ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Luffy & Nami] สุดขอบของปลายฟ้าคือความฝัน '

    ลำดับตอนที่ #42 : [ตอนที่39] :: เริ่มเปิดศึก! วินาทีแห่งพลังมหาศาล การช่วยเหลือนั้นสำเร็จหรือ...?

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 929
      23
      8 ธ.ค. 56

    ตอนที่39

    เริ่มเปิดศึก! วินาทีแห่งพลังมหาศาล การช่วยเหลือนั้นสำเร็จหรือ...?

    หมับ!! ปึง!!!

    อั่ก!” เจ้านั่นร้องออกมาเล็กน้อยก่อนจะดิ้นไปดิ้นมาอยู่ในมือของลูฟี่

    เมื่อลองสังเกตดูแล้ว... ลำตัวที่มีแต่ขนสีดำและลำคอที่เป็นขนอ่อนๆ สีแดง จะงอยปากสีดำเอ่ยเสียงร้องทรมาน... ไม่ผิดแน่ๆ...

    จับตัวได้แล้วนะ เจส์ตะ!!” ลูฟี่

    อั่กๆๆๆ!!!”

    ร่างสีดำครึ่งคนครึ่งนกดิ้นไปมาอย่างทุรนทุรายในมือของลูฟี่ รูปร่างของสิ่งนั้นน่ากลัวเกินจะบรรยายได้ ขนนกที่ติดอยู่กับลำแขนที่หนังหุ้มกระดูกค่อยๆ หลุดออกมาเพราะแรงดิ้นของเจ้าของ

    แกคือเจส์ตะใช่มั้ย!” ลูฟี่พูดพร้อมชูหมัดขึ้นเหนือหัวของเขา

    ชะ... ใช่... แฮ่ก...เจส์ตะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังหายใจไม่ออก กลิ่นของซากศพนั้นลอยมาตามตัวของเขาซะจนฉันต้องปิดจมูก

    กลิ่นของศพ...อุซปพูดพร้อมกับเอามือปิดจมูกบ้าง

    ไม่คิดว่าจะจับง่ายแบบนี้นะเนี่ยครับ เป็นคนที่อ่อนแอกว่าที่คิดซะอีกบรู๊ค

    แกว่าใครอ่อนแอนะ!” เจส์ตะขึ้นส่งเสียงดังซะจนทำให้บรู๊คคุงนั้นตกใจรีบกระโดดไปหลบข้างหลังของอุซป

    บอกที่อยู่ของชาเดอรีนมาซะ! เจส์ตะ!!” ลูฟี่พูดพร้อมกดข้อมือไปที่ลำคอของเจส์ตะให้แรงขึ้นอีก แขนสีดำข้างนั้นของลูฟี่แสดงให้เห็นว่าเขากำลังใช้ฮาคิ

    เฮ... เรามาตกลงกันก่อนมั้ย?... แค่กๆ... ฉันมี... ข้อตกลงดีๆ นะเจส์ตะพูดพร้อมฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขายื่นมือมาตรงหน้าของลูฟี่เหมือนพยายามจะทำสัญญา

    ข้อตกลงอะไร?ลูฟี่

    อย่าไปฟังมันนะลูฟี่!” ฉันพูดเตือนลูฟี่ไว้ก่อนที่เขาจะตกลงอะไรบ้าๆ ไปอีก

    นั่น... แมวขโมย นามิสินะ~เจส์ตะพูดพร้อมหันหน้ามาฉีกยิ้มให้กับฉัน มือที่มีเศษขนสีดำนั้นค่อยๆ ขยับโบกมือทักทายฉันอย่างช้าๆ

    “...” ฉันนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ทำได้เพียงแต่มองหน้ากับการกระทำของเขาทุกฝีก้าวเท่านั้น

    ไม่คิดจะทักทายกันเลยงั้นเรอะ~เจส์ตะ

    ชาเดอรีนอยู่ไหน!” ลูฟี่ย้ำคำถามอีกครั้งก่อนจะจับจ้องไปที่หน้าของเจส์ตะอย่างอารมณ์เสีย

    เอางี้มั้ย ถ้านายปล่อยมือออกจากคอฉัน ฉันจะบอกให้~เจส์ตะพูดพร้อมฉีกยิ้มอีกครั้ง

    ทางเลือกนายมีทางเดียวเท่านั้นแหละ บอกที่อยู่ของชาเดอรีนมา!” อุซปพูดพร้อมชี้ไปที่หน้าของเจส์ตะอย่างเอาเรื่อง แต่ดูเหมือนเจส์ตะจะไม่ได้สนใจในตัวเขาสักเท่าไหร่

    อา... ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วงั้นเหรอ~เจส์ตะพูดพร้อมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เหมือนกับการยอมแพ้

    ผืดด!! ผลั่ก!!!

    ก่อนที่ทุกอย่างจะไม่เป็นเช่นนั้น! ในวินาทีที่เจส์ตะดึงเท้าขึ้นมาแล้วทำการถีบไปที่เข่าของลูฟี่ที่ตั้งขนาดกับพื้นซะจนเขาเสียหลัก!!!

    หมับ!! ผัวะ!!!

    เจส์ตะจับเข้าที่คอเสื้อของลูฟี่อย่างรวดเร็วก่อนจะเหวี่ยงตัวของลูฟี่ลงกระแทกกับพื้นแล้วตนก็รีบโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า!

    ไม่มีสมาธิกับศัตรูเลยนะแกน่ะ! หมวกฟาง!!” เจส์ตะกระพือปีกไปพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน ลูฟี่ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาจากพื้นก่อนจะมองไปที่หน้าของเจส์ตะอย่างหมดความอดทน

    พื๊ดดด!!!

    หมัดแรกของลูฟี่พุ่งตรงไปที่ตัวของเจส์ตะ ก่อนที่หมอนั้นจะเบียดตัวหลบจากหมัดนั้นแล้วสลัดตัวไปมา

    อะไรน่ะ...ฉันมองตรงที่ไปละอองอะไรบางอย่างที่หลุดออกมาจากปีกของเจส์ตะ ละอองเล็กๆ เหล่านั้นมีสีดำสนิท มันค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาที่แขนที่ยืดยาวของลูฟี่

    กึก...

    ละอองนั้นลอยมาติดกับแขนของลูฟี่แล้ว...

    พลึ่บ!! พลึ่บๆๆ!!!

    ก่อนที่ละอองเหล่านั้นจะขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกัดที่ไปที่แขนของลูฟี่จังๆ!!

    โอ๊ยยย!!!” ลูฟี่ร้องเสียงหลงก่อนจะรีบดึงแขนของตนกลับคืนมา เมื่อมองดูดีๆ แล้ว รูปร่างของละอองพวกนั้นเหมือนกับจะงอยปากของแร้งไม่มีผิด! มันค่อยๆ กัดลงไปที่แขนของลูฟี่อย่างช้าๆ ก่อนที่ลูฟี่จะรีบปัดพวกมันออกอย่างเจ็บปวด เมื่อละอองพวกนั้นหลุดไปจนหมดแล้ว ก็เหลือทิ้งร่องรอยไว้เพียงแขนที่เป็นแผลถลอกเป็นรูๆ ของลูฟี่!!!

    ฮ่าๆๆๆ! พวกนั้นคือลูกๆ ของฉันเอง มันน่ารักมั้ยล่า?เจส์ตะพูดพร้อมหัวเราะอย่างสะใจ

    แขนของลูฟี่นั้นมีเลือดไหลซึมออกมาอย่างน่ากลัว

    ไม่เป็นไรนะลูฟี่!” อุซปพูดพร้อมวิ่งตรงไปทางลูฟี่ ก่อนจะโดนเจส์ตะนั้นบินโฉบลงมาแล้วกระชากไหล่ของอุซปจนล้ม!!

    อุซป!!” ลูฟี่ร้องอย่างตกใจกับภาพที่เห็น

    อุซปที่นอนอยู่กับพื้นเอามือจับที่ไหล่ของตัวเองอย่างเจ็บปวด ที่ไหล่นั้นปรากฏเห็นเป็นเลือดสีแดงและมีแผลลึกมาก

    อุซป!” ฉันรีบวิ่งไปดูอาการของเขาทันที

    โอ๊ย...อุซปร้องออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของฉัน

    ไม่เป็นไรนะอุซป! ไหน ขอดูแผลหน่อยนะ!” ฉันพูดพร้อมค่อยๆ ก้มหน้าลงดูแผลนั้นของอุซป เลือดไหลเต็มไปหมดเลยแฮะ...

    หนีไปปฐมพยาบาลก่อนเถอะ...ฉัน

    นามิ!!!”

    เสียงของลูฟี่ทำให้ฉันตกใจต้องเงยหน้าขึ้นมามองสถานการณ์ ซึ่งภาพตรงหน้าของฉันคือเจส์ตะที่กำลังพุ่งตรงมาทางฉันด้วยความรวดเร็ว!

    ชิ้ง...

    เพล้ง!!!

    ก่อนที่บรู๊คจะวิ่งมาคุ้มกันฉันด้วยความว่องไวเช่นเดียวกัน!

    บรู๊ค!” ฉัน

    รีบพาคุณอุซปไปในที่ที่ปลอดภัยก่อนเถอะครับ!” บรู๊คพูดพร้อมกับมองมาที่หน้าของฉัน ดาบของบรู๊คนั้นกำลังรับกรงเล็บที่แหลมคมของเจส์ตะอยู่

    เจส์ตะ!!” ลูฟี่พูดพร้อมพุ่งหมัดตรงไปที่เจส์ตะก่อนที่หมอนั่นจะรีบบินหนีไปอย่างรวดเร็ว

    เอาอุซปไปที่อื่นก่อนนะนามิลูฟี่วิ่งตรงมาทางฉันกับอุซปก่อนจะบอกกล่าวอะไรบางอย่างมาให้ ฉันรีบพยักหน้ารับทันที

    ฉันจะตามหาชาเดอรีนแถวนี้ดู นายช่วยเรื่องเจส์ตะด้วยนะฉันพูดพร้อมค่อยๆ พยุงตัวของอุซปขึ้นมา

    อื้ม ได้เลย!” ลูฟี่พูดพร้อมวิ่งตรงไปที่เจส์ตะเพื่อถ่วงเวลา

    บรู๊ครีบพยุงตัวของอุซปขึ้นที่หลังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มออกวิ่งไปในที่รกทึบ... มันจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่จะหนีเจส์ตะ

    รอแป๊บนึงนะอุซป เดี๋ยวฉันจะรักษานายก่อน!” ฉันพูดพร้อมมองไปที่หน้าของอุซป

    อ่าอุซปตอบรับฉันก่อนจะส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้

     

    [บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    จะยอมทิ้งชีวิตเพราะผู้หญิงคนเดียวงั้นเหรอ!” ราชันย์

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นพวกพ้องของพวกเราและฉันไม่แคร์ด้วยถึงพวกนั้นจะเป็นระดับจอมพลเลยก็เถอะผมพูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นจากพื้นแล้วขยับไหล่ของตัวเองเล็กน้อย ยังเจ็บนิดๆ แฮะ...

    นายก็คงจะเข้าใจใช่มั้ยล่ะ เหมือนกับพวกนายกับทัชนั้นแหละ ถึงจะยากแค่ไหน... ก็จะตามหาจนกว่าจะเจอน่ะผมพูดพร้อมมองไปที่หน้าของราชันย์

    หมอนั่นกระตุกเล็กน้อยกับคำพูดของผมก่อนจะค่อยๆ ระบายยิ้มออกมา

    ก็นะ... ถึงฉันห้ามไปพวกนายก็จะไม่หยุดใช่มั้ยล่ะ?ราชันย์

    แน่นอนพวกเราประสานเสียง

    งั้นก็แล้วแต่พวกนายเลยแล้วกัน แผนของพวกนายคิดว่าจะทำยังไงล่ะ?ราชันย์

    เหอะ... ของแบบนี้ก็ต้องพุ่งชนอย่างเดียวล่ะนะผมพูดพร้อมมองไปที่หน้าของแฟรงกี้อย่างตั้งคำถาม

    พวกนั้นนัดไปเจอที่ไหนงั้นเหรอผม

    อืม... เห็นบอกว่าเป็นชั้นบนสุดของที่นี่น่ะนะแฟรงกี้

    งั้นเหรอ... งั้นเราก็พบเป้าหมายแล้วผมพูดพร้อมมองไปที่บนหัวของผม เหมือนว่ามันจะมีต่อไปอีกหลายชั้นสินะ...

    อันดับแรกคือต้องช่วยโรบินจังก่อน เพราะยังไงเราก็รู้ที่อยู่ของพวกนั้นแล้วผม

    อืม... จะไปกันเลยมั้ยโซโล

    ฉันฝากโรบินจังไว้กับนายได้มั้ยเจ้าหัวเขียวผมพูดพร้อมหันไปมองหน้าของโซโล หมอนั่นหันหน้ามาสบตากับผมก่อนจะพยักหน้า

    เออ...โซโลตอบเพียงสั้นๆ และไม่ตั้งคำถามอะไรอีก คงเพราะรู้ล่ะใงว่าผมจะไปทำอะไร... ใช่ ผมจะต้องไปตามหาตัวของชาเดอรีนจัง!

    ไปกันเลย...

    ผมพูดพร้อมเริ่มออกวิ่งไปเป็นคนแรก ก่อนที่ทุกคนจะวิ่งตามหลังมาแบบติดๆ

     

    พวกนายวิ่งขึ้นบันไดไปก็แล้วกัน... แล้วเจอกันนะผมหันหน้าไปบอกกับทุกคนก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าแล้วเราก็แยกกันไป

    ผมตรงดิ่งไปที่หน้าต่างของตึก ก่อนจะกระโดดถีบหน้าต่างพวกนั้นจนแตกกระจายแล้วค่อยๆ กระโดดออกมาลอยอยู่บนอากาศข้างนอกอาคาร

    สกายวอร์ก!” ผมค่อยๆ ขยับขา เอาเท้าเหยียบไปที่อากาศอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งตรงไปที่สูงสุดเลย!

    ถ้ายิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ยิ่งมองเห็นง่ายมากเท่านั้น...

    พลึ่บ! พลึ่บๆ!!

    ผมวิ่งไปบนท้องฟ้าเหมือนกับมีขั้นบันไดอยู่ เมื่อผมก้มหน้าลงมองไปที่พื้นดิน ทุกอย่างเหมือนกับจะอยู่ในสายตาของผมทั้งหมด

    เอ๊ะ! นั่นมัน!...

    ลูฟี่!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลูฟี่อยู่ข้างหลังของอาคาร บริเวณที่เต็มไปด้วยลาวาไหลเป็นสาย หมอนั่นกำลังทำอะไรน่ะ... ต่อสู้งั้นเหรอ? กับใครกัน?

    พลึบๆ!!

    ผมค่อยๆ วิ่งลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ ก่อนจะพบคำตอบของคำถามของผม เหมือนลูฟี่กำลังสู้กับแร้งตัวหนึ่งอยู่... แร้ง... เจส์ตะงั้นเหรอ!?

    ลูฟี่!!” ผมตะโกนร้องเรียกลูฟี่ ก่อนจะกระโดดลงไปยืนที่พื้น

    ซันจิเหรอ!” ลูฟี่ที่กำลังต่อสู้เหลือบตามามองผมเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง

    หมอนั่น! เจส์ตะงั้นสินะ!” ผม

    ใช่แล้ว... นายรู้ได้ยังไงน่ะ!” ลูฟี่

    ฉันรู้เรื่องพลังของหมอนั่นแล้ว!” ผม

    อ๋อ งั้นก็ดีแล้วล่ะ เจส์ตะน่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายน่ะไปช่วยพวกนามิตามหาชาเดอรีนเถอะ!” ลูฟี่พูดพร้อมหันมามองหน้าของผม

    คุณนามิกำลังตามหาชาเดอรีนจังอยู่งั้นเหรอ! โอเค ฉันจะไปช่วยเธอ!” ผมพูดพร้อมกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตเห็นเงาสีดำพุ่งตรงมาทางผมจากบนอากาศ!

    พลัก!!!

    มันพุ่งตรงมาที่ผมอย่างรวดเร็วซะจนผมต้องรีบใช้ลำแข้งตั้งรับการโจมตีในทันที!

    ผัวะ!!!

    ผมเตะตัวของเจส์ตะที่พุ่งตรงมาหาผมไปไกลๆ ก่อนจะรีบตั้งหลัก

    ฉันชอบกลิ่นของเลือด~เจส์ตะบินไปอยู่เหนือหัวของผมก่อนจะตั้งหลักแล้วส่งยิ้มมาให้

    รสนิยมแย่ชะมัดเลยนะผมพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับเจส์ตะ

    เลือดของนายก็มีกลิ่นหอมมากเลยนะเจส์ตะพูดพร้อมมองตรงมาที่ไหล่ของผม ตอนนี้เลือดมันกำลังซึมอยู่เพราะแรงกระแทกของเจส์ตะที่กระแทกผมเมื่อกี้ทำให้ปากแผลฉีกออกเล็กน้อย

    ฉันคือคู่ต่อสู้ของแกนะเจส์ตะ!”

    เสียงของลูฟี่ดังมาจากข้างล่างก่อนจะเสียงนั้นจะตามมาพร้อมกับหมัดยืดยาวที่ยืดมารวบตัวของเจส์ตะได้พอดี!

    จับตัวได้แล้ว!!” ลูฟี่พูดพร้อมพุ่งตัวตรงมาหาเจส์ตะด้วยความรวดเร็ว!!

    ผัวะ!!!

    ก่อนจะเอาหน้าผากของตัวเองกระแทกเข้าที่หน้าของเจส์ตะเต็มๆ!!

    อั่กก!!!” เจส์ตะร้องเสียงหลงจนไม่สามารถควบคุมการบินของตัวเองได้แล้วร่วงหล่นลงไปที่พื้น

    ฝากชาเดอรีนด้วยลูฟี่พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะพุ่งตรงไปหาเจส์ตะอีกครั้ง

    เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วน่าเจ้าบ้า!

     

    ผมสอดสายตาหาผมสีสวยของคุณนามิจากบนท้องฟ้า เมื่อมองหาได้ไม่นานก็พบ เพราะว่าสีผมของคุณนามินั้นโดดเด่นมากๆ

    คุณนามิคร๊าบบบบ!!~ ผมพุ่งตัวตรงไปหาคุณนามิทันทีที่เห็น

    ฟิ้วววว!!~

    ว้าย!!” คุณนามิร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ผมก็ลอยตัวลงไปดักหน้าของคุณนามิเอาไว้ อย่าตกใจเลยนะครับคุณนามิ

    คุณซันจิ!” บรู๊คเองก็ตกใจเช่นกันที่พบผม

    ผมมาช่วยคุณนามิแล้วนะคร๊าบ~ผมพูดพร้อมหันหน้าไปดี๊ด๊าใส่คุณนามิทันที ว้าว~ ทำไมถึงได้สวยแบบนี้น๊า~

    ซันจิคุงแย่แล้วล่ะ! เราต้องรีบปฐมพยาบาลอุซปนะ!” คุณนามิพูดด้วยน้ำเสียงรนรานก่อนจะชี้ไปที่ตัวของอุซป

    “!! หมอนี่โดนอะไรมาน่ะ!” ผมร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นแผลของอุซป

    เจส์ตะน่ะสิ ตอนนี้เราต้องรีบปฐมพยาบาลก่อนนะ!” คุณนามิ

    ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ...อุซปพูดพร้อมฉีกยิ้มให้ทุกคน

    ถ้าเรากลับไปในตัวอาคาร ผมคิดว่ามันน่าจะมีห้องพยาบาลนะครับผมเสนอ

    นั่นสินะ ช่วยทีนะซันจิคุงคุณนามิพูดพร้อมมองมาที่ตาของผมมันทำเอาผมใจเต้นแรงเลย

    ผมจะไปเอาเครื่องปฐมพยาบาลมานะครับผม

    อื้ม... ยิ่งเคลื่อนย้ายอุซปมากเท่าไหร่ แผลก็ยิ่งฉีกมากเท่านั้นคุณนามิพูดพร้อมค่อยๆ เอาตัวของอุซปให้นั่งลงกับพื้นอย่างช้าๆ

    ครับ งั้นรอผมแป๊บเดียวเท่านั้นผมพูดพร้อมรีบพุ่งตรงไปที่อาคารในทันที

    [จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

     

    โอเค อย่าขยับมากนะอุซปฉันพูดพร้อมกับมองตรงไปที่แผลของอุซป อาการมันดูไม่ดีเท่าไหร่ แต่ฉันได้สร้างน้ำฝนขึ้นมาเพื่อล้างแผลให้เขาไปนิดหน่อยแล้ว

    อ่า ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า แผลแค่นี้เองอุซปพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับฉัน

    ผมกลัวเลือดจังเลยคร๊าบ... โอย...บรู๊คพูดพร้อทเอามือปิดตาของตัวเอง ก่อนจะเหลือบมองแผลของอุซปเล็กน้อยและปิดตาไปอีกครั้ง

    คงได้แต่รอซันจิคุงน่ะนะฉันพูดพร้อมมองไปที่ท้องฟ้าที่ซันจิคุงพึ่งจะไป... ช่วยรีบๆ ทีเถอะซันจิคุง ถ้าฝุ่นมันเข้าไปที่แผลของอุซปมากเกินไปมันจะแย่นะ

    ฉันปวดๆ ที่แผลยังไงก็ไม่รู้แฮะอุซปพูดพร้อมเอามือแตะที่แผลของตัวเองเบาๆ

    จะบ้าหรออุซป! ห้ามจับที่แผลนะ!” ฉันโวยวายก่อนจะตีไปที่มือของเขาอย่างแรง

    ยัยบ้า! ฉันเจ็บนะ!” อุซปโวยวาย

    เดี๋ยวเชื้อโรคก็เข้าแผลหมดหรอก!” ฉันโวยวายกลับบ้าง

    แต่นี่มัน...!!!”

    พลึบ!!

    จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างเกิดขึ้นซะจนพวกเราเงียบปากกันไปในทันที เสียงนั้นดังมาจากด้านหน้าของเราซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง

    พลึบ.. ฝึบ...

    ฉันมองไปที่หน้าของอุซปและบรู๊คเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ คลานเข่าไปที่ต้นเสียง

    ฉันค่อยๆ แหวกโพรงหญ้าออกก่อนจะเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างได้ชัดขึ้น และเมื่อมองไปแล้วก็ต้องพบกับความตกใจ!

    นั่นมันชาเดอรีนนี่!!

    เดินไป!”

    ชาเดอรีนนั้นกำลังอยู่กับทหารเรือเป็นสิบๆ คน พวกนั้นยืนเป็นวงกลมรอบๆ ตัวของชาเดอรีนก่อนจะพยายามผลักเธอให้เดินไปข้างหน้า

    คนทรยศแบบเธอ สมควรตายแล้ว!” ทหารเรืออีกคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับดึงโซ่ที่ล่ามคอของชาเดอรีนไว้แรงขึ้น

    อึก!”

    ฉันได้ยินเสียงร้องของเธอ เสียงนั้นเกิดขึ้นเพราะความเจ็บปวดจากการถูกกระชากคอที่รุนแรงมากเกินไป สภาพของเธอตอนนี้ไม่ได้สวมชุดของทหารเรือด้วยซ้ำ

    เราต้องเอาเอกสารพวกนี้ไปให้กับคุณมาตินรับทราบก่อน ถึงจะดำเนินการต่อได้เจ้าพวกนั้นพูดพร้อมชูเอกสารอะไรบางอย่างขึ้นมา ก่อนที่ทั้งลากและผลักตัวของชาเดอรีนไปข้างหน้า มุ่งตรงไปสู่ข้างในปล่องไฟที่ซึ่งข้างในมีฐานทัพลับซ่อนอยู่

    พวกนั้นทำอย่างกับชาเดอรีนไม่ใช่คน!” อุซปพูดพร้อมกับมองมาที่หน้าของฉัน

    ...อืมฉันได้แต่เพียงตอนรับสั้นๆ

    เราควรไปช่วยเธอฉัน

    พวกนั้นกำลังไปหามาตินไม่ใช่เหรอ หมอนั่นต้องการให้ชาเดอรีนรอด ฉันคิดว่าหมอนั่นอาจจะหาวิธีถ่วงเวลาก็ได้นะอุซป

    นั่นสินะ แต่ยังไงเราก็ต้องไปช่วย... นายคงไปไม่ไหวแน่ฉันพูดพร้อมมองไปที่อุซป

    ไม่หรอก ฉันไหวน่า!” อุซปพูดพร้อมฉีกยิ้ม

    ไม่ นายต้องรอซันจิคุงอยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันจะแอบเข้าไปในอาคารอีกครั้งฉัน

    หา! เธอจะบ้าเหรอ! ฉันไม่มีทางให้เธอไปคนเดียวหรอกนะ!” อุซป

    ใช่ครับ! ผมจะไปด้วย~บรู๊ค

    ไม่... บรู๊คนายต้องดูอุซปอยู่ที่นี่ หมอนี่อาจจะก่อเรื่องอะไรก็ได้ หรือไม่ถ้าเจส์ตะมาที่นี่นายจะได้ช่วยอุซปได้ฉัน

    แต่ถ้าเธอไปคนเดียว...อุซป

    ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า... แค่ทหารเรือ จิ๊บๆฉันพูดพร้อมชูนิ้วโป้งขึ้นมา ใช่ ฉันคิดว่ามันไม่น่ายากเท่าไหร่หรอก

    ...ฉันไม่อยากตกลงเลย...อุซป

    ผมด้วยคร๊าบ...บรู๊ค

    ทำตามที่ฉันบอกไปเถอะน่า! แล้วเจอกันนะ!” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มให้อุซปและบรู๊คก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเตรียมสะกดรอยตามทหารเรือพวกนั้นไป

    หมับ!!

    ก่อนที่อุซปจะจับที่ข้อมือฉันไว้เสียก่อน!

    ก่อนเธอจะไป เอาสิ่งนี้ไปด้วย ฉันคิดว่ามันน่าจะช่วยเธอได้นะอุซปพูดพร้อมเอาอะไรบางอย่างมาวางไว้ที่มือของฉัน เมื่อฉันมองดูแล้ว มันก็คือเมล็ดพันธุ์อะไรสักอย่าง

    เมล็ด..?ฉัน

    ถ้าเธอต้องการหนี เธอก็เอามันฝังไว้ที่ดินนะ แล้วเธอก็จะหนีได้อุซปพูดพร้อมพร้อมมือฉัน

    อย่าตายล่ะ!” อุซปพูดพร้อมหัวเราะ

    ปากเสียนะเจ้าบ้า!”

    ผัวะ!!!

    ฉันซัดหนึ่งหมัดไปที่หัวของอุซปก่อนจะวิ่งตรงออกมาจากตรงนั้นเลย เจ้าบ้าอุซป!!

     

    [บันทึกพิเศษ ; ช๊อปเปอร์]

    หลังจากที่พวกเราแยกตัวออกมาจากซันจิแล้ว พวกเราก็รีบตรงไปที่จุดสูงสุดของที่นี่ทันที เพื่อไปตามหาตัวของโรบิน

    แต่ปัญหาก็คือ...

    โอย! ตึกนี่มันสูงชะมัดเลยแฮะ!!” แฟรงกี้พูดพร้อมกับหอบแฮ่กๆ

    นั่นสินะ ฉันจะหมดแรงอยู่แล้ว!~” ผมพูดพร้อมกับมองไปที่ขาสั้นๆ ของตัวเอง เหนื่อยเป็นบ้าเลยแฮะ! ทำไมขั้นบันไดมันสูงแบบนี้นะ!

    หมับ!!

    เดี๋ยวฉันแบกนายไปเองจู่ๆ ก็มีมือใหญ่ๆ มาจับเข้าที่กระเป๋าของผมก่อนจะดึงตัวผมลอยขึ้นมาพื้น! เหวออ!!

    พลึบ!

    ก่อนที่ผมจะไปอยู่ที่ไหล่ที่ใหญ่และสุดแสนจะแข็งแกร่งของแฟรงกี้!

    ซูปปปป... เปอร์!!~” แฟรงกี้ตะโกนออกมาด้วยเสียงที่แสนดัง

    ขอบคุณนะแฟรงกี้ โอย... ฉันไม่ไหวแล้ว~ผมพูดพร้อมเอนตัวลงเอาตัวแนบไปกับไหล่ของไซบอร์กตัวใหญ่นั่น

    เฮ้... เอาฉันขึ้นไปด้วยสิโซโลพูดพร้อมมองมาที่หน้าของแฟรงกี้

    จะบ้าหรือไง! ฉันแบกนายไม่ไหวหรอกนะ!” แฟรงกี้โวยวาย

    ฉันว่ามันสูงไปมั้ยล่ะเนี่ย...โซโลพูดพร้อมมองไปที่ขั้นบันไดที่พวกเราเคยวิ่งผ่านกันมาแล้ว มันก็สูงจริงๆ ล่ะน้า...

    ก็มันไม่มีวิธีอื่นแล้วนี่เน้อะ ซู... เปอร์...แฟรงกี้พูดด้วยน้ำเสียงหมดแรง

    ถ้าตัดมันลงมา เราจะได้ขึ้นไปเร็วขึ้นรึป่าว?โซโลตั้งคำถาม

    นายอย่าทำแบบนั้นนะเฟ้ย!!” รีทาวน์กุ๊กประจำเรือของราชันย์ผมทองโวยวาย

    ทำไมล่ะโซโล

    ถ้ามันพลาดไปโดนคุณโรบินเข้าล่ะ!” ราชันย์

    ไม่มีทางหรอกน่า... ถ้าวิ่งไปเรื่อยๆ แบบนี้ฉันไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ แต่พวกนายนี่น่ะสิ...โซโลพูดพร้อมมองไปที่เม็ดเหงื่อและละเม็ดของพวกเรา อะไรกัน ทำไมโซโลถึงไม่มีเหงื่อเลยล่ะ! นี่แปลว่าเขายังไม่เหนื่อยเลยงั้นเหรอ! เจ๋งสุดยอดเลยยย *[]*!!~

    ฉันมีวิธีที่จะทำให้พวกเราไปเร็วขึ้นนะ... เหวี่ยงขึ้นไปไงแฟรงกี้เสนอความคิดเห็น

    จะบ้าเหรอ!!” ผมโวยวาย

    ฉันเห็นด้วยนะโซโลฉีกยิ้ม

    ฉันไม่เห็นด้วยเฟ้ยย!!!” ผมกับพวกราชันย์ประสานเสียงกันทันที

    ไม่เอานะ! จะบ้าหรอ บันไดพวกนี้เป็นวงกลมนะ ถ้าเหวี่ยงไปก็ทะลุกำแพงกันพอดีน่ะเส้ T___T!!!

    ตึกๆๆๆ...

    พวกเราวิ่งขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ อย่างพยายาม... ขนาดตัวผมอยู่ที่ไหล่ของแฟรงกี้ ตัวผมเองยังเหนื่อยแทนเลยนะครับเนี่ย T^T!!

    ดา... ด๊า~

    กึก...

    พวกเราทุกคนนิ่งเงียบกันไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงฮัมเพลงอะไรบางอย่าง... อะไรน่ะ!

    ดา ด๊า... ด๊ะ ดา...

    เสียงนั้นเป็นเสียงคุ้นหูมากเหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน เสียงฮัมเพลงนั้นมาพร้อมกับเสียงคนที่เดินลงบันไดมาเรื่อยๆ

    ดา ดะ... เอ๋ ?

    ก่อนที่ชายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเรา เมื่อพวกเรากับเขาสบตากันก็ทำเอานิ่งอึ้งกันไปทั้งสองฝ่าย เรือนผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีทองนั้นจับจ้องมาที่เราก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    อา... พวกนาย...

    หมอนั่นทำหน้าคิดเล็กน้อยก่อนจะก่อนจะเอามือประกบกันเสียงดังเหมือนคิดอะไรบางอย่างออกแล้ว

    กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกับกลุ่มโจรสลัดผมทองสินะ...หมอนั่นพูดพร้อมชี้มาที่หน้าของพวกเรา ทำเอาเราสะดุ้งโหยงกันเลยทีเดียว

    อา...โซโล

    อ๋อฉันชื่อคลาวน์... เป็นคนที่จับตัวเพื่อนของพวกนายมาเอง... สวัสดี!”

    อะไรนะ!... คลาวน์!!?

    [จบบันทึกพิเศษ ; ช๊อปเปอร์]

     

    [บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    ตึกๆๆๆ!!

    ผมวิ่งไปตามห้องต่างๆ เพื่อตามหาห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว!

    ปัง!!

    ผมเอามือเปิดประตูออกในแต่ละห้องก่อนจะปิดมันลงเพราะมันไม่ใช่ห้องพยาบาล ต้องรีบแล้ว!

    ปัง!

    ผมเปิดประตูเข้าไปในอีกห้องหนึ่งก่อนที่ความต้องการของผมจะสำเร็จผล! ในที่สุดของก็เจอห้องพยาบาลแล้ว เย้!

    ผมเดินตรงไปที่แผนกยาก่อนจะหยิบพวกยาฆ่าเชื้อออกมาให้มากที่สุดและผ้าพันแผลต่างๆ ด้วย เมื่อมองไปได้ไม่ไกลก็พบกับกระเป๋าสีดำใบหนึ่งวางอยู่ที่โต๊ะพอดี บิงโก... ถ้าเอาบาพวกนี้ใส่ในกระเป๋าไป เราจะได้เอามันไปได้มากขึ้น แล้วคุณนามิก็จะยินดีกับเราแน่ๆ เล้ยย~

    หมับ!~... กริ๊ง... กริ๊ก...

    ผมรีบเอาขวดยาพวกนั้นใส่ในกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากภูเขาไฟนั้นทันที

    ผมมองหาจุดๆ เดิมที่ผมเจอกับคุณนามิและพวกอุซปก่อนจะพบมันแกครั้งแล้วผมก็รีบมุ่งตรงไปในทันที

    พรึบ!

    ฉันเอาบามาแล้วนะผมพูดพร้อมวิ่งตรงไปที่อุซปที่กำลังนั่งอยู่กับบรู๊ค... อ้าว คุณนามิล่ะ?

    แล้วคุณนามิไปไหนซะล่ะ?ผมถามพร้อมกับมองไปที่หน้าของอุซป

    “...เมื่อกี้นามิเจอตัวของชาเดอรีน... ก็เลยตามไปแล้ว...อุซปพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกลัวๆ ผม ก่อนจะฉีกยิ้มมาให้ผม... หืม... ว่าไงนะ...?

    หมายความว่ายังไง?ผมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

    นามิตามชาเดอรีนเข้าไปในตัวตึแล้วน่ะ...นะ... แหะๆ...อุซป

    แปลว่านายปล่อยให้คุณนามิไปคนเดียวงั้นเหรอ!!” ผมโวยวาย

    ป่าว! ก็ยัยนั่นบอกว่าจะไปคนเดียวนี่หน่า บอกว่าตัวเองจัดการได้น่ะ!” อุซปพยายามที่ห้ามปรามอารมณ์ของผมก่อนที่จะบีบคอเขาจนตายเพราะปล่อยให้คุณนามิไปอยู่ในอันตรายเพียงคนเดียว1

    จริงๆ นะครับคุณซันจิ... คุณนามิบอกอย่างงั้นจริงๆ นะครับ อย่าทำร้ายคุณอุซปเลยนะครับ!” บรู๊คเองก็พยายามจะเข้ามาห้ามผมอีกเหมือนกัน ผมจึงค่อยๆ ถอนหายใจอย่างพยายามสงบสติอารมณ์

    ...งั้นตกลงตอนนี้คุณนามิอยู่ที่ไหนผม

    ยะ... อยู่ในตัวตึกน่ะ...อุซปพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

    ...งั้นพวกนายก็ปฐมพยาบาลกันไปคนเดียวเลยแล้วกัน ฉันจะไปหาคุณนามิ!” ผม

    นายไม่ต้องคิดมากหรอกน่า... มีทหารเรือสิบกว่าคนเอง ฉันคิดว่านามิรับมือไหวอยู่แล้ว...

    นายจะบ้าหรือไง!!” ผมขึ้นเสียงแทรกประโยคของอุซปอย่างควบคุมไม่ได้ มันทำเอาอุซปถึงกับเงียบไปเลย

    นายไม่รู้อะไร! ในตัวตึกนั้นมีชายที่น่ากลัวอยู่ถึงสองคน แล้วถ้าคุณนามิเฉียดตัวเข้าไปใกล้พวกนั้นขึ้นมาจะทำยังไง!” ผม

    ...หมายความว่ายังไง?อุซปพูดด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

    มันก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจอยู่ แต่ว่าตอนนี้มีชายสองคนซึ่งเจ้ารานั่นบอกว่าแข็งแกร่งมากเลย เป็นคนของรัฐบาลที่เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นถึงพลเรือเอกเลยนายรู้มั้ย!” ผม

    งะ... งั้น... คุณนามิ...บรู๊ค

    อาจจะอยู่ในอันตรายน่ะสิ! พวกนายรักษากันไปก่อนแล้วกัน แล้วถ้าบาดเจ็บไม่ต้องไปแถวนั้นนะ!” ผม

    แต่นายก็บาดเจ็บเหมือนกันนะซันจิ!” อุซปพูดเหมือนพยายามจะห้ามไม่ให้ผมเข้าไปในตัวตึกอีก แต่ผมก็ได้แต่หันหลังกลับมาส่งยิ้มให้กับอุซปก่อนจะออกตัววิ่งตรงไปหาคุณนามิ

    ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเลดี้ทั้งนั้น!

    [จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

     

    ฉันค่อยๆ วิ่งตามเหล่าทหารเรือพวกนั้นด้วยความเงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้...

    เดินไปดีๆ อย่าให้ฉันต้องลากไปเหมือนหมูเหมือนหมาได้มั้ย!”

    และเพราะชาเดอรีนพยายามที่จะขัดขืนทำให้ทหารเรือคนหนึ่งขึ้นเสียงตะโกนใส่เธออย่างอารมณ์เสีย ฉันนั้นเห็นทุกการเคลื่อนไหวของพวกนั้น... ในพื้นที่ที่แคบแบบนี้มันไม่เหมาะเลยที่จะใช้พลังในตอนนี้

    อีกนิดเดียวก็จะถึงห้องของคุณมาตินแล้วทหารเรือคนเดิมพูดพร้อมกระชากโซ่ที่คอของชาเดอรีนให้แรงขึ้นอีก

    ใช่แล้ว อีกนิดเดียวก็จะถึงห้องของมาติน... เพราะฉันพอจะคุ้นๆ กับสถานที่แห่งนี้ มันเป็นทางเดียวกันที่ฉันถูกลากมาเหมือนกัน

     

    ก๊อกๆๆ...

    ทหารเรือคนหนึ่งเคาะประตูบานใหญ่ดูหรูหรา จนเกิดเป็นเสียงที่ดังพอสมควรเพราะไม่มีใครพูดอะไรเลย

    คุณมาตินครับ เราเอานักโทษทรยศ นาวาโท มัลเฟอร์ ชาเดอรีน มาครับ

    “...เข้ามา

    เสียงตอบรับที่คุ้นเคยนั้นก็คือมาตินนั่นเอง เมื่อมาตินตอบรับแล้ว ทหารเรือพวกนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทันที ก่อนที่ประตูนั้นจะปิดลงช้าๆ ฉันจึงรีบวิ่งเข้าไปเอาหูแนบฟังที่ประตูทันที

    ...คนทรยศงั้นเหรอเสียงของมาตินดังขึ้นมาจากด้านหลังของประตู

    ครับผม นักโทษได้บอกแผนการลับของเราและได้ร่วมมือกับโจรสลัดครับ!” ทหารเรือเองก็รีบตอบรับอย่างดี ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงของวัตถุบางอย่างกระแทกลงกับพื้น ฉันคิดว่าน่าจะเป็นชาเดอรีน...

    ทรยศจริงๆ ด้วย...

    ครับผม ผมต้องการให้ท่านช่วยเซ็นชื่อรับรองโทษผิดของมัลเฟอร์ ชาเดอรีนครับ

    ...ฉันขอคุยกับนักโทษคนนี้ตามลำพัง

    หา!? มะ... ไม่ได้หรอกครับท่าน... อาจเป็นอันตราย...

    ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันขอคุยหน่อย ออกไปก่อนนะมาตินพยายามจะไล่พวกทหารเรือออกมา

    ไม่มีการตอบรับใดๆ จากกลุ่มทหารเรือก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงเหมือนฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ประตูเรื่อยๆ! แย่แล้วไง ต้องแอบก่อนล่ะ!!

    แอ๊ด... ปึง...

    ทำไมคุณมาตินต้องอยากคุยกับนักโทษด้วยนะ

    คงต้องการจะสืบสวนล่ะมั้ง เราเป็นใครไปสงสัยคุณมาติน

    แต่ทั้งคุณมาตินและนักโทษคนนั้นเคยร่วมงานกันนะ มันอาจจะมีการหลบหนีได้

    นั่นคุณมาตินนะ เขาเป็นคนที่แบกคำว่ายุติธรรมไว้ที่หลัง ไม่มีทางทรยศเราแน่ๆ

    บนสนทนาของพวกทหารเรือที่พึ่งออกมาทำให้ฉันนิ่งเงียบไป ตอนนี้ฉันกำลังหลบอยู่ที่ทางเลี้ยวเข้าไปสู่เส้นทางนี้ มันคงเป็นเวลานี้แหละ ที่ฉันควรจะจัดการพวกนี้...

    ฮึบ... เอาล่ะนะ...

    พรึบ!!

    ฉันยันตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกนั้นจะจับสังเกตได้แล้วหันหน้ามองมาทางฉันทันที

    ผู้บุกรุก!!” ทหารเรือคนหนึ่งตะโกนออกมาเสียงดัง

    ธันเดอร์คลาวน์...

    ฉันค่อยๆ ดึงกระบองคุริมะซอคเซรี่ขึ้นมาก่อนจะก่อเมฆเล็กๆ ออกมาเป็นสาย

    จับตัวเธอไว้!!” ทหารเรือกลุ่มนั้นรีบวิ่งตรงมาทางฉันทันที

    ฉันค่อยๆ รวบรวมสติแล้วมองดูกลุ่มเมฆที่ตนเองสร้างขึ้นแล้วหักกระบองคุริมะออกมาเป็นสองท่อน

    นิไกโซล.. เท็มโป!!!”

    ก่อนจะเอาปลายของกระบองคุมะมานั่นมาแตะกันแล้วปล่อยสายไฟฟ้าออกมาเป็นสี่สาย!!!

    พร่า!!!

    ไฟฟ้าพวกนั้นกระทบเข้ากับผิวหนังของทหารเรือทำให้เกิดการช็อดที่รุนแรงเกิดขึ้น พวกนั้นร้องกันเสียงหลงกับไฟฟ้าของฉันก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้น!

    เฮ้อ...ฉันถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเก็บกระบองคุริมะลงไปที่เดินแล้วค่อยๆ เดินข้ามตัวของพวกทหารเรือที่นอนกันอยู่เต็มพื้นอย่างระมัดระวัง

    แอ๊ด...

    ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องของมาตินทันทีที่จัดการทุกอย่างเสร็จ และเมื่อฉันเปิดประตูเข้าไปแล้วฉันก็พบกับมาตินและชาเดอรีนที่กำลังจะเปิดประตูออกมาพอดี

    นะ... นามิ?ชาเดอรีน

    อะ... สวัสดีฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง

    ฉันมารับแล้วนะ ไปกันเถอะ!” ฉันคว้าเข้าที่มือของชาเดอรีนก่อนจะพยายามดึงเธอออกมาจากห้องของมาติน แต่แล้วจู่ๆ มาตินก็พูดบางอย่างออกมา

    รีบหนีไปนะ แล้วอย่ากลับมาอีกมาติน

    ...ทำไมถึงช่วยฉันล่ะมาตินชาเดอรีนหันไปถามมาตินอย่างสงสัย แต่มาตินกลับไม่บอกอะไรได้แต่ยิ้มเพียงอย่างเดียว

    เธอไม่ต้องรู้หรอกนะมาตินพูดพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยน

    แต่...ชาเดอรีน

    รีบไปกันเถอะชาเดอรีน เราต้องไปบอกพวกลูฟี่อีกนะฉันพูดพร้อมมองไปที่หน้าของชาเดอรีนก่อนที่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของฉันจะทำให้ฉันนิ่งอึ้งไป

    ภาพของดินที่ก่อตัวออกมาเป็นรูปร่างของคน ชายผมสีน้ำตาลเข้มหน้าตาดูเงียบขรึมนั้นค่อยๆ เดินตรงมาที่ตัวของมาตินก่อนจะเอามือจับที่ไหล่ของมาติน

    ฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่...ชายคนนั้นพูดขึ้น

    น้ำเสียงนั้นทำให้สีหน้าของมาตินเปลี่ยนไปในทันที มาตินค่อยๆ หันหน้าไปมองตามต้นเสียงอย่างช้าๆ ก่อนที่จู่ๆ จะโดน...

    ผัวะ!!!

    หมัดของชายปริศนาคนนั้นจะกระแทกเข้าที่หน้าของมาตินเต็มๆ!!

    โครม!!

    มาติน!” ชาเดอรีนร้องเสียงหลงก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหามาติน

    หมับ!!

    ชายคนนั้นจับเข้าที่แขนของชาเดอรีนก่อนจะกระชากตัวของชาเดอรีนออกมาไกลๆ จากมาติน

    แกทำมาตินทำไม!!” ชาเดอรีนหันหน้าไปมองหน้าของชายคนนั้นอย่างโมโห แต่ชายคนนั้นได้ทำได้เพียงแต่มองไปที่หน้าของชาเดอรีนแล้วไม่พูดอะไรออกมาเลยสักประโยค

    ...

    ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” ชาเดอรีนพยายามจะสลัดตัวเองออกจากการเกาะกุม เมื่อฉันเห็นแบบนั้น ฉันจึงรีบตรงเข้าไปช่วยทันที แต่เมื่อฉันก้าวขาออกไปจู่ๆ ก็รู้สึกว่ามันไม่สามารถขยับได้ เมื่อก้มหน้าลงมองแล้วก็ปรากฏเห็นเป็นดินที่อยู่ที่พื้นนั้นค่อยๆ ดูดเอาตัวของฉันลงไป!

    ว๊าย!!” ฉันร้องอย่างตกใจก่อนจะพยายามดึงตัวของตัวเองออกมา

    ฉันมาเอาตัวเธอไปที่พิพากษา... ตามกฏหมายเมื่อเขาพูดจบประโยค จู่ๆ แขนของชายคนนั้นก็กลายเป็นดินแล้วค่อยๆ แทรกซึมไปตามตัวของชาเดอรีนอย่างช้าๆ

    พลังแบบนี้!!... หรือว่าจะเป็น...!” ชาเดอรีน

    ไปกันได้แล้ว... เธอด้วย แมวขโมย นามิ...เขาพูดพร้อมกับมองมาที่หน้าของฉัน ตอนนี้ดินมันดูดตัวของฉันไปจนถึงครึ่งตัวแล้ว ไม่นะ!!

    ...

    ผัวะ!!!

    ในจังหวะที่ฉันกำลังจะหมดหวัง จู่ๆ ซันจิคุงก็วิ่งมาแล้วกระโดดเตะเข้าที่แขนของชายปริศนาคนนั้นทันที!!

    หืม...ชายคนนั้นมองไปที่หน้าของซันจิอย่างสงสัยเล็กน้อย ลำแขนของเขานั้นรับแรงเตะของซันจิคุงได้อย่างง่ายดาย แข็งแกร่งมาก!

    ปล่อยตัวของเลดี้เดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!” ซันจิคุง

    ซันจิ...ชาเดอรีนมองไปที่หน้าของซันจิด้วยสีหน้าตกตะลึง

    ขาดำ ซันจิ?

    เออ...!!” ซันจิคุงพูดพร้อมกับเตะไปที่หน้าของชายคนนั้น แต่ชายคนนั้นก็เอามือจับเข้าที่เท้าของซันจิคุงได้อย่างง่ายดาย

    ...ชายคนนั้นไม่พูดอะไรแต่จู่ๆ ตัวของเขาก็ยุบลงไปในดินทันที! ก่อนที่ตัวของชาเดอรีนนั้นก็ถูกดูดลงไปเช่นกัน!

    หมับ!!!

    ชาเดอรีนจัง!!” ซันจิคุงคว้าเข้าที่มือของชาเดอรีนแล้วพยายามจะออกแรงดึง

    ซันจิคุง...ชาเดอรีนจับเข้าที่มือของซันจิคุงอย่างแน่น

    พรืบ...

    ผัวะ!!!

    ก่อนที่จู่ๆ ดินตรงหน้าท้องของซันจิคุงจะกระแทกเข้าที่ท้องของเขาเต็มๆ! ซะจนตัวซันจิเองถึงกับปล่อยมือของชาเดอรีนไปเลย

    ซันจิคุง!!” ชาเดอรีนพยายามที่จะจับที่นิ้วทุกนิ้วของซันจิแต่มันก็ไม่เป็นผลอีกต่อไปแล้ว ดินนั้นดูดตัวของชาเดอรีนไปลึกขึ้นๆ ทุกที ซะจนมือของเธอหลุดออกจากมือของซันจิคุงไป

    ชาเดอรีนจัง!!” ซันจิคุงรีบยื่นมือไปแตะที่มือของชาเดอรีนแต่ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้วเพราะดินนั้นกลืนเอาตัวของชาเดอรีนไปจนหมด!

    พรืบ...

    ซันจิคุง! ช่วยด้วย!” ฉันร้องขอความช่วยเหลือจากซันจิคุงทันทีเมื่อเห็นว่าไม่สามารถช่วยตัวเองได้อีกแล้ว ซันจิคุงหันหน้ามองมาทางฉันก่อนจะรีบวิ่งมาแล้วจับที่มือของฉันเอาไว้แล้วออกแรงดึงสุดกำลัง

    ดึงไม่ออกเลย... คุณนามิ ระวังหน่อยนะครับ!” ซันจิคุงพูดพร้อมมองไปที่ดินนั้นแล้วทำการเตะเข้าที่ดินพวกนั้นอย่างเร็วและแรง เพราะแรงเตะที่แข็งแกร่งของซันจิคุงนั้นทำให้ดินพวกนั้นกระจัดกระจายเต็มไปหมด ก่อนที่ซันจิคุงจะใช้ช่วงเวลาที่ดินหยุดเคลื่อนตัวดึงตัวฉันออกมาจากดินทันที!

    ขะ... ขอบคุณนะซันจิคุง...ฉันพูดพร้อมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

    ไม่เป็นไรครับคุณนามิซันจิคุงหันหน้ามาส่งยิ้มให้กับฉันก่อนจะมองไปที่ดินที่ดูดตัวของชาเดอรีนไป สีหน้าของเขานั้นดูวิตกกังวลมากเลย

    ...ถ้าฉันช่วยชาเดอรีนไว้ทัน ก็คงไม่เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้...ฉัน

    ไม่ใช่หรอกครับ คุณนามิน่ะทำดีอยู่แล้ว... ผมต่างหากที่ผิด ผมทำให้คุณนามิตกอยู่ในอันตรายซันจิคุงพูดพร้อมมองมาที่หน้าของฉันแล้วส่งยิ้มมาให้

    กึก...

    ชาเดอรีน...

    เสียงของมาตินนั้นดังขึ้นมา เมื่อเรามองไปที่ตัวเขาแล้วก็พบว่าเขานั้นกำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง ฉันจึงรีบวิ่งไปหามาตินทันที

    คุณนามิ อย่าอยู่ใกล้หมอนี่ หมอนี่เป็นคนของรัฐบาลนะครับ!” ซันจิคุงพูดพร้อมดึงตัวของฉันไว้

    ไม่หรอก... เขาเป็น...คนดีฉันพูดพร้อมมองตรงไปที่หน้าของซันจิ และเพราะสายตานั้นของฉัน ทำให้ซันจิคุงค่อยๆ ปล่อยตัวฉันให้ออกมาไปมาตินได้

    ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยมาติน!” ฉันรีบวิ่งไปพยุงตัวของมาตินให้ลุกขึ้นนั่ง

    ...ชาเดอรีนถูกเอาตัวไปแล้ว ยิ่งเป็นหมอนั่นด้วย...มาติน

    ทำไมหรอ หมอนั่นทำไมฉัน

    หมอนั่นชื่อทรอยใช่มั้ยเจ้าทหารเรือซันจิพูดพร้อมเดินมาใกล้ๆ กับมาติน สายตาของซันจิคุงนั้นมองไปที่หน้าของมาตินอย่างไม่ไว้ใจ

    นายรู้จักด้วยอย่างงั้นเหรอ?มาตินหันไปถามซันจิคุง

    ก็พอรู้จักมาบ้างล่ะนะซันจิคุง

    หมอนั่นบอกว่าจะเอาตัวของชาเดอรีนไปพิพากษา มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย!” มาตินพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก

    “...ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นใคร แต่ชาเดอรีนจังน่ะ ฉันจะเป็นคนช่วยเองซันจิคุงพูดพร้อมมองไปที่หน้าของมาตินอย่างหนักแน่น

    ฉันยอมทุกอย่างนั้นแหละ ขอแค่ช่วยชาเดอรีนให้ได้นะมาติน

    จริงเหรอ?ซันจิ

    ...อืมมาตินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขามองตรงไปที่หน้าของซันจิคุงอย่างต้องการจะบอกว่าเขาตั้งใจให้แบบนั้นจริงๆ

    งั้นบอกที่อยู่ของไอ้ที่ที่พิพากษามา... ฉันไม่ยอมให้มันทำอะไรชาเดอรีนจังทั้งนั้นแหละซันจิคุงพูดพร้อมฉีกยิ้ม

    ...บนจุดสูงสุดของอาคารนี้... ชาเดอรีนจะอยู่ที่นั่นเมื่อมาตินพูดจบประโยคสีหน้าของซันจิคุงก็เปลี่ยนไปทันที หน้าตาของเขานิ่งอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มที่มุมปากออกมา

    งั้นแปลว่ายิงทีเดียวได้นกสองตัวเลยสินะ...ซันจิคุง

    หืม?

     

    [บันทึกพิเศษ ; ช๊อปเปอร์]

    ดา ดะ... เอ๋ ?

    ชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของพวกเรา เมื่อพวกเรากับเขาสบตากันก็ทำเอานิ่งอึ้งกันไปทั้งสองฝ่าย เรือนผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีทองนั้นจับจ้องมาที่เราก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    อา... พวกนาย...

    หมอนั่นทำหน้าคิดเล็กน้อยก่อนจะก่อนจะเอามือประกบกันเสียงดังเหมือนคิดอะไรบางอย่างออกแล้ว

    กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางกับกลุ่มโจรสลัดผมทองสินะ...หมอนั่นพูดพร้อมชี้มาที่หน้าของพวกเรา ทำเอาเราสะดุ้งโหยงกันเลยทีเดียว

    อา...โซโล

    อ๋อฉันชื่อคลาวน์... เป็นคนที่จับตัวเพื่อนของพวกนายมาเอง... สวัสดี!”

    อะไรนะ!... คลาวน์!!?

    คลาวน์ที่ว่านั่นคือคนที่อยู่ในสายในแมลงโทรสารงั้นเหรอ!? เขาคือคนที่จับโรบินไป!

    สวัสดี...โซโลพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับคลาวน์บ้าง

    อืม... ถ้าเราเจอกัน... เราต้องสู้กันใช่มั้ยเนี่ย?จู่ๆ คลาวน์ก็ถามขึ้น ทำเอาขน(ทั้งตัว)ของผมลุกซู่เลย!

    คลาวน์ฉีกยิ้มก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋ามาเช็ดที่หน้าของตัวเองช้าๆ... เช็ดทำไมกัน มันไม่เห็นมีอะไรติดอยู่ที่หน้าเลยนี่หน่า!

    ก็ไม่รู้สินะ... แล้วแต่นายสิโซโลพูดพร้อมเอามือจับที่ดาบของตัวเองเล็กน้อย

    อ้าวนาย! โรโรโนอา โซโล งั้นสินะ ดูจากดาบฉันก็รู้แล้วคลาวน์พูดพร้อมชี้ไปที่ดาบของโซโลก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง

    ใช่แล้วโซโลตอบสั้นๆ

    ว้าว ดีชะมัดเลย! ฉันอยากสู้กับนายมาตั้งนานแล้ว!” คลาวน์พูดพร้อมฉีกยิ้มไร้เดียงสา

    ถ้าจะสู้กันต้องไปหยิบดาบก่อนน่ะนะ ดาบของฉันอยู่ข้างบนน่ะคลาวน์พูดพร้อมชี้ไปข้างบน ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่ใบหน้าอีกครั้งหนึ่ง... ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรอยู่ที่ใบหน้าเลย!

    เป็นนักดาบที่ไม่พกดาบติดตัว... ยังเรียกตัวเองว่าเป็นนักดาบอีกเหรอโซโลพูดพร้อมมองไปที่หน้าของคลาวน์ แต่เขากลับไม่ทำสีหน้าหงุดหงิดหรือโมโหกับคำของโซโลเลยแม้แต่น้อยแถมยังยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก

    งั้นฉันไปหยิบดาบก่อนนะ เตรียมตัวเอาไว้เล้ย!” คลาวน์พูดด้วยน้ำเสียงสีความสุขก่อนจะวิ่งตรงไปข้างบนในทันที พวกเราทุกคนหันหน้ามามองหน้ากันอย่างงงๆ กับท่าทางของคลาวน์

    เอ่อ... นั่นใช่ตัวจริงงั้นเหรอ?ผม

    จากที่เขาบอก... มันใช่นะ...ราชันย์ตอบด้วยน้ำเสียงงงๆ

    หมอนั่นปกติหรือป่าวน่ะ!?แฟรงกี้

    ไม่รู้ล่ะ... แต่หมอนั่นบอกว่าจะไปหยิบดาบเพื่อมาสู้กับฉัน งั้นก็โอเค...โซโลพูดพร้อมฉีกยิ้ม

    นายจะสู้จริงๆ หรอโซโล!” ผมหันไปถามโซโล

    หมอนั่นท้าสู้กับฉันนี่หน่า ก็ต้องรับอยู่แล้วโซโลพูดพร้อมมองไปที่ที่คลาวน์เคยยืนอยู่ก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปข้างบน

    ฉันมาแล้ว!!~” เสียงของคลาวน์นั้นดังก้องมาแต่ไกล พวกเราทุกคนถอยหลังออกห่างจากตัวของโซโลเพราะเขาได้ให้สัญญาณเอาไว้

    เมื่อเราเดินออกมาไกลพอ เราก็พบกับคลาวน์ที่วิ่งลงมาพอดี

    เฮ้อ... เหนื่อยชะมัด แต่ฉันเอาดาบมาแล้วนะคลาวน์พูดพร้อมโชว์ดาบของตัวเองให้โซโลดู

    ฉันพร้อมแล้วนายพร้อมหรือยัง...?คลาวน์ตั้งคำถามพร้อมกับเอียงคอมองหน้าของโซโล

    โซโลฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจับเข้าที่ดาบแล้วพยักหน้า

    โอเค๊~~

    ปึง!!!!

    สิ้นเสียงของคลาวน์นั้นจู่ๆ เหมือนทุกอย่างถูกหยุดชะงัก ไม่ถึงพริบตาดาบนั้นของคลาวน์พุ่งตรงมาที่โซโลอย่างรวดเร็วเกินบรรยาย! แต่โซโลเองก็เร็วเหมือนกัน เพราะว่าเขานั้นก็หันดาบมาตั้งรับดาบของคลาวน์ได้อย่างทันเวลา!

    กู๊ดด~คลาวน์ฉีกยิ้ม

    อึก...โซโลตกใจกับความเร็วและความแข็งแกร่งของคลาวน์เล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนสีหน้านั้นกลายเป็นรอยยิ้มแทน

    หึ...โซโลฉีกยิ้มพร้อมกับสลัดคมดาบผละออกมาไกลจากตัวของคลาวน์

    ใช้ได้เลยนะ โรโรโนอา โซโลคลาวน์พูดพร้อมหยิบหน้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่ใบหน้าอีกครั้ง

    ดาบขนาดใหญ่ที่พันด้วยผ้าพันแผลของคลาวน์นั้นมีคนแหลมคมทั้งสองด้านและดูเหมือนว่าจะเป็นดาบที่มีชื่อเสียงพอดู เพราะผมเคยได้ยินผ่านๆ มาว่า ยี่สิบดาบหายาก... หนึ่งในนั้นหากดาบไปกระทบกับอะไรจะได้ยินเสียงเหมือนน้ำที่หยดลงอยู่พื้นเสมอและดาบของคลาวน์ก็เป็นอย่างนั้น

    มาต่อเลยนะ~คลาวน์พุ่งตรงมาหาโซโลอีกครั้งก่อนจะตวัดดาบอย่างรวดเร็วโซโลมองที่ดาบนั้นอย่างฉับไวก่อนจะตั้งรับอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

    ชิ้ง!!!

    ทุกการเคลื่อนไหวหยุดชะงัก ในตอนที่สถานการณ์ทุกอย่างแลดูจะเคร่งเครียดมากขึ้นๆ ทุกที จู่ๆ สีหน้าของคลาวน์ก็เปลี่ยนไป และเขาได้ค่อยๆ ดึงดาบออกจากการปะทะแล้วเดินถอยหลังออกมาไกลๆ จากโซโลช้าๆ

    อะไรน่ะ?แฟรงกี้ถามด้วยความสงสัย

    จู่ๆ... ก็หยุดงั้นเหรอ?ผมพูดด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

    เอ่อ... ขอโทษนะ โรโรโนอา โซโล... คงเล่นกันต่อไม่ได้แล้วล่ะ...คลาวน์พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง

    มันถึงเวลาพิพากษานักโทษแล้ว~ เพราะงั้นต้องไปแล้วล่ะ~คลาวน์พูดพร้อมโบกมือให้กับพวกเราทุกคน

    การต่อสู้ยังไม่จบนะโซโลพูดพร้อมพุ่งตรงไปที่คลาวน์อย่างไม่ยอมหยุด

    แต่แล้วจู่ๆ คลาวน์ก็หายไปกับอากาศต่อหน้าต่อตา!!?

    หายแล้วไป...โซโลพูดพร้อมมองไปรอบๆ

    หายไปได้ยังไงน่ะ!” ผมร้องอย่างตกใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น... ผู้มีพลังจากผลปีศาจงั้นเหรอ?

    เราต้องรีบไปช่วยโรบินนะ!” แฟรงกี้พูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าพวกเราทุกคน ตอนนี้เราแทบจะลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว แต่แฟรงกี้ยังจำได้ว่าต้องทำอะไรต่อไป... จริงสิ เราต้องช่วยโรบินนี่!

    จริงสิ เราต้องรีบไปช่วยคุณโรบินราชันย์พูดพร้อมวิ่งตรงไปก่อน แล้วพวกเราก็รีบวิ่งตามไปติดๆ และพบว่า เมื่อเราวิ่งไปได้อีกไม่นาน ก็พบว่าเราอยู่ส่วนบนสุดของที่นี่แล้วและสิ่งที่ทำให้เราตกใจเข้าไปใหญ่ก็คือเราพบกับใครบางคนเข้า...

    ชาเดอรีน!!” ราชันย์พูดด้วยน้ำเสียงตกละตึง

    เพล้ง!!!

    เมื่อเรายืนอยู่ได้ไม่นานจู่ๆ หน้าต่างของอาคารก็แตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างน่าตกใจ แล้วเมื่อมองดูดีๆ แล้ว ก็ผมว่านั่นมันซันจิกับนามินี่หน่า! พวกเขาเป็นคนทำให้กระจกพวกนี้แตกสินะ

    จริงสิ! ตรงหน้าเรามัน... ชาเดอรีนนี่หน่า! เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!

    [จบบันทึกพิเศษ ; ช๊อปเปอร์]

     

    เมื่อทุกอย่างสงบลงบ้างเล็กน้อย ฉันก็เริ่มเล่าเรื่องที่ฉันพบมาตินให้กับซันจิคุงฟังและเขาเองก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับชายปริศนาและฉันก็ได้รู้แล้วว่าชายคนนั้นชื่อว่า ทรอย

    และตอนนี้โรบินอยู่ในอันตรายโดยมีคลาวน์คู่หูของทรอยอยู่เบื้องหลัง... ชาเดอรีนถูกนำตัวไปที่จุดสูงสุดของที่นี้และเป็นที่เดียวกันกับที่โรบินถูกเอาตัวไปซึ่งนั่นแหละคือที่ที่ฉันกับซันจิคุงจะไปต่อจากนี้ เราจะไปช่วยชาเดอรีนและโรบินกัน...

    ฉันคิดว่าชีวิตต่อจากนี้ของฉันคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ... ทรอยรู้แล้วว่าฉันพยายามจะช่วยชาเดอรีนหลบหนี เขาคิดว่าฉันทรยศแล้วมาตินพูดพร้อมกับหลับตาลงเหมือนปล่อยว่างทุกอย่าง

    ทำไมนายต้องช่วยชาเดอรีนด้วยซันจิคุงตั้งคำถาม

    ทำไมน่ะเหรอ... ทำไมถึงต้องอยากรู้กันด้วยนะมาตินชักสีหน้าเหมือนรำคาญกับคำถามเหล่านี้... แต่มันก็เป็นเรื่องที่ฉันอยากรู้เหมือนกันนะ!

    เพื่อเป็นบทพิสูจน์ว่านายจะไม่หลอกเราไงซันจิคุง

    หึ... ไว้ฉันจะบอก... ตอนที่พวกนายช่วยเธอออกมาได้แล้วกันนะมาตินพูดด้วยฉีกยิ้ม

    ...งั้นตกลง เพราะเหตุผลของนายฉันก็ไม่อยากสนใจเท่าไหร่หรอกซันจิคุงพูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ฉันมองไปที่หน้าของมาตินอยู่นานซะจนเขาเองถึงกับต้องขมวดคิ้วมองหน้าฉัน

    เธอจะจ้องฉันอีกนานมั้ย?มาติน

    ...ฉันกำลังดูว่านายโกหกอยู่หรือป่าวยังไงล่ะฉันพูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นยืน

    แล้วได้คำตอบหรือยังล่ะ?มาติน

    ไม่รู้เหมือนกันแฮะ ช่างมันเถอะเนอะฉันพูดพร้อมหันหน้าไปยิ้มให้กับมาติน ก่อนจะวิ่งตรงไปหาซันจิคุงทันที

    จะเป็นการเสียมารยาทมั้ยครับ ถ้าผมจะอุ้มคุณนามิไปที่นั่นซันจิคุงพูดพร้อมกับชี้ไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ

    ไม่หรอกซันจิคุงฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับซันจิคุง

    ครับผม งั้นก็ขอโทษนะครับซันจิคุงพูดพร้อมค่อยๆ ช้อนตัวของฉันขึ้นแล้วเริ่มวิ่งไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว

     

    พรึบ...

    ตอนนี้ฉันกับซันจิคุงยืนอยู่บนปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งใต้พื้นเท้าของฉันนั้นคือที่ที่มีชาเดอรีนและโรบินอยู่

    ผมแนะนำให้ซบอกผมนะครับซันจิคุงพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆ ฉัน ฉันจึงรีบเอามือดันหน้าของซันจิคุงออกไปทันที

    อะไรของนายน่ะฮะ!” ฉันโวยวาย

    จริงๆ แล้วผมไม่ได้มีเจตนาอื่นะครับ แต่ผมต้องกระจก ผมกลัวว่าเศษกระจกจะไปโดนคุณนามิไงคร๊าบ~ซันจิ

    แหม... ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่น้ำเสียงของนายนี่ไม่ค่อยเท่าไหร่เลยนะซันจิคุง

    ตกลงฉันพูดพร้อมเอามือปิดที่หน้าของตัวเองก่อนจะซบหน้าไปที่แผงอกกว้างของซันจิคุงทันที ที่ตัวของซันจิคุงนั้นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยแฮะ

    เอาแล้วนะครับซันจิคุงพูดพร้อมกระชับอ้อมกอดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะกระโดดไปตรงหน้าต่างของอาคารแล้วทำการหันหลังถีบเข้าที่กระจกใสจนมันแตกละเอียด!

    เพล้ง!!!

    เมื่อพวกเราเข้ามาถึงในตัวอาคาร ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมาจากอกของซันจิคุงแล้วมองไปรอบๆ ก็พบกับพวกแฟรงกี้เข้า! ทุกคน!

    แฟรงกี้! ช๊อปเปอร์!” ฉันร้องออกมาพร้อมกับมองไปที่หน้าของทุกคน

    นามิ! ซันจิ!” ทุกคนที่นั้นประสานเสียง ซึ่งนั้นรวมถึงพวกราชันย์เองก็ด้วย

    เธอทำหน้าต่างแตก!” จู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้พวกเราทุกคนต้องหันหน้าไปมอง ปรากฏเป็นชายผมสีน้ำตาลอ่อนที่มีนัยน์ตาสีทองอยู่ ชายคนนี้คือคนเดียวกันกับที่ซันจิคุงเล่าให้ฟังสินะ! เขาคือ คลาวน์!

    คลาวน์!!” ช๊อปเปอร์ขึ้นเสียงด้วยความตกใจ

    เมื่อกี้เรายังสู้กันไม่เสร็จเลยนะ...โซโลพูดพร้อมมองตรงไปที่คลาวน์

    อ้าว โรโรโนอา โซโล! ใช่ ขอโทษที่เล่นต่อไม่ได้นะ พอดีว่าเวลามันหมดก่อนน่ะคลาวน์พูดพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดที่หน้าของตัวเอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าของเขานั้นสะอาดไม่มีอะไรที่เปลื้อนเลยแม้แต่น้อย ทำไมกันล่ะ?

    ข้อแก้ตัวฉันไม่สนใจหรอกนะโซโลพูดพร้อมค่อยๆ ดึงดาบออกมา

    ฉันกำลังจะมาบอกกับนายน่ะทรอย ว่าเราไม่ต้องการชาเดอรีนแล้ว K พึ่งบอกฉันเมื่อกี้คลาวน์ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของโซโล เขาเอาแต่มองตรงที่อากาศที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยแล้วพูดอะไรบางอย่าง

    เขาบอกด้วยว่าให้ปล่อยทุกอย่างที่ทำไปซะ เพราะว่ามันไม่มีค่าอะไรแล้ว เราไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้วล่ะนะ~คลาวน์

    หมายความว่า?จู่ๆ เสียงอีกเสียงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เสียงนั้นเป็นเสียงที่ฉันจำได้ขึ้นหูดี และฉันรู้ว่าเขาจะออกมาจากไหน... และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย

    พรืบ...

    ตัวของทรอยนั้นค่อยๆ โผล่ออกมาจากพื้นดินอย่างช้าๆ เพื่อพูดคุยกับคลาวน์

    ทั้งนิโคล โรบิน ทั้งมัลเฟอร์ ชาเดอรีน ไร้ค่าทั้งหมดนั่นแหละ... เฮ้อ เสียเวลาชะมัดคลาวน์พูดด้วยน้ำเสียงโมโห

    พรืบ...

    จู่ๆ ดินอีกส่วนหนึ่งก็ปรากฏสูงขึ้น ก่อนที่มันจะค่อยๆ คลายเอาใครบางคนออกมา... และคนๆ นั้นก็คือ...!!

    โรบิน!!” พวกเราประสานเสียง ฉันตกใจกับภาพที่เห็นมากจึงรีบหันมองไปหาคนอีกคนหนึ่งที่เรากำลังตามหาอยู่ แล้วในที่สุดก็พบ!

    ชาเดอรีนที่ถูกตรวนด้วยหินไคโรเซคินั้นกำลังนั่งอยู่ที่กลางพื้นห้องขนาดใหญ่ ท่าทางของเธอนั้นไม่ดีเลยแม้แต่น้อย

    งั้นเราจะทำยังไงล่ะ?ทรอยหันไปถามคลาวน์

    ก็... พวกนี้รู้ดีเกินไปแล้วน่ะนะ... คงต้องฆ่าคลาวน์

    “!!!”

     

    [บันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]

    การต่อสู้ของผมกับเจส์ตะ... ยังไม่จบลง

    นายนี่มันอ่อนหัดชะมัดเลยนะหมวกฟาง!~”

    ประโยคนี้เป็นประโยคที่ผมได้ยินมาตลอดหลายร้อยครั้ง เพราะเจส์ตะเอาแต่บินแว๊บไปแว๊บมาข้างหน้าข้างหลังของผมเต็มไปหมด เอาซะจนตอนนี้ผมเริ่มจะสับสนซะแล้ว

    เลิกบินไปบินมาซักทีเส้!” ผมโวยวาย

    อ่อนหัด อ่อนหัด อ่อนหัด~

    หมอนั่นไม่ยอมหยุดบินไปบินมา ผมค่อยๆ รวบรวมสมาธิของตัวเองให้มากที่สุดเพื่อที่จะต่อยหน้าของเจ้าเจส์ตะให้ได้ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยแฮะ หมอนี่เอาแต่พูดจาน่ารำคาญอยู่นั่นแหละ!

    ฮึบ...ผมค่อยๆ ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของเจ้าเจส์ตะ

    ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ก้มตัวลงเอามือดันกับพื้นเอาไว้...

    เกียร์... เซกคอร์น...

    ไอน้ำร้อนๆ ค่อยระเหยออกมาจากตัวของผมอย่างช้าๆ ซะจนผิวของผมเริ่มกลายเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ

    อะไรน่ะ...เจส์ตะบินนิ่งอยู่กับที่แล้วมองมาทางผมอย่างสงสัยการกระทำของผม

    แกตัวเปลี่ยนสีได้ด้วยอย่างงั้นเหรอ~เจส์ตะ

    ก็นะ...ผมพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมาแล้วฉีกยิ้มให้กับเจส์ตะ

    หมดเวลาเล่นแล้วน่ะนะเจส์ตะ!” ผม

    อะไร... อะ!!!”

    ผมพุ่งตัวเข้าไปจับที่ตัวของเจส์ตะด้วยความรวดเร็วก่อนจะต่อยไปที่หน้าของหมอนั่นเต็มแรง!!

    ผัวะ!!! โครม!!!

    ตัวของเจส์ตะกระเด็นไปตามแรงต่อยของผม ก่อนที่ผมจะต่อยรัวๆ ไปตามตัวของเจส์ตะที่กระเด็นไป!

    โกมุ โกมุ โนว... กาโทริงกุ!!!”

    แรงต่อยของผมนั้นระแทกเข้าไปที่ตัวของเจส์ตะอย่างเร็วและแรงอีกครั้ง พร้อมกับฮาคิที่ผมเคลือบไปด้วยนั้นทำให้เจส์ตะไม่สามารถหลบแรงต่อยของผมได้เลยแม้แต่น้อย!

    อั่กก!!!” เสียงของเจส์ตะดังขึ้นพร้อมกับร่างที่ลอยไปกระแทกกับพื้นอย่างจัง!

    ผมกระโดดลงมายืนอยู่ที่พื้นอีกครั้งก่อนจะวิ่งตรงไปหาเจส์ตะ...

    ...ก่อนจะพบว่าหมอนั่นหายไปแล้ว! หายไปไหนเนี่ย!

    “...” ผมหันไปมองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย ก่อนที่ผมจะจับสังเกตได้ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างหลังและพยายามที่จะโจมตีมาทางผม!!

    พรืดด!!

    ผมเอียงตัวหลบพลังอะไรบางอย่างที่ปล่อยมาจากตัวของเจส์ตะได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนที่ผมจะหันหลังไปมองที่เจส์ตะอย่างรู้ทัน

    มีตาหลังหรือไงนะเจส์ตะพูดพร้อมฉีกยิ้ม หมอนั่นโฉบบินมาทางผมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตะคุบตัวของผมให้ลอยขึ้นไปบนอากาศ!

    กึก...

    กรงเล็บของเจส์ตะค่อยๆ บีบแน่นที่ไหล่ของผม จนผมนั้นได้ยินเสียงกระดูกของตัวเองที่ลั่นดังขึ้น!

    ก๊อบ!!

    อึ่ก!!” ผมร้องอย่างเจ็บปวดก่อนจะเอามือจับที่ขาของเจส์ตะเอาไว้แล้วเริ่มใช้ฮาคิ

    บุโซโชคุ โคกะ...” ส่วนข้อมือของผมเริ่มกลายเป็นสีดำ ผมกำมือแน่นที่ข้อเท้าของเจส์ตะจนหมอนั่นเริ่มดิ้นไปมาและปล่อยไหล่ของผมออกทั้งสองข้าง!

    กึก...

    ผมใช้มือจับที่ข้อเท้าของเจส์ตะก่อนจะพยายามเหวี่ยงตัวเองไปมาจนกว่าตัวของเจส์ตะจะเสียหลัก และมันก็ได้ผล!

    เหวออ!!” เจส์ตะร้องเสียงหลงเมื่อผมเปลี่ยนจากเหวี่ยงตัวเองเป็นเหวี่ยงตัวของมันแทน!

    ฟิ้ววว ฟิ้วววว ฟิ้ววววว!!!

    ผมเหวี่ยงตัวของเจส์ตะเป็นวงกลมอยู่บนอากาศก่อนจะเหวี่ยงไปกระแทกกับส่วนบนสุดของภูเขาไฟ!

    พลัก!!!

    อั่ก!!” เจส์ตะร้องพร้อมกระอักเลือดออกมา

    โกมุ โกมุ โนว... เจ็มสแตมป์!!” ผมเตะอัดไปที่ท้องของเจส์ตะอีกครั้งด้วยความแรงมากกว่าเดิม!! เมื่อเท้าของผมกระแทกไปที่หน้าท้องของเจส์ตะก็ทำให้ภูเขาไฟที่แข็งแกร่งนั้นค่อยๆ แตกเป็นรอยร้าวก่อนที่มันจะแรงพอที่จะทำให้เจส์ตะกระเด็นทะลุไปถึงในตัวอาคาร!

    โครม!!!

    กรี๊ดดดดด!!!”

    เสียงกรี๊ดที่คุ้นหูทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง และเมื่อผมสังเกตดีๆ แล้ว... พวกนามินี่หน่า! ไหงไปอยู่ตรงที่เจ้าเจส์ตะกระเด็นไปได้ล่ะเนี่ย O___O!!!

    [จบบันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]

     

    งั้นเราจะทำยังไงล่ะ?ทรอยหันไปถามคลาวน์

    ก็... พวกนี้รู้ดีเกินไปแล้วน่ะนะ... คงต้องฆ่าคลาวน์

    “!!!”

    สิ้นเสียงนั้นไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ที่จู่ๆ ก็มีเสียงของอะไรบางอย่างที่ถูกกระแทกเข้าที่กำแพงซะเต็มแรง ก่อนที่ไม่นานร่างๆ หนึ่งจะกระเด็นเข้ามาในตัวตึกผ่านตัวของฉันกับซันจิคุงไปแค่นิดเดียว!

    โครม!!!

    กรี๊ดดดดด!!!” ฉันร้องด้วยความตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซันจิคุงค่อยๆ ปล่อยตัวฉันลงกับพื้น เมื่อฉันตั้งท่ายืนได้แล้วก็รีบมองไปที่ต้นกำเนิดของร่างที่ปลิวมานี้

    ลูฟี่!!” ฉันร้องด้วยความตกใจ ทุกอย่างแลดูกลหน ฉันมองไปที่ร่างที่กระเด็นมาและมันไม่ผิดแน่ๆ นั่นคือ เจส์ตะ!!

    ฟิ้ววว!! หมับ!!!

    มือที่ยืดยาวของลูฟี่ยืดตรงที่จับเข้าที่กำแพงที่แตกหักของอาคารก่อนจะเขาจะเด้งตัวเข้ามาในอาคารในที่สุด

    ทุกคน! ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!” ลูฟี่ถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

    ไม่เป็นไรหรอก แค่เฉียดฉิวซันจิพูดพร้อมมองไปที่หน้าของลูฟี่

     

    หึ... บังอาจมากนะ ที่มาทำกับลูกน้องของฉันได้...

    จู่ๆ ใครคนหนึ่งที่เราลืมไปสักวินาทีก็พูดขึ้น และนั้นคือคลาวน์นั่นเอง เขามองมาตรงหน้าของพวกเราทุกคนอย่างเครียดแค้นมือของเขานั้นกำลังจับที่ตัวของเจส์ตะที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น

    ว่าไงนะ เจส์ตะคือพวกพ้องของเขางั้นเหรอ!?

    คงจบที่ตายอย่างเดียวไม่ได้แล้วล่ะนะ!” คลาวน์พูดพร้อมมองหน้าพวกเราทุกคน เขาชูมือขึ้นเหนือหัวก่อนที่จู่ๆ ก็มีลมไปก่อตัวกันอยู่ที่มือของเขา ทุกอย่างที่อยู่ที่พื้นปลิวไปปลิวมาและเข้าไปสู่ลมที่มือของเขาอย่างบ้าคลั่งเหมือนเฮอริเคน!

    ไม่ตายดีแน่!!” คลาวน์พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    เจ้านี่เป็นใครน่ะ!” ลูฟี่ร้องอย่างตกใจ

    โรบินจัง!!” ซันจิคุงพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าตัวของโรบินที่กำลังสลบอยู่ค่อยๆ เคลื่อนตัวปลิวไปตามแรงของลม ซันจิคุงจึงรีบวิ่งตรงไปเพื่อดึงตัวของโรบินออกมาด้วยความรวดเร็ว!

    พลึบ!!

    ซันจิคุงคว้าเข้าที่ตัวของโรบินก่อนจะอุ้มตัวเธอนั้นตรงมาทางเราเพื่อความปลอดภัย

    กะ... เกิดอะไรขึ้นกับโรบินเนี่ย!” ลูฟี่ทำท่างงเข้าไปใหญ่

    ไว้หนีได้ค่อยเล่าแล้วกันนะกัปตัน!” ซันจิคุงพูดพร้อมมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะพบเข้ากับตัวของชาเดอรีนที่กำลังหมดแรงอยู่ตรงกลางห้อง

    ชาเดอรีนจัง!” ซันจิ

    เดี๋ยวฉันไปช่วยเอง!” ลูฟี่พูดพร้อมพุ่งตัวตรงไปทางชาเดอรีนก่อนจะพยายามดึงตัวของเธอออกมา... ก่อนที่จะจับไปจับเข้าที่หินไคโรจังๆ!

    โอย... หมดแรง~ลูฟี่พูดพร้อมล้มลงไปกองกับพื้น

    โถ่ เจ้าบ้าเอ๊ย!!” พวกเราทุกคนประสานเสียงทันที

    พลึบๆๆ!! หมับ!

    โซโลพุ่งตัวไปหาลูฟี่และชาเดอรีนอย่างไม่บอกกล่าว เขาเอาดาบฟันเข้าที่หินไคโรจนขาดสะบั้นแล้วอุ้มทั้งชาเดอรีนและลูฟี่ออกมาทันที

    เราต้องรีบหนี!!” ฉันมองไปที่เฮอริเคนขนาดย่อมที่มือของคลาวน์อย่างหวาดผวาก่อนจะสั่งให้ทุกคนวิ่งหนี ถ้าอยู่ต่อไปมีหวังถูกดูดไปแน่ๆ!

    ตุ๊ดุ๊ดๆๆ...

    เสียงของแมลงโทรสารดังขึ้นจากตัวของทรอยในระหว่างที่พวกเรากำลังพยายามหนี คลาวน์ของคลาวน์นั้นเหมือนจะบ้าคลั่งไม่ได้สติไปซะแล้ว ในตอนนี้เขาคงได้แค่คิดว่าทำลายสถานที่แห่งนี้อย่างเดียว!

    กิ๊ก...

    ว่าไงครับ Kทรอยกรอกเสียงลงไปในแมลงโทรสารด้วยท่าทีใจเย็นมาก เขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยถึงแม้เฮอริเคนลูกนั้นจะอยู่ข้างๆ เขาก็ตาม!

    อ๋อได้ครับ... จะทำเดี๋ยวนี้...

    เมื่อจบประโยคนั้นฉันก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย เพราะว่าตอนนี้พวกเรากำลังวิ่งหนีออกจากตัวตึกอย่างร้อนรน!

    เฮอริเคนนั้นยังไม่หยุดไป มันกำลังจะกลืนกินทุกอย่างไปในพริบตา พวกเราตัดสินใจกระโดดลงจากตัวตึกโดยมีผู้ช่วยเหลือหลายอย่างทั้งลูฟี่และซันจิคุงและบางคนที่พอจะช่วยตัวเองได้ก็กระโดดหนีเฮอริเคนลูกนั้นที่มุ่งตรงมาทางเราอย่างทันเวลาพอดี!

    โครม!!!

    ตัวตึกทั้งหมดถูกกลืนกินไปในเฮอริเคนยักษ์อย่างน่ากลัว โชคดีที่พวกเราตัดสินใจกระโดดหนีออกมาจากตัวตึกเสียก่อน ไม่งั้นพวกเราแย่แน่ๆ!

    ลูฟี่รวบตัวของพวกเราทุกคนไปไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพลิกตัวเอาหลังลงไปที่พื้นรับแรงกระแทกแทนพวกเราทุกคน

    ปึง!!!

    เมื่อตัวของลูฟี่กระแทกกับพื้นพวกเราทุกคนก็กระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองไปบนตึกที่เมื่อก่อนเป็นปากปล่องภูเขาไฟแต่ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว... แล้วพวกคลาวน์กับทรอยล่ะ? พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน!?

    ทุกคนไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!” เสียงของราชันย์ดังขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปมอง

    ฉันไม่เป็นไรฉันตอบกลับไปก่อนเป็นคนแรกก่อนจะมองตรงไปที่คนอื่นๆ บ้าง

    พวกเราไม่เป็นไร~ช๊อปเปอร์พูดพร้อมมองหาผู้บาดเจ็บคนอื่นบ้าง

    อึก...

    เสียงๆ หนึ่งทำให้พวกเราต้องหันไปมองนั่นก็คือโรบินและชาเดอรีน ตอนนี้โรบินค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งดูเหมือนว่าเธอจะได้สติแล้ว

    ...เกิดอะไรขึ้นโรบินพูดพร้อมมองไปรอบๆ ตัวของเธอ เธอคงจะสลบไปนานจนไม่รู่สถานการณ์เท่าไหร่สินะ ฮ่าๆ

    ไว้ผมจะเล่าให้ฟังนะครับโรบินจังซันจิคุงพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับโรบิน ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งมาพยุงตัวของโรบินให้ลุกขึ้นจากพื้น และก็เดินมาดึงตัวฉันให้ลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปหาชาเดอรีน คนที่เขาต้องการจะช่วยมากที่สุด

    ปลอดภัยใช่มั้ยครับซันจิคุงพูดพร้อมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้กับชาเดอรีน เธอมองหน้าของซันจิคุงเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มคืนให้

    ปลอดภัยค่ะ...ชาเดอรีน

    โยโฮะโฮะโฮ~~เสียงหัวเราะที่คุ้นหูทำให้ฉันต้องเหลียวหลังไปมอง เมื่อมองไปแล้วก็พบว่าเป็นบรู๊คกับอุซปนั่นเอง! อุซป! ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการปฐมพยาบาลแล้วนะ

    ฉันมาแล้วนะ!!~” อุซปพูดพร้อมโบกมือไปมาบนเรือกล้วยของเขาที่ไถลมากับพื้นดิน ก่อนที่มันจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเราทุกคนพอดี

    ทีนี้พวกเราก็รวมตัวกันครบแล้วสินะแฟรงกี้

    ไม่ครบ... พวกพ้องของฉันยังไม่มาเลย...ราชันย์พูดพร้อมมองไปที่ตัวตึกที่พังทลาย ดูจากสภาพแล้วไม่น่าที่จะมีใครอยู่ในนั้นได้อีกแล้ว...

    กัปตัน...รีทาวน์พูดพร้อมกับเอามือมาวางที่ไหล่ของราชันย์อย่างพยายามปลอบประโลม

    ...ราชันย์นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ตอนนี้เขาคงกำลังรอพวกคีฟาร์และคนอื่นๆ ที่อยู่ในตัวตึกนั่น แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีใครออกมาสักที... พวกเขาคงไม่โดนเฮอริเคนพัดไปหรอกนะ... ไม่หรอกมั้ง...

    ตุ๊ดุดๆๆๆ...

    จู่ๆ เสียงของแมลงโทรสารของรัชนย์ก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกดรับอย่างช้าๆ

    ว่าไง...ราชันย์

    (กัปตัน!! นี่คีฟาร์นะ ตอนนี้พวกเราทุกคนปลอดภัยอยู่ที่เรือ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ กำลังจะไปรับเดี๋ยวนี้แหละ!)

    เสียงของปลายสายทำให้ราชันย์นิ่งเงียบไปเลย เขาเงียบไปนานก่อนจะค่อยๆ ระบายยิ้มออกมาอย่างหายห่วง

    เจ้าพวกบ้าฉันไม่ได้เป็นห่วงพวกแก รีบเอาเรือมารับเลยนะ!” ราชันย์

    (แหม กัปตันนี่ล่ะก็! ครับผม!!)

    เมื่อปลายสายวางไป ราชันย์จึงหันหน้ามามองพวกเราก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

    พวกเราทำสำเร็จนะราชันย์

    อื้ม พวกเราทำสำเร็จฉันพูดพร้อมกับมองไปที่ชาเดอรีนด้วย ตอนนี้เธอกำลังยืนนิ่งมองพวกเราอยู่ห่างๆ

    ทุกอย่างเจ๋งชะมัด!!~” ลูฟี่กระโดดตัวลอยขึ้นเหนือหัวของทุกคน ก่อนที่พวกเราจะหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน นี่สิสิ่งที่พวกเราต้องการ... นี่แหละ...

     

    [บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    ระหว่างที่พวกเรากำลังรอเรือของพวกคีฟาร์มารับ พวกคุณนามิกับลูฟี่ก็ได้ร่วมฉลองกันโดยเต้นรำกันไปพลางๆ ก่อน แต่เรื่องอาหารคงต้องรอหน่อยนึงเพราะว่าที่นี่มันไม่มีวัตถุดิบเลย ฮ่าๆ

    ถ้าไม่มีตะเกียบก็เอากิ่งไม้ก็ได้นี่หน่า!” ลูฟี่พูดพร้อมวิ่งตรงไปเอากิ่งไม้มาดามจมูกของตัวเองเอาไว้แล้วเริ่มเต้นทันที ทุกคนแลดูจะมีความสุขและสนุกมากๆ ยกเว้นเพียงแต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังแยกตัวไปนั่งที่อื่นไม่ยอมมาร่วมสังสรรค์กับคนอื่นเขา... ผู้หญิงคนนั้นก็คือชาเดอรีนจังนั่นเอง

    เมื่อเห็นอย่างนั้นผมจึงค่อยๆ เดินตรงไปหาเธอทันที

    ...ซันจิคุง?เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ชาเดอรีนจังก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของผมทันที

    ครับผม ทำไมถึงไม่ไปสังสรรค์กับคนอื่นๆ ล่ะครับผม

    หึ... ไม่ไหวหรอกมั้ง ยังไงฉันก็คนของรัฐบาลล่ะนะ... ถึงแม้จะเป็นอดีตไปแล้วก็เถอะชาเดอรีนจัง

    ไม่หรอกครับอย่างพวกนั้นไม่คิดแบบนั้นหรอกผมพูดพร้อมค่อยๆ เดินไปนั่งข้างๆ ตัวของชาเดอรีนจัง เธอจึงเขยิบที่แบ่งให้ผมนั่งด้วย

    จริงสิ... แล้วทีนี้ชาเดอรีนจังจะทำยังไงต่อครับผมหันไปถามชาเดอรีนจัง นัยน์สองสีของเธอก็ยังโดดเด่นเหมือนเคย

    อืม... ฉันยังไม่ได้คิดเลยแฮะชาเดอรีนจัง

    งั้นเหรอครับ...ผม

    อื้ม... ฉันอยากจะลองเดินทางไปเรื่อยๆ ดูน่ะ... จนกว่าจะเจอความฝันของตัวเองชาเดอรีนจัง

    ความฝันของตัวเอง?ผม

    ใช่แล้วล่ะ... ฉันแอบอิจฉานะที่ทุกคนมีความฝันน่ะ...ชาเดอรีนจัง

    ชาเดอรีนจังไม่เคยมีความฝันเลยเหรอครับ ตั้งแต่ตอนเด็กๆ น่ะครับผม

    ไม่เคยมีหรอกของแบบนั้นน่ะ... แต่เดี๋ยวอนาคตไปฉันต้องมีความฝันแน่ๆ และฉันจะตามหามันให้เจอชาเดอรีนจังพูดพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นยืน ผมจึงลุกขึ้นยืนตามเธอบ้าง

    ไปปาร์ตี้เถอะครับผม

    อื้ม ไปด้วยกันสิซันจิคุงชาเดอรีนจังพูดพร้อมยื่นมือมาตรงหน้าของผม ผมส่งยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะโค้งให้แล้วจับเข้าที่มือเล็กๆ ของเธอ...

     

    ดูนี่สิซันจิ! ตลกดีมั้ยล่ะ! ฮี่ๆๆลูฟี่ที่เอาไม้มาดามจมูกเอาไว้หันมามองหน้าของผม ผมจึงหัวเราะกับการกระทำของหมอนี่เล็กน้อย

    เล่นแบบนี้บ่อยๆ มันไม่ดีนะเฟ้ยผมพูดพร้อมมองไปที่หน้าของลูฟี่

    อ้าวนี่ ชาเดอรีนว่าไงบ้างลูฟี่หันหน้าไปให้ความสนใจกับชาเดอรีนจังบ้าง เธอหันหน้ามาแล้วส่งยิ้มให้กับลูฟี่ ก่อนที่เธอจะเดินถอยหลังไปเล็กน้อยแล้วโค้งตัวลงต่อหน้าพวกเราทุกคน

    ฉันอยากจะบอกว่า... ขอบคุณมากๆ นะ!” ชาเดอรีนจัง

    ...

    ขอบคุณจริงๆ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกคุณนะมาช่วยฉัน... ฉันคิดว่าฉันจะจบชีวิตลงที่นี่แต่ก็ยังมีคุณที่มาคอยช่วยเหลือ... ขอบคุณจริงๆ...ชาเดอรีนจัง

    “...”

    แต่ปาร์ตี้ย่อมมีวันเลิกรา... ฉันเองก็เหมือนกัน... ทุกคนได้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน... และฉันจะไม่สนใจว่าใครจะตั้งค่าหัวให้ฉันหรือแม้กระทั่งตามฆ่าฉันก็ตาม... ฉันจะไม่สนใจอีกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะตามหาความฝันค่ะชาเดอรีนจังพูดขึ้นพร้อมกับค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าพวกเราทุกคน

    ขอบคุณทุกคนนะแต่คงจะต้องลากันไปตรงนี้...ชาเดอรีนจัง

    เธอพูดอะไรของเธอน่ะ...ลูฟี่พูดพร้อมมองไปที่หน้าของชาเดอรีนจังอย่างงงๆ มันทำให้ชาเดอรีนจังนั้นงงไปเหมือนกัน

    ...ต้องไปด้วยกันสิ เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่หรอ?ลูฟี่พูดพร้อมมองไปที่หน้าของชาเดอรีนจัง

    มะ... หมายความว่ายังไงเหรอ?ชาเดอรีนจังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอเล็กน้อยเหมือนว่าเธอกำลังจะร้องไห้

    เธอเป็นพวกพ้องของฉันแล้วไง... ไม่ใช่เหรอ?ลูฟี่เอียงคอถามชาเดอรีนจังมันทำให้เธอค่อยๆ ก้มหน้าลงแล้วน้ำตาเริ่มไหล

    หมายความว่ายังไง... นะ?ชาเดอรีนจัง

    เธอนี่พูดไม่รู้เรื่องเลยแฮะ =___=!!” ลูฟี่พูดพร้อมกอดอกแน่น

    ฮะ... ฮึก... นั่นสิเนอะ... พูดไม่รู้เรื่องเลย... ฮึก...ชาเดอรีนจังพูดพร้อมกับปาดน้ำตาของตัวเองแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่

    กัปตันนน!!!~”

    เสียงของคีฟาร์นั่นสยบทุกอย่าง พวกเราทุกคนหันหน้ามองไปที่เรือของราชันย์ อา... มาแล้วงั้นเหรอ

    มารับแล้วนะกัปตัน!~” นาอิ

    เห็นแล้วน่า!” ราชันย์พูดพร้อมหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

    พวกเราทุกคนขึ้นไปบนเรือของเจ้าราก่อนที่จะอาศัยเรือนั้นไปส่งถึงเรือซันนี่ของพวกผม วันนี้เราอาจมีงานฉลองก็ได้นะครับ~

     

    แล้วพวกนายล่ะจะเอายังไงต่อผมถามราชันย์ไปเมื่อพวกเราทุกคนบวกกับสมาชิกใหม่ของกลุ่มหมวกฟางอย่างชาเดอรีนจังอยู่ที่เรือซันนี่แล้ว

    ก็ต้องตามหาตัวของทัชต่อไปล่ะนะ... ในเมื่อเจส์ตะไม่อยู่อีกแล้วเราก็ต้องตามหาต่อไปน่ะนะราชันย์

    พวกนายนี่ไม่ยอมแพ้เลยนะลูฟี่หัวเราะ

    แน่นอนล่ะ ไม่มีทางยอมแพ้อยู่แล้วราชันย์พูดพร้อมหัวเราะ

    งั้นก็โอเค หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกนะ~คุณนามิพูดพร้อมโบกมือลาให้กับราชันย์

    แล้วเจอกันครับราชันย์พูดพร้อมส่งยิ้มให้พวกเราทุกคนก่อนที่หมอนั่นจะเดินไปที่เรือของตัวเองอย่างช้าๆ แล้วหันหน้ามาโบกมือให้เรา

    ผมเดินตรงไปหาชาเดอรีนจังด้วยความสุขก่อนจะกล่าวทักทายเธออีกครั้ง

    ต่อไปนี้มีปัญหาอะไรถามผมได้นะคร๊าบ~ผม

    แน่นอนอยู่แล้ว ฉันจะไม่ให้เธอว่างเลยล่ะ ซันจิคุงชาเดอรีนจัง

    ครับผม!” ผมพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับชาเดอรีนจังอย่างมีความสุข...

    ก่อนที่ทุกอย่างจะแปลกไป...

     

     

     

     

    ฟิ้วววว!!!~

     

     

     

     

     

    ปัง!!!

     

     

     

     

     

    “!!!” พวกเราทุกคนตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า

    ร่างกายของชาเดอรีนจังค่อยๆ ล้มลงมาตรงหน้าของผม ผมรีบคว้าตัวของเธอและกอดเธอเอาไว้ เลือดสีแดงไหลออกมาเปื้อนมือและเสื้อผ้าของผมเต็มไปหมด

    ทุกอย่างบนโลกเหมือนหยุดนิ่งไปในวินาทีนี้ ชาเดอรีนจังไม่พูดอะไรอีกหลังจากเสียงของปืนนั้น... และเธอก็ไม่ลืมตาขึ้นมาอีกเลย...

    ...ชะ...

    ชาเดอรีนจัง!!!”

    [จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    ขอบคุณธีมสวยๆ จาก

     

    :-Daisy



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×