ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฺfic shinee fx snsd ]฿eLIvE mE เชื่อสิรักครั้งนี้ยังไม่จบ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่-1#ยินดีที่ได้รู้จัก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 56



    บทที่ 1

     



     

    1

     

               "นี่องค์ชายคะรอด้วยคะ!!"เสียงหญิงสาวที่มีอายุตะโกนเรียกเด็กน้อยที่วิ่งอยู่ข้างหน้าตน
               "แม่นมไม่ต้องตามมาหรอกฮะผมเล่นอยู่ในสวนของเสด็จแม่เองฮะ"เด็กตัวน้อยก็ตะโกนเสียงใสๆกลับไป พร้อมกับวิ่งเข้าแอบอยู่หลังพุ่มไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนของแม่ของตน เพื่อไม่ให้แม่นมของตนเห็น 
               
               "องค์ชาย!!"แม่นมที่วิ่งตามมาด้วยความเหนื่อยหอบ ใช้พลังเฮือกสุดท้ายในการตะโกนเรียกเด็กชายตัวน้อยแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะ ณ ตอนนี้เด็กชายตัวน้อยได้ไปหลบแล้ว"อย่าให้นมเจอนะเพคะไม่งั้นองค์ชายเจอดีแน่เพคะ"สุดท้ายหญิงสาวก็ได้แต่ยืนนิ่งๆแล้วตะโกออกมา หล่อนมองซ้าย-ขวา เพื่อหาอะไรบางอย่างและก็ต้องสะดุดสายตากับใครบางคน
               
                "นาย!!นายทหารคนนั้นนะ!"
                "ครับ!"คนที่ได้ชื่อเรียกว่าทหารหันมาตอบรับเสียงหนักแน่นเต็มไปด้วยพลัง
                "โปรดช่วยไปกันตามหาองค์ชายด้วย ข้าไม่รู้ว่าพระองค์นั้นไปแอบอยู่ ณ ส่วนใดในสวนขององค์ราชินี"
                "ครับ"
                "ขอบใจพวกเจ้ามาก"
                เมื่อจบการสนทนาเหล่าทหารประมาณสิบคนเดินเป็นขบวนเข้าไปในสวนเพื่อตามหาองค์ชายที่แอบอยู่ในสวน....
    อีกด้านหนึ่ง


              "เอาไงดี..."องค์ชายน้อยกระซิบกับตนเองอย่างเบาๆ พร้อมทั้งมองตามเหล่าทหารนับสิบนายที่เดินเข้ามาในสวนอย่างไม่ละสายตา 
    ขณะนั้นเอง 
             "นี่นายทำอะไรอยู่อะ!?"
             "เฮือก!"

    Sulli part
    설리

              "นี่นายทำอะไรอยู่อะ!?"ฉันถามด้วยความสงสัย
              "เฮือก!"
              "นายไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย ฉันแค่สงใสนะ?"
              "เธอเป็นใครแล้วเข้ามาในนี้ได้งะ..!"
              "ชู่วววว..."พร้อเอามือของตัวเองปิดปากคนตรงหน้าให้เงียบลง"เบาๆหน่อยจิ เดียวเขาจับได้นะ"
              "อืม"เขายอมเบาเสีงลงแล้ว อ่ะ!ถ้าอยากรู้ว่าฉันเป็นใครหรือว่าฉันเข้ามาได้ไง ค่อยคุยและกันเน่อะ
              "นายมาหลบอะไรตรงนี้หะ.."
              "เธอนั้นแหละเป็นใครเข้ามาในวังได้ไง!"เขาหันหน้ามาทำตาโตใสพร้อมกับพ่นคำถามคำถามหนึ่งใส่ฉัน...แต่ดูๆแล้วเหมือนจะเป็นสองคำถามนะที่ถามว่าฉันเป็นใคร กับเข้ามาในวังได้ไง"ตอบมาเร็วสิ อยากให้ฉันเรียกทหารหรอ"
              "อ่ะ! อย่าเรียกนะ.."
              "งั้นตอบมาสิว่าเป็นใครแล้วเข้ามาได้ไง"(-_-)ใจร้อนจังพ่อหนุ่ม(น้อย)
              "เออๆ ฉันไม่ขอตอบว่าฉันเป็นใคร แต่จะขอตอบว่าขะ.."
              "เร็วๆสิ!" (-_-)เดียวตบเปรี้ยงเลย
              "เดินหลงมานะ จบมะ"อันเหตุมาจากขี้เกียจอธิบายจึงตอบแค่นี้ บวกกับหมันไส้
              "อุ๊บบะ คนบ้าเดินทะรุกำแพงได้ อย่ามาโกหกหน่อยน่า"ท่าพ่อคุณจะอุทานได้...ขนาดนี้
              "หยุดสงสัยฉันสักทีเถอะแล้วไปเล่นกัน"ฉันถามเขาด้วยความหวังดีใครจะไปคิดหล่ะว่าคน(?)อย่างฉันจะไม่มีเพื่อน แต่ที่จริงก็สมควรแล้วแหละเพราะนิสัยกวนๆที่ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิง...
              "ยังเคลียไม่จบเลยนะ.."ไม่รอช้าฉันก็ตัดบทความสงสัยของเขาออกไปเพราะไม่งั้นเรื่องมันไม่จบแน่
           
              "นายอายุเท่าไร?"
              "นี่ทะ..เ"
              "หึม! อายุเท่าไร"
              "13"
              "โอเคเราเป็นเพื่อนกันได้ งั้น..ฉันไม่จำเป็นต้องใช้คำราชาศัพท์กับนายนะ"
              "ยะ..ยั"
              "จุ๊ๆ พูดหยาบคายไม่ได้นะ ^_^"
              "ฮึย!"ฮ่าๆแกล้งคนอื่นเป็นอะไรที่สนุกที่สุดแล้วแหละ
              "ตามมาสิ"
               

    นิ่ง!!<<<<เขายืนตัวตรงและแข็งถื่อไปทั้งตัว
               

               " o_O นายฟังไม่ออกหรอ หรือว่าเหน็บกินตัว"
               "ยัยบ้า!"
               "งั้นมานี่"ฉันคว้าเข้าไปทีข้อมือด้านขวาแล้วพยายามหลบเหล่าทหารในราชวังออกไปทางประตูด้านหลัง มันค่อนข้างยากหน่อยเนื่องจากด้านหน้าของสวนเป็นลานกว้างที่มีพุ่มไม่ใหญ่เป็นแค่กระจุกๆ เท่านั้นแล้วที่เมื่อกี้หลบอยู่คือพุ่มไม้หน้าซุ้มประตู วิธีที่ดีที่สุดในการหลบก็คือการหลบที่กระจุกของพุ่มไม่ใหญ่ที่อยู่เรียบรั้วไปเรื่อยๆนั้นเอง
               

               "ถึงแล้ว~"
               "หะ ถึง? ถึงที่ไหน?"
               "ถึงทางที่จะต้องหลบนะ"
               "?"
               "ไม่ต้องเข้าใจหรอก -_- ตามมาก็พอ"ฉันเดินไปด้าหลังรั้วต้นไม้สีเขียวทึบทีอยู่ซ้อนทับกับรั้วของวังอีกที  ต้องเคาะพื้นสักสองสามที
             

               ปึ๊กๆๆ
             
               แอ๊ด~~
             
              o_O<<<<สีหน้าพ่อหนุ่ม(น้อย)
               ม่ามางจะตกใจไม่ใช้เล่นเลยนะเนี่ย
               "ตกลงแล้วเธอเป็นใครกะ.."
               "ชู่ว~ ตามมาเร็ว"

           End Sulli Part

                 ทั้งสองเดินเข้ามาภายในทางเดินใต้ดิน ที่ด้านบนของทางเดินนี้เต็มไปด้วยหิมะและอากาศทค่เย็นจัด  แต่ในทางเดินนี้กลับอุ่นมากจนเด็กชายตัวน้อยแทบไม่อยากจะเชื่อ สภาพทางเดินที่เก่าทรุดโทรมอิฐสีเทาหมองมีหยากไย้ติด

             

      พรึบ!
             

               'ไฟติด' เด็กหนุ่ม(น้อย)ทำตาโตพร้อมกับหันไปทางเด็กสาว
               "มองอะไร"เธอหันมาถาม แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
               

    กึก..กึก..กึก
             

      เสียงฝีเท้าของคนตัวเล็กทั้วสองคนที่เดินจ้ำอ้าวอย่างสม่ำเสมอในตามทางเดินใต้ดิน  มือของทั้งสองคนประกบกันและจับกันแน่น 
               'เป็นเพราะอะไรกันยัยนั่นถึงจับมือเราซะแน่นขนาดนี้ หรือเพราะกลัว...คงจะไม่ใช่มั้ง..'เด็กหนุ่ม(น้อย)วัย 13(ขวบ)นึกขึ้นใน ใจ ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกันไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแต่กลับจับไม้จับมือกับคนที่รู้จักกันมานานแล้ว 'บ้าบิ่นชมัด'
             

               ตึง!!!
             
     "นายทำอะไรนะ"เด็กสาวหันไปมองทางต้นเสียงด้านหลัง
               "ป่าวนะ"เด็กหนุ่ม(น้อย)ปฎิเศษทันทีทีถูกถาม
               "งั้นต้นเสียงมาจากไหนหล่ะ ฉันได้ยินเสียงจากด้านหลังนะ-*-"เด็นสาวหันมาคิ้วขมวด
               "จะไปรู้ไหมหล่ะ"เด็กน้อยทำคิ้วขมวด
               "งั้น...."
               "?"

             

      ตุบๆๆๆๆ
             

     "แฮกๆ/แฮกๆ"ร่างของเด็กจ้อยทั้งสองคนวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเมื่อมาถึงสุดทางทั้งสองก็หยุดอยู่หน้าบันได
               "เธอวิ่งหะ..แฮก..หนีอะระ..แฮก..ไรมาเนี่ย.แฮก"ร่างของหนุ่มน้อยหยุดนั่งกองอยู่กับพื้น แล้วโพลงถามขึ้นด้วยความตกใจ
               "ก็..แฮก..วิ่ง..แฮก..ตามนะ..แฮก..นายไง"ร่างของเด็กน้อยอีกคนตอบพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าทั้งสองวิ่งหนีความกลัวชนิดใดมา
             

               เวลาผ่านไปไม่นานเกินรอ
             

               ทั้งสองคนลุกขึ้นยืนพร้อมกันเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างกำแพงเห็นอะไรบางอย่าที่ติดอยู่ข้างกำแพงจึงกดด้วยความสงสัย
               คลิ๊ก!
             

     "ยัยบ้า! อย่ากดอะไรมั่วซั่วดิ!"เด็กหนุ่ม(น้อย)บอกพร้อมกับทำหน้าแบ้ใส่
                       "-*-เรื่องของฉันสิ"
               
               ครืด!!
             
               ประตูทางออกของอุโมงค่อยๆเลื่อนไปเรื่อยๆ
             
               ตึง!
             
               เด็กสาวหันมาให้คนข้างๆ เธอคว้ามือเขาไปจับแล้วยักคิ้วใส่
               'ฝากไว้ก่อนเถอะ'เด็กหนุ่ม(น้อย)คิดในใจ


                     ประตู

     

    นี่เป็นคำแรกที่เด็กหนุ่ม(น้อย)เมื่อขึ้นมาถึง ประตูกว้างที่อยู่หลังรั้วกำแพงต้นไม้ เป้นกำแพงเก่าๆที่สลักลวดลายชวนให้น่าหลงไหล  เถาวัลย์ที่พันขดเคี้ยวอยู่บนกำแพงค่อยเลื้อยออกอย่างช้าๆ

    เลื้อนออกอย่างช้าๆ

    เด็กหนุ่ม(น้อย)หันไปมองคนข้างๆที่ ณ ตอนนี้ มือหนึ่งยังคงกำมือของเขาอย่างแน่น ส่วนอีกมือหนึ่งไปแตะที่บานประตู นั้นเป็นสาเหตุว่าทำไมเด็กน้อยถึงอึ้งนัก

    ยัยนี่เป็นตัวอะไรกันแน่...ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ

    มองทำไม?”เด็กสาวหันมาถาม

    เปล่า...พร้อมกับตีหน้านิ่ง

    แล้วไป...

     

    แอ๊ดดดดด

     

    บานประตูค่อยๆเลื่อนออกไปด้านนอกทิวทัศที่เป็นน้ำแข็งหางจากบานประตูแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นก็เป็นแสงแดดที่อบอุ่น  มันทำให้เด็กหนุ่มตัวน้อยถึงกับยิ้มกว้าง และน้ำตาค่อยไหลลงมา

    เป็นอะไรไปหน่ะ?”เด็กสาวถามเมื่อหันไปเห็นเพื่อนที่พึ่งรู้จักร้องไห้

    ป่าว..ไม่ได้เป็นอะไรเด็กหนุ่มตัวน้อยพยามกลั้นความดีใจไม่ให้คนข้างๆของเขาเห็น

    งั้นตามมานี่ไม่รอช้าพร้อมกับคว้ามือเพื่อน(ไม่)สนิทมาด้วย

     

    ~아무 말도 없이  감싸준  모습을 이젠
                         อา มู มัล โด ออบ ชี นัล คัม ซา จุน เน โม ซือ บึล รี เจน
                           ไม่มีคำพูดอะไรแต่ท่าทางที่คุณปกป้องผม ตอนนี้

    내가 거울처럼 비추려 
                        เน กา กอ อุล ชอ รอม พี ชู รยอ เฮ
                      ผมจะสะท้อนกลับไปให้คุณเหมือนกับกระจก~

     

    แม่น้ำสายเล็กๆ ที่มีสีฟ้าใสสะท้อนภาพของท้องฟ้าด้านบน ปลาตังน้อยที่กำลังแหวกว่านอยู่ในแม่น้ำ แต่เมือมองลงไป จะเหมือนกับว่ามันกำลับบินอยู่บนท้องฟ้า   บรรดาต้นไม้ใบหณ้าสีเขียวขจีกำลังเต้นตามบทเพลงแห่งสายลม ดอกไม่หลาสีที่ขึ้นเป็นหย่อมๆ ตามโคนต้นไม้บ้าง ข้างทางเดินบ้าง มันทำให้มองดูแล้วเป็นภาพที่หน้าหลงใหลมากๆ.เลย....หล่ะ

               เริ่มจากเสียงนกร้อง ต้นไม้ปริวพริ้วไสว ทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม่หลากสีส่งกลิ่นหอม เด็กน้อยสองคนถอดเสื้อครุมกันหนาวออก เพื่อพร้อมที่จะรับสายลมเย็นๆบนภูเขาแห่งนี้

    นี่นายวิ่งมาทางนี้สิ!”เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนเรียก

    อะ...อืม!”ตอบรับด้วยความไม่เด็มใจ  แต่สุดท้ายก็ต้องเดินมา

     

     

    เริ่มจากเสียงนกร้อง ต้นไม้ปริวพริ้วไสว ทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ดอกไม่หลากสีส่งกลิ่นหอม เด็กน้อยสองคนถอดเสื้อครุมกันหนาวออก เพื่อพร้อมที่จะรับสายลมเย็นๆบนภูเขาแห่งนี้ มันทำให้บรรยากาศในที่แห่งนี้ดูดีขึ้น

    นี่นายวิ่งมาทางนี้สิ!”เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนเรียก

    อะ...อืม!”ตอบรับด้วยความไม่เด็มใจ  แต่สุดท้ายก็ต้องเดินมา

     

     

                    아침 햇살이 그대와 같아요 조금 유치하겠죠 그래도 이런 좋은  
                                      อา-ชิม แฮซ-ซัน-ริ คือ-แด-วา กัด-ทา-โย ชู-กึม ยู-จิ-ฮา-เก็ท-จโย คือ-แร-โด นัน นิ-รอน เก ชด-ดึน กอล 
                                        คุณเปรียบดั่งแสงอาทิตย์ในยามเช้า อาจจะดูเหมือนเด็กไปบ้าง แต่ฉันกลับชอบมัน 

                      나를 깨워준 그대 옆에 라면 바랄게 없겠죠 이렇게 그댈 보고 싶은  
                                         นา-รึล แก-วอ-ชุน คือ-แด ยอพ-เพ รา-มยอน ทอ บา-รัล-เก อ็อบ-เก็ซ-จโย อิ-ร็อด-เค คือ-แดน โพ-โก ชิพ-พึน กอล 
                                                         ถ้ามีคุณอยู่ข้างๆยามที่ตัวฉันตื่นขึ้นมา ฉันไม่หวังสิ่งใดอีกแล้ว ฉันอยากมองคุณอยู่แบบนี้ 

     

     

    สายลมเย็นที่พัดผ่าน เนินเขาที่เดือบจะสูง ทุ่งหญ้าสีเขียงขจี ดอกไม่หลากสีสัน แม่น้ำสีใส ท้องฟ้าโปล่ง สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่เดินเล่นอยู่ในถิ่นของมัน เด็กน้อยทั้งสองคนที่วิ่นเล่นกันจนเหนื่อยในที่สุด..ก็นอนหอบ  อยู่ใจกลางทุ่งหญ้าเสียแล้ว

    แฮกๆ..ยัยบ้าแกล้งฉันทำไมเล่า..แฮกๆ...ฉันจะไปฟ้องเสด็จพ่อเด็กตัวน้อยตะโกนขึ้น

    แฮกๆ...แบร่งั้นนายก็เป็นตุ๊ดดิ...แฮกๆ...ขี้ฟ้องฉะมัดเลยไม่วายที่อีกคนจะต้องตะโกนกลับ

    ชิ...

     

    และแล้วทั้งสองคนก็เงียบไป

     

    เวลาก็เริ่มเดินไปเรื่อยๆ

     

    เด็กสาวลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปหาคนข้างๆที่นอนหอบอยู่

    นายชื่ออะไรเด็กสาวถามขึ้นเพื่อขจัดความเงียบ

    อยากรู้ไปทำไม-*-“เด็กชายตัวน้อยถามกลับเพราะเขากับเธอคงจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีกันหรอก ...เขาคิดอย่างนั้น

    หน่า...ฉันอยากมีเพื่อน..มั่ง..หนิเธอพูดขึ้นมาด้วยความน้อยใจ...

    แทมินเด็กน้อยพูดด้วยเสียงที่เบา..บาง

    นายพูดว่าอะไรนะ?

    แทมิน..ฉันชื่อแทมิน-///-”เด็กน้อยตอบด้วยเสียงหนักแน่นแต่ก็แสดงสีหน้าเขินอายออกมา

    “0_o”เด็กหญิงทำหน้าตกใจ

    ตะ..ตะ...ตกใจอะไรเล่าก็แค่ชื่อเด็กหนุ่มตัวน้อยพูดแก้เขิน แต่ก็ไม่สามารถหยุดอาการของตัวเองได้

     

    ฮ่าๆเรามาเป็นเพื่อนกันนะ

    อืม!!ตกลง

    ฉันซอลลี่ ^^ยินดีที่ได้รู้จักเด็กสาวยื่นมือมาข้างหน้า

    ...

    เฮ้!ฉันคุยกับนายอยู่นะ

    ...

    นาย!!!”

    ...ไร้เสียงตอยรับใดๆทั้งสิ้นของเพื่อนใหม่

    หลับหรอเด็กสาวโชงกหน้าไปหาคนตรงหน้า  ใบหน้าสวยเรียว จมูกที่โด่งเป็นสัน ริมฝีปากส้มหน่อยๆ ทุกอย่าง..ดูดีมาก...เลยที่เดียว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เด็กสาวตรงหน้าจะสนใจแล้ว เมื่อเพื่อนใหม่ของเธอได้หลับลงไปแล้ว

    เฮ้อ~~อะไรจะหลับเร็วได้ขนาดนั้น

     

    ฟุบ

     

    สุดท้ายแล้วเธอก็ล้มตัวลงไปนอนบทพื้นหญ้าด้วยเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อหล่ะมั้งที่ทำให้ทั้งสองคนตกอยู่ในห้วงนิทรา

                   

    ถ้าเรารองย้ายไปอีกภพนึงจุดเล็กในสังคมของภพที่เรียกว่า "โลก"
    สิ่งที่"มนุษย์"เรียกว่า"ลูก"นั้นได้กำเนิดขึ้นมาเกือบจะทุกวันแต่แค่คนละที่เท่านั้นเอง  อย่างวันนี้ วันที่มีเด็กมนุษย์เกิดขึ้นอีก'คน'
                  "ที่รักลูกของเราเป็นผู้หญิงหล่ะ...ดีใจไหม"
                   "..."
                  "พ่อดีใจมากเลยนะ..หน้าตาน่ารัก..เหมือน..ฮึก..ที่รัก..ฮึก...เลย...ฮือๆ"
                  สิ้นเสียงของคนที่ขึ้นชื่อตัวเองว่า"พ่อ"ก็มีแต่เสียงร้องไห้มาเห็นระยะไม่ขาดสาย ร่างสูงคุกเข่าลงข้างคนรักของเขา ผ้าขาวมี่คลุมตัวของคนข้างหน้าของเขามิด ห้องที่เย็นเฉียบไร้ซึ่งเสียงอื่นใดนอกจากเสียงร้องไห้ มัน...ทำให้หน้าสลดใจ  การสูญเสีย สิ่งที่เขาแทบจะไม่เคยมีในชีวิตทีเขาใช้มา แต่ตอนนี้สิ่งที่เรียกว่า การสูญเสียมันใหญ่โตมาก...มากเกินกว่าที่เขาจะรับได้
                  สิ่งใมี่อยู่ในใจเขาก็คือการ เลี้ยงดูอีกชีวิตหนึ่งให้ดีที่สุดเพื่อจะต้องไม่เกิดการสูญเสียแบบนี้อีก

    "พ่อจะใช้ชื่อ..คริสตัล...นะแม่ชื่อที่แม่ชอบไง..."
             
              오 그대 맘에 닿고 싶은 말하지 못해 시린 구름 뒤에 가린 별빛들처럼
              โอ คือ-แด มัม-เอ ทา-โก ชิพ-อึน มัล-ฮา-จี มท-แฮ ชี-ริน คู-รึม ทวี-เอ คา-ริท พยอล-พิช-ดึล-ชอ- รอม           ฉันไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าอยากสัมผัสหัวใจคุณราวกับดวงดาวส่องสว่างที่ถูกบดบังหลังก้อนเมฆที่หนาวเย็น
             
              사랑해 입술 끝에 맴돌던 아픈 고백 모두 끝내 눈물에 흘러
              ซา-รัง-แฮ อิบ-ซึล กึท-เอ แมม-ดึล-ดอน อา-พึนโค-แบค โม-ดู กึท-แน นุน-มุล-เอ ฮึล-รอ
              ฉันรักคุณ ในตอนสุดท้าย มันเป็นการสารภาพที่แสนเจ็บปวดมันออกมาจากริมฝีปากคุณพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลริน
             
             심장에 닿은 화살은 이젠 같겠죠
              ชิม-จัง-เอ ทา-ฮึน อี ฮวา-ซา-รึน อี-เจน แน มม คัด-เกท-จโย
              ลูกศรดอกนี้มันปักอยู่กลางหัวใจฉัน
             
              죽을 만큼 너무 아파도 맘에 박힌 그대를 꺼낼 없네요
              ชุค-อึล มัน-คึม นอ-มู อา-พา-โด แน มัม-เอ พัค-ฮินคือ-แด-รึล กอ-แนล ซู ออบ-เน-โย
             ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายตอนนี้ ถึงมันจะเจ็บเจียนตายก็ไม่สามารถดึงเอาเธอ คนที่ติดอยู่ในหัวใจฉันออกไปได้
             
              사랑이라서 사랑이라서
              ซา-รัง-อี-รา-ซอ นาน ซา-รัง-อี-รา-ซอ
              เพราะมันเป็นความรัก สำหรับฉันมันเป็นความรัก

     

     

    กลับมากับภพเดิมของเรากันต่อ ตอนนี้แค่เปลี่ยนสถานที……

    “ท่านหญิงเพคะจะทำยังไงดีเพคะ!!

    “ไม่งั้นองค์รัชทายาทจะตกอยู่ในอัตรายนะเพคะ”

    เสียงแห่งความวุ่นวายดังกึ่งก้องไปทั่วทั้งราชวัง เนื่อจากบางสิ่งกำลังจะเริ่มขึ้น

    “จะทำยังไงดีคะท่านหญิง”

    “นั้นสิเพคะพวกเราควรจะทำอย่างไรดี”

    !#@%&^@!&*^*(!^$@!$”

    “$$##@!$*&(&(%#!@#$^^&*^$#^(*”

    เสียงการวิภาควิจารและการตั้งคำถามเกินขึ้นมากเรื่อยและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไปได้

    “พอสักทีพวกเจ้าจะเงียบและให้เวลาข้าคิดบ้างไหม!!!”คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหญิงตวาดขึ้น อ๊ะ จะเรียกว่าคนก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่าปีศาจถึงจะถูก

     

    เงียบ

     

    ทุกคนในห้องโถงใหญ่หยุดการสนทนาทั้งหมดเมื่อผู้เป็นนายหญิงของตนตวาดใส่

    “เงียบได้สักที”

     

    เวลาผ่านไปแล้วไปเล่า ณ ตอนนี้ไม่มีใครเปิดปากพูดเลยสักคำเดียว แม่เต่ท่านหญิงที่ทุกคนเคารพ

    “เราจะสงตัวรัชทายาทไปเมือง NighT และอย่าให้ฝ่ายศัตรูรู้เด็ดขาด!"

                 สินเสียงการป่าวประกาศ ทุกคนก็รีบทำตามคำสั่งทันที
                 "ที่แม่ทำไปเพราะแม่หวังดีกับลูกนะ...มินโฮ...องรัชทายาท...แห่ง... KniGhT"

              Uh! 그저 편한 사람일 , Uh!
               คือ จอ นาน พยอ นาน ซา รา มิล ปุน 
               ฉันเคยเป็นได้แค่คนที่ให้ความอบอุ่นกับเธอ 
               Uh! 그저 스쳐간 사랑일 Uh! 
               คือ จอ ซือ ชยอ กาน ซา รา งิล ปุน 
               เป็นคนที่ ไม่มีอะไรให้เธอนอกจากความรัก

                -ENd-

    Sulli PArt

    ณ ช่วงเวลาหนึ่ง 
    เวลาที่ผ่านไป 
    4 ปีแล้วสินะที่เราเป็นเพื่อนกันอย่างงงๆ...นึกแล้วมันน่าขำเนอะ
    "เฮ้แทมนายทำแะไรอยู่นะ!!"ฉันตะโกนเรียกแทมินที่นั่งอยู่ริมน้ำ
    "เปล่า~"พร้อมกับหันมาทำหน้ายิ้มกวนนิดๆใส่ฉัน
    "-*-"ฉันเดินขมวดคิ้วด้วยความตื้นตันกับคำตอบของเขา พร้อมกับเดินไปหาที่นั่งข้างๆเขา
    "มีอะไร..หรอ"แทมถามฉันกลับ
    "เปล่า~"ฉันหันหน้ากลับมากวนใส่ตอบ  ใครใช้ให้มากวนหล่ะ
    "-_-;'

    ฟุบ!!

    จู่ๆแทมินก็โน้มตัวลงมานอนบนตักฉัน ทันทีที่ฉันนั่งลง
    "ง่วง"จู่ๆก็พูดขึ้น
    "...ก็..ไม่ได้ว่าอะไรนิ"ฉันกวนไป
    "..."แต่แทมินเงียบ  
    นอนแล้วหรอ หลับง่ายเหมือนเมื่อก่อนเลย เฮ้อ...คิดถึงเมื่อก่อนจัง

    ตุ๋ม!  ตุ๋ม!

    ฉันปล่อยให้เวลาผ่านไป มือไม้ทีเล่นผมของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันชอบทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหรแต่...มันก็มีความสุขดีนะ มันคงแปลกๆใช่ไหมหล่ะที่ทำแบบนี้...   ดวงตากลมโตที่ตอนนี้ได้ปิดลง จมูกเป็นสันโด่ง ปากอวบอิ่มสีเกือบแดง เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงอิจฉามากเลยจริงๆ 
                    "อืม~"
                    "o_O"ฉันรีบชักมือที่กำลังคลำใบหน้าของแทมินออก แค่ครางหรอเนี่ยนึกว่าจะตื่นสะอีก
                    "ซอล..."
                    "!!!"
                    "ขอโทษ..."
                    "!!!!!"
                   ช็อค
                   เขาขอโทษฉันเรื่องอะไร? นายทำอะไรผิด? ฉันงงนะ

    ซวบ!!

    จู่ๆแทมินก็เอาแขนมากอดเอวฉัน ฉันสะดุ้งตกใจก่อนที่จะกระเทิบหนีแต่ก็ไปได้ไม่ไกลหรอ เพราะแทมินที่กอดฉันไว้ เลยทำให้สะดุ้งได้ไม่ไกลนัก
                     "-_-;"เฮ้อ...ยังงี้ทุกทีเลยชอบทำให้คนอืนมีความหวัง...แต่ยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ต่อไปก็แล้วกัน...

    ENd SUlli part

    โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่มองลงมาจากหน้าผา สายตาคมกริบนัยตาสีแดงสดจับจ้องอยู่

    “หึ...เจอตัวแล้ว”

     

     

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อันยองคะนักอ่านที่น่ารักของไรเตอร์ทุกคน วันนี้ตามที่สัญญานะคะ ส่วนพรุ่งนี้ตองรอไรเตอร์อีกคนนึงคะ *ไรเตอร์อีกคนนึงทำหน้าที่เขียนพล็อดแต่ละตอนและกำหนดตัวละครนะคะ /ไม่รู้ว่าเธอจะเอาใครวงไหนมาบ้าง/ ส่วนไรเตอร์คนนี้เขียนพรรณนาคะ* จะพยายามเขียนให้จบตอนไม่เกิน 2-3 วันนะคะ   
    ป.ล.ถ้ามีคำไหนผิดพลาดก็เม้ตบอกได้นะคะ ไรเตอร์จะมาแก้ให้คะ เพราะไรเตอร์อ่านทุกเม้น
    บายคะ



    อย่าลืมเม้นนะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×