้แล้ว”

    ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ พอลืมตาขึ้นมาก็เจอกับหน้าเพื่อนของผม นี่เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

                “จะนอนไปถึงเมื่อไหร่ หมดเวลาพักแล้ว”

                เอส “อ่ะ....อืมมม นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหน”

                “ก็หลังจากซ้อมเวทเสร็จ แกก็หลับไปเลย คงโดนเวทอันแข็งแกร่งของฉันอัดเข้าไป ฮ่าๆ”

                เอส “หึ อย่ามามั่วนิ่ม ฉันไม่มีทางแพ้เวทของแกแน่นอน”

                “มั่นใจนักนะ เอส อีกสักยกดีมั๊ย”

                เอส “มาเลย แร็ค ฉันพร้อมเสมอ”

                แร็ค “หึ ฮ่าๆ ๆ ก็ได้ๆ ฉันเองก็เหนื่อยพอแล้ว เราลงเขาแล้วไปหาอะไร เย็นๆ ดื่ม ดีกว่า”

    เรา 2 คน ผม เอส กับเพื่อนของผม แร็ค พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะเกิดต่างที่กันแต่ก็สนิทกันมากๆ ไปไหนด้วยกันเสมอๆ พวกเรามักจะมาฝึกเวทมนตร์ที่บนเขาตรงหน้าผานี้เสมอ ถือเป็นที่ประจำเลยก็ได้ ก็บรรยากาศก็ดี แถมวิวสวยดีด้วย

                เอส “ว่าแต่ จะไปหาอะไรดื่มที่ไหนดี”

                แร็ค “จะที่ไหนได้อีกล่ะ ก็ร้านประจำไง ดื่มฟรี ไม่เสียตังค์ดีออกจะตาย”

                เอส “เฮ้อ ไม่น่าถาม”

    ร้านประจำที่ว่าเป็นร้านที่ขายเครื่องดื่ม ที่มีประวัติและเบื้องหลังอันยาวนาน เพราะเรา 2 คนก็มีส่วนช่วยให้ร้านนี่ถือกำเนิดอีกครั้ง อีกอย่างที่เราได้ดื่มฟรี เพราะเราต้องช่วยงานที่ร้านอยู่แล้ว

    ร้านนี่มีชื่อว่า Spirit ที่แปลว่าเหล้า หรืออีกความหมายคือ จิตวิญญาณ เจ้าของร้านเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจ มีชื่อว่า เชลินดา แต่เรามักเรียก เจ๊ลินดา....ก็เจ๊แกโหดนี่ และแล้วเราก็มาถึงร้านที่ว่ากัน

                แร็ค “กลับมาแล้วเฮีย วันนี้เหนื่อยใช่เล่นเลย ขอแบบทุกทีนะ”

                “ไปทำงานก่อนแล้วจะทำให้กิน”

                แร็ค “โห เฮียผมเหนื่อยนะ ไม่มีแรงแล้ว ขอดื่มก่อนไง จะได้มีแรง”

                “ชิ มามุกนี้ตลอด อ้าวเอาไป รีบดื่ม แล้วมาช่วยงานได้แล้ว”

                แร็ค “อ้าว เอส รับ”

                เอส “ขอบใจ”

    อึก อึก อึก

                แร็ค “ฮ่า ชื่นใจ หายเหนื่อยจริงๆ นะเนียะ”

                เอส “ดื่มแล้วก็ชวนให้นึกถึง เจ๊แกเนอะ”

    แร็ค “โห พูดอีกหละ ดูแกจะรัก แจ๊ลินดาเหลือเกินนะ ผู้หญิงโหดแบบนั้นน่ะ ไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก เชื่อดิเจ็แกหาแฟนไม่ได้หร๊อก”

    ฟิ้วววว ปั้ง!!

                แร็ค “โอ๊ยยยย เฮียทำอะไรเนียะ ขว้างมาได้ มันเจ็บนะเฟ้ย”

    “ดีนึกว่า คนอย่างแกเจ็บไม่เป็น ห้ามพูดถึงเชลินดาแบบนั้นอีก เพราะเค้าแกถึงได้เป็นผู้คนอย่างงี้ไงล่ะ”

    แร็ค “รู้แล้วน่าๆ เฮีย โด่....ก็เจ๊แกโหดจริงๆ นี่นาตอนนี้จะเป็นไงบ้างก็ไม่รุ ไม่เห็นจะกลับมาหากันมั่งเลย”

                เอส “นั่นดิ หลังจากวันนั้น ก็ไม่กลับมาอีกเลย”

    อื้ม ใช่ ตอนนี้ เจ๊ลินดาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก ไม่สิ ไม่ได้อยู่โลกนี้แล้วตะหาก หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายนั้น ก็ไม่ได้เจออีกเลย จะเป็นยังไงบ้างนะ

                แร็ค “ว่าแต่เฮียเถอะ ไม่คิดถึงเค้าบ้างหรอ ชอบเค้าเหมือนกันนี่”

                “เฮ้ย! แก เงียบไปเลย ข้าไม่ได้คิดอะไรกับเชลินดาแบบนั้น”

    แร็ค “อะไรเล่าที่พูดน่ะ ก็เพราะเฮียเป็นเพื่อนเค้ามานานนี่ แล้วหน้าแดงทำไม เอ๊ะ รึว่า”

                “.....หยุดพูด ไป แก ไปถูพื้น”

                แร็ค “คร้าบบบ....เอส แกก็มาช่วยเลย”

    .......

    เวลาผ่านไป จนตกเย็น เราช่วยงานจนถึงเวลาร้านปิด

                เอส “เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ฟู่...”

                แร็ค “เฮียจะปิดร้านแล้วนะ”

                “เอ้อ ปิดเลย”

    ในที่สุดวันนี้ก็หมดไป พรุ่งนี้แล้วสินะที่เราจะไปยังอีกโลกนึงน่ะ ตื่นเต้นซะมัด

                “นี่พวกแกสองคน ข้ามีอะไรจะพูดหน่อย”

    เฮียเรียกเราไปหลังร้าน มีเรื่องอะไรกันนะ

                “พรุ่งนี้แล้วสินะที่ พวกแก 2 คนจะได้ไปตามหา HIME ในอีกโลกนึง”

                เอส “ครับ รู้สึกว่ามันเร็วเหมือนกันแต่ว่ามันก็มันถึงแล้ว”

                แร็ค ”นั่นดิ ฉันเองรู้สึก ตื่นเต้นมากเลย ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรก่อนดี”

    “นี่ แร็ค แกไม่ได้ไปเที่ยวนะเว้ย นี่เป็นเรื่องใหญ่ถึงตอนนี้ ความมืดจะยังไม่ได้ครอบงำโลกทั้งใบ แต่ก็ต้องมีสักวันที่วันแบบนั้นจะต้องมาถึงอีก แกจะมาทำเป็นเล่นไม่ได้แล้วนะ”

    แร็ค “รู้แล้วน่า แต่ HIME มันคงไม่ได้หาเจอกันง่ายๆหรอก อีกอย่าง % ที่ HIME จะอยู่อีกโลกนึงก็แทบจะไม่มี ช่วงเวลาว่างๆ มันก็หาอะไรทำซะก่อน”

                “เฮ้อ แกนี่น้า....”

                เอส “ว่าแต่เฮีย ที่เรียกมาคุยอย่างจริงจังนี่คงไม่ได้มาพูดแค่นี้หรอกนะ”

                “อื้ม รอแปป ข้ามีของจะให้”

    หลังพูดจบ เฮียก็เดินเข้าไปในห้องของเค้า สักพัก ก็เดินออกมาพร้อมกับ กล่อง 1 ใบ ไม่รู้ว่าในนั้นมันมีอะไร

                “นี่คือของที่ข้าจะให้พวกแก...”

    เฮีย เปิดกล่องออกมาอย่างช้าๆ และหยิบผ้าที่เหมือนว่าจะห่ออะไรบ้างอย่างไว้ เมื่อแกะผ้าที่ห่อไว้ สิ่งที่อยู่ในนั้นคือ แหวน แหวนเงินที่มี อัญมณี 8 ชิ้น ประดับรอบแหวน

                เอส “เป็นแหวนที่สวยมากเลย ว่าแต่จะเอามาให้พวกเราทำไม”

    “แหวนวงนี้ เป็นเครื่องประดับของราชวงศ์ ที่มีค่ามาก มันจะมีความหมายเมื่ออยู่กับผู้ที่เลือกให้เป็น HIME ซึ่งมันจะกำเนิดพลังบางอย่างออกมาซึ่ง มีแต่ HIME เท่านั้น ที่จะใช้พลังนั้นได้”

                เอส “อย่างงี้นี่เอง”

                แร็ค “งั้นผมจะเก็บไว้เอง”

                “ไม่ได้ข้าไม่ไว้ใจแก ข้าจะให้เอสเก็บไว้ ของที่อยู่กับแก ถ้าไม่หาย ก็พังเสียหมด”

                แร็ค “โด่....เซ็งเลย ช่างเถอะ ของแบบนั้นมันไม่เหมาะกับฉันอยู่แล้ว”

                “ฝากด้วยนะเอส”

                เอส “ครับ”

    แหวนงั้นหรอ คงสำคัญมากๆ เลยสินะ คงต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี

                “และมีอีกอย่าง นี่คือของของข้า”

                แร็ค “ห่ออะไรไว้อีกล่ะ เปิดให้ดูหน่อยดิ”

                “ไม่ได้เฟ้ย นี่เป็นของสำคัญ ที่จะเอาให้เชลินดา”

                แร็ค “อะแหนะ....ที่แท้ก็คิดถึงเค้าเหมือนกันล่ะสิตัว”

                “ไม่ใช่เฟ้ย ข้าแค่ขี้เกียดเก็บไว้ เอาคืนให้เจ้าของมันสบายใจกว่า”

                แร็ค “ไม่ต้องมากลบเกลื่อนเลย คิดถึงเค้าก็บอกมาเหอะเฮีย”

                “หยุดพูดได้แล้ว ข้าไม่มีอะไรที่ต้องพูดกับพวกแกอีกแล้ว กลับไปได้แล้ว”

                แร็ค “ทำมาเป็นไล่ ไปก็ได้ ทำเรื่องโรแมนติกกะเค้าก็เป็นนี่นาเฮีย”

    “ชิ หึ.....ไงก็โชคดีนะพวกแก ความหวังของพวกเรา อยู่ที่พวกแก 2 คนนะ อย่างตายซะก่อนล่ะ”

                แร็ค “หึ คนอย่างฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า”

                เอส “ฉันก็ด้วย เราฝึกมาอย่างหนักก็เพื่อวันนี้หละ พวกเราไปก่อนนะเฮีย”

    แร็ค “บายเฮีย กลับมาแล้วจะเอาของฝากจากอีกโลกนึงมาให้ อย่าคิดถึงพวกเราจนร้องไห้ออกมาก่อนล่ะ”

                “ไปได้แล้วเจ้าพวกบ้า พรุ่งนี้ข้าไม่ไปส่งหรอกนะ”

                แร็ค “ก็ไม่ได้ขอซะหน่อย”

    หลังจากลาเฮียออกมาจากร้าน รับของสำคัญมา พวกเราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนมาถึงสวนในเมือง และก็มานั่งที่ม้านั่งข้างน้ำพุ

                แร็ค “นี่เอส ลองเปิดของที่เฮียจะเอาให้เจ๊ลินดาหน่อยดิ”

                เอส “ไม่ได้ๆ ถ้าเฮียไม่ให้เห็น เราก็ไม่ควรจะดู”

                แร็ค “แกนี่มันคนดีจริงๆเลยนะ”

    ซ่า......(เสียงน้ำพุ)

    เราเงียบไปครู่นึง สักพัก แร็คก็พูดขึ้นมา

                แร็ค “เอส ถ้าแกไปถึงอีกโลกนึง นอกจากการหา HIME แล้ว แกจะทำอะไรอีก”

    แร็คพูดโดยไม่ได้มองหน้า แต่มองขึ้นฟ้า และทำสายตาเหมือนหวังอะไรบางอย่างอยู่

                เอส “ก็คงตามหาเจ๊เชลินดา แล้วส่งของให้”

    แร็ค “นั่นมาแน่อยู่แล้ว ฉันหมายถึงถ้าเราอยากเจอกับคนที่อยากเจอ เราจะได้เจอ มั๊ยวะ”

    คนที่อยากเจองั้นหรอ...อืมงี้นี่เอง

    เอส “ต้องได้เจอสิ ถ้าเราเชื่อว่าได้เจอ เราก็ต้องได้เจอ ก็เหมือนกับเวทมนตร์เราต้องเชื่อมันก่อนไม่ใช่หรอ”

                แร็ค “นั่นสินะ ถ้ามันง่ายแบบนั้น ก็คงดี”

                เอส “แร็ค...”

    ซ่า........

                แร็ค “ฮึบ...ฮ่า เอาล่ะ ขอบใจนะ”

    แร็คลุกขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เหมือนกับไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดีไปด้วย

                เอส “ไม่เป็นไร ถ้าเจอจริงๆ ก็คงดี ฉันเองก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”

                แร็ค “แกกลับบ้านก่อนก็ได้นะฉันยังมีเรื่องต้องทำอีกหน่อย”

                เอส “แล้วแกจะไปไหน”

                แร็ค “น่า เสร็จแล้วจะรีบกลับ”

    ซ่า.......

    ตอนนี้เริ่มมืดแล้วเราแยกกันที่สวนแห่งนั้น ผมกับบ้านมาก่อน เพื่อมาเตรียมของที่จำเป็นที่จะไปยังอีกโลกนึก และก็อาบน้ำก่อนจะเข้านอน

    ถึงจะบอกว่านอน แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องพรุ่งนี้ จนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้

                เอส “ทำไม ทำไมแกทำแบบนี้”

                “เพื่อที่จะสร้างโลกใหม่ยังไงล่ะ”

                เอส “ไม่จริงหยุดนะ อย่า.....”

    ฟรึ่บ!!

    หะ หะ หะ(เสียงหายใจ) อะไรกันฝันเมื้อกี้ รู้สึกไม่ดีเลย สร้างโลกใหม่งั้นหรอ หมายความว่าอะไร ไม่เข้าใจ ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วเนียะ.....อ้อ ยังเหลือเวลาอยู่

    ผมหันไปมองรอบๆ สังเกตเห็นว่าในห้อง เตียงของ แร็ค ว่างไม่มีคนนอนอยู่ เอ๊ะ หรือว่าจะตื่นแล้ว ไม่มั้ง

    ผมเดินลงมาชั้นล่าง เรียกหาแร็ค แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับยังไงกันเนียะ รึว่า ยังไม่กลับ!! แย่ล่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำยังไง ต้องรีบตามหา ที่ๆ แร็คจะไปน่าจะเป็นที่นั้น

    ผมรีบแต่งตัว และมุ่งไปยังที่ๆ ผมได้คิดไว้ ผมวิ่งขึ้นไปยังผาที่เราใช้เป็นที่ซ้อมเวทมนตร์ พอขึ้นไปถึงผาแห่งนั้น ก็พบกับ แร็คที่นอน สลบอยู่กลางพื้น

    ผมจึงเข้าไป พยุงตัวแร็ค พยายามเรียกให้เค้าฟื้น

                เอส “แร็ค แร็ค แกเป็นอะไรไป แร็ค ตื่นสิ”

                แร็ค “อะ-เอส หรอ”

                เอส “แร็ค ค่อยยังชั่ว แกมาทำอะไรบนนี้”

    แร็ค “ฉันเองก็ไม่รู้ กะว่าจะมาขึ้นมาทำใจให้สงบก่อนจะกลับ แต่จู่ๆ ก็.....ฉัน ฉันจำไม่ได้”

                เอส “แกไหวมั๊ยเนียะ”

                แร็ค “ไม่ไหว ก็ต้องไหว วันนี้แล้วนะที่จะต้องเริ่มทำภารกิจที่สำคัญ”

                เอส “แร็ค อย่าฝืนถ้าไม่ไหว”

                แร็ค “ไม่เป็นไร ฉันยังไหว ว่าแต่พาฉันกับบ้านก่อนเถอะ”

                เอส “ได้ๆ”

    ผมพาแร็คมานอนที่บ้าน ถึงจะไม่มีไข้ แต่แร็คก็ดูเหนื่อยๆ ผมจึงหาอะไรให้เค้าทาน

                เอส “ไง ดีขึ้นมั๊ย”

                แร็ค “อื้ม ดีขึ้นแล้วล่ะ ตอนนี้แค่มึนๆ แต่ก็ไม่เป็นไร”

                เอส “แกไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหว เราค่อยทำภารกิจวันหลังก็ได้”

                แร็ค “ไม่ได้ ถ้าเราปล่อยเวลาผ่านไป มันอาจจะสายเกินแก้ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”

                เอส “ก็ได้ๆ โอเคงั้นฉันจะไปเตรียมของละกัน”

    ผมให้แร็คพักสักครู่ ส่วนผมก็ไปเตรียมของ สักพักผมก็เตรียมของเสร็จ ผมก็ยื่นของจำเป็นแร็คให้แร็คไปแต่...

                เอส “แร็ค นี่ส่วนของแกฉันเตรียมไว้ให้แล้ว รับไปสิ”

                แร็ค “.....อื้ม ขอบใจ”

                เอส “ไปกันเถอะ สายแล้ว”

                แร็ค “ได้”

    หลังจากนั้น เราก็ออกจากบ้านแล้วมุ่งตรงไปยังสมาคมเวทมนตร์ที่อยู่ใจกลางเมือง เราขึ้นไปชั้นบนไปยังห้องของหัวหน้าสมาคมเวทมนตร์

    ก๊อก ๆ ๆ

                “เข้ามาสิ”

                เอส “ขออนุญาตครับ”

                “มากันแล้วสินะ พร้อมกันแล้วใช่มั๊ย”

                เอส “ครับพวกเราพร้อมแล้วที่จะทำภารกิจ ตามหา HIME กัน”

    “ดี ยังมีใจที่พร้อม ฉันเองก็ต้องรบกวนพวกเธออยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ถึงภารกิจนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็เป็นภารกิจอย่างลับๆ คนที่เกี่ยวข้องก็ มีแต่คนชั้นสูงทั้งนั้น ฉันขอเตือนไว้อย่างนะ โลกทางนั้น ถึงจะไม่มีคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ แต่ก็อย่างวางใจเด็ดขาด เราต้องมีความเตรียมพร้อมเสมอ อย่าลืมว่า โลกทางนี้กับโลกทางนั้นเคยเชื่อมต่อกันมาก่อน มีผู้คนเข้าออกอย่างเป็นปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ฉะนั้นจงอย่างวางใจ และสิ่งที่เป็นกฎเหล็กคือห้ามใช้เวทมนตร์อย่างไม่จำเป็น ถ้ามีคนที่เห็นพวกเจ้าใช้เวทมนตร์มากเกินไป เจ้าคงรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”

    โหพูดซะยาว คนแก่ก็งี้แหละน้า

                “ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นหรอกนะ”

    เฮือก อ่านใจได้ด้วย

                เอส “ขอโทษครับ”

    คนที่อยู่ระดับสูงๆ นี่น่ากลัวจริงๆ ยิ้มให้แบบนั้น เราไม่ค่อยสู้เท่าไหร่เลย

                “งั้นเราไปยังห้องที่มีประตูเชื่อมมิติกันเถอะ”

                เอส “ครับ”

    เมื่อมาถึงห้องที่ว่า ห้องนี้เป็นห้องที่กว้างมาก และมีซุ้มประตูขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง เรา 2 คนเดินขึ้นไปอยู่กลางแท่นหน้าประตู พึ่งจะเคยเห็น เห็นบอกว่าจะมีประตูแบบนี้อยู่ ทั่วโลก เพื่อใช้เคลื่อนย้ายหรือใช้เวลาเดินทางเราเองก็เคยเห็น แต่จะมีขนาดเล็กกว่านี้มาก ตื่นเต้นซะมัด

    “พร้อมแล้วสินะ พอฉันเปิดประตูแล้ว ก็เดินเข้าไปพร้อมกันเลยนะไม่งั้นอาจจะไปออกกันคนละที่ ทางที่ดี จับมือกันไว้ก็ดี”

                เอส “ครับเข้าใจ”

                “หืม? แร็ค เธอเป็นอะไรรึป่าว เห็นเงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

                แร็ค “...ไม่ครับ ผมไม่เป็นไร”

    จริงสิหลังจากออกจากบ้านมา แร็คก็ไม่พูดอะไรอีกเลย คงไม่เป็นไรหรอกนะ

                “งั้นอย่าลืมสิ่งที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ล่ะ”

                เอส “ครับผมจะจำไว้”

                “ดี จะเปิดแล้วนะ”

    วิ้ง วู้มมมม.....

                เอส “พวกผมไปแล้วนะครับ แล้วจะกลับมาพร้อมกับ HIME

    “อื้ม อ้ออีกอย่าง ตอนข้ามไปยังอีกโลกตอนอยู่ในห้วงมิติ อย่าลืมตาเด็ดขาดนะ ไม่งั้นอาจจะเกิดอาการอาเจียนขั้นรุนแรง เพราะฉะนั้น ห้าม! เข้าใจนะ”

    ไปก่อนนะโลกเวทมนตร์ แล้วจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความหวัง

    พริ้งๆ วู้มมมมฟิ้ววว วูบ.......

    .................

    วิ้ง....วู้มมม

    และก็มาถึง เฮือก นี่ขนาดหลับตาสุดๆแล้ว ยังรู้สึกมึนๆ จนจะยืนไม่ไหวแล้ว เฮือก...อยากอ๊วก แต่คนที่ดูไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ กลับยืนนิ่ง ไม่มีอาการอย่างเราเลย...

                เอส “แร็ค แกไม่รู้สึกมึนบ้างหรอวะ”

                แร็ค “ไม่หนิ”

    อะไรของมัน เมื่อกี้ยัง แทบเป็นแทบตาย ตอนนี้กลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่แบบนี้ก็ดีละ จะว่าไปที่โลกนี้ อากาศสดชื่นดีจัง ถึงจะเย็นๆ ไปหน่อยแต่ก็สูดอากาศได้เต็มปอด เรายืนกันได้สักพักแล้ว ผมจึงเปิดประเด็นขึ้น

                เอส “แร็คแล้วจะเอาไงต่อ เริ่มจากก่อนอะไรดี”

                แร็ค “ที่นี่ดีจัง...แกว่างั้นมั๊ย”

                เอส “อื้ม...นึกว่าจะเป็นโลกที่เราจะอยู่ไม่ได้ซะอีก”

                แร็ค “ใช่ ฉันละอยากได้จริงๆ”

                เอส “อยากได้อะไร แร็ค”

                แร็ค “ก็โลกใบนี้ไง”

    แร็ค หันหน้ามาพูดประโยคแปลกๆ พร้อมแสยะยิ้มให้ เห็นแล้วขนลุก ดูแล้วไม่เหมือนแร็คเลย

                เอส “แกพูออะไรน่ะ อยากได้โลกนี้หรอ อย่ามาพูดตลกหน่อยเลย เพี้ยนไปแล้วรึไง”

                แร็ค “ฉันพูดจริงนะ อยากจะครอบครงมันจริงๆ”

    ไอ่นี่ พูดจาน่าขนลุกจริงๆ เพี้ยนแล้วแน่ คงเพราะข้ามมิติมาที่นี่แน่ๆ รีบเปลี่ยนประเด็นดีกว่า

                เอส “เรื่องนั้นช่างก่อน เราจะเริ่มหา HIME จากไหนดี”

                แร็ค “หึ...ก็เริ่มจากจัดการแกก่อนไง เอส”

    ไม่ ไม่ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่แร็ค แน่ใจได้เลย แล้วมันเป็นใครกัน ตอนนี้แร็คแสยะยิ้มมากกว่าเดิม และกำลังเดินมาทางเรา

    วิ้งงง.....

                เอส “จะทำอะไรแร็ค”

                แร็ค “ก็จะจัดการแกไง คนที่คิดจะขวางฉัน ฉันจะฆ่ามันให้หมด”

    วูมมม.....

    ไม่ได้การ แร็คร่ายคาถาแล้วหันมาทางนี้ด้วย เอาจริงแน่ๆ

                แร็ค “บาย เอส”

    ตู้มมมม!!!

                แร็ค “ชิหนีไปบนฟ้าหรอ แต่ว่าไม่ให้รอดหรอก”

    อึก เกือบไป เวทมนตร์เมื่อกี้มันอะไรกัน ไม่ใช่รูปแบบที่ แร็ค ใช้เป็นประจำนี่ ถึงยังไงตอนนี้สถานะการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เราต้องกันคนไม่ให้เข้ามายังบริเวณนี้

                เอส “แผ่นยันต์สถิตเวทจงคลาย....จงไปหานายใหม่ของเจ้า ป้องกันผู้ล่วงล้ำเข้ามายังเ         ขตแดนนี้ ยันต์กันคน!!

    วิ้ง.....ชิ้ง

    เรียบร้อยเท่านี้ก็หายห่วงไปได้หน่อยนึง

    ฟรึบ!!!

                แร็ค “นั่นแกกำลังทำอะไร”

    อะไรกัน มาข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมเรียกอาวุธออกมาด้วย กะเอาให้ตายจริงๆ เลยใช่มั๊ย

                แร็ค “เสร็จฉันล่ะ”

    ชิ้ง.....แต้ง(เสียงอาวุธ)

                แร็ค “หืม....เรียกอาวุธออกมาได้ในเวลาอันสั้นได้ เยี่ยม คงมีจิตใจที่จะสู้แล้วสิ”

                เอส “โดนแกโจมตีฝ่ายเดียวมันไม่สนุกหรอกนะ”

                แร็ค “พูดได้ดีนี่ ลองรับดาบของข้าหน่อย”

    ชิ้ง ๆ แต้งๆ (เสียงอาวุธ)

    .........

    ฉึก!!

    อ๊ากกก โดนเข้าจนได้

    ฉึก!!

    อีกแล้ว เก่งเกินไปแล้ว เร็วจนดูไม่ทันเลย รับได้ขนาดนี่ก็เต็มทนแล้ว พลังอะไรกัน

                แร็ค “ไหวรึป่าว ข้ายังไม่ได้ออกแรงเลยนะเฟ้ย”

                เอส “หึ....ก็จริงอยู่ แต่ว่า”

    วูม......

                แร็ค “อะไรคิดจะร่ายมนตร์รึ”

                เอส “พูดมากน่า สายลม สลายมนตร์ตรา”

    ฟูววววววูมมมมมม

    ไม่พลังอ่อนเกินไป

                แร็ค “แกคิดจะทำอะไรของแก เวทมนตร์แบบนี้ มีไว้ใช้กับพวกกระจอก”

    ไม่หรอกเวทที่เราปล่อยไปเมื้อกี้ ไม่ได้ต้องการพลังทำลาย แต่เพียงสลายมนตร์ที่ใช้ป้องการตัว แต่มันก็คงรู้ดีและสลายเวทของเราก่อน ไม่ไหวสู้ไม่ได้เลย

                แร็ค “นี่....จะบอกอะไรให้นะ เวทมนตร์น่ะมันต้องอย่างนี้”

    วิ้งฟิ้ว!!!

    เร็วมาก หลบก่อน

    ฟรึ่มฉึก!!!

    อ๊าก อีกแล้ว จะหนีก็ยังไม่ได้แกร่งเกินไป....อะไรน่ะ ล่างนั่น คนงั้นหรอ....

    ใช่คน คนจริงๆด้วย แต่เราแปะยันต์กันคนแล้วนี่ หรือว่าจะเข้ามา ก่อนที่เราจะแปะยันต์ บ้าจริงโถ่โว้ย.....

                เอส “นี่เธอน่ะ ได้ยินมั๊ย ที่นี่มันอันตรายนะ รีบหนีไป...นี่ รีบหนีไปสิ”

    ไม่ได้ยิน ก็ไม่แปลกเราอยู่ที่สูงซะขนาดนี้ จะลงไปช่วย ถ้าแร็คตามมามันก็คงไม่ดีแน่ ทำไงดี

    วิ้งงงงงงงงง

                แร็ค “มองไปทางไหนของแก หันหลังให้ศัตรู ถือว่ายอมให้ศัตรูฆ่า”

    อะไรกัน พลังที่ใหญ่ขนาดนั้น ร่ายเวทได้เร็วขนาดนี้เชียว ปีศาจแล้วแบบนี้

                แร็ค “ลาก่อนเอส”

    ไม่ ไม่ไหวขยับไม่ได้แล้ว

                แร็ค “ดาบปีศาจ”

    วูมมมมมม

                เอส “เสร็จกัน!!!

    ตู้มมมม

    เอส “อ๊ากกกกกกกกกก”

    เวทมนตร์อะไรกันเนียะ เหมือนกับโดนดาบฟันเป็นพันๆ ครั้ง ไม่ เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย น่าสมเพส เรายังไม่ฝึกมาไม่พอ

    ตู้มมมม

    ........................................

                เอส “อ๊ากกกกก”

    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา หัวใจเต้นแรง เมื่อกี้ฝันหรอ มันแหมือนจริงมาก ใช่ต้องฝันแน่ๆ แร็ค ไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก

                เอส “หะ หะ หะ (เสียงหายใจ)”

    เหนื่อยจัง เหงื่อไหลเยอะ ใจยังเต้นเร็วอยู่เลย ผมเอามือกุมหน้าไว้แล้วมองไปรอบๆ นี่ไม่ใช่บ้านเรานี่ ดูจากรูปร่างก็ไม่ใช่ สิ่งก่อสร้างแบบโลกของเรา แล้วที่นี่มันที่ไหน ผมที่กำลังตกใจกลับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา จู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงพูดอยู่ข้างผม

                “ฟะ ฟื้นแล้วเอส”

    พอผมหันไป ผมก็ต้องตกใจครั้งเมื่อผู้หญิงคนนั้น หน้าตาเหมือนเพื่อนผมที่หายไปเมื่อหลายปีก่อน

                เอส “เธอคือ อนิสเคใช่มั๊ย”

                อนิสเค “อื้ม...ไม่เจอกันนานนะ คิดถึงจัง”

    นี่ หรือว่าเรายังอยู่ในความฝัน ถ้าอย่างงั้นก็ต้องพิสูตรโดยการหยิกแก้ม.....

                เอส “โอ๊ยยยยย”

    เจ็บอ่ะ แสดงว่านี่คือ...

    ความจริง!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×