ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rainbow's Tale ห้าเฉดรัก ระบายหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : [★] Passionate Red 01 ; Party Animal

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 56


     

    RED

     

    “The best way to not get your heart broken, is pretending you don't have one.”

    - Charlie Sheen

     

    1

    Party Animal

     

    เสียงดนตรีแนวแดนซ์ดังกึกก้องไนท์คลับชื่อดังกลางกรุงแห่งหนึ่ง แสงไฟสลัวๆ กับกลิ่นบุหรี่คลุ้งไปทั่วบริเวณ ผู้คนจำนวนมากในชุดที่ตั้งใจจะมาโชว์กันและกันกำลังเต้นอย่างหลุดโลกอยู่หน้าเวทีดีเจ รอบๆ ฟลอร์มีโต๊ะเรียงราย แต่ละโต๊ะมีขวดเหล้า ขวดเบียร์ ก้นบุหรี่ เตาบารากุและแก้วน้ำวางระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ปาร์ตี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ราวกับว่าคืนนี้คือคืนปลดปล่อย ทั้งตัว สมองและหัวใจให้ล่องลอยไปกับเสียงเพลงเบสหนักๆ ที่ดีเจเปิดอยู่เหล่านั้น ทุกคนดูจะดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนกับผู้คนมากมาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะนอนอ่านหนังสืออยู่บ้านหรือไม่ก็ดูทีวี แต่ตอนนี้ไม่ใช่เมื่อก่อน เธอไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป นี่คือที่ๆ เธอควรอยู่ ปาร์ตี้ในไนท์คลับสุดหรูกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักเธอ หรืออาจจะรู้จักแต่เธอไม่รู้จักพวกเขา ที่ๆ เธอสามารถจะหนีจากชีวิตกลางวันปกติกับการเป็นนักศึกษาได้อย่างสิ้นเชิง ที่ๆ เธอสามารถแก้แค้นให้กับตัวเองได้โดยไม่โดนประนามหรือปลอบโยนจากเพื่อนรอบข้าง
     

    เธอไม่ต้องการความสงสาร เธอไม่ต้องการให้คนมาบอกว่า 'อกหักแค่นี้ไม่ตายหรอก สวยๆ แบบเธอหาใหม่ก็ได้' โดยที่พวกเราไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเธอไม่ได้สวยแบบนี้ เมื่อก่อนเธอเป็นยัยฟันเหล็กหน้าบานที่ไม่ค่อยมีใครอยากชายตามอง แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ยัยเด็กงี่เง่าอ่อนแอผู้นั้นอีกต่อไป เธอคือนางมารร้ายที่ไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก เธอไม่ต้องการให้คนรอบข้างมาทำเหมือนเธออ่อนแอ เธอต้องการความสะใจ ในเมื่อชีวิตกลางวันมอบสิ่งนั้นให้เธอไม่ได้ ยามราตรีคือทางเลือกเดียวและทางเลือกสุดท้ายของเธอ...
     

    “เดไลล่า" ระหว่างที่เธอกำลังโคลงแก้ววิสกี้ในมือพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก เสียงอันคุ้นหูของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงทำให้สมาธิที่เธอใช้จดจ่ออยู่กับบรรยากาศได้ขาดลง คงไม่ใช่ใครที่ไหน หนึ่งในบรรดาคู่ควงเก่าของเธอนั่นเอง
     

    “ฉันไม่ใช่คนที่นิยมกลับไปอ่านหนังสือเล่มเก่าหรอกนะ" หญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีแดงเพลิงเอ่ยโดยที่ไม่ละสายตาออกจากกลุ่มคนกลางฟลอร์เลยแม้แต่นิด ชายผู้นี้ไม่มีความสำคัญพอที่จะเรียกร้องโอกาศที่สองจากเธอด้วยซ้ำ
     

    “เดไลล่า ฉันขอโทษ เธออยากให้ฉันเป็นยังไง เธอบอกมาได้เลย ฉันจะทำ ฉันจะเป็นตามที่เธอสั่งทุกอย่าง ขอร้องหละนะ อย่าทิ้งฉันเลยนะ เดไลล่า" รอยยิ้มชั่วร้ายถูกแทนด้วยยิ้มแบบขบขันปนดูถูก เธอลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาชายหนุ่งผู้นั้นอย่างช้าๆ
     

    “น่ารำคาญจริงๆ เลย ให้ตายสิ" เธอบ่นเบาๆ ก่อนที่จะราดวิสกี้ที่เหลือในแก้วของเธอลงบนหัวของผู้ชายคนนั้น
     

    “เห้ยยย!!!”


    “เพื่อวิสกี้จะทำให้นายฉลาดขึ้นบ้างนะ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าฉันเคยรักนายหน่อยเลย นายก็แค่หนึ่งในขั้นบรรไดที่ฉันต้องเหยียบเพื่อขึ้นไปอีกชั้น... เท่านั้นเอง" เธอเหล่เขาด้วยหางตาอย่างดูถูกก่อนที่จะทิ้งให้เขาทรุดอยู่ตรงนั้น


    ... กับหัวใจที่แตกสลาย


    “เดไลล่า...” ชายผู้นั้นเอ่ยเสียงอ่อย รอยยิ้มเย้ยหยั่นประกฏบนใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวอีกครั้ง เธอเดินออกจากผับแห่งนั้นมาด้วยความสะใจก่อนที่จะก้าวขึ้นรถสปอร์ทคันโปรดของเธอและขับทยานออกไปในความมืดแห่งยามราตรีด้วยความเร็วสูง


     


    “แกทำอะไรลงไปน่ะไลล่า! =_=” เชลโล่ เพื่อสาวคนสนิทของฉันตะโกลั่นคอนโดหลังจากที่ฉันเล่าวีรกรรมของฉันเมื่อคืนให้ฟัง จะว่าไปฉันยังล้างเมคอัพที่ตาออกไม่หมดเลยนะเนี่ย หลังจากที่ฉันราดวิสกี้ใส่นาย ... ชื่ออะไรนะ -_-? นั่นแหละ ฉันก็ขับรถไปผับใกล้เคียงเพื่อจะมีที่สงบๆ ท่ามกลางผู้คนให้ฉันได้นั่งคิดทบทวนอะไรบ้าง


    ... แต่เปล่าเลย -_-


    “ถ้าฉันไม่รีบลากแกกลับบ้าน แกอาจจะโดนนายนั่นจับไปทำมิดีมิร้ายก็ได้นะ!”


    “แกคิดว่าฉันป้องกันตัวไม่เป็นหรือไงหะ =_=”


    “....ก็ถูก แต่นั่นแหละ ฉันป็นห่วงแกนะเว้ย แกน่าจะเพลาๆ เรื่องเที่ยงลงบ้างก็ดีนะ ._.”


    “อย่าห่วงฉันเลยเชล ฉันหักอกพวกผู้ชายหน้าโง่พวกนั้นมากี่คนแล้ว เรื่องแค่นี้ฉันรับมือไหวน่า"


    “ถ้าแกกลับบ้านเช้าอีกวัน ฉันจะต้องติดจีพีเอสตามตัวแกแล้วนะ -3-”


    “แกติด ฉันก็พังมันอยู่ดี มือถือที่ฉันเปลี่ยนบ่อยๆ ก็เพื่อไม่ให้แกตามเจอ แกเลิกห่วงฉันได้แล้วน่า ฉันบอกแล้วไงว่าฉันดูแลตัวเองได้น่ะ"


    “ฉันเป็นห่วงสิ แกเป็นเพื่อนสนิทฉันมาตั้งแต่ไฮสคูล อีกอย่าง ตอนนี้แกเปลี่ยนไปมาก บางทีแกควรไปเข้าวัดบ้างนะ"


    “เอาเวลาห่วงฉันไปตามแฟนแกดีกว่ามั้ย ได้ข่าวว่าไม่ติดต่อมาหลายวันแล้วนิ"


    “เขาบอกว่างานที่คณะเขาเยอะน่ะ ที่ล็อบบี้คอนโดฯ ฉันก็ไม่ค่อยเจอเขานะ ._.”


    “เฮ้อออ" ฉันถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ กับเพื่อนสนิทของฉันและการที่นางเป็นห่วงฉันมากจนใช่เหตุ

    ... บ้าจริง ขนาดพ่อแม่ยังไม่เคยโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบฉันขนาดนางเลย แต่ถ้าไม่ได้เชลโล่ ตอนนี้ฉันคงยังอยู่ที่ผับเพราะกลับไม่ได้ พวกนายวิสกี้นั่นเล่นเจาะลมยางรถฉันหมดเลยทั้งสี่ล้อ = =


    “แล้วนี่แกจะไปไหนน่ะ -*-”


    “ไปเอารถไง เมื่อกี้ศูนย์ส่งข้อความมาบอกว่ารถเปลี่ยนยางเรียบร้อยแล้ว"


    “แล้วแกจะไปยังไง? -_-”

    “แท็กซี่" ฉันคว้ากุญแกรถจากเค้าท์เตอร์แล้วสวมเท้าลวกๆ ลงไปในรองเท้ากีฬาทรงสวยคู่โปรดของฉัน กางเกงเซิร์ฟขาสั้นกับฮู๊ดดี้ก็ต้องเข้ากับรองเท้ากีฬาอยู่แล้วสินะ


    “ให้ตายสิ ฉันไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ" เชลโล่บ่นลับหลังก่อนที่ฉันจะรีบออกจากห้องแล้วลงมาให้ยามเรียกแท็กซี่ให้ ใช่สิ ใครจะไปเข้าใจฉันหละ แม้แต่ฉันยังไม่เข้าใจตัวเองเลย


    ... ว่าทำไม ฉันยังไม่ปล่อยให้ความทรงจำลอยไปกับกาลเวลาสักที ...


    “ไปผับ XXX ค่ะ" ฉันบอกแท็กซี่ด้วยเสียงเนือยๆ เมื่อคืนก็ไม่ได้ดื่มเยอะนิ ทำไมเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก สงสัยเพราะยังไม่ได้นอนหละมั้ง นี่มันเพิ่งสิบเอ็ดโมงเอง ให้ตายสิ นี่มันเวลานอนของฉันเลยนะ = =


    “ทางร้านต้องขออภัยคุณเดไลล่าจริงๆ นะครับ แตกล้องวงจรผิดของทางร้านไม่สามารถบันทึกเหตุการตอนที่รถของคุณถูกปล่อยลมยางได้เลย...”


    “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้บาดเจ็บอะไรก็ดีแล้ว" ฉันตัดบทผู้จัดการร้านที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นกระดาษดับเบิ้ลเอ (ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าจะให้ ก็ยินดีรับนะคะ xD) ฉันไม่ได้จะเอาเรื่องอะไรสักหน่อย ฉันแค่จะเอาหน้าของคนทำไปให้คนรู้จักฉันที่เป็นซีไอเอตามแก้แค้นให้เท่านั้นเอง หึ~


    “ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย" ฉันถามตามมารยาทและออกรถไปโดยที่ไม่รอฟังคำตอบ

     


    ฉันขับเฟอร์รารี่สีแดงสุดที่รักของฉันด้วยความเร็วสูง แวะซื้อกาแฟกลับไปหน่อยดีกว่า ดูเหมือนว่าสมองฉันจะทำงานช้าลงเพราะยังแฮงค์จากเมื่อคืนบวกกับความจริงที่ว่าฉันยังไม่ได้นอนเลยสักนิด


    “มอคค่าร้อนแก้วนึงค่ะ"


    “ขอบคุณนะครับ" ด้านหลังฉันมีเสียงผู้ชายที่คุ้นหูดังขึ้น ฉันจำเสียงนี้ได้แม่น ...


    “แพทริค...” ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วหันควับไปโดนผลัน แต่ช้าไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นเดินผ่านประตูออกไปนอกร้านเสียแล้ว


    “ไม่ต้องทอน" ฉันวางเงินที่เกินราคากาแฟมากไว้ที่เค้าท์เตอร์ก่อนที่จะวิ่งตามผู้ชายคนนั้นออกมาด้านนอก ให้ตายสิ เขาขึ้นรถไปแล้ว!


    ฉันรีบสตาร์ทรถแล้วบึ่งตามโฟล์คเต่าสีดำคันหน้าไปอย่างเร็ว ไม่ผิดแน่ๆ รถก็ใช่ สีรถก็ใช่ ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน นี่ฉันอยู่เมืองหลวงนะ ไม่ใช่จังหวัดเล็กๆ นอกเมือง ทำไมโลกต้องมากลมให้ฉันเจอเขานอกมหาลัยด้วยนะ!


    “แพทริค นายหนีฉันไม่พ้นหรอก" ฉันยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย เป็นรอยยิ้มที่มีให้คนรอบข้างเห็นบ่อยเมื่อพักหลังๆ มานี่ ฉันตัดสินใจแซงแล้วไปปาดหน้ารถของเขาเพื่อให้เขาหยุด ทางตรงนี้มันไม่ค่อยมีคนพอดี เสร็จฉันหละ นายจะต้องเสียดายแน่ถ้าเจอฉันตอนนี้ !


    เอี๊ยดดดดดดด !


    “นี่คุณ คุณขับรถภาษาอะไรของคะ.....”


    “คุณ ... ?” ทันทีที่ฉันลงจากรถหลังจากที่ปาดหน้าให้เขาจอดเรียบร้อยแล้ว 'เขา' ก็ลงจากรถเพื่อมาต่อว่าฉัน


    เขาไม่ใช่แพทริค เขาคือคนที่เหมือนแพทริคมากจนดูผ่านๆ นึกว่าเป็นฝาแฝดกัน ให้ตายสิ ยังมีคนที่เหมือนนายนั่นได้ขนาดนี้อีกหรอ? ดูเหมือนเขาจะฉะงักไปชั่วครู่ที่เจ้าของรถคันที่ปาดเขาเป็นผู้หญิงสวยแบบฉัน


    “เอ่อ คุณ ผม เอ่อ ...”


    “ฉันขอโทษนะคะที่ปาดคุณ รถคุณเหมือนของเพื่อนฉันน่ะค่ะ" ฉันก้มหัวนิดๆ เป็นการขอโทษ ซึ่งดูเหมือนเข้าจะโค้งนิดๆ เพื่อเป็นการบอกว่าไม่เป็นไร ทันใดนั้น หัวสมองด้านเห็นแก่ตัวของฉันก็นึกแผนร้ายได้ขึ้นมา


    “คุณบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ คุณ...”


    “ลูอิสครับ แล้วคุณ?”


    “ก็ไม่เป็นไรเช่นกันค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน ขับรถดีๆ นะคะ" ตบท้ายด้วยรอยยิ้มที่หวานจับใจจากนางร้ายในคราบนางฟ้าจอมปลอมอย่างฉัน ฉันรู้ว่าเขาถามชื่อฉัน เรื่องอะไรจะรีบตอบหละ ผู้ชายน่ะ ยิ่งทำให้สงสัย ยิ่งอยากรู้ ยิ่งอยากเข้าใกล้


    ... ส่วนใหญ่จึงโดนฉันเขี่ยทิ้งอย่างไร้เยื่อใยยังไงหละ


    'แพทริค' คือชื่อที่ฉันจะไม่มีวันลืม เขาทำให้ปีศาจในตัวฉันเข้าครอบงำจิตใจของฉันจนตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะกลับมาเป็นคนดีได้อีกไหม ฉันจะรักใครได้อีกหรือเปล่า เขาทำให้ฉันเลือกที่จะแสร้งทำเป็นคนไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่ฉันจะไม่เจ็บปวดกับความรักงี่เง่าอีกเป็นครั้งที่สอง


    “ไปนานจัง" เชลโล่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาโดยมีทีวีเปิดค้างอยู่พูดทักฉันโดยไม่ละสายตาออกจากแม็กกาซีนดาราเกาหลีที่เธอรักนักหนา เห็นเนิร์ดๆ แบบนี้ เพื่อนฉันนี่ติ่งเกาหลีตัวยงเลยนะ จะบอกให้


    “เจอคนเคยรู้จักน่ะ เลยขับตามไป แต่...”


    “แต่อะไร?”


    “แต่คลาดกันน่ะ เลยต้องไปวนรถ กว่าจะกลับรถก็ติด" ฉันบ่นกลบเกลื่อนก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ฉันอยู่กับเชลโล่สองคนในเพนท์เฮ้าส์แห่งนี้ตั้งแต่เข้า iCON University มหาลัยอินเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ คอนโดฯ นี้ทุกชั้นคือเพนท์เฮ้าส์น่ะ คอนโดฯ เดียวกับยัยโซเดี่ยมสุดแสนจะเพอร์เฟคอะไรนั่นด้วยแหละ ภายนอกเธออาจจะเป็นคนที่น่ารัก อ่อนโยน งุงิงุ้งงิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่างานพาร์ทไทม์สุดหฤหรรษ์ของเธอคือการเต้นสตรีทแดนซ์ ไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มสุดหล่อของเธออย่างนายธันเดอร์ที่ชอบเข้ามาแซวฉันเรื่องลิปสติกจะรู้เรื่องนี้หรือเปล่า นายธันเดอร์ทึ่มจะตายไป คงตามยัยคุณหนูโซเดี่ยมไม่ทันหรอก นี่บอกเลย


    แล้วฉันไปยุ่งอะไรเรื่องของชาวบ้านเขาเนี่ย -_-


    [สืบประวัติผู้ชายที่ชื่อลูอิสให้หน่อย คนที่ขับรถโฟล์คเต่าสีดำน่ะ]


    ฉันส่งข้อความไปหาเลขาส่วนตัวที่ฉันชอบวานให้สืบค้นข้อมูลของชายหลายๆ คนที่เข้ามาวอแวกับฉันอยู่บ่อยครั้ง นายลูอิส นายหนีฉันไม่รอดหรอก นายจะต้องเป็นของฉัน นายจะต้องเป็นตัวแทนของเขา!


    [เขาเพิ่งย้ายเข้ามาในเมืองเป็นอาทิตย์แรก ตอนนี้ศึกษาอยู่ที่ iCON's School of Business เขาชอบไปที่ FFF เขาไปที่นั่นทุกวันศุกร์ครับ] ฉันยิ้มอย่างพึงพอใจกับข้อมูลที่ได้มา คลับนี้ฉันไปไม่บ่อยนัก ถึงบรรยากาศจะรกร้างไปนิด แต่ก็เป็นส่วนตัวพอที่จะ 'บังเอิญ' เจอกันอีกครั้งนะคะ คุณลูอิส ;)


    [ส่วนเรื่องที่ให้สืบก่อนหน้านี้ คุณบลันท์พาผู้หญิงคนอื่นขึ้นห้องจริงๆ ครับ] แต่อีกข่าวทำให้ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก นายบลันท์ นายกล้าดียังไง สงสัยฉันต้องจัดการเองแล้วหละ :<


    คืนวันศุกร์งั้นหรอ พรุ่งนี้สินะ ถึงเวลาที่ฉันต้องใช้มารยาร้อยเล่าเกวียนของฉันอีกแล้วสินะ เพราะฉันคือเดไลล่า! มีหรอจะไม่ได้สิ่งที่ฉันอยากได้ ฉันถูกขัดใจไปรอบนึงแล้ว รอบนี้...


    ฉัน! ต้อง! ได้!





    [Party Animal: นักท่องราตรี, คนที่ชอบปาร์ตี้]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×