ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rainbow's Tale ห้าเฉดรัก ระบายหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : [★] Passionate Red 03 ; Counterfeit

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 56


    3

    Counterfeit

     

    วันนี้ลูอิสโทรนัดฉันออกไปเดินเล่นที่มอลล์ในแคมปัส ฉันบอกหรือยังว่านอกจากจะมีสี่ดินแดนแล้วที่ไอคอนยังมีพื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นห้างและร้านค้ามากมาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูอิสโทรมาชวนฉันไปไหนต่อไหน เขาโทรมาชวนหลายรอบแล้วหละ ฉันก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง ส่วนใหญ่จะไปทานข้าวแถวๆ มหาลัย มีครั้งนี้แหละที่เขาชวนฉันไปที่มอลล์ในมหาลัย ไม่อยากไปเลยแหะ -3-

    “ลูอิสโทรชวนไปเดทอีกหละสิ" เชลโล่พูดดักคออย่างรู้ทันเมื่อฉันเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อแต่งหน้า ฉันเล่าให้ยัยนี่ฟังเรื่องทั้งหมด แต่ทั้งหมดที่ว่าคือฉันบังเอิญเจอลูอิสที่ร้านกาแฟ เราคุยกันถูกคอเลยแลกเบอร์กัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด

    “ฉันดีใจนะที่แกลืมแพทได้สักที ถึงแม้ว่าลูอิสจะหน้าเหมือนแพทก็ตาม แกคงไม่ได้ไปเดทกับเขาเพราะว่าเขาเหมือนแพทหรอก... ใช่มั้ย?” ยัยนี่ถามเหมือนรู้ทัน ฉันทำหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวเพื่อที่จะให้ยัยนี่เลิกถาม

    “แกคิดว่าฉันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ"

    “ป่าวหรอก วันนี้ฉันก็จะไม่อยู่ที่ห้องนะ โอป้าที่รักของฉันกำลังจะมาโชว์ตัวที่นี่ ฉันต้องรีบไปจองบัตร (*o*)”

    “แกก็รู้ว่าฉันหาบัตรให้ได้ แค่โทรหาเลขากริ๊งเดียว ไม่จำเป็นต้องไปต่อแถวให้เสียเวลาเลย" ฉันหยิบลิปสติกสีแดงเลือดนกขึ้นมาทา หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ฉันเก็บลิปสีชมพูของฉันไปบริจาคหมดและซื้อแต่ลิปสีแดง ตอนนี้ฉันมีลิปสีแดงเกือบทุกเฉดสีเลยมั้ง ทำไงได้ สีชมพูกับฉันมันไม่เข้ากันอีกต่อไปแล้วนิ...

    “จริงหรอ *0*!!” บางทีฉันก็สงสัยว่ายััยนี่เคยจำอะไรได้บ้าง ทุกครั้งที่โอป้าของหล่อนมา ฉันก็เป็นคนหาบัตรมาให้ทุกที -_-

    “ครั้งที่แล้วฉันก็หาให้ไม่ใช่หรอไง" ฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนที่จะหยิบเดรสสั้นรัดรูปสีแดงขึ้นมาทาบที่ตัว ถ้าใส่กับแจ็คเก็ตหนังสีดำมันจะดูแรงไปมั้ยสำหรับเดินห้างในไอคอนเนี่ย (-_-)?

    “จริงด้วย ครั้งนี้ฉันขอสามใบได้มั้ยอ่า~” เชลโล่ทำเสียงออดอ้อน ฉันยิ้มให้ยัยนี่ก่อนที่จะเปลี่ยนจากชุดอยู่บ้านเป็นเสื้อครอปท็อปเอวลอยสีเทาเข้มกับกางเกงขาสั้นเอวสูง กางเกงตัวนี้ทำให้ขาฉันดูยาวราวกับนางแบบ นี่แค่ชุดธรรมดาฉันยังดูดีขนาดนี้ ถ้าเป็นเดรสเมื่อกี้ฉันคงเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้างเลยมั้ง ;)

    “ไม่ต้องรีบกลับนะยะ >_<” ยัยเชลโล่แซวก่อนที่จะรีบดันหลังฉันออกจากห้อง หล่อนดูมีความสุขกับการเห็นฉันไปไหนมาไหนกับลูอิส แหงสิ ใครจะอยากเห็นเพื่อนจมปลักอยู่กับความหลังหละ จริงมั้ย?

     

    “รอนานหรือเปล่า?” ฉันเดินเข้าไปทักลูอิสที่นั่งรออยู่ในร้านกาแฟเขาละสายตาออกจากเกมในมือถือมาที่ฉัน...

    “ว้าว...” คือคำแรกที่หลุดออกมาจากปากเขาขณะที่สายตายังจับจ้องมาที่ฉัน เขาไล่สายตาจากหน้าลงไปหยุดที่ขาของฉัน

    “...” แล้วก็หน้าแดง... ??

    “นี่~ เลิกจ้องได้แล้วน่า" ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาทำให้เขาสะดุ้งและละสายตากลับมาที่หน้าฉัน

    “ขาคุณสวยดี .////.” และนั่นทำให้ฉันอึ้งไปเล็กน้อย ลูอิสไม่เคยออกปากชมการแต่งตัวหรือหุ่นของฉันเท่าไหร่ ส่วนมากเขาจะพูดแค่ว่า 'สวยเหมือนเดิมเลยนะครับ' คงเพราะวันนี้ฉันใส่สั้นมากๆ หละมั้ง

    “เอ่อ... ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มให้เขาเก้อๆ โดนชมโต้งๆ แบบนี้ก็เขินเหมือนกันแหะ ฉันชินกับการที่มีคนชมว่าสวยเพราะฉันไปทำมาแต่ขานี่ธรรมชาติให้มา พอมีคนชมก็ต้องมีเขินบ้างหละมั้ง -/////-

    “วันนี้คุณอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?” เขาถามพร้อมกับเลื่อนแก้วกาแฟหลอดเขียวมาให้ฉัน เขาไปรู้มาจากไหนว่าฉันชอบชาเขียวเย็นของร้านนี้เนี่ย?

    “ผมเห็นคุณสั่งเหมือนเดิมทุกครั้งเลยสั่งไว้เพื่อ" เหมือนเขาจะเห็นหน้างงๆ ของฉัน ช่างสังเกตุเหมือนกันนะเนี่ย

    “ฉันไม่มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษหรอก คุณชวนฉันออกมาไม่ใช่หรอ -_-”

    “งั้นดีเลย พอดีที่คณะมีงานให้ผมน่ะ อยากให้คุณช่วยหน่อย" เรียกฉันออกมาช่วยงานนี่ช่างเหมือนคุณเบอร์หนึ่งจริงๆ เลยนะ :<

    “เรียกฉันออกมาช่วยงานอีกแล้วหรอ -_-” ฉันทำหน้าเซ็งและทิ้งตัวลงที่ผนักพิง ลูอิสทำหน้างงๆ ...

    ตาย! ฉันลืมไปว่าเขาไม่เคยชวนฉันออกมาช่วยงาน แพทริคต่างหาก! TxT

    “ผม...เอ่อ...”

    “ขอโทษที พอดีเพื่อนๆ ชอบเรียกฉันออกไปช่วยงานน่ะ ไหนๆ นายจะให้ช่วยอะไรหรอ ^^”ฉันรีบแก้ตัวและเปลี่ยนเรื่อง เกือบไปแล้วมั้ยหละยัยเดไลล่า! :<

    “พอดีกลุ่มผมทำธุรกิจจำลองขึ้นมาน่ะ เป็นบริษัทขายเรือยอร์ชที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ตอนนี้มีโปรโมชั่นส่งเสริมการขายโดยการแจกกัมมี่แบร์รสวอดก้า ถ้าคุณไม่รังเกียจหละก็...”

    “จะให้ฉันเป็นพริตตี้แจกเยลลี่รสวอดก้าน่ะหรอ -O-?” เขาซีเรียสหรือเปล่า ฉันแต่งตัวมาชิวขนาดนี้ อยู่ดีๆ ให้มาแจกของโปรโมทบูธ นี่เขาเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย~

    “ก็ไม่เชิง ผมอยากให้คุณช่วยเรื่องแต่งหน้าแต่งตัวพริตตี้หน่อยน่ะ แต่ถ้าคุณจะช่วยแจกด้วยจะเป็นบุญตาของผมมากนะครับ ;)” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ตกลงคือเรียกฉันมาเป็นพริตตี้เนี่ยนะ เนี่ยนะ!!!!!!!

    “ฉันไม่มีชุด -_-” ฉันรู้สึกได้ว่าหน้ากากที่ฉันใส่อยู่กำลังจะแตก แหงสิ โดนเรียกมาเป็นพริตตี้จะให้ยังปั้นหน้ายิ้มอยู่ได้หรือไงกัน หะ -_-!! รู้งี้น่าจะปฏิเศษไปตั้งแต่แรก ว่าแล้วว่ามันต้องมีอะไรกับการที่ชวนฉันมาที่ห้างของมหาลัย ชิ!

    “ผมสั่งมาเผื่อ แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่าคุณจะใส่ได้หรือเปล่าน่ะสิ ผมอาจจะกะความสูงของคุณผิดไปหน่อย ขาคุณยาวกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยแหะ ._.” เขาทำหน้าจ๋อย ซึ่งมันก็แอบน่ารักดี น่ารักเหมือนแพททริคถ้าเขาทำหน้าแบบนี้ อ่า~ แพทกับยัยนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ :<

    “บูธอยู่ไหนหละ" เห็นที่ว่าเขาทำหน้าเหมือนลูกหมาโดนทิ้งหรอกนะ!

    “เชิญทางนี้เลยครับสไตลิส! (*-*)/” ลูอิสรีบลุกขึ้นและเชิญฉันไปที่บูธซึ่งตั้งอยู่ ณ ลานอเนกประสงค์ตรงกลางห้าง เด่นเป็นสง่าที่สุดในบรรดาบูธอื่นๆ เลยมั้ง เห็นได้ว่ากลุ่มเพื่อนเขามีแต่คนมีตังค์แต่ไม่รู้จะเอาตังค์ไปทำอะไรทั้งนั้นสินะ แหม -_____-;;

    “เห้~ นี่คือสไตลิสของเรา!” เขาแนะนำฉันให้กับเพื่อนๆ ของเขาทั้งเจ็ดคน แน่หละ ฉันไม่ใช่พวกมนุษย์สัมพันธ์ดีอะไรขนาดนั้น (เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป) ฉันจำชื่อพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำและไม่คิดจะจำด้วย (= =);

    “เดไลล่า?!!!” สี่ในเหล่าคนแคระทั้งเจ็ดร้องพร้อมกับเมื่อลูอิสแนะนำชื่อฉัน ฉันไม่ค่อยแปลกใจที่พวกเขารู้จักฉัน ที่ฉันแปลใจคือทำไมพวกเขาต้องทำหน้าเหมือนเจอผีด้วย -_-?

    “พวกแกรู้จักคุณเดไลล่าหรอวะ?” ลูอิสที่ตอนนี้ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก แน่หละนายเด็กใหม่หน้าใสกุ๊งกิ๊ง -_-

    “รู้... มั้ง" หนึ่งในสี่คนตอบ

    “แต่เดไลล่าที่พวกฉันรู้จักไม่ได้สวยขนาดนี้" อีกคนพูดต่อ นี่คือกล้วยหอมจอมซนบีหนึ่งบีสองหรอ มีการพูดต่อกันด้วย หรือว่าสองคนนี้จะเป็นคู่วายกัน?

    “ใช่ๆ ที่อยู่ดินแดนกุหลาบ" คนที่สามเสริม ทรีโอ้นี่รู้จักฉันก่อนทำศัลยกรรมหรอเนี่ย น่าแปลก ตอนปีหนึ่งฉันไม่ใช่คนที่ป็อปปูล่าเท่าไหร่เลยนะ คนในคณะแทบจะไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำ คนนอกคณะจะมารู้จักได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้เนี่ย -_______-?

    “คุณเดไลล่าก็อยู่ดินแดนกุหลาบ ชื่อแปลกแบบี้ไม่น่าจะมีซ้ำหรอก" ลูอิสลูบคางอย่างงงๆ ฉันได้แต่ถอนหายใจกับอีคิวติดลบของคนพวกนี้ ถึงหน้าฉันจะเปลี่ยนไปมากแต่ก็ยังคงเค้าโครงเดิมไว้ ถ้ารู้จักกันจริงก็ควรจะดูออก ทรีโอ้วงคนแคระทั้งเจ็ดนี่อีคิวเท่าไหร่เนี่ย?

    “ฉันลดความอ้วนน่ะ แล้วก็แต่งหน้ามากขึ้น พวกนายคงจะจำไม่ได้" ฉันรีบพูดก่อนที่จะตบท้ายด้วยรอยยิ้มแสนหวานที่ทำให้พวกเขาเลิกสนใจที่จะถามต่อ ถ้าบอกไปว่าไปทำหน้ามา คำถามต่อไปคงจะเป็น 'ทำไมต้องทำหละ' และฉันยังไม่อยากเล่าเรื่องส่วนตัวให้คน (ที่ไม่ค่อยอยาก) รู้จักฟังขนาดนั้น

    “นี่คือชุดที่พริตตี้ต้องใส่คืนนี้" ลูอิสพาฉันเข้ามาหลังบูธ ภายในมีสาวๆ สวยๆ หน้าอกใหญ่ๆ นั่งเล่นมือถือกันอยู่สามคน หาคนได้เหมาะกับงานดีนะ =_=

    “ชุดนี้เนี่ยนะ" ชุดที่ฉันเห็นคือชุดเดรสเข้ารูปสีขาวธรรมดา คือธรรมดามากจนไม่มีอะไรโดดเด่นและไม่เป็นที่สนใจอย่างแน่นอน ใครเป็นคนออกแบบชุดเนี่ย -_-

    “เพื่อนผมเป็นคนหาชุดกับคนมาน่ะ ผมก็มัวแต่ไปทานข้าว ไปเที่ยวกับคุณจนไม่ได้ดูแลเรื่องงาน U_U” เขาทำหน้าลูกหมาโดนดุอีกแล้ว T_T อย่าอ้อน ขอร้อง!

    “บูธจะเปิดกี่โมงหละ เพื่อมีเวลาพอฉันจะได้เอาไปแก้ให้" ใจอ่อนจนได้ ฉันแพ้ผู้ชายขี้อ้อนสินะ TT

    “สองทุ่ม เหลือเวลาอีกประมานสามชั่วโมงเองนะ"

    “ได้ ทันอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันมาละกัน คุณดูแลเรื่องบูธต่อไป อย่าเหลวไหลอีกหละ" ฉันหยิบเดรสไร้ความเป็นแฟชั่นทั้งสามตัวขึ้นมาถือ พร้อมจะมุ่งหน้าเดินไปที่จอดรถแต่ประโยคต่อไปที่เขาพูดทำให้ฉันหยุดกึก

    “จะไปเหลวไหลที่ไหนหละ คนที่อยากอยู่ด้วยเอาชุดไปแก้นี่นา~” เขาบ่นพึมพำเบาๆ ราวกับพูดกับตัวเอง...

    -////-;

    เห่ย! อย่าหน้าแดงสิ เขาไม่ใช่แพทแต่เขาเป็นนัมเบอร์ทูว์ต่างหาก! อย่าวอกแวกเข้าใจมั้ยเดไลล่า! รีบเดินดีกว่า อยู่นานๆ เดี๋ยวจะทำผิดแผนไปมากกว่านี้ .////.

    หลังๆ มานี่ ลูอิสทำตัวดีขึ้น เขาพูดเรื่องตัวเองน้อยลง ขี้อ้อนมากขึ้น พอฉันถามเขาก็ตอบแค่ว่า 'อยากให้ดูเท่ในสายตาคุณ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะเท่กว่า ผมเลยยอม' พร้อมกับทำปวกงุ้มแบบนี้ ('^') แล้วใครจะไปทำอะไรลงเล่า! ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งเหมือนแพทริคเวอร์ชั่นลูกหมาน้อย แพทริคเมื่อประมานสิบปีที่แล้ว อะไรประมานนี้หละมั้ง...

    ฉันขับรถมาถึงหน้าประตูรั้วดินแดนอัศวิน เฟอร์รารี่สีแดงของฉันเป็นที่สนใจของนักศึกษาที่เดินไปเดินมาอยู่แถวหน้าประตูรั้ว ไม่ใช่เพราะไม่เคยเห็นแต่คนที่นี่นิยมใช้หุ่นยนต์รถในการเดินทางมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว ยิ่งเป็นรถที่กินน้ำมันอย่างนี้แล้วหละก็ ลืมไปได้เลย ฉันชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนรถเข้าไปข้างใน ฉันเคลื่อนรถอย่างช้าๆ ไปตามทางเพื่อไปยังตึกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตึกสาขานาโนเทคโนโลยีที่ฉันชอบแอบไปส่องแพทอยู่บ่อยๆ ฉันมาทำอะไรที่นี่น่ะหรอ?

    “พี่โรม... ใช่มั้ย?” ฉันจอดรถที่หน้าโรงอาหารก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปหาผู้ชายผิวแทนซึ่งนั่งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางอาตี๋อยู่กลางโรงอาหาร คนนี้สินะที่พี่ตุลาบอกว่าเป็น 'ช่างซ่อมไฟ' ของโรงละคร (-_-)/

    “....” เขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่ เพื่อนทั้งกลุ่มของเขาก็พากันหยุดพูดคุยและหันมามองฉันกันทั้งกลุ่ม... ทำไมหรอ? =_=?

    “พี่ตุลาบอกว่าให้มาเอาของ" ฉันพูดห้วนๆ ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งสารสัมพันธ์กับเบ๊ของญาติหรอกนะ ฉันเหลือเวลาอีกเป็นกี่ชั่วโมงในการแก้ชุดเห่ยๆ นี่ให้ดูโดดเด่นเตะตา ฉันจะไม่เอาเวลามาเสียกับกลุ่มเด็กอัศวินที่วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องแลปหรอกนะ -____-;

    “อ่อ... น้องตุลา จำไม่ได้ว่าสวยขนาดนี้" ประโยคหลังดูเหมือนจะพึมพำกับตัวเองซะมากกว่า เพื่อนร่วมงานพี่ตุลาส่วนมากเคยเจอฉันเมื่อปีที่แล้วตอนเขาจิกหัวใช้ฉันไปช่วยแบกของ พอมาปีนี้เขาให้เหตุผลว่า 'เดี๋ยวซีลีโคนแท่งที่จมูกจะหลุดออกมา ไปต้องช่วยหรอก เกะกะ' ... บอกแล้วว่าพี่ตุลาพูดทีแทบก่อสงคราม ถ้าฉันสูงกว่านี้ ฉันจะตั๊นหน้าเขาสักหมัดสองหมัด ใ(-_-ใ)

    “อ่ะ นี่ครับคุณเดไลล่าคนสวย~” ฉันรับกล่องจากพี่โรมมาก่อนที่จะก้มหัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณและหันหลังเดินกลับไปที่รถ บอกแล้วว่าฉันรีบ เบ๊ของพี่ก็เหมือนเบ๊ของฉันนั่นแหละ จะเรียกว่าไม่มีมารยาทก็ได้นะ ฉันก็ไม่ได้แคร์เท่าไหร่

    “ลูอิสหรอ มาเจอที่ตึกแฟชั่นฯ หน่อยสิ" ฉันรีบกดโทรศัพท์หาเจ้าของงานทันทีที่มาถึงตึกแฟชั่นดีไซน์ ดีนะที่วันนี้หยิบกระเป๋าใบที่มีบัตรนักศึกษามาด้วยไม่งั้นคงเข้าตึกไม่ได้ ฉันไม่ได้สนิทกับยามด้วยสิ ._.

    ฉันออกมายืนรอลูอิสอยู่หน้าตึกหลังจากที่เอาอุปกรณ์ทั้งหมดไปวางไว้ในห้องเวิร์คช็อป อย่าเพิ่งคิดว่าฉันอยากเจอเขานักเลย ฉันต้องการลูกมือต่างหากและเขาเป็นคนเดียวที่สามารถจะช่วยฉันหยิบจับนู่นนี่ระหว่างที่ฉันแก้ชุดพวกนี้ ของที่ฉันดั้งด้นไปเอามาจากพี่โรมคือแผงหลอดไฟ LED ดวงเล็กๆ หลายสิบดวงเรียงกันอยู่บนแผ่นผ้าเพื่อให้ง่ายต่อการเย็บติดกับชุด พี่ตุลาเคยใช้เป็นชุดนักแสดงในละครเวทีแนวโชว์เกิร์ลของเขาเมื่อปีที่แล้วน่ะ ฉันเห็นว่ามันเป็นไอเดียที่เจ๋งดีแต่ไม่มีโอกาศได้ใช้สักที เอามาใช้กับงานนี้น่าจะเลิศดีเลยไปยืมมา

    “ผมตกใจนะเนี่ยที่อยู่ดีๆ คุณโทรหาผมเนี่ย" ลูอิสรีบวิ่งเหยาะๆ มาที่หน้าตึกหลังจากจอดรถ อย่างไม่เป็นระเบียบที่หน้าตึก ตกลงการจอดรถสะเปะสะปะนี่เป็นความสามารถเฉพาะคณะหรือเปล่าเนี่ย กี่คนกี่คนที่มาจากดินแดนพระราชาต่างก็จอดรถไม่ได้เรื่องสักคน ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่ค่อยมีคนเข้ามาที่คณะเท่าไหร่ ไม่งั้นโดนพ่นสีกระจุยแน่นอน -_-^

    “มาช่วยฉันหน่อยจะได้เสร็จทันเวลา" ฉันพูดเรียบๆ และเดินนำเขาเข้าไปที่ห้องเวิร์คช็อป ลูอิสเดินตามไอย่างเงียบๆ แต่เพราะจากหน้าตึกไปถึงห้องมันช่างเป็นทางเดินที่ยาว เขาเร่งฝีเท้าจากเดินตามฉันมาเป็นเดินข้างๆ ฉัน ก่อนที่จะถือวิสาสะคว้าข้อมือฉันไปจับ

    “ผมกลัวหลงนิ ._.” ฉันหันควับไปมองหน้าเขาด้วยสายตากึ่งสงสัยกึ่งโกรธ เขารีบแก้ตัวด้วยสีหน้าง้องแง้ง...

    และฉันก็ไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เขาจับมือฉันต่อไปเพราะมันทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ฉันกับแพทไปเดินงานกิจกรรมของมหาลัย ตอนนั้นคนเยอะและแพทกลัวฉันหลงเลยคว้ามือฉันไปจับ มองจากมุมนี้ ด้านข้างของสองคนนี้ช่างเหมือนกันเหลือเกินจนฉันไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ ณ เวลานี้ฉันอยู่กับคนที่หน้าเหมือนเขา...

    ... แต่ไม่ใช่เขา

     

    “เจ๋ง!!” เขาร้องขึ้นทันทีที่ฉันลองเปิดไปชุด ฉันแค่เพิ่มไปเป็นเส้นโค้งขนาบสองข้างของลำตัวเพื่อให้คนใส่ดูมีเอวมากขึ้นแถมยังโดดเด่นอีกด้วย ถ้าใส่มากกว่านี้จะกลายเป็นหนังเรื่อง Step Up ไปเลยนะเนี่ย ลูอิสที่ช่วยฉันเรียงหลอดไฟดูภูมิใจกับผลงานของเขามากทั้งๆ ที่ฉันเป็นคนเย็บและเก็บสายไฟไม่ให้รุงรังพร้อมกับใส่ถ่านเข้าไป ถ้าฉันคาดการณ์ไม่ผิดน่าจะอยู่ได้ประมานห้าชั่วโมงซึ่งเหลือเฟือมากสำหรับงานนี้ กว่าทำตัดเย็บเสร็จก็ปาไปจะสองทุ่ม เห้ย สายแล้ว!

    “รีบไปเถอะ จะสองทุ่มแล้วไม่ใช่หรอ" ลูอิสยกนาฬิกาข้อมือราคาเชียดสองแสนขึ้นมาดู สายแล้วยังไม่วายอวดความรวยของตัวเองอีกนะ -_-

    “คุณจอดรถไว้ตรงไหน ไปรถผมก่อนมั้ยจะได้ไม่เปลืองน้ำมัน" เขาเสนอ ซึ่งฉันเห็นว่าเป็นความคิดที่ดีทีเดียวเพราะฉันจอดรถไว้แถวน้ำพุซึ่งแอบไกลจากหน้าตึกอยู่เหมือนกัน

    “ก็ดี ไปรถคุณก็ได้" ฉันรีบก้าวฉับๆ ออกจากห้องโดยมีลูอิสหอบชุดพะรุงพะลังตามมาติดๆ ให้แบกชุดอ่ะดีแล้ว จะได้ไม่มาจับมือฉันอีก ถึงเขาจะไม่ใช่แพทแต่หน้าเขาก็เหมือนแพทซึ่งนั่นทำให้ฉันเขินเล็กน้อยถึงปานกลาง ถ้าปล่อยไปอาจจะเพิ่มเป็นมากถึงมากที่สุด

    "เดี๋ยว...” ลูอิสยัดชุดเข้าเบาะหลังอย่างลวกๆ ก่อนที่จะหยุดฉันยังไม่ให้เปิดประตูขึ้นรถ เขาเดินเข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็วจนฉันต้องผงะถอยหลังแต่ดันติดรถเลยถอยไปไหนมากไม่ได้ "อาไรของคุณ เราสายละ...”

    ก่อนที่ฉันจะพูดได้จบประโยค ริมฝีปากอุ่นๆ ของเขาก็ประทับลงมาอย่างรวดเร็ว จูบอันหอมหวานและนุ่มนวลของเขาทำให้ฉันลืมไปเลยว่าเขาไม่ใช่แพทริค เขาไม่ใช่... แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะจูบตอบเขาทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าถ้าทำแล้วฉันอาจจะแพ้...

    ...แพ้ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าฉันกำลังแข่งกับอะไรด้วยซ้ำ

    “พอแล้วน่า~” ฉันผละเขาที่กำลังถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ลิปสติกสีแดงของฉันที่เลอะอยู่ที่ปากเขาทำให้ฉันลืมว่าควรโกรธที่เขาฉวยโอกาศและขำออกมาเบาๆ

    “หืม? อะไรตลกหรอ?” ฉันไม่พูดอะไรแต่กลับเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บที่ริมฝีปากเขาอีกทีเบาๆ ก่อนที่จะหันไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งในรถ จงหลงฉันให้มากๆ เหมือนที่ฉันหลงแพทริคเลยละกัน บางทีฉันอาจจะเข้าใจก็ได้ว่าแพทริครู้สึกยังไงตอนที่ปฏิเศษฉัน!

    “คุณขำสีลิปสติกคุณที่ติดอยู่ที่ปากผมใช่มั้ย (=O=)” ลูอิสพยายามใช้หลังมือเช็ดลิปสติกออกก่อนที่จะออกรถเพื่อตรงกลับไปที่บูธ ฉันลอบยิ้มมุมปากอย่าผู้ชนะอยู่คนเดียวขณะที่เขากำลังตั้งหน้าตั้งตาเร่งสปีดรถเพื่อที่จะไปให้ทันงานเปิด

    “หายไปไหนมาวะ พริตตี้ทั้งหลายรอเจอแกอยู่นะเว้ย" หนึ่งในบรรดาเพื่อนทั้งเจ็ดของเขาทักพวกเราทันทีที่เห็น ทั้งๆ ที่ลูอิสก็หอบชุดเข้ามาในบูธ บางทีเรื่องที่รู้อยู่แล้วก็ไม่ต้องถามก็ได้นะ

    “โอ้วววว คุณเดไลล่าแก้ชุดให้พวกเราหรอครับเนี่ย"

    “เปล่า ลูอิสทำน่ะ เขานั่งเย็บเองเลยนะ นักศึกษาคณะบริหารก็แบบนี้แหละ ต้องตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น" ฉันประชดแดกดันเรียบๆ ตามแบบฉบับของฉัน เอาจริงๆ คือฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วหละ แค่เมื่อก่อนฉันจะหัวเราะปิดท้ายพร้อมกับคำว่า 'พูดเล่นน่า~' แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดว่าไม่จำเป็นอีกต่อไปเพราะน่าจะแยกออกแล้วว่าอันไหนประชดอันไหนพูดจริง =_=!

    “แล้วนายพาคุณเดไลล่าไปทำไมวะ"

    โอเค ฉันขอโทษที่คิดว่าคนจะเข้าใจว่าฉันประชด ฉันขอถอนคำพูดทั้งหมดเมื่อกี้และขอกลอกตาให้กับพวกนี้หนึ่งทีเพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าพวกนี้มีแต่ไอคิว อีคิวหามีไม่ (-0-);

    “พวกแกนี่โง่หรือโง่กันแน่วะ" ลูอิสบ่นพร้อมกับเดินเอาชุดไปให้พริตตี้ที่ตอนนี้จ้องเขาปานจะกลืนกิน ลูอิสที่เป็นคาสิโนว่าก็ไม่นาจะพลาดแต่ทำไมเขาดูไม่ค่อยสนใจผู้หญิงทั้งสามคนนั้นเลยหละ =O=?

    “ดูหมือนว่าพ่อเสือหนุ่มของพวกเราจะกลายเป็นลูกแมวน้อยกลัวเมียแล้วม้างงง~” หนึ่งในเพื่อนเขาพูดแซวฉัน แต่พอฉันหันกลับไปมองด้วยสายตานิ่งๆ ตามแบบของฉัน เขาและเพื่อนๆ ต่างก็พากันก้มหน้างุดๆ กลับไปจัดนู่นนี่ต่อ ปกติหน้านิ่งๆ ของฉันจะดูหยิ่ง แถมวันนี้ฉันยังกรีดอายไลน์เนอร์แบบแคทอายเฉี่ยวๆ ทำให้ดูดุมากขึ้นไปกว่าเดิม น่าสงสาคนพวกนี้นะ แหม~

    “ทุกคนพร้อมแล้วนะ" ลูอิสถามราวกับเป็นหัวหน้ากลุ่ม จะเป็นได้ยังไงหละ มัวแต่เอาเวลามาไปเที่ยวกับฉันขนาดนี้ = =

    “ครับบอส!” ฉันหันไปหาลูอิสที่โดนเพื่อนทั้งกลุ่มประชด เขาดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ตกลงเขารู้หรือไม่รู้กันแน่ว่าเพื่อนกำลังแดกดันเขาอยู่?

    “เปิดบูธได้!” เขากดเปิดไฟและให้สัญญาณพริตตี้เดินออกไปหน้าบูธพร้อมกับถาดเยลลี่รสเหล้าที่ฉันยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าเยลลรารสเหล้าวอดก้ากับเรือยอร์ชมันเดี่ยวข้องกันยังไง


    [
    Counterfeit: ของปลอม, เฟค]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×