ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Luffy & Nami] สุดขอบของปลายฟ้าคือความฝัน '

    ลำดับตอนที่ #40 : [ตอนที่37] :: หันหัวเรือกลับเพื่อช่วยเหลือ คำร้องขอที่น่าตกใจของพลเรือตรี มาติน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      20
      23 ต.ค. 56

    ตอนที่37

    หันหัวเรือกลับเพื่อช่วยเหลือ คำร้องขอที่น่าตกใจของพลเรือตรี มาติน

    หมวกฟาง!!”

    คนที่ตะโกนมานั้นก็คือ ราชันย์ นั้นเอง... หา!! ราชันย์ O___O!!!

    นายมาได้ยังไงเนี่ย!!” ลูฟี่ร้องอย่างตกใจ

    ฉันมีเรื่องที่จะบอกนาย!” ราชันย์พูดพร้อมเทียบเรือมาติดกับเรือซันนี่แล้วกระโดดเข้ามาในเรือของพวกเรา

    ฉันรู้ที่อยู่ของเจส์ตะและชาเดอรีนแล้ว!” ราชันย์

    หา!!”

     

    พวกเราประสานเสียงด้วยความตกใจ... หมายความว่ายังไง O__O!?

    นายรู้วิธีไปที่เฟกิเลอร์ ทรูลูโน่ งั้นเหรอ?ซันจิคุงถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    ป่าวราชันย์

    ...งั้นที่นายพูดนั้นหมายถึงอะไร =___=?ซันจิ

    ที่ฉันพูดหมายถึงชาเดอรีนยังไม่ถูกส่งตัวไปที่เฟกิเลอร์ต่างหากล่ะ... โชคดีนะเนี่ยที่ตามพวกนายมาทันน่ะ เฮ้อ...ราชันย์พูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย

    งั้นพวกนั้นอยู่ที่ไหนกันล่ะ?แฟรงกี้หันไปถามราชันย์

    พวกชาเดอรีนอยู่ไม่ไกลหรอก จริงๆ แล้วแค่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะโอคุฮิซิททอมนั่นแหละ เราต้องย้อนกลับไปนะราชันย์พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้พวกเรา

    นายจะบ้าหรือไง! เราพึ่งหนีพวกตำรวจของเกาะนั้นมาได้นะ จะให้กลับไปอีกงั้นหรอ!” อุซป

    ไม่จำเป็นต้องไปจอดเรือที่เดิมหรอก เพราะที่ๆ ชาเดอรีนอยู่มันอยู่อีกส่วนหนึ่งนะ... เขาไม่นับรวมว่าเป็นโอคุฮิซิททอมหรอกนะ แค่อยู่บนเกาะเดียวกันเท่านั้นราชันย์

    แล้วนาย... รู้เรื่องนี้ได้ยังไงซันจิถามอย่างไม่ไว้ใจ เขาหรี่ตามองไปที่ราชันย์เล็กน้อยก่อนจะมองไปที่รีทาวน์ที่เดินมาขนาบข้างของราชันย์

    ก็จู่ๆ เจ้าเจส์ตะก็ส่งแมลงโทรสารมาบอกฉัน... ฉันไม่รู้สาเหตุหรอกนะ แต่จู่ๆ หมอนั่นก็บอกมาราชันย์

    จู่ๆ ก็บอกมางั้นเหรอ? อยู่ดีๆ ก็บอกที่อยู่ของตัวเองให้ศัตรูรู้เนี่ยนะ?ซันจิพูดขึ้นเสียงสูงอย่างไม่เชื่อในตัวของราชันย์เลยแม้แต่น้อย

    ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้สาเหตุหรอก แต่จู่ๆ หมอนั่นก็บอกมาราชันย์ย้ำ

    เราจะเชื่อได้ยังไง...ซันจิ

    มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอราชันย์ลูฟี่แทรกถามขึ้นมาก่อนที่ซันจิจะพูดจบประโยค ราชันย์จึงหันหน้ามาให้ความสนใจกับลูฟี่ทันที

    จริงสิ แค่เราต้องย้อนเรือกลับไปเท่านั้นแหละนาอิออกความเห็นแทนราชันย์

    จริงเหรอ! งั้นก็ดีเลย เราไปกันเลยเถอะ!” ลูฟี่ฉีกยิ้ม

    นายจะบ้าหรอลูฟี่ พวกนี้อาจจะโกหกเราก็ได้นะ!” ซันจิหันไปโวยใส่ลูฟี่

    แต่หมอนี่บอกว่าไม่ได้โกหกนะ...ลูฟี่

    ใช่ กัปตันเราไม่ได้โกหก และทุกอย่างที่พูดคือเรื่องจริงรีทาวน์เน้นย้ำกับประโยคที่พูดพร้อมกับมองไปที่หน้าของซันจิอย่างไม่หวั่นเกรง

    ยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจพวกนายซันจิ

    แต่มันเป็นข้อมูลเดียวที่เรามีนะ... แถมเป็นพวกราชันย์ด้วย... ไม่น่าจะโกหกเรานะ...ช๊อปเปอร์

    จะแน่ใจได้ยังไงล่ะ!” ซันจิ

    แต่มันเป็นข้อมูลเดียวของเราจริงๆ นะ ซันจิคุง ราชันย์บอกว่าชาเดอรีนอยู่ที่นั่น ฉันเชื่อเขานะ เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกกันนี่...ฉัน

    คุณนามิ...ซันจิคุงพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน

    ใช่ เราไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกพวกนาย อีกอย่าง เราจะไปที่นั้นเพื่อที่จะไปหาเจส์ตะเหมือนกันรีทาวน์

    คิดว่ายังไงล่ะ พวกเราไม่ได้ขอให้ตามพวกเราไปหรอกนะ แค่อยากขอให้เชื่อกันสักครั้ง...นาอิ

    “...” พวกเรานิ่งเงียบไม่พูดอะไร ก่อนจะหันไปมองหน้ากันอย่างปรึกษา

    โอเค พวกเราจะไป!” ลูฟี่ประกาศก้อง

    เดี๋ยวก่อนสิลูฟี่! เรายังไม่ได้ตกลงกันเลยนะ!” อุซปโวยวาย

    อ้าว... ก็เราต้องการที่อยู่ของยัยนั่นไม่ใช่หรอ ตอนนี้ก็ได้มาแล้ว... มันไม่ดีหรือไง?ลูฟี่ถามด้วยหน้าใสซื่อ

    ...ซันจิ

    โอเค... ฉันเห็นด้วยกับลูฟี่นะ ทุกคนว่ายังไงล่ะ?ฉันหันไปถามทุกคน

    ฉันพร้อมจะไปทุกที่ที่กัปตันอยากจะไปน่ะนะแฟรงกี้พูดพร้อมหัวเราะ

    ฉันก็เหมือนกันโรบิน

    ผมพร้อมจะไปทุกที่ขอรับ~บรู๊คเองก็ออกความเห็นบ้าง

    ฉันจะยังไงก็ได้ล่ะนะโซโล

    ฉัน... เอ่อ... เป็นไงเป็นกันเส้ =[]=!!” อุซปพูดทั้งๆ ที่ขานั้นสั่นไม่หยุด

    แล้วนายล่ะซันจิ?ลูฟี่หันหน้าไปมองหน้าของซันจิคุง

    ...เฮ้อ ฉันจะจับตามองพวกแกตลอดเวลาเลย!” ซันจิคุงพูดพร้อมกับชี้ไปที่พวกราชันย์อย่างไม่ไว้ใจสุดขีด มันเพราะอะไรกันนะ ทำไมซันจิคุงถึงไม่เชื่อใจพวกราชันย์สักที ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว

    เอาเถอะพี่ชาย~รีทาวน์พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

    งั้นเราก็ต้องหันหัวเรือกลับสินะฉันพูดพร้อมกับหันไปมองหน้านาอิ จริงๆ แล้วนาอิคือต้นหนเรือของกลุ่มโจรสลัดผมทองน่ะนะ

    ใช่แล้ว หันกลับไปแล้วก็ตามเรือพวกเรามาแล้วกันนะนาอิพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับฉัน

    โอเค ได้ยินกันหมดแล้วนี่! ไปๆ ช๊อปเปอร์ หันหัวเรือไปทางหกนาฬิกานะ! โซโลไปดึงใบเรือให้แน่นๆ ทุกคนประจำที่นะ ไปๆๆฉันพูดพร้อมกับปรบมือไปตามจังหวะการพูด ทุกๆ คนวิ่งไปตามตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง พวกนาอิเองก็เริ่มวิ่งกลับไปที่เรือของตัวเองแล้ว ราชันย์เองก็กำลังเดินไปที่ไม้แผ่นใหญ่ที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างเรือของพวกเรากับเรือของเขา

    ไหวมั้ยผมทอง!” ฉันพูดหยอกๆ พร้อมเดินไปใกล้ๆ กับราชันย์

    ฮ่ะๆ ไหวน่าราชันย์พูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นยืนบนแผ่นไม้ใหญ่

    ขอบคุณที่มาบอกพวกเรานะฉัน

    ...เรื่องเล็กน่าราชันย์พูดพร้อมหัวเราะแล้วเขาก็ก้าวไปที่เรือของเขาอย่างรวดเร็ว

    แผ่นไม้ใหญ่ที่เป็นตัวเชื่อมเรือเรากับเรือของราชันย์ถูกดึงออกไป พร้อมกับเรือของราชันย์ที่เริ่มเคลื่อนที่ โชคดีของพวกเราจริงๆ ที่สายลมเป็นใจทำให้เรือซันนี่เคลื่อนที่ไปอย่างไม่มีอุปสรรค

    เฮ้...

    “!!!”

    เสียงที่คุ้นหูพัดมาตามสายลมทำให้ฉันตกใจมาก เพราะเหมือนเสียงนั้นกระซิบที่ข้างหูของฉันเลย! เมื่อฉันหันไปมองซ้ายมองขวาก็ไม่พบใครสักคน... อะไรเนี่ย... เสียงนั้นมันคุ้นหูจังนะ...อบอุ่นมากด้วย...

    ฟิ้วว~

    สายลมเย็นๆ พัดเข้ามาปะทะกับใบหน้าของฉันเบาๆ ทำให้ฉันหลับตาลงนึกถึงเรื่องเก่าๆ... อื้ม... คาเซคิ...

    คุณนามิครับ!”

    เพราะเสียงของซันจิคุงทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ทันที ก่อนที่ฉันจะหันหน้าไปมองหน้าของซันจิคุงอย่างยิ้มๆ

    อะไรหรอฉัน

    ทำไมคุณนามิถึงเชื่อใจเจ้านั่นนัก ผมว่าหมอนั่นไม่เห็นหน้าไว้ใจเลย!” ซันจิคุงพูดพร้อมกับชี้ไปที่ที่ราชันย์ยืนอยู่ ฉันมองตามนิ้วของซันจิคุงไปก็พบกับราชันย์ที่กำลังมองมาทางนี้พอดี

    ก็ราชันย์ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกเรานี่หน่าฉัน

    แต่ผมคิดว่าหมอนั่นจะต้องปิดบังอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ... มันต้องมีอะไรสักอย่างซันจิคุงพูดพร้อมครุ่นคิด

    ไม่เอาน่าซันจิคุง... อย่าคิดแบบนั้นเลยฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับซันจิคุง

    ...ไม่เป็นไรครับ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะเป็นคนปกป้องคุณนามิและโรบินจังเอง!” ซันจิคุงพูดพร้อมกับยืนตัวตรงแล้วส่งยิ้มให้กับฉัน

    มือซ้ายเป็นอะไรหรือป่าวครับคุณนามิ ทำไมมันช้ำๆซันจิคุงพูดพร้อมกับดึงมือข้างซ้ายของฉันไปดู... อ้อ แผลที่ฉันโดนยัยวาเนสซ่าเหยียบยังไงล่ะ คิดแล้วก็แค้นไม่หายเลย =___=^

    ฉันหกล้มน่ะฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับซันจิคุง

    ไปให้ช๊อปเปอร์ดูหรือยังครับ ผมว่ามันยังช้ำๆ อยู่นะซันจิคุงพูดพร้อมกับกดที่รอยช้ำของฉันเบาๆ ฉันกระตุกมือเพราะความปวดเล็กน้อย ทำให้ซันจิคุงรีบปล่อยมือออกจากฉันทันที

    เจ็บหรอครับ! ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ =[]=!!” ซันจิคุง

    อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก มันเริ่มหายแล้วล่ะ ฉันไปให้ช๊อปเปอร์ดูมาแล้ว ฉันพึ่งดึงผ้าพันแผลออกไปได้ไม่นานเองฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มให้ซันจิคุง

    อ๋อ งั้นก็ดีแล้วล่ะครับ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วซันจิคุงพูดพร้อมปัดผมที่ปรกหน้าของฉันออกเล็กน้อย นิ้วของเขาสัมผัสโดนที่หน้าผากของฉันเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกเย็นๆ ที่หน้าผากได้

    ซันจิ!!!~” เสียงของลูฟี่ดังมาจากด้านข้างของฉัน ยังไม่ทันที่ฉันกับซันจิคุงจะหันหน้าไปมองด้วยซ้ำ จู่ๆ ร่างของลูฟี่ก็กระแทกเข้ากับซันจิคุงเต็มๆ จนทำให้ตัวของซันจิคุงนั้นกระแทกไปที่ข้างๆ ของเรือซันนี่!

    ตู้มม!!!

    โอ๊ยย!! อะไรของนายเนี่ย!!” ซันจิคุงโวยวายทันที

    ป่าวหรอก ฉันแค่อยากทักทายน่ะ!” ลูฟี่พูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นยืน เขาหันหน้ามามองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้ว

    ผมเธอมันแปลกๆ นะ!” สิ้นเสียง ลูฟี่ยื่นมือมาจับที่หัวของฉันก่อนจะขยี้มันอย่างไม่ใยดี กรี๊ดดดดดด =[]=!!!

    ผัวะ!!!

    ทำบ้าอะไรของนายย้า!!” ฉันเตะเข้าไปที่สีข้างของลูฟี่จนตัวเขาปลิวไปอีกฝั่งของเรือ ตามด้วยเสียงโวยวายของฉันเป็นสายยาวซะจนพวกราชันย์ต้องหันหน้ามองมาที่เรือของพวกเรา

    ขยี้ผมของฉันมาได้นะ นายคิดว่ามันหวีง่ายมากเลยหรือไงฮ้า!!” ฉันพูดพร้อมวิ่งไปชกที่หัวของลูฟี่อีกรอบอย่างเหลืออด

    ขะ...ขอโต๊ด =[]=!!” ลูฟี่

    วิ่งไปหยิบหวีมาให้ฉันเดี๋ยวนี้! ก่อนที่ฉันจะโยนนายลงน้ำทะเล ไป๊!!!” ฉันพูดพร้อมดึงหูของลูฟี่ให้ยืนขึ้นแล้วผลักเขาไปห้องของฉันทันที หมอนี่เป็นบ้าอะไรเนี่ย! อยู่ดีๆ ก็มาขยี้ผมฉัน!

    น่ารำคาญจริงๆ!” ฉันพูดพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับเอามือสางผมของตัวเองช้าๆ ผมพันกันหมดเลยเนี่ย แย่ชะมัด!!

    หมอนั่นเป็นบ้าอะไรนะซันจิคุงพูดพร้อมเดินมาหาฉัน เขาเอามือจับที่เอวเล็กน้อย แสดงถึงความเจ็บนิดๆ ที่ลูฟี่กระโจนเข้ามาหาเขาจนทำให้ตัวเขาต้องไปกระแทกกับขอบเรือ

    ฉันจะดูว่าหมอนั่นจะหาหวีมาได้มั้ย ถ้าหามาไม่ได้ฉันจะซัดไปอีกซักหมัด!” ฉัน

    อ๋อครับ...ซันจิคุงพูดพร้อมมองไปที่ลูฟี่ที่กำลังตามหาหวีที่หน้ากระจกห้องของฉันอยู่(หมอนั่นไม่ยอมปิดประตูห้องด้วยแหน่ะ!!) ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนตามองมาทางฉันแล้วก็ฉีกยิ้ม

    มองอะไรซันจิคุงฉันส่งสายตาพิฆาตไปที่ซันจิคุง

    ป่าวครับ... ผมแค่ทำความเข้าใจกับอะไรบางอย่างอยู่ซันจิคุงพูดพร้อมฉีกยิ้มให้กับฉัน

    อะไรหรอ? เรื่องราชันย์งั้นเหรอ?ฉัน

    ป่าวครับ... ไม่ใช่เรื่องนั้นซันจิคุงพูดพร้อมเดินจากไปปล่อยให้ฉันนั่งงงอยู่คนเดียว

    นามิ~ ฉันได้หวีมาแล้ว!~” ลูฟี่พูดพร้อมกระโดดเข้ามาหาฉัน ก่อนจะยื่นหวีมาตรงหน้าของฉัน ว้าว หมอนี่รู้จักหวีด้วยแฮะ

    ฉันคงหยิบมาไม่ผิดใช่มั้ย ในห้องของเธอหวีเต็มไปหมดเลย =___=!” ลูฟี่

    หยิบอันไหนมาก็ได้ย่ะ มันก็เหมือนกันนั่นแหละฉันพูดพร้อมเอาหวีมาสางผมของตัวเอง ตอนนี้ผมของฉันเริ่มคืนทรงแล้วล่ะ

    ทำไมเธอถึงอยากไว้ผมยาวล่ะลูฟี่พูดพร้อมนั่งลงที่พื้นแล้วมองตามมือฉันที่กำลังหวีผมอยู่

    ฉันคิดว่ามันสวยดีและฉันก็อยากไว้ผมยาวมานานแล้วด้วยฉัน

    อ๋อ~ลูฟี่ลากเสียงยาวกับคำว่าอ๋อ~ เล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ผมของฉัน

    ถ้านายทำให้มันยุ่งอีก นายจะไปอยู่ที่ใต้ทะเลจริงๆ ด้วย -___-+ฉัน

    ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า!” ลูฟี่

    ลูฟี่เอามือจับที่ผมของฉันก่อนที่เขาจะพลิกมันไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันจึงมองไปที่หน้าของเขาแล้วระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย

    ทำไมนายอยากผมยาวแบบนี้หรือไงฉันพูดพร้อมหัวเราะ

    ไม่ใช่ซะหน่อยยัยบ้า!” ลูฟี่โวยวาย

    แล้วทำไมล่ะ เห็นจับอยู่นั่นแหละเลยคิดว่าอยากผมยาวซะอีกฉัน

    นามิ... ทำไมคนถึงต้องแต่งงานกันล่ะจู่ๆ ลูฟี่ก็ตั้งคำถามทำเอาฉันแทบกระอัก... ไหงอยู่ดีๆ หมอนี่ก็พูดถึงเรื่องแบบนี้เนี่ย =[]=!!!

    ไหงอยู่ดีๆ มาถามล่ะฉันพูดอย่างไม่มองหน้าเขา... คือ ไม่รู้สินะ แต่ฉันคิดว่ามันเขินๆ ยังไงไม่รู้ที่ต้องมาพูดเรื่องแบบนี้กับเขา

    ก็แฮนค็อกเคยถามฉันน่ะว่า ฉันจะเป็นเจ้าสาวที่แสนดีได้หรือป่าวฉันก็เลยมาลองคิดดูน่ะนะ... ทำไมคนเราถึงต้องแต่งงานล่ะ?ลูฟี่

    ที่ถามเรื่องนี้เพราะว่านึกถึงเรื่องจักรพรรดินีโบอา แฮนค็อกงั้นเหรอเนี่ย...

    ก็ไม่รู้สิ เพราะว่ารักมั้งเลยแต่งงานกันฉันพูดด้วยน้ำเสียงปัดๆ ก่อนจะสะบัดผมออกจากมือของลูฟี่แล้วเริ่มหวีผมเอง

    อ๋อ แล้วมันต้องรักกันมากแค่ไหนล่ะถึงจะแต่งงานกันได้ลูฟี่ยังไม่หยุดถาม

    ก็ที่โบอา แฮนค็อกถามนายน่ะนั่นก็หมายถึงเธอรักนายไงล่ะฉัน

    รักถึงขั้นอยากแต่งงานเลยงั้นเหรอ?ลูฟี่

    คงจะประมาณนั้นล่ะมั้ง! นายอยู่กับจักรพรรดินีมาตั้งสองปี นายน่าจะรู้จักเธอมากกว่าฉันสิ มาถามอะไรฉันฉันพูดพร้อมหวีผมแรงขึ้นอย่างไร้สาเหตุ หงุดหงิดจังเลย!

    ฉันคิดว่ายัยนั่นท่าทางแปลกๆ ตอนอยู่กับฉันนะ แต่ยัยนั่นก็เป็นคนดีมากเลยล่ะลูฟี่พูดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง... เฮอะ!

    เหรอ ก็ดีแล้วหนิฉัน

    น่าแปลกนะ เวลาฉันอยู่กับเธอทีไร ฉันมักจะนึกถึงแฮนค็อกตลอดเลยล่ะลูฟี่พูดพร้อมเอานิ้วจิ้มที่แขนของฉัน

    พลึบ!!

    ฉันยันตึวลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วจนลูฟี่ถึงกับตกใจ ฉันมองไปที่หน้าของลูฟี่ก่อนจะเดินตรงออกไปไกลๆ จากลูฟี่ทันที ฉันอยากจะออกไปจากที่ตรงนั่น ไม่อยากได่ยินเสียงของเจ้าบ้าหมวกฟางนี่เลยแฮะ! หงุดหงิดเป็นบ้า พูดถึงแต่โบอา แฮนค็อกอยู่ได้ อยู่กับฉันแล้วนึกถึงผู้หญิงอีกคนงั้นเหรอ! เดี๋ยวก็จับกดน้ำซะหรอก!!

    รับอะไรเย็นๆ มั้ยครับคุณนามิ?ซันจิคุงที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมาทางฉันก่อนจะส่งยิ้มให้

    อื้ม รบกวนหน่อยนะซันจิคุงฉัน

    เอ่อ? เป็นอะไรหรือป่าวครับคุณนามิ ทำไมถึงดูหงุดหงิดๆ?ซันจิคุง

    ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันอยากดื่มสตอเบอรรี่เลม่อนจังฉัน

    ผมจะทำให้เดี๋ยวนี้เลยคร้าบบบ ซันจิคุงพูดพร้อมวิ่งเข้าห้องครัวไปในทันที

    ฉันเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเองโดยไม่สนใจเสียงนกเสียงกาของลูฟี่ แล้วปิดประตูดังปัง! ก่อนจะกระโจนเข้าที่เตียงแล้วคุ้ยผ้าห่มออกมาแล้วหมกตัวอยู่ในผ้าห่มอย่างอารมณ์เสีย ฉันอยากจะเอาระเบิดมายัดปากลูฟี่ชะมัดเลย!!!

     

    [บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    ผมยืนฮัมเพลงพร้อมกับทำสตอเบอรี่เลม่อนให้กับคุณนามิอย่างมีความสุข ถ้าคุณนามิดื่มสตอเบอรี่เลม่อนนี่เข้าไปจะต้องอารมณ์ดีขึ้นมากแน่ๆ ถึงผมจะไม่รู้ว่าโมโหอะไรก็เถอะ แต่คิดว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องอะไรไกลอะไรจากลูฟี่เท่าไหร่

    แอ๊ด...

    เสียงประตูที่เปิดออกทำให้ผมต้องหันหน้าไปมอง เมื่อมองไปก็พบว่าเป็นลูฟี่นั่นเอง เจ้าตัวปัญหามาซะแล้วล่ะ

    เฮ้ออ~ลูฟี่เดินมาพร้อมกับถอนหายใจยาวแล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร

    เป็นอะไรของนายผมหันไปถามลูฟี่

    ฉันคิดว่านามิโกรธฉันนะ เฮ้อ~ลูฟี่พูดพร้อมฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

    นายไปทำอะไรให้คุณนามิเขาอารมณ์เสียล่ะผมพูดพร้อมค่อยๆ รินสตอเบอรี่เลม่อนใส่แก้วสองแก้ว แก้วนึงให้คุณนามิ ส่วนอีกแก้วเป็นของโรบินจัง

    ทำให้ฉันหรออีกแก้วน่ะลูฟี่พูดด้วยสายตาเป็นประกาย

    ไม่ใช่สำหรับนาย! ของคุณนามิและโรบินจังต่างหากผม

    อ้าว แต่ฉันก็อยากกินบ้างนี่หน่า!” ลูฟี่เริ่มโวยวายซะจนผมรำคาญ แต่ผมก็พยายามที่จะไม่สนใจเสียงของลูฟี่แล้วเอาสตอเบอรี่เลม่อนไปแช่ในตู้เย็นให้มันเย็นๆ บ้าง จะได้ทำให้สดชื่น

    ไว้ทีหลังแล้วกันนะลูฟี่ นายไปขอโทษคุณนามิดีกว่านะเวลานี้ผมพูดพร้อมเดินไปนั่งที่นั่งตรงข้ามกับลูฟี่และจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ

    ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมนามิต้องโกรธฉันด้วย ฉันแค่พูดอะไรเกี่ยวกับแฮนค็อกนิดหน่อยเองลูฟี่พูดพร้อมถอนหายใจ

    หา? นายหมายถึงจักรพรรดินีโบอา แฮนค็อกน่ะหรอ?ผม

    ใช่แล้วลูฟี่

    จริงสิ ตลอดสองปีหมอนี่ได้ไปอยู่ที่เกาะสตรีนี่หน่า... ส่วนตัวผมต้องไปอยู่ที่เกาะกระเทยบ้าบออะไรก็ไม่รู้! โลกนั้นช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ T___T!!

    จริงสิ... แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้คุณนามิต้องโมโหด้วยล่ะ ทั้งๆ ที่แค่ลูฟี่พูดถึงจักรพรรดินีโบอา แฮนค็อกจังเอง... หรือว่า...?

    ลูฟี่... นายรู้มั้ยว่าความรักเป็นยังไงผมตั้งคำถามพร้อมกับมองไปที่หน้าของลูฟี่อย่างจริงจัง หมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาแล้วขมวดคิ้วใส่ผม

    รู้จักสิ ฉันต้องรู้จักอยู่แล้วลูฟี่

    คำว่ารู้จักของนายนี่มันรู้จักแบบไหนไม่ทราบฮะผม

    ก็... เป็นแบบ... แต่งงานกันไงลูฟี่

    ต้องแต่งงานอย่างเดียวงั้นเหรอถึงจะเรียกว่ารักกัน -___-ผม

    ก็ถ้าไม่รักกันจะแต่งงานกันทำไมล่ะลูฟี่

    สิ่งที่นายพูดมันก็ถูกแต่ก่อนจะแต่งงานกันเขาต้องรักกันก่อนนะผม

    หรอ... งั้นฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะว่ามันเป็นยังไง เพราะฉันไม่เคยรักใครแบบอยากแต่งงานน่ะนะลูฟี่พูดเหมือนไม่คิดอะไรมาก หมอนั่นพูดพร้อมกับถอดหมวกมาพัดไล่ความร้อน มันแอบทำให้ผมหงุดหงิดกับท่าทางหมอนี่เล็กน้อยแฮะ... เหมือนว่าลูฟี่จะไม่รู้ใจตัวเอง...หรือไม่หมอนี่ก็ไม่ได้คิดอะไรเลย...

    งั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ นายไปขอโทษคุณนามิ แล้วก็เอาสตอเบอรี่เลม่อนไปให้คุณนามิซะผมพูดพร้อมยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหยิบสตอเบอรี่เลม่อนออกจากตู้เย็น ตอนนี้มันกำลังเย็นพอดี คิดว่าน่าจะทำให้คุณนามิอารมณ์ดีขึ้นมาได้นะ

    ได้ เดี๋ยวฉันเอาไปให้นามิเองลูฟี่พูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างแล้วยื่นมือมาตรงหน้าของผม

    นายห้ามแอบกินเด็ดขาดเลยนะ ฉันจะจับตาดู!” ผมพูดพร้อมยื่นแก้วสตอเบอรี่เลม่อนไปให้กับลูฟี่

    ลูฟี่ทำหน้าเหมือนไม่พอใจผม... คงเพราะผมรู้ทันหมอนี่ล่ะมั้ง

    จริงสิลูฟี่ผมเรียกลูฟี่ไว้ก่อนที่หมอนั่นจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ลูฟี่จึงหันหน้ามามองผมอย่างตั้งคำถาม

    นายกำลังมีความรักผมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ มันทำให้ลูฟี่มองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ

    หา? ฉันน่ะเหรอ?ลูฟี่พูดด้วยสีหน้าอึ้งๆ

    ใช่ผมพูดพร้อมหยิบสตอเบอรี่เลม่อนอีกแก้วหนึ่งขึ้นมาแล้วเดินไปตบบ่าลูฟี่เบาๆ

    กว่านายจะรู้ว่ามันคือความรัก ตอนนั้นนายอาจจะแก่ตายไปแล้วก็ได้ ฉันเลยช่วยบอกนายไงผมพูดพร้อมหัวเราะแล้วเดินออกมาจากห้องครัวเลย สายตาอันแหลมคมของผมมองไปทั่วเรือก่อนจะพบกับเป้าหมายแสนสวยกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาใกล้ๆ กับหัวเรือ อ๊า~ โรบินจวางง~~

    โรบินจวางงง สตอเบอรี่เลม่อนคร้าบผมม~~

    [จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

     

    [บันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]

    ผมได้แต่ยืนงงกับคำพูดของซันจิ... อะไรนะ?... ผมมีความรัก =[]=!!?

    โรบินจวางงง สตอเบอรี่เลม่อนคร้าบผมม~~ซันจิเมื่อเห็นโรบินก็วิ่งตรงไปหาโรบินเลย ไม่อยู่ให้ผมถามอะไรต่อเลยสักนิด จะ... จริงหรอ!? ผมมีความรัก!

    แต่ว่าตอนนี้เราไม่ควรคิดเรื่องนี้นี่หน่า ต้องเอาน้ำนี้ไปให้กับนามิ... ต้องไม่กินมันด้วย...

    ฟุดฟิดๆ...

    กลิ่นหอมจังเลยแฮะ น้ำสีแดงๆ นี่น่ากินสุดๆ ไปเลย! ไม่ได้ๆ... ผมต้องอดทนไว้ ต้องไม่กินเด็ดขาด ต้องเอาไปให้นามิ!

    ไม่ทันไรผมก็เดินมาอยู่ที่หน้าห้องของนามิซะแล้ว รีบเอาไปให้ก่อนที่มันจะไปอยู่ในท้องผมดีกว่า

    แอ๊ด...

    นามิ ฉันเอาน้ำสีแดงมาให้กิน รีบกินมันก่อนที่ฉันจะกินเถอะ!” เมื่อผมเปิดประตูได้ปุ๊บ ผมก็วิ่งตรงเข้าไปในห้องทันที แต่เมื่อมองไปรอบๆ ห้องแล้วก็พบแต่ความมืด... อ้าว ทำไมมันถึงมืดแบบนี้นะ

    นามิ อยู่ในนี้มั้ย~ผมพูดพร้อมมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนที่ผมจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ลอยมาด้วยความเร็วสูง ผมจึงเอียงคอหลบอย่างรวดเร็ว... อะไรน่ะ =[]=!!

    ใครอนุญาตให้นายเข้ามาในนี้ยะ นี่มันห้องของผู้หญิงนะ!” เสียงของนามิทำให้ผมยิ้มแฉ่ง... เหมือนเสียงของเธอจะดังมาจากเตียงนะ

    ฉันเปิดไฟนะผมพูดพร้อมเอื้อมมือไปเปิดไฟที่ห้องของนามิ ความสว่างเกิดขึ้นทันที เมื่อผมมองไปที่เตียงก็พบกับนามิที่กำลังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ผมของเธอนั้นยุ่งเหยิงไปหมดเลย

    ซันจิฝากฉันให้เอาน้ำสีแดงมาให้เธอน่ะผมพูดพร้อมชี้ไปที่แก้วน้ำที่ผมถืออยู่

    เอาวางไว้ที่โต๊ะแล้วไปไหนก็ไป!” เธอพูดคำขาดโดยที่เธอไม่หันหน้ามามองผมด้วยซ้ำ

    เธอโกรธอะไรฉันเนี่ย!” ผมตั้งคำถามพร้อมกับเดินไปใกล้ๆ ตัวของนามิ เธอนั้นก็ค่อยๆ ขยับตัวออกไปไกลๆ จากผมทันที

    ไม่ได้ยินที่ฉันบอกว่า เอาน้ำวางไว้ที่โต๊ะ แล้วออกไปซะ!” นามิยังย้ำคำเดิม มันยิ่งทำให้ผมไม่พอใจเข้าไปใหญ่

    ฉันถามเธออยู่นะ ทำไมถึงไปตอบล่ะฮะ!” ผมพูดพร้อมเดินไปดึงผ้าห่มให้ออกจากตัวของนามิ แต่เธอก็เอามือดึงผ้าห่มไว้อีก ก่อนจะตะโกนด่าผมอย่างอย่างอารมณ์เสีย

    นายเลิกมายุ่งกับฉันซักทีได้มั้ยเนี่ย!” นามิพูดพร้อมดึงผ้าห่มไปคลุมตัวของเธอมากขึ้น ผมจึงดึงผ้าห่มของเธอแรงขึ้นเหมือนกัน

    ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเธอเองนะ หันมาคุยกันก่อนเส้!” ผมพูดพร้อมออกแรงดึงขึ้นอีกซะจนสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น O__O!!

    แควกกก!!!

    ผ้าห่มสีชมพูของนามิขาดเป็นสองท่อน และเพราะผ้าห่มที่ขาดทำให้ตัวผมกระเด็นไปชนกับโต๊ะเครื่องแป้งที่มีน้ำสีแดงตั้งอยู่ เมื่อผมล้มลงไปกระแทกที่โต๊ะนั่นก็ทำให้น้ำสีแดงเทหกลงมาที่หัวของผมเต็มๆ =[]=!!

    ลูฟี่! นาย...เสียงของนามินั้นเยือกเย็นซะจนผมตกใจ เมื่อผมมองไปที่หน้าของเธอก็ผมว่าหน้าเธอแดงก่ำเพราะความโมโห

    ฉันขอโทษนามิ! เดี๋ยวฉันซ่อมให้นะ!” ผมรีบวิ่งไปหยิบผ้าห่มที่ขาดอีกท่อนหนึ่งมาจากเธอก่อนจะก้มหัวโค้งขอโทษเธออย่างรวดเร็ว

    ฉันขอโทษจริงๆ นะผม

    นายอยากพูดอะไรก็พูดมา แล้วจะไปไหนก็ไป!” นามิพูดพร้อมโยนเศษผ้าห่มของเธอใส่หน้าผม ผมนิ่งไปเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ก้มตัวลงไปเก็บเศษผ้าห่มนั่นขึ้นมาแล้วมองไปที่หน้าของนามิ

    ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอโกรธอะไรฉันเท่านั้นเองผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังซะจนทำให้นามิชะงัก เธอมองมาที่หน้าของผมเล็กน้อยก่อนจะหลบสายตาไปอย่างช้าๆ

    ...ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายนามิพูดพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาใกล้ๆ ตัวผม

    ไม่จริงหรอก ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอกำลังโกรธฉันอยู่ บอกมาสิว่าเธอโกรธอะไรผมเน้นย้ำทุกคำของประโยคพร้อมกับจ้องไปในดวงตาของนามิ เธอเองก็จ้องมองมาที่ดวงตาของผมเช่นกัน เราสบตากันนานหลายนาทีก่อนที่นามิจะค่อยๆ อ้าปากออกมาอย่างช้าๆ

    ฉันไม่ชอบให้นายพูดถึงโบอา แฮนค็อกนามิพูดพร้อมก้มตัวลงหยิบแก้วน้ำสีแดงที่หล่นอยู่ที่พื้น

    เธอไม่ชอบแฮนค็อกเหรอ?ผม

    ป่าว ฉันแค่ไม่ชอบให้นายพูดถึงผู้หญิงคนอื่นเท่านั้นแหละนามิพูดอย่างไม่สบตาผม ตอนนี้หน้าของเธอค่อยๆ กลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ แล้ว

    ...หมายความว่ายังไง?ผมถามไปอย่างงงๆ ตอนนี้เหมือนท้องของผมจะเริ่มแปรปวนอีกแล้ว นามิอยู่ใกล้ตัวผมมากๆ มากพอที่ผมจะได้กลิ่นหอมจากตัวของเธอและเหมือนเหงื่อของผมชุ่มไปทั้งมือเลยนะ อาการแบบนี้มันคงไม่ดีเท่าไหร่... แต่มันทำให้ผมรู้สึกดีแปลกๆ

    ลูฟี่... ฉัน...นามิเว้นช่องว่างไว้ยาวๆ กับประโยคของเธอ ตอนนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้ เพราะผมไม่สามารถที่จะละสายตาออกจากสายตาของนามิได้เลย ทำไมผมถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้นะ! ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นเลย ทำไมกันนะ เหมือนกับผมต้องการจะให้เธอพูดอะไรบางอย่างที่ผมอยากได้ยินมากในตอนนี้...

    ฉันชะ...

    นามิ!! ใกล้ถึงที่หมายแล้ว ราชันย์ต้องการพบเธอ!!!”

    เสียงตะโกนของโซโลทำให้ผมและนามิหยุดชะงัก นามิที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้นเงียบไปในทันที ก่อนที่เปลี่ยนเป็นค่อยๆ ยิ้มออกมาเล็กน้อย

    คือ... จะบอกว่าช่างมันเถอะน่ะ ฉันว่าฉันไปดีกว่านามิพูดพร้อมกับมองไปทางอื่น ผมมองหน้าเธอเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ... เธอไม่ได้จะพูดในสิ่งที่ผมอยากได้ยินงั้นเหรอ? ผมทำอะไรไม่ถูกเลยแฮะ

    นายก็... ใช่! ผ้าห่มน่ะ มันขาดหมดแล้ว! จัดการด้วยล่ะ!” นามิพูดพร้อมชี้ไปที่ผ้าห่มในมือของผม

    ตอนนี้เธอทำท่าจะเดินออกไปแล้ว! ผมจะทำยังไงดี ผมไม่เข้าใจเลย ผมอยากให้เธออยู่ต่อ อยู่ที่นี่กับผมต่อไปอีกนานๆ แล้วผมจะพูดยังไงดีล่ะ? บอกว่าเธออยู่กับผมต่อไปตรงๆ เลยอย่างงั้นเหรอ! ผมทำไม่ได้ ผมไม่กล้าพูดเลย อาการพูดไม่ออกบอกไม่ถูกนี่มันหมายถึงอะไรนะ!?

    พลึบ...

    ไม่นะ ตอนนี้เธอกำลังจะเอื้อมมือไปจับที่ลูกบิดประตูแล้ว ผมจะทำยังไงดีเนี่ย!!?

    ...จริงสิ... ของแบบนี้ไม่เห็นต้องใช้ความคิดอะไรเยอะเลยนี่หน่า... ก็แค่ทำตามที่ใจผมอยากจะทำ... ก็แค่ทำเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้นเอง!

    หมับ!!

    เพียงเสี้ยววินาทีที่มือของผมคว้าเข้าที่ไหล่ของนามิ เมื่อเธอหันหน้ามาผมก็ดึงเธอเข้ามากอดทันที ผมค่อยๆ กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเอาหน้าแนบเข้าที่หน้าของเธอ กลิ่นน้ำยาสระผมผสมกับเงินส้มอ่อนๆ มันทำให้ผมสดชื้นทุกครั้งที่ได้กลิ่น

    นามิยืนนิ่งกับการกระทำของผม เหมือนเธอจะช็อคค้างไปซะแล้ว

    พลึบ!

    ฉันเข้าใจสิ่งที่ซันจิบอกกับฉันแล้วล่ะผมถอดกอดจากนามิก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้กับเธอ ตอนนี้เธอหน้าแดงแปร๊ดเลยแฮะ >O<!!

    อะ... อะไรเหรอ...นามิพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

    ไม่เอาไม่บอกหรอก ไว้วันหลังฉันจะบอกนะผมฉีกยิ้มอีกครั้ง

    บอกอะไรล่ะ? แล้วจะบอกตอนไหน?นามินั้นมองตามตัวผมไปเรื่อยๆ ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องแล้วกระโดดออกนอกห้องไปเล็กน้อยแล้วหันหน้ามายิ้มให้กับกับนามิ

    ก็ตอนที่เราแต่งงานกันไงผมพูดพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้เธออย่างมีความสุข

    [จบบันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]

     

    ตรงนั้นใช่มั้ยเกาะที่ชาเดอรีนจังอยู่ซันจิคุงพูดพร้อมชี้ไปที่เกาะที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่ที่พวกเราถูกจับไปเลย เมื่อมองจากตรงนี้ยังเห็นเรือที่จะส่งพวกเราไปที่อิมเพลดาวน์อยู่เลยแฮะ =___=

    ใช่ ตรงนั้นแหละนาอิ

    เหมือนเส้นผมบังภูเขาเลยแฮะ ไม่คิดว่าสถานที่แบบนี้จะอยู่ที่นี่ได้อุซปพูดพร้อมดึงกล้องส่องทางไกลมามอง

    ก็อย่างว่าล่ะนะ มันเป็นภูเขาจริงๆ นี่หน่า ใครจะคิดล่ะ?แฟรงกี้พูดพร้อมหัวเราะ

    ใช่แล้ว ที่ที่ชาเดอรีนและเจส์ตะอยู่นั้นคือกองทัพเรือ... ที่ถูกซ่อนอยู่ในภูเขาทั้งลูก!!

    ช่างคิดดีนะ เจาะภูเขาให้มันกรวงแล้วสร้างกองทัพไว้ที่นั่น... พวกที่ไม่เคยข้ามมาเขตนี้คงไม่เห็นสินะโรบินพูดพร้อมมองไปที่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ จากภูเขาสีดำถมินกลับมีสิ่งก่อสร้างที่ทำจากเหล็กอยู่เต็มไปหมด ดูจากเรือของกองทัพเรือลำใหญ่นั่น... น่าจะเป็นเรือที่ใช้ส่งตัวชาเดอรีนนะ

    แล้วเราจะเข้าไปยังไงล่ะฉันหันไปถามราชันย์

    เราคงต้องเอาเรือไปซ่อนก่อนนะ แล้วค่อยพายเรือเล็กไปราชันย์

    พายเรือเล็กไป ไม่โดนยิงเละหมดเหรอเจ้าบ้า นั่นมันกองบัญชาการทัพเรือนะซันจิคุงพูดพร้อมขมวดคิ้วให้ราชันย์

    งั้นนายมีความคิดที่ดีกว่านี้หรือไง -___-ราชันย์

    ฉันเสนอให้ไปทางอากาศซันจิ

    ยังไงล่ะ?ราชันย์

    ลูฟี่สามารถใช้พลังจากผลปีศาจได้ ส่วนฉันสามารถวิ่งบนอากาศได้ โรบินจังก็สามารถหายตัวไปอยู่ที่นั่นได้ง่ายๆ เลย คิดว่ายังไงล่ะ?ซันจิ

    นายจะอุ้มพวกเราข้ามทะเลไปหรือไงรีทาวน์หันไปถามซันจิ

    ไม่อยู่แล้วซันจิ

    ก็ใช่น่ะสิ แล้วเราจะไปยังไง -___-รีทาวน์

    เดินจากโอคุฮิซิททอมเข้าไปไม่ได้หรอฉัน

    ไม่ได้หรอก ไม่มีพื้นที่สำหรับเดินไปเลยอุซปพูดพร้อมกับส่องกล้องส่องทางไกลไปตามจุดต่างๆ ของภูเขาลูกใหญ่

    เราใช้ชาร์ค ซัมเมิร์จได้นะ ลงไปได้ประมาณสามคนแต่ถ้าลองลงไปทีละสี่คนน่าจะได้แฟรงกี้เสนอ

    จริงสิ แล้วเราก็ไปหาที่ที่พอจะซ่อนตัวได้ก่อนจนกว่าทุกคนจะมากันครบช๊อปเปอร์

    ใช่เลย ซูปปปเปอร์~แฟรงกี้

    เดี๋ยวๆ ชาร์ค ซัมเมิร์จอะไรนี่มันคืออะไร =___=;;” ราชันย์ถามด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจเล็กน้อย

    มันคือเรือดำน้ำแสนซูปเปอร์ของพวกเราไงล่ะแฟรงกี้

    เรือดำน้ำ!? มีของแบบนั้นอยู่ที่เรือด้วยหรอ O__O!!” นาอิ

    มีสิ เป็นผลแสนซูปเปอร์ของฉันเลยนะ ดำน้ำลึกได้ถึงห้าพันเมตร~แฟรงกี้

    ว้าวว สุดยอดด!!” นาอิ

    ทำไมเราไม่บุกไปตรงๆ แล้วตันหน้าเข้าเจส์ตะไปเลยล่ะลูฟี่เสนอความเห็น

    จะบ้าหรือไง เราต้องทำแบบลับๆ สิ ฉันไม่อยากต้องให้เกิดเรื่องวุ่นวายนะราชันย์

    งั้นพวกนายไปด้วยเรือดำน้ำ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปตันหน้าเจ้าเจส์ตะเองลูฟี่พูดพร้อมฉีกยิ้ม

    ฉันว่ามันก็ไม่เลวนะ ไม่ยุ่งยากดีด้วยโซโลฉีกยิ้ม

    ไม่เอาน่า แบบนั้นมันจะวุ่นวายกันหมดนะ!” นาอิ

    จะว่าไปมันก็ดีนะ ถ้าพวกนายสร้างความวุ่นวาย ฉันก็จะได้ไปช่วยชาเดอรีนจังได้อย่างง่ายดายซันจิ

    นายก็เห็นด้วยงั้นเหรอเนี่ย =[]=!!” ราชันย์

    ฉันไม่อยากให้ชาเดอรีนจังได้รับอันตราย ถ้าตามพวกนายไป พวกเราจะได้หนีไปได้ง่ายๆ เลยไงซันจิคุงพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับราชันย์

    กะจะให้เราเป็นเหยื่อล่อสินะ -___-” รีทาวน์

    ช่าย เป็นแผนที่เพอร์เฟคมากซันจิยกนิ้ว

    จะบ้าเหรอฮะ!” ราชันย์โวยวาย

    งั้นเจอกันที่ภูเขานั่นแล้วกันนะลูฟี่พูดพร้อมกับยืดมือไปจับที่โขดหินใหญ่กลางทะเลก่อนจะเด้งตัวตรงไปที่กองบัญชาการทัพเรืออย่างไม่ปรึกษาใครก่อนเลยสักคน =[]=!!!

    ลูฟี่!!” พวกเราทุกคนประสานเสียงด้วยความตกใจ แต่มันก็ไม่ทันแล้ว เพราะลูฟี่ไปเด้งตัวออกไปจากเรือเรียบร้อย!

    เจ้านั่น จะไปก็ไปเฉยเลยนะโซโลมองตามตัวของลูฟี่ไปอย่างไม่พอใจ

    เราก็รีบไปกันบ้างเถอะ ถ้าอยู่เฉยๆ แบบนี้ก็เสียเวลาเปล่านะซันจิ

    เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเฝ้าเรือเองนะ ถ้าให้ซันนี่อยู่ตามลำพังคงไม่ไหว =o=;;” อุซปพูดพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆ ให้พวกเราทุกคน ฉันมองหน้าอุซปอย่างไม่พอใจทันที

    นายกลัวก็บอกมาเถอะฉัน

    อะไร! นักรบแห่งท้องทะเลผู้กล้าหาญอย่างฉันไม่กลัวกับเรื่องเล็กๆ แบบนั้นหรอก...อุซปพูดทั้งๆ ที่ขานั้นสั่นไม่หยุด

    ไม่เป็นไรหรอก ให้คนอื่นๆ เฝ้าเรือก็ได้ เพื่อนๆ ของฉันมีตั้งเยอะแยะราชันย์พูดพร้อมชี้ไปที่เรือของเขา ซึ่งก็มีพวกผู้ชายที่เราเคยพบเมื่อสองปีก่อนนั่งอยู่ประมาณสิบกว่าคน

    พวกนั้นไว้ใจได้น่า อย่ามองพวกพ้องของพวกเราด้วยสายตาแบบนั้นรีทาวน์พูดพร้อมขมวดคิ้วไปทางซันจิคุง

    พวกนั้นจะเฝ้าเรือซันนี่ให้พวกเราอย่างดีใช่มั้ยอุซป

    ใช่แล้ว เพราะยังไงพวกนั้นก็เฝ้าโจอาร์ของฉันอย่างดีราชันย์พูดพร้อมส่งยิ้มหวาน

    เหมือนว่าโจอาร์จะเป็นชื่อเรือของพวกเขานะ

    งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ ให้ลูฟี่ไปคนเดียวมันไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ฉัน

    นั่นสินะ งั้นเราก็ไปที่ชาร์ค ซัมเมิร์จกันเถอะ~แฟรงกี้

    งั้นเดี๋ยวฉันกับโรบินจังจะไปกันก่อนเลยนะซันจิคุงพูดพร้อมหันไปพยักหน้าให้กับโรบิน

    ให้ผมอุ้มคุณนามิไปมั้ยคร้าบ~ ซันจิคุงหันไปถามฉัน เมื่อฉันมองดูแล้ว ชาร์ค ซัมเมิร์จบรรจุคนได้แค่สี่คนเท่านั้น กว่าจะไปถึงที่กองบัญชาการครบทุกคนคงต้องช้ามากแน่ๆ

    รบกวนหน่อยนะซันจิคุงฉันพูดพร้อมกับเดินไปใกล้ๆ กับซันจิคุง เขาค่อยๆ อุ้มฉันขึ้นไว้ในอ้อมกอด

    ไปกันเลยนะซันจิคุงหันมาบอกกับทุกคน ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ก้าวเท้าขึ้นไปบนอากาศ ตอนนี้ฉันกับซันจิคุงกำลังลอยอยู่บนอากาศ อีกไม่นานเราก็จะถึงกองบัญชาการทัพเรือแล้ว

    ลองหาที่ๆ ไม่มีคนดูนะครับซันจิคุง

    อื้ม อ๊ะ ตรงนี้ไง โรบินอยู่ตรงนั้นพอดีฉันพูดพร้อมชี้ไปที่จุดที่โรบินยืนอยู่ ดูเหมือนเธอพึ่งจะหายตัวมาที่นี่ได้ไม่นานเหมือนกันนะ

    พลึบ!

    เท้าของซันจิคุงแตะเข้าที่พื้นดิน เขาค่อยๆ ปล่อยฉันลงกับพื้นบ้าง เมื่อมองไปรอบๆ ก็ไม่พบทหารเรือซักคน... อะไรกันเนี่ย นี่มันกองบัญชาการทัพเรือนะ จะไม่มีใครอยู่เลยงั้นเหรอ

    ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ นะฉัน

    ใช่... กองบัญชาการทัพเรือ... ไม่มีทหารเรือสักคนโรบิน

    นั่นสิ ลูฟี่ก็เข้ามาที่นี่ได้สักพักแล้ว ไม่มีเสียงคนโวยวายหรือมีการต่อสู้เลยซันจิคุงพูดพร้อมมองไปที่หน้าต่างบานเล็กๆ ที่อยู่ตามจุดต่างๆ ของภูเขา

    ในหน้าต่างแต่ละบานนั้นมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ถ้าหากมองจากมุมไกลๆ ก็จะไม่เห็นว่ามันสีหน้าต่างเลยล่ะ เพราะสีดำนั้นมันกลืนไปกับสีของภูเขา

    เราจะรอพวกแฟรงกี้ก่อนมั้ยล่ะ หรือว่าจะไปก่อนเลยโรบินหันมาถามฉันและซันจิคุง

    รอพวกนั้นมาก่อนแล้วกันครับ แล้วผมขอแยกตัวไปตามหาชาเดอรีนจังซันจิคุง

    จะไปตามหาก่อนก็ได้นะ เราดูแลตัวเองได้ฉัน

    ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากทิ้งให้เลดี้สองคนต้องอยู่กันตามลำพังซันจิคุงพูดพร้อมส่งยิ้มให้พวกเรา

    ซันจิคุงเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา ถึงเขาจะบ้าผู้หญิงก็เถอะ แต่เขาก็ให้เกียรติผู้หญิงเสมอ

    ปุ๋งๆๆ...

    จู่ๆ ก็มีฟองอากาศเกิดขึ้นที่น้ำทะเล ทำให้เราทั้งสามคนต้องหันหน้าไปมอง ฟองอากาศนั้นค่อยๆ แตกออกก่อนจะปรากฏเป็นเรือดำน้ำ ชาร์ค ซัมเมิร์จนั่นเอง

    ซ่า!!~

    น้ำทะเลกระเด็นไปทั่วทิศเพราะเรือดำน้ำที่โผล่ออกมา ไม่นานก็พบว่าเป็นพวกโซโลและราชันย์ที่ออกมาจากเรือดำน้ำนั่น

    อ้าว ทำไมแกถึงมาก่อนล่ะซันจิคุงหันไปกวนประสาทโซโลและราชันย์

    เรื่องของฉันน่าโซโล

    เพราะฉันคิดว่าถ้าให้พวกเรามาพวกสุดท้าย มีสิทธิ์ว่าเราจะโดนทิ้งอยู่ที่เรือน่ะสิราชันย์พูดพร้อมกระโดดออกจากเรือดำน้ำ ตามมาด้วยรีทาวน์ที่เดินมาประกบข้างราชันย์

    โอเคนะ เดี๋ยวฉันจะย้อนไปรับพวกอุซปอีกแฟรงกี้โผล่หัวออกมาจากชาร์ค ซัมเมิร์จเพื่อทักทายเราก่อนจะมุดหัวกลับเข้าไปแล้วนำเรือดำน้ำนั้นก็หายไปในน้ำอีกครั้ง

    มายืนอยู่แบบนี้ไม่กลัวตกเป็นเป้าสายตาหรือไงโซโล

    มันไม่มีคนเลยน่ะสิ... ไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่หรือป่าวนะโรบินพูดพร้อมใช้พลังงอกเงยดวงตาของเธอไปตามจุดต่างๆ ของภูเขานั่น เธอเงียบไปอยู่นานก่อนจะลืมตาขึ้นมา

    เหมือนว่าจะมีคนอยู่นะ... แต่ไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่โรบิน

    งั้นผมขอตัวเข้าไปตามหาชาเดอรีนจังก่อนนะครับซันจิ

    อ๋อ ได้เลย ไว้เดี๋ยวเราจะไปตามหาลูฟี่นะ ได้เอามแลงโทรสารมาด้วยหรือป่าวซันจิคุงฉัน

    เตรียมมาเรียบร้อยแล้วครับ มีปัญหาอะไรเรียกตัวผมได้เสมอเมื่อซันจิคุงพูดจบ เขาก็วิ่งเข้าไปในภูเขาทันที ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเรานั้นมีประตูเหล็กบานใหญ่สีดำอยู่ เมื่อซันจิวิ่งตรงไปที่นั้นก็พบว่าสามารถเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย... อะไรเนี่ย อย่างกับว่ายินดีให้พวกเราเข้าไปงั้นแหละ

    เพล้ง!!

    แล้วจู่ๆ หน้าตากที่อยู่บนหัวของเราก็แตกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไร้สาเหตุ! เศษกระจกนั้นลอยตกลงมาพวกเราอย่างรวดเร็ว และในวินาทีต่อมารีทาวน์ก็ดึงมีดใบสั้นออกมาจากข้างตัวแล้วปัดเศษกระจกนั้นกระเด็นไปอีกทางก่อนที่มันจะหล่นมาทางพวกเรา!

    ใครทำกันนะ...รีทาวน์พูดพร้อมเงยหน้ามองไปข้างบนแต่ก็พบแต่ว่ามืดที่อยู่หลังบานกระจกที่แตกออก

    ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่านายใช้มีดเป็นอาวุธโซโลพูดพร้อมมองไปที่มีดคู่ของรีทาวน์

    เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะดึงมีดกลับไปที่เอวทั้งสองข้างเหมือนเดิม

    มันชื่อว่า เซะซึนการิ (การสูญเสียแสงสว่างของวิญญาณ)รีทาวน์พูดพร้อมเอามือลูบที่มีดทั้งสองด้ามของเขาอย่างรักไคล้

    โอ้ววววววววว!!!”

    เสียงร้องที่ดังขึ้นมาจากข้างในภูเขาทำให้พวกเราทุกคนตกใจ เมื่อฟังดีๆ แล้วมันคือเสียงของลูฟี่นี่หน่า! เกิดอะไรขึ้นกันนะ

    เสียงของลูฟี่?โซโล

    ฉันว่าน่าจะใช่นะ... โรบิน ช่วยดูทีนะฉันหันไปหาโรบิน

    เธอพยักเธอเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ดวงตาที่สองของเธอกำลังงอกเงยขึ้นในตัวของภูเขาไฟ ตอนนี้เธอกำลังมองหาตัวของลูฟี่อยู่นั้นเอง

    เขาอยู่ในภูเขาลูกนี้แหละ แต่เหมือนจะไม่บาดเจ็บอะไรโรบินพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ เธอเงียบไปนานก่อนจะเปล่งเสียงพูดออกมา

    เหมือนของในนั้นจะเป็นห้องทดลองอะไรสักอย่าง สภาพนั้นมีแต่คนโดนขังเจ็บไปหมด ลูกกรงแต่ละอันนั้นจะมีคนนั่งอยู่คนละกรง เหมือนจะเป็นผู้มีพลังจากผลปีศาจทุกคนด้วยโรบินพูดพร้อมลืมตาขึ้นมาแล้วมองหน้าพวกเรา

    ผู้มีพลังจากผลปีศาจถูกขังไว้งั้นเหรอ... แปลว่าอาจจะมีการทดลองการรีดคั้นผลปีศาจอยู่สินะ ดูน่ากลัวจัง

    พอจะมีทัชอยู่ในนั้นมั้ยน่ะ?ราชันย์หันไปถามโรบินทันที

    ถ้าเป็นคนคนนั้นล่ะก็ไม่พบหรอกโรบินตอบพร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ มันทำให้หน้าของราชันย์สลดไปในทันที

    ซ่า!!~

    ซูปเปอร์! เอามาส่งอีกกลุ่มแล้วนะ!” เสียงของแฟรงกี้ดังขึ้นมาพร้อมกับเรือดำน้ำชาร์ค ซัมเมิร์จ ก่อนจะเริ่มเห็นอุซป คีฟาร์ บรู๊คเดินออกมาจากเรือดำน้ำนั้น

    เฮ้อ.. อึดอัดมากเลยคร้าบ...ทันที่ที่บรู๊คเดินลงมาจากเรือดำน้ำก็ออกปากบ่นทันที พร้อมกับดัดหลังของตัวเองเล็กน้อยเพื่อให้คลายเส้น... ถ้าเขามีเส้นให้คลายน่ะนะ...

    ฉันสัญญาว่าจะทำให้ลำใหญ่กว่านี้แฟรงกี้พูดพร้อมกับหัวเราะ

    โอเคเลยแฟรงกี้ รีบไปรับคนอื่นต่อเถอะอุซปหันไปบอกกับแฟรงกี้ แฟรงกี้ตอบรับพร้อมกับพยักหน้าแล้วเริ่มเคลื่อนตัวลงไปใต้น้ำอีกครั้ง... การบนส่งแบบนี้มันอาจจะช้าไปบ้าง แต่มันคงจะเป็นทางเดียวที่จะไม่ให้ถูกยิงด้วยปืนใหญ่หลายกระบอกที่แฝงตัวอยู่กับสีดำของภูเขา

     

    เมื่อเวลาผ่านไปพวกเราทุกคนก็รวมตัวกันจนครบ โดยที่กลุ่มของราชันย์นั้นมาครบก่อนแล้วเขาขอตัวไปตามหาเจส์ตะก่อนแล้ว เมื่อกลุ่มหมวกฟางครบแล้ว เราก็พร้อมที่จะเคลื่อนพลบ้างล่ะนะ

    แบ่งกันไปแล้วกันนะ ฝั่งหนึ่งไปช่วยซันจิตามหาชาเดอรีน อีกส่วนตามหาลูฟี่ ถ้าเกิดเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็ใช้แมลงโทรสารติดต่อมานะฉันเริ่มประชุมก่อนจะแยกกัน โดยแบ่งทีมเป็นสองทีม ทีมที่หนึ่งคือ ฉัน อุซป บรู๊ค และอีกทีมคือ โรบิน แฟรงกี้ ช๊อปเปอร์ โซโล

    ทีมของฉันรับหน้าที่ตามหาตัวของลูฟี่ ส่วนอีกทีมจะไปตามหาชาเดอรีน ซึ่งฉันคิดว่าการตามหาชาเดอรีนนั้นน่ะจะมีอันตรายกว่าเพราะงั้นมันไม่เหมาะกับฉัน อุซปและบรู๊คซักเท่าไหร่ -____-;;

    โอเค แล้วเจอกันนะช๊อปเปอร์

    อื้มเมื่อสิ้นเสียงพวกเราก็เริ่มวิ่งเข้าไปในภูเขาและเริ่มแยกกันออกตามหาตามที่กำหนดไว้

    แล้วเราจะเริ่มตามหาจากที่ไหนก่อนล่ะอุซปหันมาถามฉัน

    ก็... โรบินบอกว่าเห็นลูฟี่ล่าสุดไม่ไกลจากที่ๆ เราอยู่เท่าไหร่ แต่หมอนั่นก็ไม่ได้อยู่นิ่งน่ะนะ...ฉัน

    ให้ผมถอดวิญญาณแล้วตามหามั้ยคร้าบ?บรู๊ค

    นายทำแบบนั้นได้ด้วยหรอ O__O!!” ฉันร้องอย่างตกใจ

    คร้าบผม... ขอแค่มีคนอุ้มร่างของผมเอาไว้ แล้วผมจะลองออกตามหาดูนะครับบรู๊คพูดพร้อมกับมองไปทางอุซป ตัวอุซปเองจึงพยักหน้ารับทันที และคว้าตัวของบรู๊คมาอุ้มเอาไว้

    ผมแอบเขินนิดๆ นะครับเนี่ย~บรู๊คพูดพร้อมกับทำหน้าแดงหน่อยๆ เมื่ออุซปอุ้มเขาขึ้น

    นายรีบๆ ถอดวิญญาณแล้วออกตามหาลูฟี่เลยไป๊!” อุซปโวยวาย

    คร้าบ คร้าบ~

    บรู๊คค่อยๆ ถอดวิญญาณของตัวเองออกมาจากปาก วิญญาณสีเขียวๆ ของเขาบินวนผ่านหน้าของฉันไปครั้งหนึ่งเพื่อความสนุกสนาน ก่อนจะเริ่มลอยไปตามห้องต่างๆ เพื่อตามหาลูฟี่ ฉันเองก็มองซ้ายมองขวา วิ่งเข้าไปในห้องโน่นนี่เพื่อตามหาตัวของลูฟี่เช่นกัน จนฉันวิ่งไปถึงห้องๆ หนึ่งซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นห้องที่ใช้กักขังบุคคลที่มีพลังจากผลปีศาจซึ่งกำลังจะถูกนำไปทดลอง

    ตึก... ตึก... ตึก...

    ฉันเดินผ่านลูกกรงที่ทำจากหินไคโรโดยมีผู้คนในกรงนั้นมองตามฉันเป็นรายๆ

    สาวน้อยมาที่นี่ทำไมหรอจ๊ะ...เสียงจากบุคคลหนึ่งในกรงขังดังขึ้นระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินผ่านเขา ทำพยายามทำหูทวนลมไม่สนใจเสียงของเขา ก่อนที่คนอื่นๆ เริ่มส่งเสียงบ้าง

    มาช่วยใครงั้นเหรอจ๊ะ หรือว่าเป็นคนของรัฐบาล?

    แต่งตัวแบบนี้เห็นแล้วรู้สึกอยากเอามากอดชะมัด~

    ไปหากุญแจมาช่วยฉันที ฉันรู้ว่าเธอนั้นมีเมตตา ปล่อยฉันไปจากที่นี่ทีเถอะ!”

    เสียงของบุคคลหลายๆ คนเริ่มร่ำร้อง ฉันได้แต่หลับตาแล้วทำท่าไม่สนใจกับเสียงพวกนั้น ฉันพยายามเดินออกจากห้องนี้ไปให้เร็วที่สุด เมื่อฉันวิ่งออกจากห้องนั่นแล้ว ฉันก็พบกับชายหนุ่มสวมหมวกฟางวิ่งอยู่ไม่ไกลจากฉัน ลูฟี่งั้นเหรอ!?

    ลูฟี่!” ฉันร้องเรียกเขาแต่ก็ไม่พบกับการตอบรับ ตอนนี้เขาได้วิ่งเข้าไปอีกห้องนึงแล้ว ฉันจึงรีบวิ่งตามไปในทันที

    ลูฟี่...เมื่อฉันวิ่งตรงไปที่ห้องนั้นฉันก็ส่งเสียงเรียกเขา แต่ก็ต้องตกใจเพราะในห้องนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ ซึ่งชายคนนั้นเป็นชายที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำดูท่าทางน่ากลัว เมื่อฉันเข้าไปเขาก็ค่อยๆ หันหน้ามองมาทางฉันอย่างช้าๆ เมื่อมองไปรอบๆ แล้วก็ไม่พบกับลูฟี่หรือชายสวมหมวกฟางเลยแม้แต่คนเดียว... อะไรเนี่ย ฉันตาฝาดไปงั้นเหรอ!

    ...แมวขโมยนามิ สมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางสินะ...เขากล่าวทัทายฉันก่อนจะค่อยๆ เดินมาใกล้ๆ

    ฉันรีบหันหลังเตรียมวิ่งหนี แต่ก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ ชายคนนั้นก็มาอยู่ที่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้!!

    จะรีบไปไหนล่ะ ไม่คิดจะทักทายกันก่อนหรอเขาพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างจนฉันต้องเดินถอยหลังไปสองสามก้าว

    ฉันชื่อมาตินนะเขาพูดพร้อมกับเดินตรงมาที่ฉันด้วยความเร็วสูง

    กรี๊ดดดดดดด!!!” ฉัน

     

    [บันทึกพิเศษ ; อุซป]

    กรี๊ดดดดดดด!!!”

    เสียงกรี๊ดหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมต้องหันหน้าไปมองในทันที เสียงของนามินี่หน่า!

    เฮ้ บรู๊ค... นั้นเสียงของนามิใช่มั้ยผมหันหน้าไปหาวิญญาณสีเขียวของบรู๊คที่ลอยกลับมาพอดี

    ผมคิดว่าอย่างงั้นนะครับบรู๊คตอบพร้อมกับมองมาที่หน้าของผม

    นามินั้นวิ่งแยกไปห้องๆ หนึ่งก่อนที่ผมจะไม่เห็นตัวของเธออีก แย่แล้ว! แต่พบศัตรูอย่างงั้นเหรอ ผมต้องรีบไปช่วยเธอ!

    บรู๊คฉันจะไปหานามิ นายตามหาลูฟี่ไปนะผมหันไปบอกกับบรู๊ค

    อะไรนะครับ แล้วใครจะแบกร่างของผมล่ะคร้าบ?บรู๊ค

    ฉันจะวางไว้ตรงนี้แหละ!” ผมพูดพร้อมกับวางร่างสูงๆ ของบรู๊คไว้กับพื้น โดยที่จัดท่าให้เขานั่งเอาหลังชนกับกำแพงเอาไว้

    แล้วถ้ามีใครมาพบผมล่ะครับ! เขาอาจจะจับผมไปถลกหนังก็ได้นะ!.. เอ๋... แต่ผมไม่มีหนังนี่หน่า โยโฮะโฮะโฮ..บรู๊คพูดพร้อมกับหัวเราะ

    มันไม่ใช่เวลามาตลกนะ! ฉันจะไปตามหานามิล่ะ!” ผม

    คร้าบผม เดี๋ยวผมจะตามหาคุณลูฟี่เอง!” บรู๊คพูดพร้อมกับนำวิญญาณกลับเข้าร่างของตัวเองแล้วเราทั้งสองคนก็แยกทางกัน ผมรีบวิ่งไปตามห้องที่นามิวิ่งเข้าไปก่อนหน้านี่ แล้วก็วิ่งไปตามเสียงกรี๊ดของเธอ... ตอนนี้เธอเงียบไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ!

    นามิ!!” ผมตะโกนเรียกชื่อของนามิแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเลย

    ติ๋ง...

    ของเหลวบางอย่างหยดลงมาจากบนเพดาน ผมรีบกระโดดหลบในทันที! เมื่อมองดูจากของเหลวแล้ว ผมโชคดีมากที่หลบมันทัน! เพราะว่าของเหลวนั้นที่หยดไปที่พื้นทำให้เป็นรูโบ๋เลย O___O!!

    กรดงั้นเหรอ? มีกลิ่นเหม็นนิดๆ ด้วยแฮะ... น่าขยะแขยงจังเลย อี๋ๆ...

    ฟิ้วว~ พลึบ!!

    ผมยิงผล มิโดริโบชิ ทสึจิโทมะ ลงไปที่พื้น ก่อนที่ผลนั้นจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลที่ผมยิงไปนั้นคือผลต้นไม้ที่มีลักษณะเหมือนกับเหล็ก! ใบสีเทาเงาๆ ของมันนั้นมีความแข็งแกร่งมากๆ เป็นผลไม้ที่ผมพบในเกาะที่ผมอยู่มาตลอดสองปี

    กึก...

    ผมดึงใบไม้ใบหนึ่งออกมาจากต้นนั้นก่อนจะทำให้มันกลายเป็นร่ม... เพราะมันคงไม่เหมาะแน่ถ้าหากหยดน้ำกรดนั้นจะหล่นมาบนหัวของผม =___=;;

    ตึกๆๆๆ...

    เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากนอกห้องทำให้ผมหันขวับ! ผมเริ่มกระวนกระวาย ทำยังไงดี๊! ที่นี่ไม่มีที่ให้หลบเลย! แล้วผมจะทำยังไง ถูกจับแน่ๆ เลย! ศัตรูหรอ? หรือว่าพวกทหารลูกกระจ๊อก?... ม่ายๆๆๆ! ผมกลัวจนตัวสั่นแล้วนะเนี่ย!

    ฮึบ...ผมสูดหมายใจเข้าไปในปอดลึกๆ ก่อนจะตั้งท่าเตรียมต่อสู้... เป็นไงเป็นกันสิ! ผมต้องต่อสู้! เพราะว่ามันไม่มีที่ให้หลบแล้ว =[]=!!!

    แอ๊ด...

    มิโดริโบชิ โดคุรบบา... !!”

    เหวอ!!”

    เสียง เหวอ นั่นทำให้ผมหยุดชะงักเพราะว่าเสียงนั้นมันคุ้นหูมากๆ เมื่อผมลองมองดูดีๆ แล้ว ก็พบว่าเป็นลูฟี่นั่นเอง!

    ลูฟี่!” ผมร้องอย่างดีใจ

    อ้าว อุซปนายอยู่ที่นี่นี่เองเหรอลูฟี่พูดพร้อมกับมองหน้าผม

    คุณอุซปครับ ผมตามหาคุณลูฟี่เจอแล้วนะครับ...เสียงของบรู๊คดังขึ้นมาจากข้างหลังของลูฟี่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ โผล่หัวออกมาแล้วมองมาที่ผมบ้าง

    เฮ้อ... โล่งอกที่เป็นนายนะผมทรุดลงไปนั่งกับพื้น... โถ่ นึกว่าศัตรูซะอีก ทำซะใจหายใจคว่ำ

    ทำไมหรอ?ลูฟี่

    ป่าวหรอก... จริงสิ! ลูฟี่! ฉันได้ยินเสียงนามิกรี๊ดแล้วฉันก็กำลังตามหานามิอยู่! หายังไงก็หาไม่เจอ!” ผมพูดพร้อมกับวิ่งไปใกล้ๆ กับลูฟี่ ลูฟี่ถึงกับทำหน้าตกใจทันที

    หา! จริงหรอ! งั้นเราต้องรีบตามหานามิแล้วล่ะ!” ลูฟี่พูดพร้อมกับวิ่งนำหน้าพวกเราไปในทันที ผมที่กลัวว่าจะตามลูฟี่ไม่ทันจึงรีบวิ่งตามไปพร้อมๆ กับบรู๊คในทันที

    [จบบันทึกพิเศษ ; อุซป]

     

    [บันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

    ชาเดอรีนจัง!!!~~”

    ผมตะโกนเรียกชาเดอรีนจังมาตั้งแต่เริ่มเข้ามาในกองบัญชาการเกือบลับนี่จนตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ซะแล้ว... แย่จังแฮะ ตอนนี้เธอจะอยู่ไหนกันนะ ชาเดอรีนจังจะต้องกลัวอยู่แน่ๆ เลย... ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะรีบตามหาชาเดอรีนจังแล้วช่วยออกมาให้ได้!

    อันดับแรกคงต้องลองตามหาในห้องขังต่างๆ ไม่ก็ตามหาในห้องประชุมใหญ่ๆ เพราะอาจจะมีการลากตัวชาเดอรีนจังไปเพื่อสอบสวนก็ได้... ถ้าชาเดอรีนจังไม่ช่วยพวกผมเธอก็ไม่ต้องตกที่นั่งลำบาก ยังไงผมก็จะช่วยเธอให้ได้เลย!

    ชาเดอรีนจังคร้าบบบ!!!~” ผมส่งเสียงตะโกนอีกครั้ง น่าแปลกที่ไม่มีพวกทหารออกมาเลยสักคน! ทั้งๆ ที่ผมออกจะเสียงดังขนาดนี้... มันอาจจะเป็นแผนการร้ายของเจ้าราก็ได้! ถ้าหมอนั่นโกหกเรื่องชาเดอรีนจังอยู่ที่นี่ล่ะ? เอาตัวพวกเราทุกคนมาส่งที่นี่เพื่อเอาเงินค่าหัวของลูฟี่?

    ชาเดอรีน...

    โอย! รำคาญเสียงของนายชะมัด!!!”

    ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค เสียงของเจ้ารีทาวน์ก็ดังมาจากข้างหลัง เมื่อผมหันหน้าไปก็พบเป็นเจ้าบ้านั่นจริงๆ ด้วย... อะไรนะ! เมื่อกี้หมอนั่นบอกว่ารำคาญผมงั้นเหรอ? ผมก็รำคาญเหมือนกันนั้นแหละน่า ทำไมต้องเจอเจ้านี่ตอนนี้ด้วยนะ -___-!!!

    ชาเดอรีนจังคร้าบบ!!!~” ผมทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจเจ้ารีทาวน์ มันจึงทำให้หมอนั่นอารมณ์เสียทันที

    ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงฉันงั้นเหรอเจ้าบ้า!” รีทาวน์โวยวาย

    อะไรของแก... ไปไหนก็ไปไป๊ผมพูดพร้อมโบกมือปัดไล่รีทาวน์ หมอนั่นถึงกับลมออกหูเลยทีเดียว

    ฉันแยกจากกัปตันเพื่อตามหาเจส์ตะ...รีทาวน์

    อ้อเหรอผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันโดยที่ไม่มองหน้าของรีทาวน์ด้วยซ้ำ

    แต่โชว์ร้ายที่ฉันมาเจอนาย เฮ้อ รู้งี้ฉันไม่น่าแยกมาทางนี้เลย ก็ว่าทำไมมันแปลกๆรีทาวน์ทำเป็นบ่นบ้าง ผมจึงหันไปมองหน้าหมอนั่นอย่างอารมณ์เสียบ้าง

    งั้นก็เชิญหันหลังกลับไปเลย ฉันก็ไม่อยากที่จะออกตามหาชาเดอรีนจังโดยมีนายมาอยู่ใกล้ๆ เหมือนกันนั่นแหละผม

    งั้นฉันจะเลี้ยวไปทางขวา ส่วนนายไปทางซ้ายแล้วกันรีทาวน์ที่ยืนอยู่ระหว่างแยกพูดพร้อมกับชี้ไปทางขวา ผมขมวดคิ้วกับท่าทางของหมอนั่นทันที

    ฉันจะไม่ยอมทำตามที่แกบอกหรอก ฉันจะไปทางขวา นายนั่นแหละไปทางซ้ายผม

    ไม่! แกนั่นแหละไปทางซ้าย!!” รีทาวน์เริ่มขึ้นเสียง

    ไม่เหมือนกัน! นายน่ะไปด้านซ้ายซะเจ้าบ้า!” ผมโวยวาย

    ไม่เว้ย!” รีทาวน์พูดพร้อมวิ่งตรงไปทางขวา ผมเองก็ไม่ยอมแพ้ วิ่งไปทางด้านขวาเช่นเดียวกัน พวกเราส่งคนเริ่มเร่งความเร็วของฝีเท้าเพื่อให้ชนะอีกฝ่าย หมอนี่กวนประสาทเป็นบ้าเลยแฮะ!!

    พลึบ!!

    ฉันไปก่อนล่ะ!” ผมพูพร้อมกับกระโดดขึ้นไปบนอากาศแล้ววิ่งนำหน้าเจ้ารีทาวน์มาเลย เมื่อลองฟังๆ แล้ว เสียงโวยวายของรีทาวน์นั้นดังมาเป็นสาย ผมเองก็ได้แต่หัวเราะอย่างสะใจเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ ผมชอบตอนผมชนะจริงๆ~

    ตึง!!!

    โอ๊ย!” ผมร้องสุดเสียงเมื่อจู่ๆ หัวผมก็กระแทกเข้าที่ผนังของอาคาร! โอย... มีทางเลี้ยวก็ไม่บอกกันเลยนะ ตัวผมที่เอาแต่มองไปข้างหลังซึ่งมีเจ้ารีทาวน์อยู่นั้นต้องเจ็บหัวและตัวหล่นลงมากระแทกพื้นเลย บ้าเอ๊ย...

    ฮ่าๆๆๆๆ!!!~”

    เสียงหัวเราะของรีทาวน์นั้นดังขึ้นมาบ้าง... เจ้าบ้าเอ๊ย!

    ทำอะไรของแกน่ะ! ฮ่าๆๆๆ ไม่เห็นทางหรือไงรีทาวน์วิ่งมาหยุดตรงหน้าผมแล้วก็หัวเราะชอบใจ ผมจึงตวัดตัวขึ้นแล้วสะบัดเท้าไปที่หน้าของรีทาวน์ทันที!

    เฮ้ย!” หมอนั่นร้องอย่างตกใจก่อนจะเอนตัวหลบอย่างทันเวลา

    เดี๋ยวแกจะโดนกระทืบ -___-+ผมพูดพร้อมชี้ไปที่รีทาวน์

    แกนั่นแหละจะโดน -___-+แล้วรีทาวน์ก็ชี้นิ้วมาทางผมบ้าง หมอนี่กวนประสาทมากๆ เลย!

    พวกเราสองคนเริ่มตั้งท่าจะต่อสู้กัน ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วมองไปที่หน้าของรีทาวน์อย่างอารมณ์เสีย... ครั้งนี้ไม่มีใครคอยห้ามซะด้วย ขอจัดการหมอนี่สักครั้งเถอะ หมั่นไส้มานานแล้ว!

    แกคิดจะมีเรื่องกับฉันจริงๆ เหรอ?รีทาวน์พูดพร้อมกับเริ่มเอามือจับที่มีดที่อยู่ที่เอวของตัวเอง

    ก็เออน่ะสิ...ผมพูดพร้อมฉีกยิ้ม

    เออ... ก็ได้รีทาวน์พูดพร้อมดึงมีดสองเล่มออกมาจากเอว หมอนั่นเริ่มตั้งท่าเตรียมต่อสู้แล้วฉีกยิ้มออกมา

    ฉันเองก็หมั่นไส้แกมานานแล้ว...รีทาวน์

    เออ ไม่ใช่แกคนเดียวหรอกผมพูดพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหารีทาวน์ในทันที!

    [จบบันทึกพิเศษ ; ซันจิ]

     

    [บันทึกพิเศษ ; ลูฟี่]

    ...จริงสิ! ลูฟี่! ฉันได้ยินเสียงนามิกรี๊ดแล้วฉันก็กำลังตามหานามิอยู่! หายังไงก็หาไม่เจอ!” คำพูดของอุซปทำให้ผมเงียบไปในทันที... งั้นก็ต้องไปตามหาสิ...

    หา! จริงหรอ! งั้นเราต้องรีบตามหานามิแล้วล่ะ!” ผมพูดพร้อมวิ่งนำหน้าพวกอุซปไปในทันที ต้องรีบตามหานามิให้เจอ ผมจะไม่ยอมให้นามิได้รับอันตรายเด็ดขาด!

    เฮ้! ลูฟี่! ไม่ใช่ทางนั้นนะ ฉันได้ยินเสียงของนามิจากด้านนี้!” เสียงอุซปดังมาจากข้างหลังของผม ผมหันหน้าไปรับทราบก่อนจะวิ่งไปทางที่อุซปบอก

    เมื่อวิ่งไปแล้วก็พบกับห้องมืดๆ ธรรมดา เมื่อผมก้มลงมองที่พื้นก็พบแต่อะไรก็ไม่รู้สีเขียวๆ มีกลิ่นเหม็นๆ ด้วย...

    นี่มันกรดนี่!” อุซปที่วิ่งตามผมมา เมื่อเห็นของเหลวนั้นก็ทำหน้าตกใจทันที

    เป็นกรดที่ละลายได้ทุกอย่างเลยคร้าบ... น่ากลัวที่สุดบรู๊คพูดทั้งๆ ที่ก้มมองที่กรดนั่นอยู่

    ใช่แล้ว มันกำลังละลายพื้นอยู่... มีควันและกลิ่นเหม็นๆ โชยออกมาด้วย

    เฮ้ลูฟี่! ดูนี่สิ...อุซปหันมาเรียกผม เมื่อผมวิ่งไปดู อุซปก็ชี้ไปที่อะไรบางอย่างที่อยู่ที่พื้น ซึ่งสิ่งนั้นคือปอยผมที่ขาดออกมาเล็กน้อยและปอยผมนั้นมีสีส้ม!

    อ๊ะ! อย่าจับนะลูฟี่... มันมีกรดอยู่ด้วย...อุซปรีบจับที่มือของผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะจับมัน

    ผมสีส้มแบบนี้... จะต้องเป็นผมของนามิแน่ๆ เลย

    นายคิดว่ามันเป็นผมของนามิหรือป่าว...อุซปพูดพร้อมกับมองมาที่ใบหน้าของผม ผมได้แต่นิ่งเงียบไม่ทำอะไร... จะให้ผมบอกว่าอะไรล่ะ? บอกว่าใช่! นั่นคือผมของนามิอย่างงั้นเหรอ?

    เราต้องตามหาตัวนามิให้เจอผมพูดพร้อมหันหลังเดินออกจากห้องที่ว่างเปล่านั้นทันที

    ฉันคิดว่าพวกนั้นยังไปไม่ไกลหรอก เพราะว่าผมนี้ยังโดนน้ำกรดไม่นานอุซปวิ่งมาจับที่ไหล่ของผม

    อืม... งั้นฉันไปก่อนล่ะผมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบก่อนจะเริ่มออกวิ่งทันที

    ถ้ามันยังไปไม่ไกลอย่างที่อุซปบอกมันก็ดีนะ... แต่กรดนั่นมันอะไร แล้วทำไมผมของนามิถึงอยู่ที่นั่น จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับนามิแน่ๆ

    โอ๊ววววววว!!!”

    มันตะโกนออกมาอย่างดังเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะชกที่ไปที่ผนังเหล็กชนยุบเป็นรอยกว้าง! ทำไมผมถึงปกป้องเธอไว้ไม่ได้!!!

    นายใจเย็นๆ นะลูฟี่อุซปพูดพร้อมกับค่อยๆ เอามือมาจับที่ไหล่ของผม

    เฮ้อ...ผมค่อยๆ ถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มลงมองที่พื้น... อะไรเนี่ย

    นี่... ใช่กรดแบบเดียวกันกับที่เจอในห้องนั้นมั้ยผมหันไปถามอุซปก่อนจะชี้ไปที่พื้น

    พื้นนั้นมีควันออกมาเป็นจุดๆ และมีกลิ่นเหม็นๆ เล็กน้อย

    ใช่... ใช่นี่แหละ! แบบเดียวกันเลย!” อุซป

    ถ้าพวกเราตามมันไปเราจะพบกับคุณนามินะคร้าบ...บรู๊คพูดพร้อมมองมาที่หน้าของผม

    ตอนนี้ผมมีกำลังใจขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ก่อนจะรีบวิ่งตามรอยกรดนั้นไปในทันที ยิ่งวิ่งไปไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบรอยที่สดใหม่ขึ้นทุกที แล้วในที่สุดเราก็วิ่งมาจนถึงหน้าประตูห้องๆ หนึ่งเข้าพอดี และรอยนั้นมันก็ยังมีต่อภายหลังประตูบานใหญ่นี่เข้าไปอีก ผมไม่รอช้าที่จะเอื้อมมือไปผลักประตูนั่นออกทันที

    แอ๊ด...

    ทันทีที่ผมเปิดประตูออก แสงสว่างก็สอดส่องเข้ามาในดวงตาของผมจนทำให้ผมแสบตา เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องนั้น ก็พบกับชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟามองไปที่หญิงสาวผมสีส้มที่กำลังถูกมัดอยู่กับเสากลางห้อง และผู้หญิงคนนั้นก็คือนามินั่นเอง!

    แก!!” ผมพูดพร้อมวิ่งตรงไปหาชายคนนั้นทันทีอย่างไม่ต้องคิดอะไร

    หมอนั่นหันหน้ามองมาทางผมอย่างตกใจก่อนจะเอามือรับเท้าของผมได้อย่างทันเวลา!

    แก!!... เจ้าหมวกฟางงั้นเหรอ!?หมอนั่นร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ

    ใช่!!” ผมพูดพร้อมยืดเท้าอีกข้างหนึ่งขึ้นไปบนอากาศ ก่อนจะกระแทกมันลงมาที่หัวของเจ้านั่น แต่จู่ๆ หมอนั่นก็เหวี่ยงตัวผมเป็นวงกลมแล้วโยนผมไปติดกับผนังเหล็ก!!

    โครม!!!

    ลูฟี่!!” เสียงของนามิดังขึ้น เธอมองมาที่ผมก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย

    เดี๋ยวฉันจะไปช่วยนะนามิ!” อุซปพูดพร้อมกับวิ่งตรงไปที่นามิ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะตรงไปที่อุซป ผมจึงรีบวิ่งไปต่อยที่หน้าของหมอนั่น ก่อนที่ผมจะต้องตกใจเมื่อจู่ๆ หน้าของหมอนั่นก็เป็นรูโบ๋ตามรอยหมัดของผม... อะ... อะไรเนี่ย!

    หึ...หมอนั่นพูดพร้อมกับเอามือจับที่ข้อมือของผม ก่อนที่มือของหมอนั่นจะเริ่มกลายเป็นสีเขียวและผมก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความปวดแสบปวดร้อนที่ข้อมือ!!

    อ๊ากกก!!” ผมร้องก่อนจะหันเท้าไปเตะที่เอวของหมอนั่น มันจึงกระโดดหลบและปล่อยข้อมือของผม

    เมื่อผมก้มลงมองที่ข้อมือของตัวเองก็พบว่ามันเป็นรอยสีแดงและเริ่มมีแผลถลอก อะไรเนี่ย! ผู้มีพลังจากผลปีศาจงั้นเหรอ!

    นาย... กินผลปีศาจเหมือนกันงั้นเหรอ!” ผม

    ใช่... ฉันกินผลซัง ซังเข้าไป... ผลกรดไงล่ะหมอนั่นพูดพร้อมกับฉีกยิ้ม

    ผลกรดงั้นเหรอ! ก็ว่าทำไมถึงมีกรดอยู่ที่ห้องนั่นบรู๊คพูดพร้อมกับมองไปที่หน้าของหมอนั่น

    นี่ลูฟี่! หมอนี่น่ะฉันเลยพบมันมาแล้ว! หมอนี่ชื่อมาติน! เป็นคนของรัฐบาลนะ!!” อุซปพูดพร้อมชี้ไปที่ชายคนนั้น อะไรนะ? ชื่อมาตินงั้นเหรอ

    อ๋อ... แกนี่เอง ฉันก็เคยพบแกสินะมาตินพูดพร้อมกับมองไปที่หน้าของอุซป

    หมอนี่รู้จักกับชาเดอรีนด้วยนะลูฟี่!” อุซป

    หา? หมอนี่รู้จักด้วยงั้นเหรอ?... งั้นแกก็รู้ที่อยู่ของชาเดอรีนสินะ!” ผมพูดพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้ แขนและมือของผมค่อยๆ กลายเป็นสีดำเพราะมันเคลือบด้วยฮาคิ... ถ้าหมอนี่มีพลังของผลปีศาจ ผมก็พร้อมที่จะต่อสู้เหมือนกัน

    รู้สิ...น้ำเสียงของมาตินเปลี่ยนไปเล็กน้อย หมอนั่นไม่ตั้งท่าต่อสู้อีกต่อไปแล้ว มันทำให้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ

    บอกที่อยู่ของชาเดอรีนมาซะ!” ผมขึ้นเสียง

    นาย... นายจะมาช่วยชาเดอรีนงั้นเหรอ?มาตินถามด้วยน้ำเสียงตกตะลึง ผมมองไปที่หน้าของหมอนั่นก่อนจะค่อยๆ ลดมือลง

    ใช่...ผมตอบด้วยน้ำเสียงงงๆ อะไรเนี่ย ทำไมหมอนี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้น =___=?

    งั้นก็ขอร้องล่ะ!”

    จู่ๆ หมอนั่นก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วมองมาที่หน้าของผม มันทำให้ผมตกใจมาก อะ... อะไรเหรอ =O=;;

    เอ่อ...?ผม

    ช่วยชาเดอรีนที ช่วยเธอ... อย่าให้เธอตายเลยนะ!!!” มาติน
     



    ถ้าแฟนคลับครบ 100 คน ต้องการอะไรมั้ย?
    เช่นฉากฟินๆ ไรงี้ เค้าอาจจะจัดให้ได้นะ
    เหลืออีก 5 คนจ้า (ถ้าไม่มีใครถอดแฟนคลับนะ)
    ลองรีเควสดูน๊า :333



    ขอบคุณธีมสวยๆ จาก

    BlackForest✿


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×