ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rainbow's Tale ห้าเฉดรัก ระบายหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : ‣ Ch01 ; Pilot.

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 56


     

    มหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดังแห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน แต่ละส่วนนั้นตั้งอยู่แต่ละมุมของทิศทั้งสี่

    ทิศเหนือ...

              ตึกสีขาวสูงนับยี่สิบชั้นตั้งอยู่เด่นเป็นสง่า ร้อมรอบด้วยตึกชั้นเดียวทรงกรีกโบราณอีกนับไม่ถ้วน ส่วนกลางได้ความร่มรื่นจากสวนขนาดมหึมา ลานจอดรถละลานไปด้วยรถหลากหลาย ทั้งราคาหลักแสนไปจนถึงหลักสิบล้าน แถมบางคันมองอย่างไรก็ดูจะเป็นรถที่ถูกสั่งผลิตเสียด้วยซ้ำ ที่สะดุดตาคงหนีไม่พ้นประตูสูงสีทองที่ตั้งตระการอยู่เบื่องหน้าคณะ คล้ายจะเป็นการต้อนรับทุกผู้ทุกนามเข้าสู้อาณาจักรของพระราชา คณะซึ่งมีบุคลากรผู้บริหารและการคลังของที่แห่งนี้ จัดการภาระเบื้องหลังต่างๆ นานา ขอต้อนรับสู่ดินแดนของพระราชา iCON's Business School
     

    ต่อด้วยทิศใต้...

               ประตูรั้วเหล็กสีดำแกะสลักเป็นรูปดอกกุหลาบที่เผยให้เห็นหนามคม ต้อนรับผู้มาเยือนสู่อาณาจักรแห่งราชินี หมู่ตึกทางทิศใต้นี้ถูกสร้างสรรค์ให้โดดเด่นไม่ซ้ำตึกใดในมหาวิทยาลัย ภายในรั้วกุหลาบงามนี้ กระจก คริสตัล และรูปปั้นเทพเจ้ากรีกโดยฝีมือนักศึกษาล้วนไม่มีสิ่งใดซ้ำซากให้ระคายเคืองแก่สายตา หากสงสัยในฐานะของชาวราชินีหน่ะหรือ สังเกตได้โดยง่ายบริเวณลานจอดรถ ยานพาหนะชั้นสูงที่เรียงรายอยู่นั้น ไม่มีคันใดเลยที่มีมูลค่าต่ำกว่าแปดล้าน ที่แห่งนี้คือแหล่งรวมชนชั้นสูงโดยแท้ ขอต้อนรับสู่ดินแดนกุหลาบของราชนี iCON's Arts School
     

    มาถึงทางทิศตะวันออกกันบ้าง...

              ณ iCON's Engineering School ประตูเซ็นเซอร์อัตโนมัติชั้นดีที่สุดเปิดกว้างและทำงานได้ไม่มีขาดตกบกพร่องเมื่อตรวจพบความเคลื่อนไหวของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้ หุ่นยนต์รถเลื่อนปรับองศาเข้ามาเทียบรับผู้มาเยือนเพื่อเข้าเขตแดนของอัศวิน ที่หมายแรกที่จอดคือ "จุดร้องเรียน" ซึ่งเป็นจุดที่คนจากทุกคณะมาเพื่อเรียกร้องสิ่งต่างๆ หรือแม้กระทั่งร้องเรียนในสิ่งที่ตนไม่พึงใจ เมื่อรถจอดสนิท โปรเจคเตอร์จะฉายภาพเพื่อให้เลือกเส้นทางที่ต้องการ ไม่มีที่ไหนในมหาลัยแห่งนี้อีกแล้วที่จะมีการเดินทางที่สะดวกสบายเช่นดินแดนอัศวินนี้ ไม่ต้องเดินให้เมื่อย ไม่ต้องใช่รถส่วนตัว ก็จะใช้ไปทำไมกันหล่ะ ในเมื่อมีหุ่นยนต์ไฮเทคที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์พวกนี้อยู่แล้ว จะต้องไปใช้รถให้สิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ใย อีกทั้งยังเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งของนักศึกษาประจำคณะเพราะโปรเจคทางเทคโนโลยีที่นักศึกษาต้องตรากทำนั้น กินเวลานานเป็นเดือนเลยทีเดียว
     

    ทิศตะวันตก...

             ทิศของประชาชน ในทุกๆปี จะมีการโหวตเลือกนายกและสมาชิกสภา ผู้ที่จะรับฟังความเห็นของทุกๆคน เพื่อที่จะรายงานไปถึงพวกอัศวิน หน้าที่หลักของคนในคณะนี้คือคอยดูแลตกแต่งสวนให้อีกสามคณะที่เหลือ ทำการทดลองเพื่อเสนออัศวินเกี่ยวกับพืชพันธุ์ใหม่ นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นนักเรียนทุนที่ฐานะทางบ้านสู้ค่าเล่าเรียนที่นี่ไม่ได้ คนที่นี่อยู่กันอย่างแออัด จักรยานจอดระเนระนาดอยู่ตามทางเดิน ไม่มีแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายที่พอจะจ้างแม่บ้านหรือคนอำนวยความสะดวก จึงต้องแบ่งงานกันในคณะ ถึงกระนั้น คนที่นี่ก็รักและปรองดองกันเยี่ยงพี่น้อง แม้ว่าประตูหน้าคณะจะเป็นแค่ประตูไม้เก่าๆ ไม่หรูหราเท่าคณะอื่น ไม่น่าเข้าไปเยือนเท่าคณะอื่น แต่นับจากย่างก้าวแรกที่สัมผัสดินแดนของประชาชนนี้ ความรัก ความห่วงใย และความอบอุ่นก็อบอวลอยู่รอบตัวผู้มาเยือนอยู่เสมอ และนี่คือ iCON's Agriculture School

             แล้วคุณหละ "ชอบ" คณะไหน ?

     

    Passionate RED

     

             “เดไลล่า" คุณหนูจอมเอาแต่ใจแห่งดินแดนกุหลาบ ตั้งแต่เด็กจนโต คุณพ่อและคุณอาของเธอต่างพากันเอาอกเอาใจเธอราวกับเจ้าหญิง พวกเขาหารู้ไม่ว่าเจ้าหญิงของพวกเขากำลังกลายเป็นราชนีผู้ร้ายกาจทีละนิดโดยไม่รู้ตัว เธอแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเองตั้งแต่เข้ามา ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตลอดระยะเวลาปีหนึ่ง เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาหันมาชอบเธอบ้าง แต่ไม่ว่าจะวิถีไหนก็ดูเหมือนจะหมดปัญญา ในเมื่อเป็นคนดีแล้วไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ก็ถึงเวลาที่เธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กปีหนึ่งน่ารักเรียบร้อย กลายมาเป็นพี่ปีสองสุดหยิ่ง แต่งหน้าหนาขึ้น ทาแปกแดงขึ้นและแน่นอน แรงขึ้นด้วย แทนที่เธอจะตัดใจแล้วเดินหน้าต่อ เธอกลับเลือกที่จะจมอยู่กับอดีตโดยการดึงเอาคนที่เหมือนเขามาแทนที่ หลอกตัวเองไปวันๆ ว่าเธอยังมีเขาอยู่ ไม่ว่าตอนนี้เธอและเขาจะไม่คุยกันแล้วก็ตาม

             “แพทริค" หนุ่มดินแดนอัศวิน เพื่อนสนิทของเดไลล่าตอนปีหนึ่ง แต่ตีตัวออกห่างเมื่อรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเดไลล่า เขาเสียใจที่ไม่สามารถรักเธอได้แบบคนรัก เขาเลยเลือกที่จะถอยออกมาเพื่อที่จะให้เธอลืมเขา หารู้ไม่ว่ายิ่งถอยออกมาห่างเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งพยายามที่จะลดระยะห่างลงเท่านั้น เขาไม่ได้เอะใจอะไรตอนที่รู้ข่าวเรื่องแฟนใหม่ของเดไลล่าทั้งๆ ทุกคนก็พากันลงความเห็นว่าแทบจะเป็นฝาแฝดของเขาเลยก็ว่าได้ เขาเชื่อว่าคนฉลาดๆ อย่างเดไลล่าคงไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นเด็ดขาด เขาลืมคิดไปว่าตอนนี้ เดไลล่าที่เขารู้จักได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยที่เขาเคยสนิทด้วยแต่เป็นสาวเฉี่ยวนักท่องราตรี หักอกผู้ชายเล่นเป็นงานอดิเรก แม้ทุกครั้งที่เจอกันโดยบังเอิญ เดไลล่าจะทำเป็นไม่เห็นและเดินเชิดผ่านเขาไปก็ตาม

             “ลูอิส" นักศึกษาใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากต่างเมือง เขาเข้ามาที่นี่ได้เพียงอาทิตย์เดียวก็บังเอิญเจอกับผู้หญิงสวยแต่แปลกคนหนึ่งที่ลงทุนขับรถตามเขามาจากร้านกาแฟเพื่อมาปาดหน้ารถเขา คิดว่าเขาเป็นเพื่อนของเธอ พอเขาถามชื่อ เธอกลับไม่บอก หลังจากนั้น เขาก็ได้พบเธออีกครั้งที่ผับประจำที่เขาชอบไป มีอย่างที่ไหน คาซิโนว่าตัวพ่ออย่างเขาจะปล่อยให้คนสวยๆ อย่างเธอหลุดมือไปได้ เขาแน่ใจมากๆ ว่าเธอเองก็สนใจเขาอยู่เหมือนกัน แต่ทำยิ่งรู้จักยิ่งน่าค้นหา ยิ่งรู้จักยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ลิปสติกสีแดงสดนั่นคือตัวตนที่แท้จริงของเธอ ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?

             รักสามเศร้าอันแสนร้อนแรงราวกับเปลวไฟที่ค่อยๆ รนให้พวกเขาร้อนขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเหมือนดั่งระเบิดเวลา ถ้าร้อนถึงจุดเดือดจะระเบิดและทำลายทุกอย่างและทุกคน สีแดง สีแห่งความเสน่หา สีแห่งความรัก สีของเปลวไฟที่พร้อมจะเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า

     

     

    Vacant WHITE

     

             คุณเคยสงสัยเรื่องเส้นกันระหว่างความจริงกับความฝันบ้างหรือเปล่า? มันอาจจะเป็นแค่เส้นบางๆ หรืออาจจะเป็นพื้นที่กว้างเท่าสนามกอล์ฟ แล้วฝั่งไหนคือความจริง ฝั่งไหนคือความฝันหละ? หรือว่าทั้งสองฝั่งจะเป็นความฝันและที่ๆ ฉันยืนอยู่คือพื้นที่ระหว่างความเป็นจริงที่แคบลงๆ เรื่อยๆ

             ฉันลืมตาตื่นมาในห้องสีขาว ฉันพยายามนึกย้อนกลับไปที่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่สิ่งเดียวที่ฉันจำได้คือภาพเลือนรางของกระต่ายสีเทากำลังกระโดดหนีฉันเข้าไปในป่า ฉันจำได้ว่าฉันตัดสินใจทิ้งวิวทะเลตรงหน้าแล้ววิ่งตามกระต่ายไป ลึกเข้าไปในป่าทึบก่อนที่ทุกอย่างจะสว่างจ้าและดับวูบไป

             นี่คือเหตุการณ์เมื่อสิบสองปีที่แล้ว หรืออีกแง่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตฉัน ฉันจำไม่ได้ว่าก่อนหน้าที่ฉันจะตื่นขึ้นมาที่นี่ ฉันเป็นใคร มาจากไหน และมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร คนแรกที่ฉันเจอคือ "มาร์ตินี่" เขาบอกว่าเขาจะดูแลฉันให้ดีที่สุดเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว ฉันอยากจะเถียงว่าฉันไม่ได้กลัว ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น เขาบอกฉันอีกว่าฉันชื่อ "มินซ์" และต่อไปนี้พวกเราทั้งสามคนคือ 'ทีม' เดียวกัน เขาพาฉันไปเจอกับชิชา ตั้งแต่นั้นมา พวกเราทั้งสามได้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ นาๆ มาด้วยกัน ทั้งสุข ทั้งเศร้า ทั้งเสี่ยงตาย ทั้งบ้าบิ่น แต่ก็ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่ใครสักคนจะยอมแพ้หรือลาออก

             จนมีเหตุการณ์บังคับทำให้ฉันต้องทิ้งพวกเขาเพื่อที่จะปกป้องพวกเขาจากอำนาจมืด มันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวกับการที่จะทิ้งเพื่อนสนิททั้งสองแล้วไปเจอกับอันตรายข้างหน้าคนเดียว แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่เจ้ากระต่ายตัวนั้นบอก มันก็คงเป็นความคิดที่ไม่แย่เท่าไหร่

             ... ฉันเชื่อเธอนะ เจ้ากระต่าย

             สีขาว สีแห่งความว่างเปล่า สีแห่งการเริ่มต้น สีแห่งจุดจบ สีที่ง่ายต่อการแปดเปื้อนแต่ยากที่จะลบล้าง จะทำอย่างไรให้สีขาวคงอยู่เป็นสีขาวและไม่แปลเปลี่ยนเป็นสีอื่น?

     

     

    Redemptive BLACK

     

             “I'm just following orders.” หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมง กางเกงขายาวเข้ารูปกับเสื้อกล้ามสีดำ ริมฝีปากเข้ารูปสีชมพูธรรมชาติของเธอเอ่ยขึ้นก่อนที่ชายผู้มาเยือนจะถามคำถามใดๆ แววตาว่างเปล่าและเย็นชาของเธอช่างต่างจากที่เขาเคยพบเห็นทุกครั้งที่เจอ มือขวาของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด บริเวณที่เธอยืนมีหยดเลือดกระจายอยู่เต็มพื้นและกำแพง ชายหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเขามองหาต้นกำเนิดของเลือดก็พบกับร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อนอนพิงกำแพงอยู่อีกฝั่งนึงของห้อง

             “พะ...พ่อ...” เสียงที่แผ่วเบาของเขาดังขึ้นก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าไปกดที่แผลเพื่อห้ามเลือดด้วยจันยาบันแพทย์ แม้ว่าเขาเองก็รู้ว่ากระสุนปืนได้ทะลุผ่านศรีษะของผู้เป็นพ่อทำให้เสียชีวิตโดยทันที จะห้ามเลือดยังไงก็ไม่มีทางช่วยได้

             “เพื่อความปลอดภัย" เธอพูดเรียบๆ แล้วโยนกุญแจเซฟเฮ้าส์ใจกลางเมืองให้ เขาปาดน้ำตาแล้วมองหน้านิ่งๆ ไร้ความรู้สึกของเธออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอที่อยู่ตรงหน้าคอคนที่เขาเคยรู้จักจริงๆ

             “จนกว่าตำรวจจะจัดการเสร็จ คงประมานสามสี่วัน" เธอหันหลังเดินออกจากห้องนอนของผู้ตายพร้อมกับกระชับปืนแน่นราวกับว่าถ้าเธอปล่อยปืนให้หลุดมือไป น้ำตาที่กลั้นเอาไว้จะพากันพลั่งพลูออกมาเช่นกัน

             “ชิชา...” เสียงของเขาที่เรียกชื่อเธอ เสียงที่เธอชอบหนักหนาเวลาเขาเรียกชื่อกลับทำให้เธอเจ็บปวด ณ เวลานี้ ในสถานการณ์แบบนี้ บางที ถ้าเขาเกลียดเธอ ด่าต่อว่าเธอ มันอาจจะบีบหัวใจน้อยกว่านี้ก็เป็นได้

             “การล้างแค้นของฉันสำเร็จลุล่วง เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว คุณธันวา ต่อไปนี้จะไม่มีคนชื่อชิชาที่คุณรู้จักอยู่บนโลกใบนี้"

             .

             .

             .

             “มันจะเหมือนกับว่า... ฉันไม่เคยมีตัวตน"

             Revenge is both bitter and sweet, depends on which side you are on.

             ความแค้นทั้งขมขื่นและหอมหวาน ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นผู้ถูกแค้นหรือผู้แก้แค้น ความแค้นก็เหมือนกับสีดำ สีแห่งความมืด สีที่ปกปิดสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน สีแห่งรัตติกาลซึ่งบดบังผู้มาเยือนจากสายตาผู้คน ถ้าสีขาวคือจุดเริ่มต้นและจุดจบ สีดำคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างนั้น

     

     

    Paradoxical Purple

     

             'Paris de Roma' คือชื่อเล่นในวงการของนางแบบลูกครึ่งสเปนสุดเซ็กซี่ ชื่อเล่นของเธอคือ "ปารีศ" แต่คำว่า 'เดอ โรม่า' เพราะเป็นภาษาสเปนที่แปลว่า Rome's Paris หรือปารีศของโรมนั่นเอง เหตุผลที่ทุกคนเรียกเธอแบบนี้เพราะทุกครั้งที่มีงานถ่ายแบบ พี่ชายสุดฮอตประจำดินแดนอัศวินจะต้องมาคุมตลอด แค่นั้นยังไม่พอ ตากล้องและสตาฟทุกคนจะต้องไม่เป็นเกย์ กระเทย ก็ต้องเป็นผู้หญิง เขาไม่ยอมให้ผู้ชายหน้าไหนมาทำรุ่มร่ามกับน้องสาวคนสวยของเขาเด็ดขาด แค่ถ่ายแบบว้อบๆ แวมๆ แค่นี้ เพื่อนที่คณะเขายังเอามาแซวทุกวันหลังอาหารสามมื้อ มีหรอที่พี่ชายหวงน้องสาวอย่างเขาจะยอม (หวงขนาดนี้ก็ล่ามโซ่ไว้กับบ้านเถอะแหม!)

             'นายตุลา รัตนมงคลพานิชญ์' ผู้กำกับละครเวทีชื่อดัง ชื่อของเขาพบได้ง่ายมากตามแผ่นผับละครเวทีชื่อดังส่วนใหญ่ ผลงานของเขาเป็นที่กล่าวขาญกันทั้งในและต่างประเทศ ถือว่าเป็นผู้กำกับอายุน้อยที่ความสามารถล้นเหลือเลยทีเดียว (นี่แค่ชื่อเสียง หมอนี่ไม่ได้มีแค่ชื่อเสียง แต่ชื่อเสีย เพียบ!) เพราะเหตุนี้ ทาง iCon University เลยขอให้เขากำกับละครเวทีครบรอบห้าสิบปีวันก่อตั้งมหาวิทยาลัยและถือเป็นวิทยานิพนธ์ก่อนจบปีสี่ของเขาด้วย ตอนแรกเขากะจะปฏิเศษเพราะความขีเกียจส่วนตัวบวกกับไม่อยากทำงานกับมือสมัครเล่น (ไอ้ดังแล้วหยิ่ง!) แต่เขากลับเปลี่ยนใจกระทันหันเมื่อได้พบกับน้องสาวของเพื่อนร่วมงานคนเก่ง เขาสนใจปารีศตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นวันที่เขาต้องไปคุยงานเรื่องระบบเสียงโรงละครที่บ้านโรม ตอนที่เขาพบเธอ เธออยู่ในชุดลำลองสบายๆ หน้าไม่ได้แต่ง ผมถูกมัดขึ้นเป็นมวยยุ่งๆ ผิวสีแทนของเธอช่างเข้ากันดีกับผมสีน้ำตาลแดงของเธอจริงๆ แล้วเขาก็ปิ๊งแผนการอันชานฉลาดออกทันที เขาต้องการให้เธอมาเป็นนางเอกละครเวทีของเขาเพื่อที่เขาจะได้มีโอกาศเจอเธอมากขึ้น ติดอยู่ที่โรม เพื่อนร่วมงานของเขาที่หวงน้องสาวมากกว่าแฟน เพื่อนร่วมงานที่จะไม่ยอมให้น้องสาวของตัวเองแสดงบทเลิฟซีนกับผู้ชายใดเด็ดขาด จนเขาก็อดด่า (ในใจ) ไม่ได้ว่า 'หวงขนาดนี้ ล่ามโซ่ไว้บ้านเหอะ!'

             “เธอก็ทำให้พี่ชายน้องเขาไม่มีทางเลือกสิ" เสียงของเพื่อนสนิทเขาดังขึ้นผ่านโทรศัพท์ จริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบคุยโทรศัทพ์เท่าไหร่ จะชอบส่งเป็นข้อความมากกว่า แต่อีกฝ่ายกำลังทำเล็บอยู่เลยพิมพ์ไม่ได้น่ะสิ -_-

             “เธอมาทำเองมั้ยหละ แหม -_-” เขากับนักร้องสาวชื่อดังจากเกาหลีสนิทกันมากๆ เธอเป็นคนเดียวที่เขาเรียกว่า 'เพื่อน' ไม่ใช่ 'เพื่อนร่วมงาน' ที่ค่าโทรศัพท์เขาพุ่งสูงเชียดฟ้าจนโดนพี่ชายด่าก็เพราะโทรฯ ไปปรึกษาหารือและข่มขู่บังคับให้เจสสิก้ามาเป็นโค้ชแอคติ้งให้กับนักแสดงละครเวทีมือสมัครเล่นในโปรเจคครั้งนี้ เพราะเขากับเจสสิก้าเคยไปเวิร์คช็อปการแสดงและการกำกับละครเวทีที่ลอนดอน เธอทำเขาเซอร์ไพร์สอยู่หลายครั้งกับความสามารถในการแสดงของเธอเลยทีเดียว อเมซิ่งไทยแลนด์มากนะบอกเลย OwO/

             “เราไม่ว่างง่า~ ตอนนี้ที่เกาหลีงานก็ยุ้งงงงยุ่ง เราคิดถึงเธอนะ เดี๋ยวเราว่างแล้วเราจะหาเวลาไปหานะคะ >__<” เจสสิก้าน่ารักเสมอในความคิดของเขา บางทีเขาก็สงสัย ทำไมเขาถึงไม่ตกหลุมรักผู้หญิงที่น่ารักก็ได้ เซ็กซี่ก็ดีอย่างเจสสิก้า แต่กลับเป็นนางแบบสุดหยิ่งที่มีพี่ชายดุเยี่ยงควายป่าตกมัน (?) อย่างปารีศ สงสัยเพราะเขาไม่มีรสนิยมชอบผู้หญิงผิวขาวเหมือนกระดาษเอสี่หละมั้ง ._.

             “เราไม่คิดว่าตอนเธอว่าง เธอจะอยากมาหาเราหรอก -3-” เขาอ้อน นอกจากเจสสิก้าและพี่สะใภ้ในอนาคตของเขาแล้ว เขาไม่คิดว่าเขาจะออดอ้อนผู้หญิงคนไหนอีก โมเม้นลูกหมาน้อยตุลาจะมีแค่สองคนนี้ในโลกเท่านั้นที่จะได้เห็น! เขาไม่มีทางแทนตัวเองว่า 'เรา' และแทนคู่สนทนาว่า 'เธอ' กับคนอื่นเด็ดขาดถ้าไม่ใช่เจสสิก้าแล้วหละก็!

             “ไอ้ตูด เธออย่ามาง้องแง้ง เราต้องไปแล้ว สู้ๆ นะคะพ่อหนุ่มอินเลิฟฟฟฟ" เสียงใสๆ ของเจสสิก้ายังเอคโค่อยู่ในโสตประสาตของเขาแม้เธอจะวางสายไปสักพักแล้วก็ตาม...

             ... แผนให้โรมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมให้น้องสาวรับบทนี้น่ะหรอ...

             ฉันรักเธอจริงๆ เลย เจสสิก้า ชาง! ;)

             ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสีฟ้ากับสีแดง แต่ก่อนที่จะผสมกันออกมาเป็นสีม่วงก็เล่นเอาทั้งฝ่ายน้ำเงินและฝ่ายแดงน่วมเอาการเลยทีเดียว ความรักระหว่างฝ่ายน้ำเงินจอมหยิ่งกับฝ่ายแดงจอมเหวี่ยงจะลงเอยเช่นไร สีม่วงจะม่วงได้แค่ไหน เรามาคอยลุ้นกัน !

     

     

    Complicated Grey

     

    ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

             “อินดี้~ ใบนี้สวยมั้ย?” จีอันที่กำลังเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงหันมาถามความเห็นผม ผมละสายตาจากมือถือเพื่อทำเป็นสนใจเธอกับกระเป๋าสีส้มนั่น

             “ก็เหมาะกับเธอดี" ผมตอบปัดๆ อันที่จริงกระเป๋าใบนั้นไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด ราคามันแพงไปน่ะ = =

             “งั้นเอาใบนี้ค่ะ ใบนี้ด้วย แล้วก็รองเท้าสองคู่นี้ค่ะ" นี่เธอกะปล้นผมเลยใช่มั้ยเนี่ย?! ความเกรงใจเป็นคุณสมบัติของผู้ดีนะแม่คูณ เอาเถอะ อีกสักพักก็เลิกแล้ว ถือว่ารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงแรมแล้วกัน -.,-

             “เคร-ดิท-คา-ดึ? £%$^$@£ แค-ชึ?” พนักงานพยายามจะพูดภาษาอังกฤษกับผม ผมเลยยื่นบัตรเครดิทให้เธอ อยู่ในประเทศที่คนพูดอังกฤษไม่ได้นี่ลำบากแท้ เมื่อเช้าผมเรียกแท็กซี่มาที่นี่ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง U_U

             “เราไปร้านข้างบนกันเถอะ *-*” จีอันหิ้วถึงช้อปปิ้งเดินมาหาผมที่กำลังมองออกไปนอกร้าน คนเยอะเป็นบ้า นี่มีการแจกบ้านฟรีหรือยังไงนะ ทำไมคนเบียดเสียดแย่งกันมุงแบบนี้เนี่ย

             ผมมองดูจากกระจกร้านชั้นสอง คนนับร้อยกำลังมุงถ่ายรูปผู้หญิงใส่ชุดสีส้มบนเวทีเตี้ยๆ เธอยิ้มให้กับกล้องอย่างมืออาชีพ เธอคงจะเป็นคนดังที่นี่สินะ คงจะดังมากๆ ขนาดคนแห่กันมุงธเอขนาดนี้ เสียดายที่บนนี้มองลงไปเห็นแต่ชุดกับผมสีน้ำตาลทองของเธอ ถ้าเห็นหน้าสักหน่อยก็คงดี จังหวะนั้นเอง เหมือนเธอจะได้ยินที่ผมแอบคิดในใจ (หรือเปล่า? จริงก็บ้าแล้วครับ -_-) เธอโบกมือให้แฟนคลับเรื่อยๆ จากหน้าเวลา เรื่อยมาชั้นสองที่ผมยืนดูอยู่... เราสบตากัน... ไม่สิ ผมสบตาเธอฝ่ายเดียวต่างหาก เธอกำลังยิ้มให้แฟนๆ ของเธอที่อยู่ชั้นบน รอยยิ้มของเธอ ใบหน้าสวยหวานสไตล์เอเซียของเธอ ปากเล็กๆ สีชมพูของเธอ ตากลมโตคู่สวยของเธอ ทุกอย่างที่เป็นเธอตอนนี้ทำให้หัวใจผมเหมือนหยุดเต้นไปชั่วขณะ เหมือนทุกอย่างรอบตัวเป็นสโลว์โมชั่น ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยพบเจอสาวสวยมาก่อน นางแบบวิกตอเรียส์ ซีเคร็ทผมก็คบมาแล้ว จีอันก็ถือว่าหน้าตาและหุ่นไม่ได้แย่ แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำผมจ้องตาไม่กระพริบแบบนี้มาก่อน เธอ... เป็นใครกันนะ?

             ไม่ขาว แต่ก็ไม่ดำ พื้นที่สีเทาที่สร้างความอึดอัดใครกับทั้งสองฝ่ายจะกว้างขึ้นหรือแคบลง ความรักที่ไม่ชัดเจนกับคำสั่งจากเบื้องบนกำลังทำลายพื้นที่สีเทาเล็กๆ ของพวกเขาลงเรื่อยๆ สิ่งที่ต้องทำกับสิ่งที่อยากทำ เธอและเขาจะเลือกทางไหนกันนะ?

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×