ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถทราบได้ว่าอยู่ ณ ที่ใด ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวเป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์สีเงินวางไว้รอบๆห้อง ตรงกลางมีโคมไฟระย้าห้อยอยู่ช่วยทำให้ห้องดูสว่างขึ้น ตรงข้ามกับประตูทางเข้า ถูกวางไว้ด้วยโต๊ะทำงานสีเงินเช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ ข้างๆกันนั้นมีหญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์ยาวละพื้นกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
" มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ท่านเลบัส " หญิงสาวเปล่งเสียงอันไพเราะออกมาจากริมฝีปากบางโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพวิวทิวทัศน์ด้านนอก
หลังจากบทสนทนาเริ่มต้นขึ้น บรรยากาศเคร่งเครียดก็ได้แผ่ขยายเข้ามาปกคลุมความเงียบที่เคยอยู่ในห้องเมื่อครู่
" ไม่ว่าจะนานเท่าใด แต่คำทำนายของท่านผู้นั้นก็ยังคงแม่นยำเสมอ" ชายชราผมสีเทาหม่นซึ่งคาดว่าคือเลบัสเปรยออกมา อย่างที่ไม่สามารถทราบได้ว่าผู้พูดรู้สึกอย่างไร
" เราคงต้องออกเดินทางเย็นนี้" หญิงสาวหันมาบอกกับเลบัส เผยให้เห็นนัยน์สีเงินมีแววเคร่งเครียดและหนักใจฉายชัด
"ท่านจะไปเองหรือขอรับ" เลบัสถามอย่างไม่แน่ใจ ดวงตาสีครามที่เคยเปล่งประกายแห่งความรอบรู้อยู่เสมอ บัดนี้กลับหม่นหมองเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
"ใช่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านเตรียมตัวให้พร้อมด้วย" นางกล่าว ก่อนจะหันกายจากไป ทิ้งไว้เพียงความหนักใจ และความเงียบที่ค่อยๆโรยตัวเข้ามาในห้องดังเดิม
" เฮ้อ! ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืน ไม่...แม้แต่พลังของท่านผู้นั้น"
" มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ท่านเลบัส " หญิงสาวเปล่งเสียงอันไพเราะออกมาจากริมฝีปากบางโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพวิวทิวทัศน์ด้านนอก
หลังจากบทสนทนาเริ่มต้นขึ้น บรรยากาศเคร่งเครียดก็ได้แผ่ขยายเข้ามาปกคลุมความเงียบที่เคยอยู่ในห้องเมื่อครู่
" ไม่ว่าจะนานเท่าใด แต่คำทำนายของท่านผู้นั้นก็ยังคงแม่นยำเสมอ" ชายชราผมสีเทาหม่นซึ่งคาดว่าคือเลบัสเปรยออกมา อย่างที่ไม่สามารถทราบได้ว่าผู้พูดรู้สึกอย่างไร
" เราคงต้องออกเดินทางเย็นนี้" หญิงสาวหันมาบอกกับเลบัส เผยให้เห็นนัยน์สีเงินมีแววเคร่งเครียดและหนักใจฉายชัด
"ท่านจะไปเองหรือขอรับ" เลบัสถามอย่างไม่แน่ใจ ดวงตาสีครามที่เคยเปล่งประกายแห่งความรอบรู้อยู่เสมอ บัดนี้กลับหม่นหมองเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
"ใช่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านเตรียมตัวให้พร้อมด้วย" นางกล่าว ก่อนจะหันกายจากไป ทิ้งไว้เพียงความหนักใจ และความเงียบที่ค่อยๆโรยตัวเข้ามาในห้องดังเดิม
" เฮ้อ! ทุกสิ่งในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืน ไม่...แม้แต่พลังของท่านผู้นั้น"
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ท...เดย์...ทู...เฟล” เสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์คาร์เนอเดล ก่อนจะตามมาด้วยการเป่าเค้าวันเกิดของเด็กหญิงตัวน้อยที่เป็นเจ้าของงาน
“3 ขวบแล้วนะเฟล อย่าเอาแต่ติดเรรินล่ะ” สตรีผู้มีตาสีเขียวใสในชุดสีฟ้ากระจ่าง ผมสีท้องฟ้ายามราตรียาวประบ่า กล่าวกับเด็กน้อยผมสีดำสนิทที่ถูกมัดรวบเป็นสองข้าง ซึ่งตอนนี้กำลังพยายามใช้นิ้วจิ้มเค้กชอกโกแล็ตอยู่ จนผู้เป็นแม่ต้องตีหลังมือของเด็กน้อยเบาๆ
ส่วนเรรินที่ถูกพูดถึงก็ได้แต่ยิ้มขำๆกับนิสัยของคุณหนูของเธอ
“คิก คิก หนูรักท่านแม่ที่สุดเลย” เด็กน้อยพูด ทั้งๆที่ยังคงจ้องเค้กอย่างไม่วางตา
“เจ้านี่น้า ปากหวานจริงๆ” บุรุษผมสีน้ำตาลไหม้ที่นั่งอยู่ข้างๆกันกล่าว พลางขยี้หัวเด็กน้อยอย่างหมั่นเขี้ยว
“ท่านพ่อ หนูก็รักท่านด้วย” พูดอย่างเดียวไม่พอยังหันไปกอดคุณพ่ออย่างประจบ
“ท่านแม่ ท่านพ่อ รอหนูนะคะ หนูมีของจะให้ดู”ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
“งั้นเดี๋ยวฉันมานะคะ ขอไปเอาจานมาใส่เค้กก่อน” หญิงสาวหันไปพูดกับสามี ก่อนจะเดินออกนอกห้องไป
“เพล้ง!” จานที่อยู่ในมือตกลงอย่างรวดเร็วเมื่อได้เห็นภาพด้านหน้า หญิงสาวพยายามจะเข้าไปหาลูก แต่กลับเหมือนมีกำแพงใสๆกั้นตัวเธอเอาไว้
“ท่านแม่ ฮือ...ฮือ ท่านแม่ขา” เด็กน้อยร้องเรียกพลางร้องไห้
ภาพที่ทุกคนเห็นคือมีแสงสีแดงอยู่รอบๆตัวของเด็กน้อยที่กำลังดิ้นรน เส้นผมและตาที่เคยเป็นสีดำ ตอนนี้กลับเปล่งประกายสีแดง
“นายหญิง!” เรรินวิ่งมาพร้อมกับกอดร่างบางที่กำลังสั่นจากการร้องไห้อย่างหนักของหญิงสาวไว้
“นายหญิง คุณหนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ทำใจดีๆไว้นะคะ” เรรินพยายามปลอบ
แสงสีแดงที่เคยอยู่รอบๆตัวของเด็กหญิง บัดนี้กำลังรวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของเด็กน้อยมีลักษณะเป็นขนนกที่มีเส้นบางอย่างคล้องอยู่ ก่อนจะค่อยๆใสและเปล่งประกายขึ้น จนกลายเป็นสร้อยที่มีจี้เป็นอัญมณีสีแดงเพลิงรูปขนนกที่ถูกเจียระนัยอย่างดี สวมอยู่ที่คอของเด็กหญิงที่เหนื่อยจากการร้องไห้และผล็อยหลับไป กำแพงที่เคยกั้นหญิงสาวกับเด็กน้อย ตอนนี้ได้หายไปแล้ว
พ่อของเด็กหญิงเดินไปอุ้มเธอขึ้นมาก่อนจะหันไปบอกว่า “ผมพาเฟลไปนอนก่อน คุณอยู่กับเรรินนะ”
หลังจากที่เด็กหญิงไปนอนแล้ว เรรินก็พาเธอมานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เพื่อให้ทำใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป
“ชาเลอเทีย” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย แล้วจึงหันไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบกับสตรีผู้มีผมยาวสีหิมะ ดวงตาสีขาวบริสุทธิ์ช่วยขับให้ใบหน้านั้นดูสวยและสง่ามากขึ้น ซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับชายชราซึ่งมีท่าทียำเกรง แสดงให้เห็นถึงความสูงศักดิ์ของนางได้เป็นอย่างดี
ชาเลอเทียเบิกตากว้างกับภาพตรงหน้า พยายามเปล่งเสียงที่ขาดหายไปอย่างยากลำบาก “ทะ...ท่าน”
“ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะพูดกับเจ้า ช่วยตามข้ามาหน่อย” กล่าวจบก็เดินลับหายไป
ชาเลอเทียหันไปมองเรรินที่คอยส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้ ก่อนจะผละเดินลับหายไปเช่นเดียวกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น