ความผิดหวัง กะ มีชีวิต ในวาเลนไทน์ - ความผิดหวัง กะ มีชีวิต ในวาเลนไทน์ นิยาย ความผิดหวัง กะ มีชีวิต ในวาเลนไทน์ : Dek-D.com - Writer

    ความผิดหวัง กะ มีชีวิต ในวาเลนไทน์

    ลองอ่านกันดูนะคะ ใครจะรุว่าวาเลนไทน์ที่มีแต่ความสุข ก้อยังมีคนทุกข์

    ผู้เข้าชมรวม

    355

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    355

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ก.ย. 49 / 16:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       “แนนๆ ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ....” จอย เพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย ขณะแนน

      กำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเอง “อืม...วาเลนไทน์อีกแล้วสินะ” แนน

      เงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลางยิ้มพูดเบาๆ วาเลนไทน์...14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่ว

      โลกบานพร้อมกัน วันที่ความรักงอกงามได้เร็วกว่าทุกวัน และเป็นวันที่กามเทพแผง

      ศร ให้หลายๆคู่ได้สมหวัง แต่คงไม่ใช่แนน...เธอคนนี้แน่นอน


      ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ความแออัดและตึกสูงในเมืองหลวง...มีหมู่บ้านจัดสรร

      เล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น ก่อตัวขึ้นพร้อมกับความรัก ความรักของเขาและเธอ “เธอๆ มา

      เล่นก่อกองทรายด้วยกันมั้ย” เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตามอมแมมกำลังนั่งเล่นบนกอง

      ทรายสูงท่วมหัว “เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ” เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน พลางกระโดด

      ลงมาจากกองทราย “ฉันชื่อแนน” เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆนั่งลง ทั้ง

      คู่ค่อยๆก่อกองทราย เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม เด็กผู้ชายค่อยๆ

      เอาเศษไม้เกลี่ยให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง จนได้เค้าโครงของ

      ปราสาททรายที่ต้องการ “เอ เดี๋ยวแนนประดับปราสาททรายเองนะ” เด็กผู้หญิงวิ่งมา

      พร้อมกับก้อนหินสีสวยในกำมือ วางลงข้างๆปราสาททรายที่กำลังจะอวดโฉมออก

      มาเป็นรูปเป็นร่าง “แนนๆ ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ ห้องของเจ้าหญิงงัย ส่วนตรงนี้

      เป็นห้องของเอ......อันนี้เป็นห้องประชุมนะ” เอพูดพลางชี้ไปเรื่อยๆบนปราสาท

      ทราย.....กองทรายแห่งความฝัน “เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วย เจ้าหญิงต้องมี

      สวนดอกไม้นะ” แนนพูดแย้งขึ้นพลางชี้ไปตรงด้านหน้าปราสาททราย “แนนอยากได้

      สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร” เอพูด เงยหน้าขึ้นมองหน้าแนนอย่างใจจดใจจ่อ
       
      “เอาดอกอะไรดี...เอ ช่วยแนนคิดหน่อยสิ” แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ เด็กตัว

      เล็กๆสองคนกำลังสวมบทเจ้าหญิงและเจ้าชายกันอยู่ “อืม...เจ้าหญิงต้องเหมาะกับ

      ดอกกุหลาบนะ” เอพูดพลางทำท่าคิด “ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ เราจะทำสวน

      ดอกกุหลาบที่ลานหน้าปราสาทของเรา” แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเกลี่ยทรายให้เรียบ

      เพื่อทำเป็นลาน....ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝันของพวกเขาอยู่นาน....นาน

      จนกระทั่ง “เอ ไปได้แล้ว พ่อเสร็จงานแล้วลูก” เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเดินมา

      สะกิดลูกชายตัวเองเบาๆ “พ่อๆ ให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะ” ลูกชายออดอ้อนพ่อ

      ของตัวเอง “หน่า ไปได้แล้ว เดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้นี่” พ่อของเขานั่งยองลง

      อธิบายให้ลูกชายฟังพลางลูบหัวเบาๆ “ตกลงครับ เดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ” เด็ก

      ผู้ชายตัวมอมแมมพูดพลางวิ่งกลับหลังไปหาเพื่อนของเขา “แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมา

      หานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอกกุหลาบมา มาทำสวนกุหลาบให้แนนนะ” เอพูดพลางชี้นิ้ว

      ลงตรงลานหน้าปราสาททราย “ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะ” แนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า



      เด็กสองคนเล่นกันช่างดูน่ารักเสียนี่กระไร ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาท

      ทรายด้วยกัน ก่อสร้างความหวังบนมิตรภาพและความรัก ระหว่างลูกชายเจ้าของ

      โครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่างใหญ่ “แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียน

      หนังสือด้วยแหละ” เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงยหน้าขึ้นมอง

      เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา “ไหนๆ แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร” แนนถามด้วย

      สีหน้าตื่นเต้น “แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว” เอพูดพลางทำเสียง

      เศร้าๆ เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้แนนดู “เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อย

      สิ” แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่เพิ่ง

      ผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่ ปรากฎเป็นตัวอักขระลายเส้นบิดพลิ้ว

      คำว่า รัก ปรากฎบนผืนทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ เด็กตัวเล็กๆสอง

      คนยืนมองด้วยความตื่นเต้น “อ่านว่าอะไร เอ” แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลก

      ใจ “อ่านว่า รัก” เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ “เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียน

      หน่อยสิ นะๆๆๆ” แนนพูดพลางเกาะแขนออดอ้อนเอ “มานี่ๆ เอจะสอน” เอพูดพลาง

      หยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้

      เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว “นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจังเลย” แนนพูดพลางหันหลัง

      กลับไปกอดเอด้วยความดีใจ “มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ” แนนยังคงสงสัยไม่หายใน

      ความหมายของมัน “เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ มาก

      จนอธิบายไม่ได้” ใช่สิ...ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ หรือแม้แต่

      คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร.... “สักวัน เราจะรู้ความ

      หมายมัน แม่เอบอก” เอพูดพลางหันไปมองแนน เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน

      “อืม สักวันนะ” แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่ สักวันแนนและเอคงรู้ความหมาย

      ของมัน......



      “โอ๊ย...เจ็บ” เด็กผู้หญิงผมเปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ เธอ

      โดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผมของเธอประจำ “ใครดึงผมเปียแนน” เด็กผู้ชายนั่งข้างๆ

      เธอหันขวับกลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกัน

      สามคนนั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่แนน “ทำไมๆ ข้าดึงเอง จะ

      ทำไม” หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “แกล้งผู้หญิง หน้าตัวเมีย” เอ

      ยืนขึ้นชี้หน้าด่า “แล้วจะทำไม” เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ ถีบโต๊ะเรียนกระจัด

      กระจายคนละทิศคนละทาง “ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น” แนนพูดพลางเกาะแขน

      เอไว้แน่น เอเอามือจับแขนแนนออกจากตัวทันที... ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป

      คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมา

      ป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อ โต๊ะเรียนที่กระจัดกระจาย ข้าวของทั้งของเอและแนนตก

      กระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง “หยุด!!” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง...มี

      อำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน “พวกเธอทำอะไรกัน

      อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ” ครูประจำชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้าม

      ทัพได้ แต่ก็ได้ปรากฎเลือดไหลซิบๆที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ “เอ เจ็บมั้ย” แนนวิ่ง

      เข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป “ไม่เจ็บหรอก” เอพูดพลางก้มหน้าหลบสาย

      ตาแนน “ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้”

      แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไป เลือดไหลเป็นทางลงมาจากคิ้วและ

      โหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ “โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ” เอพูดโพล่ง

      ขึ้นขณะที่แนนกำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออก “โอ๊ย แสบ”

      เอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกอฮอลงบนแผล

      ของเอ “แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา” แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเช็ดแผลบนใบ

      หน้าของเอช้าๆอย่างระมัดระวัง ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนน

      เสมอ แม้จะต้องเจ็บตัวหรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที....




      “แนนๆ แฮปวาเลนไทน์นะ” ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืนกุหลาบ

      แดงให้กับมือหญิงสาว “อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉันหน่า” แนนพูดกวนๆพลาง

      ยิ้ม เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความอาย “อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ ทำหวานให้เจ้าหญิง

      ของตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป” เอพูดพลางยิ้ม ทำไมหนุ่มวัยรุ่นเวลาอายนี่ดู

      ตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหนีหายไป

      แล้ว “หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ” แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูก

      เอด้วยความเขิน เอยังคงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่ “เอรักแนนนะ” เอพูดพลาง

      จับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ ตอนนี้แนนเริ่มหน้าแดงขึ้นบ้างแล้ว แต่ยัง

      พยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง “เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย” แนนพ

      ยายามบ่ายเบี่ยง ไม่เลิกแหย่เอ “เดี๋ยวสักวัน เอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ” เอ

      พูดประหม่า มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น....สักวัน

      เอจะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย.....



      ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว มีนักศึกษาจับ

      กลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ บ้างหยอกล้อกินขนมกัน... “เอ เย็นนี้แนนไปทำ

      วิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ” แนนพูดพลางเก็บหนังสือ “ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร” เอ

      เงยหน้าขึ้นมองแนนทันที “ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ” แนนพูดพลางเดินไปนั่ง

      ข้างๆเอ เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่ “ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ” เอพูดพลาง

      ยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา” แนนพูดพลางซบหน้าลงบน

      บ่าของเอ “นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย กลับถึงบ้านก็อย่าลืม

      โทรมาบอกด้วย” เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง “ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆ

      เลย” แนนพูดพลางยิ้ม เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน “กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง”

      ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย “ปวดหัวสุดๆ

      เจ้าชู้เป็นบ้าเลย” กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก “ทำไมไม่เลิกๆ

      ไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม” ฝนเสนอความเห็น มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง “หน่า....ให้

      โอกาสสักครั้ง” กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการ

      เอือมระอา “โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน” เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ “แล้ว

      แนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ” ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่

      ข้างๆ “โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน” แนนพูดยิ้ม

      พลางหันไปมองหน้าฝน “แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว เค้าก็เก่ง

      มากที่หลอกเธอมานานหลายปี” เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ

      “เอี๊ยยดดด.....” เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ คนทั้งรถหันไปมองแทบ

      จะพร้อมกัน รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง แรงอัดทำให้กระจก

      ทุกบานแตกละเอียด ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด....ร่าง

      ไร้สติของแนนยังคงสงบนิ่งติดอยู่ในรถเก๋งขนาดสองตอน มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณ

      เธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ

      “แนนๆ” เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา “อยู่ไหน....

      โอ๊ย เจ็บ” แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของ

      แนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ “ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน” .....สองเดือน

      สองเดือน แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง. ...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น

      ทั้งหมดให้แนนฟัง..... “แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย” แนนพยายามพูด เสียงพูด

      ของแนนแทบจะไม่ได้ยิน “อืม...” ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ “เอ ล่ะ เออยู่

      ไหน” แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน “เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้ว

      หายไปเลย” ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ “ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ย

      เพื่อน” ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน “อืม...” น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์

      ตาของแนน คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ

      เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้ง

      โลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบ

      ให้.....เสียดาย เสียดาย เสียดาย

      “คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ” บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน แนนยังคง

      ไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก “ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ” บุรุษ

      พยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช่เอ

      นะ....ทำไม ทำไม ทำไม “คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพ

      บำบัดกันเลยเหรอ” แนนถามด้วยความสงสัย “โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนาน

      นะครับ” บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ “จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือ

      ถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล เกรงว่ามันจะยาวไป” แนนพูดพลางยิ้ม “ผมชื่อ กอล์ฟ

      ครับ” บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ นับจากวันนั้น

      แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด ไม่

      นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด....


      “คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ” พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ ขณะเธอนั่ง

      รอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี “กอล์ฟๆ

      ไปกินข้าวกัน” แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้

      แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย “ไปสิครับ” กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลง

      ผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติ

      แนนมาก....มากจนน่าแปลกใจ ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับ

      พยาบาลมาก แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมา

      แทนที่เอ บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอก็

      ไม่ติดต่อมา บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ปรากฎตัว

      เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน ไหนล่ะ หัวใจที่เอ

      เคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน มันคงหายไปแล้ว....หายไปพร้อมกับเอ หายไปพร้อมกับ

      ผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้ ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม




      ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง

      ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู “แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ” เสียง

      กอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์ “ว่างค่ะ ทำไมค่ะ” แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “พอดี

      ผมมีของจะให้แนนนะครับ เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ”

      กอล์ฟเสนอความเห็น “ตกลงค่ะ” แนนพูดพลางกดวางสาย สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วย

      ความหวัง....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที

      วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก แม้ในลานที่สยามหรือที่

      วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า “เซนเตอร์พอยต์” ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน

      นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน “ขอโทษค่ะ มาสาย” แนน

      พูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง “ไม่เป็นอะไรครับ” กอล์ฟพูดพลางยิ้ม “อืม...ว่า

      แต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ” แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับ

      ได้ทันที “อันนี้ของแนนนะครับ” ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ

      วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล “หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ” แนนพูด

      ติดตลกพลางยิ้ม เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด “ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนน

      หรอก” กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง “อ้าว...แล้วกุหลาบสีแดงนี่...” ไม่

      ทันแนนจะพูดจบ กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที “ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ

      เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน” ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลง

      กลางศีรษะ แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร??? “หัวใจของ

      คุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้” กอล์ฟพูดต่อ....แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมาย

      แม้แต่นิดเดียว “ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล คุณเสียเลือดมาก...

      หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด”

      กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้ “มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอก

      ว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้น

      ไม่ว่าทางเราจะขออะไร เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจ

      มาก” กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ “ผมยอมแลกทุกอย่าง

      กับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ” กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่

      แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่ “เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือด

      ไม่พอให้คุณ เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล แต่กลับไม่พบว่ามี

      เลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ” กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย

      “สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี เขาบอกให้ทางเราเอาไป

      เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ” กอล์ฟ

      หยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ “ต่อ

      มา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ จนหมอต้องเดินออก

      ไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ” กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆ

      ด้วยน้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ “เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร.....” ใช่

      เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร “เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การ

      สูบฉีดล้มเหลว เราหาเลือดให้เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ”

      หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที “ตกลง ผมหา

      ให้ – เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย” ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน ทั้งๆที่รู้

      ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ “คุณรู้มั้ย ว่าคำ

      พูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้ เขา

      จะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้” กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....

      ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว “เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....

      เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรง

      พยาบาล มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม “นานา” คุณดูดีๆ คำว่า แนน และ

      เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ “นานา” นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา – เขาอยาก

      ให้ตัวเขาเองเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง”

      เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา...เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่โรง

      พยาบาล แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติ

      และดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่

      บาทเดียว “ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล เขาก็ยิงตัวตายใน

      ห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ - เขามอบหัวใจของเขาให้

      คุณ” ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ โต๊ะรอบ

      ข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว....เอคือเจ้าของหัวใจ หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน

      “เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ” กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอเคยฝากไว้

      กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย..... “ผมคง

      ไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ” ใช่ หัวใจเอ

      เป็นของแนน เป็นของแนนจริงๆ...ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไป

      พร้อมกับเอ ตายไปพร้อมกับผู้ชายที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ “กุหลาบดอกนี้ เขาบอก

      ผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก

      ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา” กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา

      นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป....ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง “เอรักแนนนะ” “เอรัก

      แนนนะ” “เอรักแนนนะ” คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป เป็นคำพูดเดียวกันที่พูด

      กันซ้ำโดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป.....เทป 120 นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ แนน

      ค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน....จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว “หัวใจเอ...

      เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว”



      **************************************************************

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×